ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Proxy War Online (สงครามแห่งอำนาจ)

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 15 การล่าชื่อเสียงกับเฟต

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.7K
      47
      14 ก.ย. 56

    งั้นฉันล่วงหน้ากลับไปก่อนเลยแล้วกัน ถ้านายเสร็จธุระที่นี่เมื่อไหร่ก็ตามไปนะชิออนกล่าวลากับเฟต หลังจากเฟตบอกความประสงค์ว่าจะหาซื้อชุดให้อนาตาเซียอสูรสาวของเขาเสียก่อน เพราะคงจะไม่ดีแน่ถ้าจะให้เธอเดินทางไปด้วยผ้าคลุมผืนเดียวส่วนท่องล่างเปิดโชว์พาวเวอร์

    ครับ ขอให้ไปทันและโชคดีนะครับเฟตกล่าวอำลาเช่นกัน ชิออนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกระโดดขึ้นม้าควบออกจากเมืองไปอย่างรวดเร็ว

    ม้าที่ชิออนโดยสาร เป็นม้าที่ถอดออกมาจากตัวรถม้าที่ได้มาจากผู้ใหญ่บ้านเขตติดชายแดน

    หลังจากยืนส่งจนเห็นหลังชิออนไกลลิบแล้ว เฟตก็หันมามองคนใกล้ตัว ที่ยังไม่สนใจอะไรอื่นนอกจากดูดเลือดที่แขนเขาเล่น

    จะเอาอีกกี่ลิตรดีครับแม้จะรู้ว่าเธอต้องการเลือดไปเพื่อที่จะเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายให้อุ่นขึ้น แต่การที่เธอใช้ร่างมนุษย์หญิงสาวที่สวย (แม้จะอยู่ในผ้าคลุมดูดเลือดเขามาตลอดไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ทำให้เขาเกิดคำถามในใจ ว่าเธอเห็นเขาเป็นอาหารเคี้ยวเล่นแบบเพชรดิกรีหรือเป็นเจ้านายตามที่เธอเรียกกันแน่

    งืมอนาตาเซียเงยหน้ามองค้อนด้วยสายตาเฉยชา จากนั้นก็ก้มลงไปดูดเลือดต่อแบบไม่สนใจคำถามหรือคำตัดพ้อของเจ้านาย (ที่เธอเรียก) ทำให้เฟตต้องถอนหายใจอย่างเซ็งๆ

    จาเนีย พอจะรู้ว่าตรงไหนมีร้านขายชุดบ้างมั้ยครับเมื่อเห็นว่าคนในอ้อมแขนคุยไม่รู้เรื่อง จึงหันไปถามหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ และจ้องมองอนาตาเซียด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ

    ขี้โกง อ่ะ ไม่ใช่ ว่าอะไรนะคะจาเนียย้อนถามเฟตกลับคืน เธอไม่ได้ฟังสิ่งที่เฟตถาม

    ก็พอจะทราบอยู่นะคะ แต่ในเมืองนี้มีน้อยกว่าเมืองที่จากมาพอสมควรนะคะเมื่อเฟตทวนคำถามอีกรอบจาเนียจึงตอบออกมาได้

    งั้นนำทางเลยได้มั้ยครับเฟตพยักหน้าขอความช่วยเหลือ ขอแค่มีคนนำทาง เขาก็ไม่ต้องหลงทางอยู่ภายในเมืองอีกต่อไปแล้ว

    เมื่อเฟตขอร้องเช่นนี้จาเนียก็ไม่ขัดศรัทธา จึงเดินนำไปยังจุดหมายอย่างรวดเร็ว

    ขณะที่จาเนียเดินนำ เฟตก็สังเกตคนรอบข้างไปด้วย เมื่อเห็นผู้เล่นเหล่านี้จ้องมาที่จาเนียตาเป็นมัน

    อาจเป็นเพราะความสวยยามต้องแสงยาวเช้าของจาเนียก็เป็นได้ที่ทำให้เธอดูสวยเป็นประกายกว่าปกติ หรือถ้าเดาผิดก็อาจเป็นเพราะว่าเธอเป็นคนที่แปลกคนเดียวภายในเมืองก็ได้ เพราะเท่าที่เขาจำได้ไม่ผิด อสูรที่มีชื่อว่าเอล (เอลฟ์) อะไรสักอย่าง ไม่ได้หาเจอกันได้ง่ายๆ โดยในเมืองที่ไร้อารยะธรรม เบบเมืองนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

    แต่เฟตกลับไม่ได้ดูตัวเอง ตัวเขาก็ตกเป็นเป้าสายตาเช่นอสูรของเขา เพราะข่าวสารที่วิ่งอยู่ภายในเมืองแบดนิวตอนนี้มีแต่ชื่อของเขาและจาเนียเต็มไปหมด

    ซึ่งมันมีผลที่ตามมาแบบเป็นลูกโซ่ ผู้เล่นหลายๆคนที่อยากจะดังต่างมุ่งเป้ามาที่เอลฟ์จาเนียและเฟตเป็นเป้าหมายในการเพิ่มชื่อเสียง

    การเพิ่มชื่อเสียงของผู้เล่น สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดเท่าที่มีมาก็คือ การล้มผู้ที่เป็นข่าวแบบเฟต

    เช่นในตอนนี้ กลุ่มของเฟตถูกกลุ่มผู้เล่นกลุ่มหนึ่ง ซึ่งดูจากหน้าตาที่บ่งบอกยี่ห้อว่า ข้า อาชีพโจรนะหยุดอยู่ที่หน้าร้านเหล้าอะไรสักอย่าง

    นี่ น้องสาว ถ้าน้องสาวอยู่ที่นี่ ไอ้คนที่เป็นแฟนน้องก็คงอยู่ด้วยสินะ หรือจะเป็นคนที่คลุมหัวถือของในมือนั่น

    เฟตปรายตามองคนกลุ่มนี้สักพักก็หันไปมองที่ร้านข้างทาง เขาพอจะวินิจฉัยได้เลยว่า กลุ่มผู้เล่นกลุ่มนี้คงจะเมาแน่นอน เพราะดูท่าทางยังเอาตัวไม่ค่อยอยู่เท่าไหร่ แถมยังหันไปชี้หน้าว่าเพื่อนตัวเองอีก

    หลังจากเพื่อนหรือพี่ตบหัวจนจำกันได้แล้ว ชายคนนี้ก็ชี้มือมาที่เฟตอีกครั้งโดยร้องถามจาเนียด้วยคำถามเดิม

    ขอโทษนะคะ ใครเป็นแฟนจาเนียกันคะจาเนียเอียงคอถาม เธอไม่เห็นจะตอบรับใครเป็นแฟนเลย แล้วคนกลุ่มนี้มาหาว่าเธอมีแฟนแล้วได้ยังไง แถมแฟนคนนั้นยังเป็นผู้มีพระคุณอย่างเฟตอีก

    แต่คำปฏิเสธของจาเนียไม่ได้เข้าหูผู้เล่นกลุ่มนี้เลย เพราะพวกเขาเชื่อตามข่าวที่ได้ว่า ว่าเจอเอลฟ์ในเมืองแบดนิวตรงไหน เพื่อนของเอลฟ์ตนนั้นก็จะอยู่แถวนั้นด้วย แล้วตอนนี้จาเนียเดินนำกลุ่มของเฟตอยู่ด้วย จึงไม่มีใครสนใจคำแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น

    น้องชาย พี่ขอฆ่าแกล้างชื่อเสียงหน่อยได้ป่ะวะ พวกพี่จะได้---ชายคนเดิมร้องถามเฟต จากนั้นก็พูดอะไรที่มันยืดเยื้อและยาวมากๆ ซึ่งเฟตไม่ได้สนใจฟังตั้งแต่เรียกเขาสลับระหว่างแกกับน้องชายแล้ว

    ชายคนเดิมยังพูดแบบต่อยหอย ทำให้เฟตต้องชิงพูดขึ้นมาก่อน

    ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนได้มั้ย เช้านี้มีโปรแกรมต้องพาคนเที่ยวหลายที่

    คำพูดของเฟตทำให้กลุ่มผู้เล่นที่หวังในชื่อเสียงหันไปมองกันเล็กน้อย แม้แต่จาเนียยังหันมามองเลย คนพวกนี้ประกาศจุดประสงค์ว่าจะมาจัดการเฟตเพื่อเพิ่มชื่อเสียงให้ตัวเองแล้วแท้ๆ แต่เฟตกลับบอกว่าไม่มีธุระซะงั้น

    ก็ได้ พูดแบบนี้แสดงว่าแกมั่นใจในชื่อเสียงที่สร้างชื่อของแกมากสินะ พวกเรา จัดการผู้เล่นกลุ่มนี้มั่นใจว่าเฟตเชื่อถือในชื่อของตัวจนไม่เห็นหัวพวกเขาที่ไร้ชื่อเสียง จึงผลักไสกันออกไปแบบนี้ 

    เฟตพยักหน้าให้อย่างงงๆ ชื่อเสียงอะไรเขาไม่เห็นรู้ไม่เห็นสน เขาแค่จะพาคนในอ้อมแขนไปหาชุดใส่เท่านั้นเอง เพราะถ้าให้เขาอุ้มเธอไว้นานๆมีหวังเลือดของหมดตัวแน่ๆ

    ท่าทางร้ายๆของผู้เล่นตรงหน้าที่แสดงต่อเจ้านาย ทำให้จาเนียดึงอาวุธของตัวเองออกมารับมือ เพราะเจ้านายของเธอมือไม่ว่างพอที่จะรับมือคนเหล่านี้เป็นแน่

    เมื่อเห็นจาเนียเตรียมรับมือ กลุ่มผู้เล่นก็มั่นใจทันทีว่าคนข้างหลังเป็นคนที่อยู่ในข่าวแน่ๆ จึงดึงพลังออกมาเตรียมจู่โจมแบบหวังให้ตายภายในทันที

