ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the three haunt of high school.

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 60


            บทที่ 3

     

     

        ว่าไงเพื่อน นานๆ กว่ามึงจะโทรมาหากูที?” เสียงปลายสายกลอกเข้ามาในโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี

      มึงเหรอไอ้หมอ พอดีกูมีเรื่องให้ช่วยหน่อย คนที่ยืนพิงต้นไม้ในสวนเกษตรโรงเรียนอันร่มรื่นบอกตามสายไปด้วย

    เสียงอ่อนสบายๆ

    แต่ในดวงตาคมปลาบที่แฉลบมองรอบข้างเก็บข้อมูลกำลังทอแววเย็นลงเรื่อยๆ

      มึงเสียงสบายแบบนี้กูนี่เห็นแววซวยอีกล่ะ

    คนที่ถูกเพื่อนเรียกว่า ไอ้หมอ ทำหน้ายุ่งก่อนเอ่ยถามสิ่งที่เพื่อนต้องการให้เขาช่วย ปกติอาชีพของเขาไม่ได้ยุ่งอะไรกับภารโรงน้ะ

    คุณหมอหนุ่มคิด

    วันที่เพื่อนบอกว่าจะไปเป็นภารโรงเขากับไอ้สารวัดหัวเราะลั่นร้านอาหารที่พวกเขาเหมาไว้ทุกโต๊ะอย่างไม่เกลงใจเจ้าของร้านที่เป็นร้านญาติสนิทไอ้คุณสารวัด

      ก็เป็นงานถนัดชันสูตรให้หน่อย พอดีมีคนตาย นายคำมีบอกเพื่อน

    นิติเวชหนุ่มในสายอึ้งไปสักพักก่อนถามด้วยเสียงจริงจังขึ้น

      ใคร? นายคำมีมองพื้นที่ถูกล้อมด้วยเชือกสีเหลืองแล้วบอกเพื่อนไปด้วยน้ำเสียงเรียบเนือยแต่จะมีใครรู้ในใจเขากำลังหนักอึ้ง

      เป็นคนดูแลสวนเกษตรของที่นี่ ศพน่าจะถูกเก็บไว้ที่โรงบาลของอำเภอเดี๋ยวกูโทรไปขอที่นั่นให้ ถ้าเป็นไปได้กูอยากได้คำตอบให้เร็วที่สุด

    นายคำมีพูดอีก

      แต่แปลกนะเวิ่ย คุณหมอเงียบรอฟังเพื่อนพูด

      มีไรมึงก็ว่ามา เดี๋ยวกูจะได้ทำตัวถูก กูว่าได้ไปเชิญไอ้สารวัดมาแน่เลยหวะ

    เรื่องที่เพื่อนเขาติดใจสงสัยหรือแก้ปัญหาไม่ตกนั้นมีไม่มาก เขานับด้วยนิ้วมือข้างเดียวได้ แรกก็ผู้หญิง สอง ก็คือเรื่องหน้าตามึนๆ ของมันนี่แหละ

      ไม่หละ ไอ้นั่นมันมาที่นี่ก่อนกูอีก ป่านนี้คงไปนั่งหัวปั่นอยู่ เออที่กูจะบอกมึงน้ะ

    สาเหตุการตายของคนดูแลสวนเกษตรคนนี้ มันเป็นฝีมือของ....อืมอะไรดีหละ เอาแบบที่มึงกับกูเข้าใจน้ะ มันเป็นแวมไพร์

    แต่ คนที่นี่เขาเรียกมันว่า ค้างคาวมรณะ

     หึ หึ หึ ไอ้คุณคำมี นายก็เชื่อชาวบ้านเหรอ? คุณหมอถามมาด้วยน้ำเสียงเหมือนล้อเล่นแต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนรักกันมานาน

    นิติเวชหนุ่มไม่เชื่อหรอกว่า ชายผู้เชื่อแต่เหตุผลทางวิทยาศาสตร์จะเชื่อเรื่องหลอกเด็กอะไรเทือกนี้หรอก

      อืมม มึงพูดก็ถูกกูไม่เชื่อแต่ มึงพอจะอธิบายให้กูเข้าใจหน่อยได้เปล่าหละ

    สัตว์ป่าประเภทไหนกันที่สามารถกัดครั้งเดียวคอขาดกระเด็นและทำอะไรสักอย่างหมาตัวใหญ่สูงเท่าเอวกลายเป็นแค่

