ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    7 ราชันย์ปราการเทพSeven lord of wonderful the defense divine

    ลำดับตอนที่ #3 : ก่อนเริ่มตำนาน 2

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 59


          ก่อนเริ่มตำนาน 2


       ประเทศจีน
    วัดเส้าหลิน
    ปี พุทธศักราช 2740
    รถยนต์คันงามแล่นเรียบถนนสองฟากข้างที่ต้นหลิวปลิวสบัดไปตามสายลมสลับกับกอไผ่ที่ขึ้นสูงเสียดฟ้า
    ภายในรถแบบ ครอบครัวประกอบด้วยสมาชิกของครอบครัว วิมารบรมรัตน์ที่ยิ้มแย้มและมีชีวิตชีวากับ
    ลูกสาวลูกชายทั้งคู่
     ลูกสาวมีอายุ แปดปี และลูกชายมีอายุห้าปี
    " พ่อครับ พวกเราจะไปไหว้พระที่วัดเส้าหลินแล้วจะไปที่ไหนต่อไม๊? "
     ชายหนุ่มคนขับรถหันไปถามชายชราที่หัวเราะร่าเมื่อหลานชายกระโดดขึ้นมานั่งเบียดที่นั่งตน
    "ตามใจพวกวัยรุ่นเถอะ อั๊วไปได้หมดและขอแค่ลื้อพาอั๊วไปได้อาตี๋ " ชายหนุ่มคนขับรถหัวเราะขึ้นเบาๆพร้อมชายชราที่หันไปแจกมะเหงกให้เจ้าหลานตัวดี
    " นี่ อาหมวย ลื้อเอาหลานสาวมาให้อั๊วดูแลก็ได้ " คุณย่าที่อยู่ว่างหันไปบอกหญิงสาวที่ส่งลูกสาววัยแปดปีให้มานั่งกับคุณย่าที่
    ยกมือขึ้นลูบศีรษะเด็กสาวอย่างอ่อนโยน
    ริสา คือชื่อของเด็กหญิงที่อมยิ้มและฟุบหัวลงกับขาคุณย่าและหลับไปง่ายๆ เหลือแต่เจ้าตัวร้ายที่เปลี่ยนจากการแกล้งคุณปู่
    มาเป็นดึงผมสีเงินหงอกเต็มหัวจนผู้เป็นปู่ต้องร้องโวยวาย
    " ย๊าก เจ้าปีศาจน้อยปล่อยผมข้าเดี๋ยวนี้รู้ไม๊ว่ามันเจ็บ " เด็กน้อยหัวเราะอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน กลับแกล้งดึงหูดึงแก้มเหี่ยวๆ ของผู้เป็นปู่ จนต้องให้ผู้เป็นพ่อต้องรีบหันมาคาดโทษ
    " นี่ สายฟ้าท่าแกล้งคุณปู่ ไม่ต้องเอาแล้วไม๊ของเล่นอันนี้ " ฝ่ายผู้เป็นพ่อพูดจบก็ยกถุงพลาสติกและดึงของภายในที่ทำจากไม้เนื้อแข็งเหนียวหนาและยืดหยุ่นอย่างมาก ออกมาโชล่อดวงตาของสายฟ้าจนเป็นประกายวิบวับ
    " ไม้ขีดไฟยักษ์~ "
     คุณปู่แทบหัวทิ่มต้องหันไปเขกมะเหงกใส่หัวหลานชายอีกที
    "เฮ้ย เขาเรียกว่ากระบี่ไม้ ช่วยเรียกให้มันถูกๆ " สายฟ้าหรือ อัศวกาล พยักหน้ารับส่งๆและรีบคว้าของในมือผู้เป็นพ่อออกมาเล่นโดยไม่สนคุณปู่ที่กำลังตีหน้ายักษ์ที่หลานชายมันแสนดื้อ
     
