คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : โชคชตาของเบรส
ตอนที่ 1 โชคชะตาของเบรส
พุทธศักราช 2570
ประเทศไทย เชียงใหม่ เชียงดาว
บ้านสีครีมบนเนินเขาลูกเตี้ยๆ
ในเวลาที่ลมเย็นๆ พัดเรื่อยๆ แบบนี้
แสงแดดหายลับไปในกรีบเมฆหนาที่ตั้งเค้าพายุฝนมาแต่ไกล
เข็มสั้นของนาฬิกาโบราณเลื่อนแตะลงบนเลขสี่
อันที่จริงเป็นบรรยากาศแบบนี้ ควรจะมีเรื่องโรแมนติกอย่างหาที่ไหนไม่ได้
แต่ทะว่า…..
“ เปลี้ยงๆๆๆ !!!! บลึ้ม โครม “
กำแพงบ้านสั่นสะท้านตามแรงอัดกระแทกของอากาศที่โหมกระหน่ำพุ่งถล่มใส่บ้านไม้คลึ่งปูน
ที่เริ่มปรากฏรอยร้าวและเสียงลั่นเปรี๊ยะๆ อย่างไม่หน้าไว้ใจ
“ ปล่อยน้ะ “
ภาษาอังกฤษที่ถูกออกคำสั่งจากปากเล็กจิ้มลิ้ม
ไม่ได้สร้างความหวั่นไหวให้กับคนที่มือซ้ายถือแก้วไมโลมือขวากำลังเปลี่ยนรีโมตโทรทัศน์ไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น
“ ปล่อยอะไร ไม่ได้ขังไว้สักหน่อย อยากไปก็เชิญ “
รอยยิ้มมุมปากกวนประสาทและคิ้วเรียวดำเข้มที่เลิกขึ้นสูงยิ่งทำให้อุณหภูมิเดือดขึ้นสูงไปอีก
“ ถ้าไปได้จะไม่อยู่หรอก ไม้กางเขนน้ะ แน่จริงเอาออกสิ “
เบซีรัส ฤทธิก้องภิภพ
ยิ้มแต่ไม่ไปต่อล้อต่อเถียงกับ
เด็กสาว
เส้นผมและในตาสีทองสว่าง
ชุดลวดกระโปรงสีฟ้าอ่อนใส่ในบ้าน ส่งให้ร่างสูงระหงของเด็กสาว
ลูกคลึ่งญี่ปุ่นเยอรมันดูงดงามเหมือนส่วนผสมที่ลงตัว
“ เจ้าหญิง อยากไปก็เชิญสิครับ
เล็บมือน้ะเดี๋ยวหักอีกน้ะ มานี่ กินนมกินขนมแล้วขึ้นนอนดีกว่าดึกแล้ว “
เจ้าหญิงโกรธจนปากสั่น
ดวงตาสีทองตวัดมองนาฬิกาที่ว่าดึกของเขาตรงหน้า สลับกับมองแสงตะวันที่หายลับลงไปในเหลือบเขา
ท้องฟ้ามืดคลึ้มลงอย่างรวจเร็ว พร้อมพยับเมฆที่กลืนผืนฟ้าให้ตกไปในเมฆฝนสีทะมึน
“ ดึกบ้าดึกบออะไร อย่ามาพูดมั่วน้ะ ฉันจะฆ่านาย “
เบรสยิ้มมุมปากในตาสีน้ำเงินอมทองมีแต่ความพราวระยับของความสนุก
เด็กสาวกระโจนเข้าหาข้าม โต๊ะคริสตัลกลางห้อง
เล็บนิ้วทั้งสิบเหยียดออกจนยาวเกือบคลึ่งเมตร
เขี้ยวเล็กๆงอกออกจากมุมปากสวยที่เม้มอย่างโกรธสุดขีด
ดวงตาสีทองสว่างเปลี่ยนเป็นแดงทับทิม
ปีกสีขาวสะบัดออกจากแผ่นหลังส่งร่างบางพุ่งเข้าหาเด็กหนุ่มที่
นั่งไขว่ห้างกระดิกปลายเท้าคลอกับเสียงเพลงเบาๆ อย่างไม่รู้สึกรู้สา
มือปล่อยจากแก้วไมโลพร้อมดีดปลายนิ้วชี้เข้ากลางฝ่ามือเล็กๆ
“ เพียะ !!!!”
