ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the three haunt of high school.

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 60


    บทที่ 1

     

     

        เส้นรุ้งพาดข้ามผ่านฟากฟ้าบูรพา แสงเงินแสงทองเรื่อเรืองรำไรสาดส่องผ่านเข้าหน้าต่างไม้บานเล็กเป็นลำยาว

    ภายในบ้านคลึ่งไม้คลึ่งปูนสตายไทยผสมโมเดิลยุโรปอย่างลงตัว

    ครอบครัวเล็กๆ ของเด็กสาวร่างบางเพรียวในชุดนักเรียนสีขาวสะอาด

    กำลังนั่งคุยกันตอนเช้าเป็นกิจวัด ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนในสังคม

      แม่..... เมื่อคืนกวิ้นฝันแบบนั้นจริงๆ น้ะ บอกพ่อ พ่อก็ไม่เชื่อ

    ลูกสาวมุ่นหัวคิ้วเรียวโค้งราวจันทร์เสี้ยวดำสนิทได้รูปงาม รับกับดวงตาสีดำเข้มทรงเสน่ห์ที่จ้องแม่อย่างขอความเห็นใจผสมความหงุดหงิด

      จะแม่ก็เชื่อกวิ้นอยู่แล้ว หญิงสาววัยสี่สิบต้นๆ ลูบหัวลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างเอ็นดู

    อีกฝั่งหนึ่งมีชายหนุ่มวัยเดียวกันมองมาด้วยรอยยิ้มที่แสดงความไม่เชื่อถือลูกสาวสุดรัก

      โอ่ย เด็กๆ รีบกินข้าวแล้วไปทำงานได้แล้วดีกว่า คุณยายซึ่งเป็นญาติทางแม่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของครอบครัวเล็กๆ เอ่ยขัดจังหวะของสองแม่ลูก

      ยายก็ไม่เชื่อหนูหรอ โรงเรียนที่จะไปตอนเนี่ยมันมีผี~~

    เด็กสาวยังพยายามย้ำเสียงจริงจัง แต่เธอคงต้องถอดใจ เพราะแม้แต่แม่ที่บอกว่าเชื่อเธอยังส่ายหน้าและอมยิ้ม

     

    เพนกวิ้น  หรือ  เพนกวิน  รัฐเมนาวิน

    เดินออกจากประตูบ้านด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว

    ร่างสูงโปร่งของเธอออกจะสูงเกินมาตรฐานของเด็กสาววัยสิบห้าไปบ้าง รับกับเรือนผมยาวและดวงหน้าเนียน ที่ถึงแม้จะไม่ได้สวยเด่นเหมือนเพื่อนสนิทแต่ก็ทรงเสน่ห์จนยากที่ใครที่เคยเห็นจะลืมเธอไป

    ดวงเนตรสีเดียวกับรัตติกาล ริมฝีปากอิ่มสีชมพูอ่อนและจมูกเชิดแสดงความแก่นและเกรียนได้ดีกว่าอะไร

    เธอจัดว่าเป็นเด็กขั้นกลางในห้องเรียน การเรียนตลอดในชั้นมัธยมต้นของเธอนั้น ถือว่าผ่านมาได้แบบถ้าใครไม่รู้ว่าเธอเป็นคนเก่งมาโดยกำเนิด คงจะคิดว่าเธอดวงดี

    และส่วนใหญ่ คนหมู่มากในห้องก็คิดว่าเธอมีอย่างหลังมากกว่าสิ่งแรก

    โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์และชีวะ เธอจัดได้ว่าเป็นคนเก่งสามอันดับแรกของห้องได้เลย

    บางครั้งเธอก็เบื่อที่มีคนมากมาย เข้ามารุมล้อม แต่ดูสิ ไม่จริงใจกันแม่งซักคน

    เกรดเฉลี่ยนั้น ไม่สามารถวัดค่าของคนได้ ในความคิดของเธอ

    และเช่นเดียวกัน การศึกษาก็ไม่ได้สอนให้นักเรียนต้องเดินตามรอยครูเสียทุกอย่าง

    เพนกวิ้น จัดเป็นทั้งเด็กเรียนและเด็กเกรียนไปในคนเดียวกัน

    แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังอุตส่าห์มีเพื่อนสนิทกับเขา

    และสองคนนั่น พูดได้เต็มปากเต็มคำได้ว่าต่างจากเธอสุดๆ

    แมวน้ำ ถ้าพูดถึงแม่นี่ ไม่มีเพื่อนคนไหนในห้องเก่งภาษาอังกฤษระดับมือโปรไปกว่าเธอแล้ว

