คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : คลั่งรักเมีย(ลับ) - 18
ดารัณนั่งกำพวงมาลัยแน่น ดวงตากลมโตหม่นเศร้าไร้กำลังใจ
ตั้งแต่คุณย่าพวงแก้วเสียไปชีวิตเธอไม่เคยพบเจอความสุขอีกเลย
มีปัญหากับพศวีร์ไม่เว้นวัน พ่อก็ยังกลับเข้ามาวุ่นวายในชีวิตอีกคน
ดารัณนึกไปถึงวันนั้นที่เชียงรายแล้วความเจ็บมันก็จี๊ดขึ้นมาที่ใจ
‘เดียร์ พ่อไม่ค่อยสบาย ไม่มีใครดูแลสักคน ไม่มีเงินไปหาหมอด้วย
เดียร์มาหาพ่อหน่อยได้ไหม’ พ่อโทร.มาบอกหลังจากเงียบหายไปหลายปี
‘พ่ออยู่ที่ไหน’
‘เชียงราย’
ด้วยความเป็นห่วงจับใจ
เธอรีบเดินทางไปหาพ่อตามที่อยู่ที่ท่านบอก
โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องพบเจอกับความใจร้ายใจดำของผู้ให้กำเนิดอีกครั้ง แทนที่จะได้เห็นพ่อนอนซมเพราะอาการป่วยอย่างที่โทร.มาบอกกัน กลับเจอพ่อนั่งกินเหล้าสูบบุหรี่รออยู่ในบ้านปูนหลังเล็กๆ
ซึ่งมารู้ตอนไปถึงว่าเป็นของครูปิ่นงามอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยกับการหลอกลวงในครั้งนี้
‘นี่พ่อหลอกหนูอีกแล้วเใช่ไหม’
‘ถ้าไม่ทำแบบนี้แกจะยอมออกมาเจอหน้าฉันเหรอนางลูกเนรคุณ
ลืมไปแล้วใช่ไหมว่าใครที่เป็นคนทำให้แกได้เป็นคุณหนูอยู่อย่างสุขสบายมาจนทุกวันนี้’
ดารัณถึงกับคอแข็งขึ้นมาเมื่อถูกพ่อชี้หน้าทวงบุญคุณอีกแล้ว
หลังจากคุณย่าพวงแก้วเสียไปเธอพยายามหลบหลีกไม่รับสายจากพ่อมาตลอดเพราะกลัวว่าจะถูกพาตัวกลับไปขายต่อให้คนอื่น
พ่อบ้าบิ่น สิ้นคิด เห็นแก่เงิน เห็นเธอเป็นแค่สินค้าไม่เคยรักกันบ้างเลย
พอขี้เกียจเลี้ยงขึ้นมาก็ขายให้คนอื่นเอาไปเลี้ยง
นี่ถ้าคนจ่ายเงินซื้อมาไม่ใช่คุณย่าพวงแก้ว
เธอจะตกอยู่ในสภาพไหนไม่อยากจะคิด!
‘พ่อต้องการอะไรจากหนูอีก’
‘ฉันไม่มีเงินใช้ คุณนายมันตายไปหลายเดือนแล้วเงินเลยขาดมือ
แกพอจะมีให้ฉันสักแสนไหมล่ะ’
ปกติคุณนายพวงแก้วจะจ่ายเงินเดือนให้ทุกเดือน
เพื่อไม่ให้ตนเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของดารัณและคนในตระกูลวาณิชธนากิจอีก
แต่พอคุณนายพวงแก้วเสียไปทุกอย่างก็จบ ไม่มีเงินให้กินให้ใช้ฟรีๆ อีกแล้ว
‘เยอะขนาดนั้นหนูจะไปหามาจากไหน’
‘อ้าว…นี่แกไม่ได้สมบัติอะไรจากอีคุณนายมันบ้างเลยรึ’
‘…’
คนเป็นพ่อฟาดฝ่ามือกับโต๊ะไม้เก่าๆ
รู้สึกฉุนขาด ‘ฉันคิดว่าแกจะได้อะไรติดตัวไว้บ้าง
แก้วแหวนเงินทองคุณนายไม่แบ่งให้สักนิดเลยเหรอ’