    เศษเนื้อเละๆ และที่สำคัญน้ะเพื่อน

    มึงคิดดูสัตว์ประเภทไหนจะสูบเลือดของคน คนหนึ่งจนตัวแห้งสนิทมีเพียงคลาบเลือดอยู่รอบข้างแค่นั้น

    นิติเวชหนุ่มวางสายไปจากนายคำมีสักพักหนึ่ง

    แต่ชายหนุ่มที่ดึงปีกหมวกลงกำลังเหลือบสายตาผ่านเงาไม้แถบหนึ่งเข้าไป กะด้วยสายตากิ่งไม้หนาทึบบริเวณนั้น

    สูงจากพื้นประมาณสิบเมตร แต่เขากลับมองเห็นหยดน้ำสีแดงคล้ำอมน้ำตาลกับเนื้อไม้

     

       ชายหนุ่มเก้าเท้าเข้าไปใกล้กว่าเดิม ดวงตาจ้องที่หยดเลือดที่แห้งไปไม่ถึงสิบสองชั่วโมง

    กลิ่นคาวอ่อนๆ ยังหลงเหลือหลังจากทางตำรวจเคลียพื้นที่ทั้งหมดเรียบร้อย

     ดวงตาคมปลาบเหมือนใบมีดจ้องเนื้อไม้ที่อยู่สูงจากพื้นสิบเมตรด้วยการแหงนหน้าขึ้น

    ชายหนุ่มขนลุกสู้เมื่อมองเห็นเงาดำของเกล็ดบางอย่างพุ่งวาบหายวับไปกับเงาไม้ที่หนาทึบ

    รอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นแทนสีหน้ามึนๆ ในช่วงเวลาปกติ

      มันหน้าแปลกจริงๆ

    นายคำมีเดินออกจากสวนเกษตรไปแล้ว

    โดยไม่รู้ว่า ดวงตาลึกลับดำมืดคู่หนึ่งมองตามไปด้วยความเยือกเย็นจนเป็นเลือดเย็น รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมเปิดขึ้นด้วย

    ความท้าทาย

     

       เฮ่ย กวิ้นนี่แกเข้าห้องปกครองเพราะโดนจับตูดเนี่ยน้ะ แกอ่อยเขาปล่าว?

    เพนกวินที่ถูกเพื่อนๆ ห้องม.3/1 ลุมล้อมอยู่อยากจะลุกขึ้นซัดปากเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยประถม

      หุบปากเลยเวิ่ย ไปกินข้าวดีกว่า อย่าทำสายตาประมาณอยากเสือกไปๆ หลีกๆ

    เด็กสาวแหวกกลุ่มเพื่อนๆ ที่กลับไปร้องเพลงเตะฟุตบอลหัวเราะร่าอย่างสะใจปนหมั่นใส้เพื่อนเกรียนนักเรียนหญิง

      ไปกินข้าวกันเถอะพวกเรา เพนกวินตั้งใจจะมาชวนแมวน้ำและโลมาแต่สองสาวไม่อยู่ในห้องแล้ว

      แมวน้ำกับโลมาไปซ้อมดนตรีแล้วน้ะ คือคำตอบที่ได้รับจากผักบุ้ง เพื่อนสาวที่ได้ชื่อว่าเรียบร้อยที่สุดในห้องและเก่งที่สุดในห้อง

      แต้งกิ้ว เพนกวินไม่เสียเวลาพูดมากอีก ร่างบางรีบไปใส่รองเท้าและซอยเท้าลงบันไดไปโรงอาหารอย่างรวดเร็ว

    ในใจก็กำลังคิดเรื่อยเปื่อย เมื่อวิ่งผ่านหน้าตึกวิท ใบหน้าเนียนก็ขึ้นสีแดงก่ำ

    ไอ้แก่บ้ากามเอ๊ย~”

    ที่จริงเธอไม่ได้ตั้งใจจะให้คำด่ามันลอยไปถึงใครแต่ เสียงทักท้วงคำพูดของเธอทำให้เพนกวิ้นต้องเบกกึก

      ผมไม่ได้บ้ากามนะครับน้องเพนกวิ้น คุณคำมีที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เดินผ่านหน้าเธอไปและทำหน้าตามึนๆ

     เพนกวิ้นเป็นคนสมองเร็ว รวมถึงส่วนอื่นด้วย

    หมัดซ้ายตรงพุ่งเข้าหาร่างสูงที่กำลังจะเก้าผ่านหน้าไป

      ว้าย~”

    คุณคำมีที่มองเห็นภายนอกว่าซื่อๆ บื้อๆ โง่ๆ กลับเก้าถอยหลังได้เร็วเหลือเชื่อ ร่างเพรียวของเพนกวิ้นเด็กกร่างเลยเซเข้าหาคนตัวสูงที่ยื่นมือออกแตะไหล่เป็นหลักให้เธอทรงตัวตรงได้

      แบบนี้คงไม่ได้ลวนลามใช่ไหมครับ?

