ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Proxy War Online (สงครามแห่งอำนาจ)

    ลำดับตอนที่ #21 : ตอนที่ 21 หนีเสือปะจรเข้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.34K
      43
      14 ก.ย. 56

    แม้จะพูดว่าด้านมืด แต่จริงๆก็แค่ตัดความคิดดีชั่วออกไปไม่ใช่เหรออนาตาเซียกล่าวถามเฟตออกมา ส่วนชายหนุ่มที่ถูกถามกลับไม่ตอบคำ เพราะเขาต้องตัดทุกสิ่งออกไปให้หมดถึงจะมีสมาธิจริง จึงทำเป็นไม่ได้ยินอะไรเลย

    อนาตาเซียนั่งมองภาพที่ผ่านมาทางจิตใจของเฟตด้วยความตื่นเต้น เพราะสิ่งมีชีวิตใดที่ชายหนุ่มสังหารไปแล้ว ภายในไม่กี่วินาทีเฟตจะลบภาพนั้นหายไปเหมือนเหตุการณ์นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    ขนาดเหตุการณ์ตอนที่เฟตพึ่งใช้ไม้ติดไฟเสียบผู้เล่นมนุษย์หมาป่าติดกับต้นไม้จนผู้เล่นคนนั้นตายไปทั้งๆแบบนั้น เฟตยังตัดจิตใจที่ดีงามมนุษย์ออกไปได้เลย ทั้งๆที่มนุษย์ปกติส่วนใหญ่เวลาเห็นคนใกล้ตายหรือมีสภาพน่าอนาถ ส่วนลึกของจิตใจจะมีความสงสารขึ้นมาแวบหนึ่ง หรือต่อให้เป็นผู้ลงมือก็ยังมีอาการลังเลเกิดขึ้นเช่นกัน

    แต่ความคิดแบบนั้นไม่เกิดขึ้นเลยกับชายผู้นี้ ความคิดของเฟตเวลาอยู่ในด้านมืด นั่นคือการสังหารทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความคิดอันว่างเปล่า มองทุกอย่างในโลกอย่างเท่าเทียม ไม่มีความลังเลใดๆทั้งสิ้น ไม่สนใจแม้กระทั่งภัยอันตรายของตัวเอง ไม่รักตัวกลัวตาย จนดูเหมือนกับเครื่องจักรสังหารที่รู้จักแต่การสังหาร คำว่าช่วยเหลือสงสารไม่อยู่ในระบบของเครื่องจักรตัวนี้

    เมื่อเห็นว่าเฟตไม่มีการตอบสนองใดๆ อนาตาเซียก็เงียบไปไม่พูดอะไรอีก นอกจากรอชมการต่อสู้อย่างตื่นเต้นสนใจ

    เฟตที่อยู่กลางวงล้อมหมาป่านับร้อยไม่มีความคิดถึงจำนวนของศัตรูเลย ภายในหัวสมองของเขามีแต่ความคิดอันว่างเปล่าและคิดยังไงถึงจะเอาตัวออกไปให้รอดจากสถานการณ์นี้ แม้จะพูดว่า 1 ชีวิตแลกล้าน แต่เขาก็ไม่ควรยอมแพ้อะไรง่ายๆ จึงไล่ฆ่าผู้เล่นต่างเผ่าแทนถูกไล่ฆ่าทั้งๆที่อยู่กลางวงล้อมของศัตรู

    กลับเป็นผู้เล่นเผ่ามนุษย์หมาป่าต่างหากที่ต้องถอยห่างจากเฟต เพราะเฟตนั้นสู้แบบไม่กลัวตายจนดูคล้ายหมาจนตรอก ทำให้พวกเขาที่มีจำนวนมากกว่าต้องรู้สึกหวาดหวั่นเสียเอง พวกเขาเคยมั่นใจในตัวเองว่ามีความสามารถเหนือกว่าผู้เล่นโนวิซหลายขั้น ในตอนนี้ความมั่นใจนั้นถูกทำลายลงอย่างป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี เมื่อโนวิซที่ว่า กลับเป็นฝ่ายไล่โจมตีพวกเขาเสียเอง

    เผ่ามนุษย์หมาป่าเฟนริลมีความเร็วและค่าพลังทางกายภาพต่างกับผู้เล่นทั่วไปมาก ถ้านำผู้เล่นระดับเดียวกันมาเทียบสมรรถภาพทางร่ายกายกันแล้วล่ะก็ พวกเขามีความสามารถเหนือกว่าถึงหนึ่งเท่าตัว พวกตนจึงเลือกเส้นทางลัดด้วยการเปลี่ยนเผ่าเป็นมนุษย์หมาป่า เพื่อให้การเดินทางสู่จุดหมายเป็นไปได้เร็วยิ่งขึ้น

    แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับไม่สนใจถึงความต่างชั้นของเผ่าพันธุ์ใดๆ แถมช่วงหลังๆยังไม่เสียท่าอะไรเลยแม้จะเสียเปรียบด้านจำนวนและความสามารถ ในตอนแรกๆเฟตแค่ยืนรอรับการโจมตีที่ของพวกเขาโหมโจมตีเข้าไปเหมือนน้ำป่า ทว่า ยิ่งเฟตรับมือพวกเขามากเท่าไหร่ ชายผู้นี้ก็ยิ่งโต้ตอบและมองแนวทางการต่อสู้ที่เป็นระบบของพวกเขาดีขึ้นเท่านั้น เวลายิ่งผ่านไปก็ดูเหมือนว่าเฟตจะยิ่งชำนาญการรับมือพวกเขาได้ดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ จนดูเหมือนเป็นพวกเขาเองที่เป็นฝ่ายไปขอให้เฟตสอนวิธีการต่อสู้ใหม่อีกครั้ง เปรียบเหมือเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน บ่งชี้ชัดได้ทันทีว่าเฟตเป็นอัจฉริยะด้านการต่อสู้ที่แท้จริง

    ผู้เล่นที่โหมโจมตีเข้าหาเฟตแค่มองดูการโต้ตอบของเฟตเริ่มรู้แล้วว่าทุกท่วงท่าที่เฟตใช้ไม่มีคำว่าเปล่าประโยชน์ ชายผู้นี้สามารถบริหารตัวเองและใช้คนรอบข้างได้เป็นประโยชน์ยิ่ง

    จนในที่สุดเป็นพวกเขาเองที่ต้องลดจำนวนที่เข้าจู่โจมเฟตลง เพราะ 1.พวกเขามีจำนวนมากกว่าฝ่ายศัตรูหลายเท่า จนเปิดโอกาสให้ศัตรูเลือกใช้คนอื่นๆมาเป็นโล่ป้องกันตัวจนการต่อสู้ล่าช้าลงไปได้ 2.พวกเขาไม่สามารถจู่โจมเฟตได้เต็มกำลังเพราะถ้าโหมโจมตีเข้าไปแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ อาจขัดแข้งขัดขากันเองจนอาจจะเกิดเหตุฆาตกรรมเพื่อนกันเอง

    ผลสรุปที่ออกมาเลยกลายเป็นว่าเข้าทางเฟตไปโดยปริยาย เมื่อลดจำนวนของศัตรูที่บุกเข้ามาลง เฟตก็รับมือศัตรูได้อย่างสบายมือขึ้น เพราะไม่ต้องมาสารวนหน้าหลังเหมือนตอนที่ถูกรุม

    พวกมนุษย์หมาป่าจึงเหลือทางเลือกที่คิดออก นั่นก็คือรอให้เฟตหมดกำลัง แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าการที่พวกเขารอให้เฟตหมดกำลังนั้น พวกเขาเองก็เสียกำลังยิ่งกว่าศัตรูเสียอีก เนื่องจากแผนแบบคาดไม่ถึงของเฟตกำลังทำร้ายพวกเขาทางอ้อมนั่นเอง

    ผู้เล่นเผ่าหมาป่าตัวแล้วตัวเล่าต่างถูกแผนตัดกำลังของเฟตทำร้ายอย่างไม่รู้ตัว ในขณะที่พวกเขารุกไล่เฟตอยู่ ร่างกายของพวกเขาก็ถูกตัดกำลังออกไปด้วยควันและไฟ

    แม้จะเป็นข้อดีที่มนุษย์หมาป่ามีการรับรู้เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปหนึ่งเท่าตัว ในมุมกลับกันข้อดีนั้นก็เป็นข้อเสียในตอนนี้เช่นกัน ทั้งกลิ่นและประสาทสัมผัสที่ว่องไวเมื่อโดนควันไฟมากๆจะสำลักควันจนบางครั้งการป้องกันและจู่โจมทำได้ไม่ดีพอ จึงกลายเป็นเหยื่อที่เฟตรอคอย หมาป่าตัวไหนที่มีท่าทีอ่อนแอที่สุด ชายหนุ่มจะจัดการโดยเร็วเพื่อไม่ให้เสียโอกาสงามๆไป ส่วนหมาตัวไหนที่โดนไฟและความร้อนมากๆ กำลังก็จะลดต่ำลงจนหลายๆตัวมีความเร็วช้ากว่าเฟตเสียอีก ทำให้เฟตไม่เสียเปรียบด้านพละกำลังมากเท่าไหร่นัก ชายหนุ่มจึงดูเหมือนกับว่าได้เปรียบทั่งๆที่ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด

    ผู้เล่นเฟตเรียนรู้ความสามารถในการต่อสู้มือเปล่าขั้นพื้นฐานรอปรับระดับค่ะ

    ผู้เล่นเฟตได้รับค่าความเร็วเพิ่มขึ้น 10 หน่วยค่ะ

    เสียงระบบรายงานออกมาเรื่อยๆแต่มันกลับดังเข้าหูซ้ายแล้วออกไปไหนแล้วไม่รู้ เพราะในเวลานี้เฟตต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ไปให้ได้ เรื่องอย่างอื่นให้เอาไว้ว่ากันทีหลัง

