ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ผลการทดสอบ กับ สมาชิกที่มาใหม่
    บทเรียนที่ 2    ผลการทดสอบ กับ สมาชิกที่มาใหม่   
              “ เอาละ การสอบของเรานั้นจะสอบแบบการต่อสู้แบบตัวต่อตัว “  หา ?  การทดสอบแบบตัวต่อตัวเนี้ยนะ    ดวงตาสีแดงสดเปิกก้าวขึ้นมาทันทีที่อาจาร์ยหนุ่มผมเขียวนั้นกล่าวขึ้นท่ามกลางกลุ่มนักเรียนราว 60 คน นี้เค้าจะต้องมาต่อสู้กับคนที่เค้าไม่รู้จักเนี้ยอานะ
            /  เอาไง จะทำได้หรอ ...........  ชั้นจะทำได้หรอ ......... ชั้นเนี้ยนะ .............. ชั้น ........ / ในขณะที่ภายในหัวของเคนนั้นมีเพียงคำถามเดียวเท่านั้น  แต่คำถามนั้นมันกลับทำให้หัวของเค้ารกเต็มไปหมด ยังไม่ทันที่เคนจะได้คำตอบจากคำถามที่เค้าคิดขึ้นมาจนทำให้หัวนั้นมึนตึบๆ 
            “ เอาผู้หญิงก่อนดีกว่า “  ไลท์  รีเเล็กซ์  นั้นบ่นพึมพัมกลับตัวเองโดยที่ไม่มีใครได้ยินสิ่งที่เค้าบ่นอยู่เลย  ตอนนี้ทุกๆคนต่างพากันหวาดวิตกกังวัลกับการสอบครั้งนี้ ซึ่งรวมทั้งตัวของเคนด้วย  จะมีก็เพียง 2 3 คนเท่านั้นที่ดูท่าราวกับว่าเค้าไม่รู้สึกอะไรเลยแม้นแต่น้อย 
              “  กรีน  คลอเรีย  กับ  ฟาเรน  ครามเรน  ออกมาแสดงตัวหน่อยเร็วสาวๆ  “  อาจารย์ไลท์ นั้นกล่าวเรียกชื่อทั้งสองสาวออกมาอย่างหน้าชื่นตาบาน  ในขณะที่สองสาวที่ออกมานั้นดูมีสีหน้าที่ตรงกันข้ามกับไลท์โดยสินเชิง  “ กรีน  คลอเรีย คนไหนครับ สองสาว “  สาวน้อยคนผมดำยาวสลวยคนหนึ่งยกมือขึ้นอยากประมาท  เธอมีผิวสีคลำๆ ดวงตาโตคู่สวยนั้นมีสีม่วงอ่อน ซึ่งตัดกับชุดวันพีชสีเหลืองของเธอไม่ใช้น้อย  ไลท์พยักหน้าเป็นเชิงรับทราบ ก่อนที่จะหันไปทางเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงกันข้ามซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก  “ ส่วนเธอก็ ........ ฟาเรน  ครามเรน .. ? “  เด็กสาวพยักหน้า เธอมีผมยาวประบ่าสีส้มอ่อนที่ดูแสบตาไม่น้อย กับ ดวงตาสี เขียวอ่อนที่ดูไม่เป็นธรรมชาติแบบของ คานาเรีย  ดูราวกับว่าเธอกำลังจะไปเดินแฟชั่นโชวที่ไหนสักแห่งต่อจากการสอบครั้งนี้เป็นแน่  เธอนั้นสวมชุดเกาะอกสีฟ้า กับกระโปร่งสีขาวที่ดูเข้ากันอย่างสวยงาม กับร้องเท้าสีดำที่เคนเข้าใจว่ามันหน้าจะเป็นร้องเท้าปูทรุ่นใหม่ที่ใส่ซิปลงไป และตัวร้องเท้าที่ดูเงางามต่างจากร้องเท้าปูทที่เค้าเคยเห็น  อาจารย์ไลท์นั้นจับมือของทั้งสองสาวยกขึ้นมาจับกันและกัน  ทำให้ทั้งสองสาวหน้าแดงเล็กน้อย ผสมกับอาการงงที่กำลังตามมา  “ ทำความรู้จักกันไว้ซิ สองสาว “ อาจารย์ไลท์หันไปยิ้มกับสาวน้อยทั้งสองอย่างมีเล่ในบางอย่าง  “ อา ..... ชั้น กรีน ......ยะ ...... ยินดีที่ได้รู้จัก ........ “  สาวน้อยผิวคลำเป็นคนกล่าวทักทายคนแรก เธอยิ้มให้กับฟาเรนอย่างเขินๆอายๆ  ส่วนฝ่ายรับเองก็เช่นกัน  “  อา... ชั้น ฟาเรน  .... ฝากตัวด้วยนะ .... “  ไม่นานนัก อาจารย์ไลท์ก็ให้สันณาบอกว่าให้เริ่มสู้กัน  ไม่นานนัก ผลก็ออกมา  กรีนเป็นฝ่ายชนะ  เธอใช้มีดสั่นที่เธอพกมาไว้ใต้กระโปร่งเป็นอาวุธ ซึ่งดูเหมือนกับว่าเธอจะยังใช้มันแถบไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ  ส่วนฟาเรนนั้นใช้วิชาป้องกันตัวซึ่งดูจะไม่เป็นผลซักเท่าไร  แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้ฟาเรนแพ้ นั้นก็คือ การที่มีดสั่นของ กรีน ไปทำเล็บอันงดงามของเธอหันนี้ละ  ไลท์สายหน้าเล็กน้อยหลังจากที่ผลการประลองออกมา ก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆแต่กลับทำให้ทุกๆคนภายในอุโมงได้ยินกันชัดเจน  “  ไม่ผ่าน  เอาละคนต่อไป ............... “  มีคนออกไปสอบเลื่อยๆ  และก็ยังไม่มีคนผ่านซักคน ถึงแม้นยังมีบางคนที่เคนและหลายๆคนในที่นั้นคิดว่าเก่งมากๆแล้วนั้นก็ยังไม่ผ่าน  เนื่องจากว่าฝีมือยังไม่ดีพอ  มันทำให้เคนยิ่งไม่มันใจกลับการสอบครั้งนี้เข้าไปกันใหญ่  ไม่นานนัก ..............