    คุณคำมีบอกก่อนเดินหายไปทิ้งเพนกวิ้นให้ยืนเคว้งกะพริบตาปลิบๆ

    เด็กสาวสะบัดหน้าด้วยความหงุดหงิด

     ไอ้บ้าเอ๊ย ฝากไว้ก่อนเหอะ เพนกวิ้นพูดเหมือนตัวร้ายส่วนใหญ่ในละครหลังข่าวที่พ่อกับแม่เธอมักจะเปิดลั่นบ้านทุกวัน

     

                     เด็กสาวเก้าเดินแต่ก็ต้องชะงักอีกเมื่อความคิดดันหวนละลึกมาถึงความฝันที่เธอหลงลืมมันไปชั่วขณะ ดวงตาเงยขึ้นไปบนชั้นห้าที่ผ้าม่านของหน้าต่างรอบข้างโบกกระพือเบาๆ มีเพียงสายลมโชยอ่อนๆ ไม่มีดวงตาสีแดงและ

    ความโหยหวนในน้ำเสียงแข็งกร้าว

      ฝันนี่มันหมายความว่าไงวะ?” เพนกวิ้นทิ้งความคิดวุ่นวายไปหลังจากได้ข้าวสวยร้อนและอาหารอีกหลายอย่างมาเติมกระเพาะที่ว่างเปล่ามาคลึ่งเช้า

    ดวงตาคมๆ ของเธอคอยชำเลืองมองไปรอบข้างที่คนมากมายต่างกินข้าวกันอย่างมีความสุข

    เพนกวิ้นกำลังจะตักข้าวคำที่สองเข้าเรียวปากเล็ก เสียงนรกส่งมาเกิดก็ทำลายความสุขของเธอลง

     

                      ประกาศ ขอให้นักเรียนที่เดินเข้าทางประตูสวนเกษตรโรงเรียน ตั้งแต่เวลา เจ็ดโมงเช้าถึงแปดโมงเช้า

     มาประชุมพร้อมกันที่ห้องประชุมเล็กอาคารเล็กด้วยค่ะ  ย้ำนะค่ะ ด่วนที่สุดค่ะ ท่านรองผอ. รออยู่

     

    เพนกวิ้นทำหน้าไม่สนใจ คนเยอะแยะขนาดนั้นจะจำยังไงได้หมด ที่จริงก็รู้น้ะว่าต้องไปอะ แต่เธอไม่ไปคนยิ่งหิวๆอยู่

    ความคิดคนพาลยังไง ก็เอาชนะความดีอันน้อยนิดในใจได้เสมอ ทำไมหละ เกรียนเสียอย่าง

    เวลาผ่านไปได้ไม่ถึงสิบห้านาทีข้าวคำต่อไปก็เกือบพุ่งออกจากปาก

     

        นางสาว เพนกวิน  รัฐเมนาวิน

    นางสาว แมวน้ำ  ปัญญามหาสมุทร

    นางสาว โลมา  รัตนรางสรรค์

    เชิญที่ห้องท่านรองผอ. อาคารอำนวยการด่วนค่ะ ย้ำค่ะด่วนนนน

    ประชาสัมพันธุ์ลากเสียงยาวโหยหวน เพนกวิ้นยอมจำนนฟ้าดินก็คลาวนี้แหละ แต่ก็ไม่วายไปขอป้าขายอาหารให้เอา

    ไข่ดาว ไซ่กรอกและข้าวโพดนึ่งที่เหลือใส่ถุงพลาสติกให้

     ร่างบางเก้าออกจากโรงอาหารตัวปลิว ข้างหน้าก็ปรากฏเด็กสาวสองคนที่วิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้องดนตรีพอดี

      เฮ๊เพื่อนๆ จะรีบไปไหนกันน? เพนกวิ้นยังเกรียนไม่เลิก ถึงแม้หน้าตาของแมวน้ำจะยังคงเรียบได้แต่แว่นตาที่สวมอยู่กลับขาเอียงไปข้างหนึ่งอย่างหน้าตลก

      เล่นอยู่อีกเขาจะเรียกไปเชือดแล้วเนี่ย โลมากระหืดกระหอบบอกเพนกวิ้นที่หัวเราะขำอย่างไม่ได้ใส่ใจประชาสัมพันธุ์ที่ทุบไมโครโฟนเหมือนความโกรธเดือดทะลุจุดเก็บ

     

      แอ๊ด ปั้ง!!!”

