คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : คลั่งรักเมีย(ลับ) - 7
แต่งงานอย่างนั้นเหรอ?
แต่งกับใคร?
นายหัวสักการอย่างนั้นเหรอ?
พศวีร์แง้มประตูออกด้วยน้ำหนักมือที่เบามากๆ ลอบมองดารัณที่กำลังรวบแฟ้มเข้าสู่อ้อมแขนเรียวเล็ก
กระชับให้แน่นอีกทีแล้วลงไปยังแผนกจัดเลี้ยง ซึ่งย่อยออกมาจากแผนก R&B หรือแผนกอาหารและเครื่องดื่มของทางโรงแรมเมื่อผู้จัดการแผนกโทร.มาตาม
วันนี้ช่วงค่ำทางโรงแรมมีแขกพิเศษมาจากกรุงเทพฯ
ท่านทูตกับภริยาจะมาพักที่โรงแรมของเราพร้อมกับคนในครอบครัว
ถือเป็นทริปพิเศษที่ทางโรงแรมต้องให้การดูแลต้อนรับเป็นอย่างดี
เช่นนั้นเธอจึงลงมาควบคุมดูแลและประสานงานกับแผนกต่างๆ
ด้วยตัวเองทั้งหมด
“คุณเดียร์จะให้พี่จัดโต๊ะอาหารเย็นในสวนด้านข้างหรือห้องอาหารวีไอพีชั้นบนที่มองเห็นวิวภูเขาด้านหลังดีคะ”
“ช่วงนี้อากาศค่อนข้างร้อน
เดียร์ว่าจัดในสวนดีกว่าค่ะ เตรียมนักดนตรีมาบรรเลงเพลงช้าๆ เบาๆ ระหว่างมื้ออาหารด้วยนะคะ”
“เปียโนหรือไวโอลินดีคะ”
“ไวโอลินดีกว่าค่ะ”
“มีอะไรเพิ่มเติมอีกไหมคะ”
“แค่นี้ก่อนค่ะ
อ้อ…อย่าลืมจัดดอกไม้สวยๆ รอบโต๊ะอาหารและวงดนตรีด้วยนะคะ
วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของท่านทูตกับภริยาด้วย
เดียร์อยากสร้างสรรค์ค่ำคืนที่แสนโรแมนติกให้กับท่านทั้งสองประทับใจ”
ปากขยับบอกผู้จัดการแผนกจัดเลี้ยงไป
ตาก็ชำเลืองมองร่างสูงสง่าในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มไม่เป็นทางการที่เดินผ่านหน้าไป
เธอย่นคิ้วสงสัยแล้วเดินตามไปดู
พศวีร์เดินออกมาที่ลานจอดรถส่วนตัว
มีดาราสาวเนื้ออ่อนจากกรุงเทพมหานครขับรถมาหาเขาถึงที่นี่
“คืนนี้ผมไม่ว่าง
ต้องอยู่ต้อนรับแขกพิเศษของทางโรงแรม”
“แต่ปรางมาแล้วนะคะ
พี่วีร์จะใจร้ายให้กลับเลยเหรอ”
“ถ้าดูแลตัวเองได้ก็อยู่ได้
ผมจะเปิดห้องให้” พศวีร์ไม่ใคร่ใส่ใจนักเพราะไม่ได้นัดเจ้าหล่อนให้มาหา
แต่เจ้าหล่อนเองที่ติดใจและบุกเดี่ยวอยากจะมาพบหน้าเขาอีกครั้ง หลังจากพบกันที่ผับแล้วจบที่เตียงเมื่อเดือนก่อนตอนไปปาร์ตี้วันเกิดเพื่อนในวงการบันเทิง
“แล้วเราจะได้เจอกันอีกทีตอนไหนคะ”
“พรุ่งนี้เย็น”
“เช้าปรางก็ต้องกลับแล้ว
มีถ่ายละครตอนสิบเอ็ดโมง”
แววตาของดาราสาวเนื้ออ่อนวาววามบอกถึงความต้องการในตัวชายหนุ่ม
เธอเป็นสาวลูกครึ่งที่เพิ่งเข้าวงการได้ไม่ถึงสองปี สวยแซ่บ หุ่นดี ฟรีเซ็กซ์
