คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1
บทที่ 1
เส้นรุ้งพาดข้ามผ่านฟากฟ้าบูรพา แสงเงินแสงทองเรื่อเรืองรำไรสาดส่องผ่านเข้าหน้าต่างไม้บานเล็กเป็นลำยาว
ภายในบ้านคลึ่งไม้คลึ่งปูนสตายไทยผสมโมเดิลยุโรปอย่างลงตัว
ครอบครัวเล็กๆ ของเด็กสาวร่างบางเพรียวในชุดนักเรียนสีขาวสะอาด
กำลังนั่งคุยกันตอนเช้าเป็นกิจวัด ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนในสังคม
“ แม่..... เมื่อคืนกวิ้นฝันแบบนั้นจริงๆ น้ะ บอกพ่อ พ่อก็ไม่เชื่อ “
ลูกสาวมุ่นหัวคิ้วเรียวโค้งราวจันทร์เสี้ยวดำสนิทได้รูปงาม รับกับดวงตาสีดำเข้มทรงเสน่ห์ที่จ้องแม่อย่างขอความเห็นใจผสมความหงุดหงิด
“ จะแม่ก็เชื่อกวิ้นอยู่แล้ว “ หญิงสาววัยสี่สิบต้นๆ ลูบหัวลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างเอ็นดู
อีกฝั่งหนึ่งมีชายหนุ่มวัยเดียวกันมองมาด้วยรอยยิ้มที่แสดงความไม่เชื่อถือลูกสาวสุดรัก
“ โอ่ย เด็กๆ รีบกินข้าวแล้วไปทำงานได้แล้วดีกว่า “ คุณยายซึ่งเป็นญาติทางแม่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของครอบครัวเล็กๆ เอ่ยขัดจังหวะของสองแม่ลูก
“ ยายก็ไม่เชื่อหนูหรอ โรงเรียนที่จะไปตอนเนี่ยมันมีผี~~ “
เด็กสาวยังพยายามย้ำเสียงจริงจัง แต่เธอคงต้องถอดใจ เพราะแม้แต่แม่ที่บอกว่าเชื่อเธอยังส่ายหน้าและอมยิ้ม
เพนกวิ้น หรือ เพนกวิน รัฐเมนาวิน
เดินออกจากประตูบ้านด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว
ร่างสูงโปร่งของเธอออกจะสูงเกินมาตรฐานของเด็กสาววัยสิบห้าไปบ้าง รับกับเรือนผมยาวและดวงหน้าเนียน ที่ถึงแม้จะไม่ได้สวยเด่นเหมือนเพื่อนสนิทแต่ก็ทรงเสน่ห์จนยากที่ใครที่เคยเห็นจะลืมเธอไป
ดวงเนตรสีเดียวกับรัตติกาล ริมฝีปากอิ่มสีชมพูอ่อนและจมูกเชิดแสดงความแก่นและเกรียนได้ดีกว่าอะไร
เธอจัดว่าเป็นเด็กขั้นกลางในห้องเรียน การเรียนตลอดในชั้นมัธยมต้นของเธอนั้น ถือว่าผ่านมาได้แบบถ้าใครไม่รู้ว่าเธอเป็นคนเก่งมาโดยกำเนิด คงจะคิดว่าเธอดวงดี
และส่วนใหญ่ คนหมู่มากในห้องก็คิดว่าเธอมีอย่างหลังมากกว่าสิ่งแรก
โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์และชีวะ เธอจัดได้ว่าเป็นคนเก่งสามอันดับแรกของห้องได้เลย
บางครั้งเธอก็เบื่อที่มีคนมากมาย เข้ามารุมล้อม แต่ดูสิ ไม่จริงใจกันแม่งซักคน
เกรดเฉลี่ยนั้น ไม่สามารถวัดค่าของคนได้ ในความคิดของเธอ
และเช่นเดียวกัน การศึกษาก็ไม่ได้สอนให้นักเรียนต้องเดินตามรอยครูเสียทุกอย่าง
เพนกวิ้น จัดเป็นทั้งเด็กเรียนและเด็กเกรียนไปในคนเดียวกัน
แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังอุตส่าห์มีเพื่อนสนิทกับเขา
และสองคนนั่น พูดได้เต็มปากเต็มคำได้ว่าต่างจากเธอสุดๆ
แมวน้ำ ถ้าพูดถึงแม่นี่ ไม่มีเพื่อนคนไหนในห้องเก่งภาษาอังกฤษระดับมือโปรไปกว่าเธอแล้ว
และยิ่งไปกว่านั้น ก็คือความลับของเพื่อนสาวร่างเพรียวสวมแว่นหน้านิ่งคนนั้น
ที่มีเพียงเธอและโลมาที่รู้ กันแค่สองคนก็คือ
แมวน้ำนะ พูดได้มากกว่าภาษาอังกฤษ
ทั้ง ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ฝรั่งเศส เยอรมัน รัสเซีย อียิปต์ อาหรับ และภาษาละตินโบราณ
เพราะมีพ่อเป็นนักภาษาศาสตร์และแม่เป็นครูสอนภาษาที่หากใครไม่รู้ว่า ทั้งพ่อและแม่ของแมวน้ำ นั้นเก่งถึงคนละ
หกภาษาก็จะไม่แปลกใจเลยหละว่าทำไมลูกสาวเพียงคนเดียวถึงเก่งขนาดนี้
ส่วนเพื่อนสนิทอีกคน
เพนกวิ้นยิ้มมุมปากอย่างลืมตัว
หากจะพูดถึงความเก่งด้านการเรียน รับรองว่าถ้าโลมา ไม่เกรดสี่ เคมี ฟิสิกส์ และคอมพิวเตอร์แล้ว คงจะไม่มีใครสี่อีก
ที่เธอคิดนี่ไม่ได้อวดน้ะ
โลมา เด็กสาวหน้าสวย ท่าทางดูเนี๊ยบเรียบร้อย
ที่จริงเธอเป็นแฮ็กเกอร์มือพระกาล ถ้าไม่มีใครรู้จักเธอจริงๆ ก็คงไม่รู้
แต่ชาวโซเชียลทั่วโลก จะรู้จักเธอใน รหัสลับ ปลาน้อยผู้ช่วยเหลือคนจมน้ำ
ที่เคยทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตหลายประเทศในอดีตเมื่อสามปีที่แล้วล่มติดๆ กันนานกว่าหกเดือน จนสร้างกระแสกระหึ่ม ไปทั่วโลก
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าลองดีกับแฮ็กเกอร์ขั้นเทพคนนี้อีก
ทำให้ชีวิตนักเรียนสาวใสๆ ในประเทศนี้ของเธออยู่อย่างสุขสงบ
วันๆ ก็เอาแต่เล่นเกมส์ และอยู่กับเพื่อนสนิทไปวันๆ
“ โฮ่งๆ~~ “
เพนกวิ้นหลุดจากผวังมองลงบนพื้น สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้สีน้ำตาลขาวใช้ปากเล็กๆ งับชายกระโปรงเธอจนเด็กสาวกระตุกตัวลงนั่งแทบไม่ทัน
“ นี่แกจะดึงกระโปรงฉันทำบ้าอะไรฮ้ะ? “
เพนกวิ้นใช้มือง้างปากลูกหมาที่กระดิกหางและจ้องเธอด้วยแววตาบ้องแบ๊วไร้เดียงสา
“ มองแบบนี้ อยากกินขนมหรอ เสียใจไม่มี “
คำพูดตัดเยื่อไยทำให้หมาน้อยหางตก แต่กลิ่นหอมของขนมที่คุ้นเคยก็ทำให้มันน้ำลายยืดอย่างลืมตัว
“ กลับเข้าบ้านก่อนแล้วจะให้ “
เพนกวิ้นชูขนมในมือโบกไปมาตรงหน้าหมาน้อยที่กระโดดขึ้นพยายามไล่งับขนมที่ลอยอยู่ตรงหน้า
“ ไม่มีวันหรอก “ เด็กสาวหัวเราะร่าก่อนจะเตรียมลุกขึ้นวิ่ง
“ เฮ้ย ไอ้กวิ้น ไปโรงเรียนน้ะ นี่แก มัวทำไรอยู่~~~~ “