    เฟตที่รุกไล่เหล่ามนุษย์หมาป่าต่างใช้ทุกสิ่งที่มีไม่เว้นแม้กระทั่งปืน แม้อาวุธในมือเขาจะใช้ไม่ได้ผลในระยะไกลกับผู้เล่นที่กางโล่พลังจิตเป็น ทว่า ในระยะประชิดมันกลับมีอนุภาพที่น่ากลัว ทันทีที่มนุษย์หมาป่าแตะต้องร่างกายเฟต ชายหนุ่มจะยึดร่างกายนั้นด้วยกำลังส่วนหนึ่งและใช้อาวุธในมือยิงเจาะร่างกายศัตรูในระยะประชิด ซึ่งผลที่ได้ก็เป็นที่น่าพอใจ เมื่ออยู่ในระยะประชิดม่านพลังจิตจะไร้ซึ่งประสิทธิภาพในการป้องกันอาวุธของเฟต

    หลังจากสังหารหมาป่าได้หลายสิบตัว เฟตก็พบว่าปืนของตัวเองเริ่มเสื่อมถอย ไม่ใช่อำนาจกำลังในการทะลวงผ่านผิวหนังที่หนากว่ามนุษย์หาย แต่เป็นความแม่นยำต่างหากที่หายไป

    เฟตรู้ได้เลยว่าปืนของเขาไร้ค่าแล้วในวินาทีนี้ เพราะเขาใช้มันยิงศัตรูติดต่อกันหลายร้อยครั้งแล้ว ในสถานการณ์แผนหนึ่งแลกล้านของเขานี้ไม่ใช่มนุษย์หมาป่าอย่างเดียวที่ได้รับผลจากความร้อน อาวุธของเขาเองก็ยังถูกผลกระทบโดยตรง เมื่อลำกล้องปืนร้อนจากการใช้แบบไม่พักจนลำกล้องคด แถมบรรยากาศโดยรอบยังร้อนขนาดนี้อีก การระบายความร้อนของแรงขับดินปืนจึงเท่ากับศูนย์

    ดูดกลืนศาสตราหลังจากกระโดดมาหลบระยะโจมตีของหมาป่าได้ เฟตจัดการดึงพลังแห่งความตายใส่มือและใช้สกิลทันทีอย่างไม่สนแล้วว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นทีหลังหรือจะใช้ไม่ได้อีกหรือเปล่า เนื่องจากนี่เป็นเวลาฉุกเฉินแล้ว

    ตอนที่เขาใช้ทักษะนี้กับอาวุธอันอื่นๆก็คิดดูแล้วว่าถ้าใช้กับอาวุธชิ้นนี้ เมื่อเรียกออกมาอีกครั้งอาจมีสิทธิ์ใช้ไม่ได้เต็มที่อย่างหวัง จึงเลี่ยงที่จะใช้ทักษะนี้กับมัน แต่เมื่อมันชำรุดจนเริ่มจะใช้ไม่ได้ เขาจึงต้องลองดู

     ศาสตราแห่งความมืดหลังปืนสลายไป เฟตก็เรียกใช้สกิลติดๆกันเลย เพราะศัตรูเริ่มจู่โจมเข้ามาแล้ว

    ปืนลูกโม่ของเฟตปรากฎตัวออกมาอีกครั้งจากพลังสีดำของเฟต แต่มันเปลี่ยนสีจากบรอนซ์เป็นดำ แม้จะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างแต่เฟตไม่มีเวลาให้คิดมากนัก เขาใช้มือขวาคว้าปืนส่วนมือซ้ายก็ยัดกระสุนเข้าใส่อย่างรวดเร็ว

    หลังใส่กระสุนเสร็จศัตรูได้เข้าถึงตัวพอดี เฟตจึงใช้ไหล่พุ่งเข้ากระแทกศัตรูที่เข้ามาใกล้ที่สุดและใช้ปืนในอีกมือจ่อยิงอย่างไม่ลังเล จากนั้นเฟตเลยดึงหมาที่ถูกยิงมาป้องกันกรงเล็บของศัตรู เมื่อร่างกำบังถูกมือมนุษย์หมาป่าอีกตัวแทงทะลุมา เฟตจึงย้อนปืนข้ามไหล่ไปประชิดตรงหัวแล้วจ่อยิงจนมันสมองไหลกระจาย

    สถานการณ์แบบนี้ยังคงเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ เฟตยังคงเป็นต่อเมื่ออยู่ในสังเวียนเพลิงที่เหล่าหมาป่าเสียเปรียบด้านร่างกาย จนกระทั่ง หัวหน้าค่ายที่มีสมองเริ่มมองอาการของเพื่อนพ้องออก จึงได้สั่งให้ลูกน้องถอนกำลังให้พ้นจากกรอบเพลิงที่เฟตวางไว้

    ทันทีที่คำสั่งออกมา เหล่าผู้เล่นมนุษย์หมาป่าก็กระโจนออกไปกันคนละทิศทางเพื่อให้หลุดออกจากสังเวียนที่ได้เปรียบของเฟต ทว่า

    หึเฟตหัวเราะในลำคอเหมือนต้องการเวลานี้มานานแล้ว เมื่อใดที่หัวหน้าใหญ่สั่งหนี นั่นหมายความว่าถึงตาจนแล้ว ถ้าลูกน้องมองไม่ออกว่าทำไมคำสั่งนี้ถึงหลุดออกมา จิตใจของพวกเขาจะสั่นคลอนยิ่ง

    พริบตาที่หมาป่าพุ่งผ่านเขตป่าเพื่อให้พ้นป่าไฟไป พวกเขาต่างโดนอะไรบางอย่างที่ฝังตามต้นไม้และดินระเบิดเข้าใส่จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ตัวไหนที่โดนมากหน่อยก็เละกลายเป็นเนื้อบดไปเลย

    การระเบิดที่เกิดขึ้น เกิดจากเฟตให้อนาตาเซียไปวางกับดักโดยรอบ ด้วยกระสุนของอาวุธลับของเขา ที่มีความสามารถในการระเบิดเมื่อกระทบเป้าหมายหรือถูกกระแทก ถึงจะไม่รู้ว่าอนาตาเซียใช้อะไรในการวางกับดัก แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ทำให้เฟตยิ้มอย่างพอใจในผลงาน

    หัวหน้าค่ายที่ออกคำสั่งมองสภาพลูกน้องตาค้าง จากนั้นก็หันมามองเฟตที่ยังคงไล่ฆ่าหมาป่าลูกน้องของเขาอย่างเมามันในอารมณ์

    หมาป่าตัวแล้วตัวเล่าถูกเฟตไล่เก็บเหมือนกับไล่บี้ยุง แม้มนุษย์หมาป่าจะวิ่งหนีแต่เฟตก็ยังวิ่งไล่ตามจนทัน จากนั้นก็ใช้ดาบที่ตนเรียกออกมาเสียบทะลุหน้าอกจนล้มลงตายไปทีละตัวๆ

    ด้านมืดที่เฟตว่านั้นน่ากลัวเกินกว่าที่ใครจะคาดเดา ชายหนุ่มยังคงไล่สังหารต่อไม่ว่าผู้เล่นจะอยู่ในร่างๆใด  เพราะเขาถือแล้วว่าตนต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์เสียเปรียบนี้ให้ได้

    การเห็นใจสงสารผู้อื่นเป็นสิทธิ์ของผู้ที่แข็งแกร่งจริงเท่านั้น เขาเป็นคนที่ถือว่ามือใหม่ในโลกแห่งนี้ การสงสารตนอื่น ก็เหมือนการฆ่าตัวตายนั่นเอง

    ตอนนี้จึงกำลังไล่สังหารหมาป่าตัวหนึ่งที่พึ่งล่มลงสำลักควันไฟ จนถูกเฟตเหยียบติดพื้น แล้วใช้หอกที่ผู้เล่นเหล่านี้โยนทิ้งตอนกลับร่างจริงขึ้นมาไล่เสียบเหมือนชาวประมงไล่ฆ่าปลาที่ตนจับขึ้นมาได้

     “แกมัน ปีศาจหลังทนเห็นความอำมหิตของเฟตไม่ได้ หัวหน้าค่ายหนุ่มก็ตัดสินใจจู่โจมเฟตโดยหวังจะสังหารให้ได้ แต่เขาที่ไม่ถนัดสายต่อสู้บวกกับถูกแผนตัดกำลังของเฟตไปแล้ว เลยไม่ใช่คู่มือที่จะแตะต้องอะไรเฟตได้เลย

    เฟตหลบกรงเล็บที่จู่โจมเข้ามาได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็ฮุคหมัดเข้าใส่หลายครั้งจนมนุษย์หมาป่าโก่งตัวงอเป็นกุ้ง

    โกรธงั้นเหรอเฟตใช้มือบีบคอหัวหน้าค่ายหนุ่มเอ่ยถาม แม้กระทั่งดวงตายังเย็นชาว่างเปล่าเหมือนกับทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีค่าอะไรให้จดจำ

    หัวหน้าค่ายหนุ่มดิ้นรนสักพัก เมื่อพบว่าตัวเองสู้แรงเฟตไม่ได้ก็ถึงกับตื่นตระหนกจนเหงื่อแตก เขาไม่นึกเลยว่ากำลังของตนจะเป็นรองเฟตได้ทั้งๆที่เฟตยังไม่มีอาชีพ เลเวลยังไม่เกิน 20 ด้วยซ้ำ ทว่าเมื่อสบตาเฟตแล้วมองเห็นดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว เขายิ่งหน้าซีดมากกว่าเดิม