            “ เคน  ฟาโน้  ปะทะ  ฮันห์    ชามัล ........ “ ไลท์นั้นยังคงสนุกกับการเรียกชื่อเด็กออกไปยืนตรงหน้าเค้าที่ละ 2 คน  เค้าสะดุ้งเล็กน้อยกลับเสียงของไลท์  เค้าค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินก้าวออกไปอย่างช้าๆ  ทั้งๆที่มันใช้เวลาแค่ไม่กี่วิ แต่มันช่างดูยาวนานรวมนาทีเลยสำหรับเคน  เด็กหนุ่มที่เค้าจะต้องเจอด้วยนะเป็นเด็กหนุ่มหน้าสวยที่พกดาบ 2 อันไคว้กันไว้ด้านหลัง  ผมยาวสีฟ้าอ่อน ที่ถูกรวบรัดไว้ด้วยยางสีขาว  ใบหน้านั้นดูเกรียงเกราราวกับเป็นลูกผู้ดี  มีเด็กนักเรียนหญิงบางคนถึงกับตกตะลึงเมื่อพบกับเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า บางคนถึงกับเป็นลมไปเลยก็มี  ดวงตาสีฟ้าที่เย็นราวน้ำแข็งนั้นจองมองมายังตัวเค้าที่ยินดูเบื่องหน้า ทำเอาขนเคนลุกขึ้นมาเลยทีเดียว    “ ชั้น .........  เคน  ฟาโน้  ยินดีที่ได้รู้จัก “ เคนนั้นเป็นฝ่ายเริ่มทักทายเป็นคนแรก  ไม่มีการตอบรับใดๆกลับมาจากเด็กหนุ่มหน้าสวยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเค้าเลย  “ เออ .............. “ เคนงงเล็กน้อยกับการกระทำของเค้า  คิ้วทั้งสองข้างนั้นขยับเข้ามาชิดกันจนเกิบจะชน  “ หวัดดี  ..........  ช่วยทำให้มันสนุกหน่อยละ ........... “ น้ำเสียงที่ดูเย็นยะเยือก กับดวงตาสีแสนจะเย็นชา มันทำให้เคนเริ่มรู้สึกว่า  “ ชั้นไม่ถูกกับหมอนี้เลย “  ไม่นานไลท์ก็เริ่มให้สัญญาณเริ่มการทดสอบ 
              สิ้นเสียงของไลท์  จุดที่เด็กหนุ่มหน้าสวยยืนอยู่ ณ กลับว่างเปล่า / หลัง / สันชาติตะยานบอกเค้าว่ามีคนที่คิดจะทำร้ายเค้าจากด้านหลัง  เคนกระโดขึ้นอยู่เหนือฟ้าช่วยเวลาหนึ่งที่ ฮันห์ใช้ดาบยาวด้านขวาที่อยู่ด้านหลังของเค้าออกมาฟันตัวเคนด้วยความรวดเร็ว  “ หลบใช้ได้นี้ “ ฮันห์ยังคงบอกเคนด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง  ไม่นานฮันห์ก็หายตัวไปจากตรงนั้นอีกครั้ง และไปปรากฎร่างอีกครั้ง ณ ตรงหน้าของเคน  เคนใช้มือทั้งสองข้างขึ้นมาหนีบดาบไว้ด้วยความรวดเร็ว และคงทน  ตัวของเคนสั่นเล็กน้อยกับแรงดึงดาบของฮันห์  ดาบยาวของฮันห์เองก็เช่นกัน  แขนอับบองบางทั้งสองข้างสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะดึงดาบออกอย่างสุดแรง บวก กับถอยออกไปตั้งหลักอีกครั้ง  “ นายมันขี้โกงนี้หว่า  นายใช้อาวุธ และชั้นละ “ เคนตะโกนบอกร่างบางด้วยเสียงที่เข้มแข็ง ที่มากลับอาการหอบหน่อยๆ  “ ฮิ  นั้นซินะ เดียวนายจะหาว่าขี้โกง  ......... “  เสียงเย็นตอบกลับมา  มืออันเรียวบางนั้นค่อยๆเก็บดาบไปไว้ด้านหลัง ให้มันกลับเข้าไปอยู่ในฝักตามเดิน ยังไม่ทันที่ฮันห์จะเก็บดาบเสร็จ เค้าก็หายไปจากจุดนั้นอีกแล้ว  คราวนี้เคนเองก็เช่นกัน ทั้งสองต่างฝ่ายต่างใช้ตัวเข้าสู้กับอีกฝ่าย  เคนนั้นดูจะบาทเจ็บเล็กน้อย กลับ ฮันห์ที่ดูไม่ค่อยจะบาทเจ็บมากนัก แต่กลับมีอาการหอบที่มากกว่าเคนหลายเท่า  