    โดยไม่สนใจคมอาวุธหรือท่าทางร้ายๆของผู้เล่นตรงหน้า เฟตกลับร้องบอกจาเนียด้วยท่าทางเฉยชา

    ไปกันเถอะครับจาเนีย เรามีโปรแกรมต้องตามคุณชิออนไปอีกไกลนะ

    เมื่อถูกเมิน อารมณ์ของคนเมาก็เปลี่ยนเป็นโกรธทันที จากนั้นก็กระโดดสะสมพลังเตรียมจะใช้สกิลสังหารเฟตทันที

    แต่พริบตาที่ชายคนนั้นสะสมพลังได้ที่ ลูกธนูนับสิบก็ปักทิ่มไปที่ชายแขนเสื้อจนไปถูกแม๊กค์ติดอยู่กับกำแพงร้านเหล้า คล้ายกับกลายเป็นโลโก้ประจำร้านเหล้าไปโดยปริยาย

    สงสัยเพราะยังไม่ได้ประกาศใช้กฎอย่างเป็นทางการซินะ คนในเมืองถึงยังกล้าทำอะไรห่ามๆกลางเมืองแบบนี้เป็นเสียงบ่นของหญิงคนหนึ่ง แม้จะไม่หันไปมองแต่เฟตก็เดาได้ว่าคนที่พูดอะไรทำนองนี้ต้องเป็นคนที่เขารู้จักอย่างแน่นอน 

    หญิงสาวผมดำยาวชุดสีขาว ในมือถือธนูที่พึ่งลดลงจากท่าเตรียมยิง เธอหันไปมองจาเนียเล็กน้อยก็หันมามองคนที่คลุมหัวแต่ใส่ชุดสูทซึ่งก็คือเป็นรายต่อมา

    เจอท่านพอดี ข้ามีเรื่องจะคุยด้วยสักเล็กน้อย ได้มั้ยหญิงสาวที่เฟตแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองเองเอ่ยขอด้วยท่าทางอ่อนน้อม เธอถูกเฟตช่วยไว้เยอะมาก มากเสียจนไม่รู้ว่าควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรต่อชายผู้นี้

    เฟตชี้นิ้วมาที่มือตัวเอง จากนั้นก็หันมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่พบใครอื่นนอกจากตัวเองก็เอ่ยถาม ผมน่ะเหรอ

    หญิงสาวพยักหน้าให้ว่าตามนั้น มีอยู่คนเดียวที่ยืนกลางถนนตอนนี้ ไม่น่าจะถาม

    เฮ้ย แกเป็นใครวะผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนเป็นโลโก้ร้านคำรามอย่างโมโห หลังจากถูกใครไม่รู้จับติดกับร้านเหล้าสุดที่รักแบบนี้ แม้เขาจะชอบกินเหล้าแต่ไม่จำเป็นต้องกลายเป็นตัวแทนยี่ห้อร้านเหล้านี้เลย

    เมื่อถูกถามหญิงสาวผมยาวกลับนิ่งเงียบไปตอบ เธอหันไปมองเฟตเล็กน้อย ถ้าพูดกันจริงๆเฟตเป็นคนเพียงคนเดียวที่รู้ว่าเธอได้เป็นเจ้าเมืองแล้ว ส่วนคนอื่นๆอาจรู้หรือไม่รู้ ก็ไม่ทราบได้ เพราะในวันที่ประชุมต่างพากันนั่งหน้าดำคล่ำเครียดจนไม่รู้ว่าฟังที่เฟตประกาศหรือไม่

    ส่วนเฟตก็สนใจเช่นกัน ตั้งแต่เมื่อวานตอนบ่ายมา ทางการยังไม่ได้ประกาศให้ใครได้รับรู้ถึงเจ้าเมืองคนใหม่อีกเหรอ คนพวกนี้ถึงได้ทำกิริยามารยาทที่งดงามจนหมาเรียกพี่แบบนี้

    ไม่ตอบ งั้นก็แสดงมาช่วยกันเพราะเป็นพวกเดียวกัน พวกเราลุยแมร้งเลย ต่อให้มันยิงได้ทีละหลายนัด แต่ตูไม่เชื่อหรอกว่าคน 20 คน จะเอาคน 3 คนไม่อยู่ว่าแล้วก็กระชากตัวออกมาจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ย แต่เขาไม่สนใจอะไรอื่นนอกจากชื่อเสียงอยู่แล้ว จึงคว้าดาบตนเองแล้ววิ่งเข้าหาอีกครั้ง

    งั้นเดี๋ยวค่อยไปคุยกันที่จุดหมายของผมนะ ตอนนี้ขอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตให้ตัวเองก่อนเฟตพยักหน้าให้กับเจ้าเมืองสาวที่ตนแต่งตั้งเอง จากนั้นก็ใช้คำสั่งเรียกอาวุธออกมา

    ทันทีที่เฟตเรียกสกิลอาวุธออกมาสมาธิก็ตั้งมั่นตามที่อนาตาเซียเคยบอกไว้ เพื่อกำหนดอาวุธที่จะออกมา

    ผลลับที่ออกมาจึงดีอย่างที่อนาตาเซียบอก ดาบที่เขาดูดกลืนไว้ออกมาตามที่ใจคิดกลางอากาศ

    ในตอนที่ดาบปรากฏตัวออกมา ผู้เล่นที่ต้องการชื่อเสี่ยงต่างพากันหยุดแล้ว เพราะสำหรับคนที่เรียกอาวุธออกมาได้เอง นั่นหมายความว่าคนผู้นั้นเป็นมืออาชีพและอาวุธก็มีระดับชั้นที่สูงกว่าอาวุธพวกเขา ที่อย่างดีที่สุดก็ระดับ 3 - 4 ที่ได้มาจากเกร็ดอสูร

    เมื่อได้ดาบมาอยู่ในมือข้างที่ไม่ประคองอนาตาเซียแล้ว เฟตก็ขยับดาบเพื่อกวัดแกว่งความข้องตัวเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าตนไม่ถนัดก็โยนทิ้งดาบไปทั้ง 2 เล่ม จากนั้นก็หยิบอาวุธที่อยู่ในเสื้อกั๊กออกมา ทันทีที่มือแตะด้ามปืน เฟตก็พยักหน้าให้กับตัวเองอย่างพึงพอใจ อาวุธนี้ล่ะคือของจริงสำหรับเขา

    หึ อาวุธดีไม่ใช้ ดันใช้อาวุธธรรมดาเป็นคนในอ้อมแขนเฟตกล่าวออกมา เธอไม่ใช่ไม่สนใจสิ่งใกล้ตัว แค่คนที่อยู่ใกล้ตัวต้องน่าสนใจเท่านั้นเป็นพอ

    เฟตไม่สนใจคำกล่าวของอนาตาเซีย เขาใช้ฟันกัดปืนไว้และใช้มือข้างที่พึ่งว่างล่วงหยิบกระสุนออกมา จากนั้นก็ทำการบรรจุลงปืนด้วยแทคติกส่วนบุคคล

    เมื่อทุกอย่างพร้อม เฟตก็หันไปมองกลุ่มผู้เล่นที่ต้องการชื่อเสียง ผู้เล่นกลุ่มนี้ต่างหันไปมองกันอย่างงงๆ อาวุธดีๆเฟตดันไม่ใช้ หาใช้อาวุธที่ไร้ค่าอย่างปืนซะงั้น

    ปืนเป็นอาวุธที่ไม่มีพลังในตัวเองและใช้พลังร่วมไม่ได้ แต่ข้อดีเพียงอย่างเดียวของมันสำหรับเฟตก็คือ มันเป็นของที่ถนัดและมีระยะหวังผลที่ค่อนข้างไกลกว่าดาบ เฟตจึงเปิดฉากโจมตีก่อนแบบไม่สนใจว่าฝ่ายตรงข้ามจะด่าแม่หรือไม่ เพราะอย่างน้อยๆจำนวนคนของเขาก็น้อยกว่าฝ่ายตรงข้ามล่ะนะ

    เมื่อเห็นเฟตลุย เจ้าเมืองก็ลุยบ้าง ด้วยการหยิบลูกธนูออกมาพาดและเล็งไปทางคนที่ถูกเฟตยิงเฉี่ยวให้เสียวหู เมื่อเห็นใครที่ตั้งตัวทันด้วยการใช้อาวุธระยะไกลอย่างธนูเธอก็จะช่วยป้องกันไม่ให้คนพวกนั้นได้ใช้ถนัด

    แม้จะลุยตลอดแต่มือข้างที่อุ้มอนาตาเซียกลับไม่ขยับไปช่วยเหลือ แม้จะเปลี่ยนกระสุนเฟตก็ใช้มือเพียงข้างเดียว โดยไม่ขอให้อนาตาเซียลง นั่นทำให้อนาตาเซียต้องมองเฟตด้วยมุมมองใหม่ๆบ้า

    แต่เฟตกลับไม่รู้ถึงความคิดของอนาตาเซีย เขาแค่รู้สึกชินและคิดแค่ว่ามือข้างที่อุ้มอนาตาเซียไม่ว่าง จึงใช้มือแค่ข้างเดียวโจมตีผู้เล่นคนอื่นก็เท่านั้นเอง

     

    ร้านขายชุดของเมืองแบดนิว

    หลังจากพวกเฟตทำการข่มขวัญผู้เล่นขี้เมาจนหนีหายไปจนหมดแล้ว พวกเขาก็มุ่งเป้ามาที่ร้านขายชุดแห่งนี้ตามที่เฟตตั้งเป้าบอกเอาไว้