    " ถึงวัดเส้าหลินแล้วค่ะ คุณปู่คุณย่า ริสาตื่นจ๊ะลูก " ฝ่ายผู้เป็นแม่หันไปเขย่าไหล่บางและเรียกเด็กหญิงริสาที่ค่อยๆงัวเงียตื่นขึ้นมาช้าๆ
    ครอบครัววิมารบรมรัตน์เก้าลงมาจากรถพร้อมของทำบุญอีกหลายอย่างทุกคนต่างถือของกัน
    คนละไม้คนละมือมีแต่เด็กชายสายฟ้าที่ถือกระบี่ไม้สีขาวตัดดำในมือไว้แน่นโดยไม่ยอมถือของอื่นๆ
    " ตามมาเจ้าปีศาจน้อย อย่าหนีปู่ไปไหน " คุณปู่ที่เดินคล่องแคล่วเหมือนคนวัยสี่สิบต้นๆหันไปสำทับเด็กชายที่ยิ้มกว้างให้คุณปู่และวิ่งเข้าวัดโบราณข้างหน้าไปก่อน

    วัดเส้าหลินสมกับตำแหน่งเสาหลักแห่งยุทธภพในอดีต อาคารที่สร้างจากศิลาแลงแกร่งนับพันปี วิหารใหญ่ที่ผ่านมรสุม
    นับร้อยพันมาหลายร้อยหลายพันครั้งและทุกสิ่งทุกอย่างในวัดที่ดูมีมนตร์ขลัง
    ครอบครัววิมารบรมรัตน์เดินขึ้นสู่วิหารใหญ่
    ภายในมีหลวงจีนหลายรูปนั่งสงบนิ่งรวมถึงเจ้าอาวาสที่นั่งสมาธิหลับตานิ่ง
    " ประสบ เจริญพร "
    น้ำเสียงปรานีภาษาจีนกลางทำให้ผู้ฟังรู้สึกจิตใจปลอดโปร่งสบาย
    เหล่าครอบครัววิมารบรมรัตน์ซุดเข่าและเดินเข่าเข้าหาเจ้าอาวาทช้าๆ ก่อนได้ระยะทุกคนก็นั่งเรียบร้อยมีเพียงเด็กน้อยสายฟ้าที่นั่งหน้าสุดและวางกระบี่ไม้ในมือเอาไว้ตรงหน้า เด็กน้อยจ้องเจ้าอาวาสอย่างไม่กระพริบตา
    จนเมื่อเจ้าอาวาสลืมตาขึ้นดวงตาสองคู่ก็ปะทะกัน
    " เปลี๊ยะ!!! "
     เหมือนกระแสไฟฟ้าแล่นพล่านผ่านร่างของเจ้าอาวาสเฒ่าตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าอาวาสมองสบกับดวงตาสีดำสนิทไร้รัศมี
    หรืออะไรใดๆที่แสดงออกว่า เด็กน้อยวัยห้าขวบตรงหน้านี้เป็นผู้ที่ทำให้ตนเองซึ่งมีปราณบำเพ็ญเพียรไม่น้อยกว่าร้อยปีต้อง
    สะดุ้งเฮือกได้
    "พวกเรามาทำบุญครับท่านเจ้าอาวาส " เด็กชายสายฟ้าเป็นคนพูดขึ้นก่อนและหันไปทางครอบครัวของตัวเองที่เงียบกริบเป็นเป่าสาก
    " เจริญพร เชิญ "
     สายฟ้าหันไปส่งยิ้มให้ริสาจนผู้เป็นพี่สาวยกกำปั้นเหมือนส่งมาให้
     ก่อนเด็กหนุ่มจะถอยไปนั่งหลังสุด
    " ซนนะเรา "
     หลวงจีนรูปหนึ่งที่นั่งสมาธิอยู่ใกล้ๆเอ่ยขึ้นให้สายฟ้าได้ยิน เด็กหนุ่มหน้าเบ้ก่อนเด็กน้อยจะเถียง
    " ก็ไม่นะครับ ไต้ซือ "
    สายฟ้าพูดพลางอมยิ้มมองไปรอบข้างอย่างสนใจในตำนานนับพันปีของวัดแห่งนี้
    "พ่อหนุ่มน้อยพวกเราขอดูกระบี่ไม้ในมือหน่อยได้ไม๊? "
    สายฟ้าส่ายหน้ารัวก่อนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงซื่อๆ
    "ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นกระบี่ นวอสูร คนธรรมดาจับแล้วตายทันที!!! "
    ความเงียบคลุมบริเวณโดยรอบจนแค่ฝุ่นตกอาจจะได้ยินกัน แล้วเสียงหัวเราะของหลวงจีนน้อยรูปหนึ่งที่นั่งฟังมานานก็ดังขึ้น
    " ห้าๆๆ พี่ชายพูดอะไรได้หน้ากลัวนะครับ " สายฟ้ายิ้มเก้อพร้อมปลายตามองของเล่นในมืออีกครั้งหนึ่ง
    " อ้าว  ตัวหนังสือเมื่อกี้หายไปไหนแล้ว " สายฟ้าพริกกระบี่ไม้ในมือไปๆมาๆแต่ก็ไม่มีอักษรสีเงินตัดทองโผล่ขึ้นมาแล้ว
    "ประสบพูดอะไรเกือบทำให้อาตมาหลายคนตกใจ "
    สายฟ้าทำหน้าเหนื่อยใจ เพราะดูจากปฏิกิริยาของผู้ทรงศีลเหล่านี้คงจะไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูดขึ้นแน่ๆ


