คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ start haunt
ในค่ำคืนที่ผืนฟ้ามืดสนิททั่วทั้งผืน สายลมแรงพัดโบกสะบัดจนธงชาติผืนใหญ่โบกสะบัดไปตามกระแสลม
กิ่งไม้ยักษ์รอบโรงเรียนอายุกว่าร้อยปีเสียดสีกันเป็นเสียงกระซิบกระซาบ
ไฟนีออนสลัวๆ ตามจุดห่างๆ กันข้อนข้างเก่าเปร่งประกายทะมึน
ในเงามืดของอาคารเรียนเหมือนมีดวงตาน่าขนลุกจับจ้องทุกการกระทำของธรรมชาติ
เสียงสุนัขรอบโรงเรียนหอนโหยหวนเสียงยาว รับกันเป็นทอดๆ
ความหนาวเย็นบางอย่างแผ่ออกมาจากตึกใหญ่ตรงหน้าที่ตั้งทะมึนจนทำให้ผู้มาเยือนยามวิกาลสยิวกายเมื่อ
ความเย็นประหลาดพุ่งผ่านศีรษะจรดปลายเท้า
ขนทั่วร่างค่อยๆ ตั้งชันขึ้นอย่างไร้สาเหตุ
ดวงตาสามคู่เหมือนถูกดึงดูดขึ้นไปบนชั้นห้าที่เป็นห้องเรียนชีวะ
ที่นั่ง เงาตระหง่านของอาคารลับหายไป
หลงเหลือเพียงกระจกใสที่ผ้าม่านสีขาวโปร่ง โบกสะบัดอยู่ภายใน ทั้งๆ ที่กระจกทุกด้านปิดทึบ
เงาแสงรางๆ เริ่มสว่างขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
แต่ไม่ใช่แสงสีขาวสะอาดของแรงไฟนีออน
แต่มันเป็นแสงสว่างสีทับทิมแดงฉานจากเบ้ากลวงลึก ของ หุ่นทดลองทางชีวะ ที่กางแขนที่มีเพียงกระดูกออกกว้าง
เสียงกู่ร้องแหลมเล็กโหยหวนกรีดก้องรัตติกาล……..
“ พวกแก ต้องตายยยยยย!!!! “
…
อาคารสีขาวอ่อนเหลือบเหลืองเพราะน้ำมือของกาลเวลา
ส่องประกายทึบทึมและทรงมนตร์ขลังใต้แสงจันทร์ ในวันเพ็ญแปดค่ำ จันทรารูปเคียวโค้งดุจเสี้ยวของความมืดและ
แสงสว่างมาบรรจบกัน
ปกติแล้ว อาคารหลังนี้ จะมีนักเรียนอยู่ดึกที่สุด
เพราะเป็นที่รู้ดีกันทั่วไปเลยว่า
นักดนตรี ต้องซ้อมหนักอยู่สม่ำเสมอและเป็นประจำ
ไม่มีการเมตตาหรืออ่อนซ้อม เพราะดนตรี ถือเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ที่ต้องใช้การฝึกฝนและความเชี่ยวชาญส่วนบุคคล
และยิ่งเป็นดนตรีที่เล่นรวมวงแล้ว ความสามัคคี จะต้องไม่มีความผิดพลาด
แต่ในคืนนี้ เป็น คืนของเทศกาล ทำให้นักเรียนถูกปล่อยกลับบ้านกันไปตั้งแต่เที่ยง
รวมถึงนักดนตรีที่แยกย้ายกันกลับตั้งแต่เย็นแล้ว
เพราะฉะนั้น ความเงียบสงัด ในยามเที่ยงคืนตรง……
จึงยิ่งวังเวงและเงียบเชียบ
เงียบจนถึงขั้นที่ว่า ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่แผ่วจาง
เบาบาง
จนทำให้ขนทั่วร่างลุกขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
ความหนาวแล่นไปตามสันหลังของผู้ที่ได้ยินเสียงนั้น
เสียงอ่อนจางบางเบา เป็นเพียงเสียงของเครื่องดนตรีสองชิ้น ที่ไม่น่าจะมาเล่นร่วมกันได้
เสียงโน๊ดสากลดังกังวานผสมกับเสียงสดใสแต่กลับฟังดูแหลมเรียวลี้ลับของสำเนียงสายพิญโบราณ
เสียงพิญบรรเลงรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ เสียงเปียโนทุ้มต่ำลงอย่างหน้ากลัว สั่นสะท้านจิตใจของคนที่ได้รับฟัง
