คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : หัวใจใยเสน่หา - 2 (3)
ร่างเพรียวบางถูกพลิกคว่ำหน้าลงบนฟูกนุ่มคลุมด้วยผ้าปูเนื้อนิ่มสีน้ำเงินเข้ม ความเสียววูบขึ้นมาอีกครั้งเมื่อฟันคมงับเบา ๆ ที่ก้นนุ่มเนียน จูบระขึ้นมาตามแผ่นหลังจรดใบหน้า เขาปัดปอยผมที่ระใบหน้านวลออกลวก ๆ แล้วแนบแก่นกายกับร่องรักฉ่ำชื้นของสาวน้อย อารมณ์ดิบเถื่อนที่ถูกกระตุ้นด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ผนวกกลิ่นกายหอมกรุ่นราวดอกไม้ป่าทำเขาเตลิดเพริด จากที่แค่อยากแกล้งให้เธอเร่าร้อนจนถึงขีดสุดแล้วทิ้งให้คั่งค้าง กลับไปต่อชนิดไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอะไรนอกจากทำทุกอย่างเพื่อสนองตัณหาตัวเองให้สิ้นซากไป
รัมภาพัชร์กำผ้าปูที่นอนแน่น ความเสียวความกลัวปะทะกันให้วุ่นวายภายในจิตใจ พอเขาดันแก่นกายเข้ามาในความแคบนุ่มแล้วช้อนใบหน้านวลระเรื่อขึ้นมาจูบแลกลิ้น ความเจ็บทั้งมวลก็กดข่มทุกห้วงอารมณ์ก่อนหน้าเอาไว้จนจมมิด
เจ็บมาก…แต่กลับร้องออกมาไม่ได้เพราะเขายังจูบอยู่ เช่นเดียวกับที่ทัตต์ดนัยขยับแก่นกายเข้าไปในความแคบนุ่มนั้นไม่ได้แต่ไม่กล้าถาม ครู่หนึ่งน้ำตาเธอไหลพรากพร้อมกับสะอื้นในลำคอด้วยความเจ็บอย่างหาที่สุดมิได้
ชายหนุ่มได้แต่ผละออกมาดูด้วยตาตัวเองแล้วสบถลั่น “ไม่เคยทำไมไม่พูดออกมา ทนเจ็บอยู่ทำไม!”
รัมภาพัชร์พลิกตัวลุกขึ้นมากอดร่างกำยำที่ตวัดผ้าขนหนูสีเข้มขึ้นมาพันรอบเอวสอบ ใบหน้าเข้มขรึมบอกว่าเขากำลังหัวเสียอย่างหนัก
“แป้งไม่เจ็บค่ะ ไม่เจ็บสักนิดเดียว” สะอื้นเบา ๆ กอดเขาแน่นขึ้น กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา กลัวว่าพรุ่งนี้ชายหนุ่มจะให้ป้าอี้มารับถ้าเธอให้ความสุขกับเขาไม่ได้
“อย่าฝืน”
“แป้งเต็มใจ” ช้อนตามองคนดีที่ไม่คิดหักหาญน้ำใจกันน้ำตาคลอ
“อย่าโง่” เธอกำลังฝืนทำให้ตัวเองยิ่งเจ็บหนักเพราะอารมณ์เขาในตอนนี้กำลังกลัดมัน
ถ้าไปต่อเธอตายแน่!
“อย่าทิ้งแป้งไปตอนนี้นะคะ แป้งอยากอยู่กับคุณปราปต์”
‘ขี้อ้อนอะไรอย่างนี้วะ’ ทัตต์ดนัยทั้งหงุดหงิดทั้งใจอ่อน เพราะเป็นผู้ชายที่แพ้น้ำตาผู้หญิงมาตลอดเลย
“เธอเลือกเองนะ”
รัมภาพัชร์พยักหน้าหงึก ๆ เมื่อยึดเอาคำบอกของมารตีเป็นสาระสำคัญ ‘ฉันขายขาดให้ผู้ชายคนเดียวที่เลี้ยงดูแกได้ก็นับว่าบุญหัวแล้ว’ เวลานี้เธอเป็นของเขาแล้ว เขาเองก็เป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่มารตีบอกว่าจะเลี้ยงดูเธอได้
เช่นนั้นการมอบกายถวายตัวให้เขาแต่เพียงผู้เดียวย่อมดีกว่ากลับไปถวายตัวให้ใครต่อใครอีกมากมาย…
นี่คือความเข้าใจของนกน้อยไร้รังตัวหนึ่ง ซึ่งสวนทางกับความเข้าใจของทัตต์ดนัยโดยสิ้นเชิง เมื่อผลประโยชน์ตกอยู่ที่คนกลางอย่างคุณนายทรรศิกาและมารตี ไม่มีวันที่เขาและรัมภาพัชร์จะได้รับรู้ความจริง แม้ว่าตอนนั้นเลือดก้อนหนึ่งจะก่อเกิดขึ้นมาในครรภ์ของเธอแล้วก็ตาม
แต่พอเอาเข้าจริงรัมภาพัชร์กลับไม่เก่งพอที่จะรองรับความใหญ่โตของเขาเข้ามาในความแคบนุ่มได้จนสุดตัวตน เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้และเขาก็ไม่อาจฝืนใจทำให้เธอเจ็บได้ไปมากกว่านี้แล้วด้วย
ทัตต์ดนัยถอยออกมาจากร่างนุ่มนิ่มร้อนจัดทันที เข้าไปจัดการกับตัวเองในห้องน้ำอยู่พักหนึ่งก่อนจะออกไปจากห้องนอนด้วยท่าทีเย็นชาไม่กลับเข้ามาอีกเลย