    "หลิงเทียน ....ออกมาหาเรา"
    น้ำเสียงเยือกเย็นทรงพลังของใครบางคนดังกังวาลขึ้นในหูของเด็กน้อยวัยห้าขวบ ด้วยความไร้เดียงสาทำให้ร่างโปร่งกระโดดลุกขึ้นมองซ้ายขวาสีหน้าเริ่มซีดและคิดไปแล้วว่าตัวเองอาจจะโดนผีหลอก
    " ห้าๆ สายฟ้า คราวนี้เราเรียกชื่อท่านถูกแล้วสินะ ออกมาหาเรา เร็ว " น้ำเสียงเย็นทรงพลังขึ้นทำให้ร่างของสายฟ้ารีบเก้า
    ออกจากวิหารกลางของวัดเส้าหลินมาทันทีโดยที่ไม่มีใครสนใจอะไรนัก

    เด็กน้อยเก้าออกมาภายนอกก็สัมผัสถึงสายลมเย็นปลายฤดูใบไม้ร่วงที่พัดเอื่อยๆทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินอยู่ห่างๆกันรู้สึกสดชื่น
    "มาทางนี้ " สายฟ้าเหลือบซ้ายแลขวาก่อนเดินตามเงารางเก้าสีของลูกบอลประหลาดที่ทอแสงอ่อนๆกลางอากาศไปอย่าง
    รวดเร็ว
     
    ลูกบอลเก้าสีลอยนำเด็กน้อยจากเมืองไทยผ่านอุโบสตหลายหลัง ผ่านกุฏิที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าไผ่ที่ส่งเสียงเสียดสีกันพัดสบัดไหว มาถึงหน้าผาตัดหลังวัดเส้าหลิน
    ด้านล่าง ทะเลทุ่งนาขั้นบันใดทอดตัวเรียงยาวไกลสุดสายตาเรียงยาวออกไปไกลสุดเส้นขอบฟ้าสีคราม บนหน้าผาตัดมี
    แท่นหินสีขาวเรืองรองสูงขึ้นมาจากพื้นเมตรคลึ่ง ตั้งนิ่งอยู่ยื่นออกไปในอากาศที่ว่างเปล่าระยะหนึ่ง
    แท่นศิลาสีขาวสะอาดเก้าเหลี่ยมเปร่งประกายคมกริบอันตรายท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่สาดทาทาบจนเผยให้เห็นเหลี่ยมแง่มุมที่คมกริบหน้าหวาดหวั่น
    เก้าเหลี่ยมแผ่ขยายออกเป็นเหมือนกรีบดอกไม้หินทั้งเก้าเหลี่ยมต่างสีสรรเปร่งประกายเยือกเย็นอันตรายออกมาแตกต่างกันออกไป
    สายฟ้าวัยห้าขวบเก้าเข้าหาแท่นหินหลังวัดเส้าหลินที่แผ่คลื่นพลังประหลาดออกกระจายไปในผืนอากาศจนสั่นสะเทือนเป็นเกรียวคลื่น
    "ส่งกระบี่นวอสูรมาเด็กน้อย " เสียงเรียบเย็นดังกังวาลออกจากบอลประหลาดเก้าสีที่ลอยละล่องกลางอากาศบนแท่นหินสีขาวงดงาม
     
