คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Your life ไม่อยากได้ฉันขอนะ :: Chapter 4
Chapter 4
แกร๊ก!
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู อันที่จริงผมก็ไม่ใช่คนที่ตื่นง่ายหรอกแต่ว่าผมเพิ่งข่มตาหลับได้เมื่อกี๊นี้เอง ผมพยายามเพ่งสายตามองสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แต่เพราะความมืดมันทำให้ผมมองไม่ค่อยเห็นเท่าไร
“ใครอ่ะ...” ตัดสินใจถามออกไปเผื่อเป็นโจรขึ้นมาทำไม
“ทำไมยังไม่นอน” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดีทำให้ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“คิดว่าโจรซะอีก”
“ฉันไม่โง่ให้ไอพวกกระจอกเข้ามาหรอก” คำพูดของเขาทำให้ผมเบ้ปากอย่างหมั่นไส้
“แล้วคุณไปไหนมา”
“ธุระ” คำตอบเดิมๆที่ไม่รู้ว่าผมจะพูดไรต่อจึงเลือกที่จะเงียบ ส่วนเขาก็เดินหายไปแล้ว ผมจึงพยายามข่มตานอนอีกครั้งแต่ก็นอนไม่หลับ
...หิว
“อ่ะ.. กินซะ” เหมือนเขาจะรู้ความคิดผม เขากลับมาอีกครั้งพร้อมกลิ่นอาหารหอมฉุย ก่อนเขาจะเดินออกไปพร้อมกับไฟที่สว่างขึ้น
ควรจะเปิดตั้งแต่เข้ามาแล้วนะให้เพ่งมองอยู่ตั้งนาน
“ขอบคุณ”
“อืม” ผมก้มหน้าก้มตากิน ถึงจะหิวมากแต่ก็ไม่มูมมามหรอก มันเป็นแค่รามยอนธรรมดาแต่วินาทีนี้อร่อยมากอ่ะจริงๆ
เมื่อผมกินเสร็จเขาก็เดินกลับมาพอดี พร้อมกับผ้าเช็ดผมในมือ เขาเดินมายกถ้วยไปคงจะเอาไปเก็บแต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินไปผมจึงรั้งเสื้อเขาไว้
“ผมขออาบน้ำบ้างได้มั๊ย” เขาไม่ได้ตอบอะไรเพียงเหลือบตามองเท่านั้นแล้วเดินออกไป .. บทจะพูดก็พูดแรงกระแทกใจเหลือเกิน บทจะเงียบก็เงียบสะจนคิดว่าเป็นใบ้
ตึก!
กาละมังใบเล็กถูกวางลงตรงหน้า ในนั้นมีเพียงผ้าขาวสะอาดกับน้ำที่ถูกใส่ไว้เกือบเต็ม ผมมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไร
“ไปล่ะง่วง”
“ด.. เดี๋ยว”
“...ไร”
“เอากาละมังมาให้ทำไม” ผมชี้ไปที่กาละมังใบเล็ก ส่วนเขาก็ทำหน้าเซ็งๆก่อนตอบ
“เช็ดตัว”
“แต่ผมอยากอาบน้ำ ผมเหนียวตัว”
“...............................”
“ให้ผมอาบเถอะนะ”
ซ่าาา า
แทบจะทันทีที่พูดจบ น้ำจากกาละมังถูกเทใส่โดยไม่ทันตั้งตัวเกือบสำลัก
มันจะมากไปแล้วนะ!!!
“ได้อาบสมใจแล้ว ฉันไปล่ะ”
“มันเปียกหมดแล้ว คุณกลับมานี่เลย ย่าาส์!” พยายามเรียกเท่าไรเขาก็ทำเป็นหูทวนลมใส่ไม่หันมามอง เดินหายเข้าไปในห้องนอน
“จริงๆเลย ไอคนใจร้าย ไอโหด!”
