คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : พิศวาสลวงบ่วงราคี - 2
อีบุ๊คพี่ไทม์กับหนูฝนมาแล้วจ้า ใครรอโหลดอยู่เชิญจิ้มเลยจ้า
หรือคลิกที่ภาพก็ได้นะคะ
เวทิตห่มผ้าให้บิดาแล้วเดินไปหาบุณฑราที่ห้องนอน หล่อนอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ ศีรษะโพกไว้ด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กสีสะอาดตา ปากชมพูสวยซีดลงเล็กน้อยเพราะอากาศที่เย็นจัด
ชายหนุ่มตวัดคนตัวเล็กเข้ามากอด จูบที่ปากซีดๆ หนักหน่วงแล้วผละออกมาดูผลงาน
“ปากหายซีดแล้ว ได้ผลแฮะ”
คนเจ้าเล่ห์โดนบุณฑราตีไปหนึ่งทีที่อกแกร่ง ชายหนุ่มจึงลงโทษด้วยการดันร่างเล็กไปที่เตียง ผลักเบาๆ ให้นอนลงไปแล้วตามลงจูบอย่างนุ่มนวลที่ปากจิ้มลิ้ม ซึ่งหล่อนก็ยอมแต่โดยดี มือเรียวเล็กเลื่อนขึ้นมาประคองกรอบหน้าหล่อเหลาเมื่อเขาทำท่าจะเลื่อนลงไปไซ้ซอกคอ
“ไม่เอาค่ะ อย่ารังแกกันสิคะ”
“ขอมัดจำนิดเดียว นะ… ไม่งั้นพี่ต้องอกแตกตายแน่ๆ อีกตั้งสองปีกว่าน้องดาจะกลับมาให้จูบอีก”
“อ้อนแบบนี้น้องดาก็ใจอ่อนแย่”
เวทิตยิ้มกรุ้มกริ่ม ก้มลงไปจูบไซ้ซอกคอหอมสดชื่นจากกลิ่นสบู่อ่อนๆ ของหญิงคนรัก ตักตวงความสุขด้วยการจูบไปทั้งตัวด้วยความเสน่หา มือหนาเค้นคลึงทรวงอกนุ่มนิ่มอย่างเผลอไผลจนหญิงสาวต้องตะครุบไว้แล้วส่งเสียงห้ามปราม
“พอแล้วค่ะ น้องดาจะรีบใส่เสื้อผ้า จะไปอ่านหนังสือให้คุณพ่อฟังแล้ว”
การอ่านหนังสือต่างๆ ให้พ่อเลี้ยงฟังคืองานรองของหญิงสาว หลังจากเลิกงานออฟฟิศก็จะกลับมาช่วยคำแก้วดูแลท่าน หลังอาหารมื้อค่ำก็จะอ่านหนังสือให้ฟังทุกวันก่อนนอน แต่วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่หล่อนจะได้อยู่ที่นี่ เย็นนี้ต้องเดินทางไปกรุงเทพฯเพื่อไปรอขึ้นเครื่องในเช้าวันพรุ่งนี้ ก่อนไปจึงอยากดูแลท่านให้ดีที่สุด
แม้นว่าร่างกายแทบจะปริแตกเพราะฤทธิ์พิศวาส เวทิตก็ไม่อาจยื้อเอาไว้ จำต้องปล่อยกวางน้อยไปเพราะไม่อยากรังแก อย่างน้อยเขาก็ควรให้โอกาสหล่อนได้ใช้ชีวิตอยู่กับความบริสุทธิ์อีกสักสองปีก่อน จากนั้นจะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือแบบวันนี้อีกเลย
บุณฑราคือแก้วตาดวงใจ เขาหลงรักสาวสวยที่มีหน้าตาสะสวยราวกับตุ๊กตาบรายธ์ตั้งแต่แรกเจอ ก็สี่ปี่ก่อนตอนเขาก็กลับจากอเมริกาเมื่อเรียนจบ
น้องดาของเขาเป็นเด็กดีมีความกตัญญูรู้คุณคน หล่อนจะช่วยแม่เลี้ยงดูแลบิดาที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างไม่รังเกียจ ทว่าคนดีๆ อย่างแม่หล่อนกลับมีอันเป็นไปเสียก่อนคนป่วยอย่างบิดา หน้าที่ดูแลหล่อนและผู้ให้กำเนิดจึงตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
วันต่อมา…
หลังจากส่งบุณฑราขึ้นเครื่องไปเรียนต่อด้วยดี เวทิตก็วนรถกลับไปตามหาภรรยากับลูกสาวของผู้มีพระคุณของบิดาทันที สองแม่ลูกเพิ่งประกาศขายบ้านไปไม่นาน เขาเสพข่าวจากหนังสือพิมพ์ที่ยังนำเสนอเรื่องร้ายๆ ของครอบครัวนี้อยู่ แต่ไม่มีข่าวไหนบอกเลยว่าสองแม่ลูกนี้หายตัวไปอยู่แห่งหนตำบลใด เจ้าของบ้านคนใหม่จึงเป็นเป้าหมายหลักในการตามหาคนทั้งสอง