    ประตูห้องฝ่ายบริหารถูกผลักเข้ามาพร้อมไอเย็นของเครื่องปรับอากาศที่โชยกระทบผิวนอกร่มผ้าเย็นเฉียบ

    แต่คนที่รออยู่กำลังอารมณ์ทะลุจุดเดือดร้อยองศาเซลเซียสไปแล้ว

      นี่พวกเธอ ทำไมประชาสัมพันธุ์ประกาดแล้วถึงมาช้าอีกเนี่ย~”

    เพนกวิ้นทำหน้าตาเหรอหราส่วนแมวน้ำยังตีหน้าตาย โลมายิ้มแห้งๆ

      พวกเราเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางครับ โลมาหลังจากสงบใจได้แล้วก็เริ่มกวนตีนรองทรงธรรมที่หนวดกระตุก

    โว้ยเด็กเปรด เออๆ ที่เรียกมาแค่จะบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสวนเกษตรของโรงเรียนนะ ไม่ต้องเอาไปบอกคนนอกโรงเรียนหรือเพื่อนห้องอื่นเข้าใจไหม? เพนกวิ้นคันปากยิบๆ อยากกวนตีนรองทรงธรรมบ้าง

    และแล้วฝ่ายอันเลวร้ายดำมืดในใจก็ชนะจนได้

    ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุน้ะรอง ไม่เคยได้ยินเหรอ? รองทรงธรรมพยายามระงับลมหายใจที่หอบถี่กระชั้น

      ได้ข่าวว่า เป็นโรคหัวใจหรอค่ะรอง?” คำถามของแมวน้ำทำให้รองทรงธรรมโบกมือรัวๆ

      ไปๆ รีบไปก่อนจะไล่พวกแกไปห้องปกครอง เพนกวิ้นกับแมวน้ำหัวเราะขำ ส่วนโลมาโบกมือบ๊ายบาย

    ก่อนทั้งหมดจะเดินออกจากห้องฝ่ายบริหารไป

      นี่เห็นเป็นลูกเพื่อนหลานเพื่อนนะเวิ่ย ไม่เอาเรื่องรองทรงธรรมทำหน้าเหนื่อยหน่าย

      อ่าว ไม่บอกไม่รู้น้ะท่านรอง สามสาวโผล่หัวเข้ามาแล้วก็แทบจะมุดออกจากประตูไปแทบไม่ทันเมื่อกล่องกระดาษชำระลอยกระแทกประตูดังปั้งใหญ่

    พร้อมเสียงโวยวายที่ตามมา

     

    ทั้งสามสาวเพื่อนซี้เดินเคียงข้างกันลงบันได ทำตัวเป็นแก๊งขาใหญ่กร่างปิดทางเดินน้องม.2 ที่สวนบันไดไปจนต้องหลบทางให้รุ่นพี่วอนเท้ากันไปเป็นแถว

     

      เออกวิ้น ที่เราบอกว่าห้องดนตรีกันนะ เหมือนเธอจะสันนิษฐานใกล้เคียงน้ะ ระหว่างเดินกลับขึ้นไปเรียนคาบบ่าย โลมาพูดขึ้นเรียกสายตาชมนกชมไม้ของเพนกวิ้นกลับมาจ้องหน้าเพื่อนสาวที่หันไปพยักหน้าให้แมวน้ำที่ปิดหนังสือเล่มโปรดลงและเปลี่ยนมากอดไว้แนบอกแทน

      เราตรวจแล้ว ห้องดนตรีมีชั้นใต้ดินจริงด้วย แมวน้ำพูดนิ่งๆ

    ไม่มีใครรู้ว่าสามสาวคุยอะไรกัน หลังจากพวกเธอเจอสถานการณ์ทั้งหมดที่สอดคล้องกับฝันร้ายของพวกเธอได้อย่าง

    น่าใจหาย

      เปียโนกับพิญหละเจอเปล่า? เพนกวิ้นทอดฝีเท้าให้ช้าลง เหตุผลของเธอมีมากมาย แรกๆ ก็คือจะได้เข้าเรียนสายๆ และเหตุผลสองคือจะได้ฟังเพื่อนซี้ทั้งคู่ให้ชัดเจนแล้วค่อยมาวางแผนกันต่อ

