ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    lovely vampire

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 49


    ปี ค.ศ. 1476 แคว้นวาลาเซีย ทรานซวาเนีย

     

    ท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาล เสียงฝีเท้าม้าแว่วดังเข้ามาใกล้ เพียงไม่นานร่างของชายบนหลังม้าก็โผล่พ้นจากพุ่มไม้ออกมาปรากฏแก่สายตา

     

    แคว่ก ...ฮี้

     

    นกกลางคืนที่บินผ่านหน้าในระยะกระชั้นชิดโดยกะทันหันทำให้ม้าหนุ่มเกิดอาการตื่นตระหนกยกขาทั้งสองข้างขึ้นพร้อมกับเตรียมกระโจนออกไปข้างหน้า สองมือกร้านเกรียมจำต้องออกแรงเกือบทั้งหมดจึงจะดึงบังเหียนไว้มั่นเพื่อที่จะบังคับม้าเอาไว้ให้ได้

     

    ดวงตาสีฟ้าทอดมองไปเบื้องหน้า แววตามีร่องรอยของความกังวล ปราสาทในทีร์โกวิสต์ยังอยู่อีกไกล มือที่ละจากบังเหียนนั้นลดลงมาสัมผัสบริเวณสีข้างของตนเอง หยดน้ำเหนียวๆ ที่ติดมือมาส่งกลิ่นคาวคลุ้ง แผลที่ได้รับจากธนูของชาวเติร์กร้ายกาจกว่าที่คิด

     

    ภาระหน้าที่ที่เร่งรีบทำให้ไม่มีเวลาจะสนใจกับแผลมากนัก ทำให้อาการเริ่มทรุดหนักกว่าที่ควรจะเป็น

     

    ร่างสูงใหญ่บนหลังม้านั่งนิ่งอย่างต้องการใช้ความคิด เขาต้องการหาลู่ทางที่จะเดินทางไปถึงปราสาทให้เร็วที่สุด เร็วกว่าที่พวกข้าศึกจะติดตามมาทัน สายตามองฝ่าไปในความมืด ในใจนึกถึงเส้นทางลัดแม้ว่ามันเป็นเส้นทางที่อันตราย แต่เมื่อถึงตอนนี้แล้วมันก็ไม่มีทางเลือก

     

    ...เขาต้องนำรับสั่งสุดท้ายกลับไปถึงปราสาทก่อนที่ข้าศึกจะเข้าไปโจมตีให้ได้

     

    มือทั้งสองช่วยกันฉีกชายเสื้อตัวเองออกมาเป็นแถบแล้วใช้พันทับไปบนแผลเพื่อห้ามเลือด เขายังตายไม่ได้ตราบใดที่ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ลุล่วง

     

    บรรยากาศรอบด้านยังคงเงียบสนิทราวกับทั่วทั้งป่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดอยู่อีกเลย หากไม่นับเจ้านกกลางคืนตัวเมื่อสักครู่ก็คงคิดว่าในป่าแห่งนี้มีแค่เขาและม้าแค่สองชีวิตเท่านั้น

     

    ทนอีกสักหน่อยนะเจ้าเพื่อนยาก ยังอีกไม่ไกลแล้ว

     

    มือใหญ่ลูบไปที่แผงคอม้าเบาๆ เป็นการปลอบโยน จากนั้นมือทั้งสองก็กลับไปจับอยู่ที่บังเหียน กระแทกขาไปที่สีข้างม้าเป็นสัญญาณในการเดินทางต่อ

     

    ปราสาทของเจ้าครองแคว้นวาลาเซียตั้งตระหง่านอยู่บนเชิงเขา แสงจากจันทร์เพ็ญเต็มดวงช่วยส่องให้เห็นเหล่าร่างไร้ชีวิตที่แขวนอยู่หน้าปราสาท มีทั้งโครงกระดูก และเหล่าซากศพที่เน่าเปื่อยที่กำลังรอแร้งกามาจิกกิน ซากศพเหล่านี้ช่วยส่งเสริมให้ปราสาทแห่งนี้ดูลี้ลับและน่าหวาดผวามากยิ่งขึ้น

     

    ทันทีที่เข้าใกล้ประตูเมืองชายบนหลังม้ารีบร้องตะโกนก้องและส่งสัญญาณให้กับทหารยามที่มีหน้าที่เฝ้าดูอยู่บนกำแพง สัญญาณถูกส่งไปมาเพื่อความแน่ใจ จากนั้นประตูบานใหญ่ก็เปิดอ้าออกมาต้อนรับ

     

    ทั้งม้าทั้งคนพุ่งกระโจนเข้าไปภายในประตู ม้าควบลิ่วมุ่งตรงไปยังปราสาทที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า หน้าที่สุดท้ายของเขาใกล้จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีแล้ว

     

    ข่าวเจ้าชายแดรกคิวล่าพ่ายแพ้ในการศึก ซ้ำยังถูกสังหารที่บูคาเรสต์แพร่กระจายไปทั่วทั้งปราสาท เจ้าหญิงแคทารีน พระชายาของเจ้าของปราสาทรีบรุดพาเจ้าชายน้อยทั้งหลายหลบหนีออกไปจากปราสาทโดยความช่วยเหลือของเหล่าข้าราชบริพานผู้ภักดี

     

    เมื่อนายไม่อยู่เหล่าทหารและนางกำนัลในทั้งหลายต่างพากันหลบหนีเอาตัวรอด ปล่อยปราสาทบนเทือกเขาคาร์เพเทียนให้ทิ้งร้างไร้ผู้คน ... รอให้เจ้าของกลับมาทวงคืน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×