    และยิ่งไปกว่านั้น ก็คือความลับของเพื่อนสาวร่างเพรียวสวมแว่นหน้านิ่งคนนั้น

    ที่มีเพียงเธอและโลมาที่รู้ กันแค่สองคนก็คือ

    แมวน้ำนะ พูดได้มากกว่าภาษาอังกฤษ

    ทั้ง  ญี่ปุ่น  จีน  เกาหลี  ฝรั่งเศส  เยอรมัน  รัสเซีย  อียิปต์  อาหรับ  และภาษาละตินโบราณ

    เพราะมีพ่อเป็นนักภาษาศาสตร์และแม่เป็นครูสอนภาษาที่หากใครไม่รู้ว่า ทั้งพ่อและแม่ของแมวน้ำ นั้นเก่งถึงคนละ

    หกภาษาก็จะไม่แปลกใจเลยหละว่าทำไมลูกสาวเพียงคนเดียวถึงเก่งขนาดนี้

    ส่วนเพื่อนสนิทอีกคน

    เพนกวิ้นยิ้มมุมปากอย่างลืมตัว

    หากจะพูดถึงความเก่งด้านการเรียน รับรองว่าถ้าโลมา ไม่เกรดสี่ เคมี  ฟิสิกส์ และคอมพิวเตอร์แล้ว คงจะไม่มีใครสี่อีก

    ที่เธอคิดนี่ไม่ได้อวดน้ะ

    โลมา เด็กสาวหน้าสวย ท่าทางดูเนี๊ยบเรียบร้อย

    ที่จริงเธอเป็นแฮ็กเกอร์มือพระกาล ถ้าไม่มีใครรู้จักเธอจริงๆ ก็คงไม่รู้

    แต่ชาวโซเชียลทั่วโลก จะรู้จักเธอใน รหัสลับ ปลาน้อยผู้ช่วยเหลือคนจมน้ำ

    ที่เคยทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตหลายประเทศในอดีตเมื่อสามปีที่แล้วล่มติดๆ กันนานกว่าหกเดือน จนสร้างกระแสกระหึ่ม ไปทั่วโลก

    หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าลองดีกับแฮ็กเกอร์ขั้นเทพคนนี้อีก

    ทำให้ชีวิตนักเรียนสาวใสๆ ในประเทศนี้ของเธออยู่อย่างสุขสงบ

    วันๆ ก็เอาแต่เล่นเกมส์ และอยู่กับเพื่อนสนิทไปวันๆ

     

      โฮ่งๆ~~

    เพนกวิ้นหลุดจากผวังมองลงบนพื้น สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้สีน้ำตาลขาวใช้ปากเล็กๆ งับชายกระโปรงเธอจนเด็กสาวกระตุกตัวลงนั่งแทบไม่ทัน

      นี่แกจะดึงกระโปรงฉันทำบ้าอะไรฮ้ะ?

    เพนกวิ้นใช้มือง้างปากลูกหมาที่กระดิกหางและจ้องเธอด้วยแววตาบ้องแบ๊วไร้เดียงสา

      มองแบบนี้ อยากกินขนมหรอ เสียใจไม่มี

    คำพูดตัดเยื่อไยทำให้หมาน้อยหางตก แต่กลิ่นหอมของขนมที่คุ้นเคยก็ทำให้มันน้ำลายยืดอย่างลืมตัว

      กลับเข้าบ้านก่อนแล้วจะให้

    เพนกวิ้นชูขนมในมือโบกไปมาตรงหน้าหมาน้อยที่กระโดดขึ้นพยายามไล่งับขนมที่ลอยอยู่ตรงหน้า

      ไม่มีวันหรอก เด็กสาวหัวเราะร่าก่อนจะเตรียมลุกขึ้นวิ่ง

      เฮ้ย ไอ้กวิ้น ไปโรงเรียนน้ะ นี่แก มัวทำไรอยู่~~~~

    เสียงคุณยายที่ตะโกนมาจากในบ้านทำให้เพนกวิ้นรีบกระตุกตัวคว่างขนมเข้าไปในบ้านที่เจ้าลูกหมาก็รีบกระโดดตามไปงับไว้อย่างยินดี

