คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คลั่งรักเมีย(ลับ) - 3
ออฟฟิศภายในฟาร์มวาณิชธนากิจที่อยู่ส่วนท้ายของพื้นที่นับพันไร่กำลังวุ่นวายในช่วงต้นสัปดาห์ พศวีร์เดินลิ่วๆ
เข้ามาด้วยใบหน้าบึ้งตึง กระนั้นก็ยังหล่อเข้มดูดีจนพนักงานสาวๆ ไม่อาจละสายตา
และหล่อกันคนละแบบกับน้องชายต่างแม่อย่างอนิรุทธ์
พศวีร์มีรูปร่างสูงสง่า ใบหน้าหล่อเหลาของเขาคมเข้มบาดตาแบบหนุ่มไทยผสมอาหรับ
สีผิวคล้ามแดดบาดใจ นิสัยเจ้าเล่ห์เพลย์บอยกับชีวิตส่วนตัว
ส่วนเรื่องงานที่ครอบครัวมอบหมายให้รับผิดชอบบริหารเขาไม่เคยเล่น
พศวีร์จริงจังและเด็ดขาดเสมอ
ในขณะที่น้องชายต่างแม่มีรูปร่างสูงสง่า
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายคล้ายหนุ่มลูกครึ่งไทยแท้ผสมเกาหลีนิดๆ ผิวกายขาวเหลืองออร่าแรง
เดินไปทางไหนก็เหมือนมีแสงสปอตไลต์ไล่ส่องไปทุกที่ ดูสุขุมนุ่มลึกกว่า เจ้าชู้นิดๆ
เจ้าเล่ห์หน่อยๆ
เรื่องการงานที่ดูแลรับผิดชอบนั้นบริหารอย่างเด็ดขาดจริงจังไม่แพ้กันเลย
ถ้าจะเปรียบเทียบนิสัยใจคอสองศรีพี่น้องคู่นี้ให้เห็นชัดๆ
ก็ดั่งลาวากับน้ำแข็ง แต่ไม่ว่าจะพี่หรือน้อง สาวๆ
ก็จ้องอยากจะกลืนกินพวกเขาด้วยกันทั้งนั้น
ประตูถูกผลักเข้ามาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวของพศวีร์
เล่นเอาน้องชายที่นั่งหัวฟูดูงานเอกสารกองโตเงยหน้าขึ้นมามองเหลอหลา
ร่างสูงสง่าในชุดสูทสีเทาเนี้ยบกริบทอดกายนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน
แขนข้างหนึ่งพาดไว้บนโต๊ะ อีกข้างพาดไว้บนที่พักแขนของเก้าอี้
มีใบหน้าที่บอกได้ดีว่าไม่สบอารมณ์
“น้องสาวแกเอาใหญ่แล้วนะไอ้รุทธ์”
“ดูท่าแล้วน่าจะเรื่องใหญ่”
อนิรุทธ์พิงหลังกับพนักเก้าอี้ อมยิ้มบางๆ ขบขันกับท่าทางขึ้งโกรธจริงจังของพี่ชาย
‘น้องมันก็แค่หนีไปเที่ยวเอง
ทำเหมือนหนีตามผู้ชายไปไม่บอกไม่กล่าวไปได้’
“ใหญ่แน่...เพราะน้องสาวแกทำแสบมากกว่าครั้งไหนๆ
ถ้ากลับมาแล้วไม่จัดการให้เด็ดขาด ฉันจะจัดการเอง!”
