พระนาม | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช |
พระนามเต็ม | สมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร ธรณินทราธิราชรัตนากาศภาศกรวงษ องค์ปรมาธิเบศร ตรีภูวเนตรนาถนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวไศรย สมุทัยคโรมนต์ สกลจักรวาฬาธิเบนทร์ สุริเยนทราธิบดินทร หริหรินทราชาดาธิบดี ศรีสุวิบุลยคุณอัขณิฐ ฤทธิราเมศวรมหันต บรมธรรมิกราชาธิราช เดโชไชยพรหมเทพาดิเทพนฤบดินทร ภูมินทรปรมาธิเบศรไลกเชฐวิสุทธรัตนมงกุฏ ประเทศคตามหาพุทธางกูรบรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว คือ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ |
พระนามย่อ | - |
พระนามเดิม | ทองด้วง |
พระราชสมภพ | ที่นิวาสสถานภายในกำแพงพระนครศรีอยุธยา ตำบลป่าตอง วันพุธ เดือน ๔ แรม ๕ ค่ำ เวลา ๓ ยาม ปีมะโรง อัฐศก จุลศักราช ๑๐๙๘ ตรงกับวันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๒๗๙ ในรัชกาลของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ เป็นบุตรคนที่ ๔ ของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก (พระนามเดิม "ทองดี" ดำรงบรรดาศักดิ์เป็น หลวงพินิจอักษร ตำแหน่งเสมียนตรา ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) และพระอัครชายา (พระนามเดิม "หยก") |
เสวยราชสมบัติ | ปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ เป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงสยาม เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๓๒๕ (ตรงกับ วันเสาร์ เดือน ๕ แรม ๙ ค่ำ ปีขาล จัตราศก จุลศักราช ๑๑๔๔) ขณะมีพระชนมายุได้ ๔๕ พรรษา |
พระราชโอรส-ราชธิดา | รวมทั้งสิ้น ๔๒ พระองค์ |
เสด็จสวรรคต | เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๙ แรม ๑๓ ค่ำ ปีมะเส็ง เอกศก จุลศักราช ๑๑๗๑ ตรงกับวันที่ ๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๕๒ พระชนมพรรษา ๗๔ พรรษา เสด็จดำรงสิริราชสมบัติได้ ๒๗ พรรษา |
วัดประจำรัชกาล | วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) |
ตราประจำรัชกาล | | คลิก! ดูโดยรวมทุกรัชกาล | |
เหตุการณ์สำคัญ | |
พ.ศ.๒๓๒๕ | - ขึ้นครองราชย์ สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์
- ตั้งพิธียกเสาหลักเมืองพระนครใหม่ ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๒๑ เมษายน ตรงกับ เดือน ๖ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เวลาย่ำรุ่งแล้ว ๔๕ นาที
พระราชทานนามพระนครใหม่ว่า "กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุทธยามหาดิลกภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถานอมรพิมารอวตารสถิต สักกะทัตติยะวิษณุกรรมประสิทธิ์" (ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแปลงสร้อยพระนามพระนครจาก "บวรรัตนโกสินทร์" เป็น "อมรรัตนโกสินทร์") - องเชียงสือ (ญวน) เชื้อสายราชวงศ์เหวียน กษัตริย์ญวนพ่ายแพ้ต่อกบฏไกเซินที่เข้ายึดไซ่ง่อนได้ ขอเข้าพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
- นักองค์เอง (เขมร) ขอเข้าพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
- โปรดให้อาลักษณ์คัดนิทานอิหร่านราชธรรม
|
พ.ศ.๒๓๒๖ | - กำหนดระเบียบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
- ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องอุณรุท
|
พ.ศ.๒๓๒๗ | - โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร จากหอพระแก้วในพระราชวังเดิม แห่ข้ามมาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถในพระราชวังใหม่ ทรงพระราชทานนามพระอารามว่า "วัดพระศรีรัตนศาสดาราม" ใช้เป็นที่ประชุมในพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
- สงครามเก้าทัพ พระเจ้าปดุง กษัตริย์พม่าทรงกรีธาทัพเข้ามาตีเมืองไทยตั้งแต่เหนือ จดใต้ รวม ๙ ทัพ กองทัพไทยตีกองทัพพม่าแตกพ่ายยับเยินไปทุกทัพ
|