    ตัวเฟตจริงๆในตอนนี้ก็เข้าขั้นย่ำแย่พร้อมล้มได้ทุกเมื่อ โชคดีที่เขาไม่โดนโจมตีทางกายภาพมากจนเลือดหมดตัว อย่างมากก็แค่ใช้พลังพื้นฐานตนไปจนหมด แต่ยังดีที่เขายังมีพลังแห่งความตายสำรองอีกหนึ่งถังจึงยังยืนหยัดได้อยู่อีกพักใหญ่ๆ ซึ่งหลังๆที่เฟตเริ่มตามความเร็วหมาป่าทันก็เป็นเพราะพลังนี้นี่แหละ

    แกมัน ปีศาจหัวหน้าค่ายดิ้นว่าเฟตคล้ายกับหวาดกลัว ซึ่งเฟตก็สงเคราะห์ความกลัวนั้นให้ด้วยการเหวี่ยงใส่กับต้นไม้แล้วเข้าไปซ้ำแบบเต็มที่ให้ตายคามือ เพื่อให้ลูกน้องของผู้เล่นคนนี้รู้สึกหวาดกลัวที่ได้เห็นหัวหน้าเสียทีคนที่เป็นเหยื่อ

    หลังทิ้งศพมนุษย์หมาป่าที่ร่างกายเละลงแล้ว เฟตก็จ้องมือตัวเองด้วยความสนใจ ไม่นึกว่าตอนใช้พลังแห่งความตายร่างของเขาจะมีกำลังขึ้นมามากขนาดนี้ แต่ความสงสัยก็เกิดขึ้นเพียงพริบตาเดียว ทันทีที่เฟตสัมผัสรู้ถึงมนุษย์หมาป่าตัวอื่นๆ ตนก็ไล่สังหารต่อทันที

    จนกระทั่งพวกผู้เล่นเหล่านี้เริ่มตระหนักได้ถึงความเป็นจริงว่า สถานการณ์ในตอนนี้พวกเขาไม่ใช่ผู้ล่า แต่เป็นผู้ถูกล่าต่างหาก จึงพากันหนีไปคนละทิศละทาง

    เฟตเห็นว่าผู้เล่นคนอื่นๆหนีไปแล้วไม่โดนระเบิดก็สงสัยว่าทำไมระเบิดถึงไม่ทำงาน แต่เมื่อเห็นว่าบริเวณนั้นเคยเกิดการระเบิดก่อนแล้ว จึงเดาว่าน่าจะมีใครเคยหนีแล้วถูกกับดักไปก่อน จึงลอบถอนหายใจ นี่ถ้าไม่มีใครหนีไปก่อน ผลงานของกับดักคงจะดีกว่านี้มาก

    แต่พักเรื่องอื่นไว้ทีหลัง ตอนนี้เฟตต้องกลับมาไล่สังหารพวกที่ไม่หนี และพวกที่กำลังรอเวลาฟื้นตัวอยู่ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาอีกเกือบชั่วโมง จากเวลาสายตอนนี้ล่วงเลยมาจนพระอาทิตย์ตรงหัว

    เฟตจึงมองฟ้าแล้วหันกลับมามองป่าเพลิงแห่งนี้ที่เหลือแต่สิ่งมีชีวิตคือเขาตัวเดียว ชายหนุ่มหยุดมือมาได้สักพักใหญ่ๆแล้ว หลังจากไล่สังหารพวกที่กำลังฟื้นตัวจากระเบิดหมดเกลี้ยงชนิดถอนรากถอนโคน ตอนนี้กำลังยืนมองศพผู้เล่นที่กำลังสลายกลายเป็นไอด้วยสายตาว่างเปล่า แม้ข้างในใจจริงๆจะไม่ใช่

    การสังหารผู้อื่นแบบนี้ก็เหมือนกับฆาตกรดีๆนี่เอง แต่โชคยังดีที่นี่เป็นเกม เขาจึงลงมือได้แบบไม่ต้องคิดมาก อะไรตัดได้ก็ตัดออกไปจนหมด ทำให้เขาดูเหมือนเครื่องจักรสังหารจริงๆ

    ในขณะที่เขายืนส่งวิญญาณผู้เล่นอยู่ ดวงตาสีแดงของเขาก็จับจ้องเห็นวิญญาณที่สลายไปแล้วของผู้เล่น ไหลวนกลับมารวมกันเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ที่บริเวณจุดโล่งกว้าง แม้จะสงสัยว่านั่นคืออะไรแต่ก็หาคำตอบจากตัวเองไม่ได้ จึงละความสนใจจากสิ่งนั้นมาสนใจหูตัวเองแทน เมื่อเสียงระบบดังขึ้นมารายงานผลงานที่เขาก่อตัวขึ้น

    ผู้เล่นเฟตสังหารผู้เล่นเผ่ามนุษย์หมาป่าเฟนรินได้จำนวนทั้งสิ้น 127 คนค่ะ

    ผู้เล่นเฟตได้รับทักษะสายอาชีพมือสังหาร ได้รับทักษะติดตัวขั้นต้นค่ะ

    ทักษะความเร็วในการออกอาวุธสั้น                     ทักษะเคลื่อนไหวไร้เสียง

    ทักษะอาวุธลับมีดสั้นสังหาร (SC)’

    Special: ต้องถืออาวุธมีดสั้นถึงจะใช้ทักษะได้

    ผู้เล่นเฟตได้รับทักษะสายอาชีพนักเวทย์ ได้รับทักษะติดตัวอาชีพขั้นต้นค่ะ

    ทักษะทนความร้อนภายนอก

    ผู้เล่นเฟตังหารผู้เล่นที่มีค่าหัวกรุณาตรวจสอบของรางวัลได้ที่สมาคมนักล่าค่าหัวค่ะ

    ผู้เล่นเฟตได้รับค่าความเร็วร่างกายเพิ่มขึ้น 5 จุด ความเร็วเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น 10 จุด

    ความเร็วเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 15 จุด                           ค่าพละกำลังเพิ่มขึ้น 30 จุด

    เพิ่มค่าพลังจิตพื้นฐาน 300 หน่วย                         เพิ่มค่าพลังแห่งความตาย 50 หน่วย

    ความสามารถในการหลบหลีกเลื่อนระดับจากพื้นฐานเป็นขั้นชำนาญค่ะ....เสียงระบบยังคงรายงานอีกยืดยาวเพื่อให้สมกับที่เฟตฝืนต่อสู้กับศัตรูกว่าครึ่งกองพันหรือ 5 กองร้อย แม้ส่วนใหญ่จะหนีไฟไปไหนกันก่อนแล้วก็ไม่รู้ เพราะใครจะบ้ายืนอยู่กลางวงล้อมของไฟกันล่ะ ถึงอย่างนั้นเฟตก็ลอบดีใจที่ส่วนใหญ่หนีไปกันหมด ถ้ายังอยู่สู้ต่อ อาจเป็นเขาก็ได้ที่จะต้องถูกระบบรายงานว่าตาย แต่สิ่งที่ทำให้เฟตสนใจมากที่สุดจากเสียงของระบบก็คือ ทำไมเลเวลถึงไม่ได้รับการรายงานถึงเลย ทั้งๆที่เคยเป็นเสียงรายงานแรกๆด้วยซ้ำ เมื่อคิดได้ก็เปิดระบบขึ้นมาดูช่องที่ตนต้องการ

    ชื่อผู้เล่น เฟต

    เผ่าพันธุ์ : มนุษย์                                                   อาชีพไม่มี (SC)

    ค่าความดี : ?? (ไม่แน่ชัด เพราะเฟตสังหารมารแต่เขาเป็นฝ่ายที่สังหารมากที่สุด)

    พลังเลือดเลือด 2200 หน่วย                               ค่าพลังจิต 1300+300 หน่วย

    พลังแห่งความตาย 600+50 หน่วย                       ค่าพลังปริศนา รอการเรียนรู้เพื่อปลดล็อกค่ะ

    ค่าประสบการณ์ : 0% (J.no)

    เมื่ออ่านมาถึงตรงประสบการณ์เฟตก็ถึงกับอ้าปากค้าง สังหารอะไรต่างๆไปมากมาย ทำไมเลเวลถึงไม่เลื่อนเลยแม้แต่นิดเดียวล่ะ แต่เมื่อเฟตเห็นตัววงเล็บ ก็เลยชี้นิ้วไปแตะเพื่ออ่านดู

    ‘Special: ผู้เล่นยังไม่มีอาชีพกรุณาสมัครอาชีพก่อน เพื่อปลดผนึกระดับของตัวเองค่ะหลังอ่านดูแล้ว เฟตก็เกาหัวแกรกๆ ตนลืมอ่านไอ้นี้ตั้งแต่ครั้งที่เห็นคราวก่อน พอมารู้ก็สายไปแล้ว ภายในเมืองสถานการณ์ก็เป็นแบบนั้นจะให้เข้าไปหาสมัครอาชีพได้ยังไงกันล่ะ แม้จริงๆแล้วชิออนจะเคยอธิบายถึงก็เถอะ แต่เฟตกลับไม่ได้ฟังเลยสักนิดจึงมองข้ามไปตลอด

    แต่แล้ว เฟตก็นึกได้ว่ายังมีทางเลือก ในเมื่อคนในเมืองหนีออกนอกเมือง งั้นเขาก็หาไปทางนั้นก็ได้นี่

    เมื่อคิดเช่นนั้นก็มองหาทางหนีทีไล่จากกองเพลิงรอบตัว แต่เมื่อมองออกไปเห็นผู้เล่นที่เคยหนีจากกองไฟข้างในไปตั้งทัพรอกันอยู่ข้างนอก เฟตก็หยุดเท้าแล้วซอยกลับมาหยุดกลางวงล้อมเหมือนเดิม