    สายฟ้าดวงตาเปร่งประกายระแวงดวงตาสีดำสนิทลึกเหมือนก้นเหวทั้งคู่ทอแววตัดสินใจบางอย่างที่
    เด็กน้อยวัยห้าขวบจะไม่มี
    กระบี่ไม้ในมือถูกยกเสมออกเหมือนสัญชาตญาณและสายเลือดที่ร้อนระอุกำลังเร่งเร้า เด็กตัวน้อยเก้าเข้าหาแท่นหินเก้าเหลี่ยมด้วยฝีเท้ามั่นคงและตวัดกระบี่ชี้ลงพื้นดินอย่างซ่อนอันตราย
    สายฟ้าจ้องนิ่งเข้าไปในบอลแสงเก้าสีที่กำลังไหลเวียนหมุนวนอย่างปั่นป่วนสาสมใจเหมือนอะไรบางอย่างที่พวกมันภายใน
    รอคอยมานานแสนนานกำลังจะสำเร็จ
    "เร็วๆเด็กน้อย " สายฟ้ายิ้มบางๆ ก่อนดวงตาจะเปร่งประกายคมกริบชั่วขณะ กระบี่ในมือตวัดออกไปเป็นสัญชาตญาณและ
    จิตวิญญาณของตัวกระบี่เป็นคนสั่งการ
    "เปลี้ยงๆๆๆเปลี้ยงๆๆๆเปลี้ยง " เสียงกึกก้องสนั่นเก้าครั้งซ้อน หินสีขาวแตกหักกระจุย เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนและ
    อาฆาตแค้นดังออกจากบอลเก้าสีก่อนมันจะหมุนวนอย่างบ้าครั่งและกลายเป็นสีแดงสดพุ่งเข้าหาสายฟ้าที่ถอยหลังไป
    หลายเก้า
    เสื้อยืดสีขาวพอดีตัวถูกพับแขนถึงข้อสอกเสื้อกั๊กลายสีแดงตัดดำที่สวมเปื้อนฝุ่นเล็กน้อยแต่สายฟ้าก็ไม่ได้สนใจ
    แทนที่เด็กน้อยจะกลัว กระบี่ในมือที่ถูกเก็บไว้ด้านหลังกลับกำลังพุ่งออกมาอีกครั้งเมื่อเด็กหนุ่มหมุนตัววาดกระบี่ในแนวของคลึ่งวงกลมฟันเปลี้ยงจน บอลเก้าสีกระเด็นไปไกล สายฟ้ากรีดกระบี่จากบนลงล่างปะทะกับบอลเก้าสีอีกครั้ง จนเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดทรมานอาฆาตโหยหวนดังออกมาดังระงม ก่อนร่างเล็กของเด็กชายจะสะบัดกระบี่ในมือขวาหมุนตัวส่งไปยึดนิ่งในมือซ้ายและซัดออกไปปักบอลเก้าสีตรึงนิ่งกับแท่งหินสีขาวที่เริ่ม
    แหลกละเอียดเป็นผุยผง
    " เด็กน้อย เจ้าทำอะไร? "
     สายฟ้าทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินเข้ามาดูตามประสาเด็กอยากรู้ว่าบอลเก้าสีนี้ที่จริงคืออะไรกันแน่