แต่พศวีร์ไม่ชอบกินของซ้ำ
เขาไม่อยากผูกพันและไม่ต้องการให้ใครมาผูกมัดตัวเขาไว้กับที่ด้วย
“งั้นคุณก็คงต้องกลับแล้วล่ะ”
เขาหันหลังขวับ
เห็นยายกาฝากตัวแสบยืนกอดแฟ้มมองมาด้วยความไม่พอใจ ก็เลยเอี้ยวตัวกลับไปดึงมือดาราสาวให้เดินตามกันมา
เขาเดินเฉียดแขนดารัณเข้าไป
เธอเซถอยหลังกว่าจะตั้งตัวได้เขาก็พาดาราสาวมายืนหน้าฟรอนต์เรียบร้อยแล้ว
“คุณภาวิตา
เดี๋ยวจัดห้องที่ดีที่สุดให้เพื่อนผมด้วย เธอจะพักอยู่ที่นี่หนึ่งคืน”
ดารัณยืนมองตัวเองในกระจกเงาหลังจากอาบน้ำเสร็จตอนเที่ยงคืน งานเลี้ยงต้อนรับเล็กๆ
ในสวนจบอย่างอบอุ่นช่วงสี่ทุ่มครึ่ง
แต่เธอยังต้องวางแผนการท่องเที่ยวให้กับท่านและครอบครัว
รวมไปถึงดูแลเรื่องอาหารเช้าและอาหารว่างในวันพรุ่งนี้จึงกลับมาถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน
เธอเหนื่อย
แต่ความเหนื่อยยังไม่ชัดเจนเท่ากับความหวงแหนที่เล่นงานหัวใจอยู่ในขณะนี้เลย
พศวีร์หายเข้าไปในห้องผู้หญิงคนนั้นหลังจากงานเลี้ยงต้อนรับจบลงด้วยดี
เธอเห็นกับตาเพราะตามไปดู
และเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ครั้งหนึ่งในงานการกุศลที่แม่ของอนิรุทธ์พาไป เจ้าหล่อนเป็นดาราสาวหน้าใหม่ที่สังกัดช่องเดียวกันกับสองวจีอดีตแฟนสาวของอนิรุทธ์
ดารัณรู้มาตลอดว่าพศวีร์เป็นผู้ชายแบบนี้
‘รักสนุกแต่ไม่คิดผูกพัน’ ไม่กลัวเลยว่าจู่ๆ เธอจะได้พี่สะใภ้แบบไม่ทันตั้งตัว
เขาไม่เคยคิดที่จะรักใคร ผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันส่วนมากเป็นได้แค่ ‘ของเล่นคืนเดียว’
จบแล้วก็จากกัน ไม่มีหวนกลับไปเล่นสนุกด้วยกันเป็นรอบที่สองหรือสาม
อาจจะมี...แต่น้อยคนนัก
แต่เธอก็ยังรู้สึกหวงเขาอยู่ดี หวงมากขึ้นทุกวัน
หวงแบบไม่ควรที่จะหวง!
หยิบสมาร์ตโฟนที่พศวีร์เพิ่งซื้อมาเปลี่ยนให้ใหม่ขึ้นมาเปิดแอปพลิเคชันไลน์
ปลายนิ้วสัมผัสแผ่วเบาลงบนปุ่มตัวอักษรแล้วละทิ้ง ไม่กล้าจะตามจุกจิกกวนใจเหมือนที่เขาทำกับเธอ
‘เรื่องของเธอพี่ต้องรู้ทุกเรื่อง
ส่วนเรื่องของพี่เธอไม่ต้องมาก้าวก่าย’
‘ไม่แฟร์ ไม่มีเหตุผลเลยด้วย’
‘พี่ดูแลตัวเองได้ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาหลอกฟันแล้วทิ้ง
แต่เธอดูแลตัวเองไม่ได้เพราะไม่ทันผู้ชาย เธอเคยถูกวางยาจะโดนลากไปข่มขืน
ดีที่พี่ไปช่วยไว้ทันเลยรอดมาได้ เหตุผลมากพอไหม!’