เบรสเลื่อนปลายนิ้วคีบแก้วใสทรงสูงไว้ได้อย่างงดงาม
ในขณะที่คนที่บอกหยกๆ ว่าจะฆ่าเขากำลังทำหน้าเจ็บ
ความโกรธยิ่งทวีขึ้นสูงกว่าเก่า แน่นอน ย่อมรวมกับความขุ่นเคืองตั้งแต่มาอยู่ (ถูกขืนใจจับมา) กับผู้ชายคนนี้
“ ว้าสกปรกหมดเลย เสื้อก็ขาดอีกละ มาหาพี่นี่มะ เจ้าหญิง “
เบรสวางรีโมตและแก้วไมโลที่ดื่มยังไม่ถึงสามในสี่ของแก้วเลยด้วยซ้ำ บนโต๊ะคริสตัล
ก่อนมองไปที่ร่างบาง
และเด็กสาวก็ต้องตัวแข็งทื่อ เมื่อดวงเนตรสีน้ำเงินอมทองสว่างแว็บขึ้น
“ ไม่น้ะ อย่าทำอีกน้ะ เขาไม่เอา จะไม่ทำอีกแล้ว “
เบรสหัวเราะขำ กับคำพูดที่เหมือนมันจะสายเกินของเจ้าหญิง
“ ไม่ทันแล้วจ้ะ “ คำประกาสิทธิ์จบลงพร้อมกับร่างบางที่ถูกวงแขนของร่างสูงยกขึ้นมาวางบนตัก
มือใหญ่หนาของผู้ชายลูบไล้ไปกับผิวเนียน ที่เย็นกว่ามนุษย์ธรรมดา
นิดหน่อยเหมือนจะยั่วหรือแกล้ง
“ เขี้ยว พี่สอนว่าไงน้ะเจ้าหญิง “
เด็กสาวที่มองตรงไปที่เบรสอย่างหวาดกลัวสลับกับแก้มใสที่ขึ้นสีแดง
ระเรื่อ ทำหน้าไม่ถูก
เมื่อผู้ชายตรงหน้า
โน้มหน้าลงและจรดปิดกรีบปากนุ่ม ด้วยความอ่อนโยนละมุนละไม
ความแสนหวานที่ได้รับ ทำเอาเด็กสาวล่องลอยไปอีกครั้งหนึ่ง
บางที เธอคงต้องชินและยอมรับกับความเผด็ดการอันแสนหวานนี้
โดยดี แบบไม่มีทางเลือกมากนัก
“ พี่สอนแล้ว ว่าห้ามโกรธ ห้ามอารมณ์เสีย ไม่งั้นจะโดนดี พี่
เตือนละน้ะ ท้าทายหรอ “
“ ไม่ๆๆๆ ไม่ เขาจะไม่โกรธ ไม่อารมณ์เสีย เขาจา....... ว้ายยย พี่เบรส “
เด็กสาวร้องลั่นเมื่อปลายนิ้วของเด็กหนุ่มลูบไล้แผ่นหลังเนียนนุ่มจนเธอขนลุกเกรียว
“ กินแล้วก็นอน พรุ่งนี้เปิดเรียนน้ะคุณเธอ “
เบรสหัวเราะพลางอุ้มร่างบาง ที่หลับตาแน่น ร่างกายถึงแม้จะไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป
แต่ทะว่าความรู้สึกและอารมณ์ต่างๆ ยังไม่หายไปจากจิตวิญญาณของสาวน้อยแว็มไพร์
อนินนาวี ฤทธิก้องภิภพ ( เทียน ) คือน้องสาวในนาม ที่เบรสไปได้มาจาก…..
