คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 1 บัตรเชิญจาก เดอะ เซอร์รัส (รีไรท์ 0%)
ตอนเก่าก่อนรีไรท์อยู่ด้านล่างเจ้าค่ะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ตอนที่ 1 บัตรเชิญจาก ‘เดอะ เซอร์รัส’
พระจันทร์สาดส่อง ดวงดาวพราวระยับ และท้องฟ้าดำสนิท ...อีกหนึ่งค่ำคืนอันมืดมิดที่ได้หมุนเวียนมาถึงอีกครั้ง
สายลมอันหนาวเหน็บพัดผ่านยามราตรี เป็นดั่งสัญญาณที่บอกว่าคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ ‘พวกมัน’ จะอาละวาด ...ปีศาจร้ายที่ออกล่าหาเหยื่อรายต่อไปไม่หยุดหย่อน ...แต่ค่ำคืนนี้คงเป็นดังฝันร้ายที่ไม่มีวันลืมสำหรับพวกมัน เพราะสายลมที่เย็นยะเยือกสายนี้ ก็เป็นดั่งใบเบิกทางของเหล่า ‘ผู้สังหารปีศาจ’ ที่คอยออกล่าและกวาดล้างพวกมันเช่นเดียวกัน...
.
.
.
ฉึก!!!
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...
เสียงวัตถุมีคมเข้าปักลงบนเนื้อของเหล่าปีศาจ ก่อนจะตามมาซึ่งเสียงกรีดร้องที่แสนโหยหวน เจ้าของวัตถุแสนอันตรายกระชากมันออกจากร่างที่สกปรกโสมมก่อนจะจุดไฟเผาพวกมันอย่างแสนรังเกียจและชิงชัง
เปลวเพลิงสีสว่างโหมกระพือลุกไหม้ไปทั่วเศษซากของเหล่าปีศาจที่น่าสมเพช ก่อนจะมอดไหม้ลงเหลือไว้เพียงฝุ่นผงสีขาวบริสุทธิ์ ...ที่เมื่อแสงจันทราสาดส่องลงกระทบแล้ว จะทอประกายล่อแสง ดั่งดวงดาวบนฟากฟ้าที่สว่างไสวยามค่ำคืนก็ไม่ปาน...
“...ทำไมกันนะ ทั้งๆที่ทำแต่เรื่องเลวร้ายเอาไว้ตั้งมากมาย แต่พอตายก็ยังงดงามได้ถึงขนาดนี้...ไม่เห็นมันจะสมควรเลยสักนิด...”
เด็กสาวผู้เป็นคนสังหารปีศาจเอ่ยพึมพำเบาๆอย่างรู้สึกไม่ชอบใจ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองละอองฝุ่นสีขาวตรงหน้าไม่กระพริบ ภายในสายตามีเพียงความเคียดแค้นและโศกเศร้าผสมปนเปกันไปหมด
นิฮอนโตะ ยูคันนะ เด็กสาววัย 15 ที่ต้องใช้ชีวิตโดยลำพังตั้งแต่อายุ 10 ขวบ โชคชะตาที่เหมือนกำลังเล่นตลกทำให้ชีวิตที่แสนอบอุ่น เพียบพร้อมไปด้วยครอบครัวของเธอต้องพังทลายลงเพียงชั่วข้ามคืน...
ใช่! ปีศาจ...อมนุษย์ที่เธอจงเกลียดจงชังมันเสียยิ่งกว่าอะไรดี พวกมันพรากพ่อกับแม่ของเธอไป พวกมันพรากความสุขของเธอไป พวกมันพรากชีวิตที่มีแต่รอยยิ้มและความอบอุ่นของเธอไป ...ฉะนั้นเธอจึงเลือกที่จะตอบแทนพวกมันบ้าง ตอบแทนด้วยการกวาดล้างพวกมันจนสิ้น ทำให้พวกมันรู้ซึ้งถึงจุดจบที่มีเพียงความสิ้นหวัง ทำให้พวกมันทรมานยิ่งกว่าที่เธอได้รับ และทำให้พวกมันไม่อาจทำเช่นเดียวกับที่ทำกับเธอกับคนอื่นได้อีก ...เพราะเธอรู้ดีว่ามันเจ็บปวดและทรมานเพียงใด...
...กริ๊ง...