    อื้อหือ ตีนอู้เลย ออกไปมีหวังเละ ค่าประสบการณ์นอกจากไม่ได้คงจะเสียไปอีกด้วยล่ะมั้งเฟตบ่นพึมพำอย่างท้อแท้ แม้เขาจะไม่รู้ถึงแผนตัดกำลังที่ตัวเองก่อไว้ แต่จิตวิญญาณก็บอกมาเป็นนัยๆว่าออกไปเมิงตายแน่

    อ้า ไม่ได้ออกมาดูโลกภายนอกนานมากเลยนะเนี่ยเป็นเสียงที่ฟังดูใหญ่และชวนให้ขนลุกมาก เมื่อเฟตมองไปทางต้นเสียงก็พบว่า ส่วนหัวของอมนุษย์ตัวสีแดงที่กำลังรวมตัวกับไอวิญญาณคนตายอยู่กำลังจ้องฟ้าอย่างยินดี

    ตัวอันตรายสัญชาตญาณเฟตร้องเตือนลั่น

    หนีเร็ว เจ้าหนีเป็นตัวอันตรายมาก หนีไปเร็วเข้าเป็นครั้งแรกที่อนาตาเซียบอกเฟตแบบนี้

    แล้วจะให้หนีไปไหนล่ะ ในเมื่อข้างนอกก็มีโจทรออยู่บานขนาดนั้นเฟตถามอย่างสุดจะข้องใจ ถ้าอนาตาเซียมองเห็นถึงตัวอสูรผู้นี้ เธอก็น่าจะเห็นอยู่ว่าข้างมีใครรออยู่ แต่ดูเหมือนอสูรของเขาจะกลัวเป็นอย่างมาก เธอยังคงร้องบอกให้เขาหนีอย่างไม่สนใจอะไร แม้แต่สัญชาตญาณเฟตยังร้องเตือนจนชายหนุ่มเริ่มเครียด

    ความเครียดที่เกิดขึ้นจากเกิดแรงกดดันของความร้อนที่อยู่รอบตัว ความเมื่อยล้า สิ้นหวัง และอะไรอื่นๆที่ตามมาอีกเยอะแยะ จนเป็นครั้งแรกที่เฟตอาเจียนออกมาอย่างห้ามตัวไม่ได้

    โอ้ เจอพลังของข้าไปแล้ว ไม่ตายงั้นเหรอเนี่ย แปลกและน่าสนใจจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่าอมมนุษย์ตัวแดงกล่าวพร้อมกับร่างกายที่เริ่มปรากฏตัวขึ้นมากเรื่อยๆ จนเห็นถึงร่างกายที่สูงกว่า 3 เมตรของเขา

    เฟตได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แล้วเอ่ยถามออกมาอย่างยากลำบาก

    ทำไม คุณถึงมีเขาด้วยล่ะ โดนเมียสวมเขามาเหรอสิ้นคำถาม เหมือนกับเวลาของโลกหยุดเดินลง จากนั้นก็เป็นร่างกายของเฟตที่กระเด็นไปอัดติดกับต้นไม้จนกลายเป็นเนื้อเดียวกับไม้ไป

    อ่ะ โทษทีๆ พอดีแกพูดแทงใจดำไปนิดนึงวะ ขอโทษด้วยนะบุรุษร่างยักษ์ตัวแดงกล่าวขอโทษทั้งๆที่ไม่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้เฟตแปลกใจมากกว่าอาการบาดเจ็บของตัวเองก็คือ ชายคนนี้มาหยุดอยู่ข้างหน้าเขาเมื่อไหร่ แล้วจู่โจมเขาด้วยอะไร เขามองอะไรไม่ทันเลย นอกจากเลือดของตัวเองที่กำลังไหลออกมาเป็นน้ำก๊อก

    เหมือนกับโชคหล่นทับ ต้นไม้ที่เฟตถูกซัดจนไปอัดใส่นั้น ข้างบนถูกไฟลามไปหมดแล้ว ซึ่งทันทีที่มันถูกกระแทกเข้าเต็มแรง มันก็เอนโค่นลงมาทับตัวของเฟตจนชายหนุ่มรู้แล้วว่า จากนี้ไป ความตายนั่นแหละที่ถามหาเขา

    ในขณะที่พลังเลือดของเฟตลดต่ำลงจนมาถึงจุดตาย เสียงของระบบก็รายงานพร้อมกับสติของเฟตที่รู้สึกชัดเจนมากขึ้นกว่าตอนที่จะตาย

    ทักษะสายมารแสดงผลเมื่อมาถึงจุดกำเนิดค่ะ ผู้เล่นเฟตการกลับมาเกิดอีกครั้ง ในร่างอันเดธชั้นกลาง สามารถควบคุมสติได้ค่ะเสียงของระบบที่รายงานทำให้เฟตรู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่ตาย จากนั้นก็ดันตัวเองขึ้นยืนจนต้นไม้ที่ทับอยู่แตกหักกลางลง แล้วมองไปทางอมนุษย์ตัวสีแดงที่ขาดแต่ขาเท่านั้นร่างกายก็จะสมบูรณ์

    ทันทีที่ขาข้างซ้ายปรากฏจนครบ เสียงของระบบก็รายงานถึงศัตรู

    จอมมารซาตานปรากฏร่างค่ะแม้เฟตจะไม่รู้ว่าซาตานเป็นใคร แต่เขาก็ไม่คิดที่จะหาความจริงอีกแล้ว เนื่องจากร่างกายของเขาตอนนี้กำลังร้อนลุ่มแบบแปลกๆ

    โอ้ โดนพลังนามธรรมของข้าแบบเต็มๆไปแล้ว กลับไม่ตาย ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าชักชอบเจ้าแล้วซิ เจ้ามนุษย์ตัวประหลาดเอ๋ยซาตานเอ่ยคล้ายยิ้นดี แต่ใบหน้าที่ดูน่าหวาดหวั่นของมันกลับทำให้เฟตรู้สึกค้านในสิ่งที่มันพูด

    แม้จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างอันเดธ แต่เฟตก็รู้กำลังของตัวเองดีว่า บุรุษที่ชื่อซานตานตรงหน้าเป็นของจริงที่เขาไม่มีวันเอื้อมถึง การจะเข้าต่อกรเป็นความคิดที่สิ้นคิดสิ้นดี แต่จะให้ออกไปสู้กับไอ้คนข้างนอกก็ใช่ที่ เพราะนั่นมีเยอะกว่าที่เขาสู้มาทีแรกเสียอีก ดังนั้นชายหนุ่มต้องควานหาทุกวิถีทางที่จะช่วยให้ตัวเองรอด

    นั่นเฟตชี้นิ้วไปทางแต่ตนวิ่งไปทาง เฟตวิ่งเข้าหากองไฟโดยไม่สนว่าตัวเองจะร้อนหรือไม่

    ชายหนุ่มวิ่งข้ามกองไฟแล้วกองไฟเล่า ผ้าคลุมที่ชิออนให้มาก็สลายไปกับไฟเพราะทนความร้อนไม่ได้ แต่โชคยังดีชุดสูทที่ใส่เป็นของที่มีความทนทานสูง ถึงจะไม่ให้ค่าช่วยเหลืออะไรเพิ่ม ก็ถือว่าช่วยกันภาพอุจาดตาละกัน

    หลังวิ่งมาจนไกลแล้ว เฟตก็พบกับกองไฟขนาดใหญ่ ที่ฝั่งนู้นเป็นธารน้ำ ถ้ากระโดดพ้นจากกองไฟนี้ไปก็คงรอดแล้วล่ะมั้ง

    น้ำอีกแล้วเหรอเนี่ย มันคงไม่ใช่น้ำตกล่ะนะเฟตพึมพำขณะบิดซ้ายบิดขวาแบบนักกีฬาที่เตรียมลงกวาดเหรียญทองการเข้าแข่งขัน จากนั้นก็ก้มตัวลงสองมือแตะพื้น สองขายืดตรง

    เปรี๊ยะเสียงไม้ที่โดนความร้อนจนลั่นดังขึ้น เหมือนสัญญาณของปืน เฟตออกตัววิ่งทันทีแบบไม่คิดชีวิต เมื่อถึงจุดที่ใกล้กองไฟที่สุด เฟตก็ใช้กำลังที่มีกระโดดข้ามกองไฟนั้นไป ทว่า

    ขาของเฟตถูกอะไรบางอย่างดึงไว้ตอนที่อยู่เหนือกลางต้นไม้ไฟที่หักโค่น จากนั้นร่างของชายหนุ่มก็ถูกเหวี่ยงไปกระเด็นเข้าใส่กับก้อนหินที่อยู่ใจกลางน้ำ จนเฟตรู้สึกได้เลยว่ามันเคลื่อนตัวได้ ส่วนกระดูกในร่างเขาก็เคลื่อนได้เช่นกัน

    คิดว่าหลอกข้าแล้วจะรอดเหรอ มนุษย์ประหลาดเจ้าของมือเป็นบุรุษตัวแดงในร่างไฟที่โผล่ขึ้นมาจากกองไฟ ทำให้เฟตหันไปมองด้วยสายตาที่พร่าเลือน แม้เขาจะกลับมาอยู่ในร่างอันเดธ แต่เลือดของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นจนเต็ม มันแค่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพื่อไม่ให้ตายเท่านั้น การถูกโจมตีเมื่อสักครู่จึงเหมือนกับการตอกย้ำความสิ้นหวังเข้าไปอีก

    ก่อนที่เฟตจะถูกบุรุษร่างเพลิงทุบเละคาก้อนหิน ก็มีเสียงๆหนึ่งที่ดังแว่วมา ช่างเป็นเสียงที่เหมือนกับสวรรค์ของเฟตเหลือเกิน