    ปัญหาแรก คือไม่รู้จะหาเจ้าหน้าที่จากที่ไหนเหรอครับ เอ๋.... อันนี้ผมก็ไม่ค่อยจะรู้เหมือนกันแหะ พึ่งเล่นได้ไม่ถึง 2 วันเลยเฟตเกาหัวตอบ หลังจากถูกตั้งคำถามว่าจะหาเจ้าหน้าที่ GM ที่เฟตว่ามาจากไหน เพราะเมืองๆนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่พวกนี้นอกจาก NPC เหมือนพวกเขา

    GM สำหรับเหล่า NPC นั้น พวกเขาถือว่าคนเหล่านี้คือคนที่มีสิ่งที่วิเศษต่างจากผู้เล่นทั่วไปมาก แม้พวกเขาเหล่านั้นจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับในเกมเท่าไหร่ แต่พวกเขากลับมอบสิทธินี้ให้แบบไม่รู้ความหมาย

    เมื่อเฟตทวนคำถามและตอบออกมา หญิงสาวเจ้าเมืองของเฟตก็รู้สึกหนักใจ เพราะคนเพียงคนเดียวที่ตนจะปรึกษาได้ก็มีแค่เฟตซึ่งช่วยเหลือเธอมาตั้งแต่ต้น

    นี่แก พวกข้าหาชุดเรียบร้อยแล้วนะ เอาไงต่ออนาตาเซียถามแทรกบรรยากาศที่เคร่งเครียดของเฟตและเจ้าเมืองสาว เธอกับจาเนียถูกสั่งให้หาชุดที่เข้าท่าเพื่อเปลี่ยน ซึ่งตอนนี้ก็ได้มาแล้ว

    เปลี่ยนที่ห้องนั้นเลยครับเจ้าหน้าที่หนุ่มที่อยู่แถวนั้นชี้นิ้วไปที่ห้องลองชุด แม้เขาจะแปลกใจว่าทำไมวันนี้ลูกค้าถึงมีแต่พวกแปลกๆและต่างเผ่าพันธุ์เยอะก็เถอะ

    อนาตาเซียที่ถูกบอกให้ไปใช้ห้องเปลี่ยนชุดไม่สนใจ เธอไม่เคยเชื่อใครยกเว้นเจ้านายคนแรกแบบเฟตเท่านั้น จึงยืนจ้องเฟตปล่อยให้เสียงอี่นๆทะลุหูไปเหมือนเดิม

    เปลี่ยนที่ห้องนั้นล่ะครับ เปลี่ยนแล้วเดี๋ยวเราจะได้ไปกันต่อเฟตพยักหน้าบอกตามที่พนักงานบอก ทำให้อนาตาเซียเดินเข้าห้องเปลี่ยนชุดไป

    08.05 น.

    อนาตาเซียยังไม่ออกมา ทำให้เฟตต้องหันไปมองที่ห้องชุดนั้น

    08.15 น.

    ห้องเปลี่ยนชุดเริ่มมีเสียงเสื้อผ้าฉีกขาด ตามมาด้วยเสียงบ่นอะไรเบาๆ

    08.25 น.

    จากเสียงบ่นกลายเป็นเสียงของพลังอะไรบางอย่างระเบิด ทำให้เฟตต้องหันไปมองจาเนียเป็นเชิงว่าให้เธอไปดูให้ที เมื่อเขามีผู้หญิงช่วยก็ไม่ควรจะทำตัวเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวหวังเห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของหญิงสาว

    08.30 น.

    จาเนียและอนาตาเซียพากันเงียบหายไป ทำให้เฟตต้องขมวดคิ้วสงสัย ว่า 2 คนนี้ทำอะไรกันนานจัง

    08.35 นาที

    จาเนียเดินออกมาพร้อมกับชุดชั้นในตัวหนึ่ง ที่ดูจากลักษณะแล้วเหมือนจะผ่านศึกมาเยอะมาก ถึงขนาดขาดรุ่งริ่งเลยทีเดียว

    จาเนียจำวิธีใส่ไม่ได้ค่ะ เจ้านายช่วยทีนะคะเอลฟ์สาวกล่าวเสียงเบาแบบอายๆ ขนาดเฟตเคยใส่ให้ครั้งหนึ่งแล้วเธอยังจำวิธีใส่ไม่ได้เลย

    เมื่อถูกขอร้องให้ช่วย เฟตก็หันไปมองหน้าคนในร้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งหมด

    อสูรตัวเอง เจ้านายต้องรับผิดชอบสินะเมื่อคิดได้ดังนั้น เฟตก็เดินตรงดิ่งไปยังห้องชุดนั้นทันที

    เมื่อเปิดผ้ากั้นเข้ามา เขาก็พบกับหญิงสาวผมดำเปลือยหน้าตาบูดบึ่ง ซึ่งเท่าที่สังเกตดูเหมือนเธอจะมีปัญหาทั้งข้างบนข้างล่าง

    ชุดด้านบนสำหรับเธอใส่ค่อนข้างยาก เพราะที่ด้านหลังมีปีกมังกรอันเล็กๆของตัวเองอยู่ ส่วนที่ด้านล่างก็ยากยิ่งกว่า เพราะหางของเธอใหญ่เกินกว่าที่ชุดธรรมดาๆจะใส่ได้

    เฟตยืนพิจารณาหุ่นหญิงสาวตรงหน้าสักพักก็ตบมือเหมือนคิดอะไรได้

    น่ารักดีแหะ แม้จะแปลกๆตรงมีหางมีเขาก็เถอะ แต่นั่นก็คือเสน่ห์อย่างหนึ่งแบบจาเนียล่ะแต่นี่คือสิ่งที่เฟตคิดได้ เมื่อเห็นสายตาโกรธๆของอนาตาเซียก็รับคำทำเนียนเหมือนคนรู้แล้วไปช่วยหญิงสาวใส่ชุดทันที เพราะอย่างน้อยๆการที่อนาตาเซียต้องมาจมอยู่กับห้องเปลี่ยนชุดก็เป็นเพราะตัวเฟตเองที่สั่งเธอ

     

    นอกห้องลองชุด จาเนียกับเจ้าเมืองสาวยังคงนั่งรออยู่ ถ้าเฟตไม่พร้อมพวกเขาก็ไปไหนไม่ได้

    5 นาทีผ่านไป

    เดี๋ยว ตรงนั้นมันเป็นเสียงของอนาตาเซียดังออกมา ทำให้ 2 สาวหันไปมองกันอย่างแปลกใจ

    ไม่นะ มันเสียว มะมะ ไม่ จุดนั้นมันเสียงของอนาตาเซียยังคงดังออกมาเป็นระยะๆ พนักงานหนุ่มในร้านที่อยู่ด้วยต่างหันไปมองหน้ากันด้วยสายตาที่เข้าใจในความหมาย

    นี่ แกทำข้าเจ็บนะ อ่ะ ไม่นะ ไม่ใช่ตรงนั้นเสียงของอนาตาเซียดังออกมาแบบนี้อีกหลายสิบนาที จนกระทั่ง

    อนาตาเซียเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดด้วยเสื้อผ้าสีดำตามสไตล์ของเธอ แต่สิ่งที่ไม่ใช่เธอก็คือใบหน้าที่แดงเป็นลูกตำลึงสุก ตามมาด้วยเฟตที่ยิ้มแห้งๆมาแต่ไกล คล้ายคนที่ทำความผิดมหันต์เอาไว้

    เท่าไหร่ครับเฟตถามเจ้าหน้าที่หนุ่มที่จ้องมองอนาตาเซียกับเขาสลับกันไปมา

    เอ่อ รอสักครู่นะครับเจ้าหน้าที่หนุ่มกล่าวจบก็ไปตรวจสอบที่ห้องลองชุด เมื่อเห็นมีร่องรอยเสื้อผ้าฉีกขาดกับมีกองผ้าที่สุมๆกันอยู่จึงหันไปพยักหน้าให้เพื่อนด้วยรอยยิ้ม

    ไม่เป็นไรครับ ไม่คิดตังพนักงานหนุ่มกล่าวกับเฟตด้วยรอยยิ้ม คืนนี้เขาคงมีอะไรดีๆดู เพราะสิ่งที่อยู่ในร้านสามารถเรียกตรวจสอบได้ด้วยความสามารถของพนักงานประจำร้าน

    เมื่อไม่คิดตังเฟตก็ตีมืออย่างยินดี เพราะถ้าให้เขาจ่ายตังคงจะเสียไปหลายเหรียญทองเป็นแน่ เล่นทำเสื้อผ้าขาดซะขนาดนั้น

    ไปกันเถอะครับ มีเรื่องต้องไปจัดการอยู่อีกเฟตหันมากล่าวกับกลุ่มของตัวเองและเจ้าเมือง คล้อยหลังพวกเฟตออกไปกันแล้ว พวกพนักงานก็มารวมกลุ่มกันอีกครั้งเหมือนรู้ความหมายของกันและกันดี

    เมื่อตะกี๊ทำอะไรกันเหรอคะเจ้าเมืองเอ่ยถามเฟต เธอมั่นใจว่าเฟตไม่ใช่คนหื่นกามเท่าไหร่ และคงไม่กล้าทำอะไรกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นลูกครึ่งมังกรแบบอนาตาเซียแน่ๆ

    เฟตเหล่มองอนาตาเซียที่หน้าแดงแต่บึ่งสักพัก ก็หันมามองเจ้าเมืองเล็กน้อย

    คือ ผมจับโคนหางที่เป็นจุดอ่อนเธอน่ะครับ เธอเลยอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เฟตหัวเราะกล่าวแห้งๆ วิธีการใช้ชุดในแบบฉบับของเขาต้องมีจุดยึด ซึ่งโคนหางของอนาตาเซียก็เป็นหลักที่ดีเลยทีเดียว

    แต่ใครจะไปรู้ล่ะ ว่ามังกรมีจุดอ่อนที่หางกับเขากัน เขาเลยใช้กำลังบังคับจนเธอครวญครางออกมาแบบนั้น