เคนใช้เท้าซ้ายทีบตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศอีกครั้ง  พร้อมกลับท่าที่เตรียมจะลงมาทีบฮันห์อย่างเต็มกำลัง  ฮันห์เองก็กระโดขึ้นฟ้าตามเคนไปเช่นกัน และมันก็เป็นเวลาที่สวนทางกันกับเคน  ฮันห์นั้นหลบลูกเตะของเคนได้อย่างชิวเชียด  ก็ที่จะค่อยๆวางเท้าทั้ง 2 ลงบนพื้นอย่างช้าๆ  ยังไม่ทันที่ฮันห์จะว่างเท้าทั้งสองข้างลงบนพื้นได้สนิทดีนัก เคนก็บุกเค้าใส่ร่างบางด้วยความรวดเร็ว จนทำให้ฮันห์แทบจะตั้งตัวไม่ทันเลยที่เดียว 
            “ พอแล้วทั้งสองคน  .................. “ เคนต้องถึงกับหยุดฉะยังอยู่ตรงนั้น เมื่อเสียงที่ดูกวนๆของไลท์ดังขึ้น  ก่อนที่เจ้าของดวงตาสีแดงนั้นจะค่อยๆหันหน้ากลับไปยังตรงเสียง  ด้วยความตรงใจ  ซึ่งต่างกับฮันห์ที่สีหน้ายังคงไม่ต่างไปจากเดิม จะต่างก็คงตรงใบหน้าสวย ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อเท่านั้น 
            “  อาไรหรอฮะ .......... อาจารย์ รีเล็กซ์  ............. “  เคนถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ดูท่าทางไม่ค่อยจะมันใจเท่าไรนัก  ไลท์จะมองทั้งสองคนอย่างยิ้มๆก่อนที่จะพูดออกไปว่า
            “ พวกเธอ สอง คน  ผ่าน ........! !!!!! “  เสียงภายในห้องนั้นดังสนั่น  มีหลายๆคนพากันโปกมือโปกไม้ให้กลับพวกเค้า  ดวงตาสีแดงสดนั้นค่อยๆหันกลับไปมองกับร่างบางที่อยู่ข้างๆ  ดวงตาสีฟ้าอ่อนที่เย็นยะเยือกนั้นก็จองมาที่เค้าเช่นกัน  “ เก่งใช้ได้นี้นานายนะ ........... 55+  “  เคนยิ้มให้กลับฮันห์ที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นอย่างร่าเริงจนทำให้เห็นฟันสีขาวของเค้า    “ นายมันอ่อน .......... คราวหน้าก็ทำให้ชั้นสนุกหน่อยแล้วกัน .............. “    ไม่มีอะไรที่ดูหน้ายินดีตอบกลับมาจากร่างบางเลยแม้นแต่น้อย  ฮันห์หันหลังให้เคนก่อนที่จะเดินจากไปอย่างช้าๆ  “ นายนี้มัน .... !!!!!!!!!! “ เคนถึงกลับเคืองเล็กน้อยกลับคำพูดของฮันห์  แต่ความรู้สึกที่โกรธเคืองทั้งหมดนั้นก็ได้หายไปจากดวงใจ  เมื่อเค้าแอบไปเห็นรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากของฮันห์ ก่อนที่เค้าจะยิ้มออกมาหน่อยๆโดยไม่รู้ตัว  “ เอาไว้สู้กันใหม่วันหลังที่ D.S.S. นะ ...............  ฮันห์    ชามัล “ 
      + + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + +
            ทางด้านของโซลนั้นต้องเจอกับเรื่องหนักๆอยู่ไม่ใช้น้อย  ถึงแม้นเค้าจะไม่ต้องมาประลองอะไรต่างๆให้เจ็บตัวก็ตาม  แต่สิ่งที่เค้าจะต้องทำนั้นมันก็ไม่ได้หนักหนาน้อยไปกว่าการสอบของเคนเลย  ดีไม่ดี การสอบของเค้านั้นอาจจะยากลำบากกว่าการสอบของเคนมากนัก  ข้อสอบ พันกว่าข้อกับเวลา 1 ชั่วโมง  เวลาที่แสนจะยาวนานสำหรับโซลได้ค่อยๆผ่านไปอย่างยากลำบาก  ทั้งๆที่เป็นเวลาที่หลายๆคนอยากจให้มันหมดไปเร็วๆ แต่สำหรับโซลนั้น เค้าไม่ยากจะให้เวลาที่เสียงของออดหมดเวลาดังขึ้นเท่าไรนัก  ไม่นานนัก สิ่งที่เค้ากลัวมันก็เป็นจริงเมื่อเวลาผ่านไป 60 นาที
