ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] Your life ไม่อยากได้ฉันขอนะ {MarkJack Markson}

    ลำดับตอนที่ #10 : Your life ไม่อยากได้ฉันขอนะ :: Chapter 9

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ค. 57


    MINOR

    Chapter 9








     

    ใบสั่ง SNP03’

     

    เอาตัวมาเด็กพิเศษคนนั้น

     

     

     

     

    “อีกไม่นานแบมแบมก็เปิดเทอมแล้ว” ขณะที่ผมกำลังนั่งเล่นอยู่กับแบมแบมในห้องเขาก็เดินเข้ามาบอกนิ่งๆ  ส่วนเรื่องแผลของผมมันหายไปได้สักพักแล้วล่ะ

     

    “โหยย หนูแบไม่อยากไปเลยมาร์ค” เด็กน้อยโอดครวญ  พรางเลื้อยตัวมานอนบนตักผม นับวันดูเหมือนแบมแบมจะยิ่งติดผมขึ้นเรื่อยๆนะ

     

    “แล้วนายจะเรียนต่อมั๊ย” เขาเปลี่ยนเป้าหมายมาถามผมแทน

     

    “คงไม่แล้วล่ะ”

     

    “ปฏิเสธไม่ทันแล้ว ฉันเตรียมให้แล้ว”

     

    “เอ้ยยย ย ! ได้ไง ผมยังไม่ตกลงเลย”

     

    “เรียนไปเหอะ อยู่อย่างนี้มันยิ่งทำให้นายโง่ขึ้นทุกวัน”

     

    “นี่คุณ!

     

    “เอาเป็นว่าตามนั้น” พูดจบเขาก็ไป

     

    “คุณเดี๋ยว! คุณ! ให้ตายเหอะ เผด็จการที่สุด”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     







     

    สุดท้ายก็มาจนได้สิ่งที่เรียกว่า มหาวิทยาลัย เหอะๆ หลงเป็นชั่วโมงกว่าจะเจอเล่นเอาเหงื่อตกเลยทีเดียว เขาก็ไม่มาส่งด้วยนะ มหาลัยก็ใหญ่อย่างกะโลกทั้งใบจะเจอตึกที่เรียนมั๊ยเนี่ย  ตอนมาก็บอกแค่เข้ามาก็เจอ

     

     

    เจอไร ??? มีหมานั่งเกาคางตัวเองอยู่หนึ่งตัวน่ะ

     

     

    “อย่าบอกนะว่าตึกนี้” เดินเข้ามาไม่กี่ก้าวก็มีตึกเรียนอยู่ทางซ้ายมือตึกแรก คงจะใช่มั้งนะ

     

     

    ผมเดินเข้าไปในตัวตึกอย่างกล้าๆกลัวๆ รอบข้างก็มีแต่คนหน้าตาออกแนวเถื่อนๆนั่งสูบบุหรี่เหม็นฉุนไปทั่วทั้งตึก ขณะที่ก้าวขาไปก็รับรู้ได้ถึงสายตาแปลกที่มองมาทำเอาผมไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองทาง

     


     

    ที่นี่น่ากลัวเป็นบ้า


     

     
     

    “เห้!! นายอ่ะ” ใครคนหนึ่งรูปร่างสูงผอมผมสีบรอนด์เรียกผมไว้ก่อนที่ร่างขอแงเขาจะมาขวางทางเดินไว้  ผมเหลือบมองหน้าเขาเล็กน้อยและพยายามเบี่ยงตัวหลบเพื่อเดินทางอื่นแทน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ปล่อยผมไปง่ายๆ

     

    “ม มีอะไรกับผม”

     

    “ทักแค่นี้ทำหยิ่งหรอ เด็กใหม่ป้ะมึง ไม่เคยเห็นหน้าว่ะ”  มันเชยคางผมขึ้นมามองหน้าให้ชัดๆก่อนจะสะบัดมือออก “ติ๋มว่ะ”

     