    แต่ก็น่ารักดีแหะคำนี้เฟตพูดเบาๆกับตัวเอง ตอนที่อนาตาเซียครวญครางเล่นเอาเขาเคลิ้มไปเลยทีเดียว 

    ดูเหมือนอนาตาเซียจะได้ยิน เธอหันมามองเฟตด้วยสายตามังกรที่น่ากลัว แต่เมื่อจ้องมองมากๆเธอกลับเป็นฝ่ายที่นึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาเสียเอง หน้าจึงแดงและหันกลับไปมองทาง

    เจ้าบ้าเอ๋ย เป็นครั้งแรกของฉันเลยแท้ๆอนาตาเซียพึมพำเบาๆ แต่ก็ไม่พ้นหูที่ดีสุดๆของจาเนียกับเฟต

    แม้จะไม่เข้าใจในความหมายเท่าไหร่ แต่เฟตก็คิดว่าอนาตาเซียชอบ จึงพยักหน้าให้ เหมือนกับจะบอกว่าเดี๋ยวครั้งหน้าจะช่วยทำครั้งที่ 2,3,4 ให้อีกไม่ต้องห่วง

     

    น่านน้ำเมืองเริ่มต้น

    กองเรือขนาดใหญ่เดินทางมาจนจะถึงท่าเรือแล้ว แต่ติดที่จำนวนเรือและขนาดเยอะจนเกินไปจึงไม่สามารถเข้าเทียบได้ทันที

    เรียนท่านหัวหน้า ตอนนี้เรือกำลังพลลำแรกเข้าถึงท่าแล้ว โปรดออกคำสั่งต่อด้วยชายคนหนึ่งวิ่งมากล่าวกับชายผมทองที่ยืนมองสายน้ำอยู่ ทำให้ชายคนนี้หันมามองและตอบนิ่งๆ

    ให้พวกเขาแทรกซึมกองกำลังรอเตรียมเอาไว้ หรือพักผ่อนกันไปก่อนก็ได้ เพราะเรื่องของผมคงต้องรออีกสักพัก

    แล้วพวกเราล่ะชายอีกคนผมดำยาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สลักลายหรูเอ่ยถามแทรกขึ้นมาบ้าง ทำให้ชายผมทองต้องปรายตาไปมอง

    นายมีหน้าที่ไปตรวจสอบเรื่องในป่าเอลฟ์นั่น ว่าใครเป็นใครเหตุการณ์เป็นยังไง ส่วนทีมลูกน้องนักฆ่าของนายก็ให้เตรียมตัวเอาไว้ เดี๋ยวผมจะส่งข่าวอีกทีชายผมทองกล่าวจบก็มองทะเลต่อ

    แล้วจะเริ่มแผนการตอนไหนล่ะ จะได้เตรียมการพักผ่อนถูก ว่าจะไปกินเหล้าให้เมาหรือจะกินอาหารสายตาให้หื่นดีชายคนเดิมเอ่ยถามเซ้าซี้ ทำให้ชายผมทองต้องหันมามองเต็มๆตา และจ้องมองด้วยดวงตาสีทองที่ส่องประกายตามอารมณ์

    อาจจะพรุ่งนี้ มะรืนนี้ แค่สั่งให้เตรียมตัวไว้ตลอดเป็นพอ ส่วนแผนการก็อย่างที่เคยบอกไปตั้งแต่แรกแล้ว ว่าอย่าประกาศตัวถึงกิลด์เดม่อนของเรา มิเช่นนั้นจะเกิดการโกลาหนได้ชายคนเดิมตอบด้วยท่าทางนิ่งๆ แต่น้ำทะเลที่อยู่โดยรอบกลับสั่นรุนแรงขึ้นเหมือนกับเปลี่ยนแปลงได้ตามอารมณ์ของชายผู้นี้

    ก็ได้ๆ พวกข้าจะไม่เมาข้ามวันข้ามคืนก็ได้ แต่ฆ่าใครเล่นๆคงไม่เป็นปัญหาสินะชายคนเดิมกล่าวยิ้มๆ แต่พลังที่ชายผมทองกดทับมาทำให้เขาต้องสลายรอยยิ้มทันที

    โอเคๆ ไม่ทำอะไรที่เอิกกระเหริก แค่ทำให้เมืองปั่นป่วนเล็กๆน้อยเพื่อง่ายต่อการเข้าตีสินะชายผมดำกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง และปล่อยพลังออกมาจนเรือโคลงเคลง บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาเองก็มีพลังไม่ได้ด้อยไปกว่าชายตรงหน้าเลย

    อย่าทำให้แผนของผมและ เขา’ เสีย มิเช่นนั้นกิลด์นักฆ่าของนายอาจถูกตัดออกจากสมาคมกิลด์ทั่วโลกก็เป็นได้ชายผมทองกล่าวจบก็หันไปมองเมืองเริ่มต้นด้วยสายตาที่คาดเดาอะไรไม่ได้เหมือนเดิม ทิ้งให้ชายผมดำหันไปมองลูกน้องและพยักหน้าให้เป็นเชิงรู้กัน

     เฟตที่เดินทางออกมาจากเมืองแบดนิวได้สักพักใหญ่ๆ ตอนนี้กำลังจ้องมองดวงอาทิตย์ที่ขึ้นสูงด้วยสายตาเหม่อลอย คล้ายกับนักเดินทางหนุ่มที่หลงทางอยู่กลางทะเลทราย และเห็นพระอาทิตย์เป็นยมทูตที่น่ากลัว

    กว่าจะจัดการปัญหากับเจ้าเมืองคนนั้นได้ ใช้เวลามากกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลยแหะ อย่างนี้จะไปทันเมืองเริ่มต้นหรือเปล่านะเฟตบ่นพึมพำจากนั้นก็เดินต่อไปอย่างเหนื่อยล้า คล้ายนักเดินทางที่หาทางออกจากเขาวงกตที่เรียกว่าทะเลทรายไม่เจอ จนมีคนๆหนึ่งทนไม่ไหวกับท่าทางแบบนี้ โพล่งบ่นออกมาบ้าง

    เดินทางแค่นี้ ถึงกับเหนื่อยแล้วเหรอ แกนี่ อ่อนหัดจริงๆนะเป็นคำแดกดันของคนบางคนที่อยู่ในอ้อมแขน ทำให้เฟตก้มมองคนที่บ่นเขาด้วยสายตาเหม่อลอย

    หญิงสาวผมดำในชุดยาวสีเดียวกับเส้นผมนอนเอกเขนกอยู่ในอ้อมแขนของเขา จริงๆแล้วเฟตไม่คิดจะบ่นหรอก เพราะการแบกผู้หญิงไว้ในอ้อมแขนก็เหมือนกับการที่เขาเคยแบกของส่งเมือง (?) จึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้เลย

    แต่หญิงสาวผมดำที่ชื่อว่าอนาตาเซียคนนี้นอกจากไม่ช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องน้ำหนักแล้วกลับดูดเลือดของเขาเป็นการราน้ำตั้งแต่ออกจากเมืองแบดนิวมาเสียอีก ถ้าจะพูดกันตามจริงๆเขาควรจะตายไปตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ได้น้ำยาเพิ่มเลือดจากจาเนียสุดสวยที่คอยเฝ้าสังเกตท่าทางของเฟตและยื่นมาให้ดื่มแก้เพลียกันไม่ให้ร่วง

     “ดูดู๊ อิ่มแล้วก็หลับเมื่อกินอิ่มแล้ว คนในอ้อมแขนของเฟตก็นอนหลับได้ต่อทันที เฟตจึงทนไม่ไหวบ่นออกมาด้วยความเซ็งจับจิต นอกจากจะหาว่าเขาอ่อนแอแล้ว ยังมาเพิ่มภาระให้เขาอีก

    แต่พูดเช่นนี้ก็ดูไม่เป็นลูกผู้ชายเกินไป เฟตจึงกระชับให้คนในอ้อมแขนให้นอนได้สบายขึ้น จากนั้นก็เดินตามทางที่ถูกสร้างเป็นถนนอย่างดีต่อไป

    พักสักหน่อยมั้ยค่ะ เจ้านายจาเนียกล่าวถามอย่างเป็นห่วง เฟตที่โดดดูดเลือดตลอดมีอาการล้าเพราะการถ่ายเลือดออกไป แม้จะได้น้ำยาฟื้นเลือดที่เธอช่วยยื่นให้ แต่มันคงช่วยอะไรมากไม่ได้นอกจากไม่ให้เป็นลมไปก่อน

    ไม่ได้หรอกครับจาเนีย ผมต้องไปถึงเมืองเริ่มต้นก่อนเที่ยงตรงของโลกนี้ เพราะโลกของผม ผมจะต้องออฟไลน์ก่อนตีห้าครึ่งของทุกวันตามปกติเฟตกล่าวปฏิเสธแล้วเดินจ้ำต่อไปอย่างมีความหวังที่จะได้เห็นโอเอซิส

    จาเนียที่สังเกตอาการของเฟตมาตลอดถึงกับอึ้งค้านอะไรไม่ออก เฟตมีอาการล้าตั้งแต่ออกจากเมืองแบดนิวแล้ว แต่ชายหนุ่มคนนี้ไม่เคยบ่นถึงเรื่องของตัวเองหรือคนที่ทำให้เขาหมดกำลังเลยสักนิด แถมยังอึดทนทานตายยากคล้ายแมลงสาปอีกด้วย

    แต่แมลงสาปหนุ่มที่เป็นคนมีอาการไม่ได้คิดแบบนั้น การที่เขาเสียเลือดและฝืนตัวเองตลอด พลังอำนาจที่เขามี มักจะเพิ่มขีดจำกัดของพลังเลือดและกำลังร่างกายให้อยู่เสมอๆ เฟตเลยเลือกที่จะเพิ่มความสามารถให้ตัวเอง แม้จะตายในตอนนี้ก็ถือว่าคุ้ม ซึ่งนี่เป็นการมองการไกลในแบบของเขา

    นี่ซินะการวิวัฒนาการของแมลงสาปหนุ่มใจกล้าในโลกกว้าง การพยายามของเขาทำให้เผ่าพันธุ์ของตัวเองอยู่รอดจนถึงยุคปัจจุบันที่มนุษย์ขึ้นไปวิ่งเล่นบนดวงจันทร์ได้ (….)