    "อะไรกันเนี่ย ไม่สนุกเลยบอลบ้านี่เตะก็ไม่ได้ " สายฟ้าพูดพร้อมหันหลังกลับเตรียมจะเก้าเท้าเดินจากไปแต่ ก็ต้องชะงักเพราะเสียงโอดครวญดังระงมออกมาจากบอลแสงเก้าสี
    "เดี๋ยวนายท่านได้โปรดอย่าพึ่งทิ้งพวกเราไปได้โปรดปลดปล่อยพวกเราเถอะ โทษทันที่พวกข้าได้รับช่างหนักหนาสาหัดนัก "
    เด็กน้อยปลายตามองอย่างเยาะเย้ย และพูดเป็นเชิงสะใจ
     " ในที่สุดบอลประหลาดนี่ก็ต้องกลายเป็นของเล่นของเราอยู่ดี "
    หากเด็กหนุ่มตัวน้อยรู้ว่าบอลเก้าสีนี่คืออะไรละก็คงไม่คิดอยากจะเล่นกับมันอีก
    "ว่ามาสิ " บอลเก้าสีเกิดการไหลวนพร้อมกับน้ำเสียงที่ประสานกันขึ้นระงม
    " นายท่านได้โปรดปลดปล่อยข้า ส่วน ไอ้แปดตัวที่เหลือเอาไว้เหมือนเดิม "
     "นายท่านอย่าได้ไปสนไอ้มารมนตรา นายท่านปลดปล่อยข้า มารจักรวาล คนนี้เถอะ "
     " เฮ้ยพวกแก นายท่านไม่ต้องสนสองตัวนี่ข้ามีประโยชน์กว่าพวกมันเยอะ " และเสียงอื้ออึงก็ตามมาจนสายฟ้าได้แต่ทุบพื้นอย่างอารมณ์เสีย
    " ไปละนะ เล่นด้วยไม่สนุกเลย " เพียงแค่สายฟ้าพูดและลุกขึ้น เสียงร้องโหยหวนตัดพ้อต่อว่าก็ดังออกมาจากบอลเก้าสีอีกครั้งจนเด็กน้อยต้องหันมามองอย่างไม่พอใจ
    "พวกเจ้าหยุด นายท่านเริ่มขึ้นแล้ว "เสียงตวาดอย่างทรงอำนาจและรำคาญทำให้ทุกเสียงหยุดลง
    ใน
    ฉับพลัน
    สายฟ้าพยักหน้ารับอย่างอารมณ์ดีขึ้นมานิดหนึ่งก่อนน้ำเสียงเรียบของเขาจะเอ่ยถามต่อ
    " พวกแกเป็นตัวอะไรกันอธิบายมา "
    " นายท่านนนพวกเรา " น้ำเสียงประสานขึ้นจนเด็กน้อยต้องหยิบก้อนหินโยนใส่บอลแสงที่โดนกระบี่ไม้ตรึงติดกับแท่นหิน
    เก้าเหลี่ยม จนพวกมันเงียบกริบไปอีกครั้ง
    " ว่ามา " สายฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามข่มอารมณ์ที่จะไม่ลุกไปกระทืบบอลแสงข้างหน้าให้เละคาเท้า
    "พวกเราคือ เก้าเทวอสูร ในตำนานอัญแสนไกลโพ้นมาแล้วนายท่านพวกเรามีทั้งหมดเก้าจิตรวมกับท่านก็เป็นสิบพอดี "
     สายฟ้าขมวดคิ้วฉับด้วยปัญญาของเด็กวัยห้าขวบทำให้เขาสงใสกับคำพูดของเสียงประหลาดที่
    ดังออกมาจากภายใน
    "พวกเราทั้งเก้าประกอบด้วย