    “รับน้องหน่อยมั๊ย ติ๋มๆงี้หนุกดี เห้ยมึง!” จบคำพูดมันพวกที่เหลือก็พากันกรูเข้ามาจนผมตกใจ ส่วนกลุ่มอื่นที่นั่งอยู่แถวนั้นก็ไม่คิดจะมาห้ามแต่อย่างใด ปล่อยให้ผมโดนรุมอยู่อย่างนั้น

     

     

    แต่ใครจะยอมละ สัญชาตญาณผมก็บอกให้สู้แหละ ถึงแม้จะเสียเปรียบก็เหอะ

     

     

    “อ๊ะ!  อึกก...” ขณะที่ผมสอดสายตาหันไปเจอไม้ท่อนหนึ่งพอดี ไม่ทันได้ระวังจึงโดนใครคนหนึ่งกระชากหัวจนหงายหลังไปกองกับพื้นจากนั้นก็โดนเตะอัดท้องไปทีหนึ่ง

     

    “หยุดนะมึง !” เสียงใครคนหนึ่งร้องห้ามช่วยชีวิตผมไว้ แต่ไม่ทันเท้าของไอหัวสีบรอนด์คนเดิมที่มันเตะลงที่สีข้างผมอย่างแรงจนกลิ้งไปแทบเท้าของคนที่มาช่วยผมไว้

     

    แผลเก่าเพิ่งหาย ได้แผลใหม่อีกแล้ว

     

    “ยุ่งไรด้วยวะไอหน้าจืด”

     

    “ก็ไม่อยากยุ่งถ้ามึงไม่มาทะเลาะกันขวางทางเดิน”

     

     
     

    ฟึ้บบ บ

     
     

    ก้อนหินก้อนหนึ่งถูกเขวี้ยงมาทางคนที่ช่วยชีวิตผมไว้ โดยหนึ่งในคนที่รุมกระทืบผมจนผมตกใจถึงกับยกมือขึ้นมาปิดหน้า  แต่คนที่ถูกเล็งเป็นเป้าหมายกลับยืนเฉยๆไม่ยอมหลบ

     

    “อ่อน  ปาไม่เคยจะโดน เบื่อเสวนา” เขายื่นมือมาตรงหน้าผม ซึ่งผมไม่ลังเลเลยที่จะจับมันและลูกขึ้นมา

     

    “ไปกันเถอะนาย”  เขาดึงเสื้อผมให้ตามไป จ้ำเอาๆจนผมตามแทนไม่ทัน

     

    “ไอเอ๋อ ฝากไว้ก่อนเหอะ!

     

     

     

     

     

     

     









     

     

     

    คนตัวเล็กที่ช่วยผมไว้ลากผมมาถึงห้องพยาบาลที่ไม่มีใครอยู่  เขาจัดการหาอุปกรณ์ทำแผลอย่างชำนาญ  ก่อนจะวางลงตรงหน้าผม

     

    “จัดการเองแล้วกันที่นี่ไม่มีครูพยาบาล”

     

    “ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยขอบคุณเบาๆก่อนจะลงมือทำแผลให้ตัวเองอย่างทุลักทุเล

     

    “อ๊าา า แสบ ซื้ดดดด โอ้ยย แสบๆๆ” อื้อหืออ แสบน้ำตาเล็ด ทำไมตอนไอโหดทำถึงไม่เจ็บเท่านี้เนี่ย

     

    “มานี่ เห็นแล้วรำคาญลูกตา” คนที่ยืนมองอยู่นานแล้วเดินเข้ามาแย่งอุปกรณ์ทุกอย่างไว้กับตัว แล้วลงมือทำซะเองเลย  ...มือเบากว่าตอนที่ตัวเองทำเยอะเลย

     

    “ขอบคุณอีกครั้งนะ”

     

    “อือ คราวหลังทำไมเป็นก็บอก”

     

    “ฮะ”

     

    “......................”

     

    “ว่าแต่คุณชื่ออะไรหรอ” ผมถามเพื่อทำลายความเงียบขณะที่เขากำลังเก็บอุปกรณ์

     

    “ยองแจ  แล้วนาย..”

