NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิศวาสลวงบ่วงราคี

    ลำดับตอนที่ #8 : พิศวาสลวงบ่วงราคี - 8

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 61





    อีบุ๊คพี่ไทม์กับหนูฝนมาแล้วจ้า ใครรอโหลดอยู่เชิญจิ้มเลยจ้า

    >>>ลิงก์สำหรับโหลด E-book<<<

    หรือคลิกที่ภาพก็ได้นะคะ





    พาฝนรีบกลับไปอาบน้ำที่ห้องตัวเอง คำแก้วรีบกลับไปรายงานคุณธาวันให้ทราบ และคนที่มาถึงก่อนคือเวทิต ชายหนุ่มเข้าไปนั่งข้างบิดา กวาดตามองชามข้าวต้มที่จัดเตรียมไว้เกินสองที่อย่างสงสัย

    พ่อรู้จักผู้หญิงคนนั้นเหรอครับ ถึงได้อนุญาตให้เธอเข้าไปนอนในห้องผม

    รู้จักสิ รู้จักดีมากด้วย เธอเป็นลูกสาวของคุณนพสินที่พ่อใช้ให้ไทม์ตามหาไง

    อะไรนะครับ!เวทิตแทบไม่เชื่อหูตัวเองแล้วพ่อไปเจอเธอได้ไง หรือว่าเธอมาสมัครงานพ่อถึงรู้

    เปล่า ไว้พ่อจะเล่าให้ฟัง หนูฝนมาแล้ว

    ขอโทษนะคะคุณอาที่มาช้าสมาชิกใหม่ของบ้านกล่าวอย่างรู้สึกผิด ขณะทอดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามกับเวทิตอย่างเร่งรีบ

    ไม่เป็นไรลูก เพิ่งแปดโมงครึ่งเอง อากาศยังหนาวอยู่เลย

    ไม่หนาวหรือไงเราเวทิตกวาดตามองสาวสวยตรงหน้าอย่างสงสัย หนาวจะตายยังใส่เสื้อแขนสั้นออกมานั่งข้างนอก

    ฝนไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าหนาๆ มา ไม่คิดว่าที่นี่จะหนาวขนาดนี้

    ไทม์ ลุกไปเอาเสื้อกันหนาวของน้องดามาให้หนูฝนหน่อยสิลูก

    ไม่มีหรอกครับพ่อ น้องดาเอาไปหมดเลยบอกพลางถอดเสื้อแขนยาวของตัวเองออกมาส่งให้ใส่ของผมไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวจะไปหาซื้อมาให้ใหม่ตอนเย็น

    คุณธาวันยิ้มชื่นใจที่ลูกชายมีน้ำอกน้ำใจกับลูกสาวคนเดียวของผู้มีพระคุณ

    หนูฝน นี่ลูกชายคนเดียวของอา เจ้าไทม์

    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณไทม์

    ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการเช่นกันครับ คุณหนูฝน

    พาฝนยิ้มแห้งๆ ไม่กล้าสบตาดูถูกนั้นนัก เขาคงไม่ชอบใจหล่อนเรื่องวันนั้น พ่อของเขาคงเทิดทูลครอบครัวหล่อนเอาไว้มาก ทว่าการกระทำของหล่อนที่เขาพบเจอมันดันสวนทางกัน เขาจึงตั้งแง่รังเกียจเต็มที่ไม่มีปิดบังกันเลย จากนั้นต่างคนต่างก็ลงมือทานอาหารกันเงียบๆ จนอิ่ม

    พาฝนเก็บถ้วยลงมาล้างกับคำแก้ว หล่อนอดที่จะถามอย่างสงสัยไม่ได้เรื่องสิงห์คำกับไทม์

    คำแก้วจ๊ะ คุณไทม์กับคุณสิงห์คำคือคนคนเดียวกัน ถูกต้องไหม

    ไม่ถูกต้องเจ้า คุณไทม์คือลูกชายของพ่อเลี้ยงธาวัน ส่วนพี่สิงห์คำเป็นลูกแม่เอื้องคำ เป็นพี่ชายของคำแก้วเจ้า ทำไมคุณฝนถึงเข้าใจว่าคุณไทม์คือพี่สิงห์คำเจ้า

    อ้อ... ฝนเคยเจอกับคุณไทม์น่ะ เขาเคยให้นามบัตรฝนไว้เผื่อจะมาสมัครงานที่นี่ แต่ชื่อในนามบัตรเป็นชื่อของพี่ชายคำแก้ว ฝนก็เลยเข้าใจอย่างนั้นตอนคุณอาธาวันแนะนำให้รู้จักกันก็บอกแค่ชื่อเล่น หล่อนเองไม่ได้รู้ประวัติคนในบ้านนี้เท่าไรจึงยังสงสัยอยู่อยากรู้ให้แน่ชัด

    อ้อ... เจ้า คุณฝนล้างมือล้างไม้เถอะเจ้า นี่เก้าโมงครึ่งแล้วนะเจ้า คำแก้วเตือนเมื่อพาฝนต้องไปกรอกแบบฟอร์มสมัครงานกับทางไร่ให้ถูกต้องเพื่อสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของลูกจ้าง

