คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Your life ไม่อยากได้ฉันขอนะ :: Chapter 6
Chapter 6
กลางดึกสงัด…..
“นาย.. นาย ตื่น!” เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูบวกกับแรงสะกิดทำให้ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้น พอกำลังจะอ้าปากถามมือหนาก็เข้ามาปิดปากผมไว้ซะก่อน
“ชู่ววว ห้ามส่งเสียงดังเด็ดขาดแล้วตามฉันมา” ผมพยักหน้ารับเขาจึงปล่อยมือออก
“แล้วโซ่..”
“ฉันปลดตั้งนานแล้ว” เพียงได้ยินคำว่าปลดออกปุ๊ป คำว่าหนีก็โผล่ขึ้นมาทันทีในความคิดผม แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้คิดไรมาก เขาให้ตามก็ตาม
ย่องเข้ามาถึงห้องนอนเขาก็เอาสายอะไรไม่รู้มาคาดเอวผม ครั้นพอจะถามเขาก็ปิดปากผมเหมือนเดิม
“เอาล่ะ เรามีเวลาแค่สามนาทีที่ต้องหนีไปจากที่นี่ก่อนจะกลายเป็นศพ ฉันมีสริงเส้นเดียวฉนั้นนายอุ้มแบมแบมไว้ดีๆ ชั้นนี้ชั้นสิบห้า ระวังตัวด้วย” เขาอธิบายอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวนี่มัน…….”
“อย่าเพิ่งถาม เวลาไม่ได้รอเรา สามนาทีตอนนี้มันกลายเป็นสองกว่าแล้ว นี่แบมแบม ไปเร็ว!” เขาส่งแบมแบมให้ผมอุ้ม ก่อนจะนำออกนอกหน้าต่างไปพร้อมกระเป๋าใบใหญ่
“ห เห้ยย คุณ” ผมรีบชะโงกหน้าไปดูอย่างหวาดเสียว ตกใจแทบแย่คิดว่าเขาจะกระโดดตึกสิบห้าชั้นลงไป แต่มันมีระเบียงเล็กๆเรียงกันทุกห้องทำให้ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก
“รีบมา คาดว่านี่คงเหลือหนึ่งนาทีแล้ว”
“ผ ผมจะลงยังไง ผมใช่ไอนี่ไม่เป็น”
“ใช้สัญชาตญาณ” เขาบอกเพียงเท่านั้นและร่างของเขาก็ไปไกลจากสายตาผมแล้ว
นี่มันเรื่องบ้าบออะไรอีก แล้วใช้สัญชาตญาณคืออะไร!
งงโว้ยยย ย!
แต่ดูเหมือนขณะที่ผมกำลังกระวนกระวายอยู่นั้นสิ่งที่เขาบอกก็ผุดขึ้นมาบนหัว ..หนึ่งนาที ตอนนี้มันก็เหลือนิดเดียวแล้วสิ ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นผมยอมทำตามที่เขาบอกก็แล้วกัน
ปีนระเบียงลงมาเหมือนกับเขา โดยมีเด็กน้อยที่หลับอยู่ในอ้อมกอดมันทำใหห้ลำบากอีกเป็นเท่าตัว ตอนนี้ขออย่างเดียวคืออย่าพลาด ผมตายน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าแบมแบมตายเขาคงมากระทืบศพผมซ้ำแน่
“เห้ยยยย ว้ากกกก ก”ขณะที่ผมกำลังจะปีนไปเหยียบระเบียงอีกชั้นเท้าของผมมันดันลื่นผลัดตกลงมา! แต่โชคดีที่ผมขว้าอะไรบางอย่างไว้ได้ทัน ทำให้เราสองคนห้อยโหนอยู่บนอากาศ ผมไม่กล้าที่จะมองลงไปเลย
“อืออ หืออ หนูแบง่วงจะตะโกนทามมายย” เด็กน้อยสะลึมสะลือตื่นขึ้น มือเล็กพยายามขยี้ตาเพื่อปรับโฟกัส “อ่าว นายอุ้มหนูแบทำไม แล้วเรา ว้ากกกกก” พอสังเกตลงไปข้างล่างก็พบว่าตัวเองไม่ได้อยู่บนพื้นดินปกติ จึงโผกอดอีกคนทันที ทำให้เสียหลักร่วงลงไปอีกครั้ง
“ว้ากกกกกก กก ฮืออออ” สองเสียงร้องประสานกันด้วยความหวาดกลัว โดดตึกมันคงเป็นอย่างนี้นี่เอง
“จะแหกปากกันอีกนานมั๊ย ฉันบอกให้เงียบๆ” เสียงคุ้นๆดังขึ้นใกล้ๆและอะไรบางอย่างขยุกขยิกที่รอบเอวผมทำให้ต้องลืมตาดูอีกครั้ง
..ผมตายยังเนี่ย?