    เขาอาจไม่ได้หลอกท่านก็ได้นะ ท่านซาตานเสียงสตรีที่ไพเราะดังขึ้นที่ฝั่งตรงข้ามฝากน้ำ เมื่อซาตานมองข้ามเฟตไปก็พบกับหญิงสาวในชุดขาวนั่งอยู่บนโขดหินเหมือนกับรออยู่นานแล้ว

    หึ จะไม่ได้หลอกข้าได้อย่างไร ในเมื่อข้ามองไปแล้วไม่เห็นอะไรเลยซาตานยังคงกล่าวเหมือนไม่สนใจอะไรเหมือนเคย แต่เขาก็ลอบหวั่นใจแล้วที่ได้เห็นหญิงสาวผู้นี้

    ท่านเห็น แต่ท่านไม่ยอบรับว่านั่นคือนกนั่นคือธรรมชาติ สิ่งที่ท่านต้องการที่จะเห็นคือนามธรรมที่มากกว่ารูปธรรมที่เห็น ข้าพูดถูกมั้ย ท่านจ้าวนรกแห่งความโกรธซาตานหญิงสาวยังคงกล่าวแบบเอื่อยเฉื่อย ทั้งๆที่ร่างกายเธอดูบอบบางกว่าซานตานแท้ๆ

    คุยกับเจ้าข้าปวดหัวเหลือเกิน หยุดพูดซะอาธีน่าซาตานเริ่มรู้สึกว่าถ้าตัวเองพูดเรื่องเหตุผลกับหญิงสาวผู้นี้แล้วตัวเองจะต้องแพ้เป็นแน่ จึงพาลออกมาแบบไม่พอใจ แต่หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าอาธีน่ากลับยิ้มแย้มเหมือนไม่ใส่ใจ

    ถ้าต้องการเช่นนั้นก็มิอาจขัดข้อง ทว่า เงื่อนไขในข้อนี้ ท่านต้องมอบชายผู้นี้ต่อให้ข้า ถึงท่านจะชื่นชอบผู้แข็งแกร่ง แต่เขาคงยังไม่พอที่จะสนองตัณหาท่านได้ ดังนั้น ข้าจะรับช่วงต่อเองอาธีน่าตอบเอื่อยๆเหมือนเดิม อารมณ์เธอเหมือนกับธารน้ำที่ไหลอยู่รอบตัวจริงๆ

    ก็ได้ งั้นข้าก็จะขอติดตามชายคนนี้ไปด้วยสักพักก็แล้วกันซาตานเอ่ยจบก็เปลี่ยนร่างจากยักษ์ใหญ่ตัวสูง 3 เมตร เป็นชายหนุ่มรูปงามในชุดสูทสีดำ ทำผมสีแดงทรงกวนบาทา

    นี่ตูกลายมาเป็นสิ่งของแล้วหรือไงวะเนี่ยเฟตที่นอนแหมะอยู่ที่หินกลางน้ำร้องในใจ ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเป้าหมายของอะไรสักอย่างไปแล้ว

    ขณะเดียวกับที่เฟตสู้กับกลุ่มนักฆ่า ภายในเมืองเริ่มต้นเองก็วุ่นวายไม่แพ้กัน หลังจากชายหนุ่มคนหนึ่งลอบเก็บศัตรูไปมาก จนทำให้การกวาดล้างเริ่มรุนแรงขึ้น ขนาดผู้เล่นที่พึ่งออนไลน์เข้ามายังถูกฆ่าตายแบบไม่รู้อีโน่อีเน่เลย ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้เล่นสาวกลุ่มนี้ พวกเธอพึ่งออนไลน์เข้ามาได้ไม่ทันออกพ้นหน้าประตูอาคารออฟไลน์เลย ก็ถูกผู้เล่นที่ไม่คุ้นหน้าดักไว้พร้อมขู่เสียอีก

    จับกุมตัวเอาไว้ แล้วค่อยไปจัดการข้างนอกชายที่ใส่เกราะหมวกร้องสั่งกลุ่มชายที่ไม่ได้ใส่หมวก ผู้ที่ได้รับคำสั่งรีบรีเข้ามากุมตัวผู้เล่นหญิงทันที แม้พวกเธอจะดิ้นรนถามว่าจับพวกเธอทำไมก็ไม่มีประโยชน์ เพราะกลุ่มคนพวกนี้ตั้งเป้าหมายสังหารเอาไว้แล้ว

    ผู้เล่นถูกลากตัวออกจากโรงแรมออฟไลน์ไปยังลานกว้างหน้าถนนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในอาคารมีกฎห้ามใช้ความรุนแรง แต่ไม่ได้หมายความว่าห้ามจับกุม ซึ่งพวกเขาก็ใช้กฎในข้อนี้เป็นช่องว่างแห่งกฎหรือจะโทษจริงๆก็ต้องโทษที่กฎของเมือง ที่มีกฎรองรับภายในเมืองแต่ไม่ได้ตั้งในอาคารระบบต่างๆ เพราะพวกเขารู้ว่าภายในนั้นมีกฎ

    แต่เมื่อใดที่กฎหลักถูกล่วงละเมิด กฎเล็กๆก็มิอาจยึดมั่นอยู่ได้ มันจึงถูกเพิงเฉยไปเสียอย่างงั้น

    รายที่ 20 กว่าแล้วนะเนี่ยพนักงานหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์บ่นเขาเห็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว จะเตือนพวกผู้เล่นที่พึ่งออนไลน์เข้ามาก็ไม่ทัน เพราะไอ้ผู้เล่นพวกนี้ดันมาดักรอถึงภายในอาคารซะได้ จะไปใช้กฎของภายในอาคารระบบก็ดันไม่ร้องเตือนเพราะผู้เล่นพวกนี้เล่นงานที่ช่องว่างแห่งกฎ ไม่ได้ใช้ความรุนแรง แค่ใช้การบังคับด้วยกลุ่มคนแบบไม่ให้ถึงเนื้อถึงตัว

    กลุ่มหญิงสาวที่พึ่งออนไลน์เข้ามามองรอบๆตัวอย่างหวาดหวั่น บรรยากาศภายในเมืองเงียบมากเลยถ้าเทียบกับตอนที่พวกเธอออฟไลน์ล่าสุด แถมยังมาเจอผู้เล่นหน้าปลาไหลชนเขื่อนขู่บังคับอีก ทำให้พวกเธอถึงกับตัวสั่นเลยทีเดียว

    เราไปทำอะไรให้ ทำไมถึงต้องมาบังคับกันแบบนี้ด้วยหญิงสาวกล่าวถามอย่างข้องใจแม้ตัวจะสั่น

    มันเป็นแผนน่ะผู้เล่นชายตอบแบบไม่สนใจหลังจากได้รับสัญญาณจากเพื่อนที่พึ่งใช้ทักษะแล้วก็จัดการส่งสัญญาณให้เพื่อนสังหารคนพวกนี้ได้แล้ว

    เมื่อมีท่าทีมุ่งร้ายอย่างเห็นได้ชัด กลุ่มหญิงสาวก็ดึงอาวุธที่ตนใช้ประจำออกมาแล้วรับมือโดยไม่สนกฎของเมืองอีกแล้ว

    ผู้เล่นชายเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มที่มุมปากแล้วดึงพลังใส่ร่างจนเห็นออร่าบางๆ จากนั้นก็ใช้สกิลดาบฟาดฟันใส่อย่างรวดเร็ว พวกเขามีเลเวลมากกว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ที่อยู่ในเมืองเริ่มต้นอยู่แล้ว ผู้เล่นหญิงพวกนี้ก็เป็นได้แค่ตัวประกอบหรืออสูรไว้ฆ่าเวลาเท่านั้น

    เเกร๊ง!! แอ๊ก!! อ้ากก!! เป็นเสียงดาบที่ถูกป้องกันไว้ได้แล้วตามมาด้วยเสียงของคนที่ถูกอัดจนเละและถูกสังหารทิ้งในจังหวะสุดท้าย

    ไอ้พวกนี้นี่ ไม่รู้เลยหรือไงนะ ว่าอะไรควรแต่ไม่ควรชายหนุ่มในชุดทักซิโด้มีผ้าคลุมไหล่แบบผู้นำทัพบ่นพึมพำหลังจากใช้ทักษะของตัวเองสังหารผู้เล่นชายพวกนี้ภายในพริบตาแบบไม่ให้รู้ตัว ถึงจริงๆแล้วเขาจะรอเวลาโชว์บทพระเอกอยู่นานก็เถอะ

    น้องๆคงไม่เป็นอะไรใช่มั้ยจ๊ะ ไอ้พวกนี้มันอันธพาลน่ะ มักจะทำอะไรแบบนี้เสมอเลยชิออนหันมากล่าวกับผู้เล่นที่ตนช่วยมาได้ แต่ไม่ทันที่กลุ่มผู้เล่นหญิงจะได้ตอบคำถาม ที่ด้านหลังของชายหนุ่มก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ออร่าที่ส่งออกมากลับทำให้พวกเธอมองเห็นยมทูตมารอเก็บวิญญาณ

    เอ่อ ฟ้าจ๊ะ เห็นเปล่า ว่าชินช่วยผู้เล่นไว้ได้อีกแล้วชิออนหันไปยิ้มให้กับหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามา

    อืม นั่นซินะ น่ายินดีเหลือเกิน ไอ้ตอนที่ควรช่วยไม่ช่วย ไอ้ตอนที่ดูแล้วยุ่งยากดันช่วย คงไม่ใช่ว่าเห็นเป็นผู้หญิงหรอกนะฟ้าใสที่พึ่งเดินมาถึงกล่าวแบบเย็นชา เธอสังเกตเห็นว่าชิออนช่วยแต่กลุ่มผู้เล่นหญิง ต่อให้กลุ่มๆนั้นถูกรุมด้วยคนจำนวนมากแค่ไหนชิออนก็ไม่สน เขาขอแค่ได้ช่วยก็พอแล้ว