    เด็กสาวปัดไม้ปัดมือก่อนจะรีบวิ่งออกไปหน้าซอย ก่อนคุณยายจะออกมาไล่ไปโรงเรียน

    ทิ้งให้เจ้าหมาน้อยมองตามเธอไปด้วยดวงตางงๆ

    ไม่เข้าใจว่าเจ้านายของมันจะรีบอะไรขนาดนั้น……

     

     

    ในยามเช้าๆ แบบนี้ มีนักเรียนเดินเข้าโรงเรียนทางประตูหลังไม่มากเท่าไร

    เพนกวิ้นมองบรรยากาศอึมคลึมรอบด้านอย่างแปลกใจ ไม่บ่อยนักที่โรงเรียนใหญ่แห่งนี้ จะมีความเงียบสงัดราวไม่มีคนอยู่

    ดวงตาไล่ปลาดมองไปตามทางที่มีคนรุมสนใจกันเป็นจำนวนมาก

    และที่นั่นเธอได้พบเพื่อนสนิททั้งสองที่ทั้งสามมักใจตรงกันเดินเข้าสู่ประตูทางด้านหลัง

      วันนี้มันมีอะไรกันที่สวนเกษตร? เพนกวิ้นบ่นกับตัวเองอย่างสงสัย

     ได้ยินคำถามอย่างไม่ใส่ใจของเพนกวิ้น

    เด็กสาวผมยาวผิวขาว สวมแว่นตากรอบใสและใบหน้านิ่งก็หันมาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบที่ดูปิดบังความตื่นเต้นไม่มิด

      เกิดการฆาตกรรมที่นี่ เพนกวิ้นตกใจเล็กน้อย ก่อนดวงตาจะมุ่งเข้าไปมองหลังเชือกสีเหลืองที่ห้ามบริเวณไว้

     แล้วขมวดคิ้วอย่างสงสัย

      เมื่อคืน คนสวนของโรงเรียนกับหมาของเขาตายที่นี่ แล้วกว่าจะมีคนมาเจอศพก็เละไม่เหลือชิ้นดีเลย เขาเล่ากันว่า

     คนสวนคอขาดกระเด็นเลย เลือดนี่ไหลนองเต็มพื้นนี่เลย

    ความสดใสของน้ำเสียงโลมาทำให้เพนกวิ้นรู้สึกตงิดๆ นี่เล่าถึงคนตายอยู่ไม่ใช่เหรอคุณเธอ

      ตำรวจมาตรวจแต่เช้าละ แต่ไม่ได้หลักฐานอะไรกลับไปเลย น้ำเสียงเนิบๆ ของแมวน้ำที่ยกขนมปังขึ้นมากัด

    หน้าตาเฉย ไม่ได้เกรงใจสถานที่ ที่เคยเกิดเหตุฆาตกรรมสุดสยองแม้แต่น้อย

     โรงเรียนเราไม่ได้มีเรื่องแปลกเรื่องเดียวหรอกน้ะ

    น้ำเสียงทักทายของเพื่อนกลุ่มใหญ่ร่วมห้องเดินเข้ามาสมทบกับสามสาวที่กลอกตาอย่างเบื่อๆ แต่พอได้ยินสิ่งที่เด็กสาว

    ผู้มาใหม่พูด ทุกคนก็มุ่งความสนใจไปที่เธอทันที

      มีไรเหรอนีโม่? จิตวิญญาณนักวิทยาศาสตร์ เข้าสิงร่างของเพนกวิ้นกะทันหันทำให้เธออยากรู้อยากเห็นขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน

      เมื่อคืนเหมือนกันแหละ ชาวบ้านที่อยู่รอบๆ รั้วโรงเรียน ร้องเรียนเข้ามาว่าทำไมต้องเล่นเปียโนกับพิญตอนเที่ยงคืน นอกจากจะน่ากลัวแล้ว ยังรบกวนพวกเขาอีกด้วย  พอโรงเรียนไปตรวจตอนเช้านี่นะสิ พวกเธอคิดว่าเกิดอะไรขึ้น?