( แล้วจะมีตอน ที่มาของเทียน เป็นตอนพิเศษ ในภายหลังน้ะจ๊ะ )
“ รู้น้าว่าหิว อยากกินไหมละ ถ้ากินหอมแก้มสองข้างด้วยน้ะ “
เบรสยื่นข้อเสนอ ที่ทำให้แม่น้องสาวกำมะลอทำหน้าเหมือนอยากฆ่าเขาเสียเต็มที
“ ไม่กินงั้นพี่จะไปเล่นเกมส์ละน้า ถ้าไม่กิน อึก!!! “
เบรสสะอึกทันทีพร้อมความเจ็บแปลบที่จู่โจมปลายประสาทต้นคอส่งตรงไปถึงสมองแล้วได้แต่ถอนใจน้อยๆ
หยดเลือดรสหวานหอมทำให้เธอต้องยืนยอม เบรสเป็นผู้ชายอ่อนโยนและใจดีมากตามประสาคนที่เติบโตมาเพียงลำพัง
และเมื่อมีคนเข้ามาในชีวิตเขาจึงรักและตามใจยิ่งกว่าสิ่งไหนๆ
สิ่งต่างๆ เหล่านี้เธอรู้ดี
ปลายเส้นผมสีทองปลกลู่ลงมาเคลียสองแก้มเนียนอมชมพู
เด็กหนุ่มยิ้มนิดๆ พร้อมม้วนปลายนิ้วเล่นกับเรือนผมสีสวย
” ถ้าอิ่มแล้วก็นอนน้ะ แวมไพร์ควรนอนไม่ต่ำกว่าสิบสองชั่วโมงในหนึ่งวันเพื่อแลกกับพลังทางIQ อย่างสูง “
คนที่กำลังดูดเลือดเขาอย่างสนุก โดยไม่ทันระวังมือซนๆ ของเด็กหนุ่มที่ไล่จิ้มนู่นจิ้มนี่
จนเธอมารู้ตัวอีกครั้งเมื่อเสียงฟ้าคำรามจากนอกบ้านช่วยปลุกสติที่มัวหลงไหลและเคลิบเคลิ้มในผะวังลึก ให้ตื่นขึ้นมา
“ กรี๊ด ไอ้พี่ลามก โรคจิต ชอบแกล้งเขา “
เทียน รีบกระโดดหนีจากเบรสที่ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์และเบือนหน้าหนีไปจากร่างบางที่ชุดลวดกระโปรงสีฟ้าอ่อนหลุดออกจากตัวไปกองอยู่กับพื้น
“ ฝันหวานน้ะจ๊ะ หวานใจ พี่ไปเล่นเกมส์ละ ดึกๆ เหงาหรือว่ากลัวผีไปนอนกับพี่ได้น้ะ “
เบรสหัวเราะดังๆ แข่งกับเสียงกรี๊ดและของหลายชิ้นที่ลอยตามเขาออกมาจากห้องน้องสาวจนแทบหลบไม่ทัน
เด็กหนุ่มผิวปากอารมณ์ดี
และเดินผ่านทางระเบียงเชื่อมปีกตะวันตกและปีกตะวันออก
ดวงตาคม ปลายผ่านนาฬิกาบ้านที่แตะเลขห้าแล้วถอนใจอย่างเป็นสุข
แสงสีน้ำเงินกระพริบบนหน้าปัดนาฬิกาเป็นสัญญาณว่าปลอดภัย
ไร้อันตรายมาคุกคาม
ร่างโปร่งหมุนตัวคลายความเมื่อยขบ
“ พรุ่งนี้ก็เปิดเรียนแล้ว “
เบรส อมยิ้มก่อนคีรหัสบนผนังในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยให้กินรัศมีรอบบ้านหนึ่งร้อยกิโลเมตรจากจุดศูนย์กลาง
นิ้วเรียวเลื่อนกดลงบนปุ่มstard การทำงานของ เครื่องเกมส์ออนไลน์บริษัทแรกของโลกยุคนี้
พร้อมทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม
แสงสว่างสีขาวตัดน้ำเงินพุ่งขึ้นสูง ก่อน โค้งตกลงมาเป็นครอบใสที่มีอักษรแสงวิ่งวุ่นอยู่ด้านบน
อักขระแสงรูปตัว M S T
วิ่งใต่ระดับขึ้นสูงก่อนถักทอกันเป็นสายไยเส้นเล็กๆ ห่อม้วนรอบๆ ครอบใสสีขาวตัดน้ำเงิน
ใต้เตียงแสงสว่าง วาบจ้าขึ้นพร้อมกับ เครื่องหมาย บวก และตัว W
ที่กระพริบแสงจ้า ส่งวิญญาณของผู้เชื่อมต่อไปสู่โลกสะเหมือนจริงที่คนทั้งโลกกว่าเจ็ดแสนล้านคนรู้จักในนาม
MST+W online
…
สายรุ้งระยิบระยับ
นำพาแสงสว่างสีขาวนวลที่หมุนช้าๆ รอบตัวเองมาหยุดลงในห้องที่
ไม่น่าจะใช่ห้องต้อนรับตามคู่มือเกมส์ที่เคยอ่านมา
เบรสที่รู้สึกตัวทุกอย่างแต่เขาไม่สามารถจะเคลื่อนไหวอะไรได้
รู้สึกจ้าตรงหน้าก่อนสติของเขาจะดับวูบไป.........
