ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] Your life ไม่อยากได้ฉันขอนะ {MarkJack Markson}

    ลำดับตอนที่ #2 : Your life ไม่อยากได้ฉันขอนะ :: Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 57


    MINOR

    Chapter 1




    ไม่รู้ว่าสมองของผมมันเออเร่อนานแค่ไหนหลังจากที่ผู้ชายคนนั้นมาขอชีวิตของผม และไม่รู้ว่าผมยอมเดินตามมือที่ชักจูงผมมาทำไม

     

     

    ..รู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่หน้าห้องๆหนึ่งแล้ว

     

     

    “ด เดี๋ยวสิ ..คุณพาผมมาที่นี่ทำไม” เมื่อตั้งสติได้ผมก็รั้งแขนที่กำลังจะไขประตูห้องไว้ เขาหันมาเหลือบตามองเล็กน้อย แสดงว่าเขาได้ยินในสิ่งที่ผมพูด แต่เขากลับไม่ยอมตอบอะไรผม  มือหนาบิดประตูเข้าไปเงียบๆ  ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟอย่างชำนาญทำให้ผมเห็นสภาพในห้องเต็มตา

     

    ทุกอย่างเป็นโทนสีดำ ไฟในห้องก็เป็นเพียงแค่ไปสลัวๆ ดูน่ากลัวจนผมไม่กล้าเดินเข้าไป ส่วนเขาที่เห็นว่าผมไม่ยอมเดินตามเข้าไปจึงเดินกลับออกมาอีกครั้งและกระชากคอเสื้อผมให้ตามไป

     

    ผมว่าผมตัวใหญ่กว่าเขานะ ใหญ่กว่าพอสมควรเลยล่ะ แค่เตี้ยกว่าเท่านั้น ส่วนเขาเป็นคนผอมสูง แต่ทำไมแรงที่เขาลากผมไปไหนต่อไหนกลับมีมากมายเหลือเกินราวกับผมตัวเบาหวิวสำหรับเขาอย่างงั้นแหละ

     

     

    “ไม่คิดจะตอบผมหน่อยหรอว่าพาผมมาทำไม” ผมถามย้ำเขาอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้สีหน้าของเขาเปลี่ยนจากนิ่งเฉยเป็นรำคาญแทน  แววตาที่เคยสงบนิ่งกลับแข็งกร้าวขึ้นมาจนผมตกใจ เผลอถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่ติดที่มีมือของเขารั้งคอเสื้อไว้อยู่

     

    ……………..” เขาจ้องหน้าผมสักพักก่อนจะยอมปล่อยมือออก

     

    “เอ่ออ ถ ถ้าไม่มีไรแล้วผม ข ขอตัวนะ” บอกเขาเสียงสั่น แต่ยังไม่ทันจะหันหลังเขาก็ยกมือขึ้นมาดึงเสื้อผมไว้อีกครั้ง

     

    “จะไปไหน”

     

    “ไปไหนก็ได้เรื่องของผม” ไม่ได้กวนตีนนะ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบเขายังไงเหมือนกัน

     

    “คำนี้นายไม่มีสิทธิ์พูด”

     

    “ทำไมผมจะไม่มีสิทธิ์”

     

    “เพราะฉันคือเจ้าชีวิตของนาย”

     

    …..!!!!!!!!..

     

    “นับตั้งแต่บนดาดฟ้านั้น ทุกอย่างในตัวของนายก็เป็นของฉันหมดแล้ว” เขาบอกเสียงเรียบ

     

     

    ตลกเหอะ!

     

     

    “คุณจะบ้าไปแล้วหรอ มาขอชีวิตอะไรนั้นอ่ะนะ บ้าไปแล้ว” อยากจะขำแต่ขำไม่ออก เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกันเนี่ย เทพเจ้าในการ์ตูนหรอ เหอะ!