    แหม จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่ะฮ่ะ ฮะ ฮ..ชิออนหุบยิ้มโดยพลันเมื่อเจอสายตาที่เย็นชาจ้องมองมา เธอไม่เชื่อเด็ดขาด เพราะตอนที่เห็นผู้เล่นชายเสียท่าด้วยศัตรูเพียงคนเดียว ชิออนไม่เคยไปช่วยเลย แถมยังทำเป็นไม่เห็นหรือไม่ก็ช่วยสงเคราะห์ให้ตายเร็วขึ้นด้วยซ้ำ

    เมื่อเห็นตัวแสบหันไปผิวปากทำไม่รู้ไม่ชี้ ฟ้าใสก็ถอนหายใจแล้วหันมามองกลุ่มผู้เล่นหญิงที่ชิออนพึ่งช่วยไว้ได้แล้วเอ่ยถาม ตอนนี้สถานการณ์ภายในเมืองไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ พอมีที่ซ่อนกันหรือเปล่าคะ

    เอ่อ ถ้าสถานการณ์ในเมืองเป็นแบบที่พวกเราเจอจริงๆ หนีออกไปไม่ง่ายกว่าเหรอคะเมื่อถูกถามกลับมาฟ้าใสก็เหล่ไปมองแฟนตัวเองที่ทำเนียนแคะหูเหมือนไม่ได้ยินคำถาม

    ถ้าก่อนหน้านี้ล่ะก็พอได้ค่ะ เพราะคนพวกนี้ยังเปิดโอกาสให้ออกไปนอกเมืองได้ แต่สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว คนพวกนี้เริ่มใช้วิธีการที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับต้องการกวาดล้างหรือหาอะไรสักอย่าง ดังนั้น การซ่อนตัวภายในเมืองนี้น่าจะดีที่สุดแล้วล่ะ เพราะทางออกทุกทางถูกปิดหมดแล้วฟ้าใสตอบจบก็เริ่มสงสัยว่าผู้เล่นพวกนี้ต้องการอะไรจากสถานการณ์นี้กันแน่ เพราะการกระทำแบบนี้สำหรับผู้เล่นกิลด์หรือกลุ่มคนเล็กๆมันเสี่ยงมากที่จะถูกหลายๆกิลด์หรือสมาคมใหญ่ๆหมายหัวเอา

    เมื่อได้ยินคำอธิบายของฟ้าใส พวกเธอก็หันไปปรึกษากันเองนานสองนาน จากนั้นก็หันมาให้คำตอบที่ทำให้ชิออนลอบยิ้มแบบเข้าทาง

    แล้วพวกเราจะเอายังไงดีคะ พวกเราไม่มีที่ซ่อนไหนเลย

    งั้นก็เชิญมากับพวกเราได้เลยครับ พวกเราตอนนี้กำลังใช้แผนกองโจรปราบพวกมันอยู่ชิออนยิ้มอธิบาย ใช่แล้ว พวกเขาร่วมมือกันตามหาพรรคพวกเพื่อให้กองกำลังที่มีอยู่มีมากขึ้นไปอีก การที่ผู้เล่นพวกนี้ใช้วิธีการรุนแรงกับผู้เล่นที่พึ่งเข้ามาใหม่จึงเข้าทางพวกตนอย่างมาก แค่ให้การช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ แล้วยื่นข้อเสนอที่มีทางรอดแบบทางเดียวให้ก็เป็นอันเข้าแผนการทุกอย่าง

    ก็ได้ค่ะกลุ่มผู้เล่นหญิงตอบจบก็หันไปมองศพพวกผู้เล่นชายที่จะสังหารพวกเธออย่างสงสัย ปกติศพผู้เล่นพวกนี้ต้องสลายไปภายใน 10 วิ นับตั้งแต่ที่เลือดหมดตัวนี่ แถมพวกนี้ก็ไม่มีท่าทีที่จะฟื้นขึ้นมาแบบพวกเผ่าเทพหรือมารเป็นกันด้วย จึงไม่น่าจะใช้ผู้เล่นเผ่าเทพมารโดยตรง

    ฟ้าใสและชิออนเห็นพวกสาวๆเอะใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก็ลอบมองหน้ากัน พวกเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดมันคืออะไร แล้วตกลงเกิดอะไรขึ้นภายในเมืองกันแน่ จึงไม่รู้จะอธิบายให้ฟังกันได้ยังไง

     

    ทักษะห้ามเกิดซินะชายผมดำหรือจอร์สหันมากล่าวกับชายผมทองที่กำลังดูอะไรบางอย่างในมือที่คล้ายกับเป็นแผนผังของเมืองเริ่มต้น ที่ใต้ฐานรองนั้นมีสัญลักษณ์คล้ายวงแหวนเวทย์อยู่

    ทักษะห้ามเกิด เป็นทักษะเวทย์ชั้นสูงชนิดหนึ่ง ในกรณีที่ใช้ในเมือง จะส่งผลให้วิญญาณภายในเมืองไม่สามารถไปสู่ที่ชอบหรือพวกเก็บวิญญาณไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวในอาณาเขตเวทนี้ได้ ซึ่งผู้ที่จะใช้เวทย์นี้ได้ต้องเป็นผู้เล่นที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณโดยตรง เช่นเผ่ายมทูต หรือเทวทูต ซึ่งถือเป็นทักษะที่ค่อนข้างสูงมาก จึงไม่ค่อยมีใครนำมาใช้เท่าไหร่

    ร็อคที่นำมาใช้มองเห็นถึงผลดีในข้อนี้จึงใช้มันภายในเมืองเริ่มต้น เพราะ 1.จะช่วยประหยัดคนในการไล่ส่งผู้เล่นที่พึ่งออนไลน์เข้ามา 2.เวลาสังหารผู้เล่นไปแล้ว คนพวกนั้นจะได้ไม่กลับมาเกิดเร็วจนทีมงานของเขาต้องทำงานหนักอีกหลายรอบ แต่ข้อเสียของมันก็มีอยู่บ้าง

    อืม ต้องขอบคุณ เขา จริงๆ ถ้าไม่ได้รับทักษะนี้มา มีหวังภายในเมืองวุ่นวายเพราะต้องค่อยไล่ต้อนคนออกแน่ๆร็อคกล่าวเรียบๆ จากนั้นก็วางสิ่งที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะที่ตนขนมานั่งอยู่ริมท่าเรือ

    หินรูนนี่ ดีจังแหะ หาเอามาใช้มั้งดีกว่าจอร์สกล่าวอย่างสนใจ เพราะทักษะนี้ถูกผนึกมากับหินรูน ซึ่งเป็นหินแบบวิเศษที่มีขั้นตอนการผลิตที่ถือเป็นความลับของทวีปเหนือ ส่วนการนำเวทที่ต้องการมาร่ายผสมกับหินรูนเพื่อให้ผู้เล่นอื่นใช้งานได้ ก็เป็นความลับในการผลิตอีกเช่นกัน

    อืม ก็สั่งซื้อเข้ามาซิ จะได้จัดส่งไปให้ แต่อย่าลืม หินหนึ่งก้อนใช้ได้แค่หนึ่งครั้ง ยิ่งเป็นเวทย์อาณาเขตใหญ่ๆแบบนี้ด้วยแล้ว มันยิ่งแพงมากเลยล่ะร๊อคตอบจบก็ยื่นกระดาษโบว์ชัวร์ให้แบบไม่สนใจท่าทีสนอกสนใจของเพื่อนร่วมงานชั่วคราว

    โหย ทำไมแพงจังฟะ หินแบบเกรดต่ำก้อนหนึ่งตั้ง 10 เหรียญทองเลยเรอะ นี่ยังไม่รวมคลาสอีกนะเนี่ยหลังเห็นราคาแล้วจอร์สก็ทำหน้าสยองทันที ถ้าแพงมากขนาดนี้เขาคงไม่เอามาให้ขาดทุนเป็นแน่

    เพราะมันช่วยให้เราชนะได้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบนี้ยังไงล่ะเมื่อได้ยินคำตอบเช่นนี้จอร์สก็ทำหน้าเซ็ง ช่างปวดสมองกับคนที่เล่นเกมแบบจริงๆจังๆเสียจริง

    ว่าแต่นายน่ะ จะเริ่มงานได้ตอนไหนร็อคถามพร้อมกับหันมามองบ่งบอกว่าเป็นเรื่องซีเรียส

    พลังหลักของฉันให้ลูกน้องไปหมดแล้ว ต้องรอเกือบคำนู่นล่ะ ถึงจะกลับฟื้นคืนมาให้พอบังคับหมาป่าได้จอร์สตอบแบบจริงจังบ้าง

    อืม อำนาจกับพลังไม่ใช่รูปแบบเดียวกันซินะ แล้วของนายก็ดันเป็นแค่ผู้ทำสัญญาซะอีก

    เหอะ แล้วไงล่ะ ก็ยังดีกว่าคนที่ได้กะอีแค่สัญญากับอาวุธเทพล่ะวะจอร์สหันมาว่าอย่างมีอารมณ์ แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าถูกดูถูกอยู่

    ร็อคที่ถูกว่ากลับไม่สนใจคำพูดของอีกฝ่าย ตนยังคงนั่งมองทะเลต่อไปจนร็อคแทบจะโมโหที่ถูกว่าแถมถูกเมิน แต่เมื่อตนเห็นอะไรไหวๆอยู่ไกลๆที่ขอบฟ้าริมทะเลก็ทำหน้าเหวอ แล้วหันไปถามเพื่อน (ชั่วคราวเสียงสั่น

