NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิศวาสลวงบ่วงราคี

    ลำดับตอนที่ #6 : พิศวาสลวงบ่วงราคี - 6

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 61





    อีบุ๊คพี่ไทม์กับหนูฝนมาแล้วจ้า ใครรอโหลดอยู่เชิญจิ้มเลยจ้า

    >>>ลิงก์สำหรับโหลด E-book<<<

    หรือคลิกที่ภาพก็ได้นะคะ




    ขณะที่เวทิตนั่งรอความเคลื่อนไหวจากสองแม่ลูกอยู่ที่โรงแรมอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว คุณเพียงฟ้าเดินทางกลับมาที่บ้านเช่าโดยรถตู้หรูหราซึ่งเป็นรถประจำตัวของคุณธาวัน ท่านตามมาส่งจนถึงที่เพราะอยากรู้สภาพความเป็นอยู่ของคุณเพียงฟ้ากับลูกสาว ทว่าพอได้เห็นแล้วก็หดหู่ใจยิ่งสงสารสองแม่ลูกเข้าไปใหญ่

    ลำบากกันถึงเพียงนี้ยังจะปฏิเสธน้ำใจจากผมอยู่อีกหรือครับ ย้ายไปอยู่ด้วยกันเถอะครับคุณผู้หญิง เอาคุณหนูไปอยู่ด้วยกันเสียวันนี้เลย

    พาฝนเดินมามองรถตู้สีขาวราคาแพงที่จอดอยู่หน้าบ้านเช่าหลังเล็กแลทรุดโทรม แล้วมองเลยไปที่รถคันหลังกำลังบีบแตรไล่เพราะขับสวนเข้าไปไม่ได้

    คุณธาวันเลยรีบออกความเห็นงั้นไปตกลงกันใหม่ที่บ้านของผมดีกว่า เรียกคุณหนูมาขึ้นมารถสิครับ

    อดีตมือขวาคนซื่อเสนอให้อย่างไม่คิดทอดทิ้ง มองปราดไปที่สาวน้อยหน้าตาสะสวยที่ยืนพินิจพิเคราะห์รถของท่านอยู่หน้าบ้านเช่า คุณเพียงฟ้าจึงเปิดประตูรถไปเรียกลูกสาวให้ขึ้นมา

    พาฝนเดินเข้ามาเพื่อจะดูให้หายสงสัยว่ามารดานั้นมากับใคร หล่อนเห็นชายชราอายุรุ่นราวไล่เลี่ยกับบิดานั่งเคียงข้างมาด้วย อีกฝ่ายยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตร ออกไปทางปลื้มอกปลื้มใจเสียด้วยซ้ำเพราะน้ำตาคลอ

    ขึ้นมาสิครับคุณหนู

    พอชายผู้นั้นเชิญชวนอย่างรู้จักมักคุ้นกันดีก็ยิ่งงวยงงว่าเขาคือใคร เพราะไม่เคยเห็นหน้าคาดตากันมาก่อนจริงๆ แต่ก็ยอมขึ้นรถไปด้วยแต่โดยดี

    ระหว่างทางมารดาถึงแนะนำให้ได้รู้จักกัน พาฝนก็ยังจำไม่ได้เพราะตอนที่คุณธาวันทำงานอยู่กับบิดาเพิ่งจะอายุเพียงเจ็ดขวบ แต่มาคุ้นตอนบอกว่าเป็นเจ้าของไร่ศุภสินเพราะได้ยินจากปากบิดา กับนามบัตรที่ได้มาจากผู้จัดการไร่คนนั้น หล่อนยกมือไหว้ยินดีที่ได้รู้จักและได้เจอกัน

    รถตู้ก็มาจอดสนิทอยู่ที่บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ไกลจากบ้านเช่าหลังเล็กเท่ารูหนูของเธอมาก

    คำแก้วที่ติดตามมาดูแลคุณธาวันจัดการพาท่านเข้าไปในบ้านด้วยรถเข็น มีหญิงสูงวัยอายุราวสี่สิบปีบริบูรณ์วิ่งเข้ามาตอนรับด้วยความดีอกดีใจ

    จัดเตรียมของว่างไว้หรือยังเอื้องคำ

    เรียบร้อยแล้วเจ้าพ่อเลี้ยง เชิญที่ห้องรับแขกได้เลยเจ้า

    ไม่กี่นาทีทุกคนก็พร้อมหน้ากันที่ห้องโถงรับแขก มีน้ำและของว่างวางอยู่บนโต๊ะไม้สูงแค่เข่าคอยรับรองตามที่คุณธาวันโทรมาสั่งอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

    เจ้าไทม์ไปไหนเสียล่ะคุณธาวันกวาดตาหาลูกชายไปรอบๆ หวังจะได้เจอตัวที่นี่จึงไม่โทรบอกก่อนว่าจะมา

    คุณไทม์... ไม่เห็นมานะเจ้า

    ไม่ได้มาพักกันที่นี่หรอกรึ” สาวใช้ส่ายหน้า “ไปเถอะ ฉันจะคุยธุระกับแขกหน่อย เอาคำแก้วไปด้วย