เสียงคุณยายที่ตะโกนมาจากในบ้านทำให้เพนกวิ้นรีบกระตุกตัวคว่างขนมเข้าไปในบ้านที่เจ้าลูกหมาก็รีบกระโดดตามไปงับไว้อย่างยินดี
เด็กสาวปัดไม้ปัดมือก่อนจะรีบวิ่งออกไปหน้าซอย ก่อนคุณยายจะออกมาไล่ไปโรงเรียน
ทิ้งให้เจ้าหมาน้อยมองตามเธอไปด้วยดวงตางงๆ
ไม่เข้าใจว่าเจ้านายของมันจะรีบอะไรขนาดนั้น……
…
ในยามเช้าๆ แบบนี้ มีนักเรียนเดินเข้าโรงเรียนทางประตูหลังไม่มากเท่าไร
เพนกวิ้นมองบรรยากาศอึมคลึมรอบด้านอย่างแปลกใจ ไม่บ่อยนักที่โรงเรียนใหญ่แห่งนี้ จะมีความเงียบสงัดราวไม่มีคนอยู่
ดวงตาไล่ปลาดมองไปตามทางที่มีคนรุมสนใจกันเป็นจำนวนมาก
และที่นั่นเธอได้พบเพื่อนสนิททั้งสองที่ทั้งสามมักใจตรงกันเดินเข้าสู่ประตูทางด้านหลัง
” วันนี้มันมีอะไรกันที่สวนเกษตร? “ เพนกวิ้นบ่นกับตัวเองอย่างสงสัย
ได้ยินคำถามอย่างไม่ใส่ใจของเพนกวิ้น
เด็กสาวผมยาวผิวขาว สวมแว่นตากรอบใสและใบหน้านิ่งก็หันมาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบที่ดูปิดบังความตื่นเต้นไม่มิด
“ เกิดการฆาตกรรมที่นี่ “ เพนกวิ้นตกใจเล็กน้อย ก่อนดวงตาจะมุ่งเข้าไปมองหลังเชือกสีเหลืองที่ห้ามบริเวณไว้
แล้วขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ เมื่อคืน คนสวนของโรงเรียนกับหมาของเขาตายที่นี่ แล้วกว่าจะมีคนมาเจอศพก็เละไม่เหลือชิ้นดีเลย เขาเล่ากันว่า
คนสวนคอขาดกระเด็นเลย เลือดนี่ไหลนองเต็มพื้นนี่เลย “
ความสดใสของน้ำเสียงโลมาทำให้เพนกวิ้นรู้สึกตงิดๆ นี่เล่าถึงคนตายอยู่ไม่ใช่เหรอคุณเธอ
“ ตำรวจมาตรวจแต่เช้าละ แต่ไม่ได้หลักฐานอะไรกลับไปเลย “ น้ำเสียงเนิบๆ ของแมวน้ำที่ยกขนมปังขึ้นมากัด
หน้าตาเฉย ไม่ได้เกรงใจสถานที่ ที่เคยเกิดเหตุฆาตกรรมสุดสยองแม้แต่น้อย
“ โรงเรียนเราไม่ได้มีเรื่องแปลกเรื่องเดียวหรอกน้ะ “
น้ำเสียงทักทายของเพื่อนกลุ่มใหญ่ร่วมห้องเดินเข้ามาสมทบกับสามสาวที่กลอกตาอย่างเบื่อๆ แต่พอได้ยินสิ่งที่เด็กสาว
ผู้มาใหม่พูด ทุกคนก็มุ่งความสนใจไปที่เธอทันที
“ มีไรเหรอนีโม่? “ จิตวิญญาณนักวิทยาศาสตร์ เข้าสิงร่างของเพนกวิ้นกะทันหันทำให้เธออยากรู้อยากเห็นขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน
“ เมื่อคืนเหมือนกันแหละ ชาวบ้านที่อยู่รอบๆ รั้วโรงเรียน ร้องเรียนเข้ามาว่าทำไมต้องเล่นเปียโนกับพิญตอนเที่ยงคืน นอกจากจะน่ากลัวแล้ว ยังรบกวนพวกเขาอีกด้วย พอโรงเรียนไปตรวจตอนเช้านี่นะสิ พวกเธอคิดว่าเกิดอะไรขึ้น? “
เพนกวิ้นไม่ชอบท่าทางเหมือนมีความลับของเพื่อนสาวผมสั้นตาคมที่หยุดไปเสียแบบนั้น
“ มีไรก็ว่าไปสิ “ เพนกวิ้นชักเซ็ง
