NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิศวาสลวงบ่วงราคี

    ลำดับตอนที่ #11 : พิศวาสลวงบ่วงราคี - 11

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ย. 61





    อีบุ๊คพี่ไทม์กับหนูฝนมาแล้วจ้า ใครรอโหลดอยู่เชิญจิ้มเลยจ้า

    >>>ลิงก์สำหรับโหลด E-book<<<

    หรือคลิกที่ภาพก็ได้นะคะ




    3

     

     

     

    หลังอาหารมื้อค่ำพาฝนขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ด้วยชุดนอนผ้านิ่มลายดอกไม้สีส้มเขียว ตัดกับผิวขาวใสแล้วยิ่งส่งผลให้ดูอ่อนเยาว์ ก่อนจะเดินลงไปยังห้องที่เวทิตนัดแนะ

    สาวน้อยยืนทำใจอยู่ชั่วครู่ก่อนผลักประตูบานใหญ่เข้าไปในห้องโฮมเธียเตอร์ มันมีขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยโทนสีดำแดง พาฝนกวาดตามองคร่าวๆ ผนังสีดำตัดเฟอร์นิเจอร์สีแดงเพิ่มความสว่างทำให้ห้องดูโมเดิร์นขึ้น ราวกับอยู่ในโรงหนังหรูหรา

    เวทิตนั่งดูภาพยนตร์บู้แอคชั่นรออย่างเงียบๆ หล่อนรีบก้าวเข้าไปนั่งที่เบาะกำมะหยี่สีแดงไม่ใกล้กัน ครู่เดียวไฟก็สว่างวาบขึ้น ภาพยนตร์ที่กำลังฉายบนจอทีวีใหญ่ยักษ์ดับพึ่บลงไป

    ชายหนุ่มวางรีโมทคอนโทรลในมือหันมาหยิบซองเอกสารข้างตัวส่งให้หล่อน

    อ่านแล้วก็เซ็นซะ

    พาฝนรับมาเปิดอ่านละเอียดทุกบรรทัด เป็นข้อความที่เขาเคยพูดกับหล่อนเมื่อตอนกลางวัน เสริมขึ้นมาอีกสองข้อก็คือ หากหล่อนท้องไม่ว่าจะกับใครก็ตาม สัญญาทั้งหมดถือเป็นโมฆะ สิ่งเดียวที่จะได้หากผิดสัญญาคือเงินสิบล้านบาท เท่าที่ครอบครัวเขาได้รับความช่วยเหลือจากบิดาเป็นอันจบสิ้นกันไป หล่อนไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใดๆ นอกเหนือจากนี้

    ข้อที่สองหากหล่อนต้องการหย่าก่อนกำหนดที่ตกลงกันไว้ เขาจะแถมเงินให้อีกสองเท่าของสินสมรสหลังจดทะเบียน แต่หากหล่อนกระทำการคบชู้สู่ชายแล้วหลอกกินเงินเข้าไปวันๆ ระหว่างจดทะเบียนสมรสอยู่กินด้วยกัน หล่อนต้องออกไปจากไร่ศุภสินแต่ตัว ถือว่าสัญญาทั้งหมดเป็นโมฆะ

    ฝนไม่เอาอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะทะเบียนสมรสหรือเงินสิบล้านบาทที่คุณพ่อเคยช่วยเหลือคุณอา ฝนขอแค่ทำงานที่นี่ในฐานะลูกจ้างจนกว่าจะตั้งตัวได้ แล้วฝนจะไปจากไร่ศุภสินทันที

