คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : พิศวาสร้ายลวงใจรัก - 4 (Rewrite)
(ป๊าไทม์ VS แม่ฝน)
1
คืนนี้อากาศเย็นสบาย
ดวงดาวทอแสงพร่างพราวเต็มผืนฟ้า คุณบุณฑราในวัยสี่สิบหกกะรัตคว้าตะเกียงน้ำมันโคมแก้วแล้วก้าวฉุยฉายไปตามระเบียงทางเดินบนชั้นสองของบ้านเชิงเขาที่พ่อเลี้ยงเวทิตยกให้เป็นเรือนหอ
ท่านมาตามหาสามีที่นั่งดื่มเบียร์ตั้งแต่เย็นไม่ยอมลงไปกินข้าวด้วยกัน
สามีท่านนั่งอยู่ในมุมมืดไม่ยอมเปิดไฟกิ่งจริงๆ
ด้วย เลยเอาตะเกียงไปวางตรงหน้าแล้วทอดตัวลงนั่ง กอดอกมองคนงอนตั้งแต่เมื่อตอนเช้าที่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมมองหน้ากันเลย
“เป็นอะไรก็พูดมา อย่ามาทำตัวเป็นตาแก่ขี้งอนนะ”
“พี่อยากอยู่คนเดียว”
“ได้ค่ะ น้องดาจะได้ไปอยู่เมืองนอกคนเดียวเหมือนกัน” คุณบุณฑราลุกขึ้นไม่ทันได้ยืนก็ถูกสามีดึงมากอด
“ไม่รักก็ปล่อย น้องดาจะได้ไปให้พ้นๆ”
“ไม่ให้ไป” น้ำเสียงอ้อแอ้เหลือเกิน ซัดเบียร์เพรียวๆ
คนเดียวเป็นสิบกระป๋อง บางกระป๋องถูกบีบจนปี้แบนด้วยความเจ็บแค้นใจ
คุณบุณฑราเงยหน้าไม่ยอมเจรจา
คุณสิงห์คำเลยเชิดคางเมียขึ้นมาจูบง้อ
“พี่หึง”
“หึงไม่เข้าเรื่อง น้องดาแก่จนปูนนี้แล้วใครจะเอา”
“แก่แต่สวย ใครก็อยากได้ ยิ่งพ่อเลี้ยงภูบดินทร์ยิ่งอยากได้น้องดาเข้าไปใหญ่”
“เราอยู่กันมากี่สิบปีแล้ว ทำไมถึงยังไม่เชื่อว่าน้องดารักพี่สิงห์คนเดียว”
“ก็หมอนั่นมันจับมือน้องดา พี่เห็นกับตา” ว่าแล้วก็โมโหจนหน้าแดงก่ำขึ้นมาอีกหน
“โถ! ตาแก่ขี้หึง เขาแค่จับมือขอบคุณที่น้องดารับหนูตองเข้าทำงาน
ไม่มีอะไรมากไปกว่านั่นเลย”
“มองตามันก็รู้ หยาดเยิ้มเสียขนาดนั้น”
ทุกวันนี้มีสมบัติมากมายก็เพราะเมีย
คุณสิงห์คำจึงน้อยใจมาตลอดว่าตัวเองไม่ได้เป็นช้างเท้าหน้านำพาเมียไปสู่ความเจริญในชีวิต
หนำซ้ำยังไม่มีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจเพราะภรรยามีปัญหาเรื่องมดลูกจึงมีบุตรไม่ได้ พ่อเลี้ยงละแวกนี้ต่างจ้องจะแย่งเมียเขาตาเป็นมัน
นอกจากสวยไม่สร่างแล้วยังทำงานเก่ง ใครก็อยากได้กันทั้งนั้น
“พี่สิงห์ไม่ไว้ใจน้องดาเหรอคะ คิดว่าน้องดาเห็นแก่หน้าตาและเงินทองของคนพวกนั้นใช่ไหม
คิดว่าน้องดาจะมีอะไรกับคนอื่นได้ทั้งๆ
ที่รู้อยู่เต็มอกว่าน้องดาไม่สามารถนอนกับใครในโลกนี้ได้นอกจากพี่สิงห์เหรอคะ
กว่าเราจะนอนด้วยกันได้เหมือนคู่รักคนอื่น ต้องใช้เวลากี่ปี” ท่านย้ำอย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานแล้วถามกลับน้ำตาคลอ
“พี่สิงห์ยังคิดว่าน้องดาจะไปมีคนอื่นได้อีกใช่ไหม!”
คุณสิงห์คำเงียบกริบ
ใจเต้นแรงเมื่อเมียน้ำตาคลอพร้อมที่จะหยดลงมาด้วยความบอบช้ำในจิตใจ เพราะถูกเขาสะกิดแผลเก่าเข้าให้อย่างจัง
เลยได้แต่กอดไว้แน่นๆ แต่เมียกลับสะบัดออกมาคว้าตะเกียงเดินกลับลงไปที่ห้องนอนไม่สนใจ
อยากงอนก็งอนไปเลย!