    ถึงกับใช้ทุกสิ่งที่มีเลยเหรอ

    เพื่ออำนาจแล้ว อะไรก็ยอมไม่ใช่หรือไง แม้แต่นายยังเคยสังหารคนนับพันเทพนับร้อยเพื่อให้ได้ทำสัญญากับ ไอ้นั่น เลย ฉันก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาตัวฉันเช่นกันร็อคสวนกลับอย่างเย็นชา จากนั้นก็จ้องสิ่งที่กำลังมุ่งหน้ามายังทางนี้ต่อ

    กองเรือของร็อคที่เฝ้าชายฝั่งถึงกับตัวสั่นเมื่อเห็นสิ่งที่ใกล้เข้ามา มีบางอสูรบางตัวที่น่าจะหงุดหงิดมาจากบ้าน จมเรือของร็อคหน้าตาเฉย แต่ร็อคก็ทำเป็นไม่สนใจแม้จะได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือแว่วๆมาจากลูกน้องตนเองก็ตาม

    แกนี่ เหมาะกับการเป็นมารมากกว่าเทพอีกนะจอร์สหันมาว่า

    ก็พอๆกันกับแกนั่นล่ะร็อคสวนกลับ เพราะจอร์สนั้นยิ้มแบบโรคจิตเมื่อเห็นท้องทะเลย้อมไปด้วยเลือดของลูกน้องเขา

    เมื่อถูกสวนกลับก็หันไปมองอย่างอื่นโดยไม่สนใจสิ่งที่ตนเห็น แม้มุมปากจะยิ้มขึ้นมาได้ตอนที่ได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือก็เถอะ

     

    เป็นเพราะแถมนี้มีพลังมารเยอะซินะ ท่านถึงปรากฏตัวบนโลกมนุษย์ได้น่ะ ท่านซาตานหญิงสาวยังคงกล่าวกับชายผมแดงไร้อารมณ์เหมือนเดิม

    อืม ถึงจะไม่ใช่พวกมารในทวีปตะวันออก แต่ก็ถือว่าเป็นมารเหมือนกัน เลยถือโอกาสดูดวิญญาณที่ไม่ยอมกลับไปของพวกมันมาปรากฏร่างซะเลย ว่าแต่เจ้าเถอะอาธีน่า ป่านี้ไม่ใช่ป่าศักดิสิทธิ์ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมาปรากฏตัวได้ล่ะซาตานย้อนถามกลับพร้อมรอยยิ้มเยาะ

    ถึงป่านี้จะไม่ใช่ดินแดนศักดิสิทธิ์ แต่ภายในเมืองนั้นใช่อาธีน่าตอบไม่ตรงคำถาม ทำให้ซาตานทำหน้าเบื่อโลก ว่าจะหาทางเอาชนะซะหน่อย แต่ดูแล้วถ้าจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

    แปลกแหะ เท่าที่ฟังๆมาคนพวกนี้เป็นเผ่าเทพกับมารนี่นา ก็น่าจะเป็นศัตรูกันไม่ใช่เหรอ ทำไมเท่าที่ฟังจากการพูดและท่าทางแล้ว ดูเหมือนเป็นกับเพื่อนกันมากกว่าแหะเฟตที่ฟังมานานเริ่มคำนวณจากสิ่งที่ฟัง

    อืม หรือว่าพวกเขาเล่นเกมการเมืองแบบส.ส.บ้านเรา หน้าฉากทำร้ายหลังฉากทำดี อืมเฟตยังคงคิดแบบไร้สาระต่อไป

    หรือว่า พวกเขาจะย้ายสายพันธุ์กันได้ พออยู่สวรรค์ไม่สนุกก็ย้ายมาอยู่นรก พอสับไปสับมาก็กลายเป็นเพื่อนกันได้ซินะ อะฮา ต้องใช่แน่ๆเลย’…..

    ว่าแต่ ไอ้มนุษย์ประหลาดคนนี้จะนอนคาหินนั่นอีกนานมั้ยเนี่ย ข้าแค่ปามันใส่หินทีเดียวดูมันนอนไม่ยอมลุกเลย หรือต้องการโด่ไม่รู้ล้มซาตานเอ่ยถามอาธีน่าซะเฉยๆ พวกเขานั่งมองเฟตที่นอนแหมะอยู่กับหินมานานแล้ว ส่วนเฟตที่นอนอยู่ในท่ากอดหินมานานก็ไม่ตอบ เพราะเขากำลังรู้สึกชื่นใจที่ได้นอนอยู่กลางธรรมชาติแบบนี้

    อาธีน่าไม่ตอบคำเธอยิ้มเหมือนเดิมเหมือนกับบอกว่าหาคำตอบเอาเอง ทำให้ซาตานไม่มีทางเลือกเดินลุยน้ำที่มีความลึกระดับเข่ามาลากเฟตโยนลงบนฝั่งที่อาธีน่านั่งอยู่

    ขวับ!! เฟตทรงตัวมาอยู่ในท่านั่งแล้วย้อนกลับไปมองคนที่โยนเขามาอย่างสงสัย จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาธีน่าที่มองอยู่หัวเราะเล็กน้อยเมื่อหันไปเห็นหน้าตาของซาตาน

    ไม่มีอะไรให้ไปทำเลยรึไงฟะซาตานคำรามอย่างโมโห

    แล้วจะให้ไปทำอะไรล่ะเฟตย้อนถามทั้งๆที่นอนอยู่

    ก็อย่าง การไปเก็บเลเวลแบบที่พวกแกชอบไง หรือไม่ก็วิ่งควานหาอำนาจที่ตนไม่มีอะไรแบบเนี่ย ปกติมนุษย์ที่เรียกว่าผู้เล่นแบบพวกแกชอบทำกันนี่

    งั้นเหรอเฟตรับคำสั้นๆ แล้วคิดอย่างสงสัย คำพูดของซาตานฟังดูแล้วเหมือนกับมนุษย์พูดเลย

    เมื่อเห็นว่าขุดเฟตไม่ขึ้น ซาตานก็ถอนหายใจแล้วจ้องอาธีน่าอย่างสงสัย เมื่อเห็นเทพสาวทำทีไม่สนใจด้วยแล้ว เขาก็ยิ่งเซ็งจนเข้าขั้นโมโห

    อย่าโมโหไปเลยท่านซาตาน เขาเป็นมนุษย์ที่ไม่ชอบสิ่งที่วุ่นวาย แถมบรรยากาศรอบๆนี้ก็เงียบสงบพอดีด้วยซิอาธีน่าอธิบายถึงสิ่งที่เฟตเป็น ทำให้คนที่ถูกกล่าวถึงยกมือเห็นด้วยจากนั้นก็ทิ้งมือลงนอนต่อ

    บรรยากาศโดยรอบถือว่าร่มรื่นจริงๆในสายตาเฟต ไม่ว่าจะเป็นป่าสูงที่ข้างล่างไม่รก เลยมาเป็นธารน้ำไหล ถึงฝั่งตรงข้ามจะเป็นป่าไฟ แต่เสียงก็ถูกเสียงน้ำตกเล็กๆข้องธารน้ำดังกลบอยู่ดี เมื่อบวกเข้าไปกับการต่อสู้กว่าชั่วโมงที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ทำให้เขาต้องการเก็บเกี่ยวบรรยากาศดีๆนี้เอาไว้

    หลังจากได้ยินคำอธิบายและเห็นท่าทางของคนที่ถูกกล่าวถึงแล้ว ซาตานก็นิ่งเงียบไปแบบไม่พูดอะไร

    แต่คนที่เป็นจ้าวแห่งโทสะแบบซาตานหรือจะทนไหว เมื่อความอดทนอันน้อยนิดหมดลงไป ชายร่างยักษ์ก็เดินมาหิ้วเฟตขึ้นบ่าแล้วเดินลิ่วๆจะเข้าป่าเพลิงไป แต่ติดที่อาธีน่าชี้นิ้วไปให้เดินเลียบธารน้ำไป ทำให้ซาตานต้องไปทางนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขากับอาธีน่าติดสัญญาติดตามเฟตกันคนละครึ่ง

    ในตอนที่ซาตานออกเดินทาง อาธีน่าก็หายตัวมานั่งอยู่บนตัวของเฟตโดยไม่ให้ใครรู้ตัว

    ส่วนชายหนุ่มที่ถูกหิ้วเป็นสิ่งของและกลายเป็นสิ่งของจริงๆก็ไม่ได้พูดอะไร การได้นอนบนพื้นที่แปลกใหม่ก็ถือเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งก็แล้วกัน

     

    ขณะคนแปลกๆเดินทางเลียบริมธารน้ำมาประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มผู้เล่นที่หนีความวุ่นวายภายในเมืองมาตั้งเต๊นอยู่ข้างนอกฝั่งตะวันออกของเมืองเริ่มต้นเป็นจำนวนมาก แค่มองจากสายตาก็คาดว่ามีไม่ต่ำกว่าหมื่นแล้ว

    ยังดีที่พื้นที่ฝั่งตะวันออกส่วนใหญ่เป็นที่โล่งกว้างและมีอสูรระดับต่ำอย่างกระต่ายน้อยน่ารักอยู่ จึงไม่แปลกอะไรที่ผู้เล่นและเจ้าหน้าส่วนใหญ่จะเลือกมาอยู่ที่จุดๆนี้กัน

    แต่ทันทีที่กลุ่มคนสุดแปลกเดินโผล่พ้นชายป่ามา พวกเขาก็ถูกจับตามองทันที ไม่ว่าจะหญิงสาวหน้าตาสวยหมดจนจดงามจนผู้เล่นเผ่าเทพต้องอาย ชายร่างใหญ่ความสูง 2 เมตร ทรงผมกวนบาทาอย่างไม่มีทางเลือก หรือกระทั่งชายในชุดสูทแบบเจ้าหน้าที่แต่ทว่ามีผมสีขาวแบบผู้เล่นเผ่ามาร ก็ล้วนเรียกสายตาได้เป็นอย่างดี