     

    ถัดมาอีก 1 ชั่วโมง

    แล้วเฟตก็ทนอาการของตนเองไม่ไหว จึงนั่งแหมะอยู่ใต้ต้นไม้ข้างทางต้นหนึ่ง

    บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าฝืนเป็นคำกล่าวแดกดันของอนาตาเซีย เฟตเลยเหลือกตากลับมามองเธอเล็กน้อย จากนั้นก็ตาเหลือกมองฟ้าต่อไปแบบไม่สนใจ

    เมื่อเห็นว่ากัดต่อไปเฟตก็ไม่ตอบโต้ อนาตาเซียเลยลุกขึ้นจากตักของเฟตแล้วไปเดินเล่นฆ่าเวลา เพราะเท่าที่สังเกตอาการดูเฟตคงต้องพักอย่างน้อยๆหนึ่งชั่วโมงเพื่อปรับสภาพร่างกาย

    จาเนียที่นั่งพิงต้นไม้ดูอยู่ข้างๆไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอเลือกที่จะเป็นกำลังใจแบบห่างๆ

    เฟตที่ตาเหลือกมองฟ้าอยู่ดึงสายตากลับมาที่คนข้างตัว นี่ถ้าไม่ได้เธอเขาคงจะตายไปตั้งนานเพราะอาการเสียเลือดแล้ว เมื่อคิดได้แบบนั้นเฟตก็เอื้อมมือไปเขย่าหัวเธอตามความเคยชิน แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะอ่อนกำลังตามเฟตมากไปหน่อย หัวเธอเลยเลื่อนจากพิงต้นไม้ลงมาหนุนที่ตักเฟตพอดี

    อ่ะ!!”จาเนียที่พึ่งรู้ตัวอุทานเบาๆแล้วทำท่าจะลุก แต่เฟตกลับลูบหัวเธอทั้งๆแบบนั้นเหมือนไม่สนใจการกระทำที่ผิดพลาดนี้ ทำให้จาเนียที่นอนหนุนตักตัวแข็งค้างหน้าแดงพูดอะไรไม่ออก

    ซึ่งจริงๆแล้ว เฟตก็แข็งไปเล็กน้อยเหมือนกันตอนที่จาเนียลงมาหนุนตักเขา แต่เมื่อเขานึกย้อนทบทวนดูแล้วจำได้ว่าจาเนียจ้องมองอนาตาเซียที่เขาอุ้มอยู่ด้วยความอิจฉา แสดงว่าเธอคงอยากที่จะขึ้นมาบนตักนี้มั่ง

    เมื่อคิดได้ดังนั้นเฟตก็จัดการอุ้มเธอจากที่นอนราบกับพื้นให้มานอนหนุนอยู่บนอ้อมแขนของเขาแทน ให้เหมือนกับที่อนาตาเซียเคยนอน เพื่อให้พวกเธอหายอิจฉากัน แล้วจากนี้จะได้อยู่กันแบบสันติวิธี 

    จาเนียที่ถูกอุ้มขึ้นอ้อมกอดของเฟตมาไม่ได้พูดค้านการกระทำของเฟต เธอเอาแต่ก้มหน้างุดไม่กล้ามองหน้าเฟตที่หายใจรดต้นคอตนอยู่

    ทำไมอาการแตกต่างกันแหะ 2 คนนี้ คนหนึ่งดูชอบแต่อีกคนดูเหมือนจะเขินๆแหะเฟตเห็นอาการของจาเนียก็เอาไปเปรียบเทียบกับอนาตาเซียทันที แต่คิดไปก็เท่านั้นเฟตก็เลยเลิกคิดและนั่งมองฟ้าต่อไปอย่างเหม่อลอย

    จิตใจของเฟตคิดไปต่างๆนาๆ ตลอดเวลาที่มองท้องฟ้า เขาไม่รู้ว่าตนมีความคิดเกี่ยวกับผู้หญิงยังไงกันแน่ ถึงได้ใจดีกับเพศตรงข้ามที่ดีกับเขาขนาดนี้ 

    ดูเหมือนความคิดของเขาจะไปหยุดที่ภาพหญิงสาวคนหนึ่งที่อายุดูยังไม่มาก แต่สภาพร่างกายกลับอ่อนแอจนเขาอยากจะโอบกอดเธอไว้เหมือนกับที่โอบกอดอนาตาเซียและจาเนียแบบนี้

    หญิงสาวคนนั้นนอนนิ่งในที่นอนอันสุดแสนที่จะเก่าและเต็มไปด้วยรอยขาดวิ่น บ่งบอกถึงความยากจนของเธอผู้นี้

    จริงๆความทรงจำของเขาที่มีต่อผู้หญิงคนนี้น่าจะเลือนหายไปนานแล้ว เพราะเหตุการณ์นี้ก็ผ่านมานานจนจำแทบไม่ได้ว่าตอนไหน ถ้าเธอผู้นี้ไม่เรียกเขาว่า ลูก’ แล้วถ้าเขาไม่เรียกเธอว่า แม่’ เขาคงจะลืมมันไปหมดแล้วจริงๆ

    แต่ความทรงจำที่สุดแสนจะรันทดแบบทรหดอดทนของเฟตก็ได้ถูกตัดออกไปโดยพลัน เมื่อคนในอ้อมแขนช้อนตาสีเขียวขึ้นมามองเขา ทำให้เฟตที่จ้องมองฟ้าอย่างเหม่อลอยอยู่เลื่อนสายตามองคนที่จ้องเขา และจ้องตอบแบบไม่เขินอาย ทั้งๆที่ใบหน้าเธอกับเขาอยู่ห่างกันเพียงเสี้ยวนิ้วเดียว

    จาเนียจ้องมองเฟตสักพักก็พบว่าภายในสายตาของเจ้านายตัวเองมีความเจ็บปวดซ่อนอยู่ แม้เฟตจะดูตายด้านในหลายๆเรื่อง ไม่เอาไหนในหลายๆเวลา (ตูจะดีใจดีมั้ยเนี่ยแต่ดวงตาเขาไม่เคยซ่อนความคิดในตอนปัจจุบันเลย

    หรือจะพูดให้ฟังง่ายกว่านี้ก็คือ เฟตอยากที่จะแสดงอารมณ์ที่แท้จริง แต่เขาสื่อความหมายออกมาไม่เป็นในหลายๆรูปแบบ

    การมองฟ้าของเฟตเมื่อสักครู่นี้ก็เหมือนกัน เธอไม่รู้ว่าความคิดของเฟตเป็นยังไง แต่ความรู้สึกของเธอดันบอกว่าเจ้านายกำลังเจ็บปวดอยู่ ทำให้เธออดที่จะมองด้วยสายตาเป็นห่วงไม่ได้

    ส่วนเฟตที่จ้องตอบจาเนียกลับไม่รู้ถึงความคิดที่เป็นห่วงของจาเนียในข้อนี้ เขาเห็นเธอจ้องมองมาก็เลยจ้องตอบเฉยๆ เขาเป็นคนที่ไม่ชอบหลบตาใครเวลาทำอะไร

    ยิ่งจ้องนานๆ ใบหน้าของเฟตก็เลื่อนลงมาใกล้กับใบหน้าของจาเนียเรื่อยๆ เพราะแรงดึงดูดบางอย่างของจาเนียบวกกับความใกล้เกินห้ามใจ ริมฝีปากของเฟตจึงเลื่อนลงมาเกือบที่จะแตะกันกับริมฝีปากของจาเนียแค่เพียงเอื้อมลิ้น (?) จนกระทั่ง

    จะกัดกันเหรออนาตาเซียที่ดูอยู่นานแล้วเอ่ยถาม เธอไปเดินเล่นรอบๆจุดพักจึงมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดดี

    เมื่อได้ยินเสียงกขค.จาเนียก็ผงะตัวถอยออกไปเล็กน้อย เฟตเลยยกเลิกเป้าหมายสังหารเงยหน้ามองอนาตาเซีย

    เขาลืมมองสิ่งที่อยู่รอบๆตัวไปเลยจริงๆ ขนาดข้างหลังของอนาตาเซียมีผู้เล่นเดินกันผ่านไปมาอีกเยอะแยะเขายังไม่รู้เลย

    .....เฟตจ้องอนาตาเซียกับผู้เล่นที่จับจ้องมาสักพักก็ถอนหายใจแล้วมองฟ้าต่อ จนไม่มีใครรู้ว่าความรู้สึกจริงๆของเฟตคืออะไร

    ได้เวลาแล้วครับเฟตโพล่งออกมาเมื่อรู้เวลาจาการจ้องมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นตรงหัว

    เมื่อเฟตบอกจาเนียกับอนาตาเซียก็สลับที่กันทันที ทำให้เฟตต้องกระพริบตามองปริบๆ นี่เขามีหน้าที่แบกอนาตาเซีย ส่วนจาเนียรับหน้าที่สนับสนุนไม่ให้เขาตายในหน้าที่ใช่มั้ยเนี่ย

    แต่คิดจะบ่นไปก็เท่านั้น เฟตกระชับคนในอ้อมแขนขึ้นและลุกขึ้นเดินทันทีโดยไม่สนใจสายตาของใครที่จ้องมองและชี้มาอย่างสงสัย ว่าทำไมผู้เล่นคนนี้ถึงอุ้มหญิงสาวที่มีหางและเขาแบบอสูรผู้นี้