เวทิตเข้าไปสอบถามขอเบอร์โทรของสองแม่ลูก ทว่าทางนั้นกลับไม่ให้ในคราแรกเพราะถูกกำชับจากเจ้าของเบอร์ว่าอย่าให้ใคร ต้องการหลบหนีนักข่าวที่เฝ้าตามติดครอบครัวไม่ห่าง แต่เขาก็สามารถเกลี้ยกล่อมเอามาได้ในที่สุด
ชายหนุ่มมองเบอร์โทรศัพท์ในมือถืออยู่ครู่หนึ่งก็รีบต่อสาย ทว่ารอสายนานเท่าไรอีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับสายเสียที เขาโทรทวนไปอีกหลายรอบแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะยอมรับสายจึงตัดสินใจฝากข้อความไว้ บอกว่าเขาเป็นใครและติดต่อมาเพราะจุดประสงค์ใด ก่อนขับรถออกไปจากบ้านหลังใหญ่โตที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของตระกูลกมลเวช
พาฝนมองโทรศัพท์ในมือที่เพิ่งหยุดสั่นอย่างสงสัยว่าใครกันที่โทรมาหลายสาย อีกทั้งยังมีหนึ่งข้อความส่งตามมาก่อนที่มันจะเงียบกริบไป ทว่าเสียงหัวใจดวงน้อยยังคงเต้นแรงเมื่อตอนนี้ใช้ความคิดอย่างหนักกับงานที่ลดคุณค่าในตัวหล่อนจนต้อยต่ำ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปเจรจากับเจ้าของโมเดลลิงที่มีรูปโฉมงามสง่าอีกครั้ง
“ถ้าฝนยอมรับงานนี้ ฝนจะได้ค่าตอบแทนเท่าไรคะ”
“ห้าพันจ้ะ แต่ถ้าหากฝนอยากได้เพิ่มก็ต้องไปดื่มต่อเป็นเพื่อนลูกค้านะ”
ความเจ็บปวดแล่นร้าวขึ้นมากระจุกอยู่กลางลำคออย่างฉับพลัน จากนางแบบกิตติมศักดิ์ที่ใครต่างต้องการตัว จ่ายให้ไม่อั้นเพียงแค่ยอมรับงานเท่านั้น บัดนี้มีค่าตัวอยู่ที่หลักพันและเป็นงานที่หยามเกียรติเหลือคณา
แต่พาฝนไม่มีทางเลือกเมื่อถูกความอับจนเล่นงานจนถึงทางตัน หลังจากตัดสินใจขายทุกอย่างที่มีค่าไปเพื่อนำเงินทั้งหมดมาชดใช้หนี้สินที่เสาหลักของครอบครัวทิ้งไว้ให้ก่อนเสียชีวิตจนไม่เหลือ
ตอนนี้หล่อนกับแม่เหลือแต่ตัวกับเงินไม่กี่ร้อยบาท หากไม่รับงานนี้หล่อนกับแม่ก็จะไม่มีกินเพราะหันหน้าไปพึ่งพาใครไม่ได้เลย มีแต่คนรังเกียจและเอาแต่เมินหน้าหนี ราวกับหล่อนและแม่คือขยะชิ้นหนึ่งที่น่ารังเกียจ
สาวน้อยวัยใสเก็บกลืนความจุกเจ็บลงไปลำคอแล้วตอบรับอย่างหมดแรง “ฝนรับงานนี้ค่ะ และถ้ามีงานแบบนี้อีกก็บอกด้วยนะคะ”
นักศึกษาสาวสวยที่เพิ่งสอบเสร็จวิชาสุดท้ายมาหมาดๆ เอ่ยขออย่างไร้ทางเลือก ไม่รู้อีกนานแค่ไหนกว่าจะหางานทำได้ งานง่ายๆ ที่เจ๊แหม่มเสนอให้ในวันนี้คือหนทางเดียวที่จะช่วยให้หล่อนอยู่รอดในวันต่อไป
“งั้นฝนก็รีบไปแต่งตัวนะ เจ๊จะโทรเรียกแท็กซี่ให้”
เจ๊แหม่มทอดมองร่างบางในชุดนักศึกษาที่เดินเข้าไปในห้องแต่งตัวอย่างเห็นอกเห็นใจ แต่ก็ช่วยได้เท่านี้ เพราะชื่อเสียงของสาวน้อยคนนี้ป่นปี้ไปพร้อมกับธุรกิจของตระกูลกมลเวชที่จมลงอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ลูกค้ารายใหญ่ต่างปฏิเสธพาฝนอย่างถ้วนหน้า
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ
ดารารินทร์
ความคิดเห็น