เสียงกระดิ่งดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิดและสายลมที่เย็นเฉียบ คันนะได้แต่เพียงมองไปรอบๆเพื่อหาต้นตอของเสียงอย่างไม่รู้จุดหมาย ฝ่ามือของเธอทำได้แต่กำด้ามดาบเอาไว้แน่น เตรียมพร้อมสำหรับต่อสู้ทุกเวลา
“...ไม่ต้องกลัวไปหรอกฮะ ผมไม่ใช่ปีศาจที่พี่สาวกำลังไล่ล่าหรอก”
เด็กชายวัยประมาณ 7 ขวบก้าวออกมาจากเงามืดอย่างช้าๆ มือข้างหนึ่งถือไดอารี่สีฟ้าเอาไว้มั่น นัยน์ตาสีฟ้าจ้องตรงมายังคันนะไม่วางตา
“รู้มั้ยฮะ ว่าทำไมปีศาจพวกนี้ถึงมีเศษขี้เถ้าเป็นละอองสีขาว...”
เด็กชายเอ่ยถามขึ้น สายตาเหลือบมองฝุ่นสีขาวด้วยสายตาไว้อาลัย ก่อนจะนั่งลงและบรรจงหยิบมันขึ้นมาอย่างช้าๆ ปากพึมพำอะไรบางอย่างแล้วฝุ่นละอองเหล่านั้นก็ลอยหายไป
“เพราะว่าเค้าบริสุทธิ์แล้วไงฮะ พี่คือคนที่ชำระล้างบาปให้พวกเค้า”
ถามเอง ก็ตอบเอง เด็กชายลุกขึ้นแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับคันนะอีกครั้ง แต่สายตาในครั้งนี้กลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน บนใบหน้าของเด็กชายตัวน้อยก็ถูกประดับไว้ด้วยรอยยิ้มละไมและอบอุ่น
“...เธอ”เป็นใคร
“อัลเดล นีเกิล ฮะ ...ผมเอาของมาส่ง”
เด็กชายแนะนำตัวเอง ก่อนที่คันนะจะถามจบ พร้อมส่งของที่ตนรับภาระมาส่งส่งให้กลับคันนะ พลางยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ...มันคือซองจดหมาย ที่ถูกประทับตราดวงสัญลักษณ์ตัว S
...ยินดีต้อนรับ...
คันนะอ่านจดหมาย สมองก็พยายามประมวลผลเป็นการใหญ่
...จากใคร...
...ที่ไหน...
...นี่มันคืออะไรกันแน่...
ความงุนงงเข้าผสมปนเปกันจนมิอาจหาบทสรุป คันนะเงยหน้าขึ้นหวังจะเอ่ยถามกับเด็กชายตัวน้อย หากแต่ภาพตรงหน้ากลับมีเพียงความว่างเปล่า และสายลมที่พัดผ่านเท่านั้น
...เด็กคนนั้น หายไปแล้ว...
คันนะมองไปรอบๆ พยายามมองหาเด็กชายคนนั้น หากแต่สิ่งที่เธอได้เจอกลับมีเพียงความมืดมิดและเสียงที่ลอยตามสายลมมาว่า
...ถ้าอยากรู้คำตอบ พี่สาวก็มาตามที่ๆจดหมายบอกให้ได้นะฮะ ผมจะรอ...
“...”
แล้วความเงียบก็เข้าครอบคลุมทั่วอาณาบริเวณโดยรอบ สายตาของคันนะจ้องมองไปยังจดหมายในมือไม่วางตา สายตาค่อยๆเบิกกว้างขึ้นทีละน้อยๆ ...จนในที่สุด...
...เอื๊อก...
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! แม่เจ้าโว้ยยยย ผะ...ผี ผี! ฉันโดนผีหลอกกกกกกก...อ้ากกกกกกกกกกกกกก”
แล้วคันนะก็วิ่งตะโกนโวยวายว่าเจอผีหลอกมาตลอดทางกลับบ้านอย่างไม่อายชาวบ้านชาวช่องสักกะนิด ( ฆ่าปีศาจอย่างไม่กลัวตาย แต่ดันมาหมดลายเพราะกลัวผีเนี่ยนะ -*- >>>ไรเตอร์ )
และทุกการกระทำหาได้หลุดรอดไปจากสายตาคู่นี้ไม่ สายตาของเด็กชาย(ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผี)ที่กำลังยืนมองร่างของคันนะที่วิ่งหนีไปจากบนต้นไม้ด้วยความรู้สึกที่ว่า ...อายแทน(?)...
“แน่ใจหรอฮะว่าจะเอาเธอเข้าร่วมภารกิจนี้จริงๆ -*- ”
เด็กชายเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันไปหาบุคคลข้างกาย ...เรือนผมสีทอง นัยน์ตาสีฟ้าสดใส หญิงสาวผู้ที่ใบหน้าประดับไว้ด้วยรอยยิ้ม ...สทอเรียล เดอ ลอค์ก...