    หลังจากเดินทางโดยมีจาเนียคอยเป็นสปอร์นเซอร์สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ทั้งน้ำยาเพิ่มเลือดและน้ำเปล่า เฟตก็สังเกตพบว่ารอบๆด้านเริ่มมีผู้เล่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่อยู่ไกลๆจากสายตาไปก็เป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ดูไม่เล็กไม่ใหญ่เท่าไหร่

    หมู่บ้านเขตชายแดนเฟตมาหยุดอ่านที่ป้ายอันหนึ่ง ทำให้เขารู้ว่าเขามาถึงหมู่บ้านที่เขาต้องมาทำภารกิจของเมื่อวานแล้ว ถึงมันจะเลยเวลาการทำภารกิจมาหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม

    ทันทีที่เฟตเข้ามาถึงที่หมู่บ้านชายแดนแห่งนี้ เขาก็ถูกจับตามองจากคนหลายๆกลุ่มทันที

    หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตของเมืองใหญ่ 2 เมือง คือเมืองเริ่มต้นกับเมืองแบดนิว ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เมืองทั้ง 2 จะส่งผู้สืบข่าวมาประจำอยู่ที่นี่

    เหตุที่คนจำเฟตได้ก็เป็นเพราะแฟนของเขา นั่นก็คือจาเนีย อสูรเผ่าเอลฟ์คนสวยที่ใครเห็นก็ไม่มีวันลืม

    เฟตรู้ตัวตั้งแต่เข้ามาหมู่บ้านมาแล้วว่าตนถูกจ้องมอง แต่สายตาที่มองมาไม่ใช่สายตาที่มุ่งร้ายเฟตเลยไม่มีท่าทีอะไรนอกจากจะเดินผ่านหมู่บ้านนี้ไป จนกระทั่งสายตาไปหยุดที่ตึกแถวแห่งหนึ่ง ที่สภาพดูใหม่ที่สุดภายในหมู่บ้าน

    อาคารออฟไลน์เฟตอ่านได้เช่นนั้นก็ตรงดิ่งเข้าไปทันที เพราะตอนนี้เวลาของโลกนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว ถ้าจะให้เดินทางไปถึงเมืองเริ่มต้นมีหวังได้ตื่นสายแน่ๆ จึงเลือกที่จะออฟไลน์โรงแรมขาจร

    ทันทีที่เข้ามาภายในโรงแรมออฟไลน์ เฟตก็ถามหาห้องพักทันที เพื่อความหวังที่ตนจะได้ออฟไลน์

    มีเหลือแค่ 1 ห้องนะครับ ต้องเสียใจด้วยที่ไม่พอสำหรับกลุ่มของคุณพนักงานหนุ่มกล่าวจบก็ส่งสายตาไปยังหญิงสาวที่ตามเฟตและคนที่อยู่ในอ้อมแขน

    ห้องเดียวไม่มีปัญหาหรอกครับ พวกเธอปรองดองกันดีเฟตเข้าใจว่าชายคนนี้คงกลัวกลุ่มของเขาจะทะเลาะกันถ้าได้อยู่ห้องเดียวกัน จึงรีบกล่าวออกตัว

    ชายพนักงานที่ถูกเข้าใจผิดทำท่าหนักใจเล็กน้อย เขาไม่ได้บอกถึงเรื่องนั้นเสียหน่อย

    หรือห้องเล็กเหรอครับ ไม่เป็นไรครับ พวกเราเบียดๆกันได้เฟตรีบกล่าวก่อนที่พนักงานหนุ่มจะกล่าวอะไรออกมา

    เอ่อ ผมกังวลเรื่องนั้นล่ะครับ ปกติแล้วห้องออฟไลน์ห้องหนึ่งจะใช้ออฟไลน์ได้ทั้งกลุ่ม เพียงแต่กลุ่มของคุณมีผู้หญิงมากกว่าที่กฎเขากำหนดไว้ อาจมีปัญหาตามมาก็ได้นะครับชายพนักงานกล่าวออกมา

    แต่คำกล่าวของพนักงานทำให้เฟตทำหน้างงงัน แค่กลุ่มเขามีผู้หญิงมากกว่า มันจะไปผิดในกฎในข้อไหนกันเชียว

    ไม่มีปัญหาจริงๆครับ เพราะพวกเธอไม่ใช่คนธรรมดาเฟตกล่าวจบก็ส่งสายตาให้พนักงานสังเกตอนาตาเซีย กับจาเนียดีๆ

    เมื่อพนักงานหนุ่มสังเกตตามสายตาและพบว่าเป็นอสูรก็กล่าวขออภัยและยื่นกุญแจห้องให้

    หลังจากได้กุญแจห้องและชำระค่าบริการแล้ว เฟตก็ตรงดิ่งขึ้นห้องทันที เพราะเขารู้สึกหนักกับคนในอ้อมแขนมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

    ทันทีที่เปิดห้องเฟตก็เข้าใจความหมายที่พนักงานหนุ่มพยายามจะอธิบายทันที

    ห้องขนาด 6*8 สีสันภายในห้องช่างฉุดฉาดแสบตา ต่างกับโรงแรมจิ้งจกที่เขาเคยใช้ออฟไลน์อย่างกับฟ้าและเหว

    ขนาดห้องไม่ใช่ปัญหาอย่างที่เฟตบอก แต่ปัญหาจริงๆก็คือสิ่งของที่ตรงแต่งภายในห้องต่างหาก ภายในห้องแห่งนี้เต็มไปด้วยภาพสาวสวยในชุดบิกินี เกิดทำถามให้เฟตว่า ตกลงห้องนี้ใช้ห้องออฟไลน์จริงๆหรือเปล่า

    เอ่อ โรงแรมม่านรูดหรือไงฟะเนี่ยเฟตบ่นพึมพำ เพราะเขารู้สึกว่าอย่างนั้นจริงๆ เมื่อมองไปที่เตียงพบว่ามันเป็นเตียงที่มีรูปทรงแปลกประหลาด เหมาะสำหรับนอนได้หลายคนไม่เหมาะกับการออฟไลน์ แถมกลิ่นในห้องยังชวนเคลิบเคลิ้มเสียอีก

    จริงๆแล้วโรงแรมแห่งนี้เคยเป็นหอนางโลมมาก่อน พอมาถึงยุคที่ผู้เล่นเดินทางผ่านกันเยอะ เจ้าหน้าที่ของเกมที่รับหน้าที่เป็น NPC ก็จัดการเทคโอเวอร์หอนางโลมนี้ และใช้มันเพื่อเป็นอาคารออฟไลน์เพียงแห่งเดียวของหมู่บ้าน แล้วก็จัดการกวาดเงินในกระเป๋าผู้เล่นเข้ากระเป๋าตัวเอง

    เฟตที่โดนกลิ่นพวกนี้กล่อมสะบัดหัวให้ออกจากอาการมึนเมา เขาเดาไว้ว่าที่พนักงานใส่กลิ่นพวกนี้ลงในห้องคงต้องการให้ผู้ที่ออฟไลน์ได้ออฟไลน์อย่างมีความสุขแน่ๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นเฟตก็ก้าวเข้าห้องทันที

    เดี๋ยวผมจะออฟไลน์แล้วนะครับ สงสัยพวกคุณต้องกลับเข้าไปในตัวผมก่อนเฟตกล่าวหลังจากปล่อยอนาตาเซียลงแล้ว เมื่อกล่าวกับกลุ่มของตัวเองเสร็จ เฟตก็จัดการส่งข้อความบอกชิออนว่าตนคงไปเมืองนั้นไม่ทัน เจอกันตอนตื่นนอนแล้วกัน

    เอ๋ เข้าไปอยู่ในตัวเจ้านายเหรอคะ สลับกันหรือเปล่าคะเป็นเสียงจาเนียย้อนถาม ทำให้เฟตหันมามองด้วยความแปลกใจ

    เฟตไม่เป็นอะไรเพราะกลิ่นพวกนี้ ไม่ได้หมายความว่าคนที่ตามเขามาไม่เป็น

    กลิ่นที่เจ้าหน้าที่ใส่ไว้ให้เหมือนกับยามอมเมาประสาทชนิดหนึ่ง ซึ่งแต่ก่อนเคยใช้ในห่อนางโลม ในตอนแรกๆนั้นเจ้าหน้าที่เอากลิ่นนี้มาทอสอบกับหนูทดลองที่เรียกว่าผู้เล่นจำนวนหลายร้อยคน เมื่อพบว่าร้อยละเก้าสิบเก้าชื่นชอบ ก็จัดการใส่กลิ่นนี้ในห้องออฟไลน์ทุกห้องเป็นการสมนาคุณความต้องการของผู้เล่นหนุ่ม

    แต่ทว่า กลิ่นพวกนี้ก็มีข้อเสียในตัวของมันอยู่เช่นกัน ในกรณีที่สูดดมมากๆ อาจจะถึงขั้นเมาได้เลย จึงมีกฎที่ว่าไม่ให้มีชายหญิงเข้าไปในห้องๆหนึ่งเยอะ มิเช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้

    ซึ่งในกรณีของเฟตก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เมื่อจาเนียและอนาตาเซียสูดกลิ่นนี้เข้าไปมากๆจนกระทั่งหน้าเริ่มแดงเหมือนคนเมา ถ้าพวกเธอหัวเราะรวนนี่เฟตคงนึกว่าเมากัญชาไปแล้ว

    เฮ้อ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะครับชายหนุ่มรีบตัดปัญหาด้วยการเรียกทั้ง 2 กลับมา

    สิ้นเสียงเรียกของเฟต 2 สาวทำหน้ามุ่ยอย่างเห็นได้ชัด แต่เฟตไม่สนใจเขามีเวลาน้อย ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาช่วยเหลือใคร