    จอมราชาเทพอสูร ซีหวิน

    จอมเทพมารขาวดำ หยางเจี้ยน

    จอมพูตมนตรา หลานฟง

    เทพอสูรอาถัน ฉีหลิง

    จักรพรรดิจักรวาล ฝางหมิง

    เทพอสูรเพลิงศักสิทธิ์ เกาเสียน

    เทพมารธันดารา เสี้ยวเล้ง

    หมื่นยุทธจันทรา เฟิยหลิง

    เทวมารเนตรโลหิต หานหลิง ...

    และท่านก็คือ จักรพรรดิเทพกระบี่มาร หลิงเทียน "

    สายฟ้าในวัยห้าขวบทำหน้าอึ้งๆกับคำบอกเล่าของเสียงประหลาด ถึงตอนนี้เด็กน้อยก็ยังทำหน้าไม่เข้าใจ
    "ตอบมาเรื่องทั้งหมดนี่ไม่ใช่ โกหกใช่ไม๊ "
    "โท่....นายท่านถ้าข้าโกหกท่านจะได้พบพวกข้ารึปล่าวละ โปรดใช้ปัญญาไตร่ตรองด้วย " สายฟ้าทำหน้าเย็นชาอย่าง
    ปัจจุบันทันด่วน
    " ใครพูด? "
     นิสัยของเด็กเอาแต่ใจเกิดขึ้นมาทันที
     "เทพอสูรอาถัน ฉีหลิง พูดเองมีอะไรรึปล่าวนายท่าน " สายฟ้าทำหน้าเย็นก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ
    " จะไม่ปล่อยไปแน่ๆ เทพอสูรอาถัน อะไรนี่เตรียมตายเถอะ "
    " ห้าๆ ถูกแล้วครับนายท่าน " เสียงสนับสนุนดังออกจากบอลแสงเก้าสีที่เริ่มเปร่งแสงเลื่อมพรายดั่งอัญมณีน้ำงาม
    " นี่ จะทำอะไรก็รีบๆทำพวกแก แล้วก็นายท่านด้วย ใกล้จะได้เวลาที่เครื่องบินกลับเมืองไทยเที่ยวสุดท้ายของวันจะออกแล้วนะ "
    เด็กชายสายฟ้ายิ่งทำหน้าทึ่งเข้าไปอีกกับความแปลกประหลาดและความสามารถสุดยอดของบอลแสงเก้าสีตรงหน้า
    "ว่ามา " สายฟ้ายืนนิ่งกอดอกปลายตามองที่บอลเก้าสีที่เริ่มร้าวและแตกสลายกลายเป็นหมอกเก้าสีหมุนวนม้วนตัวแยกออกจากกันไปคนละทาง

    "ฟู่วววๆๆ!!  “
    ออร่าเก้าสีเปร่งประกายสว่างไสวใต้แสงตะวันที่แผดจ้าจนแทบลืมตาขึ้นไม่ได้
    "จิตวิญญาณของข้าขอผูกพันธุ์อยู่กับท่าน มังกรเทพกระบี่มาร หลิงเทียน "
    ลำแสงเก้าสี โดยเริ่มจาก
     แดงจ้า
     เขียวคราม
     เหลืองอบอุ่น
     ขาวสว่าง
     เงินยวง
     ดำมืด
     ฟ้าสดใส
    น้ำเงินอมครีมเปร่งประกายราวหยดน้ำค้างระยิบระยับ
    เทาสว่างไสว
     และจบลงด้วย สีทองเจิตจรัส
     
    สายฟ้ารับกระบี่ไม้กลับมาไว้ในมือซ้ายดวงตาสีดำสนิทเหลือบมองร่างจางๆของคนอีกเก้าคนที่ปรากฏขึ้นมาเคียงข้าง และเหมือนความทรงจำบางส่วนจะหวนกลับเข้าสู่สมองจนทำให้เด็กน้อยยืนนิ่งและค่อยครี่ยิ้มเย็นออกจากมุมปากพร้อมบรรยากาศที่มืดทะมึนลงฉับพลัน.....
     


     
    แค่น้ำจิ้มแบบเริ่มๆก่อนนะคร้าบบ 555
    ขอจบตอนแค่นี้นะครับ รู้สึกยาวไปยังไงไม่รู้555
    ตัวผมนั้นพึ่งเป็นนักเขียนหน้าใหม่ หากนักอ่านมีข้อติชม จะถือเป็นพระคุณมากครับ 555
    เจอกันในตอนต่อไป เริ่มตำนาน 3


    By ghost snow


    ………………..***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×