      เจอสิ อาบเลือดเลยด้วย แมวน้ำบอกอีกตามเคย ส่วนโลมากำลังพรมนิ้วลงบนหน้าจอโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุด

      เป็นไปทำนองนี้ หน้าจอโทรศัพท์มีดวงตาอยากรู้อยากเห็นสามคู่จ้องชนิดที่เกือบจะทะลุจอ

    ภาพที่แสดงคือกล้องวงจรปิดของโรงเรียนยามกลางคืนที่ตรวจจับคนแปลกหน้าด้วยคลื่นแสงโซลา และอินฟาเรสที่

    กระพลิบแสงสีส้ม

    ไม่นานเวลาตามที่ทั้งสามช่วยกันคาดคำนวณก็เคลื่อนเข้ามาถึง

    ภาพสีส้มว่างๆ เริ่มสั่นเบลอไปอย่างผิดปกติ

    แบบนี้คือมีคลื่นบางอย่างเดินทางผ่าน สีแดงนี่คือ อาคารดนตรี

    โลมาชะงักคำพูดไปเมื่อเสียงประสานระหว่างเปียโนกับพิญโบราณดังออกจากโทรศัพท์

      นี่เป็นอะไรทำไมกระแสคลื่นเป็นแบบนี้?เพนกวิ้นอดสงสัยไม่ได้เมื่อกระแสคลื่นไม่คุ้นตาเธอเลย ปกติแล้วสิ่งมีชีวิต

    มีมวลที่ควบแน่นไม่มีทางเลือนลางว่างเปล่าขนาดนี้

      เธออาจจะไม่เคยรู้ แมวน้ำเริ่มเสียงขึ้นเรียบๆก่อนบอกต่อหลังจากจุดแสงเหลืองเบื้องบนหายลับเข้าสู่ชั้นเมฆไป

    ไสยศาสตร์โบราณฝ่ายมืดของญี่ปุ่นโบราณ มีศาสตร์หนึ่งซึ่งสามารถผนึกร่างวิญญาณด้วยความเกลียดชังอย่างมหาสารเป็นร่างเลือดเนื้อแล้วเดินไปเดินมาสวนกับคนปกติได้จริงๆ แต่จุดสังเกตก็คือ

    เสียงของแมวน้ำหายไปในคอเมื่อเสียงสายพิญขาดสะบั้นและเสียงกรีดร้องดังโหยหวนลั่นตึกดนตรีที่เลือดชโลม

      การใช้พลังจิตได้ไงหละ

    นี่เป็นเสียงคนจริงๆ น้ะ แล้วก็เป็นคนที่พวกเรารู้จักด้วย แมวน้ำหยุดพูดไปเมื่อเพนกวิ้นดึงแขนสองสาวหลบรถพยาบาลที่ปิดเสียงขอทางพาร่างไร้ชีวิตสองร่างจากไป

     

      ครูสิต กับครูแก้วงั้นหรอ? เพนกวิ้นรำพึงเสียงแผ่ว

    แมวน้ำพยักหน้ารับนิ่งๆ ส่วนโลมาก็ปิดโทรศัพท์พับเก็บเข้ากระเป๋านักเรียน

    ทำไมพวกเขาต้องตาย……และใครที่ทำให้พวกเขาทั้งคู่ตาย?

    คือคำถามที่สามสาวต้องแก้เงื่อนปมการสังหารโหดนี้ต่อไป

    เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในโรงเรียนยิ่งผ่านไปนานขึ้นและไม่มีใครแก้ปัญหาได้

    ชีวิตแล้วชีวิตเล่า ที่ต้องปลิดปลิวสังเวยเงามืดปริศนาที่บงการอยู่ด้วยจิตใจวิปริต

    ย้อนไปทั้งหมด เรื่องราวทุกอย่างเริ่มจากความโลภอย่างไม่มีสติ ความโกรธเพียงชั่ววูบเดียว

    และความมัวเมาหลงผิดไม่คิดหน้าคิดหลังในการกระทำและผลที่จะตามมาในภายหลัง…….เพราะประมาทจึงพิฆาตชีวิตผู้อื่นและบ่วงกรรมไม่เคยให้ใครต้องรอนาน…………..

     

     

    By ผีหิมะ

     

     

     

    ……………………………….***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×