‘หนูเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่คุณย่าเลี้ยงไว้ด้วยความเมตตาเอ็นดู
ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของท่าน แค่เลี้ยงดูหนูมาอย่างดีเหมือนลูกเหมือนหลาน
มีบ้านให้อยู่ ส่งเสียให้เรียนจนเรียนจบมหา’ ลัย มีงานให้ทำไปทั้งชีวิต
มันก็มากพอแล้วนะพ่อ’
‘ถ้าฉันรู้ว่าแกโตมาแล้วโง่ขนาดนี้ ฉันขายให้ไปอยู่ในซ่องยังจะคุ้มเสียกว่า
ดีไม่ดีป่านนี้มีผัวรวยไปแล้ว’
จิปากขัดใจแล้วลุกขึ้นมาแย่งกระเป๋าสะพายลูกไปรื้อค้น
‘พ่อจะทำอะไร หนูมีเงินไม่กี่พันหรอกนะ’
เธอไม่เอาเงินติดตัวมาเยอะเพราะกลัวพ่อปล้นแบบนี้ไง
คนเป็นพ่อค้นหาสมาร์ตโฟนเจอก็ชูมันขึ้นมา
‘ฉันจะเอาไอ้นี่ ส่วนเงิน…แกมีในบัญชีเท่าไรก็โอนมาให้ฉันก่อน’
ดารัณมองการกระทำของคนเป็นพ่อด้วยความรวดร้าวใจ
เธอไม่กล้าตอบโต้เท่าไรเพราะกลัวถูกตบตีเหมือนตอนเป็นเด็ก
พ่อตบตีลงมาบนเนื้อตัวแต่ละทีเจ็บแค่ไหนเธอจำได้ขึ้นใจ
‘ปลดล็อก’ คนเป็นพ่อสั่งการ
‘มันไม่ใช่โทรศัพท์หนู หนูสลับกับเพื่อนมา ไม่งั้นคนที่บ้านจะตามเจอ’
‘เฮ้ย…เอาไป’ เอาสมาร์ตโฟนใส่กระเป๋าสะพายโยนคืนให้
‘งั้นแกก็ไปหานายหัวสักการกับฉันเลยแล้วกัน
ถ้าเขาเห็นแล้วถูกใจ…แกเตรียมตัวไปอยู่เป็นเมียเขาได้เลย’
‘หนูมีคู่หมั้นแล้ว คุณย่ายกหนูให้พี่รุทธ์ อีกไม่นานเราจะหมั้นกัน’
พ่อทำเมินไม่สนใจ
ไม่ยินดียินร้ายกับคำป่าวประกาศจากปากเธอเลยสักนิดเดียว
แถมยังบังคับเธอให้ไปหาเจ้านายที่ชื่อ ‘นายหัวสักการ’ จนได้อีกด้วย
พ่อทำงานอยู่กับผู้ชายคนนี้จนสนิทสนมไว้ใจกัน
ฝ่ายนั่นถึงกับยกยอพ่อว่าเป็นมือขวาคนโปรด
ปกติพ่อไม่เคยอยู่กับใครได้นาน
พอขายเธอให้คุณย่าพวงแก้วแล้วก็ร่อนเร่ทำงานไปทั่วเมืองไทย เหมือนกลัวอะไรสักอย่าง
พ่อไม่ใช่คนขาวสะอาดเพราะทำงานให้มาเฟียที่ประกอบธุรกิจสีเทาเป็นส่วนใหญ่
‘พ่อเป็นมือปืน’ ที่พ่อกลัวก็น่าจะเป็น ‘ศัตรูและตำรวจ’
ดารัณลงจากรถเข้าไปในบาร์เฮียสี่อย่างไม่อาจหลบหลีก
เธอเดินขึ้นมายังห้องส่วนตัวสำหรับแขกวีไอพีแล้วผลักประตูเข้าไป
พ่อที่เป็นเหมือนเงาร้ายตามกลืนกินชีวิตเธอนั่งอยู่ข้างในนั้น
ดารัณมองแผ่นหลังกว้างกำยำของพ่อด้วยความหวั่นกลัว
ตัวสั่นสะท้านและเย็นเฉียบดุจน้ำแข็งจับ ขยับเท้าก้าวมาข้างหน้าไม่ได้ ไม่มีใครปกป้องเธอจากผู้ชายใจร้ายคนนี้ได้อีกแล้ว…คุณย่าเสียไปแล้ว
ถ้าเธอไม่แต่งงานกับอนิรุทธ์...ก็ต้องหนีไปให้ไกลจากประเทศนี้!
ความคิดเห็น