คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พิศวาสลวงบ่วงราคี - 1
อีบุ๊คพี่ไทม์กับหนูฝนมาแล้วจ้า ใครรอโหลดอยู่เชิญจิ้มเลยจ้า
>>>ลิงก์สำหรับโหลด E-book คลิก<<<
หรือคลิกที่ภาพก็ได้นะคะ
บทนำ
แสงสีทองของแดดยามเช้าสว่างจ้าขึ้นเหนือเส้นขอบฟ้าอีกครั้ง สองสายตาของหนุ่มสาวที่นั่งอิงแอบแนบชิดทอดมองสายหมอกเอื่อยๆ ที่ไหลผ่านทิวเขาไปอย่างช้าๆ ยอดหญ้ารอบกายไหวไปตามแรงลมพรมด้วยหยดน้ำค้างตามปลายยอด เขาและหล่อนอยากหยุดเวลาแห่งความสุขไว้ ณ ที่แห่งนี้ให้นานเท่านาน ทว่าไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เวลายังคงเดินต่อไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย
ชายหนุ่มซุกหน้าลงกับไหล่นุ่มจุมพิตที่แก้มนวลอย่างถวิลหา แก้วตาดวงใจต้องจากไปไกลและอีกหลายปีกว่าจะกลับมา คงอดไม่ได้ที่จะคิดถึง ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้เขาจึงอยากหยุดไว้
“น้องดาไม่อยากไปเลยค่ะ ถ้าไปอยู่ที่นั่นต้องคิดถึงพี่ไทม์มากแน่ๆ ไปกับน้องดาได้ไหมคะ” บุณฑราเงยหน้าขึ้นมาอ้อนก่อนพลิกตัวกลับมาซุกซอกคอแกร่งไม่อยากจากไป
เวทิตรวบมือเรียวเล็กมากุมแล้วกอดหล่อนแน่นขึ้น จุมพิตซ้ำอีกครั้งที่ขมับประดับไปด้วยไรผมอ่อนๆ
“ถ้าพี่ไปแล้วใครจะดูแลคุณพ่อละครับคนดี น้องดาไปแล้วก็ตั้งใจเรียนสิครับจะได้รีบกลับมา”
“หากน้องดาไปเรียน พี่ไทม์สัญญาได้ไหมว่าจะรอน้องดาไม่คิดมีใครใหม่”
“พี่ไม่กล้าคิด ไม่เคยที่จะคิดด้วย ใจของพี่มีน้องดาคนเดียวเท่านั้น”
“พรุ่งนี้พี่ไทม์ไปส่งน้องดาที่สนามบินนะคะ”
“ครับ แต่ตอนนี้เราต้องกลับบ้านกันก่อน พี่เป็นห่วงพอแล้ว”
เพราะพากันมาปักหลักกางเต็นท์อยู่บนยอดดอยตั้งแต่เมื่อวาน จนตอนนี้สายมากแล้วก็ควรจะกลับเสียที สุขภาพของบิดาไม่ค่อยจะดีเพราะมีโรครุมเร้า เขาจึงไปไหนได้ไม่ค่อยนานเป็นห่วงมาก แม้ว่ามีสาวใช้คอยดูแลอย่างใกล้ชิดก็ยังห่วงเพราะไม่มีใครดูแลพ่อแม่ได้ดีเท่าลูก
ทั้งสองพากันกลับมาที่ไร่ศุภสิน ไร่กาแฟที่มีเนื้อที่มากที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดเชียงราย คนงานยังคงทำหน้าที่ของตนอย่างขะมักเขม้นและคล่องแคล่วอยู่ในไร่ หากแต่ประมุขของไร่นั่งชมทัศนีย์ภาพในยามสายใกล้เที่ยงอยู่บนระเบียงเรือนหลังใหญ่ เห็นลูกชายเดินควงแขนลูกเลี้ยงสาวเข้ามาภายในบ้านอย่างพอดิบพอดี ความหนักใจเกิดขึ้นมาในนาทีนั้นเมื่อไม่เห็นด้วยกับรักครั้งนี้ของคนทั้งคู่