“ ในที่สุดเขาก็มาน้ะค่ะคุณ ช่างเป็นลูกที่ว่านอนสอนง่ายเสียจริง “
น้ำเสียงสดใสหัวเราะเบาๆ เมื่อมองร่างโปร่งใสของคนที่ถูกทำอะไรบางอย่างให้จมอยู่ในผะวังลึก
“ มาจนได้ หวังว่า ที่นี่ จะช่วยสั่งสมประสบการ ให้เขาเก่งและแกร่งกว่านี้ เพราะไม่งั้นสิ่งที่กำลังใกล้เข้ามา คงจะหนักหนามากสำหรับเขา “
ดวงตาสองคู่จ้องตรงไปยังเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความรักอาทร
แต่ก็เจือแววกังวล
“ อย่าห่วงเขามากเลยค่ะ อุดส่าห์โตมาได้ขนาดนี้ ไปหลอกเอา
แวมไพร์มาเป็นน้องสาวอีก ร้ายจริงน้ะพ่อตัวแสบ “ ประโยคสุดท้ายเหลือบไปค่อนให้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรสักอย่าง
“55 ผมว่า เรามอบของขวัญที่จะสร้างความประทับใจให้เมืองแรกที่เขาจะไปเกิดให้หน่อยดีกว่า “
เสียงปริศนาของคนปริศนาเงียบหายไปพร้อมละอองสีทองที่พร่างพรมพร้อมคำอำนวยพร
“ ขอให้สนุกกับ วันโลกาวินาจ แบบมินิ “
…
มหานคร ฟูเรียว
เป็นมหานครเริ่มต้น ที่ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขา สามทิศมีทางออกสู่ทะเลคือทางทิศใต้
ศิลปะการตกแต่งเน้นความเรียบ
หรู
มีเสน่ห์
และกลมกลืนธรรมชาติ
แสดงความเป็นดินแดนอาทิตอุทัยในอดีตอย่างดั้งเดิม
แสงตะวันจ้า และท้องฟ้าสดใสประกอบกับสัตว์น้อยใหญ่ที่ออกอาศัยหากินกันอยู่ริมทุ่ง
สร้างความตระการให้กับทัศนียภาพที่จะไม่สามารถหาได้แล้วในโลกภายนอก
นอกจากสวนสัตว์แบบเปิดอินธรรมชาติบางแห่ง
แสงขาวสว่างวับก่อนจะดับหายไป
ร่างของเด็กหนุ่มในตาสีน้ำเงินอมทอง เส้นผมสีดำเข้มยาวเลยต้นคอมานิดหน่อย ชุดเริ่มต้นเป็นผ้าฝ้ายเนื้อสีเทาหม่นๆ
และรองเท้าฟางอีกหนึ่งคู่
ประกอบกันเป็นเกมส์ที่เป็นที่นิยมที่สุดในโลกในเวลานี้
…
ใต้ผืนดินลึกลงไปไม่รู้กี่ร้อยกิโลเมตร ธารน้ำสีแดงกำลังก่อตัวขึ้นสูงอย่างหน้าหวั่นใจ
เหนือท้องฟ้าที่สูงขึ้นไปกว่าหลายร้อยกิโลเมตรมีอะไร
วงโคจรของหินอุกาบาตรเริ่มแปรปรวนอย่างหน้าวิตก
เด็กหนุ่มมองท้องฟ้าทีมองไปรอบตัวทีก้มมองพื้นดินที
ก็เห็นแค่เมฆขาว คนมากมาย
และต้นหญ้าเตี้ยๆ ที่ลาบไปเป็นทาง
เก้าแรกของเด็กหนุ่มขยับไปข้างหน้าด้วยความมั่นคงบนพื้นดิน
“ คลืนนน !!! “
ละลอกดินสาดสะเทือนเป็นคลื่นสูงๆ ต่ำๆทำให้ความเงียบสงบถูกทำลายลงไปทันที