พศวีร์นึกถึงคำพูดที่คาดคั้นเอามาจากปากธนนท์ในวันก่อนก็ยิ่งโกรธ
ดารัณหัวหมอมาก หาหนุ่มไซด์ไลน์หุ่นล้ำหล่อตี๋มาปิดปากธนนท์แล้วหนีหายไปเพียงลำพัง
ตามตัวต่อก็ไม่ได้เพราะสมาร์ตโฟนของธนนท์ที่เอาไปด้วยไม่เปิดใช้งานเลย
คงจะรู้ว่ายังไงเขาก็ต้องตามหาพิกัดเธอจนเจอหากเปิดใช้งานแม้เพียงเสี้ยวนาที
มันทำให้เขายิ่งหงุดหงิดและคิดมากว่าน้องน่าจะไปกับผู้ชายจริงๆ
ถึงได้คิดวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนจนจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
“ใจเย็นน่า น้องมันไปทำอะไรให้โกรธขนาดนั้น
ไหนว่ามาสิ”
รอยยิ้มขบขันบางๆ
ยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาคมคายของน้องชาย
พศวีร์พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้โกรธมากไปกว่านั้นแล้วเล่าวีรกรรมอันแสบสันของดารัณให้น้องชายฟัง
แต่ยิ่งเล่า...อารมณ์ก็ยิ่งคุกรุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ สองมือหนาแกร่งทว่าเรียวยาวกำเข้าหากันจนเส้นเลือดตรงหลังมือปูดโปน
ให้ตายเถอะ! ทำไมเขาถึงสงบสติอารมณ์ร้อนรุ่มกลุ้มในใจให้เบาบางลงไม่ได้เลย
ผิดกับน้องชายที่ได้ฟังเรื่องราวร้ายกาจของยายเด็กแสบแต่ยังแอบขบขันเหมือนไม่รู้สึกอะไร
“นั่นว่าที่คู่หมั้นแกนะไอ้รุทธ์
ช่วยเดือดเนื้อร้อนใจหน่อยได้ไหม”
“คิดมากน่า
คนเรามันก็ต้องมีบ้างที่นึกอยากปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียวในที่สงบๆ
ช่วงนี้เห็นบ่นให้ฟังว่างานหนัก เหนื่อยอยากจะพัก แล้วเฮียนะก็เข้มงวดจนเกิน
ไม่ปล่อยน้องเลย คุมเข้มมาตลอด น้องไม่เคยมีอิสระในชีวิต อยู่แต่บ้าน ทำแต่งาน
จะออกไปไหนมาไหนทีก็ต้องมีคนตามไปคุม
ไม่มีนกตัวไหนอยากถูกขังอยู่ในกรงไปทั้งชีวิตหรอกนะเฮีย
แม้ว่ากรงนั้นจะเป็นกรงทองก็เถอะ”
อนิรุทธ์รู้สึกเห็นใจดารัณมาตลอดกับเรื่องนี้
เขาเองถึงจะรักดารัณมาก เห็นเป็นเหมือนน้องสาวที่คลานตามกันมาเลยก็ว่าได้
แถมตอนนี้ยังมีพันธสัญญาที่ย่าผูกมัดไว้ให้ก่อนตายคือ ‘ว่าที่คู่หมั้น’
แต่ไม่เคยหวงเธอเท่าพี่ชายคนโตเลยสักที
พศวีร์หวงน้องสาวนอกสายเลือดคนนี้มากเกินไป
หวงจนเด็กสาวคนหนึ่งขาดอิสระและประสบการณ์ส่วนหนึ่งในชีวิตไปอย่างน่าเห็นใจ
เธอแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกเลย วันหนึ่งๆ อยู่แต่กับคนในครอบครัว
จากโรงเรียนกลับบ้าน จากบ้านไปโรงเรียน ไปเที่ยวไหนทีก็มีคนในบ้านไปด้วยตลอด
เป็นแบบนี้มาตลอดจนโตเป็นสาวสะพรั่ง งามพร้อมทั้งกายใจ มองโลกในแง่ดีไม่มีลบเลย
ถ้าวันหนึ่งถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวอยู่คนเดียวนอกชายคาบ้านก็ไม่พ้นต้องเป็นคนหลงทาง
เอาตัวเองไม่รอดจากคมเขี้ยวของมนุษย์กร้านโลกทั้งหลายแหล่
คิดแล้วก็สงสาร…
“ก็ย่าเลี้ยงมาแบบนี้
แกจะให้ฉันเลี้ยงต่อยังไง มาเปลี่ยนวิธีเลี้ยงตอนอายุยี่สิบจะสามสิบมันได้เหรอ”
“แก่แค่ไหนก็ไม่สายเกินจะเรียนรู้
โดยเฉพาะวิธีการเอาตัวรอดจากคมเขี้ยวมนุษย์นอกชายคาบ้าน
อย่าทำให้น้องมันเอาตัวไม่รอดจากสังคมเลยเฮีย
อนาคตข้างหน้า…ผมไม่อยากเห็นน้องต้องเสียใจเพราะถูกคนนอกบ้านทำร้ายซ้ำๆ
เพราะความไม่รู้ประสา เห็นทุ่งกระบองเพชรเป็นทุ่งลาเวนเดอร์ตลอดเวลาเหมือนที่ผ่านมา”
มีเพียงบัตรเชิญที่พี่ชายดึงออกกระเป๋าเสื้อสูทด้านในวางไว้ให้
ไร้คำตอบที่ควรจะได้รับ
อนิรุทธ์มองตามแผ่นหลังกว้างกำยำนั้นไปอย่างไม่อาจทัดทาน
และอดที่จะปรักปรำไม่ได้เลยว่า...
พศวีร์มากกว่าที่จงใจเลี้ยงดารัณให้เป็นคนอ่อนแอ
ไม่ใช่ย่า!
ความคิดเห็น