คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : หักเหลี่ยมรักจ้าวดวงใจ - 13
ผ้าขนหนูถูกยื่นให้เมื่อราชาวดีเดินมาถึงบ้านหลังใหญ่ไกลราวสองกิโลเมตรจากที่ที่ถูกทิ้งไว้
‘คนบ้า’
ก่นด่าในใจแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนพร้อมป้าเทียน
ยังนึกแค้นใจไม่หาย พอรู้ว่าหล่อนเดินได้เขาก็ทิ้งเอาไว้ตรงนั้นพร้อมกับคำพูดสุดท้าย
แต่จะให้เรียกว่าคำพูดก็ไม่ถูกนัก เรียกว่า ‘คำสั่งเผด็จการ’
จะถูกกว่า
‘เย็นนี้เอาปิ่นโตมาให้ผมที่บ้านท้ายไร่…
ปั่นจักรยานมาด้วยตัวคุณเอง’
‘ฉันต้องไปส่งลูกที่โรงเรียนประจำ’
‘ก่อนหน้านี้… คุณบอกว่าต่อไปจะฟังผมคนเดียว ไม่ดื้ออีกแล้ว ฉะนั้น… ผมจะถือเอาคำพูดนั้นเป็นสำคัญ’
จากนั้นเขาก็ไปเลย ปล่อยให้หล่อนตะเกียกตะกายขึ้นมาจากน้ำและเดินมาเองจนถึงบ้านอย่างไหว้วานให้ใครมาส่งก็ไม่ได้
“โรคจิต!” สบถลั่นด้วยความคับแค้นใจแล้วก็หันไปทางป้าเทียน “แหวนคิดแล้วคิดอีกนะป้าว่าเคยไปทำอะไรให้เขาโกรธแค้นหนักหนา
เขาถึงได้ใจยักษ์ใจมารกับแหวนแบบนี้”
“นั่นสิคะ”
ป้าเทียนเห็นด้วยอย่างมาก “จากที่คุณแหวนเล่ามา
ถ้าไม่เกลียดกันก็คงทำกันไม่ได้ขนาดนี้
แล้วนี่เขารู้ได้ยังไงคะว่าคุณแหวนแกล้งเดินไม่ได้”
“แหวนนึกไม่ออกอีกเหมือนกันค่ะ
แหวนพยายามระวังตัวอย่างดีแล้วนะคะตอนที่มีเขาอยู่ในบ้านด้วย
แต่คนอย่างเขาน่ะไว้ใจไม่ได้ค่ะป้าเทียน เขาร้ายกาจ… ร้ายลึกกว่าที่เราเห็นกันเสียอีก
ต่อไปเราคงต้องระวังตัวจากเขาให้มาก แหวนไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน
เข้ามาที่นี่และบังคับแหวนให้จดทะเบียนสมรสด้วยเพราะอะไร”
คิดแล้วก็นึกกลัวคเชนทร์ขึ้นมา เขาดูจะรู้เรื่องของหล่อนและคนในไร่สุพรรณิการ์ดีราวกับติดตามชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเรามานาน
โดยเฉพาะหล่อน… เขารู้เรื่องลึกๆ
ของหล่อนได้อย่างน่าสงสัย
หรือว่าเขาจะส่งสายสืบเข้ามาทำงานที่นี่!?
“ป้าไปเอากาหลงมาจากที่ไหนคะ”
โพล่งถามอย่างนึกขึ้นได้ว่ากาหลงเป็นเด็กสาวไม่มีที่ไป ป้าเทียนสงสารเลยขอให้หล่อนรับเลี้ยงเอาไว้เมื่อสามปีก่อน
“กาหลงมันก็เป็นลูกสาวตาอุ่นที่ชอบหาของป่ามาขายให้ป้าไงคะ
แกตายเพราะไข้ป่าเมื่อสามปีก่อน นางหลงมันอยู่คนเดียวป้าก็เลยขอคุณแหวนให้มันมาอยู่ด้วย
ลืมไปแล้วหรือคะ”
ราชาวดีแค่อยากถามย้ำให้แน่ใจว่าป้าเทียนไม่ได้โกหกเพราะสงสารอยากพากาหลงที่บอกว่าไม่ทีที่ไปมาอยู่ด้วยกันก็เท่านั้น
ซึ่งคำตอบของแกยังเหมือนเดิมทุกคำ
อย่างนั้นก็คงไม่ใช่แล้วล่ะ
คงจะเป็นคนอื่น แต่ราชาวดียังไม่พูดบอกป้าเทียนเรื่องที่กำลังสงสัย
ขอตัวเข้าไปอาบน้ำแล้วลงมาหาลูกสาวที่เล่นขายของอยู่ในสวนผักหลังบ้านกับกาหลงตั้งแต่ไปหาคเชนทร์
“แม่!”