            ออออออออออด เสียงของออดดังขึ้นทำรายความเงียบที่เกิดขึ้นร่วม 60 นาที  เสียงของสาวร่างท้วมผมซอยสั่นสีดำนั้นดังขึ้นหลังจากที่เสียงของออดหมดไปไม่นานนัก
            “ เอาละ ทุกคน ขอให้ว่างปากกาลงบนโต๊ะ แล้วเดินออกมาส่งกระดาษคำตอบ ส่วนข้อสอบนั้นวางไว้ที่โต๊ะ  .................. เบอร์ 1 “  โซลค่อยๆว่างปากาของทางโรงเรียนไว้บนโต๊ะ เค้าพึ่งจะสังเกตุเห็นปากกาด้ามนั้น มันเป็นปากกาด้ามสีทองเกิบทั้งด้าม  จะมีเพียงสีเงินขึ้นมาแสมอยู่ตรงกลางด้ามเล็กน้อยเท่านั้น บนตัวด้ามนั้นสลักอักษรย่อไว้ว่า D.S.S.  โซลรู้ได้ถึงทันที่ว่าปากกาด้ามนี้นั้นเป็นทองคำแท้ทั้งด้าม  มันอาจจะเป็นเรื่องปกติ เพราะของแบบนี้ที่บ้านของเค้าก้อมี  แต่สิ่งที่ต่างออกไปนั้นก็คือ ปากกาด้ามนี้มีด้วยกันกว่า 100 ด้าม และทั้งกว่า 100 ด้ามก็เป็นแบบเดียวกันหมด  เป็นทองคำทั้งหมด เค้าแอบคิดไว้ว่าถ้าหากมีใครที่แอบหยิบปากกาด้ามนี้กลับก็คงจะเอาไปขายได้หลายตังค์เลยที่เดียว   
              “ เบอร์  26 ..... “ โซลลุกขึ้นพร้อมกลับเดินเอากระดาษคำตอบกว่า 10 แผ่นของเค้าออกไป  เค้าพึ่งจะนึกขึ้นมาได้อีกครั้ง  .......... ข้อสอบกว่า พันข้อนั้นเค้าทำเสร็จทั้งหมดก็จริง แต่ ........ ความมั่นใจว่ามันจะถูกนั้นแถบจะไม่มีเอาเสียเลย  หลังจากที่เค้าส่งกระดาษคำตอบคืนให้กลับอาจารย์ร่างท้วมแล้วก็ค่อยๆกลับมานั่งลงที่โต๊ะท้ายห้องข้างหน้าต่างตัวเดิม 
                ในระหว่างที่รอการตรวจคำตอบนั้นโซลค่อยๆนั่งทบทวนสิ่งที่เค้าสอบไปกว่าพันข้อ  สิ่งที่เค้านั้นแถบจะเป็นเรื่องที่ไม่มีในโรงเรียนทั่วๆไปแถบทั้งสิ้น  มีทั้งคำถามที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธต่างๆนานา คำถามเกี่ยวกลับภาษาต่างๆ ทั้งอัคระโบราณ ทั้งภาษาอะไรต่างๆมากมายที่เค้าแถบจะไม่เคยรู้จัก  ในขณะที่ดวงตาสีเหลืองดั่งทองคำของเค้ากวาดไปรอบๆ เค้าพึ่งจะเห็นว่ารอบๆตัวของเค้านั้นเต็มไปด้วยความอึมครึม ทุกๆคนต่างพากันเครียดกลับคำตอบของแต่ละคน  ซึ่งดูอาการแล้วนั้นหนักกว่าเค้าหลายเท่าตัวนั้น  เวลาที่หลายๆคนรอคอยก็ถึงเสียที  อาจารย์ผู้คุมสอบนั้นค่อยๆเดินเข้ามาจากด้านนอก  พร้อมกลับกระดาษแผ่นเล็กๆใบหนึ่ง เธอค่อยๆเดินมาจนถึงจุดที่หน้าจะเป็นจุดกลึ่งกลางของหน้าห้อง  เธอค่อยๆยกมือที่ค่อนข้างจะอ้วนนั้นขึ้นมาอย่างช้าๆ พร้อมกลับกระดาษแผ่นเล็กๆใบนั้น 
          “  เบอร์  49  คาฟาร์เรน  ชาร์มอนซ์ ......................... “ เด็กหนุ่มร่างเล็กคนหนึ่งยืนขึ้นอย่างกระสับกระสาย  บนใบหน้าอันขาวสะอาดของเค้านั้นมีจุดสีแดงๆขึ้นอยู่ประปราย  เค้านั้นไว้ผมรองทรงสั่นๆสีดำ ดวงตาตี่ๆภายหลังแว่นตาทรงกลมที่ใหญ่เบ้อเริ้มนั้นมีสีดำเข้มซึ่งเค้ากันกลับผมได้เป็นอย่างดี  อาจารย์นั้นเรียกชื่อเค้าอีกครั้ง ราวกลับว่าไม่เห็นว่าบุคคลที่เค้าเรียกนั้นยืนขึ้นตั้งนานแล้ว  ชาร์มอนซ์ตัดสินใจยกมือขึ้น ก่อนที่จะจับแว่นให้เข้ากันกลับใบหน้า โซลเองก็พอจะรู้แล้วละว่าทำไมอาจารย์ถึงได้มองไม่เห็นชาร์มอนซ์  เพราะว่าไม่ว่าเค้าจะยืนหรือนั่งมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลยนั้นเอง  แล้วอาจารย์ก็เริ่มเรียกชื่อคนต่อไป
