คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : พิศวาสลวงบ่วงราคี - 7
อีบุ๊คพี่ไทม์กับหนูฝนมาแล้วจ้า ใครรอโหลดอยู่เชิญจิ้มเลยจ้า
หรือคลิกที่ภาพก็ได้นะคะ
2
ตกดึกอากาศหนาวจัดจนร่างระหงสั่นสะท้าน พาฝนเพิ่งอาบน้ำเสร็จออกมา หล่อนตัดสินใจอย่างบ้าบิ่นด้วยการอาบน้ำเย็นไม่อาบน้ำอุ่น
เพราะหากว่าอาบน้ำอุ่นจะยิ่งทำให้หนาวมากขึ้นเมื่อออกมาเผชิญกับอากาศเย็นจัดภายในห้อง
หล่อนรีบใส่เสื้อผ้า ทว่าใส่ได้เพียงชั้นในสองชิ้นไฟก็ดับพึ่บแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
คนไม่ชินที่ทางยืนตัวแข็งทื่อ พอเหลียวมองไปรอบๆ ไฟที่อื่นยังติดอยู่จึงคลายความกลัวลง
เดินฝ่าแสงสลัวที่สาดเข้ามาทางหน้าต่างไปลองเปิดปิดสวิตช์ดู สันนิษฐานเอาเองว่าหลอดไฟน่าจะเสียจึงไปเปิดไฟในห้องน้ำดูดันติด
จึงอาศัยแสงไฟจากห้องน้ำชั่วคราวเพื่อใส่เสื้อผ้าแล้วไปหาคุณธาวัน
ไปดูเผื่อว่าท่านจะลืมห่มผ้า
อากาศภายนอกห้องนอนยิ่งทำให้หนาวสั่นเพราะลมโกรกเข้ามาทางปีกขวาของระเบียง
ไม่คิดว่าปลายเดือนพฤศจิกายนของที่นี่จะมีอากาศที่หนาวจัดถึงเพียงนี้ หล่อนเลยไม่ได้เตรียมเสื้อหนาๆ
ติดมาด้วย
“ยังไม่นอนอีกรึ” เจ้าของห้องถามพลางวางหนังสือลงข้างตัว
ถอดแว่นตาออกมาวางบนตัก
“ฝนเพิ่งอาบน้ำเสร็จค่ะ
เป็นห่วงคุณอาด้วยกลัวจะหนาวเลยเข้ามาดู อ่านอะไรอยู่คะ” หล่อนปิดประตูแล้วเดินไปหยุดที่ข้างเตียงไม้ขนาดใหญ่
“หนังสือธรรมมะ
อาอ่านทุกวันก่อนนอน ลองเอาไปอ่านดูไหมถ้ายังไม่ง่วง”
“ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ
พอดีไฟห้องฝนมันดับ”
“อ้าว! ถ้าอย่างนั้นไปนอนที่ห้องเจ้าไทม์ก่อนจะได้สะดวก
เจ้าของเขายังไม่กลับน่ะ ไว้พรุ่งนี้อาจะให้คนงานมาดูให้”
สรุปสุดท้ายพาฝนก็เข้ามานอนอยู่ในห้องของลูกชายเจ้าของบ้าน
เตียงเขาทั้งนุ่มและอุ่นเอามากๆ เพราะมีผ้าปูเตียงไฟฟ้า
พาฝนซุกตัวเข้าไปนอนใต้ผ้าห่มผืนหนา เอื้อมมือไปหรี่ไฟหัวเตียง กวาดตามองไปรอบห้องที่ตกแต่งอย่างเรียบหรูแล้วสะดุดตากับภาพวาดของชายหนุ่มในกรอบไม้ขนาดใหญ่
มันแขวนอยู่ข้างผนังใกล้กับประตูทางออก เขายืนหันหลัง มือข้างซ้ายล้วงกระเป๋าอีกข้างจับหมวกปีกแบบคาวบอยเอาไว้
หล่อนละสายตามากวาดมองรอบห้องอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาดูภาพอื่นๆ
อยากรู้จักหน้าคาดตาเขาก่อนจะเจอตัวจริงแต่กลับไม่มี พาฝนพลิกตัวนอนตะแคงแล้วหลับตา
ถึงแม้จะแปลกที่แปลกทางแต่ก็นอนได้อย่างสบายใจจนหลับไป
ค่อนแจ้งเสียงไก่ขันต้อนรับแสงอรุณที่ยกตัวขึ้นเหนือภูเขาสูงชันให้ลั่นป่า รถยนต์แบบเจ็ดที่นั่งเคลื่อนตัวเข้ามาหยุดหน้าบ้านไม้หลังใหญ่
ร่างสูงภูมิฐานเดินตัวปลิวเข้าไปข้างในเพราะหนาวจัด
เดินขึ้นบันไดครู่เดียวก็มาถึงห้องนอนที่โหยหา ขับรถมาทั้งคืนทั้งเมื่อยทั้งง่วง
เวทิตคิดว่าจะนอนสักพักให้หายจากอาการเหล่านั้นแล้วสายๆ จะเข้าไปดูในไร่ แต่พอเปิดไฟในห้องก็ต้องตกใจเมื่อมีใครคนหนึ่งมานอนขดตัวอยู่บนเตียงนุ่มอย่างสุขสบาย
ชายหนุ่มก้าวเข้าไปสำรวจดูอย่างสงสัย แต่ไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นใครเพราะผมยาวๆ
ปกคลุมใบหน้ามิดฉิ่ง จึงเดินดิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานอนด้วยกันอย่างไม่สนใจ เขาง่วงเกินกว่าจะปลุกผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาถาม
เอาไว้สว่างเมื่อไรค่อยว่ากัน อีกอย่างหล่อนน่าจะได้รับอนุญาตจากบิดาแล้วถึงได้มานอนอยู่บนเตียงของเขาได้
แสดงว่าเป็นคนรู้จักมักจี่กันดี...