    เธอทำแบบนั้นได้แน่พาฝน หากพ่อฉันไม่เห็นจดหมายพ่อเธอเสียก่อน พ่อฉันเป็นคนซื่อสัตย์และรักษาคำสัญญายิ่งกว่าชีวิตตัวเอง โดยเฉพาะกับพ่อเธอที่ช่วยชุบชีวิตให้ยัดยืนขึ้นมาได้อีกครั้ง และสัญญาที่พ่อเธอทวงมามันไม่ใช่เงินที่เคยให้มาด้วยความเมตตา แต่เป็นฉันที่ต้องดูแลชีวิตเธอไปทั้งชีวิต หากพ่อฉันทำตามสัญญาไม่ได้ ท่านก็จะทุกข์ จะเครียด และอาจจะตรอมใจจนตายเพราะผิดสัญญา ฉันถึงต้องทำแบบนี้ไงเพื่อรักษาชีวิตพ่อฉันไว้

    พาฝนกระจ่างใจมากขึ้นถึงเหตุผลที่เขาเอาแต่สั่ง ก้มหน้านิ่งอย่างรู้สึกผิดที่กลายมาเป็นตัวปัญหาแทนจะอยู่กันอย่างเป็นมิตร แต่ก็ไม่อาจโทษบิดาได้เหมือนกันที่เรียกร้องมาแบบนั้น ท่านคงเป็นห่วงกลัวไม่มีใครดูแลชีวิตลูกสาวที่กำลังย่ำแย่จึงตัดสินใจทวงสัญญาเป็นการแต่งงานแทนเงิน คงรู้ว่าหากสิ้นเนื้อประดาตัวหล่อนและแม่จะไร้ญาติ และมันก็จริงๆ นัยน์ตาหม่นเศร้ากวาดมองสัญญาในมืออีกครั้งก็ถามขึ้น

    และการที่เราแต่งงานอยู่กินด้วยกันเพียงสองปีแล้วหย่าขาด มันจะทำให้คุณอารู้สึกดีอย่างนั้นหรือคะ

    พ่อฉันอยู่ได้อีกไม่นาน อาจจะไม่ถึงสองปีด้วยซ้ำ การที่เราต้องอยู่ร่วมทุกข์กันเพียงสองปีจึงไม่ใช่ปัญหา หากเธอไม่ปากโป้งบอกเรื่องนี้ให้ท่านทราบ เข้าใจแล้วก็รีบเซ็นสัญญา ฉันจะรีบไปนอน

    พาฝนค่อนข้างตกใจเมื่อรับรู้เช่นนี้ ข้อแม้มากมายจึงถูกเก็บซ่อนไว้ในใจเหมือนเดิม เริ่มเซ็นสัญญาอย่างไร้ข้อแม้ ถือเป็นการตอบแทนบุญคุณอาธาวันที่ช่วยเหลือหล่อนกับแม่เอาไว้ และที่ท่านรักษาคำมั่นสัญญากับบิดาอย่างซื่อสัตย์ หากจะมีชีวิตอยู่อีกไม่ถึงสองปีหล่อนก็ไม่ควรจะทำให้ท่านต้องผิดหวัง

     

    หลังจากจรดปากกาเซ็นสัญญาผูกมัดชีวิตไว้กับเวทิต พาฝนก็รีบพาตัวเองเข้ามาดูคุณธาวันทันที ท่านนอนอ่านหนังสือเล่มเดิมอยู่บนเตียง มีคำแก้วนั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่าง

    ทำไมยังไม่นอนอีกคะ ดึกแล้ว

    หล่อนเดินเข้ามาถามใกล้ๆ เป็นห่วงเป็นใย และสังเกตเห็นว่ามือชรากว่าอายุจริงนั้นสั่นเพราะรับน้ำหนักหนังสือเล่มบางไม่ค่อยไหว

    อาว่าจะอ่านให้จบก่อนจะนอน หนูล่ะ ทำไมยังไม่นอน”