สักพักใหญ่ๆผมกำลังจะเคลิ้มหลับใครคนหนึ่งก็มาเขย่าตัวเรียกสติผมอีกครั้ง
“ฉันจะออกไปข้างนอก ดูแลแบมแบมให้ดี”
“เพิ่งกลับมาจะไปอีกแล้วหรอ”
“อือ” เดินออกไปจนเกือบจะถึงประตู เขาก็เดินกลับมาอีกครั้ง
“หืมม” ผมเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม เขามองนิ่งๆก่อนจะโยนเสื้อยืดสีดำมาให้
..อ๋อ นี่เพิ่งรู้ตัวหรอว่าควรจะหาเสื้อมาให้เปลี่ยน เปียกจนจะแห้งและ
“เปลี่ยนซะ ห้ามป่วย”
“ผมไม่ป่วยง่ายๆหรอก ผมถึก”
“ก็ดี... ถ้ามีใครมาเคาะประตูห้ามเปิด” คำสั่งเดิมๆ แล้วเขาก็ออกไปเหมือนเดิม จริงๆไม่สั่งผม ผมก็ไปเปิดไม่ได้อยู่ดี ล่ามไว้ขนาดนี้ อย่างกับหมาเฝ้าบ้านรอเจ้านายกลับมาอย่างไงอย่างงั้น
แกร๊ก.. ปัง!
“บ .. แบม อึก...” เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงประตูห้องก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง เสียงทุ้มแหบเรียกชื่อเด็กน้อยหนึ่งเดียวในห้องอย่างแผ่วเบา ชนิดที่ว่าขนาดที่ห้องเงียบยังแทบไม่ได้ยิน
ร่างสูงคุ้นตาเดินโซเซเกาะกำแพงมาเรื่อยๆตรงมายังผมที่ไม่ได้นอนตั้งแต่เขาออกไป แสงไฟสลัวในห้องทำให้ผมมองเขาไม่ค่อยชัดนัก จนกระทั่งเขาพาร่างตัวเองลงมาทรุดตรงหน้าผมถึงได้เห็นเต็มตา
“ค คุณ เลือด!!”
ใบหน้าซีดเผือกมีเลือดไหลตั้งแต่หางคิ้วลงมายันปลายค้าง รวมถึงแขนที่มีเลือดทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสาย ถึงแม้เขาจะกดปากแผลไว้แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“อึก ร เรียก แบม” เขาลงไปนอนหลับตาบนพื้น ฟันบนขบปากล่างแน่นเพื่อข่มความเจ็บปวด ส่วนผมสติกะเจิงตั้งแต่เห็นเลือดแล้ว ทำอะไรไม่ค่อยถูก ก่อนจะตั้งสติและตะโกนเรียกแบมแบมตามที่เขาสั่ง
“บ แบม แบมแบม!!! คุณทำใจดีๆนะ แบมแบม!” ตะโกนออกไปสุดเสียง ผมคว้ามือข้างที่แขนเป็นแผลของเขาขึ้นมากุมไว้อย่างให้กำลังใจ “กุญแจล็อคเท้าผมอยู่ไหน ไขให้ผมหน่อยผมจะได้ช่วยคุณ”
“ฉัน ไม่ให้”
“ครายยเรียกหนูแบ หาวว” เด็กน้อยเดินงัวเงียมาจากห้อง ตาคู่โตยังไม่ลืมขึ้นแล้วเดินมาทางผม ไม่ทันระวังทำให้เหยียบขาร่างสูงไปเต็มๆ มือข้างที่ผมกุมไว้ออกแรงบีบแน่นเพื่อระบายคามเจ็บ
“แบมแบมช่วยเขา ช ช่วย เขาเลือดออก” บางทีผมก็รู้สึกโง่ที่ต้องร้องขอให้เด็กช่วยแทนที่จะเป็นผม แต่จะทำไงได้ขาก็ถูกล่าม
“มาร์ครอหนูแบแป๊ะนะ” เหมือนเจ้าตัวเล็กจะเพิ่งรู้สึกตัวรีบกุลีกุจอวิ่งออกไปและกลับเข้ามาใหม่พร้อมกล่องปฐมพยาบาลและกระเป๋าใบหนึ่ง
“หลับตา”
“ห๊ะ?”
