คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : เขียนนิยายอย่างไรให้ถึงตอนจบ (บัฟฟี่ Theory) [1 - END]
[How to] เขียนนิยายอย่างไรให้ถึงตอนจบ
สวัสดีค่ะ กลับมาพบกับบัฟฟี่อีกครั้งและอีกแล้วนะคะ (ทำไมบทความนี้คนเขียนเหลือคนเดียวเนี่ย ฮ่าๆ) วันนี้จะมาบอกเล่าเคล็ดในการเขียนนิยายให้จบๆ ไปเสียที
กว่าจะเขียนนิยายจบหนึ่งเรื่อง แน่นอนว่าต้องใช้ความพยายามอย่างมาก นักเขียนบางคนใช้เวลาหลายปีในการสั่งสมข้อมูล (บางคนคือดอง) กว่าจะเขียนจบ ในขณะที่หลายคนใช้เวลาเดือนเดียว (แต่เขียนแบบตะบี้ตะบัน) ก็สามารถเขียนจบได้ เชื่อว่าทุกคนก็มีความฝันอยากจะมีหนังสือ อยากจะเขียนนิยายจบ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ตามที่ฝัน จริงมั้ยคะ
วันนี้บัฟนำหนทางที่จะแต่งนิยายให้จบมาฝากค่ะ ถ้าปฏิบัติตามนี้ต้องเขียนจบอย่างแน่นอน ลองไปทำดูกันนะ
1. ก่อนจะแต่งนิยายสักเรื่อง วางพล็อตสักนิด
อันนี้สำคัญมาก เห็นมาหลายคนที่แต่งนิยายไปสักพักจะเริ่มแต่งไม่ออกและตันในที่สุด เรื่องนี้มันมีสาเหตุมาจากความสะเปะสะปะของเนื้อเรื่องทำให้ไปต่อไม่ออก วิธีแก้ก็คือต้องวางพล็อตไว้ก่อนที่จะแต่งนิยายทุกครั้ง การวางพล็อตที่ดีนั้น นอกจากจะทำให้นิยายดูมีความเชื่อมโยงน่าติดตาม ยังทำให้รู้ว่าเราควรจะเขียนตรงไหนต่ออีกด้วย
ลองเขียนใส่กระดาษไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ร่างว่าแต่ละตอนจะแต่งอะไรดี แล้วค่อยๆ ปรับแก้ไปตามเนื้อเรื่องจะช่วยได้มากเลยทีเดียว (ดูโครงร่างการวางพล็อตได้ที่ แบบฟอร์มช่วยแต่ง (จาลิลา Theory) [1 - END] )
2. มีระเบียบวินัยต่อตนเอง
หลายคนแต่งไม่จบซะทีเพราะขี้เกียจบ้างอะไรบ้าง ไม่ดีนะคุณ ควรจะมีระเบียบวินัยให้มากๆ ลองกำหนดก่อนก็ได้ว่าวันนี้ฉันจะแต่งหนึ่งหน้า อะไรแบบนี้ หรือไม่ก็สัญญากับตัวเองว่าจะอัพอาทิตย์ละตอน อะไรก็ว่าไป ลองตั้งกฎเกณฑ์กับตัวเองดูนะคะ
อีกอย่างคือ ถ้าเกิดคุณเป็นคนที่ชอบเผลอไผลไปกับสิ่งยั่วยุทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเน็ต เล่นเกม ให้เลิกซะนะคะ ถ้าเกิดแต่งนิยายอยู่จงปิดเน็ตไปได้เลยยิ่งดีมาก เพราะจะได้เป็นการกดดันให้ตัวเองแต่งนิยายค่ะ
3.รู้จักตอนจบ
คนบางคนแต่งนิยายยาวแปดร้อยหน้าแต่ก็ไม่จบเสียทีเพราะปมเยอะเกินไปบ้าง มัวแต่ออกทะเลเสียเวลามีแต่เนื้อเรื่องที่ไม่จำเป็นบ้าง แบบนี้แย่ค่ะ มันจะไม่จบเสียที ถ้าทำได้ควรจะกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่ากี่หน้าจะจบเรื่อง อาศัยการวางพล็อตในข้อหนึ่งประกอบควบคู่กับไป
4.อย่ามัวแต่รีไรท์
บัฟเห็นหลายคนมากที่รีแล้วก็รีอีก ไม่จบซะที แบบนี้ไม่ดีแน่ การรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นที่มาวิจารณ์ก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่บัฟว่าการเชื่อมั่นในตัวเองสำคัญกว่านะคะ ถ้าคุณขาดความเชื่อมั่นในตัวเองนิยายของคุณก็จะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของคนอื่น ซึ่งนั่นไม่ดีแน่ๆ ค่ะ เอาเป็นว่าถ้าจุดบกพร่องที่คนอื่นชี้มา (หรือตัวเองเห็นเอง) ไม่ร้ายแรงจะจนแต่งต่อไปไม่ได้ก็อย่าไปรีไรท์เลยค่ะ รอแต่งจบก่อนค่อยรีทีเดียวก็ยังไม่สายนะ
5.เติมเชื้อไฟให้ตัวเอง
มีคนมากมายที่คิดพล็อตขึ้นมาแล้วรู้สึกว่า อุ๊ย น่าสนใจจัง ฉันอยากแต่งมากเลย แต่พอแต่งไปได้สักสาม-สี่ตอนก็เกิดหมดอารมณ์ ไม่อยากแต่งแล้ว หรือที่เรียกว่าหมดไฟนั่นเอง
เรื่องแบบนี้แก้ได้ไม่ยากค่ะ วิธีแรกคือถ้ารู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนหมดไฟได้ง่าย ให้รีบปั่นนิยายให้จบ อย่ามัวแต่อู้ อย่ามัวแต่ดอง เกิดอารมณ์อยากเขียนตอนไหนก็เขียนไปเลย ซึ่งจะทำให้เราแต่งนิยายจบก่อนจะหมดไฟค่ะ
ส่วนอีกวิธีนึงคือเมื่อหมดอารมณ์จะแต่งไปแล้ว ให้กลับไปหาแรงบันดาลใจเก่าๆ อะไรก็ตามที่ทำให้เราอยากแต่งนิยายเรื่องนี้ให้ไปหามันกลับมาดูมาฟังอีกครั้ง จะช่วยได้ค่ะ
สู้ต่อไปนะคะ นักเขียนทุกท่าน เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^
ความคิดเห็น