NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลั่งรักเมีย(ลับ)

    ลำดับตอนที่ #3 : คลั่งรักเมีย(ลับ) - 3

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 64






    ออฟฟิศภายในฟาร์มวาณิชธนากิจที่อยู่ส่วนท้ายของพื้นที่นับพันไร่กำลังวุ่นวายในช่วงต้นสัปดาห์ พศวีร์เดินลิ่วๆ เข้ามาด้วยใบหน้าบึ้งตึง กระนั้นก็ยังหล่อเข้มดูดีจนพนักงานสาวๆ ไม่อาจละสายตา และหล่อกันคนละแบบกับน้องชายต่างแม่อย่างอนิรุทธ์

    พศวีร์มีรูปร่างสูงสง่า ใบหน้าหล่อเหลาของเขาคมเข้มบาดตาแบบหนุ่มไทยผสมอาหรับ สีผิวคล้ามแดดบาดใจ นิสัยเจ้าเล่ห์เพลย์บอยกับชีวิตส่วนตัว ส่วนเรื่องงานที่ครอบครัวมอบหมายให้รับผิดชอบบริหารเขาไม่เคยเล่น พศวีร์จริงจังและเด็ดขาดเสมอ

    ในขณะที่น้องชายต่างแม่มีรูปร่างสูงสง่า ใบหน้าหล่อเหลาคมคายคล้ายหนุ่มลูกครึ่งไทยแท้ผสมเกาหลีนิดๆ ผิวกายขาวเหลืองออร่าแรง เดินไปทางไหนก็เหมือนมีแสงสปอตไลต์ไล่ส่องไปทุกที่ ดูสุขุมนุ่มลึกกว่า เจ้าชู้นิดๆ เจ้าเล่ห์หน่อยๆ เรื่องการงานที่ดูแลรับผิดชอบนั้นบริหารอย่างเด็ดขาดจริงจังไม่แพ้กันเลย

    ถ้าจะเปรียบเทียบนิสัยใจคอสองศรีพี่น้องคู่นี้ให้เห็นชัดๆ ก็ดั่งลาวากับน้ำแข็ง แต่ไม่ว่าจะพี่หรือน้อง สาวๆ ก็จ้องอยากจะกลืนกินพวกเขาด้วยกันทั้งนั้น

    ประตูถูกผลักเข้ามาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวของพศวีร์ เล่นเอาน้องชายที่นั่งหัวฟูดูงานเอกสารกองโตเงยหน้าขึ้นมามองเหลอหลา ร่างสูงสง่าในชุดสูทสีเทาเนี้ยบกริบทอดกายนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน แขนข้างหนึ่งพาดไว้บนโต๊ะ อีกข้างพาดไว้บนที่พักแขนของเก้าอี้ มีใบหน้าที่บอกได้ดีว่าไม่สบอารมณ์

    น้องสาวแกเอาใหญ่แล้วนะไอ้รุทธ์”

    ดูท่าแล้วน่าจะเรื่องใหญ่” อนิรุทธ์พิงหลังกับพนักเก้าอี้ อมยิ้มบางๆ ขบขันกับท่าทางขึ้งโกรธจริงจังของพี่ชาย

    น้องมันก็แค่หนีไปเที่ยวเอง ทำเหมือนหนีตามผู้ชายไปไม่บอกไม่กล่าวไปได้’

    ใหญ่แน่...เพราะน้องสาวแกทำแสบมากกว่าครั้งไหนๆ ถ้ากลับมาแล้วไม่จัดการให้เด็ดขาด ฉันจะจัดการเอง!”

    พศวีร์นึกถึงคำพูดที่คาดคั้นเอามาจากปากธนนท์ในวันก่อนก็ยิ่งโกรธ ดารัณหัวหมอมาก หาหนุ่มไซด์ไลน์หุ่นล้ำหล่อตี๋มาปิดปากธนนท์แล้วหนีหายไปเพียงลำพัง ตามตัวต่อก็ไม่ได้เพราะสมาร์ตโฟนของธนนท์ที่เอาไปด้วยไม่เปิดใช้งานเลย คงจะรู้ว่ายังไงเขาก็ต้องตามหาพิกัดเธอจนเจอหากเปิดใช้งานแม้เพียงเสี้ยวนาที

    มันทำให้เขายิ่งหงุดหงิดและคิดมากว่าน้องน่าจะไปกับผู้ชายจริงๆ ถึงได้คิดวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนจนจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน

    ใจเย็นน่า น้องมันไปทำอะไรให้โกรธขนาดนั้น ไหนว่ามาสิ”

    รอยยิ้มขบขันบางๆ ยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาคมคายของน้องชาย พศวีร์พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้โกรธมากไปกว่านั้นแล้วเล่าวีรกรรมอันแสบสันของดารัณให้น้องชายฟัง แต่ยิ่งเล่า...อารมณ์ก็ยิ่งคุกรุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ สองมือหนาแกร่งทว่าเรียวยาวกำเข้าหากันจนเส้นเลือดตรงหลังมือปูดโปน