    ทั้งหมดเป็นความต้องการของพาฝนเองเพราะไม่อยากเป็นเด็กเส้นของคุณธาวัน อยากทำตามขั้นตอนการเข้ามาเป็นลูกจ้างของไร่ศุภสินให้ถูกต้องเหมือนกับคนอื่น มีตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างชอบธรรม ไม่อยากให้ใครมาดูถูกความสามารถที่มี โดยเฉพาะลูกชายเจ้าของไร่ที่ตั้งแง่รังเกียจกันอย่างชัดเจน

    พอพาฝนเดินออกมาพร้อมกับเอกสารสำหรับสมัครงานในซองสีน้ำตาล เวทิตก็นั่งรออยู่ในรถแล้ว

    ขอโทษที่ทำให้รอค่ะหล่อนก้าวเข้ามานั่งพร้อมกับคำขอโทษ ทว่าอีกฝ่ายกลับนิ่งแล้วขับรถออกไป

    จบอะไรมา ขับรถมาได้ครึ่งทางคนที่เอาแต่เงียบไม่ยอมตอบโต้ก็ถามขึ้นมาดื้อๆ หากแต่ดวงตาคู่คมกริบยังคงทอดมองทางข้างหน้า มือใหญ่ทว่าเรียวยาวยังประคองพวงมาลัยขับต่อไปเรื่อยๆ

    การตลาดค่ะ แต่ฝนทำได้ทุกอย่างนะคะไม่เกี่ยงงาน

    ไม่ต้องออกตัวผมก็เชื่อว่าคุณทำได้ทุกอย่าง แต่ที่นี่ไม่มีงานสบายๆ แบบนั้นรองรับคุณหรอกนะ คนงานที่นี่เงินเดือนน้อย มีแค่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆ

    คนฟังเจ็บจี๊ดในอกพลางกระชับมือเรียวเข้าหากันเพื่อข่มมันเอาไว้ เรื่องนี้คงจะเป็นราคีคาวติดตัวหล่อนไปจนตาย และฝังตัวอยู่ในหัวใจกระด้างๆ ของเขาไม่รู้ลืม หล่อนกลืนก้อนสะอึกลงคอแล้วเค้นเสียงตอบอย่างยากลำบาก

    ฝนก็ไม่ได้คิดจะมาขายตัวให้ใครที่นี่หรอกค่ะ

    พูดแล้วก็จำคำของตัวเองไว้ด้วยล่ะ อย่ามาทำให้ไร่ศุภสินต้องมัวมองทีหลังแล้วกัน ไม่อย่างนั้นผมจะจับคุณโยนออกไปไม่ปราณี ผมไม่สนหรอกนะว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน ถ้ามาอยู่ที่นี่ด้วยกัน กฎก็คือกฎ คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรตามใจตัวเองเหมือนตอนก่อนมาอยู่ที่นี่

    ค่ะ ฝนจะจำให้ขึ้นใจหล่อนตอบน้ำตาคลอแล้วเบือนหน้าหนีไปมองนอกหน้าต่าง

    อีกฝ่ายที่ไม่ได้คิดไยดี ยังคงทำหน้าที่ขับรถพาหล่อนไปยังจุดหมายปลายทางด้วยใบหน้านิ่งเรียบ เขาไม่ได้อยากจะใจร้ายกับหล่อนนักหรอก แต่ถ้าไม่กำราบไว้แต่เนิ่นๆ หล่อนจะทำให้ไร่ศุภสินมัวหมองในภายหลัง บิดาเทิดทูลหล่อนและครอบครัวเหลือเกิน หากทำผิดขึ้นมาเขาจะพูดจาลำบากเอาได้

     

    เวทิตจอดรถหน้าออฟฟิศให้พาฝนลงไปสมัครงานกับสิงห์คำ ส่วนเขาขับรถยูทีวีคันสีดำคู่ใจเข้าไปดูงานในไร่ ทิ้งรถยนต์เจ็ดที่นั่งไว้หน้าออฟฟิศให้สิงห์คำพาหล่อนไปซื้อเสื้อผ้าในเมืองหลังจากกรอกใบสมัคร ก่อนจะพามาเขาได้โทรจัดแจงเรื่องหล่อนกับสิงห์คำไว้ก่อนแล้ว แค่กรอกใบสมัครก็เข้าทำงานได้เลยไม่ต้องผ่านการสัมภาษณ์และให้ทำงานอยู่ฝ่ายการตลาดแทนน้องดาไปพลางๆ

    เรียบร้อยแล้วค่ะคุณสิงห์

    พาฝนยื่นใบสมัครและใบคำร้องต่างๆ สำหรับลูกจ้างคืนให้ผู้จัดการไร่มาดนิ่งที่นั่งทำงานรอไปพลางๆ สิงห์คำนำเอกสารมาตรวจสอบความเรียบร้อยแล้วบอกให้รอครู่หนึ่งเดี๋ยวจะพาไปซื้อของใช้ในเมือง