ครู่เดียวหลังจากล้มตัวลงนอน
เสียงโทรศัพท์จากหลานสาวจอมฉอเลาะก็ดังขึ้นถี่ยิบเพราะคุณบุณฑราไม่ได้ยิน ท่านปิดเสียงไว้ก่อนจะล้มตัวลงนอน
พอหันไปเห็นแสงจ้าๆ ถึงรู้ว่ามีสายเรียกเข้าจากหลานสาวคนเดียวที่ทั้งรักทั้งหลง
“อาดาขา เปิดประตูให้หน่อย ยุ่งกัดจนเป็นผื่นหมดแล้วค่า”
คุณบุณฑราค้อนปลายสายที่โทรมาอ้อนช่วยอาสิงห์ง้องอนอย่างเจ้าเล่ห์แล้วว่าให้อย่างใจแข็ง
“ให้ตายไป”
“ใจร้าย คนเขารัก เขาหวง เขาก็หึงของเขาเป็นธรรมดา เปิดเถอะค่ะ ขี้เกียจกลับไปเยี่ยมคนเป็นไข้เลือดออกที่เชียงราย”
“ตัวแสบ ไม่ต้องมาอ้อนช่วยกันเลย คราวนี้อาดาไม่ใจอ่อนง่ายๆ หรอก
อาจะนอนแล้ว… แค่นี้นะลูก”
“เดี๋ยวๆๆๆ ค่าเดี๋ยว มีเรื่องจะบอก”
“หืม…”
“มะรืนจะฝากน้องไปทำงานด้วย คือ… น้องมีปัญหานิดหน่อยเลยอยู่ที่นี่ไม่ได้
น้องชื่อหอมระริน เดี๋ยวจะฝากไปกับเฮียไฟ น้องจบการโรงแรมเอกภาษาฝรั่งเศส พูดอังกฤษได้คล่องมากด้วย
จีนได้นิดหน่อย น่าจะช่วยงานที่โฮมสเตย์ได้ ไปถึงปุ๊บรับปั๊บเลยนะคะ เดี๋ยวส่งเอกสารสมัครงานไปรอท่า
ในเมล์นะคะ”
“โอเคจ้ะ ฝันดีนะลูกนะ”
“ยังฝันดีไม่ได้ค่ะ ตอนนี้อยู่หน้าผับกลับแจ้ง อาดาอย่าฟ้องป๊า… พลีส”
บุณฑราหัวเราะร่วนให้กับความแสบทรวงของหลานสาว
แล้วแอบทวง “ค่าปิดปาก”
“ก็พนักงานคนใหม่ที่จะส่งไปให้ไงค้า รับรอง… ถูกใจแน่นวล
น้องทำงานเก่งมาก ทำงานละเอียดยิบไม่มีพลาด จันทร์ยังอาย”
“จ้า… งั้นเที่ยวให้สนุก แค่นี้นะลูก”
“อย่าลืมเปิดตู เดี๋ยวอาสิงห์โดนยุงห้ามไปทิ้งป่า รักนะจุ๊บๆ”
พิมพ์พระจันทร์วางสายมาหัวเราะคิก
แล้วชะงักค้างเมื่อหอมระรินฟุบหลับคาบาตวิถีไปแล้ว!