สิ่งแรกที่แว็บเข้ามาในสติของเบรสคือ......แผ่นดินไหว
แต่สิ่งที่ดังกังวานต่อมามันทำให้เขาต้องมุ่นคิ้ว
“ ฟ้าวววๆๆ ตูมม ตูมม ตูมม!!!!! “
“ กรี๊ดดด กรี๊ดด กรี๊ดดดด!!!! “
เกมส์เมอร์กว่าสองพันคนที่กระจายกันอยู่ในทุ่งราบทางทิศตะวันตกของเมือง ร้องลั่นอย่างตื่นตระหนก
เมื่อจู่ๆ
ขุนเขาตรงหน้าก็แยกตัวออกจากกัน พร้อมกับ แสงสว่างจ้าและแรง
อัดอากาศมหาสาร
“ บลึ้มมม !!!! “
ก้อนหินขนาดใหญ่กว่าโอ่งมังกรกลิ้งขลุกๆ ลงจากไหล่เขาพุ่งใส่ผู้เล่นนับร้อยที่แหกปากร้องลั่นอย่างหวาดหวั่นกับความผิดปกติของธรรมชาติรอบตัว
พื้นดินกระเพื่อมเหมือนกำลังจะก่อให้เกิดมหันตภัยจากคลื่นยักษ์ใต้ทะเลลึก
เคราะห์กรรมของชาวมหานครเริ่มต้นยังไม่จบง่ายๆ
ผืนฟ้าอวนด้วยเสียงคำรามเปลี้ยงสนั่น
ก่อนชั้นเมฆสีขาวหนาทึบกว้างใหญ่จะถูกแรงเสียดอากาศแหวกทะลายออกจากกัน
ความดำทะมึนยิ่งกว่าความมืดมิดของรัตติกาลลอยคว้างหมุนวนสร้างประกายไฟสว่างแปร๊บๆลุกไหม้กลางอากาศพุ่งลงหา
ขุนเขาและท้องทะเล
ทำเอาเกมส์เมอร์ ( gamer )
ผู้เล่น
NPC ( พนักงานบริษัทเกมส์หรือผู้รับบทบาทพิเศษบางอย่าง )
Ai ( ตัวละครสมมุดที่ถูกสร้างขึ้นมาหรือบางที ก็มีคนรับบทบาท )
ต่างได้แต่เบิกตามองค้าง
อย่างไม่สามารถจะทำอะไรได้
“ ตู้มม ตู้มม ตู้มมม ตูมมๆๆๆๆๆ !!!!! “
ความถี่ระรัวราวเม็ดฝนในวันฟ้าไร้ตะวัน
โหมกระหน่ำส่งวิญญาณผู้เล่นนับหมื่นคนของมหานครเริ่มต้น
กลับบ้านเก่าสู่สวรรค์
กำแพงเมืองเริ่มซุดช้าๆ ก่อนจะถล่มคลืน
สัตว์อสูรวิ่งหนีไม่ต่างจากกลียุคหวนสู่ภิภพ
เพียงไม่นาน
ฝนอุกาบาตรและคลื่นผืนดินก็สังหารผู้เล่นไปนับพันกว่าคน
ภายในเมืองผู้เล่นต่างหนีตายจ้าละหวั่น
ความวุ่นวายโกลาหนเกิดขึ้นไปทั่วเมือง
เสียงประกาศและเสียงแหกปากร้องตะโกนเหมือนปีศาจร้ายกำลังจะครองโลก ทำให้ผู้เล่นและพนักงานของระบบตาเหลือกเมื่อเริ่มปรากฏ ฝนอุกาบาตรลอยทะลุบาเรียป้องกันเมืองลงมากระแทกอาคารจน
ล้มระเนระนาดไม่ต่างอะไรจากเศษปูนกองใหญ่
ฟู่ววว ฟ้าววว ตูมม ตูมมม ตูมม !!!!! “
ฉับพลันทันใด ดั่งเคราะห์กรรมไม่สิ้นสุดไอร้อนที่พัดวูบผ่านผิวกายทำให้ประชากรเมืองที่โกลาหนหยุดตัวลงได้อย่างไม่หน้าเชื่อดวงตาเหลือบมองไปทางขุนเขาทางทิศเหนือที่ดันสูงขึ้นสู่ฟ้า พร้อมกับ
สายน้ำที่แตกระเบิดขึ้นสู่ฟากฟ้า
