คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : พิศวาสลวงบ่วงราคี - 6
อีบุ๊คพี่ไทม์กับหนูฝนมาแล้วจ้า ใครรอโหลดอยู่เชิญจิ้มเลยจ้า
หรือคลิกที่ภาพก็ได้นะคะ
ขณะที่เวทิตนั่งรอความเคลื่อนไหวจากสองแม่ลูกอยู่ที่โรงแรมอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
คุณเพียงฟ้าเดินทางกลับมาที่บ้านเช่าโดยรถตู้หรูหราซึ่งเป็นรถประจำตัวของคุณธาวัน
ท่านตามมาส่งจนถึงที่เพราะอยากรู้สภาพความเป็นอยู่ของคุณเพียงฟ้ากับลูกสาว ทว่าพอได้เห็นแล้วก็หดหู่ใจยิ่งสงสารสองแม่ลูกเข้าไปใหญ่
“ลำบากกันถึงเพียงนี้ยังจะปฏิเสธน้ำใจจากผมอยู่อีกหรือครับ
ย้ายไปอยู่ด้วยกันเถอะครับคุณผู้หญิง เอาคุณหนูไปอยู่ด้วยกันเสียวันนี้เลย”
พาฝนเดินมามองรถตู้สีขาวราคาแพงที่จอดอยู่หน้าบ้านเช่าหลังเล็กแลทรุดโทรม
แล้วมองเลยไปที่รถคันหลังกำลังบีบแตรไล่เพราะขับสวนเข้าไปไม่ได้
คุณธาวันเลยรีบออกความเห็น “งั้นไปตกลงกันใหม่ที่บ้านของผมดีกว่า
เรียกคุณหนูมาขึ้นมารถสิครับ”
อดีตมือขวาคนซื่อเสนอให้อย่างไม่คิดทอดทิ้ง มองปราดไปที่สาวน้อยหน้าตาสะสวยที่ยืนพินิจพิเคราะห์รถของท่านอยู่หน้าบ้านเช่า
คุณเพียงฟ้าจึงเปิดประตูรถไปเรียกลูกสาวให้ขึ้นมา
พาฝนเดินเข้ามาเพื่อจะดูให้หายสงสัยว่ามารดานั้นมากับใคร
หล่อนเห็นชายชราอายุรุ่นราวไล่เลี่ยกับบิดานั่งเคียงข้างมาด้วย อีกฝ่ายยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตร
ออกไปทางปลื้มอกปลื้มใจเสียด้วยซ้ำเพราะน้ำตาคลอ
“ขึ้นมาสิครับคุณหนู”
พอชายผู้นั้นเชิญชวนอย่างรู้จักมักคุ้นกันดีก็ยิ่งงวยงงว่าเขาคือใคร
เพราะไม่เคยเห็นหน้าคาดตากันมาก่อนจริงๆ แต่ก็ยอมขึ้นรถไปด้วยแต่โดยดี
ระหว่างทางมารดาถึงแนะนำให้ได้รู้จักกัน พาฝนก็ยังจำไม่ได้เพราะตอนที่คุณธาวันทำงานอยู่กับบิดาเพิ่งจะอายุเพียงเจ็ดขวบ
แต่มาคุ้นตอนบอกว่าเป็นเจ้าของไร่ศุภสินเพราะได้ยินจากปากบิดา กับนามบัตรที่ได้มาจากผู้จัดการไร่คนนั้น
หล่อนยกมือไหว้ยินดีที่ได้รู้จักและได้เจอกัน
รถตู้ก็มาจอดสนิทอยู่ที่บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ไกลจากบ้านเช่าหลังเล็กเท่ารูหนูของเธอมาก
คำแก้วที่ติดตามมาดูแลคุณธาวันจัดการพาท่านเข้าไปในบ้านด้วยรถเข็น
มีหญิงสูงวัยอายุราวสี่สิบปีบริบูรณ์วิ่งเข้ามาตอนรับด้วยความดีอกดีใจ
“จัดเตรียมของว่างไว้หรือยังเอื้องคำ”
“เรียบร้อยแล้วเจ้าพ่อเลี้ยง
เชิญที่ห้องรับแขกได้เลยเจ้า”
ไม่กี่นาทีทุกคนก็พร้อมหน้ากันที่ห้องโถงรับแขก มีน้ำและของว่างวางอยู่บนโต๊ะไม้สูงแค่เข่าคอยรับรองตามที่คุณธาวันโทรมาสั่งอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
“เจ้าไทม์ไปไหนเสียล่ะ” คุณธาวันกวาดตาหาลูกชายไปรอบๆ
หวังจะได้เจอตัวที่นี่จึงไม่โทรบอกก่อนว่าจะมา
“คุณไทม์...