    อาธีน่า ไม่เป็นอะไรจริงๆเรอะซาตานกระซิบถาม เขาไม่กลัวผู้เล่นพวกนี้หรอก แต่กลัวตนจะเผลอลงมือโต้ตอบจนล้างบาง ในกรณีที่ผู้เล่นพวกนี้โจมตีเข้ามา

    สำหรับเรากับท่านนั้นไม่แน่ เพราะพวกเราไม่มีชื่อในระบบของมนุษย์ แต่สำหรับชายคนนี้คงไม่เป็นอะไร เพราะเขาไม่ใช่เผ่ามารจริงๆอาธีน่าตอบยิ้มๆไม่เหมือนกับที่พูด แต่แค่นั้นก็ทำให้ซาตานมั่นใจขึ้นมาได้ เมื่ออาธีน่ามั่นใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เขาก็ย่อมมั่นใจในสิ่งนั้นได้เช่นกัน เพราะเทพทุกมุมโลกล้วนรู้ดีว่า เทพีองนี้มีสติปัญญาอ่านการไกลแค่ไหน

    ซึ่งดูเหมือนจะเป็นอย่างที่อาธีน่าว่าจริงๆ เมื่อซาตานเห็นรอบๆตัวมีแต่คนมุงดูเหมือนช่วยกันตรวจสอบอะไรบางอย่างกับเฟต เมื่อไม่พบว่าเป็นเผ่ามารก็ละความสนใจไป แม้จะยังสงสัยว่าทำไม 2 คนนี้ระบบถึงบอกว่าตรวจสอบไม่ได้ แต่ก็คาดไว้ว่าน่าจะเป็นผู้เล่นระดับสูงมาก จึงไม่กล้าจะเข้าไปถามซักคน ว่าทำไมถึงพาศพกลับมาด้วย

    หลังเดินตัดทุ่งมาจนถึงจุดพื้นที่โล่งแล้ว ซาตานก็โยนเฟตลงกับพื้นจนดังแอ๊ก เพราะชายหนุ่มดันหลับไปกับไหล่เขาซะได้ ส่วนอาธีน่าก็ไหวตัวทันหลบมานั่งพักอยู่ข้างต้นไม้เสียก่อน

    ถึงไหนแล้วเนี่ยเฟตถามขณะมองฟ้าอย่างเหม่อลอย จากนั้นก็หันไปมองสาวสวยที่นั่งอยู่บนตัวเขามา เป็นเชิงว่าผมถามคุณนั่นล่ะ

    จุดที่คุณต้องการ ล่ะมั้งแม้จะกล่าวเหมือนลังเล แต่ใบหน้าของหญิงสาวยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มอยู่

    เฟตกระพริบตามองอาธีน่าด้วยความสงสัย ทำไมเธอถึงรู้ว่าเขาจะไปไหน แต่เมื่อเห็นว่าคิดไปก็เท่านั้นก็เลยละความสนใจหันไปมองรอบๆตัว ในทีแรกเฟตตะลึงกับจำนวนคนที่ตนเห็น แต่ภายใน 1 วิต่อมาก็หายตะลึง เพราะเขาเป็นคนไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว

    สายตาของเฟตกวาดมองไปรอบตัวเรื่อยๆ เมื่อสังเกตเห็นว่าคนรอบตัวเว้นระยะห่างจากจุดที่เขาอยู่ไปหลายสิบเมตรก็เลยหันไปมองสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ตรงหน้า ถ้าเฟตอ่านป้ายที่ติดข้างหน้าไม่ผิด นั่นอ่านว่าสถานที่ของเจ้าหน้าที่ ควรเว้นระยะห่างเอาไว้ด้วยเพื่อความสงบ

    เมื่ออ่านเจอเช่นนั้นเฟตก็กะว่าจะลุกขึ้นเพื่อย้ายที่ แต่ติดที่มีมือใหญ่ๆกดเอาไว้ พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นซาตานที่กดไหล่เขาไว้พร้อมกับรอยยิ้มที่ชวนขนลุก

    ยังไม่ทันที่เฟตจะได้ถามว่าทำไม ประตูเต๊นสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ตรงหน้าก็เปิดออกมาพร้อมกับชายหนุ่มที่สุดจะคุ้นเคยในชุดสูทแบบเดียวกับเฟต

    อ่ะชายที่พึ่งออกมาร้องเบาๆจากนั้นก็ปิดประตูลงไปเหมือนกับไม่มั่นใจว่าตนมาถูกที่หรือไม่ จากนั้นก็เปิดออกอีกครั้งด้วยชายคนเดิม

    ไม่ได้เปิดมาผิดที่แหะ แล้วทำไมถึงเจอ 2 เทพอสูรคลาสเอสได้ในเมืองเริ่มต้นล่ะเนี่ยชายคนนี้พึมพำเบาๆ จากนั้นก็หันมามองเฟตแล้วร้องอุทานเบาๆอีกครั้ง ต่างกับเฟตที่ต้องจ้องแล้วจ้องอีก จนต้องใช้เวลากว่า 5 วินาทีในการดึงข้อมูลจากระบบกลาง (สมองออกมาคำนวณดู

    พี่อิสไม่ใช่เหรอนั่นเหตุที่เฟตจำอิสได้ นั้นเป็นเพราะว่าพึ่งห่างกันมาได้ไม่นาน บวกกับมีเหตุการณ์ที่จำฝังใจได้ ทำให้เขาไม่ลืมชายคนนี้ แล้วอีกอย่าง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใบหน้าได้ จึงทำให้เฟตดึงข้อมูลเก่ามาได้หมด

    ส่วนอิสที่จำเฟตได้ก็เป็นเพราะพึ่งเจอกันไม่นาน แถมชายหนุ่มก็ไม่เปลี่ยนแปลงใบหน้าด้วย ถึงจะแปลกไปเล็กน้อยเพราะเป็นระบบของเกมแต่ก็ยังจำได้ในทันทีที่เห็น

    อ้าว คุณเฟตอิสกล่าวยิ้มๆ เหตุที่เขาต้องเรียกอย่างเหินห่างก็เป็นเพราะว่า เพื่อไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นมองว่าสนิทกันจนเกินไปนั่นเอง

    ยังไม่ทันที่เฟตจะได้คุยอะไรกัน ซาตานกับอาธีน่าก็หรี่ตรงเข้าไปหาอิส ส่วนชายหนุ่มที่ถูกตรงเข้าไปหาก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว เนื่องจากชายหญิงคู่นี้ถือเป็นตัวอันตรายอย่างมาก เพราะชอบก่อกวนเจ้าหน้าที่จนเป็นที่เลื่องลือ ถึงจริงๆแล้วจะเป็นเทพอสูรทุกๆตนก็เถอะ

    ขอคุยด้วยได้มั้ยซาตานกล่าวกับอิสทันทีที่เมื่อเข้าประชิด ทำให้อิสต้องพยักหน้าพร้อมกับลอบถอนหายใจ จากนั้นก็พา 2 อสูรเข้าเต็นเพื่อที่จะได้คุยกันอย่างเป็นการส่วนตัว ไม่ให้ผู้เล่นได้ยินถึงสิ่งที่อสูรพวกนี้เรียกร้อง

    เฟตกระพริบตางงๆ ตกลงแล้วใครเป็นผู้เล่นกันแน่เนี่ย แต่เมื่อเห็นว่ายังไงซะก็ไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่แล้ว เฟตจึงเลี่ยงจากเต๊นเดินไปทางที่ว่างๆพักผ่อนหย่อนใจ จนกระทั่งเห็นว่าปลอดคนก็ปล่อยอสูรเก่าและใหม่ออกมาพร้อมกัน

    อืม พลังฟื้นตัวมามากแล้วนี่อนาตาเซียกล่าวก่อน ถ้าเฟตปล่อยเธอออกมาได้โดยไม่มีอาการเหนื่อย แสดงว่าพลังแห่งความตายฟื้นมาถึงจุดอิ่มตัวในการอัญเชิญแล้ว

    ก็นะ ได้นอนตั้งหลายชั่วโมงนี่เฟตตอบยิ้มๆ จากนั้นก็หันไปมองจาเนียกับเอลฟ์อีก 4 ตัวที่ก้มหน้าอยู่

    ไม่ต้องกังวลอะไรไปหรอก ผมไม่โทษในสิ่งที่เกิดขึ้นหรอก ถ้าเป็นผม ผมอาจจะออกไปลุยโดยไม่มีแผนจนต้องตายกันหมดนั่นเลยก็ได้ ต้องขอบคุณจาเนียด้วยซ้ำนะเฟตลูบหัวปลอบเอลฟ์สาว สิ่งที่เขาเคยคิด จาเนียก็ต้องคิดด้วยเป็นแน่

    เมื่อปัญหาภายในใจถูกขจัดไปด้วยเจ้านายตัวเอง เอลฟ์สาวก็เงยหน้ามายิ้มให้ชายหนุ่มอย่างโล่งใจ แต่ทว่า

    เฮ้ย นั่นเฟตนี่เป็นเสียงเรียกที่คุ้นหู เมื่อหันไปมองเห็นชายตัวดำหัวโล้นเฟตก็ต้องดึงข้อมูลจากส่วนกลางอีกครั้ง แต่รอบนี้ต้องใช้เวลาหน่อย เพราะไม่ได้เจอกันนานเกินไป

    เถ้าแก่ร้านประดิษฐ์เฟตอุทานเมื่อคิดออก ซึ่งคนที่เรียกก็ยิ้มออกมาได้ จากนี้ไปจะได้เริ่มแผนการสุดเพอร์เฟ็กต์เสียที

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×