แต่มิใช่สายน้ำธรรมดาแต่เป็น ลาวาใต้ภิภพ
“ กลียุค ขอให้ผู้เล่นออฟไลน์ โดยด่วนนนนน !!!! “
คนประกาศกลางลานน้ำพุกลางเมืองเงียบเสียงไป พร้อมพื้นหินที่แตกร้าวออกไปรอบข้างหลังจากอุกาบาตเท่ารถเก๋งสิบคันถล่มลงมากระแทกจนบ่อน้ำพุพังทะลายเละเทะไม่เหลือชิ้นดี
…
“ วากก บลึ้มม !!! “
เบรสกลิ้งตัวหลบจากอุกาบาตรน้อยใหญ่หลายชั่วโมงแล้ว และเมื่อพื้นดินเริ่มปริร้าวเขาก็หนาวเข้าไปลึกถึงในท้องน้อย
ความสดและซิง ของน้ำลาวานั่นไม่ต้องพิสูจน์ก็รู้ได้โดยธรรมชาติ
“ บ้าเอ๊ย เกิดบ้าอะไรตอนเราเข้าวันแรกเนี่ย “
เบรสรีบคลานสลับหมอบหลบลูกอุกาบาตร
ส่วนตาก็กลาดมองไม่ให้เหยียบพลาดไถลตัวลงไปในธารลาวาที่โผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน
แรงกระเพื่อมทำลายผิวดินให้ยิ่งต่างระดับกันไป
ความลำบากเกิดขึ้นกับคนที่กำลังเอาชีวิตรอด
ไม่ต่างจากตัวเบกิวในสารคดี
แต่นี่ดูเหมือนจะหนักกว่ามากมายมหาสารนัก
“ ว๊าก~~~~~~~~~ อะไรกันวะเนี่ย “
เบรสพุ่งตัวไถลเนินเขาพุ่งเข้าหาเมืองโดยมีฝนหินนอกโลกและ ผิวดินปริร้าวตามมาด้านหลัง
ความเร็วของมนุษย์ที่ว่าเร็วแล้ว
ยังสู้ธรรมชาติที่ดักหน้าดักหลังแทบไม่ทัน
เบรสแหกปากร้องสุดเสียง
นักกีฬาวิ่งทีมชาติคงอายเขาแล้ว
เท้าเก้ากระโดด ในหนึ่งวินาทีเขาไปได้ไกลกว่าสิบห้าเมตร
อดีนาลีนฉีดทะลุเพดานสั่งให้เท้าพาร่างดีดตัวตีลังกาสองครั้ง
มือเหนี่ยวขอบกำแพงม้วนตัวหายลงไปอีกฟาก
ไม่มีเวลาจะมาชื่นชมฝีมือตัวเองร่างสูงใช้ความเร็ววิ่งหลบฝนอุกาบาตและลาวามรณะไปตามซอกตึก อาคาร บ้านเรือน ที่เริ่มถล่มคลืนๆ กลายเป็นเศษอิดเศษไม้หลายร้อยหลายพันกอง
ใจกลางลานน้ำพุประจำเมือง
“ กลัวอะไรกันนักหนา “
เสียงบ่นแต่เหมือนสบถมากกว่ากังวานใส
พร้อมกับแสงสว่างสีเหลืองนวลที่ฉาดสายรัศมีแสงเรืองๆ ออกไป
รอบข้าง
ฝนหินนอกโลกปลิวกระจัดกระจายและสลายเป็นผุยผงจากรัศมีลำแสงสีเหลืองสว่างไสว
“ วูบ เปลี้ยง บลึ้ม!!!!! “
เท้าใต้รองเท้าขนสัตว์อย่างดีกระแทกลงบนพื้นหนึ่งที
พื้นแผ่นดินในรัศมีร้อยกิโลเมตรรอบตัวที่เริ่มปริร้าวและขยายกว้างก็
หุบตัวปิดเสียงสนั่น
[] เทพอสูรจันทรา หนึ่งในแปดเทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ ชั้นรัชทายาท ระดับ 390 (จำกัดพลัง)
ผู้อยู่ในอาณาเขตสามร้อยกิโลเมตรรอบตัวเทพอสูรมีสิทธิ์ตายได้