          “ เบอร์ 16  ..... เมจิฮาร์น  ควิชเชอร์    ............. “ ไม่การตอบรับใดๆทันสิ้น  เสียงเรียกเบอร์ 16 นั้นดังขึ้นอีกครั้ง  ดวงตาสีเหลืองทองนั้นพยายามจะหาเจ้าของหมายเลขเบอร์ 16 เพราะเค้าแบบคิดไว้ว่าเบอร์ 16 นั้นคงจะตัวเล็กแบบชาร์มอนซ์  “ เมจิฮาร์น !!!! “ การเรียกชื่อของเค้านั้นดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงนั้นมันดังขึ้นมากจนทำให้นักเรียนหลายๆคนพากันยกมือขึ้นมาอุดที่หู  เด็กชายท่าทางเฉื่อยแฉะคนหนึ่งถึงกลับลุกขึ้นพรวดอย่างตกใจ เค้ามีผมซอยยาวยุ่งๆสีขาว  ดวงตาดูเหม่อลอยนั้นมีสีเทาซึ่งเข้ากันเป็นอย่างดีกลับสีผม  “ อะ ..... ครับ ...... “ เสียงต่ำทุ้มๆนั้นตอบรับการขานเรียก  กิริยาของเค้านั้นทำให้โซลอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กๆ ( ถึงแม้นปกติเค้าจะยิ้มอยู่ตลอดก็ตาม )  แต่กลับไม่มีใครหัวเราะหรือยิ้มกลับกิริยาของเมจิฮาร์นเลยแม้นแต่น้อย บรรยาการภายในห้องนั้นดูอึมครึมยิ่งกว่าเก่าเมื่อเค้าลองหันไปมองคนรอบตัว 
         
            “ และคนสุดท้าย .................... “  โซลถึงกลับตกใจเล็กน้อย มีคนสอบผ่านแค่ 3 คนเองหรือ  ภายในใจของเค้านั้นห่อเหี่ยวลงอย่างช้าๆ  / ไม่ใช้ชั้นแน่นอน  ลาก่อนนะ  เคน ...... คานาเรีย /  ในขณะที่ภายในใจอันห่อเหี่ยวของเค้านั้นคิดสิ่งต่างๆนานา เริ่มทบทวนคำตอบทั้งหมดเท่าทีคิดได้อย่างรวดเร็วว่าตัวเองทำได้มากน้อยเพียงใด  และ คนสุดท้ายที่ผ่านก็คือ  “  เบอร์ 26 ................ โซล  มอติฟาร์ย  “ เค้าถึงกลับสะดุ้งตัวเล็กน้อย เมื่อรายชื่อของผู้สอบผ่านคนสุดท้ายดังขึ้น  เค้าค่อยๆยืนขึ้นอย่างประมาณ  “ ครับ ...... “ 
           
            “ เอาละ ผู้ที่สอบผ่านของปีนี้มีด้วยกันสามคน  ขอให้ออกมาข้างนอกด้วย  ............... “  ชาร์มอนซ์นั้นค่อยๆเดินออกมาจากที่นั่งของเค้า  และเดินมายังจุดที่อาจารย์ร่างท้วมยืนอยู่อย่างรวดเร็ว  ส่วน เมจิฮาร์นนั้นยังคงส่งสายตาออกไปนอกหน้าต่าง จนทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆทนไม่ไหวจนต้องสะกิดเค้าให้ออกไป  เมื่อโซลเห็นว่าคนอื่นๆออกไปกันครบแล้วเค้าจึงเดินตามออกไป
       
            “ เอาละ .............. ที่เหลือขอให้กลับกันไปได้แล้ว  ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ  เอาไว้มาแก้ตัวใหม่แล้วกัน  “  มีหลายๆคนถึงกลับน้ำตาไหล  หลายๆคนต่างๆพากันลุกขึ้นอย่างหมดแรงก่อนที่จะเดินออกไป  อาจารย์นั้นเรียกให้ทั้งสามเดินตามเค้าไปยังห้องเล็กๆห้องหนึ่ง  ........................
          + + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + +
          ทางด้านของคานาเรียนั้นสอบเสร็จไปเป็นที่เรียบร้อย  เธอสอบเป็นคนแรกของกลุ่ม สิ่งที่เธอจะต้องทำนั้นก็คือการจับสิ่งๆหนึ่งที่อาจารย์ปล่อยออกมาจากกล่องเล็กๆสีดำให้ได้  สิ่งที่เธอจะต้องไปเอามานั้น อาจารย์เรียกมันว่า “ อาร์ราคาเซีย “ มันเป็นวัตถุกลมๆขนาดเล็ก  มันมีสีฟ้าใส่ ซึ่งแถบจะมองทะลุออกไปได้  หลังจากที่อาจารย์บอกให้เริ่มจับมันนั้น  มันก็หายวับไปในทันที แล้วไปอยู่อีกที่ตรงด้านกลังของเธอ  อย่างรวดเร็ว เธอใช้เวลาอยู่ราว 5 นาทีกว่าจะจับ อาร์ราคาเซียที่มีความเร็ว 100 กิโลเมตร ต่อ 1 ชั่วโมงสำเร็จ  มีหลายๆคนต่างๆปรบมือให้กลับเธอ  บางคนก็โปกไม้โปกมือแสดงความดีใจกลับเธอ  เธอคิดว่าการจับอาร์ราคาเซียนั้นไม่ได้ยากเย็นเท่าไรหนัก  คงเป็นเพราะการฝึกฝนจากทางบ้านละมั้ง    และสิ่งที่เธอสนใจมากที่สุดก็คือ เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูคล้ายๆกลับทอมบอยหน่อยๆ ผมยาวสีน้ำตาลเข็มของเธอนั้นถูกรวมรัดไว้ที่ด้านหลังอย่างรวกๆ  ดวงตาของเธอนั้นมีสีฟ้าอ่อนๆจนเกิบจะเป็นสีขาว  ดูๆแล้วเธอก็ไม่ได้มีจุดที่หน้าสนใจเท่าไร เพราะชุดที่เธอใส่นั้นก็เป็นชุดเสื้อยืดสีขาวที่ถูกเสื้อคลุม( แบบมีหมวก ) สีเขียวทับเอาไว้ กับกางเกงยีนธรรมดาๆ  แต่สิ่งที่ทำให้คานาเรียสนใจนั้นคงจะเป็นความเร็วที่เร็วเหนือลมของเธอ  เธอนั้นสามารถจับอาร์ราคาเซียที่มีความเร็ว 100 กิโลเมตร ต่อ 1 ชั่วโมงได้อย่างสบายๆ  โดยใช้เวลาในการจับอาร์ราคาเซียนั้นเพียง  1 นาทีเท่านั้น  หลังจากสอบเสร็จเธอพบว่ามีคนสอบผ่านเพียงแค่  4 คนเท่านั้น  มีชาย 2 คน และ หญิง 2 คนซึ่งผู้หญิงที่เธอสนใจนั้นก็สอบภานมาในเวลาที่น้อยที่สุดด้วย  คานาเรียสังเกตุว่าคนที่สอบผ่านั้นคือคนที่สามารถจับอาร์ราคาเซียได้ในเวลาไม่เกิน 7 นาทีทั้งนั้น 
          “ ฮา ฮา ฮา ผ่านมาเคย 4 คนเองนะ “ เสียงใสๆดังขึ้นจากด้านหลังของเธอในขณะที่พวกเค้าทั้ง 4 กำลังเดินตามอาจารย์คนนั้นไป  เมื่อคานาเรียหันหลังกลับไปหาเจ้าของเสียงนั้นเธอก็พบกลับสาวน้อยทอมบอยคนนั้น  เค้ายิ้มตอบมาให้เธออย่างอ่อนโยน
          “ หวัดดี .... ชั้น ฟรีเดล  ฟอร์เรนซ์ ยินดีที่ได้รู้จัก เออ...........  “ 
          “ ชะ  ......... ชั้น คานาเรีย  มอติฟาร์ย  ยะ ..... ยินดีที่ได้รู้จัก  ........ “ 
          “ ถ้าเราได้อยู่ห้องเดียวกันคงจะดีซินะ  คานาเรีย  “  เธอพูดอย่างยิ้มๆ ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าใส่ของเธอนั้นจะมองขึ้นไปมองเหล่าก้อนเมฆที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าสีคราม  ทำให้คานาเรียรู้สึกว่าเธอนั้นคุยด้วยง่ายกว่าที่คิด
            “ นั้นซินะค่ะ .................... “  ดวงตาสีเขียวมรกตนั้นค่อยๆมองดูเหล่าก้อนเมฆที่อยู่บนฟ้าตามดวงตาสีฟ้าใสนั้นไป
            และแล้วพวกเธอก็มาถึงห้องๆหนึ่ง  มันเป็นห้องเล็กๆสีเทา  มีเก้าอี้ 18 ตัว ว่างอยู่ตรงกลางตรงห้อง เธอพบว่ามีคนมานั่งอยู่ก่อนแล้ว 6 คน คานาเรียมองกวาดสายตาไปรอบๆราวกลับกำลังหาอะไรบางอย่าง  อาจารย์ที่คุมการสอบของพวกเค้านั้นบอกกับพวกเค้าว่าให้ไปนั่งตรงเก้าอี้ที่จัดไว้กลางห้อง  ในขณะที่ดวงตาสีเขียวมรกตนั้นกวาดสายตามองรอบๆนั้น เธอก็พบว่า มันเป็นห้องมืดๆที่มีเพิ่งแสงสว่างจากหน้าต่างบานเล็กๆสาดแสงลงมาได้เท่านั้น  