    ให้ตายเถอะ! ทำไมเขาถึงสงบสติอารมณ์ร้อนรุ่มกลุ้มในใจให้เบาบางลงไม่ได้เลย ผิดกับน้องชายที่ได้ฟังเรื่องราวร้ายกาจของยายเด็กแสบแต่ยังแอบขบขันเหมือนไม่รู้สึกอะไร

    นั่นว่าที่คู่หมั้นแกนะไอ้รุทธ์ ช่วยเดือดเนื้อร้อนใจหน่อยได้ไหม”

    คิดมากน่า คนเรามันก็ต้องมีบ้างที่นึกอยากปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียวในที่สงบๆ ช่วงนี้เห็นบ่นให้ฟังว่างานหนัก เหนื่อยอยากจะพัก แล้วเฮียนะก็เข้มงวดจนเกิน ไม่ปล่อยน้องเลย คุมเข้มมาตลอด น้องไม่เคยมีอิสระในชีวิต อยู่แต่บ้าน ทำแต่งาน จะออกไปไหนมาไหนทีก็ต้องมีคนตามไปคุม ไม่มีนกตัวไหนอยากถูกขังอยู่ในกรงไปทั้งชีวิตหรอกนะเฮีย แม้ว่ากรงนั้นจะเป็นกรงทองก็เถอะ”

    อนิรุทธ์รู้สึกเห็นใจดารัณมาตลอดกับเรื่องนี้ เขาเองถึงจะรักดารัณมาก เห็นเป็นเหมือนน้องสาวที่คลานตามกันมาเลยก็ว่าได้ แถมตอนนี้ยังมีพันธสัญญาที่ย่าผูกมัดไว้ให้ก่อนตายคือ ‘ว่าที่คู่หมั้น’ แต่ไม่เคยหวงเธอเท่าพี่ชายคนโตเลยสักที

    พศวีร์หวงน้องสาวนอกสายเลือดคนนี้มากเกินไป หวงจนเด็กสาวคนหนึ่งขาดอิสระและประสบการณ์ส่วนหนึ่งในชีวิตไปอย่างน่าเห็นใจ เธอแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกเลย วันหนึ่งๆ อยู่แต่กับคนในครอบครัว จากโรงเรียนกลับบ้าน จากบ้านไปโรงเรียน ไปเที่ยวไหนทีก็มีคนในบ้านไปด้วยตลอด เป็นแบบนี้มาตลอดจนโตเป็นสาวสะพรั่ง งามพร้อมทั้งกายใจ มองโลกในแง่ดีไม่มีลบเลย

    ถ้าวันหนึ่งถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวอยู่คนเดียวนอกชายคาบ้านก็ไม่พ้นต้องเป็นคนหลงทาง เอาตัวเองไม่รอดจากคมเขี้ยวของมนุษย์กร้านโลกทั้งหลายแหล่

    คิดแล้วก็สงสาร…

    ก็ย่าเลี้ยงมาแบบนี้ แกจะให้ฉันเลี้ยงต่อยังไง มาเปลี่ยนวิธีเลี้ยงตอนอายุยี่สิบจะสามสิบมันได้เหรอ”

    แก่แค่ไหนก็ไม่สายเกินจะเรียนรู้ โดยเฉพาะวิธีการเอาตัวรอดจากคมเขี้ยวมนุษย์นอกชายคาบ้าน อย่าทำให้น้องมันเอาตัวไม่รอดจากสังคมเลยเฮีย อนาคตข้างหน้า…ผมไม่อยากเห็นน้องต้องเสียใจเพราะถูกคนนอกบ้านทำร้ายซ้ำๆ เพราะความไม่รู้ประสา เห็นทุ่งกระบองเพชรเป็นทุ่งลาเวนเดอร์ตลอดเวลาเหมือนที่ผ่านมา”

    มีเพียงบัตรเชิญที่พี่ชายดึงออกกระเป๋าเสื้อสูทด้านในวางไว้ให้ ไร้คำตอบที่ควรจะได้รับ

    อนิรุทธ์มองตามแผ่นหลังกว้างกำยำนั้นไปอย่างไม่อาจทัดทาน และอดที่จะปรักปรำไม่ได้เลยว่า...

    พศวีร์มากกว่าที่จงใจเลี้ยงดารัณให้เป็นคนอ่อนแอ ไม่ใช่ย่า!

     



    --------------------------------------

    ***********

    ถ้าอ่านแล้วถูกใจอย่าลืมแอดเข้าชั้นหนังสือกันนะคะ
    ***ชอบไม่ชอบเมนต์บอกกันบ้างน้า***
    ป.ล. เนื้อหาที่ลงให้อ่านตรวจทานเพียงรอบเดียว 
    อาจมีคำผิดประปรายปนมาบ้าง ต้องขออภัยด้วยนะคะ
    ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ
    ขอให้สนุกและมีความสุขกับการอ่านค่ะ
    ดารารินทร์ 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×