ขอเตือน~~~~~
คนที่เหมือนกำลังเล่นเกมส์เอาชีวิตรอดทำหน้าช็อกสุดขีด
เมื่อตัวเองกระโดดขาคู่ลงจากบ้านสูงสามชั้น มาโผล่กลางเมือง
และด้วยเวลาที่กระดิกผ่านไปช้าๆ พร้อมกับฝ่าเท้าคู่ที่เตรียมปะทะกับแผ่นหลังเหยียดตรงของ คนในชุดรัดรูปสีดำสนิทสวมคลุมทับด้วย
ผ้าคลุมสีเหลืองขลิบสีเงินเรืองรอง
แต่มันคงไม่ได้เป็นแบบนั้นง่ายๆ
เพราะเธอกับเขาระดับประสบการณ์ต่างกันมาก
“ ฝุบ ตูมม อั๊ก!!!! ”
เบรสลอยคว้างกลับไปทางเดิมพร้อมกับนิ้วก้อยของร่างตรงหน้าที่ลดลงช้าๆ
หางตาไม่เหยียดมอง
เท้าในรองเท้าขนสัตว์หนาเก้าขึ้นสู่ผืนฟ้าลอยเด่น
สองแขนขยายออกจากกันลำแสงสีเหลืองทรงโดมกระจายออกไปรอบข้าง
ปลายโดมแสงจรดยอดเขาทั้งสามทิศ
หยุดลาวาและฝนอุกาบาตรปริศนาที่คร่าชีวิตของผู้เล่น พนักงานและเหล่า Ai ไปมากกว่าหนึ่งหมื่นศพ
“ ผู้นำมหันตภัย “
ร่างโปร่งระหงปรากฏขึ้นข้างหน้าเบรส ที่นอนมองฟ้าใสโลกสวยอย่างสบายใจ
แต่เลือดที่ซึมออกจากมุมปากก็ทำให้รู้ว่าก่อนเขาจะมานอนสบายบนอาคารห้าชั้นนี้ คงมีชตากรรมที่ไม่ค่อยสบายเท่าไร
“ พูดบ้าๆ อย่ามาหาเรื่องกันแม่นิ้วก้อย “
เบรสบ่นพลางคืบคลานลุกขึ้นอย่างลำบาก ไม่ต่างจากสภาพซอมบี้ตอนกำลังจะขึ้นจากหลุม
“ ปากเสีย ฉัน ระดับปัญญาอัจฉริยน้ะย้ะ!!! “
ความสดใสในเสียงหวานไม่ได้สร้างความเคลิบเคลิ้มให้เบรสสักนิด ตอนนี้เขากำลังอึ้งและมองตรงไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย
[] ท่านเบรส (ผู้เล่นใหม่)
สังหารสัตว์อสูรจำนวน
สามพันแปดร้อยห้าสิบเก้า สายพันธุ์
สัตว์อสูรทุกชนิดของมหานครเริ่มต้นฟูเรียว 99%
ถูกท่านเบรสสังหาร ยกเว้น เทพอสูรจันทราเพียงชนิดเดียว
ท่านเบรส ระดับประสบการณ์เลื่อนขึ้นเป็น
28 , 35 , 65 , 86 , 98 ,123 , 150 ค่ะ
ท่านเบรสระดับประสบการณ์ หนึ่งร้อยห้าสิบ
[] ท่านเบรส สังหารอสูร ระดับราชา ระดับรัชทายาท และ
สัตว์อสูรชั้นสูง จำนวน……..
สังหาร
ราชา นกภูเขา ระดับ 50
สังหาร
ราชา ปลาวาลบิน ระดับ85
สังหาร
ราชา แกะทองคำ ระดับ 95
สังหาร
อสูรสักดิ์สิทธิ์สายเลือดบริสุทธิ์สมบูรณ์ จิ้งจอกไฟสายฟ้า ระดับ 190
สังหาร
รัชทายาทตัวอ่อน มังกรปีกอสูร ระดับ 200
สังหาร
อาชาทะยานสวรรค์ ระดับ 240
สังหาร
ราชาเงือกไฟชายฝั่ง ระดับ 259
และ…..