เด็กหญิงพรรณิการ์ถึงกับตาค้างด้วยความตกตะลึงที่เห็นคนเป็นแม่เดินเข้ามาหาแทนการนั่งวีลแชร์หรือไม่ก็ไม้เท้าเหมือนก่อนหน้านั้น
มือน้อยบอบบางเปื้อนดินดำทำกะลาใส่เศษผักหลุดมือและเอาแต่พูดเพ้อซ้ำๆ ว่า…
“แม่เดินได้ แม่แหวนเดินได้
แม่แหวนเดินได้แล้วค่ะ”
“มาหาแม่มา” ราชาวดีอ้าแขนรอรับลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ
ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังอีกต่อไปแล้ว
ในเมื่อทุกคนที่ไร่ชาเห็นแล้วว่าหล่อนเดินได้ และเดินมาไกลถึงสองกิโลเมตรจากทะเลสาบผ่านหน้าทุกคนมาจนถึงบ้าน
ทุกคนต่างตกอยู่ในอาการเดียวกันกับที่ลูกสาวกำลังเป็นอยู่ ก็จู่ๆ คนที่เดินไม่ได้มาเกือบปีและมีข่าวสะพัดออกไปทั่วทิศว่าอาจเดินไม่ได้ตลอดชีวิตเกิดเดินได้เพียงชั่วข้ามคืน
“ทะ… ทำไม แม่เดินได้” เด็กหญิงยังคงสงสัยขณะค่อยๆ เดินเข้ามาในอ้อมกอดของคนเป็นแม่
“ลุงฟานจ้ะ ลุงฟานทำกายภาพให้จนแม่เดินได้
ลูกดีใจไหม” หล่อนลูบหลังศีรษะลูกน้อยแผ่วเบา
“ดีใจที่สุดเลยค่ะ ณิการ์จะได้ไปว่ายน้ำเล่นกับคุณแม่แล้ว
เย้ๆ”
เด็กหญิงผละออกมากระโดดโลดเต้นไปรอบๆ
ด้วยความดีใจ แค่นึกถึงกิจกรรมสนุกๆ ที่จะได้เล่นกับคนเป็นแม่เหมือนก่อนก็มีความสุขจนหุบยิ้มและหยุดกระโดดไปรอบๆ
ไม่ได้
“ระวังล้มลูก” ลูกสาวเกือบจะเหยียบกะลามะพร้าวเลยรีบเตือน
กาหลงไวทายาด รีบคว้าแขนเล็กบอบบางไว้มั่นแล้วเอามาส่งให้ราชาวดี
“เกือบล้มแล้วไหม”
“วันนี้แม่แหวนจะไปส่งณิการ์ที่โรงเรียนด้วยตัวเองใช่ไหมคะ”
“แม่อยากไปส่งลูกมากๆ
เลยจ้ะ แต่คนงานของเราไม่สบาย เป็นไข้ตัวร้อนจี๋ แม่ต้องไปดูเขา”
“ว้า…” เด็กหญิงพรรณิการ์หน้าเจื่อนสนิท ผิดหวังที่ไม่ได้เอาแม่แหวนไปอวดเพื่อนๆ ว่าเดินได้แล้ว
แม่แหวนไม่ได้เป็นคนพิการอย่างที่เพื่อนเคยล้อแล้ว
“แต่คราวหน้าแม่สัญญาว่าจะไปรับลูกที่โรงเรียนด้วยตัวเอง
โอเคไหม”
“จริงนะคะ”
“แม่ไม่เคยโกหกลูกอยู่แล้ว
ไปอาบน้ำเตรียมตัวกลับโรงเรียนไปอยู่กับแม่ครูกันดีกว่า ป่านนี้แม่ครูมายืนชะเง้อรอหนูแล้วมั้ง”
ปะเหลาะลูกไปก็ละอายใจไป เพราะที่ผ่านมาโกหกจนทำให้ลูกถูกล้อมาตลอดว่ามีแม่เป็นคนพิการ
สงสารลูกจับใจในตอนนั้น แต่หล่อนจำใจต้องทำมัน ไม่อย่างนั้น…
ราชาวดีหยุดคิดกะทันหันเมื่อลูกสาวกระตุกมือเพื่อถามย้ำว่า…
“แล้วคุณเชนเขาเป็นใครคะ แม่แหวนยังไม่บอกลูกเลย”
“เขา…”
ราชาวดีหยุดคิดพลางใช้มือดันหลังบอบบางของลูกให้เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน “เขา…
เป็นผู้ชายตัวสูงที่จะมาช่วยปกป้องดูแลเราแทนลุงราชไงจ๊ะ ต่อไปหนูต้องเชื่อฟังและอย่าดื้อกับคุณเชน
เขาจะได้เมตตาเอ็นดูหนูมากๆ เข้าใจที่แม่พูดใช่ไหม”
“เข้าใจค่ะ ลูกจะไม่ดื้อ ลูกจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังแม่แหวนกับคุณเชน”
เด็กหญิงแหงนหน้าขึ้นมาสัญญาเจื้อยแจ้ว ฉายรอยยิ้มสดใสจนเห็นลักยิ้มน่าเอ็นดู
ราชาวดีโชคดีตรงนี้ ตรงที่ได้ลูกสาวเป็นเด็กน่ารักว่านอนสอนง่ายแม้ว่าแกจะอาภัพไม่มีพ่อมาตั้งแต่เกิด
พรรณิการ์ไม่เคยรู้ว่าพ่อของแกคือใคร แกอยู่ในความดูแลของหล่อน บิดาของหล่อน และน้าวาปีมาตั้งแต่เกิดจนถึงทุกวันนี้
แกมีความสุขดี และแกก็ไม่เคยถามหาพ่อของแกเลย!
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามผลงานค่า
ขอให้สนุกและมีความสุขกับการอ่านนะคะ
ดารารินทร์
ความคิดเห็น