มองซ้ายมองขวาไปรอบๆก็พบว่าผมมาถึงข้างล่างแล้ว แต่เท้ายังไม่ถึงพื้น เพราะสายที่เขาผูกรอบเอวมันรั้งผมอยู่ สักพักร่างของผมก็ร่วงลงพื้นเมื่อเขาปลดมันออกให้
บึ้มมมม ม!!!!!
“หมอบ!” เขารวบตัวผมและแบมแบมๆไว้ในอ้อมกอดบังเศษหินที่ตกมาจากชั้นบน
“ค คุณ..” พอผมจะหันไปถามเขาก็ใส่ผ้าปิดปากให้ผม
“อุ้มแบมแบมแล้ววิ่งตามฉันมา ห้ามให้เห็นหน้าแบมๆ จำไว้ว่าห้ามยืนเป็นเป้านิ่ง วิ่งซิกแซกได้ก็ดี” เขาอธิบายรวดเดียวแบบเดิมจนผมฟังแทบไม่ทัน ก่อนจะได้ยินเสียงลูกกระสุนกระทบเสากำแพงไม่ไกลจากจุดที่เรายืนนักเขาก็ออกตัววิ่งทันที รวมถึงผมด้วย
ตลอดทางที่เราวิ่งมามีลูกกระสุนพุ่งเข้ามาเป็นระยะ แต่ไม่มีเสียงปืนดังสักแอะ ถ้าคุณเคยดูจากในหนังเหมือนผมคงคิดว่ามันยิงรัวๆแบบคนโง่แถมยิงไม่ถูก แต่นี่ไม่เหมือนในหนังเลยสักนิด กระสุนทุกนั้นมาแบบใจเย็นและเฉียดตัวผมไปหลายแผลเลยอ่ะ จนแทบจะวิ่งไปต่อไม่ไหวเพราะความเจ็บปวด
ส่วนเขาก็ไวเกิน วิ่งนำผมลิ่วๆเลย แถมยังหลบวิถีกระสุนได้ทุกนัดราวกับรู้ว่าอีกฝ่ายจะเล็งไปทางไหน …ทำไมเขาไม่เอาแบมแบมไปวะครับ = =
“อ๊ะ!!” เด็กน้อยในอ้อมกอดกระตุกตัวเกร็งเมื่อโดนกระสุนถากแขนไป ก่อนจะร้องแล้วดิ้นสุดแรงด้วยความเจ็บทำให้ผมเสียหลักล้มกลิ้งไปกับพื้น
ซ ซวยแล้ว
“ให้ตายสิ แบมมานี่” ร่างสูงที่หันมาเห็นสองร่างกลิ้งหลุนๆไปกับพื้นจึงต้องวิ่งย้อนกลับมาทั้งๆที่จะถึงรถอยู่แล้ว
“ฮึก มาร์ค หนูแบเจ็บ ฮืออออ” เด็กน้อยโผกอดผู้ปกครองของตัวเองแน่นเมื่อเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดอุ่น เสียงทุ้มติดดุสั่งให้เด็กน้อยหยุดแหกปากแบมแบมจึงเงียบทันทีแต่ยังสะอึกสะอื้นอยู่บ้าง แล้วรีบเบี่ยงตัวหลบเมื่อรับรู้ถึงกระสุนที่พุ่งมา ก่อนจะออกตัววิ่งอีกครั้ง
แล้วทำไมไม่มาดูผมบ้างเลย แผลเต็มตัวหมดแล้ว
ขณะที่ผมกำลังจะหยัดตัวลุกขึ้น ลูกกระสุนอีกนัดก็ตรงเจาะเข้าที่ขาผมพอดีที่ให้ล้มลงไปอีกรอบ
“ถ้าจะยิงขนาดนี้นี้ งั้นรอบนี้ขอตรงนี้รอบเดียวจบ ไม่อยากเจ็บแล้ว” ผมนั่งคุกเข่าแล้วตะโกนบอกคนที่ไม่มีตัวตนไป ชี้ไปที่ขมับเพื่อเป็นการบอกให้อีกฝ่ายเล็งมาตรงนี้ แล้วหลับตารอรับชะตากรรม
ไหนๆก็ไม่มีแบมแบมแล้ว ยังไงผมก็ยังยืนยันว่าอยากตาย ถ้าหากต้องมาวิ่งหนีและเจ็บปวดแบบนี้
“บ้าไปแล้วหรอ ขึ้นมา!” เขาขับมอเตอร์ไซต์มาเทียบข้างแล้วกระชากคอเสื้อผมให้ลุกขึ้น ผมจึงยอมขึ้นรถเขาแต่โดยดี เพราะถ้าไม่ลุกอาจจะเป็นเขาไม่ก็แบมๆที่ได้ตายแทน
รถ KTM คู่ใจถูกจอดเทียบกับซอกตึกแคบๆเก่าๆ ก่อนเจ้าของรถจะดับเครื่องแล้วปลุกเด็กน้อยที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้างหน้า แต่ก็ไม่ขยับ แถมตัวยังรุมๆอีก จึงเปลี่ยนเป้าหมายมาเรียกคนที่ซ้อนอยู่ข้างหลังแทน
“นาย..ถึงแล้ว” พยายามเอื้อมมือไปเขย่าตัวเรียก แต่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกตัวเช่นกัน พอแตะหน้าผากดูก็สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่สูงมากจนต้องชักมือออก ..ตัวร้อนจี๋เลย