ไม่เห็นมานะเจ้า”
“ไม่ได้มาพักกันที่นี่หรอกรึ”
สาวใช้ส่ายหน้า “ไปเถอะ ฉันจะคุยธุระกับแขกหน่อย เอาคำแก้วไปด้วย”
เอื้องคำพยักหน้าชวนลูกสาวแล้วพากันเดินออกไป คุณธาวันก็หันมาสนใจแขกคนพิเศษต่อ
“ถ้าไม่ไปอยู่ที่ไร่ศุภสินด้วยกัน
ก็มาอยู่ที่นี่แล้วกันครับ ถือว่ามาอยู่ช่วยดูแลบ้านของผมก็ได้ ผมซื้อไว้ให้เจ้าไทม์มาพักเวลามาทำธุระที่กรุงเทพฯ
ไม่มีใครอยู่จริงจัง เอื้องคำจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวเสียที” เมื่ออีกฝ่ายมองมาอย่างเกรงใจท่านก็พูดอีก “คุณหนูจะได้ไม่กังวลตอนที่ไปอยู่โน่นไงครับ”
“ไปอยู่ที่ไหนคะแม่” พาฝนหันไปถามมารดาใจหาย
“ไปทำงานที่ไร่ศุภสินไงลูก
แม่อยากให้หนูได้งานทำที่ดีและอยู่ในที่ปลอดภัย จะได้ไม่ต้องมาเจ็บตัวอย่างวันนั้นอีก”
พาฝนก้มหน้างุดรู้สึกผิดและเสียใจที่ทำให้มารดาเป็นห่วง
ท่านคงจะเห็นบาดแผลและรอยช้ำตามเนื้อตัวของหล่อนถึงได้ตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากคนเก่าคนแก่ของบิดา
ก็ไม่อาจปฏิเสธความห่วงใยนั้นได้เพราะทางนี้ไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงานเลยสักที่เดียว
เมื่อตกลงกันได้พาฝนกับแม่รีบกลับไปขนข้าวของมาไว้ที่นี่
ก่อนที่คุณธาวันและหล่อนจะเดินทางไปยังไร่ศุภสินในวันถัดมา เอื้องคำยังต้องอยู่เป็นเพื่อนมารดาอีกเดือนถึงจะได้รับอนุญาตให้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่ไร่ศุภสินได้
พาฝนก้าวลงจากรถมาสัมผัสกับอากาศเย็นบริสุทธิ์รอบทิศทาง ตาคมสวยกวาดมองธรรมชาติรอบด้านอย่างชื่นชม เผยอยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับปัญหาชีวิตที่หนักหนามาพักใหญ่
“เราเข้าบ้านกันดีกว่าครับคุณหนู”
ละสายตาจากธรรมชาติเบื้องหน้ามามองเจ้าของไร่ที่เอ่ยชวน ขยับเข้าไปขอคำแก้วเข็นรถเอง
ระหว่างทางก่อนจะเข้าไปในบ้านหล่อนร้องขอบางอย่างออกมา
“ตอนนี้ฝนกำลังจะมาเป็นพนักงานคนหนึ่งในไร่ศุภสิน
ไม่ได้มาอยู่ในฐานะลูกสาวของคุณพ่อ คุณอาอย่าเรียกฝนว่าคุณหนูเลยนะคะ ขอให้เรียกว่าฝนหรือหนูฝนแทนจะดีกว่า
แบบนี้จะรู้สึกสบายใจมากกว่านะคะ”
“ครับคุณหนู
เอ๊ย! หนูฝน อาจะเรียกว่าหนูฝนแล้วกัน”
“ขอบคุณนะคะ
ต่อไปนี้ก็ขอให้คิดเสียว่าฝนเป็นลูกหลานคนหนึ่งของคุณอา อย่าคิดว่าฝนเป็นลูกคุณพ่ออีกเลยนะคะ
เราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสบายใจไม่ต้องเกร็งใส่กันอีก”
“หนูช่างเหมือนแม่เหลือเกิน
เรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่เคยถือเนื้อถือตัวกับคนที่ต้อยต่ำกว่า ทว่าเก่งและแกร่งเหมือนกับคุณท่านไม่มีผิดเพี้ยน”
คุณธาวันชมจากใจ พาฝนอายุเพียงเท่านี้แต่สามารถพามารดาผ่านปัญญาใหญ่ของครอบครัวมาได้ก็นับว่าเก่งและแกร่งอย่างที่สุดแล้ว
หากเป็นเด็กคนอื่นที่อยู่ในวัยเดียวกัน ท่านคิดไม่ออกเลยว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้อย่างไร
พาฝนออกแรงเข็นรถของคุณธาวันไปต่อ