    เอื้องคำพยักหน้าชวนลูกสาวแล้วพากันเดินออกไป คุณธาวันก็หันมาสนใจแขกคนพิเศษต่อ

    ถ้าไม่ไปอยู่ที่ไร่ศุภสินด้วยกัน ก็มาอยู่ที่นี่แล้วกันครับ ถือว่ามาอยู่ช่วยดูแลบ้านของผมก็ได้ ผมซื้อไว้ให้เจ้าไทม์มาพักเวลามาทำธุระที่กรุงเทพฯ ไม่มีใครอยู่จริงจัง เอื้องคำจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวเสียทีเมื่ออีกฝ่ายมองมาอย่างเกรงใจท่านก็พูดอีกคุณหนูจะได้ไม่กังวลตอนที่ไปอยู่โน่นไงครับ

    ไปอยู่ที่ไหนคะแม่พาฝนหันไปถามมารดาใจหาย

    ไปทำงานที่ไร่ศุภสินไงลูก แม่อยากให้หนูได้งานทำที่ดีและอยู่ในที่ปลอดภัย จะได้ไม่ต้องมาเจ็บตัวอย่างวันนั้นอีก

    พาฝนก้มหน้างุดรู้สึกผิดและเสียใจที่ทำให้มารดาเป็นห่วง ท่านคงจะเห็นบาดแผลและรอยช้ำตามเนื้อตัวของหล่อนถึงได้ตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากคนเก่าคนแก่ของบิดา ก็ไม่อาจปฏิเสธความห่วงใยนั้นได้เพราะทางนี้ไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงานเลยสักที่เดียว

    เมื่อตกลงกันได้พาฝนกับแม่รีบกลับไปขนข้าวของมาไว้ที่นี่ ก่อนที่คุณธาวันและหล่อนจะเดินทางไปยังไร่ศุภสินในวันถัดมา เอื้องคำยังต้องอยู่เป็นเพื่อนมารดาอีกเดือนถึงจะได้รับอนุญาตให้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่ไร่ศุภสินได้

     

    พาฝนก้าวลงจากรถมาสัมผัสกับอากาศเย็นบริสุทธิ์รอบทิศทาง ตาคมสวยกวาดมองธรรมชาติรอบด้านอย่างชื่นชม เผยอยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับปัญหาชีวิตที่หนักหนามาพักใหญ่

    เราเข้าบ้านกันดีกว่าครับคุณหนู

    ละสายตาจากธรรมชาติเบื้องหน้ามามองเจ้าของไร่ที่เอ่ยชวน ขยับเข้าไปขอคำแก้วเข็นรถเอง ระหว่างทางก่อนจะเข้าไปในบ้านหล่อนร้องขอบางอย่างออกมา

    ตอนนี้ฝนกำลังจะมาเป็นพนักงานคนหนึ่งในไร่ศุภสิน ไม่ได้มาอยู่ในฐานะลูกสาวของคุณพ่อ คุณอาอย่าเรียกฝนว่าคุณหนูเลยนะคะ ขอให้เรียกว่าฝนหรือหนูฝนแทนจะดีกว่า แบบนี้จะรู้สึกสบายใจมากกว่านะคะ

    ครับคุณหนู เอ๊ย! หนูฝน อาจะเรียกว่าหนูฝนแล้วกัน

    ขอบคุณนะคะ ต่อไปนี้ก็ขอให้คิดเสียว่าฝนเป็นลูกหลานคนหนึ่งของคุณอา อย่าคิดว่าฝนเป็นลูกคุณพ่ออีกเลยนะคะ เราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสบายใจไม่ต้องเกร็งใส่กันอีก

    หนูช่างเหมือนแม่เหลือเกิน เรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่เคยถือเนื้อถือตัวกับคนที่ต้อยต่ำกว่า ทว่าเก่งและแกร่งเหมือนกับคุณท่านไม่มีผิดเพี้ยน

    คุณธาวันชมจากใจ พาฝนอายุเพียงเท่านี้แต่สามารถพามารดาผ่านปัญญาใหญ่ของครอบครัวมาได้ก็นับว่าเก่งและแกร่งอย่างที่สุดแล้ว หากเป็นเด็กคนอื่นที่อยู่ในวัยเดียวกัน ท่านคิดไม่ออกเลยว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้อย่างไร

    พาฝนออกแรงเข็นรถของคุณธาวันไปต่อ โดยมีคำแก้วถือข้าวของของพาฝนตามหลังมาไม่ห่าง หล่อนพาคุณธาวันไปส่งยังห้องนอนที่อยู่ชั้นสองของบ้านไม้หลังใหญ่ยักษ์อย่างคล่องแคล่ว เพราะเคยไปทำงานเป็นอาสาสมัครช่วยดูแลผู้ป่วยพิการที่บ้านพักคนชรามาก่อน