     

    “ในเมื่อนายไม่อยากได้ชีวิตของตัวเองฉันก็ขอไง เพราะฉันอยากได้”

     

    “คุณมันโรคจิต”

     

    ………………………. เขาไม่ว่าหรือตอบอะไรผม แต่กลับเดินไปที่ห้องเชื่อมหนึ่งแทน คาดว่าน่าจะเป็นห้องนอนเพราะผมเห็นของเตียงโผล่พ้นออกมาในสายตา และนี่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีในการที่ผมจะหนีออกไปจากที่นี่

     

    แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าเท้าออกไปเขาก็เดินกลับมาแล้ว มาพร้อมกับใครบางคนในอ้อมกอด ใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังหลับใหลซบอยู่บนหน้าอกแกร่งของเขามันดูน่าเอ็นดูจนผมอมยิ้มให้กับภาพตรงหน้าเล็กน้อย

     

    “เขาชื่อแบมแบม” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเบาๆเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนต่อเทวดาตัวน้อยในอ้อมกอด

     

    “น่ารักนะครับ น้องคุณหรอ” ผมถามเขาไป

     

    “ฉันเก็บมาได้”

     

     

    เพียงแค่ได้ยินคำว่าเก็บมาทำเอาหัวใจของผมกระตุกวูบ  มันเป็นการบ่งบอกว่าไม่มีใครต้องการ.. เด็กคนนี้เหมือนกับผม

     

    “จนกว่าเขาจะโตนายช่วยดูแลเขาได้มั๊ย”

     

    …………………

     

    ..แล้วหลังจากนั้นอยากไปตายที่ไหนก็ไป”

     

    “ผมเลี้ยงเด็กไม่เป็น ทำไมคุณไม่จ้างคนอื่นมาดู” ผมถามเขาอีกครั้งด้วยความสงสัย  อยู่กับเขาดูเหมือนอะไรๆก็ทำให้ผมอยากรู้อยากเห็นไปหมด

     

    “อย่ารู้เลย”

     

    “งั้นผมไม่” ยังไม่ทันจะได้ปฏิเสธเขาก็พูดแทรกขึ้นมา

     

    “นายไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ  ชีวิตที่มีนายเป็นเจ้าของมันตกตึกไปแล้ว  ส่วนชีวิตนายที่อยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้มันคือของฉัน”

     

    ……………………..” สิ่งที่เขาพูดมันทำให้ผมอึ้ง ถ้าย้อนกลับไปได้ผมคงจะไม่เลือกออกมาโดดตึกนั้นจนได้มาเจอกับเขาหรอก

     

    “ดูแลเขาด้วย ห้ามออกจากห้อง ห้ามเปิดประตูให้คนแปลกหน้า ใครเคาะก็ไม่ต้องสนเพราะฉันมีกุญแจ ถ้าหิวก็มีของในตู้เย็น” เขาสั่งเสียก่อนจะส่งตัวเด็กน้อยมาให้ผมที่รับไว้อย่างเก้ๆกังๆ  ปลายจมูกโด่งรั้นของเขาประทับลงบนแก้มยุ้ยอย่างรักใคร่

     

    ขายาวก้าวออกจากห้องไปอย่างไม่รีบร้อนโดยไม่หันหลังกลับมามองอีก  เหลือไว้เพียงแค่ผมกับเด็กน้อยสองคน .. จริงๆถ้าผมหนีไปตอนนี้ก็ยังทัน  แต่พอเหลือบมองเด็กน้อยแล้วก็ทิ้งไม่ลง แต่ถ้าจะให้หนีไปทั้งคู่ก็คงจะไม่ได้ เพราะผมมีพันธะเยอะ

     

    สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องนอนของเขาแทน  ผมค่อยๆวางเด็กตัวน้อยลงอย่างเบามือเพราะกลัวเขาจะตื่น  ก่อนจะล้มตัวนอนลงข้างๆ

     

    “เฮ้ออ แจ็คสัน”

     

    “เกิดมาจากความผิดพลาดของป๊ากับม๊าแทนที่จะได้ตายตั้งแต่ยังเป็นแค่ก้อนเลือด”

     

    “อากงกับอาม่าดันขอชีวิตไว้ซะงั้น”

     

    “พอไม่เหลือใคร อยากจะฆ่าตัวตายเขาดันมารั้งไว้อีก”

     

    “คุณนรกกับคุณสวรรค์ไม่ต้องการผมเลยหรอ”

     

    ได้แต่บ่นน้อยใจในโชคชะตา ชาติที่แล้วผมไปทำอะไรไว้นักหนาทำไมชาตินี้ถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย

     

    “บ้านไม่มี เพื่อนไม่มี ญาติไม่มี ผมรันทดจริงๆเลยเนอะแบมแบมเนอะ” ไม่รู้จะไปพูดกับใครเลยหันไปคุยกับเด็กน้อยซึ่งหลับปุ๋ยอยู่แทน ผมใช้นิ้วเขี่ยเล่นแก้มยุ้ยนั้นเบาๆ เขี่ยเล่นจนเพลินมือและเผลอหลับไปในที่สุด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