    เอ่อ... ยังไม่ไปก็ได้ค่ะ คือ... ฝนงบน้อย ไว้เงินเดือนออกค่อยไปดีกว่านะคะ

    พาฝนบอกอย่างเจียมตัว เงินที่ได้มาจากเสี่ยทรงพลในคืนนั้นไม่ถึงหมื่นบาท ให้มารดาติดตัวไว้ใช้ส่วนหนึ่ง เอาติดตัวมาส่วนหนึ่ง ต้องใช้ไปจนกว่าเงินเดือนจะออก ก็อีกเดือนกว่าๆ หล่อนต้องประหยัด

    เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ คุณไทม์จะจ่ายให้ก่อน ไว้เงินเดือนออกค่อยหักทีหลังสิงห์คำบอกตามคำสั่งเจ้านายที่ฝากไว้คล้ายรู้ทันอีกฝ่าย

    อ๋อ... อย่างนั้นเหรอคะ

    ครับ ขอผมเคลียร์งานสักครู่แล้วเราไปกัน

    พาฝนนั่งรอผู้จัดการหนุ่มอยู่ครู่หนึ่งก็พากันไปเมืองด้วยรถคันเดียวกับที่นั่งมาเมื่อเช้า หล่อนละสายตาจากบรรยากาศร่มรื่นข้างทางมาถามผู้จัดการหนุ่มอย่างสงสัย

    คุณเวทิตเขาดุมากไหมคะ

    ผู้จัดการหนุ่มหันมายิ้มให้แล้วถามอย่างขบขันโดนดุมาเหรอครับ

    จะว่าดุก็ไม่เชิงหรอกค่ะด่ามากกว่า พาฝนต่อความในใจแล้วพูดเลี่ยงๆเรียกว่าเตือนอย่างดุดันจะดีกว่า

    คุณไทม์เป็นคนไม่ค่อยพูดครับ แต่พูดออกมาทีก็พูดแรง เป็นคนเด็ดขาด คำไหนคำนั้น ชอบคือชอบ เกลียดคือเกลียด แต่อย่าทำให้เกลียดเชียวนะครับ จ้องเวรกันจนวันตายทีเดียว

    พาฝนหน้าซีดเผือดเพราะเวทิตเกลียดหล่อนไปแล้ว คราวนี้คงโดนเขาจองเวรไปจนตาย...

    ไม่นานก็พากันมาถึงที่หมาย ชายหนุ่มพาไปซื้อเสื้อผ้าที่ตลาดแห่งหนึ่งเป็นอันดับแรก มีข้าวของมากมายก่ายกองให้หล่อนเลือกซื้อ สิงห์คำปล่อยให้เดินเลือกเสื้อผ้าตามใจชอบแล้วเดินตามหลังคอยถือของให้อย่างเงียบๆ ด้วยความเกรงใจทั้งเขาและเจ้าของเงินจึงเลือกซื้อกางเกงขายาวกับเสื้อไหมพรมอย่างละสองตัว รองเท้าผ้าใบสีดำหนึ่งคู่ สีขาวอีกหนึ่งคู่

    แค่นี้พอแล้วเหรอ ไม่ซื้อเพิ่มอีกสักสองชุดล่ะครับ แดดช่วงนี้ไม่ค่อยมี ซักไม่ค่อยจะแห้ง

    ไม่ดีกว่าค่ะเกรงใจตอนโดนหักเงินเดือน ที่บ้านคุณอามีเครื่องซักผ้า ไว้ฝนขยันอบแห้งเอาดีกว่า

    สิงห์คำยิ้มอย่างเอ็นดู อยากได้อะไรเพิ่มอีกไหม พวกโลชั่น ครีมบำรุงผิวหน้า ยาสระผม ของใช้ผู้หญิง ผมจะได้พาไปซื้ออีกที่หนึ่ง

    ไม่ค่ะ ฝนมีมาครบเลย ขาดแค่เสื้อผ้ากันหนาวเท่านั้น

    เมื่อหญิงสาวไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติม ทั้งสองก็พากันกลับไปยังไร่ศุภสิน

    เวทิตสั่งให้เริ่มงานพรุ่งนี้ วันนี้จึงกลับไปอยู่ดูแลคุณอาธาวันจนมืดค่ำกับคำแก้ว เวทิตก็กลับเข้าบ้านมาทันได้กินมื้อค่ำพร้อมหน้ากันอีกมื้อ กินเสร็จสองพ่อลูกก็พากันไปคุยที่ห้องของคุณอาธาวัน หล่อนจึงแยกตัวไปอาบน้ำหลังจากช่วยคำแก้วล้างจานเสร็จแล้ว


    >>>อ่านแล้วถูกใจ กดสับตะไคร้ตรงนี้จ้า<<<

        
    >>>อ่าน พิศวาสร้ายลวงใจรัก  คลิก<<<
    >>>อ่าน พิศวาสร้ายซ่อนใจรัก คลิก<<<


    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ


    ดารารินทร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×