“ฉันบอกให้หลับตา” เขาสั่งเสียงเข้มพร้อมกับดึงมือที่ถูกกุมไว้ออก
“ทำไมต้องหลับ”
“ฉันสั่ง อึก.. ก็ทำไปเถอะ”
“ไม่...” ทำไมผมต้องหลับไม่เข้าใจเลย มาสั่งอะไรบ้าๆทั้งๆที่ตัวเองก็เจ็บจะตายอยู่แล้วแท้ๆ
“ฉันเตือนแล้วนะ” เขาขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเอื้อมมือไปรับเข็มฉีดยาอะไรสักอย่างจากแบมแบม เขาฉีดมันลงไปบนบริเวณแผล แล้วส่งคืนให้แบมแบมและรับของชิ้นใหม่มา
....มีดหมอ
“ค คุณทำอะไรน่ะ” ถามอย่างตื่นตะหนก อย่าบอกนะว่าเขา..
ฉึก
ภาพตรงหน้าทำเอาผมเบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน เขาบ้าไปแล้ว! กรีดแขนตัวเองสดๆโดยไม่ร้องสักแอะ เพียงแค่กัดฟันข่มไว้ การกระทำที่ทำให้ผมแทบลมจับ ส่วนเด็กน้อยแบมแบมยังมองตาแป๋วไม่มีแววเกรงกลัวเลยสักนิด
บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว!!
“แบมแบม อึก ..” เพียงแค่เรียกเด็กน้อยเหมือนจะรู้หน้าที่คีบเม็ดตะกั่วที่ฝังอยู่ในแขนแกร่งออกมา เลือดก็ยังคงไหลไม่หยุด กลิ่นคาวคลุ้งตลบอบอวนไปทั่วห้องทำเอาผมแทบจะอาเจียน
ผมอยากจะบ้าตาย ซาดิสกันทั้งบ้านเลย ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่
แกร้ง!!
“ม มาร์ค!” เสียงแหลมของเด็กน้อยร้องลั่นเมื่อร่างสูงตรงหน้าหมดสติล้มลงแผ่ไปกับพื้น
“ค ค คุณ.. แบมแบมทำไงดี” ผมเริ่มลนลานทำไรไม่ถูก ทั้งกลิ่นคาวเลือด ทั้งร่างตรงหน้าที่หมดสติไป มันดึงสติผมไปจนเกือบหมด .. ตั้งสติ แจ็คสันตั้งสติ
“ทำไงดี มาร์คไม่เคอเป็นหนักอย่างงี้”
“เอาไงดีวะ โซ่ก็ล่ามอยู่ .. กุญแจ .. ใช่กุญแจ! แบมแบมรู้ที่ซ่อนกุญแจไขโซ่ให้ผมมั๊ย”
“........ รู้”
“ไม่ได้เดี๋ยวมาร์ค..”
“ยังจะห่วงคำสั่งอีก อยากให้เขาตายหรอ!!” ผมตะคอกออกไปอย่างเคืองๆจนเด็กน้อยสะดุ้ง แบมแบมคุ้นคิดสักพักก่อนจะตัดสินใจวิ่งเข้าไปในห้องนอนและออกมาพร้อมกับสิ่งที่ผมต้องการ
ไม่รอช้าผมรีบไขโซ่ออกทันที เมื่อเป็นอิสระผมก็รีบไปดูอาการของเขา เลือดยังคงไหลไม่หยุด รวมถึงหน้าที่ยิ่งซีดลงเรื่อยๆอย่างน่ากลัว
“คุณ .. คุณ!” ผมพยายามเรียกสติคนตรงหน้า แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลนะ .. แล้วผมต้องทำไงอ่ะ สับสนนะ
ก่อนอื่นต้องทำแผล..