แม้ว่าบุณฑราจะเป็นลูกเลี้ยงที่ติดมากับภรรยาใหม่ที่เพิ่งเสียไป แต่ท่านก็ไม่ปรารถนาจะให้ทั้งสองได้ใช้ชีวิตร่วมกันฉันท์สามีภรรยา และการตัดสินใจส่งบุณฑราไปเรียนไกลถึงต่างประเทศในครั้งนี้ ท่านหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากาลเวลาอาจจะทำให้ใจของหล่อนเปลี่ยนไป
“พ่อครับ ทำไมมานั่งตรงนี้ คำแก้วไปไหน ทำไมปล่อยพ่อไว้คนเดียว”
เวทิตถามเสียงเครียดยามเดินเอาผ้าห่มผืนเล็กมาห่มให้บิดาที่นั่งอยู่บนรถเข็นอย่างห่วงใย แม้จะสายมากแล้วหากแต่อากาศยังไม่อุ่นขึ้นเท่าที่ควร อุณหภูมิอย่างมากในตอนนี้ก็ราวสิบองศาเซลเซียส นึกโมโหคำแก้วขึ้นมาที่ปล่อยปละละเลยบิดา อย่างนี้ไงเล่าถึงไม่อยากจะไปไหนไกล หากไม่ใช่ความประสงค์ของบุณฑราที่อยากไปเที่ยวด้วยกันเป็นวันสุดท้ายก่อนจากลา เขาจะไม่ทิ้งพ่อไว้ข้างหลังแบบนี้เลย
“คำแก้วมันไปกินข้าว พ่อบอกให้ไปเอง อย่าไปโกรธมันเลย” เมื่อเห็นลูกชายหน้าขึ้งเคียดก็รีบอธิบายแล้วตบเบาๆ ที่หลังมือลูกชายให้ใจเย็น
“ผมจะหาคนมาช่วยดูแลพ่อเพิ่มอีกสักคน ผลัดกันกับคำแก้ว เอาไว้เสร็จเรื่องน้องดาเมื่อไรผมจะจัดการทันที”
คนเป็นพ่อไม่คิดขัดใจรู้ว่าลูกเป็นห่วง “ไทม์ แล้วเรื่องที่พอให้ตามสืบ ได้เรื่องหรือยัง”
เวทิตส่ายหน้า “ยังเลยครับพ่อ ไม่รู้สองแม่ลูกพากันไปอยู่ที่ไหน แต่พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะตามหาและให้การช่วยเหลือสองคนนั้นอย่างดีที่สุดถ้าเจอตัว”
“ขอบใจมากลูก อย่างไรครอบครัวนั้นก็เคยมีบุญคุณกับเรา ยามนี้เขาลำบากเราก็ควรช่วยเหลือให้ถึงที่สุด”
“ครับ ผมรับปาก เข้าข้างในกันดีกว่านะเดี๋ยวไม่สบาย” ก้มลงไปปลดล็อกล้อรถเข็นออกแล้วพาบิดาเข้ามาในห้องนอนอบอุ่น
“น้องดาไปไหนเสียแล้ว”
“ไปอาบน้ำครับ พ่ออยากได้ชาร้อนสักแก้วไหมผมจะไปเอาให้”
“ไม่เอาล่ะ ขอหนังสือดีกว่า พ่ออยากนอนอ่านหนังสือเล่นบนเตียงสักพัก”
ชายหนุ่มรีบจัดการทุกอย่างตามที่บิดาขอ พอท่านกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงแล้วกางหนังสืออกจะอ่านก็บอกให้ทราบถึงธุระที่จะไปทำในวันพรุ่งนี้
“พรุ่งนี้ผมจะไปส่งน้องดาที่สนามบินที่กรุงเทพฯ จะอยู่ต่อเพื่อตามหาสองแม่ลูกด้วย คงสักสองสามวันถึงจะกลับ”
“ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงพ่อหรอก พ่อจะรอฟังข่าวดีนะ”