สุดท้ายก็ต้องอุ้มเด็กน้อยไว้ข้างหน้าและแบกอีกคนขึ้นหลังมาด้วย เพราะเกรงว่าหากช้ากว่านี้มีใครมาเห็นเข้าคงไม่ดี
ร่างสูงแบกสองร่างไว้อย่างทุลักทุเลก่อนจะดันตัวเข้ากำแพงข้างๆ ซึ่งหากไม่สังเกตคงไม่รู้ว่ามันคือประตู แล้วใช้เท้ามันปิดเข้าที่เดิม ส่วนด่านต่อมายากหน่อยเพราะมันเป็นเครื่องแสกนนิ้ว และมันคงดีกว่านี้ถ้าไอเจ้าของห้องมันให้แสกนลายนิ้วมือไม่ใช่นิ้วเท้า!
ครืดดดด ด
ขณะที่กำลังจะวางร้างไร้สติสองชีวิตลงเพื่อแสกนลายนิ้วประตูก็เปิดพอดีพร้อมกับร่างผอมของใครบางคน
“อ่าวมาร์ค แล้วนี่.. เอ่อ เดี๋ยวช่วย” พอเห็นหน้าไม่สู้ดีของอีกคนทำให้เก็บความสงสัยไว้ในใจก่อนจะเอื้อมมือไปรับเด็กน้อยในอ้อมกอดของอีกคนแล้วเดินนำเข้าไปในห้องหลังจากแสกนลายนิ้วแล้ว
ภายในห้องก็ไม่ได้ต่างจากห้องของเขาสักเท่าไร เพียงแต่อุปกรณ์อาวุธครบครันกว่า และปลอดภัยกว่าห้องเขาอยู่มากเลยทีเดียว
“อื้อหืออ โดนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย” ทันทีที่วางทั้งสองร่างลงบนเตียงแล้วเหลือบไปเห็นร่างที่เพื่อนแบกมาก็อดที่จะเบ้ปากไม่ได้
“โง่”
“นายพูดว่าอะไรนะมาร์ค” หันไปถามอีกคนที่จ้องหน้าร่างที่แบกมานิ่ง แถมยังพึมพำๆอะไรคนเดียว
“ไปเอากล่องพยาบาลมา มีดผ่าตัดด้วย ฉันจัดการนายนี่เอง ส่วนนายดูเด็ก” สั่งเพื่อนเสียงเรียบ ทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาออกมา
มือหนาค่อยๆเลิกเสื้อยืดที่ชุ่มไปด้วยเลือดของอีกคนขึ้น แผลรอยถากกระสุนก็ปรากฏแก่สายตา ตาคมเหลือไปเห็นกรรไกรที่โต๊ะตัวเตี้ยที่ข้างเตียงพอดีจึงหยิบมาตัดเสื้อออก พอดีกับที่เพื่อนร่างผอมเข้ามาพอดี
“เล่ามาซิสองคนนี้เป็นใคร” เปิดประเด็นท่ามกลางความเงียบ ขณะที่มือยังเช็ดทำความสะอาดแผลที่แขนข้างซ้ายของเด็กน้อยไปด้วย “นี่ลูกติดรึไง แล้วนายนั้นอย่าบอกนะว่าแฟน”
“ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก” ตอบกลับไปเสียงเรียบ เข็มฉีดยาหลอดใหญ่ถูกสอดไปบริเวณต้นขาที่มีแผลกระสุนเจาะอย่างเบามือ แต่ร่างของอีกคนก็กระตุกเป็นระยะๆราวกับรับรู้ถึงความเจ็บปวดทั้งๆที่หมดสติ
“ฉันจำเป็นต้องรู้ประวัติคนที่เข้ามาอาศัยทุกคน ฉันไม่ไว้ใจ” บอกเสียงแข็งพร้อมกับจ้องอีกคนเขม่ง แต่ร่างสูงก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่ามันเหมือนแมวขู่ฟ่อๆมากกว่าน่ากลัวซะอีก มือหนายังคงตั้งใจผ่าตัดเอากระสุนออกอย่างใจเย็น ไม่พูดตอบอะไรจนอีกคนถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างไม่สบอารมณ์แล้วหันไปทำแผลต่อ
“นายไว้ใจฉันแค่ไหน ก็ขอให้ไว้ใจสองคนนี้เท่าฉัน” มือหนายกมือขึ้นมาปาดเหงื่อตามแนวขมับ เมื่อผ่ากระสุนออกสำเร็จ
มันเจาะไปลึกพอสมควร คาดว่าตื่นมาคงระบมแผลมากแน่สำหรับคนที่ไม่เคยโดนน่ะนะ
“แล้วจะให้สืบมั๊ยว่าใครทำ”
“ไม่ต้อง ยิงเป็นจังหวะและใจเย็นขนาดนี้มีคนเดียว”
“อย่าบอกนะว่า……..”