“อะไรกัน! นี่เบลไม่ไว้ใจการตัดสินใจของฉันแล้วหรอ?”
หญิงสาวแกล้งทำน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ นั่งลงบนต้นไม้พลางดึงใบไม้ทิ้งทีละใบๆ ง่ายๆก็คือ...เธอกำลังบอกว่า...เธองอน...
“เปล่าซะหน่อย แค่คิดว่าถ้าเธอยอมไปที่องค์กรจริงๆ องค์กรของเราคงจะไม่วุ่นวายใช่มั้ยฮะ?”
“ม่ายรู้สิ! แต่จ้างพนักงานทำความสะอาดอีกสักสองสามคนก็ดีนะ เพราะคนที่ฉันเลือกไว้ มีรุนแรงกว่าเธอคนนั้นอีกตั้งสองคน”
พูดจบก็ยิ้มร่าอารมณ์ดี จากนั้นก็หายตัวไปกับสายลมเสียดื้อๆ เหลือทิ้งไว้แต่เด็กชายที่ทำหน้าเหมือนโลกจะแตกในเร็ววันนี้ก็ไม่ปาน
“ถ้าหากพวกเค้าทำให้ผมวุ่นวายเพิ่มขึ้นล่ะก็ ผมจับพวกเค้าทำตุ๊กตาแน่ ...ผมเตือนแล้วนะฮะ”
เด็กชายเอ่ยเตือนขึ้นลอยๆ แล้วร่างน้อยๆก็ค่อยหายตัวไปพร้อมกับสายลมเช่นเดียวกัน...
... ต่อจ้า ...
ณ โรงฝึกศิลปะการต่อสู้ของตระกูลอุซึคุชิ
08 : 00 น. วันที่ 17 Oct. 2xxx
“เคร้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไคกะจางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!! ตื่น – ได้ – แล้วววววววววววววววววววววว”
เสียงตีกะละมัง(?)พร้อมพลังตะโกนสิบหกหลอด(?)ของเด็กสาวนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่เพิ่ง(คิดว่าตัวเอง)โดนผีหลอกไปเมื่อคืนดังขึ้นจนคนทั้งโรงฝึกแตกตื่น พร้อมกับรับความเสี่ยงต่อการเกิดแก้วหูแตกไปพลาง เพียงเพื่อ...ปลุกเพื่อนของเธอออกจากเตียงนอน...
“...ครอกกกกก zzzz...”
แต่หาได้เป็นผลสำเร็จไม่...
...ทำไมมันถึงได้ตื่นยากตื่นเย็นอย่างนี้นะ -*- ...
อุซึคาชิ ไคกะ เด็กสาวหมัดหนัก(โคตร) ลูกเจ้าของโรงฝึกชื่อดังที่ไฮเปอร์และตื่นยากสุดๆ นิสัยจอมแก่น และดื้อรั้น ทำให้ใครหลายคนมักปวดหัวกับการต้องดูแลคนอย่างเธอ
แต่ถึงอย่างนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ...
“ไคกะจัง ถ้าไม่ตื่นล่ะก็จะอดกิน...มาชเมลโล่ ช็อกโกแลต ชีสเค้กบลูเบอร์รี่ วัฟเฟิลวนิลา ไอติมซันเดย์...”
“ไหนๆๆๆๆ มันอยู่ไหนหรอคันนะจัง ไอติมซันเดย์จ๋า~ ขนมหวานจ๋า~ รอไคกะก่อนน้า~ ไคกะจะไปหาแล้ว~”
...ไม่ว่าจะยากเย็นแสนเข็ญกับการดูแลเธอมากแค่ไหน แต่แค่เอาขนมมาล่อ เธอก็จะว่านอนสอนง่ายขึ้นมาในทันที...(เห็นแก่กินนั่นเอง -*->>>ไรเตอร์)
ผ่านไปสักพัก คันนะและไคกะก็เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน เพื่อที่จะเดินทางไปยังโรงฝึกข้างๆ(หลังจากที่รอไคกะแปรงฟัน ล้างหน้า และเขมือบ(?)ขนมหวานยามเช้าอย่างเอร็ดอร่อย)
“เอเลี่ยน”
“ห๊ะ! ไหนๆ เอเลี่ยนอยู่ไหน...”
“ก็เธอนั่นแหละ ‘เอเลี่ยน’ ...คนอะไรตื่นเช้ามาก็ยัดขนมหวานเข้าไปตั้งเยอะขนาดนั้น แถมทุกวันต้องกินเค้กสตอเบอร์รี่ 5ปอนด์ก่อนนอน อีกทั้งบางวันยังตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อมากินพายแอปเปิ้ลกับช็อกโกบอลอีก ...เธอมาจากดาวไหนกันแน่ห๊ะ!”