รัมภาพัชร์นอนร้องไห้จนตาบวมเกือบทั้งคืนเพราะคิดว่าตัวเองจะต้องถูกส่งกลับไปให้มารตี ทว่าเช้ามาเขากลับไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย ได้แต่รีบกินมื้อเช้าแล้วถามเรื่องเรียนต่อเท่านั้น
“ก่อนมาเธอเรียนอยู่ที่ไหน”
“มหา’ลัยเปิดค่ะ เหลืออีกสามเทอมก็จบแล้ว” พอเขามองมาด้วยความประหลาดใจเธอรีบอธิบายทันที “น้ารตีไม่อยากให้แป้งออกไปสุงสิงกับผู้คนภายนอกเกินความจำเป็น แป้งก็เลยต้องเรียนมหา’ลัยเปิด ก่อนหน้านี้ก็เรียนอยู่ในโรงเรียนประจำไม่เคยออกไปไหนเหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้นแม่ฉันรู้จักเธอได้ยังไง”
สาวน้อยส่ายหน้ามองมาซื่อ ๆ ทัตต์ดนัยไม่ถามอะไรต่อ ก้มหน้าก้มตากินอาหารเช้าอีกไม่กี่คำก็ลุกออกจากโต๊ะอาหารตรงไปที่รถยนต์เอสยูวีสำหรับใช้งานในไร่
รัมภาพัชร์รีบเดินตามมาส่งเสื้อแจ็กเกตให้คนรีบร้อนจะไปจนลืมทิ้งไว้ “คุณปราปต์ลืมเสื้อค่ะ”
“ขอบใจ” เขาหันมาคว้าเสื้อไปกำไว้หลวม ๆ พลางเปิดประตูรถด้วยมืออีกข้าง
“คุณปราปต์จะให้ป้าอี้มารับแป้งจริง ๆ เหรอคะ”
“รับไปไหน” เขาลืมไปแล้วว่าเมื่อคืนขู่เธอไว้ว่าอย่างไร
“ก็เมื่อคืนนี้แป้ง…ทำไม่ถูกใจคุณปราปต์” แก้มนวลร้อนวูบเมื่อฉากรักเร่าร้อนที่เขากระทำต่อเธอผุดพรายขึ้นมาในความทรงจำอย่างชัดเจน
“อยากอยู่ก็อยู่ไปสิ เรื่องเรียนเดี๋ยวให้ไข่มุกมาคุยด้วย ฉันอยากให้เธอย้ายมาเรียนที่มหา’ลัยใกล้ ๆ แถวนี้”
“จริงนะคะ” รัมภาพัชร์แทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจสุดขีด
ถ้าเธอได้เรียนก็เท่ากับมีความรู้ ถ้าอนาคตเขาไม่อยากเลี้ยงดู คนมีความรู้อย่างเธอจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องง้อเขาอีก
ทัตต์ดนัยทำเป็นตีหน้านิ่งไม่ใส่ใจ ทั้งที่ก็เห็นว่าเธอดีใจจนเนื้อเต้นที่จะได้เรียนต่อ ขึ้นรถขับออกไปทางบ้านหัวหน้าคนงานที่ชื่อวศินทันที
เขามาที่นี่ก็เพื่อเธออีกนั่นแหละ…
“ไข่มุกอยู่ไหมครับอาศิน”
ชายหนุ่มถามหัวหน้าคนงานรุ่นราวคราวเดียวกับบิดานามว่าวศิน ที่ปรี่ลงจากเรือนมารับหน้าด้วยท่าทีสุขุมนอบน้อมต่อผู้เป็นนาย
“อยู่ครับ อยู่บนบ้าน มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“มีเรื่องให้ช่วยนิดหน่อยครับ”
พอเจ้านายหนุ่มออกปากมาอย่างนั้น วศินก็หันไปเรียกบุตรสาวคนสวยที่รับประทานอาหารเช้าอยู่บนบ้านทันที
“มุกเอ๊ยมุก คุณปราปต์มาหาน่ะลูก ลงมาหน่อยเร็ว”
“จ้าพ่อ...” ขานรับเสียงใสตามมาด้วยเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่รีบวิ่งลงบันไดไม้มายืนตรงหน้าทัตต์ดนัย
“นายมีอะไรจะใช้มุกเหรอจ๊ะ”
“ไปที่บ้านหน่อยสิ มีคนอยากเรียนหนังสือที่เดียวกับมุกน่ะ”
“ได้จ้ะนาย มุกกินข้าวอิ่มพอดีเลย ให้ไปเดี๋ยวนี้เลยไหมจ๊ะ”
“ถ้าว่างก็ไปได้เลย”
มนตร์ลดาขับรถจักรยานยนต์สี่จังหวะคันกลางเก่ากลางใหม่มาจอดที่หน้าบ้านปูนหลังใหญ่สไตล์นอร์ดิกด้วยความสงสัยใคร่รู้ ว่าคนที่นายจะให้ไปเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับเธอเป็นใคร
-----------------------------------------------------------------------
ขอบคุณที่ติดตามผลงานนะคะ
ขอให้สนุกและมีความสุขกับดรามาที่หลงเข้ามาเสพ (มามะมามะ)
เสพแล้วถูกใจรีบเข้า Meb ไปเปย์ e – book มาอ่านต่อยาว ๆ ได้เลยจ้า
อ่านแล้วชอบหรือไม่ชอบยังไง กดหัวใจ ไม่ก็คอมเมนต์แซ่บ ๆ
เป็นกำลังใจให้พี่ปราปต์กับน้องแป้งด้วยน้า
ดารารินทร์
ความคิดเห็น