    ฝนแวะมาดูคุณอาก่อนคิดว่าคำแก้วยังไม่มา

    หลังจากเจ้านายกินมื้อค่ำเสร็จ คำแก้วจะกลับไปบ้านเพื่ออาบน้ำอาบท่าแล้วกลับมาดูแลไปจนถึงเช้า หลังกินมื้อเช้าเสร็จก็ดูแลไปจนถึงค่ำ มีเวลาพักแค่ตอนไปอาบน้ำกับกินข้าว หล่อนจึงเห็นใจอยากช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของคำแก้วจากช่วงค่ำไปจนกว่าท่านจะนอน คำแก้วจะได้มีเวลาพักเหนื่อยบ้าง

    อ่านถึงบทไหนแล้วคะ ฝนอ่านให้ฟังไหม

    ดีเลยเจ้า พ่อเลี้ยงตาไม่ค่อยจะดี มือก็ไม่ค่อยจะมีแรงถือหนังสือ คำแก้วก็อ่านไม่ค่อยจะคล่อง เลยช่วยอ่านให้ฟังไม่ได้เจ้า

    มาค่ะ ฝนอ่านให้ฟัง

    หล่อนอาสาพร้อมกับหยิบหนังสือมาเปิดหน้าที่คั้นไว้ ทอดตัวนั่งบนเก้าอี้บุนวมนุ่มนิ่มแล้วอ่านให้ฟังอย่างลื่นหู คำแก้วนั่งฟังเพลินๆ ครู่เดียวก็ผล็อยหลับไปบนที่นอนปิกนิกข้างเตียงอีกฝั่ง เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งคุณธาวันก็ผล็อยหลับไปอีกคน พาฝนมองอย่างสงสารเห็นใจในโรคที่รุมเร้าร่างกายคนดีๆ ให้มีอายุสั้น แล้วจัดการห่มผ้าให้จนถึงคอเพราะอากาศค่อนข้างเย็น

    หล่อนวางหนังสือไว้บนโต๊ะหัวเตียง เอื้อมมือไปหรี่โคมไฟให้สลัวแล้วลงไปหาน้ำดื่มในครัวแก้กระหาย แสงไฟจากตู้เย็นส่องผ่านชุดนอนบางๆ จนเห็นสัดส่วนเย้ายวนอย่างชัดเจน คนข้างหลังที่เพิ่งเดินเข้ามาถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอ

    เวทิตรีบสลัดความคิดลามกออกจากหัวแล้วตรงเข้าไปที่มุมกาแฟ แต่ก็ต้องหงุดหงิดเมื่อคำแก้วลืมเสียบกาน้ำร้อนไว้ให้เช่นทุกวัน

    พาฝนหันไปมองคนข้างหลังที่ทำเสียงหงุดหงิดในลำคอแล้วอาสาช่วยเหลืออย่างคนมีน้ำใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ตอบ ทำให้เสียงหวานๆ กลายเป็นอากาศธาตุไปในที่สุด

    ไม่มีน้ำร้อนใช่ไหมคะ เดี๋ยวฝนต้มน้ำให้เอาไหมขันอาสาอีกอย่างไม่ละความพยายาม ไม่อยากอยู่กับเขาเช่นศัตรู

    ไม่เป็นไร พอจะต้มเองเป็น

    ปฏิเสธประชดประชันแล้วตรงไปหยิบกาน้ำมา จะรินน้ำใส่ลงไปอยู่แล้วแต่โดนผู้หญิงจุ่นจ้านเข้ามาแย่งไม้แย่งมือจะทำให้ได้ ก็ยื้อกันไปมาจนน้ำกระฉอกใส่หน้าเขาเปียกป้อนไปหมด ชายหนุ่มหลับตาแน่นโมโหเป็นฟื้นเป็นไฟ

    “ขอโทษค่ะ ฝนไม่ได้ตั้งใจรีบแก้ตัวลนลานเมื่อชายหนุ่มลืมตาขึ้นมามองวาววับ หมุนตัวกลับไปดึงทิชชูมาหลายแผ่นหมายจะซับน้ำออกจากหน้าดุกระด้าง ทว่าเจ้าของใบหน้าดุๆ ปัดจนทิชชูหลุดจากมือเรียวไปหลายแผ่น