     

     

    จิ้มๆ

     

    “ตื่อ หนูแบหิว”

     

    ………………

     

    จิ้มๆ

     

    “ตื่อซี่ หนูแบหิวมากตื่อ ตื่อเร็วดี้” มือป้อมๆของเด็กชายตัวน้อยจิ้มไปบนตัวของชายแปลกหน้าที่นอนอยู่ข้างๆ  ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเขย่าตัวแทน

     

    “มาร์คยุหนายย หนูแบหิวนม มาร์ค!! โหยหิวจะแย่ หนูแบหิว” เริ่มเรียกร้องหาใครอีกคนที่คุ้นเคยดีแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับ จึงลงไปชักดิ้นชักงอบนเตียง เท้าเล็กพยายามถีบคนแปลกหน้าไปมาอย่างไม่เกรงกลัว

     

    “หืมม..

     

    “ตื่อเร็วหนูแบหิวนม”

     

    “อารายยย”

     

    “นี่แหนๆๆ  หนูแบหิวแล้ว ตื่อซี้”  เด็กน้อยเปลี่ยนมาเป็นท่านั่งแทนแล้วรัวมือใส่คนตัวโตกว่าอย่างบ้าคลั่ง จนอีกคนเบิกตาโพล่งขึ้นมามองอย่างดุๆ จนเด็กน้อยผงะหงายหลังด้วยความตกใจ

     

    “ตีทำไม” ถามเสียงเข้ม จนเด็กน้อยหงอลง

     

    “ก็หนูแบหิว” บอกเสียงอ่อย “อย่าทำหน้าดุซี่ หนูแบกลัว”

     

    “เฮ้ออ ขอโทษ.. จะกินอะไรล่ะ แต่ผมทำอาหารไม่เป็นนะ”

     

    “หนูแบหิวนม โชนมให้หนูแบที”

     

    “ห๊ะ! โชว์นม? ผมเป็นผู้ชายไม่มีนมให้โชว์หรอก  ถึงโชว์ไปก็ไม่อิ่ม”

     

    “ม่ายช่ายย โชนมตรงนั้นต่างหาก หนูแบเห็นมาร์คเอาโผๆอันนั้นใส่ขั่ว” มือเล็กชี้ไปทางโต๊ะตัวเล็กข้างๆตู้เสื้อผ้าที่อยู่ถัดจากเตียงไปเล็กน้อยซึ่งมีกระติกน้ำร้อนกับนมผงวางไว้อยู่  ผมจึงเดินไปดู

     

     

    คงได้แต่ดูแหละ ทำไม่เป็น

     

     

    “ทำไงอ่ะผมไม่เคยทำ” ผมหันไปถามเจ้าหนูแบ หรือแบมแบมที่นั่งใช้ความคิดอยู่ข้างผม

     

    “เคอเห็นมาร์คเอาอันนี้ใส่ขั่ว ใส่เยอะๆเลย  แล้วเขย่า” มือป้อมชี้ไปที่กล่องนมผง

     

    เอาวะลองดูไม่เสียหาย

     

    ผมหยิบขวดนมเปล่าขึ้นมาก่อนจะตักนมผงใส่ขวดตามที่น้องบอก  แต่ไอที่บอกใส่เยอะๆนี่ไม่รู้ว่าต้องเยอะแค่ไหนนะ ผมใส่ไปเกือบเต็มขวดอ่ะ จากนั้นก็ปิดฝาเขย่า

     

     

    เขย่าแล้วได้อะไรล่ะเนี่ย มันก็เป็นผงแบบเดิม = =

     

     

    “นายทำอะไรน่ะ” เสียงของบุคคลที่สามดังขึ้นท่ามกลางความเงียบทำให้ผมสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจจนเกือบทำขวดนมหลุดออกจากมือ

     

    “ก  ก  ก็ ก็ ช ชงนมไง”

     

    “บ้านไหนเขาสอนให้ชงนมแบบนี้” เสียงทุ้มบอกอย่างดุๆก่อนจะแย้งขวดนมในมือผมไปเทผงนมกลับคือในถุงจนหมดขวด  ก่อนจะใช้ช้อนตักขึ้นมาใส่ใหม่

     

     