“ง่า~ ก็ขนมมันอร่อยนี่นา ง่ำๆๆ~”
พูดเสร็จก็ยังไม่วายรีบยัดคัพเค้กเข้าปากอย่างรวดเร็ว เหมือนกลัวว่าถ้าเกิดช้ากว่านี้อีกสัก 3 วิ มันจะลอยหนีไปยังไงยังงั้น(?)
“...เธอนี่มัน น่ากลัวจริงๆ...”
คันนะพูดขณะมองไคกะที่พยายามโกยขนมเข้าปาก พร้อมกับทำสีหน้าที่บอกว่า...หวาดกลัวต่อความรักที่ไคกะมีให้กับขนมหวานอย่างรุนแรง...
เวลาพักเที่ยงของโรงฝึกอุซึคุชิ (ไวเหมือนโกหก)
“นี่ ไคกะ!”
คันนะเอ่ยเรียกขึ้น ขณะที่กำลังจะเก็บชามใส่อาหารของกับข้าวมื้อกลางวัน หากแต่ความคิดของตัวเองนั้น กลับได้สนใจอยู่กับชามอาหารหรือเพื่อนร่วมโต๊ะอย่างไคกะไม่ ...ในตอนนี้ความคิดของเธอมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น คือ จดหมายปริศนา ...ที่เธอได้รับมาจากผีเด็ก(?)เมื่อคืนนี้
“อาอายอ๋อ(อะไรหรอ)...”
ไคกะตอบส่งเดช เธอไม่มีแม้แต่จะเหลือบมองเพื่อนสนิทอย่างคันนะสักกะติ๊ด เพราะความสนใจของเธอตอนนี้มีให้แก่สุดที่รักของเธอเท่านั้น ...ช็อกโกแลตบราวนี่(?)...
“ฉันมีเรื่องอะไรจะปรึกษาเธอหน่อยน่ะ”
“อะไอ(อะไร)...เอื๊อก...ล่ะ”
กลืนช็อกโกแลตบราวนี่เข้าไปในอึกเดียวโดยไม่ต้องรอนาน สำหรับการทานขนมหวานของเธอ หากนั่นคือวิธีที่จะทำให้เธอกิน(เขมือบ)ของหวานได้เยอะที่สุด เธอก็ไม่แคร์คำว่ามารยาทให้เสียเวลาหรอก...
แต่คราวนี้ไคกะเริ่มมีความสนใจต่อคันนะมากขึ้น เพราะน้อยครั้งมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (เยอะไปละ -*-) ที่คันนะจะมาปรึกษาเรื่องใดก็แล้วแต่กับเธอ...
“...เมื่อคืน...”
“เมื่อคืนคันนะไปเจอปีศาจชนิดใหม่มาหรอ ว้าว! สุดยอดไปเลย ...รูปร่างมันเป็นยังไงบ้าง ...หน้าตาน่ารักมั้ย(?) ...แล้วจัดการมันได้รึเปล่า ...ละ แล้ว แล้ว...”
...แล้วอีกหลายๆคำถามที่ถูกโยนมาอย่างที่ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ว่ามันจะหมดและหยุดลงเมื่อไหร่ คันนะได้แต่ก้มหน้า หลับตา และนวดขมับ พลางคิดในใจกับตัวเองอยู่คนเดียวว่า...เอาน่า คันนะ! ชีวิตนี้ถ้าทนอยู่กับไคกะได้ ก็ไม่มีอะไรที่ทนไม่ได้อีกแล้ว อดทนไว้ อดทนไว้ (?)...
“อ๊ะ! เดี๋ยวนะ เมื่อกี้คันนะพูดถึงเมื่อคืนใช่ม้า~ ...เมื่อคืนฉันก็เจอเรื่องประหลาดเหมือนกันนะ”
พูดจบก็วิ่งเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้คันนะนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวคนเดียว แต่เหนือความเงียบเหงาและความโดดเดี่ยวที่ครอบคลุมคันนะ คือ ...ชักรู้สึกว่ามีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยแฮะ...
“นี่ไงๆ คันนะจัง ...เมื่อคืนมีเด็กคนหนึ่งเอาจดหมายมาให้ฉันด้วยแหละ เนี่ยะ!”
“หละ...หรือว่า...”