    คิดจะยั่วฉันหรือไง แต่ขอโทษนะพาฝน ฉันไม่ได้โง่เหมือนไอ้แก่ตันหากลับพวกนั้น ไปนอนได้แล้วไป แล้วอย่ามายุ่มย่ามกับฉันอีก

    พาฝนกำทิชชูที่เหลือในมือแน่นแล้วเดินออกไปด้วยใบหน้าแสนเศร้า

    เวทิตถอนใจอย่างอัดอึด พยายามสลัดใบหน้าสวยหวานแสนเศร้าออกไปจากความคิด จัดการเติมน้ำลงในกาสะอาดสะอ้านอีกครั้งก่อนนำไปต้ม ไม่นานก็ได้ดื่มกาแฟรอบดึกสมใจ

    ร่างสูงใหญ่ขึ้นมายืนโต้ลมเย็นจัดที่ระเบียงหลังห้องนอนพลางยกกาแฟร้อนๆ ขึ้นดื่ม สมองครุ่นคิดอย่างหนักกับเรื่องราวระหว่างเขากับพาฝนที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

    เวทิตกำลังคิด... ว่าจะบอกบุณฑราอย่างไรให้เข้าใจและไม่โกรธกัน เมื่อคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เขารักษามันไม่ได้ แต่ไม่ทันจะคิดต่อประตูห้องของอีกคนก็เปิดออกกว้าง ร่างระหงภายใต้ชุดนอนตัวเดิม เพิ่มเติมคือเสื้อไหมพรมตัวหนาที่ใส่ทับออกมายืนโต้ลมหนาว โดยไม่เห็นเขายืนอยู่ในมุมมืดของระเบียงอีกฝั่ง ห่างกันพอสมควร

    หล่อนยืนกอดอกเงยหน้าขึ้นไปกวาดมองดวงดาวที่ทอแสงพร่างพราวเต็มผืนฟ้า พระจันทร์ใกล้แรมสิบห้าค่ำเฉิดฉายส่องแสงสว่างไหวจนเห็นบรรยากาศรอบไร่ศุภสินตะคุ่มๆ ยามเคลื่อนสายตาต่ำลงมา แสงจากไฟดวงเล็กในโครมแก้วที่ติดอยู่บนปลายสุดของเสาไม้สูงราวสองเมตร ส่องให้บรรยากาศรอบทางเดินเข้าสู่บ้านไม้หลังใหญ่ดูโรแมนติกจนไม่อยากละสายตา ทุกพื้นที่ในไร่ศุภสินสวยงามราวกับดินแดนในฝันอันแสนสุข ทว่าหลอนกลับทุกข์อย่างแสนสาหัสไม่ว่าจะมองไปยังทิศทางใด

    ฝนไม่ได้อยากตั้งตนเป็นศัตรูกับคุณเลย หากคุณตั้งหน้าเกลียดฝนขนาดนี้ ฝนจะทนอยู่ที่นี่ได้อีกนานแค่ไหน

    พาฝนเริ่มไม่แน่ใจกับความอดทนที่มี ชีวิตที่คิดว่าจะสุขหลังจากพ้นทุกข์มาหมาดๆ กลับไม่สุขอย่างที่คิดเสียแล้ว หล่อนเอามือลูบผมเมื่อรู้สึกเย็นๆ ก็รู้ว่าน้ำค้างลงแรงจึงเดินกลับเข้าห้องไปนอน

    เวทิตยกกาแฟที่เย็นเฉียบอย่างฉับพลันขึ้นดื่มแล้วกลับเข้าห้องเหมือนกับหล่อน...


    >>>อ่านแล้วถูกใจ กดสับตะไคร้ตรงนี้จ้า<<<

        
    >>>อ่าน พิศวาสร้ายลวงใจรัก  คลิก<<<
    >>>อ่าน พิศวาสร้ายซ่อนใจรัก คลิก<<<


    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ


    ดารารินทร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×