ก็เลยไปหาเก็บเสื้อผ้าที่ใส่เพียงครั้งเดียวมาพับเรียงใส่ในถุงกระดาษใบใหญ่จนเต็ม
ว่าจะเอาไปส่งต่อให้พิรุณสุรีย์ลูกสาวคนสวยของเซฟมือหนึ่งประจำร้านสเต๊กที่พศวีร์ควบคุมดูแล
สาวน้อยคนนี้มีสัดส่วนคล้ายคลึงกับเธอที่สุด สูงกว่านิดหน่อย
แต่ใส่เสื้อผ้าด้วยกันได้ตลอดเลย
พิรุณสุรีย์เป็นเด็กดี อยู่ในกรอบ
มีความรับผิดชอบต่อตัวเองเหมือนกับเธอ
พ่อหล่อนเคยทำงานใกล้ชิดกับพ่อของอนิรุทธ์มาก่อน
ก่อนที่บ้านหล่อนจะแตกสาแหลกขาดแล้วแยกย้ายกันไปคนละทาง เธอได้ยินข่าวแว่วๆ
มาว่าอนิรุทธ์ตามจีบมาเป็นปีกว่าแล้วแต่สาวเจ้าไม่เล่นด้วย
ดารัณคิดแล้วก็อดขำไม่ได้
ปกติสาวทั้งบางมีแต่อยากจะพุ่งเข้าใส่พี่ชายคนรองของเธอจนตัวสั่น
เห็นจะมีก็แต่พิรุณสุรีย์ที่วิ่งหนีเพราะกลัวจนตัวสั่นมาตั้งแต่แตกเนื้อสาวใหม่ๆ
กลัวในความเจ้าชู้ประตูดินนะไม่ใช่อะไร!
และยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีกเมื่อมีข่าวแพร่สะพัดออกไปทั่วหล้าว่าเธอคือเจ้าสาวในอนาคตของอนิรุทธ์
ซึ่งคุณนายใหญ่หรือคุณย่าพวงแก้วของพวกเราประกาศิตเอาไว้ก่อนที่ท่านจะลาจากโลกนี้ไป
ดารัณยกถุงกระดาษมาวางที่โซฟาปลายเตียงและคิดว่า…เธอไม่มีวันเป็นเจ้าสาวของอนิรุทธ์ได้หรอก
เราไม่ได้รักกันเกินไปกว่าคำว่า ‘พี่น้อง’
ร่างบางเล็กทิ้งตัวลงนอนแล้วสะดุ้งตื่นตอนตีห้าครึ่ง
เธอต้องไปถึงโรงแรมก่อนเจ็ดโมงเพื่อไปดูแลความเรียบร้อยเรื่องอาหารเช้า รถ
และไกด์นำเที่ยวให้กับท่านทูตและครอบครัว
แต่อะไรจะเหมาะเจาะเหมือนจับวาง
เธอลงจากรถมาเจอพศวีร์กับดาราสาวเนื้ออ่อนพอดี
“ท่านทูตกับภรรยาตื่นลงมาแต่เช้าแล้ว
รีบเข้าไปดูแลความเรียบร้อยเดี๋ยวนี้เลย” เขาออกคำสั่งตอนที่เราเดินมาเผชิญหน้ากัน
“ค่ะ” ดารัณรับคำแบบขอไปทีแล้วเดินรี่ๆ
เข้าไปด้วยหัวใจที่เจ็บแปลบ
จู่ๆ มันก็เจ็บขึ้นมาเองแบบไม่ทันตั้งตัว!
‘บ้าน่าเดียร์
แกจะไปรู้สึกแบบนั้นกับพี่วีร์ไม่ได้ ห้ามนะ ห้ามเด็ดขาด’
ดารัณเฝ้าบอกตัวเอง หลังจากนั้นก็ทำตัวเงียบๆ พยายามพาตัวเองออกมาให้ห่างจากพศวีร์เพื่อหักห้ามใจ
เธอรู้ว่าใจของเธออยู่กับใคร
เพียงแต่ไม่กล้าบอกออกไปก็เท่านั้นเอง…
ความคิดเห็น