สังหาร
กระต่ายนรกาล เทพอสูรศักดิ์สิทธิ์สายเลือดมาร ระดับ 300
[] ท่านเบรสเลื่อนระดับ เป็น
150 , 179 , 199 , 210 , 238 , 248 ,250
ท่านเบรสระดับตัน คราสค่ะ รอปลดระดับเลื่อนคราส ระบบค่าประสบการณ์จะถูกเก็บไว้ และหากรับผู้ติดตามเมื่อใด ระดับประสบการณ์ จะถูกถ่ายโอนทันที
[] ท่านเบรส ระดับ 250
[] ท่านเบรส สำเร็จภารกิจลับ สังหาร ราชามหานครเริ่มต้น
ทุกตน
ได้รับ รางวัล ขอให้ไปรับได้ ที่อาคารภารกิจของทุกเมืองในทวีปค่ะ
[] ท่านเบรส สำเร็จภารกิจลับ เงื่อนไขเทพอสูร
เงื่อนไขเทพอสูร
จะปฏิบัติภารกิจสำเร็จก็ต่อเมื่อ
เทพอสูรนั้นไม่เคยปรากฏตัวในรอบสหัสวรรษที่ผ่านมา
เทพอสูรนั้นจะต้องโจมตีด้วยกายภาพเท่านั้น
เทพอสูรจะต้องมีความรู้สึกไม่ใช่มิตรแต่ก็ไม่ใช่ศัตรู
(เป็นแค่เศษฝุ่นละอองในอากาศไง o^t^ ไม่ใช่น้ะ )
สุดท้าย การโจมตีกายภาพนั้น ผู้รับการโจมตี ต้องไม่โกรธแค้นเทพอสูรและ ไม่เสียชีวิต
ท่านเบรส ได้รับ เทพอสูรจันทรา หนึ่งในแปดเทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ เป็นคู่พันธสัญญาหัวใจค้ะ
“ ฮ่ะ.......ไม่เอา “
[] ไม่เอาไม่ได้ค่ะ เพราะท่านผ่านเงื่อนไข ถ้าไม่อยากได้ ไปตายแล้วเกิดใหม่ค่ะ
เบรสทำหน้าช็อก แต่ก็ไม่รู้จะเลือกทางไหนดี
“ กรี๊ดด อะไรกัน “ เบรสมองไปที่ร่างบางตรงหน้าแล้วต้องอึ้ง
ข้อมือข้างซ้ายของเขาและเธอปรากฏเส้นไยแสงผูกพันติดแน่นไว้ด้วยกัน
“ เพราะนาย…… เลยน้า ว้าย ~~~~~~~ “
เบรสหมุนตัวดึงมืออย่างตกใจ
แต่จะเป็นสวรรค์สาปหรือนรกส่งไม่ทราบได้
ดันหมุนตัวเอาร่างบางเข้ามาแนบชิดสนิทตัวกันเลยทีเดียว
จนสัมผัสได้ แม้......แต่.........เสียงหัวใจ ที่เต้นรุนแรง
เด็กหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างเลือกได้
ใบหน้าโน้มลงแตะริมฝีปากลงกับกรีบปากสีชมพูอิ่มที่เผยอขึ้นอย่างช็อกสุดขีด
ดวงเนตรสีน้ำเงินเข้มงาม กลายเป็นว่างเปล่า
เบรสถอยเท้าออกพร้อมกับดีดตัวปล่อยร่างลงจากอาคารห้าชั้น
อย่างขอเลือกทางสายไปเกิดใหม่ดีกว่า
………..
ทั้งทางระบบ และคู่พันธสัญญาของเขาต่างอึ้งไปเป็นหลายวินาที
พอได้ยินเสียงตู้มสนั่นแต่ละฝ่ายค่อยได้สติ
เบรสจมหายไปกับสายน้ำสีไพลินสว่างระยิบระยับที่ไหลบ่าขึ้นมาจากท่อน้ำพุประจำเมืองและจมดิ่งหายลงไปอย่างรวดเร็ว……
“ อีตาเบรส บ้า นายทำบ้าอะไร หน้ารังเกียด “
เทพอสูรจันทรา
ทะยานร่างพุ่งฝ่าสายน้ำปริศนาที่คนทั้งทวีปรู้จักดี
เพราะเป็นสิ่งติดท็อบหนึ่งในสิบของทวีปอาทิตอุทัยแห่งนี้
สโลชาไพริน
หรือ
สทาริวาโนะ เรนยามามิโกะ
ธารธารนิรมิต
มาอีกแล้วครับพี่น้อง มาอีกแล้ว
ขอเริ่มเขียนใหม่เลยแล้วกันน้ะ
กลัวนิยายไม่ดังอะ
ภาษาหรือการใช้คำต่างๆ ไม่ต้องสนใจครับอ่านๆ ไป
เพราะผมมั่วเอา
ผีหิมะ ขอเรียนมาตรงนี้น้ะ
ว่าจะขอแก้ไข ตั้งแต่ตอนที่ดูเหมือนเด็กอนุบาลให้หายไปให้หมด
ขอเวลาหน่อยน้ะ
แล้วจะกลับมา
ขอเวลาอีกไม่นาน
เราจะทำตามสัญญา
o^t^tt
ขอบคุณทุกคน
มากน้ะจ้า
ขอบคุณจากใจจริง
by ผีหิมะ
…………………………………***
ความคิดเห็น