    เพนกวิ้นไม่ชอบท่าทางเหมือนมีความลับของเพื่อนสาวผมสั้นตาคมที่หยุดไปเสียแบบนั้น

      มีไรก็ว่าไปสิ เพนกวิ้นชักเซ็ง

      เลือดที่ไหนไม่รู้สาดเต็มห้องดนตรีเลย แดงสด ไม่แห้งคาวนี้แบบชัดเจนมาก เหมือนคนซักสิบคนเลือดสาดอย่างกับ

    หนังสยองขวัญ

    เพื่อนสาวตัวเล็กผิวสีแทนพูดขึ้นบ้าง

      งั้นหรอชาเย็น โลมาก็ชักจะสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนตามประสาเด็กรักความท้าทายไปบ้าง

      อืมม อีกเรื่องแปลกๆ น้ะ มีคนบอกว่า พื้นชั้นห้าของตึกวิทยุบลงเป็นแถบกระเบื้องนี่แตกยับซ่อมกันวุ่นวายมาก

     มีแต่เรื่องแปลกๆ เกิดในโรงเรียนเราน้ะเมื่อคืน เพื่อนสาวร่างสูงผมสั้นอีกคนพูดเหมือนกัน

      อาจจะมีคนทำของล้มก็ได้ แมวน้ำบอกอย่างไม่ใส่ใจ

      ของล้มบ้าอะไรมีรอยเท้าใหญ่กว่าห้าสิบเซนเต็มพื้น เทียบเท้าใหญ่สุดในโรงเรียน ยังไม่ได้เท่าไรเลย ประเด็นที่

    เพื่อนสาวตัวสูงยกมาแย้งทำให้แมวน้ำเลิกคิ้ว

      หมายความว่ามีคนน้ำหนักซักสามร้อยกิโล ไปเหยียบจนกระเบื้องปูพื้นแตกหมด เธออยากบอกแบบนี้หรอน้ำเย็น? 

     

      เพนกวิ้นนิ่งขลึมไปตั้งแต่เรื่องของตึกดนตรี เลือดสาดย้อมตึก และยิ่งมาได้ยินเรื่องของรอยเท้าปริศนาบนชั้นห้าของอาคารวิทยาศาสตร์อีก

    ทำให้เธอขนลุกขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

    เมื่อนีโม่ ชาเย็นและน้ำเย็นพร้อมเพื่อนคนอื่นที่ยืนฟังเงียบๆ เดินแยกไปทางโรงอาหารแล้ว สามสาวก็เก้าออกจาก

    จุดเกิดเหตุบ้าง

    โดยไม่มีใครรู้เลยว่าสายตาสยดสยองคู่หนึ่งจ้องตามไปอย่างลิงโลดและมาดร้าย

     

       หน้าตาแบบนี้มีอะไรจะพูดรึปล่าวครับ? โลมาเอ่ยถามเพนกวิ้นขณะที่ทั้งสามสาวทอดฝีเท้าเดินเอื่อยๆ ผ่านอาคาร

    คณิตศาสตร์ สังคม และมุ่งไปยังอาคารภาษาไทยที่เป็นอาคารเรียนของพวกเธอ

      มีน้ะ แต่กลัวพวกเธอจะบอกฉันว่าบ้า เพนกวิ้นพูดตรงๆ

    ดวงตานิ่งๆ ของแมวน้ำมองตาเพื่อนสาวเล็กน้อย ก่อนกลับไปอ่านตัวหนังสือในสมุดต่อ แต่ปากก็ยังลองหยั่งเชิงเพื่อนสาวที่ไม่บ่อยนักจะได้เห็นมุมขลึมๆ แบบนี้

      ว่าไปก่อนสิ?

      โอ้ย ไม่หละ เดี๋ยวพวกเธอว่าฉันบ้าไปใหญ่

    เพนกวิ้นปฏิเสททันควัน

    แสดงว่าเรื่องที่จะพูดมันเกินสามัญสำนึกสิน้ะ  น่าแปลกที่ โลมาเดาความคิดของเพนกวิ้นได้ถูกเผง

    เพนกวิ้นเลิกคิ้วให้เป็นคำถาม

    ก่อนจะได้รับคำตอบที่ชวนตกตลึง

      เมื่อคืนฉันฝันถึง สามเรื่อง….. “

      อืมม ฉันก็ด้วยน้ะ  ไม่รู้จะเหมือนกันรึปล่าว แต่เป็น

    เรื่องดวงตาสีแดงบนตึกวิท

    เรื่องเสียงเปียโนกับพิญโบราณ

    แล้วก็.......คนคอขาดกระเด็นที่สวนนี่ ถึงแม้น้ำเสียงเรียบของแมวน้ำจะยังเฉยเมย แต่ลึกๆ เพนกวิ้นก็ยังสัมผัสถึงความหนาวเหน็บอันน่ากลัวได้………………….

     

     

     

    By ผีหิมะ

     

     

    …………………………….***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×