ภายในห้องนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากเก้าอีก 18 ตัว ที่ถูกจัดไว้เป็น 3 แถว แถวละ 6 ที่นั่ง  กลับเหล่าคนกลุ่มหนึ่งที่สวมชุดแบบเดี่ยวกันกับอาจารย์ผู้คุมสอบเธอ  ไม่นานนัก  แสงจากทางด้านหลังของเธอนั้นก็สว่างมาขึ้น  พร้อมกลับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เค้ามาใหม่  ชายหนุ่มผมรองทรงยาวสีเขียวเดินเข้ามาพร้อมกลับเหล่าเด็กๆที่เดินตามหลังเค้าเข้ามาอีก 5 คน ดวงตาสีเขียวมรกตนั้นเปิดออกกว้างเมื่อเหล่าเด็กๆเดินเข้ามาถึง และเธอก็พบกลับเด็กชายผมยุ่งๆสีน้ำเงินเข้ม กลับดวงตาแดงสดคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของพี่ชายเธอ และเป็นคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี  เคน  ฟาโน้  จนเธอส่งรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากนั้นออกไปอย่างไม่รู้ตัว  ดวงตาสีแดงสดนั้นจองมองไปรอบๆตัวจนพบกลับสาวน้อยผมยาวในชุดกิโมโน  ดวงตาคู่นั้นเบิกกว่าขึ้นกว่าเก่า  คานาเรียส่งยิ้มที่ดูสดใสไปให้เคน จนทำให้เคนอดยิ้มตอบกลับไปไม่ได้ 
            “ คา ............. “ ยังไม่ทันที่เคนจะเรียกสาวน้อยได้เต็มชื่อ  มือเล็กๆของชายหนุ่มรู้งามที่อยู่ข้างๆก็สะกิดตัวเค้าไว้  ราวกลับว่ากำลังจะเตือนอะไรบางอย่าง  ซึ่งเคนรู้ตัวดี  ไลท์บอกกลับเหล่าเด็กๆทั้ง 5 คนของเค้าว่าให้ไปนั้นที่เก้าอีก  เคนรีบเดินสาวเท้าอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะได้นั่งข้างๆคานาเรีย  แต่ก็มีชายร่างสูงใหญ่แย่งที่ไปได้เสียก่อน  “ อะ .......... “ ยังไม่ทันที่เคนจะพดจบ ดวงตาสีม่วงนั้นก็แพ่งมองเคนอย่างอาฆาตเสียแล้ว  ดวงตาสีเขียวมรกตนั้นสงประกายเศร้าเล็กน้อยเมื่อเคนนั้นต้องไปนั่งในที่ๆห่างไกลออกไป
            “ ชี ................... “ 
            ไม่นานนักหลังจากที่พวกขงเคนเข้ามา  ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง กลุ่มนักเรียนกลุ่มสุดท้ายก็ได้เข้ามา  ดวงตาสีเขียวและสีแดงสดนั้นเบิกกว้างขึ้นพร้อมกันกับร้อยยิ้มที่เจ้าตัวทั้งสองคนแอบยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อสายตานั้นไปพบกลับเด็กหนุ่มร่างบางที่มีดวงตาสีเหลืองดังทองคำ  / โซล ............. /  โวลนั้นเลือกที่จะนั่งตรงหลังของเคน  ซึ่งมีเด็กหนุ่มที่ดูท่าทางจะไม่ได้สนใจอะไรเลยนั่งอยู่ข้างๆตรงหลังของฮันห์ 
              “ ผ่านมาจนได้นะ  นายนะ  ฮิ ฮิ  คานาเรียก็ด้วยซินะ  ดีจริงๆ ฮิ ฮิ ..... “ เสียงเบาๆราวกลับกระซิบดังขึ้นจากด้านหลังของเคน  ชายหนุ่มนั้นไม่ได้ตอบอะไรกลับไปนอกเสียจากเสียงหัวเราะเล็กๆที่ได้ยินเพียงพวกเค้าทั้ง 2 คน 
              หลังจากที่นักเรียนกลุ่มสุดท้ายมาถึง  บรรยาการภายในห้องก็มืดลงอย่างเห็นได้ชัด ความหนาวเย็นได้แผ่ซ่านพาตัวของแต่ละคน 
              “  ขอแสดงความยินดีกลับผู้ที่สอบผ่านทุกคนค่ะ  “ เสียงที่คุนเคยดังขึ้นจากทางด้านหน้า เสียงนั้นเป็นของหญิงสาวที่ยืนพูดตอนที่พวกเค้าอยู่สนามหลวงนั้นเอง