“เฮ้ย! ใครก็ช่างทิ้งมันให้นอนกับพื้นได้คงคอ”
หันไปตัดพ้อเพื่อนร่วมแก๊งอีกสี่ที่นั่งระเนระนาดอยู่ใกล้ๆ
แต่ดูสภาพแต่ละคนแล้ว ‘ไม่น่ารอดพอกัน’ พิมพ์พระจันทร์ถึงกับส่ายหน้าระอาเอือมพวกคออ่อนทั้งหลายแล้วหิ้วปีกหอมระรินขึ้นมาตบแก้มเรียกสติ
“หอม หอมเว้ย เฮ้ยๆๆๆ หอม” ตบเรียกเป็นจังหวะแรปเปอร์จนหอมระรินปรือตาขึ้นมาขานรับแล้วคอพับหลับไปอีกรอบ
“เอาไง แกจะไปต่อไหมเนี่ย” เพื่อนรวมแก๊งโก่งคอถามหลังจากเกาะถังขยะอาเจียนจนสร่างเมา
“ต่อดิ แป๊บหนึ่ง หาคนมารับหอมไปทิ้งคอนโดก่อน”
พิมพ์พระจันทร์โทรศัพท์ไปอ้อนพี่ชาย
ทำน้ำเสียงมึนเมาเต็มอัตราจะได้มาไวๆ
แป๊บๆๆๆ
เดียว เฮียไฟของยายจันทร์ก็มาถึงเพราะอยู่ผับติดกัน ชายหนุ่มเข้ามายืนหน้าตึงมองน้องสาวเต้นเมามันอยู่หน้าเวทีก็ปรี่เข้าไปล็อกคอลากออกมาเดี๋ยวนั้น
“รุนแรง” พิมพ์พระจันทร์ตัดพ้อเสียงอ่อยแล้วพยักพเยิดไปทางหอมระรินที่นั่งปลดกระดุมเสื้อตัวเองหน้าตาตื่น
“หอมๆๆๆ แกจะแก้ผ้าตรงนี้ไม่ได้” วิ่งมาตะครุบห้ามแทบไม่ทัน
“เจ๊ๆๆๆ หอมร้อน หอมอยากแก้ผ้า”
“เออ… เดี๋ยวให้เฮียพาไปแก้ที่ห้อง เฮีย… พาหอมไปทิ้งคอนโดที” ประคองหอมระรินมาผลักใส่อกให้พี่ชายแล้วเตือนเสียงเข้ม
“ย้ำนะเฮีย เอาไปทิ้ง ไม่ใช่เอาไปปล้ำ น้องมันมีแฟนแล้วอย่าคิดรังแก”
รู้ว่าพี่ชายเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ขืนใจคนมีคู่จึงรีบขู่เตือนเอาไว้ก่อน
“ไม่กลับเหรอ”
“กลับอะไรๆๆๆ เพิ่งมาผับที่สองเอง นี่เต้นยังไม่ทันเมื่อยเลย
เฮียพาหอมไปเร็ว มันจะแก้ผ้าโชว์ผู้ชายทั้งผับอยู่แล้ว” พิมพ์พระจันทร์กระทืบเท้าเร่าๆ
ร้องไล่พี่ชายให้พายายหอมออกไปไวๆ ดูสิ ถอดเสื้อนอกโยนทิ้งไปแล้วเหลือแต่เกาะอกสีดำตัวเดียว
เพชรตะวันรึอยากจะลากคอน้องสาวกลับด้วยใจแทบขาด
แต่สภาพคนในอกก็เหลือจะกล่าว จะพยุงไปก็คงไม่รอดเลยต้องแบกออกไปโยนใส่รถสปอร์ตคันโก้แทน
“ห่ามึง! มีคนมาตัดหน้าเอาผู้หญิงไปแล้วว่ะ” หนึ่งในวัยรุ่นกลุ่มใหญ่สบถอย่างหัวเสีย
“อดแดก”
“หาเหยื่อใหม่สิมึง เครียดห่าไร สาวมากมาย”
เหยื่อสาวรายแรกของกลุ่มวัยรุ่นถูกพามาทิ้งใส่รถ
เพชรตะวันถึงกับบีบบ่าเบาๆ เพราะคนตัวเล็กที่แบกมาไม่เบาอย่างที่คิด
คงเพราะเมามากเลยทิ้งน้ำหนักตัวให้แบกเต็มที่ คนแบกก็แทบปาดเหงื่อ เหนื่อยพอกับแบกข้าวสารกระสอบใหญ่ๆ
ไม่ใช่แค่นั้นสำหรับภาระที่น้องสาวโยนมาให้ พอขับรถไปได้นิดเดียวก็สะบัดรองเท้า ถอดถุงน่อง
นี่ร่ำๆ จะถอดเกาะอกออกให้คนขับหัวใจวายเล่นอีกแล้ว ดีนะติดไฟแดงเลยตะครุบไว้ทัน หันไปเร่งแอร์ฯจนตัวเองหนาวราวกับนอนอยู่บนกองหิมะ
เจ้าหล่อนก็ยังร้อนจะถอดเสื้อผ้าออกให้ได้
<<<อ่านแล้วถูกใจ กดสับตะไคร้ตรงนี้>>>
>>>อ่านเรื่อง ทัณฑ์รักเมียบำเรอ คลิก<<<
>>>อ่านเรื่อง พิศวาสลวงบ่วงราคี คลิก<<<
มีคนเรียกร้องให้รีบมาอัพๆๆๆ ก็เลยแวบมาอัพให้หนึ่งตอนก่อนเน้อ
ตอนนี้กำลังเร่งปิดต้นฉบับเพราะเดี๋ยวจะไม่อยู่ช่วงกุมภาพันธ์
ขอให้สนุกกับการอ่าน ติดใจอย่าลืมกดสับตะไคร้
ชอบใจฝุดๆ ก็รัวแป้นคอมเม้นท์เม้าท์มอยกันเน้อ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ
1 อาทิตย์ อัพ 3 วันก่อนน้า เขียนจบเมื่อไรจะเปย์ให้ถี่ๆ อีกทีจ้า
ดารารินทร์
ความคิดเห็น