“อืม หมอนั้นแหละ”
“โอยย เรื่องเยอะจริงๆเลย เมื่อไรงานนี้จะจบวะ” มาร์คไม่ได้พูดตอบอะไรเพียงแค่ยักไหล่ให้
เมื่อสำรวจแผลทุกส่วนบนร่างกายของอีกคนดีแล้วว่าไม่มีส่วนไหนที่ยังไม่ทำจึงเก็บอุปกรณ์ส่งให้อีกคนที่รับมันมาอย่างเซ็งๆ
ร่างสูงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของเจ้าของห้องอย่างถือวิสาสะ หยิบเสื้อตัวใหญ่พร้องกางเกง และเสื้อตัวเล็กมาอย่างละตัวแล้วนำมาใส่ให้ร่างไร้สติทั้งสองอย่างเบามือ
“เอ้ยๆๆ ไปนอนบนเตียงเบียดคนเจ็บได้ไงเล่า ลงมานอนพื้นเลยมาร์ค” คนตัวผอมรีบเข้าไปดึงคอเสื้อเพื่อนตัวสูงให้ลุกขึ้นมาเมื่อเห็นอีกคนกำลังจะล้มตัวนอน “น้ำก็ไม่อาบ”
“อยากตายมากใช่มั๊ยมาดึงคอเสื้อฉัน!” บอกเสียงดุ ตาคมจ้องอีกคนเขม่ง จินยองจึงยอมปล่อยมือแล้วถอยทัพแต่โดยดี
“เออๆขอโทษ อยากทำไรก็ทำ มีไรก็เรียกแล้วกัน”
“อืม” ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง พยายามนอนลงให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้ไปรบกวนร่างที่บาดเจ็บ
“อื้อออออ หืออ ฮืออ” แรงขยับจากคนข้างๆพร้อมกับเสียงที่ครางต่ำในลำคอปลุกให้คนตื่นง่ายต้องลุกขึ้นมาดู
เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามไรผมคนที่ยังคงไม่ได้สติจนเปียกชุ่ม มาร์คจึงใช้หลังมือปาดมันออกให้เบาๆ ก่อนจะตบแก้มเพื่อเรียกสติ
“เป็นอะไร” ถามขึ้นเมื่ออีกคนยอมลืมตา
“เจ็บ ฮึก” บอกเสียงแผ่วเบาซะจนแทบไม่ได้ยิน
“ทนหน่อยเดี๋ยวก็หาย หลับซะ”
“ฮึก หลับไม่ได้แล้ว เจ็บ”
“จะหลับดีๆหรือจะให้ฉีดยาสลบ” พอพูดถึงเข็มฉีดยาแจ็คสันก็ส่ายหน้าทันที แค่นี้ก็ระบมจะแย่อยู่แล้ว “งั้นก็หลับซะ”
“ค คุณ…” เรียกอีกคนหลังจากเงียบไปนาน
“หืมม” ร่าสูงที่กำลังเข้าสู่นิทราอีกครั้งครางตอบในลำคอทั้งๆที่หลับตาอยู่
“ขอจับมือได้มั๊ย ฮึก” มาร์คไม่ตอบอะไร เพียงแต่เอื้อมมือไปจับมืออีกคนเป็นคำตอบเท่านั้น
“ขอบคุณครับ”
ความคิดเห็น