คันนะรับซองจดหมาย ...จดหมายที่มีตราประทับเป็นตัว S ซองจดหมายเป็นสีดำสนิทแบบนี้... คันนะค่อยๆเปิดจดหมาย ภาวนาอย่างให้จดหมายฉบับนี้เป็นแบบเดียวกับที่เธอได้รับ (ยังจะหวังอีกเรอะ -*- >>>ไรเตอร์)
จดหมายค่อยๆถูกเปิดออก และดูเหมือนว่าพระเจ้าช่างเป็นใจกับเธอยิ่งนัก ...จดหมายซองนี้ไม่เหมือนกับจดหมายของเธอ... (เป็นไปได้ไงฟร๊ะ >>>ไรเตอร์)
ในจดหมายของเธอคือ ...ยินดีต้อนรับ...
ส่วนจดหมายของไคกะคือ
.
.
.
...ยิน...
.
.
.
...ดี...
.
.
.
...ต้อน...
.
.
.
...รับ...
.
.
.
...นะจ๊ะ(?)...
[=A= >>>สีหน้าคนอ่านที่มีต่อไรเตอร์]
โอ้~ พระเจ้า! นี่มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน (ตรงไหนฟร๊ะ ( >[ ]) >>>คนอ่าน) ...ความแตกต่างอันลึกซึ้งนี้ คงมีเพียงไรเตอร์สติเฟื่องคนนี้เท่านั้นสินะที่จะดลบันดาลให้ได้ (ขอเดาว่า ความรู้สึกของคนอ่านตอนนี้คงอยากจะฆ่าไรเตอร์ทิ้งแล้วสินะเจ้าคะ Q^Q >>>ไรเตอร์) ...ช่างเป็นความแตกต่างที่งดงามจริงๆ... (มันยังไม่หยุด >>>คนอ่าน)
... ต่อจ้า ...
“ไคกะ! จดหมายนี้เธอได้มาจากเด็กผู้ชายผมสีฟ้าใช่มั้ย!?”
“เอ๋! คันนะรู้ได้ไงอ่ะ”
...ใช่จริงๆด้วย...
ลางสังหรณ์ที่เป็นจริงของคันนะ ทำให้เธอทำได้เพียงมองจดหมายฉบับนั้นตาค้างไม่กระพริบ แววตาที่เต็มไปด้วยความสับสน และงุนงงถูกฉายชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ...โดยที่ไคกะไม่ได้รับรู้และสัมผัสได้ถึงมันเลย -*- ...
“แสดงว่าคันนะก็ได้จดหมายเหมือนกันสินะ ...แล้วคันนะจะไปมั้ย?”
ไคกะถามขึ้น สายตาละจากเอแคร์ครีมสด (เอามาตั้งแต่เมื่อไหร่ >>>ไรเตอร์) หันไปมองคันนะด้วยความสนใจ แววตาที่มองมาก็เต็มไปด้วยความหวังที่น่าหวาดกลัวบางอย่าง(?)
“ไปไหน?”
“ก็ตามแผนที่นี่ไง ...องค์กร The Serus น่ะ...”
ไคกะตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะหยิบจดหมายในมือของคันนะมากางแผนที่บางอย่างให้ดู
“แผนที่จริงๆ ด้วย! ...แล้ว... ไคกะรู้ได้ยังไง”
“...เด็กคนนั้นบอก...”
...มาตามที่ๆจดหมายบอกให้ได้นะฮะ ผมจะรอ...
ซู่~~~~~...
พูดถึงผีเด็กผมสีฟ้า(?) คันนะก็ขนลุกซู่อย่างไม่ต้องปลุก ใบหน้าเริ่มมีเม็ดเหงื่อเย็นเฉียบผุดขึ้นมา สีหน้าเริ่มซีดขึ้นทันตาเห็น
“...แล้วตกลงจะไปมั้ย...ที่นั่นน่ะ?”
ไคกะถามทวนอีกครั้ง สีหน้ายิ่งทวีคูณความอยากรู้คำตอบมากกว่าเก่า
...นั่นสินะ ถ้าอยากรู้ก็ต้องไป ...ผีก็ผีเถอะ! คราวนี้จะห้อยพระทั้งวัดไปเลยคอยดู แน่จริงก็เข้ามาเล๊ย!!!...
“ไปสิ...ไคกะก็จะไปด้วยสินะ”
“อืม...^ ^”
ว่าแล้วไคกะก็ยิ้มหวานที่ได้เพื่อนร่วมทางไปด้วยกัน ก่อนที่ทั้งสองจะขออนุญาตผู้ปกครองของไคกะ และเดินทางไปด้วยกัน ...สู่องค์กรปริศนา ที่มีชื่อว่า ‘The Serus’
+++++ 100% จ้า +++++
B B
ความคิดเห็น