    เฮ้อ จบปัญหาตอนนี้ ตอนออนไลน์เข้ามาจะมีปัญหาหรือเปลานะชายหนุ่มพึมพำแล้วล้มตัวลงนอนที่เตียงรูปทรงประหลาด จากนั้นก็กล่าวออฟไลน์จนร่างกายสลายเป็นแสงไป

     

    เฟตออฟไลน์ไปแล้วอ่ะฟ้าชิออนที่กำลังจะติดต่อไปหาเฟตหันมาพูดกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

    ไม่เป็นไรหรอกคะ ยังไงซะเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว แค่พวกเราก็ไหวฟ้าใสกล่าวแบบไม่ทุกข์ร้อน แล้วตักไอศกรีมกินต่อแบบไม่สนใจท่าทางของชิออน

    เฮ้อ จะไหวเหรอ ไหนว่ามีผู้เล่นมุ่งหน้ามาที่นี่เป็นจำนวนมากจนน่ากังวลว่าจะเป็นการยึดเมืองไงล่ะชิออนถาม ตามที่เขาได้ยินฟ้าใสพูดกับเพื่อนก็ประมาณนี้นี่ล่ะ

    กังวลก็ส่วนกังวลค่ะ แต่ความเป็นจริงอาจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ ในเมืองเริ่มต้นแห่งนี้มีระบบทหารอย่างกิลด์ผู้เล่นอยู่แล้ว แล้วไหนจะยังมีกิลด์ของฟ้าใสมาช่วยอีกแรง ใครที่หวังว่าจะยึดเมืองนี้คงต้องใช้กองกำลังเยอะน่าดูเลยล่ะคะ นี่ยังไม่รวมในกรณีที่ยึดเมืองได้ แต่ได้ไม่คุ้มเสียนะคะ ถ้าคิดจะยึดจริงๆอย่างที่พวกเราว่าคงต้องมีอะไรที่มันดึงดูดใจมากกว่านี้เพื่อนฟ้าใสที่นั่งข้างๆตอบแทนคนที่กินไอศกรีมอยู่ ชิออนจึงหันไปปั้นยิ้มระรื่นให้หญิงสาวนางนี้

    จ๊ะ น้องแฟร์ว่าไงพี่ชินก็ว่างั้นล่ะชิออนกล่าวเสียงหล่อ เมื่อหญิงสาวคนนี้สวยใสไม่ต่างกับแฟนตนเองเลย แถมบนใบหน้ายังประดับไปด้วยรอยยิ้มบางๆบ่งบอกถึงความเป็นคนอารมณ์ดี ซึ่งดูเข้ากับหน้าตาที่น่ารักสมวัย

    แฟร์ อย่าไปพูดกับชายคนนี้มาก เดี๋ยวติดเชื้อจะยุ่งขึ้นมาได้หญิงสาวอีกคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามพูดแทรกชิออนเข้ามา ซึ่งคำกล่าวของเธอคนนี้ทำให้ชิออนหันไปมอง ถ้าเป็นเขาในยามปกติคงจะหม้อเธอไปด้วยแล้ว แต่ในกรณีที่เธอคนนี้เกลียดผู้ชายเข้าไส้ เขาก็ไม่ควรเสี่ยง เดี๋ยวจะถูกความเสี่ยงแทงเข้าไส้ได้ง่ายๆ

    ใช่แฟร์ ใครที่อยู่ใกล้พี่ชินมากๆ สักวันเดี๋ยวจะบ้าบอเหมือนเพื่อนเขาที่ชื่อเฟตฟ้าใสวางถ้วยไอศกรีมแล้วเสริมบ้าง ทำให้ชิออนต้องทำหน้าเบ้ ไหงถึงมากัดเขาอยู่คนเดียวแบบนี้ล่ะ

    เอ๋ คนที่ชื่อเฟตนี่ ใช่คนคนเดียวกับที่เทียร่าบ่นถึงหรือเปล่าน่ะหญิงสาวที่ชื่อแฟร์กล่าวย้อนถามกลับ ถ้าเธอจำไม่ผิด คนที่เทียร่าบ่นถึงอยู่บ่อยๆน่าจะอยู่ที่เมืองๆนี้ซึ่งเธอพึ่งจะกลับเมืองหลักตนเองไป

    แล้วผู้ชายในเมืองนี้ที่เทียร่ามีเปอร์เซ็นต์จะคุยด้วยมากที่สุด ก็ต้องเป็นแฟนของเพื่อนอย่างชิออน และชิออนก็มีเพื่อนที่ชื่อเฟตด้วย จึงฟังดูน่าจะเข้าเค้าที่สุด

    เอ๋?”ชิออนลากเสียงยาวแล้วหันไปมองเทียร่าที่เมื่อสักครู่มีอาการสะดุ้งตอนที่บอกว่าเธอบ่นถึงเฟต

    อย่าพูดแบบนั้นนะแฟร์ ฉันไม่เคยคิดถึงหมอนั่นนะเทียน่าลุกขึ้นปฏิเสธเสียงแข็ง แต่หน้าแดงบ่งบอกถึงการโกหกของตนเอง ชิออนที่เห็นอาการนี้ก็อมยิ้มเล็นน้อย แต่เมื่อเห็นสายตาที่เย็นเฉียบของเทียร่าจ้องมาก็ทำเนียนหันไปยิ้มให้กับผู้เล่นสาวๆคนอื่นๆที่เดินผ่านมาพอดี

    จ้าๆ เรื่องนั้นไว้พูดกันที่หลัง ว่าแต่คืนนี้จะเอาไงเหรอ จะไปหรือเปล่าคะแฟร์หันมาถามถึงเรื่องคลายเครียดบ้าง เธอมองว่าการพูดเรื่องสงครามนานๆอาจจะทำให้ประสาทเสียได้จึงเปลี่ยนเป็นเรื่องนี้

    คืนนี้เหรอ อาจจะไปนะฟ้าใสและเทียร่าพูดเหมือนกัน พวกเธอยังไม่มั่นใจเท่าไหร่เลย

    แต่พี่ไปแน่นอนจ๊ะ คืนนี้มีงานเซอร์ไพร์ที่จะแกล้งคนด้วยพอดีชิออนเอ่ยยิ้มๆ

    แกล้งคนเหรอ งั้นฟ้าไม่ไปดีกว่าฟ้าใสรีบออกตัว เพราะคำว่าแกล้งคนของชิออน คนๆนั้นมักจะมีเรื่องเดือดร้อนตามมาเสมอ แต่ชิออนชิงโบกมือห้ามก่อน

    ไม่ใช่ๆ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคนนอกหรอก มันเป็นเรื่องของครอบครัวชิน ไอ้หมอนั่นมันทำตัวห้าวมากไปจนต้องเบรกแล้วน่ะชิออนตอบจบก็จ้องมองระบบข่าวสารของเมือง ที่มีแต่ข่าวชื่อของเพื่อนเขาเต็มไปหมด แม้แต่ข้อมูลที่บอกว่าเฟตออฟไลน์ที่หมู่บ้านชายแดนก็ยังมีเลย

    ฟ้าใสจ้องมองชิออนสักพักก็พยักหน้าตกลงที่จะไป เพื่อนสาวที่เป็นกลุ่มซี้กันจึงตกลงใจที่จะไปด้วย

    งั้นเตรียมรับเซอร์ไพร์ของพี่ได้เลยคืนนี้ชิออนกล่าวแล้วยิ้มที่มุมปากจนดูเหมือนกับตัวร้ายของหนังบู๊พันล้าน ฟ้าใสจึงสวดภาวนาให้คนๆนั้นไม่ดวงตกมากหลังจากถูกชิออนแกล้ง

     

    05.10 น.

    เฮ้อ ร่างกายเต็มอิ่ม แต่สมองรู้สึกเหมือนไม่อิ่มแหะ หรือเราเครียดไปหว่าเฟตที่อาบน้ำตอนเช้าอยู่บ่นพึมพำคนเดียว

    หลังจากเสร็จธุระส่วนตัวเฟตก็เดินออกมาที่กลางห้อง และใช้คำสั่งเสียงตรวจสอบงานในวันนี้ของตัวเอง

    เฮ้ย งานวันนี้ทำไมหายไปหมดเลยล่ะ ก็เราให้คุณนิดช่วยเคลียร์ล่วงหน้าให้อาทิตย์ต่ออาทิตย์นี่นาเฟตโพล่งออกมา เมื่อเห็นว่างานวันนี้ไม่มีเหลือเลยซึ่งถือว่าผิดสังเกตมาก ถ้าเขาจำไม่ผิดเคยได้ยินจากคนช่วยงานว่า งานของเขาจะแน่นตลอดทั้งอาทิตย์นี้แน่นอน

    โอ๊ย นี่เราโดนแกล้งเรื่องงานหรือเปล่าเนี่ย แล้วจะหาเงินไหนมาใส่บัญชีเพิ่มล่ะเนี่ยเฟตเริ่มฌโอดครวญ เมื่อวันก่อนเขาก็ถูกชิออนเรียกตัวไว้ทั้งวันจนไม่มีเวลาไปทำงานพิเศษอื่นๆเลย

    หลังจากบ่นจนพอเป็นพิธีแล้ว เฟตก็ลงไปที่ชั่นล่างซึ่งมีห้องครัวที่เหมาะแก่การสังหารอาหารเช้ารอเขาอยู่ แต่ก่อนที่เค้าจะก้าวลงบันได ก็เหล่ไปมองห้องของชิออนที่อยู่ถัดจากห้องของเขาไป

    ยังไม่เลิกเล่นอีกหรอเนี่ยเฟตแค่คิด แต่ก็ไม่ได้เข้าไปปลุก เพราะยังไงซะชิออนก็มีศักดิ์เป็นนายของเค้า ในเรื่องบางเรื่องที่ไม่สำคัญก็สมควรที่จะปล่อยให้เลยตามเลยไปบ้าง

    อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณเฟตคนงานสาวทักทายทันทีที่เฟตมาถึงบาร์ในครัว แม้เธอกับเฟตจะมีฐานะลูกจ้างเหมือนกันแต่เฟตมีภาษีที่ดีกว่า

    สวัสดีครับพี่แจ๋วเฟตเข้ามาอยู่ในบ้านของชิออนหลายปีแล้ว เขาเลยนับถือแจ๋วเหมือนพี่สาวเพราะเธอเป็นแม่บ้านและมีหน้าที่ทำอาหารให้เขากิน เฟตจึงนับถือเธอมากว่าเป็นปากท้องสำหรับเขาเลย

    เล่นเกมสนุกมั้ยค่ะแจ๋วคุยอย่างเป็นกันเอง เพราะเฟตเป็นคนที่ไม่ถือตัวและไม่ถืออะไรไว้บนหัวเลย

    ก็คงสนุกมั้งครับเฟตไม่มั่นใจว่าคำว่าสนุกเป็นอย่างไร มันใช่ตอนที่เขามองเห็นร่างเปลือยเปล่าของผู้หญิงหรือเปล่า

    ยังไงหรอค่ะแจ๋วพูดขณะที่กำลังจัดเตรียมอาหารให้ ถ้าเธอทำเองคงดีกว่าให้มือสังหารมือด้านยาพิษแบบเฟตทำแน่

    คือ ไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าไงครับเฟตทำหน้าอึดอัดอธิบายไม่ถูกว่าจะเริ่มต้นตรงส่วนไหนของร่างกายดี แจ๋วพอจะรู้ว่าเฟตอธิบายออกมาลำบากจึงเปลี่ยนหัวเรื่อง

    แล้วนายน้อยล่ะค่ะแจ๋วถามเจ้านายหลัก เฟตมีฐานะเป็นเหมือนพ่อบ้านที่ทำงานบ้านไม่เก่ง พี่เลี้ยงที่คอยตบเวลาน้องอย่างชิออนดื้อ 

    ยังไม่ตื่นครับ

    เป็นปกตินี่ค่ะ อีกอย่างวันนี้วันเสาร์นายน้อยคงไม่ตื่นง่ายๆหรอกค่ะแจ๋วพูดขณะที่มือก็ทำกับข้าวไปด้วย

    แล้วพี่ลอยล่ะครับเฟตถามหาผู้ที่เค้านับถือเป็นพี่ชาย แจ๋วกับลอยแต่งงานและอยู่บ้านนี้มาก่อนเขาเสียอีก การจะนับถือเป็นเจ้าที่เจ้าทางคงไม่ผิดอะไรล่ะมั้ง

    ล้างรถอยู่ค่ะแจ๋วตอบไม่ทันขาดคำก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาขัดจังหวะการสทนายามเช้าของเฟตเสียก่อน

    กริ๊งกริ๊งกริ๊งเสียงโทรศัพท์ประจำบ้านดังขึ้น แจ๋วทำท่าจะไปรับโทรศัพท์ เฟตที่อยู่ว่างๆจึงเสนอตัวไปแทน

    สวัสดีครับ กรุงศรีออโต้ เอ่อ ขอโทษครับ สวัสดีครับ นี่บ้านของคุณชิออนครับเฟตที่รีบเอ่ยมากเกินไปรีบกลับคำ

    สวัสดีจ้ะ นั่นเฟตหรือเปล่าจ้ะเสียงของผู้หญิงดังมาตามสาย ทันทีที่ได้ยินเสียงนี้ขนของเฟตก็ลุกชูชันขึ้นมาทันที แม้เขาจะจำไม่ได้ทันที แต่ร่างกายก็ตอบสนองต่อเสียงนี้ไปเสียแล้ว

    ใช่ครับ นายหญิงเฟตตอบรับเสียงนอบน้อมเขาจำได้จากสัมผัสของร่างกายตัวเอง ว่าผู้หญิงที่โทรเข้ามาจนทำให้เขาขนลุกได้มีแค่คนผู้เดียว คือแม่ของชิออน

    บอกแล้วไงจ้ะ ให้เรียกแม่ อย่าเรียกคุณนายอะไรนั่นเลย เฟตเองก็เข้ามาอยู่ในบ้านแม่นานแล้ว แถมยังช่วยงานแม่หลายๆอย่าง เพราะฉะนั้นเฟตต้องเรียกว่าแม่เข้าใจมั้ยจ้ะคุณนายนิภาเริ่มเข้าโหมดขี้บ่น เฟตจึงตัดบทคำเดียวง่ายๆ

    ครับคุณแม่แม้จะตอบแบบนี้ แต่ก็ลอบถอนหายใจเพราะชิออนลอกแบบนิสัยจากแม่ของเขานั่นเอง

    แล้วคุณแม่จะคุยกับคุณชิออนหรอครับเฟตถามเพราะแม่ของชิออนไม่ค่อยโทรมาถ้าไม่มีงานหรือคิดถึงลูกจัด

    เปล่าหรอกจ้ะ แม่แค่โทรมาย้ำงานตอนเย็นนี้จ้ะ ว่าให้ไปตรงเวลาหน่อย งานนี้แม่ไม่ได้ไปด้วยหรอกนะจ้ะ เพราะตอนนี้แม่กับพ่ออยู่ที่ฝั่งทวีปตะวันตกกลาง กำลังทัวร์อยู่กับคณะกรรมการผู้บริหารโซนตะวันออกของบริษัทแม่อยู่จ้ะนิภาตอบยิ้มๆ แต่เฟตไม่ได้แปลกใจอะไรอยู่แล้ว เพราะธุรกิจของครอบคริวชิออนค่อนข้างที่จะใหญ่ ใหญ่เสียจนเขาไม่นึกว่าเพียงคนแค่ 2 คนจะกุมถือมันได้เสียทั้งหมด

    งานหรอครับเฟตพึ่งจะเอ๊ะใจตรงคำว่างานจึงทวนคำเบาๆ

    จ้ะ แม่บอกลูกชินไปหลายวันแล้วนะ ชินไม่ได้บอกลูกเฟตหรอคุณหญิงนิภาถามกลับ งานนี้เธอเคยบอกไปหลายวันแล้ว

    ไม่ได้บอกครับเฟตตอบตามตรง แม้เขาจะขี้ลืมแต่ถ้าใครมาฟื้นความจำให้เขาจะจำได้ภายในพริบตาที่ 3

    ไม่เป็นไรจ้ะ ลูกรู้จักเกม Proxy War ไหมคุณหญิงนิภาถามกลับเหมือนมีแผน

    พอรู้ครับ เพราะคุณชิออนพึ่งซื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเองครับเฟตตอบแบบไม่รู้แผนการในน้ำเสียงนี้

    ช่างเถอะจ้ะ พอดีงานนี้เป็นงานของบริษัท prox (พร๊อก) น่ะ บริษัทเค้าขายเครื่องทะลุยอดขายเลยจัดงานเลี้ยงขึ้นมา โดยเชิญคนสำคัญๆ ไปเยอะเลยนะ พ่อของเรารู้จักกับคุณพอซดี (พอซที่เป็นคน) เขาเลยชวนเราไปด้วย แต่ชวนปากเปล่าน่ะ แม่เลยบอกเขาว่าแม่จะให้คณะผู้บริหารไปแทน แม่ก็เลยบอกกับชินให้ไป เพราะชินเองก็รับตำแหน่งผู้บริหารที่นั่นมานานแล้ว แม่เลยคิดว่า น่าจะเข้าสังคมโดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่ได้แล้วคุณหญิงนิภาพูดด้วยเสียงยินดีแบบแปลกๆ

    แต่เฟตที่หัวช้ามีหรือจะเข้าใจจึงตอบรับแบบส่งๆ

    แล้วผมคงไม่ต้องไปใช่มั้ยครับเฟตถาม เพราะถ้างานเลี้ยงแบบนี้ทางสถานที่จัดงานจะเตรียมคนมาอย่างดี เขาไม่ต้องไปทนฟังการพล่ามของคนรวย

    ลูกเฟตสงสัยจะต้องไปจ้ะคุณหญิงนิภาพูดเสียงนิ่มแต่เด็ดขาดภายในตัว ถ้าเฟตไม่ไปแผนก็จบน่ะสิ

    แม่ไม่ได้บังคับหรอกนะ แต่งานนี้เป็นงานของลูกด้วยคุณหญิงนิภาพูดเสียงเบา

    อะไรนะครับเฟตถามซ้ำ เพราะเมื่อตะกี้พูดเสียงเบาแม้เขาจะได้ยินแต่ถามเพื่อความมั่นใจ

    เปล่าหรอกจ้ะ ฝากสวัสดีชินด้วยนะลูกคุณหญิงนิภารีบบ่ายเบี่ยง เพราะงานนี้เป็นงานเปิดตัวเฟต โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยสักนิด ว่าตัวเองถูกใส่เข้าไปในแผนได้สักพักแล้ว

    ครับเฟตตอบรับ คุณหญิงนิภาจึงวางสายไป

    งานของเราหรอเฟตพึมพำเบาๆ แล้วหันไปหาคนที่น่าจะรู้เรื่องดีที่ตอนนี้คงจะหลับอยู่

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องชิออน

    กริ๊ก กริ๊ก กริ๊ก เสียงนาฬิกาปลุกของชิออน

    โอ๊ย อะไรกันนักหนาวะ-*- ชิออนที่โมโหเมื่อโดนปลุกอย่างน่ารำคาญ ด้วยความโมโห จึงทำการสังหารทั้งนาฬิกาและคนปลุก ด้วยการจับนาฬิกาที่หัวเตียงโยนใส่ประตูที่กำลังเปิดออกอย่างช้าๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×