     

    “แจ็คสันครับ”

     

    “อืออ”

     

    หลังจากบทสนทนานั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรกันอีกเลย  ยองแจพยุงผมมาเข้าห้องเรียนเสร็จ เขาก็หยิบแว่นหนาเตอะขึ้นมาใส่  พร้อมตั้งใจฟังอาจารย์ที่กำลังบรรยายอยู่ในห้อง ในมือก็จดเลกเชอร์ไปเรื่อยๆ

     
     

    บรรยากาศในห้องก็วังเวงชอบกลเพราะที่นั่งเรียนก็มีอยู่สองคนเนี่ยแหละ กับอาจารย์อีกหนึ่ง  

     
     

    “คุณชเว วันนี้มีไวรัสตัวใหม่มาให้ทดลอง เชิญด้วย วันนี้พอแค่นี้” เสียงแหบแห้งของอาจารย์วัยกลางคนบอกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะออกจากห้องไปเหลือพวกผมไว้สองคน

     

    “ยอกแจรอด้วย!” ผมตะโกนเรียกเมื่ออยู่ๆคนตัวเล็กรีบลุกพรวดพราดออกมามา แต่เขากลับห้ามไว้ก่อน

     

    “ไม่ต้องตามมา ฉันจะไปทำในสิ่งที่คนโง่อย่างนายไม่รู้เรื่อง”

     

     

    ห   ห๊ะ!!! เพิ่งจะเจอกันเขาด่าผมว่าโง่

     

     

    เหมือนไอโหดนั้นไม่มีผิดเลย เหอะ

     

     

     

     










     

     

     

    ผมค่อยๆเดินเอื่อยๆออกมาจากตัวมหาลัยอย่างไม่รีบร้อน  อะไรมันจะหน้าเบื่องอย่างนี้

     

     

    ... แต่เหมือนผมจะคิดอะไรออกนะ

     
     

    ... หนี .. ใช่หนี หนีจากไอโหด

     

     
     

    คิดได้ดังนั้นผมจึงกับเข้าไปในคณะอีกครั้งแล้วต้องตามหาตัวยองแจให้พบ

     

     
     

    “ย  ยองแจ ” กว่าจะเจอเล่นเอาหอบเหมือนกัน

     

    “ตามมาทำไม”  ถามทั้งๆที่สายตายังไม่ละไปจากหน้าจอโน้ตบุ๊คส์

     

    “วันนี้ผมขออยู่บ้านคุณได้มั๊ย”

     

    “ไม่” แทบจะทันทีที่เขาปฏิเสธออกมา เล่นเอาผมใจแป้วเลย

     

    “นะๆ นะครับ”

     

    “ไม่” เสียงดังฟังชัดยืนยันคำเดิมทำให้ผมถอดใจ  จะกลับไปหรือหาที่อยู่อื่นดี นี่ผมมีโอกาสได้หนีแล้วนะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     








     

     

    เหมือนเดิม สุดท้ายก็ต้องมายืนอยู่หน้าซอกตึกลึกลับนี่ ผมคงมีดวงต้องอยู่กับเขาจริงๆล่ะมั้งเนี่ย เฮ้อออ

     

    “เข้า...... ไม่เข้า..... เข้า....... ไม่เข้า....... หนี....... ไม่หนี...... เข้า..... ไม่ข..”

     

     

    แกร๊ก!

     

     

    “ข เข้า.. -0-” เอ๋อรับประทานสิครับที่เจ้าของเรือนผมสีแดงเปิดประตูออกมาสบตากับผมพอดี

     

    “ยืนทำบ้าอะไร  เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก”  เขากระชากคอเสื้อผมเข้าไปโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ผมเซไปชนเขาเต็มๆ

     

    “บอกดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องกระชาก ยิ่งเจ็บตัวอยู่”

     

    “....................” เขามองหน้าผมนิ่งไม่พูดอะไร ก่อนที่นิ้วสากจะจิ้มลงมาที่แผลมุมปากของผม

     

    “โอ้ยย ย เจ็บนะคุณ ซี้ดดดด”

     

    “หึ! โง่”  เอ้าา า โดนด่าว่าโง่อีกและ

     