“นายห้ามหนีนะ”
“เขาบาดเจ็บขนาดนี้ยังกลัวผมหนีอีก ห่วงเขาก่อนดีมั๊ยแบมแบม”
“อย่าดุซี่หนูแบกลัวนะ หนูแบเป็นหั่วมาร์ค และก็ไม่อยากขัดคำสั่งดั้ว”
“เฮ้ออ จริงๆเลย ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ทำตามคำสั่งเขาเพราะเขาโหดร้าย เผด็จการ”
“มาร์คไม่ได้โหดร้ายนะ มาร์คใจดี”
“โหดสิ มากด้วย .... เสร็จแล้ว” เมื่อทำแผลให้เขาเสร็จผมก็เก็บอุปกรณ์แล้วส่งคืนให้แบมมแบม ส่วนเขาผมคงต้องลากไปในห้อง เพราะเมื่อกี้ลองแบกแล้วไม่ไหว เห็นตัวผอมๆอย่างนี้แต่หนักมาก
ผมจัดการลากเขามาที่ตียงจัดท่านอนให้สบายก่อนจะมานอนหอบอยู่ข้างๆ ระยะทางสั้นแค่นี้แต่ต้องลากเขามาด้วยมันทำให้เหนื่อยไม่น้อยเลยจริงๆ
แต่จะว่าไปผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ..ทำไมเขาถึงถูกยิง?? เขาเป็นโจรหรอถูกตำรวจตามล่า หรือค้ายา หรือเป็นอันธพาลถูกพวกอื่นรุม หรือเจ้าพ่อมาเฟีย หรืออะไร บางทีผมก็สงสัยในธุระของเขาจริงๆ
“จะนอนมองหน้าฉันอีกนานมั๊ย”
“ฮ เฮ้ยย !” ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อคนที่ผมคิดว่าสลบอยู่ลืมตาขึ้นมามอง เตียงของเขาก็ไม่ได้กว้างทำให้เราห่างกันไม่มากนัก
“ทำแผลให้ฉันแล้วทำไมไม่ให้กินยาแก้อักเสบ” เสียงทุ้มแหบยังคงถามผมที่เริ่มทำตัวไม่ถูก
“อ เอ่อ ก ก็มันลืม”
“หึ... แล้วแบมแบมล่ะ”
“ไม่รู้ ให้เก็บกล่องยาแล้วหายไปเลย ให้ตามมั๊ย” ผมทำท่าจะลุกขึ้นแต่เขาเอ่ยห้ามสะก่อน
“ไม่ต้องไป แบมแบมคงเก็บอุปกรณืแล้วเตรียมยาอยู่”
“อ๋อหรอ...” แล้วความเงียบก็ปกคลุมห้องได้ยินเพียงเสียงหายใจขัดๆของเขา ส่วนผมหรอ.. แทบหยุดหายใจแล้ว นอนแข็งทื่ออยู่ข้างเขาเนี่ยแหละ พอจะลุกก็ถูกรั้งไว้ โดยเขาให้เหตุผลว่าเดี๋ยวผมหนี
เออดี ดูเหมือนชีวิตจะไม่ใช่ของผมจริงๆนั้นแหละ
“จะลุกไปไหนอีก” ผมที่กะจะแอบย่องไปสักหน่อยหลังจากที่แบมแบมให้ยาเขากินคิดว่าเขาจะหลับเพราะฤทธิ์ยาไปแล้วซะอีก คนอะไรรู้สึกตัวตลอดเวลาขนาดหลับตายังรู้ว่าผมจะทำอะไร
“กลับไปล่ามโซ่แบบเดิมคุณจะได้ไม่ต้องห่วง จะได้นอนถนัด ส่วนผมก็จะได้ไม่อึดอัดที่จะต้องนอนเตียงเดียวกับคุณ โอเค๊”
“หึ! สมองคิดได้แค่นี้? เป็นบ้าไปแล้วหรือไง”
“เออ ผมบ้าไปแล้ว โดนล่ามโซ่ไปยังไม่ถึงสองวันเลย ยังไม่หนำใจ เดี๋ยวรอคนที่เคยบอกจะทำให้ผมตายทั้งเป็นหายดีแล้วมาทำโทษนะ” บอกเลยว่าประชด ประชดจริงๆ หมั่นไส้มานานแล้ว เขาเจ็บอยู่คงตอบโต้ไม่ได้ ขอสักหน่อยเหอะ
“เหอะ ตลก”
“ก็ขำสะสิ ไปล่ะ... อ๊ะ!”
“เมื่อกี้บอกนอนนี่แล้วอึดอัดใจที่ต้องนอนกับฉันใช่ป้ะ งั้นนอนต่อไป” เขาใช้ขาล็อกตัวผมไว้แน่นจนขยับไปไหนไม่ได้ บ้าเอ้ยย นี่ขนาดแผลเต็มตัวเอาแรงมาจากไหนเนี่ย
“ปล่อยนะเว้ยย คุณ”
“ขืนดิ้นทำแผลฉันระบมอีกนิดเดียวฉันต่อยนายแน่”
“ไอโหด!”
ความคิดเห็น