    คำแก้วเอ๊ย เดี๋ยวพาคุณฝนไปดูห้องนะ ห้องที่อยู่ข้างห้องเจ้าไทม์น่ะ

    เจ้าพ่อเลี้ยง

    คำแก้วรับคำแล้วเดินนำไปยังห้องดังกล่าว พาฝนสำรวจทางเดินภายในบ้านตามหลังคำแก้วไปก็เห็นว่ามีทางออกและทางเข้าเชื่อมกันอยู่สองทาง ทางแรกคือทางที่หล่อนพาคุณธาวันขึ้นมาเมื่อครู่ ซึ่งอยู่นอกตัวบ้าน เป็นทางยกระดับที่ก่อด้วยปูนและฉาบทับด้วยหินทรายกันทางลื่น มีรางเหล็กเลื่อนอัตโนมัติเอาไว้เคลื่อนรถเข็นของคุณธาวันโดยเฉพาะ กับอีกทางคือทางปีกขวาของตัวบ้านที่มีบันไดไม้สักทอดขึ้นมาจากห้องโถงใหญ่กลางบ้าน แต่คำแก้วพาหล่อนเดินไปทางปีกขวา เดินผ่านไปอีกสองห้องก็ถึงห้องที่กำลังจะเป็นของหล่อน

    เชิญเจ้า

    คำแก้วเปิดประตูออกกว้างให้พาฝนเดินเข้าไปก่อนถึงตามเข้าไป เอากระเป๋าเสื้อผ้าไปวางที่หน้าตู้ไม้สักหลังใหญ่ มีโต๊ะเครื่องแป้งใกล้ๆ ถัดไปทางขวามือเป็นเตียงไม้สักแกะสลักลวดลายวิจิตร มีที่นอนขนาดคิงไซซ์เทินอยู่ พาฝนมองไปรอบห้องอย่างพึงพอใจ

    คุณฝนอยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกคำแก้วได้เลยนะเจ้า เดี๋ยวคำแก้วจะไปเอาชุดเครื่องนอนมาให้คุณก่อน

    พาฝนพยักหน้าสวยหวานงึกๆ สาวใช้ก็เดินออกไป หล่อนจึงถือโอกาสออกไปสำรวจที่บริเวณหลังห้องนอนที่เป็นระเบียงไม้กว้างขวาง มีม้านั่งตัวยาววางชิดระเบียงทางซ้ายมือ ใกล้ๆ มีโต๊ะตัวเล็กตั้งอยู่

    หล่อนเดินเข้าไปนั่งชมพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวหายไปทางฉากหลังของภูเขาลูกโต พอมองต่ำลงมาอีกนิดมองเห็นเป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ มีม้าสามตัวกำลังและเล็มหญ้าอ่อนอย่างเอร็ดอร่อยจึงปล่อยตัวปล่อยใจทอดมองมันอย่างเพลิดเพลิน กระทั่งคำแก้วเดินกลับขึ้นมาพร้อมชุดเครื่องนอนชุดใหม่เอี่ยม

    หล่อนเข้าไปจัดการมันด้วยตัวเองพลางสอบถามคำแก้วไปด้วย ถ้าฝนอยากขี่ม้าบ้างเขาจะอนุญาตไหม

    คุณฝนขี่ม้าเป็นด้วยหรือเจ้า

    ฝนเคยอยู่ชมรมขี่ม้าตอนเรียนน่ะ

    ถ้าขี่เป็นก็ไม่หวงเจ้า ไว้พรุ่งนี้คำแก้วจะบอกพี่สิงห์คำให้นะเจ้าว่าคุณอยากขี้ม้า

    พาฝนเงยหน้าขึ้นมาอย่างสนใจเมื่อคำแก้วเอ่ยชื่อคนห่ามหากแต่ใจดีคนนั้น หล่อนถามอย่างตื่นเต้นเพราะอยากเจอเขาอีกสักครั้ง

    คำแก้วสนิทกับคุณสิงห์คำเหรอ

    สนิทมากด้วยเจ้า พี่สิงห์เป็นพี่ชายของคำแก้วเอง มีหน้าที่ดูแลจัดการทุกอย่างภายในไร่ศุภสิน ร่วมทั้งดูแลม้าที่คุณฝนอยากขี่ด้วยเจ้า แต่เอ๊ะ... คุณฝนพูดเหมือนเคยเจอพี่สิงห์มาก่อนอย่างนั้นแหละเจ้า

    พาฝนยิ้มหวานแล้ววางหมอนที่ใส่ปลอกเสร็จเรียบร้อยลงที่เดิม คำแก้วก็ไม่ได้ซักไซ้เพราะต้องรีบไปดูแลคุณธาวัน หล่อนก็อาสาขอไปช่วยดูแลด้วยอีกคน


    >>>อ่านแล้วถูกใจ กดสับตะไคร้ตรงนี้จ้า<<<

        
    >>>อ่าน พิศวาสร้ายลวงใจรัก  คลิก<<<
    >>>อ่าน พิศวาสร้ายซ่อนใจรัก คลิก<<<


    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ


    ดารารินทร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×