    “มหาลัยบ้าอะไรก็ไม่รู้เข้าไปก็โดนเลย” ผมพึมพำเบาๆขณะที่เดินตามเขาเข้าไปในห้อง

     

    “เดี๋ยวก็ชิน”

     

    “นี่ถ้าไม่ได้ยองแจช่วยนะเละแน่  คุณให้ผมออกเหอะผมยอมโง่ ระบบซอฟต์แวร์อะไรก็ไม่รู้”

     

    “อย่าบ่นให้มาก รำคาญ”

     

    “หุยย อะไรก็ไม่รู้ทำไมไม่เรียนเองเลยวะ”

     

     

    ปึ้กก ก!

     

     

    หมอนใบโตถูกเขวี้ยงมาโดนกลางหัวผมอย่างจัง

     

    “พูดมาก”

     

    “เจ็บนะคุณ!

     

    “ออกไปกินข้าวได้แล้ว และหยุดบ่นสักทีแบมแบมนอนอยู่” ผมหันขวับไปบนเตียงทันทีที่เขาพูดจบ  จริงอย่างที่เขาบอก เด็กน้อยกำลังหลับพริ้มอยู่บนเตียงทั้งชุดนักเรียนซึ่งผมไม่ทันได้สังเกตตอนเข้ามา

     

    “แล้วคุณไม่กินหรอ”

     

    “.......................”  เขาไม่ตอบเพียงแต่เดินไปที่โต๊ะอาหารเท่านั้นแล้วลงมือกินข้าวต่อ เหมือนเพิ่งกินค้างไว้

     

     

    “เห้ยไอมาร์ค! นั่นข้าวหนูเนียร์กู  กูอุตส่าห์ตัก มึงไปตักใหม่เลย” คนที่เข้ามาใหม่โวยวายลั่นเมื่อเห็นเพื่อนของตัวเองนั่งกินข้าวที่ตนอุตส่าห์ตักให้แฟนสบายใจเฉิบ

     

    “ไปตักใหม่สิ”

     

    “เออ! เชิญมึงสองผัวเมียกินกันตามสบายเลยครับ กินทีหลังก็ได้”

     

    “ขอบใจ”

     

    “หน้าด้านมากมึง” ด่าออกไปแต่ดูเหมือนไอคนผมแดงจะไม่สะทกสะท้านสักนิด เจบีจึงเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงกลับห้องเหมือนเดิม

     

    “นั่งดิ่ยืนเอ๋อทำไม”

     

    “ครับ” ผมนั่งลงตังข้ามกับเขาก่อนจะยกช้อนซึ่งขาดว่าน่าจะเป็นจานของเจบีที่ตักไว้

     

    “ได้ข่าวคณะนี้คนจะเข้าไปเล่นไวรัสได้มันยากมาก”

     

    “ห๊ะ?”

     

    “ทำไงก็ได้ให้ได้เข้าไปในส่วนนั้น”

     

    “ผมงง”

     

    “อย่าโง่ ฉันส่งนายไปเรียนนายต้องทำให้ดีที่สุด”

     

    “..................”

     

    “เข้าใจนะ”

     

    ถ้าตอบว่าไม่เข้าใจจะถูกตบฟันร่วงมั๊ย

     

     

    “แล้วข้าวเมื่อไรจะกินได้” นั่งกินกันไปได้สักพักเขาก็ทักขึ้นมา

     

    “ก็เป็นแผลมันเจ็บตอนโดนช้อน”

     

    “เอามานี่!” เขาแย้งช้อนออกไปจากมือผม ก่อนจะตักข้าวคำโตแล้วยัดเข้ามาในปาก!  

     

    “โอ้ยยยยยยย ยย ย เจ็บฮึก เจ็บ”  น้ำตาเล็ดเลยไอบ้า ยัดมาได้

     

    “อย่าสำออย รีบๆกินเดี๋ยวพาไปข้างนอก”

     

    “ไปไหน ไปทำไม”

     

    “เดี๋ยวก็รู้”

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

    “แล้วก็ไม่ต้องคิดหนีอีกล่ะ ไม่สำเร็จหรอก”

     
     

    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!                                          


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×