“ เลือดที่ไหนไม่รู้สาดเต็มห้องดนตรีเลย แดงสด ไม่แห้งคาวนี้แบบชัดเจนมาก เหมือนคนซักสิบคนเลือดสาดอย่างกับ
หนังสยองขวัญ “
เพื่อนสาวตัวเล็กผิวสีแทนพูดขึ้นบ้าง
“ งั้นหรอชาเย็น “ โลมาก็ชักจะสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนตามประสาเด็กรักความท้าทายไปบ้าง
“ อืมม อีกเรื่องแปลกๆ น้ะ มีคนบอกว่า พื้นชั้นห้าของตึกวิทยุบลงเป็นแถบกระเบื้องนี่แตกยับซ่อมกันวุ่นวายมาก
มีแต่เรื่องแปลกๆ เกิดในโรงเรียนเราน้ะเมื่อคืน “ เพื่อนสาวร่างสูงผมสั้นอีกคนพูดเหมือนกัน
“ อาจจะมีคนทำของล้มก็ได้ “ แมวน้ำบอกอย่างไม่ใส่ใจ
“ ของล้มบ้าอะไรมีรอยเท้าใหญ่กว่าห้าสิบเซนเต็มพื้น เทียบเท้าใหญ่สุดในโรงเรียน ยังไม่ได้เท่าไรเลย “ ประเด็นที่
เพื่อนสาวตัวสูงยกมาแย้งทำให้แมวน้ำเลิกคิ้ว
“ หมายความว่ามีคนน้ำหนักซักสามร้อยกิโล ไปเหยียบจนกระเบื้องปูพื้นแตกหมด เธออยากบอกแบบนี้หรอน้ำเย็น? “
เพนกวิ้นนิ่งขลึมไปตั้งแต่เรื่องของตึกดนตรี เลือดสาดย้อมตึก และยิ่งมาได้ยินเรื่องของรอยเท้าปริศนาบนชั้นห้าของอาคารวิทยาศาสตร์อีก
ทำให้เธอขนลุกขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
เมื่อนีโม่ ชาเย็นและน้ำเย็นพร้อมเพื่อนคนอื่นที่ยืนฟังเงียบๆ เดินแยกไปทางโรงอาหารแล้ว สามสาวก็เก้าออกจาก
จุดเกิดเหตุบ้าง
โดยไม่มีใครรู้เลยว่าสายตาสยดสยองคู่หนึ่งจ้องตามไปอย่างลิงโลดและมาดร้าย
“ หน้าตาแบบนี้มีอะไรจะพูดรึปล่าวครับ? “ โลมาเอ่ยถามเพนกวิ้นขณะที่ทั้งสามสาวทอดฝีเท้าเดินเอื่อยๆ ผ่านอาคาร
คณิตศาสตร์ สังคม และมุ่งไปยังอาคารภาษาไทยที่เป็นอาคารเรียนของพวกเธอ
“ มีน้ะ แต่กลัวพวกเธอจะบอกฉันว่าบ้า “ เพนกวิ้นพูดตรงๆ
ดวงตานิ่งๆ ของแมวน้ำมองตาเพื่อนสาวเล็กน้อย ก่อนกลับไปอ่านตัวหนังสือในสมุดต่อ แต่ปากก็ยังลองหยั่งเชิงเพื่อนสาวที่ไม่บ่อยนักจะได้เห็นมุมขลึมๆ แบบนี้
“ ว่าไปก่อนสิ? “
“ โอ้ย ไม่หละ เดี๋ยวพวกเธอว่าฉันบ้าไปใหญ่ “
เพนกวิ้นปฏิเสททันควัน
“ แสดงว่าเรื่องที่จะพูดมันเกินสามัญสำนึกสิน้ะ “ น่าแปลกที่ โลมาเดาความคิดของเพนกวิ้นได้ถูกเผง
เพนกวิ้นเลิกคิ้วให้เป็นคำถาม
ก่อนจะได้รับคำตอบที่ชวนตกตลึง
“ เมื่อคืนฉันฝันถึง สามเรื่อง….. “
“ อืมม ฉันก็ด้วยน้ะ ไม่รู้จะเหมือนกันรึปล่าว แต่เป็น
เรื่องดวงตาสีแดงบนตึกวิท
เรื่องเสียงเปียโนกับพิญโบราณ
แล้วก็.......คนคอขาดกระเด็นที่สวนนี่ “ ถึงแม้น้ำเสียงเรียบของแมวน้ำจะยังเฉยเมย แต่ลึกๆ เพนกวิ้นก็ยังสัมผัสถึงความหนาวเหน็บอันน่ากลัวได้………………….
By ผีหิมะ
…………………………….***
ความคิดเห็น