แต่ก็ใช่ว่าจะหลับได้อย่างสบายใจ เมื่ออีกฝ่ายพลิกตัวมาก่ายกอดราวกับเขาคือหมอนข้าง
หน้าหล่อนเทินอยู่บนอกแกร่ง แขนพาดเฉียงอยู่กลางลำตัว ขาหล่อนเกยอยู่บนขาเขา
แถมเบียดตัวเข้าหาไม่หยุด เวทิตถอนใจยืดยาวแล้วข่มหลับตาลงพยายามไม่สนใจ
แต่พอพระอาทิตย์ดวงเดิมลอยเด่นขึ้นเหนือยอดเขา คนที่ก่ายกอดเขาอย่างสุขสบายเมื่อสามชั่วโมงก่อนก็ลุกขึ้นมาตวาดถามว่าเขาเป็นใคร
เวทิตพลิกตัวนอนหันหลังให้อย่างรำคาญ แต่เจ้าหล่อนยังอุตส่าห์ง้างไหล่กลับมาถามอย่างเอาแต่ใจ
พาฝนตาค้างเมื่ออีกฝ่ายลุกขึ้นมานั่งอย่างหงุดหงิด และแม้ว่าผมเผ้าจะยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงเพียงใด
ตาคมกริบยังคงหรี่ปรือมากแค่ไหน หล่อนก็จำได้แม่นว่าเขาคือ...
“คุณสิงห์คำ
คุณเข้ามานอนในห้องนี้ได้ไง ใครอนุญาตไม่ทราบคะ”
พาฝนไม่คิดว่าผู้จัดการไร่จะมีอำนาจบาตรใหญ่ขนาดเข้านอกออกในบ้านเจ้านายได้ตามอำเภอใจ
หล่อนกระถดตัวหนีไปชิดขอบเตียงทันใดเมื่ออีกฝ่ายมองมา
“ทำไมต้องมีใครอนุญาต
ก็นี่มันห้องผม”
“คะ...
คุณ.... คือลูกชายอีกคนของคุณอาธาวันเหรอ”
ประโยคท้ายหล่อนถามตัวเองอย่างงวยงงมากกว่า ไหนมารดาบอกว่าคุณอามีลูกชายคนเดียวไง
“ผมเป็นลูกชายคนเดียวของคุณธาวัน
ไม่มีคนที่สอง หรือสาม หรือใครทั้งนั้น”
“แล้วคุณไทม์เป็นใคร”
“ก็เป็นผมนี่ไง
ว่าแต่คุณ... เข้ามาในห้องผมได้อย่างไรไม่ทราบ ใครอนุญาต”
อากาศที่เย็นเฉียบเริ่มร้อนระอุขึ้นมาทันควัน พาฝนค่อยๆ
ถอยลงจากเตียงไปยืนสั่นอยู่ข้างเตียง กล้อมแกล้มตอบออกมาด้วยความเกรงใจ
“พอดีไฟในห้องฝนมันดับ
คุณอาธาวันเลยให้ฝนมานอนในห้องนี้ไปพลางๆ ก่อน”
“แล้วเธอมาที่นี่ได้ไง
รู้จักพ่อฉันได้ไง”
เวทิตยิงคำถามใส่แบบรัวเร็วด้วยความสงสัย
เมื่อวันก่อนหล่อนยังทำตัวน่าสงสารอยู่ที่กรุงเทพฯอยู่เลย
วันนี้มานั่งวางอำนาจอยู่ในห้องเขาได้อย่างไร
หรือจะมาตามนามบัตรแล้วแอบอ้างกับพ่อว่าเป็นเมียเขา!
ไม่ทันที่พาฝนจะตอบคำถามให้ได้คลายสงสัย ประตูห้องก็ถูกเคาะสองสามครั้งตามด้วยเสียงเรียกของสาวใช้
“คุณฝนเจ้า
สายแล้วนะเจ้า ตื่นหรือยังเจ้า”
พาฝนรีบผละไปเปิดประตู สาวใช้ตกใจเล็กน้อยเมื่อมองผ่านไหล่กลมกลึงไปเห็นเจ้าของห้องตัวจริงนั่งหัวโด่อยู่บนเตียง
ผมกับหน้านั้นยุ่งพอๆ กัน
“ตื่นแล้วจ้ะ
ฝนกำลังจะกลับห้องพอดี”
บอกพลางปิดประตูห้องอย่างไว
“คุณไทม์กลับมาตั้งแต่เมื่อไรเจ้า”
“ฝนก็ไม่รู้เหมือนกันคำแก้ว
แล้วคุณอาตื่นหรือยัง”
“ตื่นแล้วเจ้า
พ่อเลี้ยงให้คำแก้วมาดูคุณฝน ถ้าตื่นแล้วให้รีบอาบน้ำลงไปกินข้าวเช้าด้วยกันเจ้า”
“ถ้าอย่างนั้นฝนขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน
แล้วจะรีบตามไปนะ”
“ที่ระเบียงหลังห้องพ่อเลี้ยงนะเจ้า”
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ
ดารารินทร์
ความคิดเห็น