เงาจันซากลายเป็นแสงสลัวสีดำมืดสะท้อนฉาบไล้อาคารหลายทศวรรษให้ตกอยู่ในปริศนา
“ ชิ๊งงง!!! “
สายพิญทั้งหมดขาดกระเด็นออกจากกันพร้อมกับหยาดเลือดที่สาดกระจายอาบย้อมห้องดนตรีใต้เงามืดจนดูดำอมแดงเข้มหน้าสยดสยอง
กลิ่นคาวหน้าขนลุกโชยผ่านตามสายลมหนาวที่หอบไอเย็นอันน่าสะพลึงกลัวลอยตามเงาของแสงจันทร์ที่กลับมาสว่าง
อีกครั้ง
“ กรี๊ดดดดดด!!!! “
…
บนทางเดินเล็กๆ สู่สวนเกษตรของโรงเรียน
ชายชราคนหนึ่งเก้าเดินไปบนทางโรยหินปากก็บ่นพึมพำกับสุนัขดำคู่ใจ ที่สูดจมูกฟุดฟิดและขู่ในลำคออย่างไม่ไว้ใจ
“ เฮ้ย ไอ้ดำ มึงก็เดินมาดีๆ ถ้ากูเอาดอกกุหลาบราตรีแล้วก็กลับไปหน้าโรงเรียนกันเถอะ “
นายชด คนสวนเก่าแก่ของโรงเรียนมัธยมแห่งนี้บอกสุนัขคู่ใจที่คลางในคอฮึ่มๆ ตลอดเวลา
ลมหนาวเย็นประหลาดไหลเวียนผ่านรอบร่างชายชราไปอย่างแผ่วเบา
ความเหน็บหนาวนั้นเหมือนจะแช่แข็งกระดูกทุกชิ้นในร่างกาย ข้อต่อทุกข้อในแขนขา
ทำให้ชายผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานหลายทศวรรษสยิวกายด้วยลางสังหรณ์อันแปลกประหลาด
“ ท่าทาง กูมาคืนนี้คงไม่ดีแล้วหวะ “
คำบ่นนั้นเหมือนจะกล่าวกับตัวเอง
แต่เสียงหัวเราะทุ้มต่ำฟังสยองที่กังวานมาจากรอบข้างกลับทำให้ชายชราแทบสะดุดข้อเท้าตนเองหัวทิ่ม
“ มึงเป็นใคร? “
ตาชดวัยหกสิบปีคว้าลูกซองที่สะพายอยู่บนหลังมากระชับในมือ
ดวงตาสอดส่ายหาเสียงหัวเราะที่กดดันบรรยากาศให้ดูหน้าสะพลึงกลัวและอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก
“ คุณไม่ต้องหาเราหรอก~~~ “
เสียงวิเวกแหลมยะเยือกพร้อมความเย็นที่พุ่งลงมาจากหลังศีรษะ
“ ฉัวะ!!! “
เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ดวงตาฟ่าฟางเบิกโพลงสิ่งที่รับรู้ในครองจักษุที่เบิกค้างคือการมองเห็น
ครั้งสุดท้ายเลือดลำใหญ่ปริมาณมหาสารสาดฉีดขึ้นสู่ผืนฟ้าที่เขี้ยวโง้งวาววับชโลมกับเลือดสดๆ ผสมแสงจันทร์ ยิ่งทำให้ร่างในเงาดำหน้าสะพลึงกลัวเข้าไปอีก
ก่อนสติอันพล่ามัวและดวงวิญญาณจะปลิดปลิวออกจากร่าง เสียงสุนัขคู่ใจขู่คำรามอย่างเจ็บปวดพร้อมร่างของสุนัขสีดำที่ขาดเป็นชิ้นๆ เลือดเนื้อปลิวขึ้นสู่ท้องฟ้ารัตติกาล
และเสียงหัวเราะอันบ้าครั่งของฆาตกร........
…
“กรี๊ด!!! , เฮ้ย~ , กรี๊ดดดดด!!! “
เสียงกรีดร้องของเด็กสาว ที่อยู่ในบ้านสามหลังสามอำเภอดังลั่นขึ้นในรัตติกาล
ความหวาดผวาในน้ำเสียง และความหวาดกลัวจนร่างสั่นไหว ทำให้สิ่งที่พวกเธอมองเห็น รับรู้ กำลังจะกลายเป็น
การเริ่มประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการฆาตกรรม…………..และความน่าสะพลึงกลัวที่ยิ่งกว่าความสยดสยองใด ในโลกใบนี้.
By ผีหิมะ
………………………………***
ความคิดเห็น