โดยมีคำแก้วถือข้าวของของพาฝนตามหลังมาไม่ห่าง หล่อนพาคุณธาวันไปส่งยังห้องนอนที่อยู่ชั้นสองของบ้านไม้หลังใหญ่ยักษ์อย่างคล่องแคล่ว
เพราะเคยไปทำงานเป็นอาสาสมัครช่วยดูแลผู้ป่วยพิการที่บ้านพักคนชรามาก่อน
“คำแก้วเอ๊ย
เดี๋ยวพาคุณฝนไปดูห้องนะ ห้องที่อยู่ข้างห้องเจ้าไทม์น่ะ”
“เจ้าพ่อเลี้ยง”
คำแก้วรับคำแล้วเดินนำไปยังห้องดังกล่าว พาฝนสำรวจทางเดินภายในบ้านตามหลังคำแก้วไปก็เห็นว่ามีทางออกและทางเข้าเชื่อมกันอยู่สองทาง
ทางแรกคือทางที่หล่อนพาคุณธาวันขึ้นมาเมื่อครู่ ซึ่งอยู่นอกตัวบ้าน เป็นทางยกระดับที่ก่อด้วยปูนและฉาบทับด้วยหินทรายกันทางลื่น
มีรางเหล็กเลื่อนอัตโนมัติเอาไว้เคลื่อนรถเข็นของคุณธาวันโดยเฉพาะ กับอีกทางคือทางปีกขวาของตัวบ้านที่มีบันไดไม้สักทอดขึ้นมาจากห้องโถงใหญ่กลางบ้าน
แต่คำแก้วพาหล่อนเดินไปทางปีกขวา เดินผ่านไปอีกสองห้องก็ถึงห้องที่กำลังจะเป็นของหล่อน
“เชิญเจ้า”
คำแก้วเปิดประตูออกกว้างให้พาฝนเดินเข้าไปก่อนถึงตามเข้าไป
เอากระเป๋าเสื้อผ้าไปวางที่หน้าตู้ไม้สักหลังใหญ่ มีโต๊ะเครื่องแป้งใกล้ๆ ถัดไปทางขวามือเป็นเตียงไม้สักแกะสลักลวดลายวิจิตร
มีที่นอนขนาดคิงไซซ์เทินอยู่ พาฝนมองไปรอบห้องอย่างพึงพอใจ
“คุณฝนอยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกคำแก้วได้เลยนะเจ้า
เดี๋ยวคำแก้วจะไปเอาชุดเครื่องนอนมาให้คุณก่อน”
พาฝนพยักหน้าสวยหวานงึกๆ สาวใช้ก็เดินออกไป หล่อนจึงถือโอกาสออกไปสำรวจที่บริเวณหลังห้องนอนที่เป็นระเบียงไม้กว้างขวาง
มีม้านั่งตัวยาววางชิดระเบียงทางซ้ายมือ ใกล้ๆ มีโต๊ะตัวเล็กตั้งอยู่
หล่อนเดินเข้าไปนั่งชมพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวหายไปทางฉากหลังของภูเขาลูกโต
พอมองต่ำลงมาอีกนิดมองเห็นเป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ มีม้าสามตัวกำลังและเล็มหญ้าอ่อนอย่างเอร็ดอร่อยจึงปล่อยตัวปล่อยใจทอดมองมันอย่างเพลิดเพลิน
กระทั่งคำแก้วเดินกลับขึ้นมาพร้อมชุดเครื่องนอนชุดใหม่เอี่ยม
หล่อนเข้าไปจัดการมันด้วยตัวเองพลางสอบถามคำแก้วไปด้วย “ถ้าฝนอยากขี่ม้าบ้างเขาจะอนุญาตไหม”
“คุณฝนขี่ม้าเป็นด้วยหรือเจ้า”
“ฝนเคยอยู่ชมรมขี่ม้าตอนเรียนน่ะ”
“ถ้าขี่เป็นก็ไม่หวงเจ้า
ไว้พรุ่งนี้คำแก้วจะบอกพี่สิงห์คำให้นะเจ้าว่าคุณอยากขี้ม้า”
พาฝนเงยหน้าขึ้นมาอย่างสนใจเมื่อคำแก้วเอ่ยชื่อคนห่ามหากแต่ใจดีคนนั้น
หล่อนถามอย่างตื่นเต้นเพราะอยากเจอเขาอีกสักครั้ง
“คำแก้วสนิทกับคุณสิงห์คำเหรอ”
“สนิทมากด้วยเจ้า
พี่สิงห์เป็นพี่ชายของคำแก้วเอง มีหน้าที่ดูแลจัดการทุกอย่างภายในไร่ศุภสิน ร่วมทั้งดูแลม้าที่คุณฝนอยากขี่ด้วยเจ้า
แต่เอ๊ะ... คุณฝนพูดเหมือนเคยเจอพี่สิงห์มาก่อนอย่างนั้นแหละเจ้า”
พาฝนยิ้มหวานแล้ววางหมอนที่ใส่ปลอกเสร็จเรียบร้อยลงที่เดิม
คำแก้วก็ไม่ได้ซักไซ้เพราะต้องรีบไปดูแลคุณธาวัน หล่อนก็อาสาขอไปช่วยดูแลด้วยอีกคน
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ
ดารารินทร์
ความคิดเห็น