พ.ศ.๒๓๒๘ | - โปรดให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมบูรณ์แบบ อย่างโบราณราชประเพณี ณ พระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาท โปรดให้สร้างขึ้นด้วยไม้ทั้งองค์ หลังคาคาดด้วยดีบุก โดยถ่ายแบบจากพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทในพระนครศรีอยุธยา
|
พ.ศ.๒๓๒๙ | - สงครามรบพม่าที่ท่าดินแดง
- ทรงพระราชนิพนธ์ นิราศรบพม่าท่าดินแดง
- กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงนำทัพไปรับทัพพม่าที่เข้ามาทางใต้ แต่เมื่อกองทัพไปถึงพม่าพากันถอยหนีไปแล้ว เวลานั้นพอดีกับเจ้าเมืองตานีคิดแข็งเมือง จึงทรงยกทัพไปตีเมืองตานีได้เช่นเดิม และนำปืนใหญ่ประจำเมืองขึ้นมาน้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเชษฐาธิราช
- โปรตุเกสขอเข้ามาเจริญพระราชไมตรี
- อังกฤษเช่าเกาะปีนัง จากพระยาไทรบุรี
|
พ.ศ.๒๓๓๐ | - องเชียงสือเขียนหนังสือขอถวายบังคมลา ลอบหนีไปกู้บ้านเมืองได้สำเร็จ ตั้งตัวเองเป็นพระเจ้าเวียตนามญาลอง
- เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบัญชาการทัพ ตีค่ายปีกกาของพม่า ที่จะเป็นทางเดินทัพไปยังเมืองทวาย และตีค่ายปีกกาแตกภายในวันเดียว
|
พ.ศ.๒๓๓๑ | - โปรดเกล้าฯ ให้อาราธนาพระสงฆ์ชั้นพระราชาคณะและราชบัณฑิตทั้งหลาย ประชุมทำสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้นที่วัดนิพพานาราม ใช้เวลา ๕ เดือน แล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๓๓๒ แล้วโปรดให้จารึกลงลานไว้เป็นพระไตรปิฎกฉบับหลวง ปิดทองทึบทั้งใบปกหน้าและหลังกรอบ เรียกว่า พระไตรปิฎกฉบับทอง ให้เก็บรักษาไว้ที่หอพระมนเทียรธรรม ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่อมาเกิดเพลิงไหม้หอพระมนเทียรธรรม แต่มิทันไหม้พระไตรปิฎกเพราะอัญเชิญออกมาทัน จึงโปรดให้สร้างพระมณฑปขึ้นเป็นที่เก็บพระไตรปิฎกแทน ส่วนหอพระมนเทียรธรรมนั้น โปรดให้สร้างขึ้นใหม่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระมณฑป
|
พ.ศ.๒๓๓๒ | - เกิดอสนีบาตตกต้องที่หน้ามุขเด็จ เพลิงลุกลามไหม้พระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาท เสียหายเกือบทั้งองค์ จึงโปรดให้รื้อลง แล้วสร้างพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทขึ้นแทน
|
พ.ศ.๒๓๓๓ | - องเชียงสือกู้บ้านเมืองสำเร็จ จัดต้นไม้เงิน ต้นไม้ทองมาถวาย
|
พ.ศ.๒๓๓๗ | - ทรงอภิเษกให้นักองค์เอง เป็น สมเด็จพระนารายณ์รามาธิบดี ไปครองกรุงกัมพูชา
|
พ.ศ.๒๓๓๘ | - ชำระพระราชพงศาวดาร
- โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระมหาพิชัยราชรถ สำหรับอัญเชิญพระอัฐิสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ซึ่งต่อมาใช้เป็นพระราชรถอัญเชิญพระบรมศพพระมหากษัตริย์ไปยังทุ่งพระเมรุ
- มีช้างเผือกเชือกแรกมาสู่พระบารมี ได้รับพระราชทานนามว่า พระอินทรไอยราคชาชาติฉัททันต์ พิศผิวพรรณเผือกราตรี ศรียอดตองตากแห้ง วิศณุแกล้งรังรักษ์ มงคลลักษณเลิศฟ้า
|
พ.ศ.๒๓๓๙ | - งานสมโภชพระบรมอัฐิสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
|
พ.ศ.๒๓๔๐ | - ทรงพระราชนิพนธ์บทละคร เรื่อง รามเกียรติ์
|
พ.ศ.๒๓๔๒ | - โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเวชยันตราชรถ
|
พ.ศ.๒๓๔๔ | |
พ.ศ.๒๓๔๕ | - ราชาภิเษกพระเจ้าเวียตนามญาลอง (องเชียงสือ)
|
พ.ศ.๒๓๔๗ | - โปรดเกล้าฯ ให้นักปราชญ์ราชบัณฑิต ประชุมชำระพระราชกำหนดบทอัยการบรรดามีอยู่ในหอหลวง ที่ตกทอดมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา จัดประมวลหมวดหมู่ให้ถูกต้องยุติธรรม พร้อมกับเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรรวม ๓ ฉบับ ให้เก็บรักษาไว้ที่ห้องเครื่องฉบับหนึ่ง ที่หอหลวงฉบับหนึ่ง และที่ศาลหลวงสำหรับลูกขุนฉบับหนึ่ง โดยประทับตราพระราชสีห์ ตราพระคชสีห์ ตราบัวแก้ว เป็นสำคัญทุกฉบับ กฎหมายฉบับนี้จึงเรียกว่า "กฎหมายตราสามดวง"
|
พ.ศ.๒๓๔๙ | - ทรงอภิเษกให้ นักองค์จันทร์ เป็น สมเด็จพระอุทัยราชา ครองกรุงกัมพูชา
|
พ.ศ.๒๓๕๐ | - เริ่มสร้างวัดสุทัศน์เทพวราราม
|
พ.ศ.๒๓๕๒ |
http://www.banfun.com/thai/thai-king01.html |
ความคิดเห็น