    “ตักแค่ 6 ช้อน” เขาอธิบายสั้นๆ แล้วหันไปเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อน  รอสักพักจนมันเดือดจึงเอาขวดไปกดน้ำใส่

     

    “ใส่ถึงเลข 6 พอแล้วเขย่า” เขาทำท่าเขย่านมให้ดู จากนั้นก็ส่งไปให้เด็กน้อยที่รอรับด้วยรอยยิ้มที่สดใส

     

    “ขอบคุณครับ” เมื่อได้นมสมใจอยากก็ปีขึ้นไปนั่งดูดตาแป๋วบนเตียงแทน

     

    “คุณเก่งสุดยอดเลย” ผมเอ่ยชม

     

    “ใครจะโง่เหมือนนายล่ะ ถ้าฉันกลับไม่ทันแบมแบมคงได้กินแต่ผงนม”

     

    “โหยย ก็คนมันทำไม่เป็นนี่หว่า” บ่นพึมพำออกมาเบาๆ

     

    “อย่าทำท่าทางแบบนั้น มันไม่เหมาะกับคนหน้าเถื่อนอย่างนาย”

     

    “ทำอย่างกะท่าทางๆโหดๆเหมาะกับหน้าของคุณอย่างนั้นแหละ” ยอกย้อนกลับไป ผลที่ได้คือคนหน้าดุหันมาเผชิญหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วจิกผมอย่างแรงแทบหงาย  แรงมหาศาลที่ไม่ได้บ่งบอกถึงการหยอกล้อทำให้ผมน้ำตาซึมออกมาด้วยความเจ็บ

     

    “อย่าพูดให้มันมากนักนะ” พูดจบเขาก็เหวี่ยงผมออกอย่างแรงแทบจะล้มลงไป แต่ดีที่ตั้งหลักทัน ผมปาดน้ำตาที่ซึมออกอย่างลวกๆ แล้วพยายามคลึงหัวตัวเองเพื่อลดความเจ็บ

     

     

    ..เขาใจร้ายเกินไปแล้ว

     

     

    “เจ็บป่าวนาย..” เด็กน้อยหันมาถาม

     

    ….เจ็บ”

     

    “สมน้ำหน้า แบร่ หนูแบไปหามาร์คดีกว่า” ว่าแล้วเจ้าตัวเล็กก็วิ่งออกไปทางที่คนใจร้ายเพิ่งไป ทิ้งไว้แค่ผมคนเดียว

     

     

    “เหอะ! ถ้าปล่อยให้ตายๆไปแต่แรกก็ขบแล้ว ฉันควรจะหมดลมหายใจไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว  ทำไม่ต้องมานั่งบื้อให้คนใจร้ายนั้นจิกด้วย”

     

     

    ..ตายไปตั้งแต่แรกก็จบ จบจริงๆ

     

    ขณะที่ผมกำลังนั่งน้อยใจในโชคชะตาเหมือนทุกครั้งอยู่นั้นก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่มันวาววับอยู่ข้างๆซอกตู้  ไม่รอช้าผมรีบไปดูทันที และคงต้องขอบคุณคนใจร้ายนั้นที่วางของแบบนี้ไว้

     
     

    จบสักทีนะโลกใบนี้

     
     

    ผมยกมืดด้ามสวยขึ้นมามองดูเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆกดมันลงไปกับข้อมือ  ความเจ็บแปลบที่ได้รับทำให้ผมยิ้มออกมา จะว่าโรคจิตก็ได้ แต่ผมอยากตายจริงๆ  เลือดสีแดงที่ทะลักออกมาไม่หยุดทำให้ผมมือสั่นจนต้องปล่อยมืดออกจากมือ  ฟันบนขบริมฝีปากล่างเพื่อระบายความเจ็บ

     

     

    ทนอีกนิดนะแจ็คสัน นายจะสบายแล้ว

     

     

    สายตาเริ่มพล่าเลือนจนมองอะไรไม่ชัด เลือดสีแดงสดยังคงไหลไหลทะลักออกมาไม่สิ้นสุด นี่คงเป็นการตายที่มีความสุขที่สุดในโลกล่ะมั้ง ตายทั้งที่ยังยิ้ม  ลมหายใจแผ่วเบาลงเรื่อยๆ แผ่วไปพร้อมกับหัวใจ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดลง

     

     

    ดับไปพร้อมกับคนชื่อ แจ็คสัน หวัง.

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×