เวทิตห่มผ้าให้บิดาแล้วเดินไปหาบุณฑราที่ห้องนอน หล่อนอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ ศีรษะโพกไว้ด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กสีสะอาดตา ปากชมพูสวยซีดลงเล็กน้อยเพราะอากาศที่เย็นจัด
ชายหนุ่มตวัดคนตัวเล็กเข้ามากอด จูบที่ปากซีดๆ หนักหน่วงแล้วผละออกมาดูผลงาน
“ปากหายซีดแล้ว ได้ผลแฮะ”
คนเจ้าเล่ห์โดนบุณฑราตีไปหนึ่งทีที่อกแกร่ง ชายหนุ่มจึงลงโทษด้วยการดันร่างเล็กไปที่เตียง ผลักเบาๆ ให้นอนลงไปแล้วตามลงจูบอย่างนุ่มนวลที่ปากจิ้มลิ้ม ซึ่งหล่อนก็ยอมแต่โดยดี มือเรียวเล็กเลื่อนขึ้นมาประคองกรอบหน้าหล่อเหลาเมื่อเขาทำท่าจะเลื่อนลงไปไซ้ซอกคอ
“ไม่เอาค่ะ อย่ารังแกกันสิคะ”
“ขอมัดจำนิดเดียว นะ… ไม่งั้นพี่ต้องอกแตกตายแน่ๆ อีกตั้งสองปีกว่าน้องดาจะกลับมาให้จูบอีก”
“อ้อนแบบนี้น้องดาก็ใจอ่อนแย่”
เวทิตยิ้มกรุ้มกริ่ม ก้มลงไปจูบไซ้ซอกคอหอมสดชื่นจากกลิ่นสบู่อ่อนๆ ของหญิงคนรัก ตักตวงความสุขด้วยการจูบไปทั้งตัวด้วยความเสน่หา มือหนาเค้นคลึงทรวงอกนุ่มนิ่มอย่างเผลอไผลจนหญิงสาวต้องตะครุบไว้แล้วส่งเสียงห้ามปราม
“พอแล้วค่ะ น้องดาจะรีบใส่เสื้อผ้า จะไปอ่านหนังสือให้คุณพ่อฟังแล้ว”
การอ่านหนังสือต่างๆ ให้พ่อเลี้ยงฟังคืองานรองของหญิงสาว หลังจากเลิกงานออฟฟิศก็จะกลับมาช่วยคำแก้วดูแลท่าน หลังอาหารมื้อค่ำก็จะอ่านหนังสือให้ฟังทุกวันก่อนนอน แต่วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่หล่อนจะได้อยู่ที่นี่ เย็นนี้ต้องเดินทางไปกรุงเทพฯเพื่อไปรอขึ้นเครื่องในเช้าวันพรุ่งนี้ ก่อนไปจึงอยากดูแลท่านให้ดีที่สุด
แม้นว่าร่างกายแทบจะปริแตกเพราะฤทธิ์พิศวาส เวทิตก็ไม่อาจยื้อเอาไว้ จำต้องปล่อยกวางน้อยไปเพราะไม่อยากรังแก อย่างน้อยเขาก็ควรให้โอกาสหล่อนได้ใช้ชีวิตอยู่กับความบริสุทธิ์อีกสักสองปีก่อน จากนั้นจะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือแบบวันนี้อีกเลย
บุณฑราคือแก้วตาดวงใจ เขาหลงรักสาวสวยที่มีหน้าตาสะสวยราวกับตุ๊กตาบรายธ์ตั้งแต่แรกเจอ ก็สี่ปี่ก่อนตอนเขาก็กลับจากอเมริกาเมื่อเรียนจบ
น้องดาของเขาเป็นเด็กดีมีความกตัญญูรู้คุณคน หล่อนจะช่วยแม่เลี้ยงดูแลบิดาที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างไม่รังเกียจ ทว่าคนดีๆ อย่างแม่หล่อนกลับมีอันเป็นไปเสียก่อนคนป่วยอย่างบิดา หน้าที่ดูแลหล่อนและผู้ให้กำเนิดจึงตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ
ดารารินทร์
ความคิดเห็น