              “ ต่อไปนี้พวกเธอคือครอบครัวของ D.S.S. แล้วละค่ะ  เอาละ ดิฉันคือ มิเคว  เมร่า  เป็นอาจาร์ยสอนพวกเธอในชั้นปี 1 จ๊ะ  เอาละ ............. ต่อไปนี้คือสิ่งต่างๆที่พวกเธอควรจะรู้นะจ๊ะ  สิ่งแรกที่พวกเธอควรจะรู้คือ  ทางเราจะแบ่งนักเรียนออกเป็น 3 ห้องด้วยกัน  ห้องละ 6 คน  ซึ่งสำหรับนักเรียนที่เข้ามาได้โดยการสอบ  ความสามารถส่วนตัวนั้น ทางเราจะให้อยู่ห้องเดียวกันนะค่ะ  ส่วนที่เหลืองอีก  12 คนนั้นเราจะดูตามความเหมาะสมค่ะ  ส่วนสีนั้น เราจะให้จับกันตั้งแต่ตอนแบบห้องเลยนะค่ะ  เนื่องจากว่า ชุดที่พวกเธอจะต้องสวมนั้นจะเป็นชุดของสีค่ะ  วิธีการเรียนนั้นเราจะเรียนรวมกันทั้งหมดนะค่ะ  ส่วนห้องพักนั้นเราจะแบบไว้อยู่ที่ตกตามสีนะจ๊ะ .................. สิ่งที่พวกเธอควรจะรู้มีเท่านี้  มีใครสงสัยอะไรไหมจ๊ะ  เด็กๆ “    ไม่มีตอบรับใดๆเกิดขึ้น  ทุกคนต่างพากันนั่งเงียบ  “ ถ้าไม่มีใครสงสัยแล้วละก็ ................ “ เธอหันกลับไม่มองหน้าเด็กหนุ่มคนหนึ่ง  เค้าสวมสุดเสื้อคลุมที่เป็นสีขาว  และเน็ตไท้สายสะก๊อตสีดำแดง  ผมเค้านั้นเป็นผมรองทรงยาวที่ถูกหวีไว้อย่างเป็นระเบียบ  ซึ่งไม่อาจจะบอกสีของผมนั้นได้ชัดเจน เนื่องจากบรรยากาศภายในที่ทำให้ไม่สามารถบอกสีผมกลับสีตาของเค้าได้ชัดเจน  เธอพูดอะไรบางอย่างกลับเด็กคนนั้น ก่อนที่เค้าจะพยักหน้ารับ  และเดินออกมายังจุดที่มิเควยืนอยู่ 
            “ สวัสดีครับ  ครอบครัวคนใหม่ของ D.S.S. ทุกคน  ผม  อเล็กท์  วินดิเคม  เป็นประทานของท่นี้ครับ  ผมรู้ศึกเป็นเกียตรอย่างยิ่งที่ได้รู้จักกับพวกเธอทุกๆคน และหวังว่าพวกเธอจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกลับวพวกเราได้อย่างสงบสุข  ใครที่มีปัญหาอะไรสามารถถามพี่ได้เลยนะครับ  ผมจะให้ปรึกษาได้ทุกเมื่อ  สุดท้ายนี้ขอให้สมาชิคให้ทุกคนของ D.S.S. มีความสุขกลับบ้านแห่งใหม่นี้นะครับ  ขอบคุณครับ “  เค้าโครงลงเล็กน้อย มีเสียงปรบมือเล็กๆดังขึ้นหลังจากที่เค้ากล่าวจบ 
            “ เอาละค่ะ  ต่อไปเราจะปราการว่าใครได้อยู่ห้องไหนกันบางนะค่ะ  เอาละ เริ่มจาก  ห้อง  แรก  คาฟาร์เรน  ชาร์มอนซ์  , ครีม  คอเรีย  ,  เชอรี่  จิแรน  ,  รอย  กรอนแรน  ,  นานาเซีย  เจอเรีย  ค่ะ  ขอให้ทุกคนที่เรียกมานี้ออกมาพบกลับ อาจารย์  ซีแกรน  พาร์วแวม  ด้วยนะจ๊ะ  “  เธอกล่าวพร้อมกลับผายมือไปทางอาจารย์คนหนึ่ง เธอเป็นหญิงร่างสูงโปร่ง ผมดัดรอนของเธอนั้นยาวจนเกิบจะถึงพื้น  ดวงตาโตของเธอนั้นอยู่ภายใต้แว่นตาโตๆที่โตกว่าของชาร์มอนซ์หลายเท่านั้นดูหนามากเสียจนเกิบจะ 1 ซม.  เธอนั้นแต่งตัวดูรกรุงรัง เพราะมีอะไรต่างๆมากมายติดตามตัวของเธอ  ดูเพินๆแล้วราวกลับเป็นคนสติไม่เต็มยังไงยั้งงั้น 
          “ ห้องต่อไปนะค่ะ  เป็นเหล่านักเรียนที่ผ่านมาด้วยการสอบความสามารถเพราะตัวค่ะ  เชิญตามท่านอาจารย์  แดน  รอเรน   ไปนะค่ะ “ เธอฝายมือไปทางอาจารย์คนหนึ่ง ซึ่งคนๆนั้นก็คือ อาจารย์ที่คุมสอบของคานาเรียนั้นเอง  นักเรียนทั้งหมดลุกออกไปจนเกิบหมด ที่เหลืออยู่นั้นมีเพียงพวกเค้านั้นเอง  นั้นก็แสดงว่า ..................
          “ และห้องสุดท้าย เคน  ฟาโน้  ,  ฮันห์    ชามัล  , โซล  มอติฟาร์ย  ,  เมจิฮาร์น  ควิชเชอร์  , ฟรีเดล  ฟอร์เรนซ์  และ  คานาเรีย  มอติฟาร์ย    ค่ะ ขอให้ตามอาจารย์ ไลท์ รีเเล็กซ์ไปแล้วกันนะค่ะ “  รอยยิ้มเล็กๆนั้นออกมาจากมุมปากของแต่ละคน ( ยกเว้น เมจิฮาร์นที่ยังคงนั่งเหม่อ )  ดวงตาทั้ง 4 คู่ ( ไม่รวมของเมจิฮาร์น และฮันห์ ) ต่างจองมองซึ่งกันและกัน
          “ อะ ลืมบอกไปค่ะ  สำหรับนักเรียนที่อยู่การดูแลของ อาจารย์  ซีแกรน  พาร์วแวม  นั้นจะอยู่สี แดงนะค่ะ ส่วนของอาจารย์  แดน  รอเรน  นั้นอยู่สีดำ และท้ายสุด ของอาจารย์ ไลท์  รีเเล็กซ์นั้นเป็นสีขาวค่ะ  เอาละค่ะ ขอให้ท่านอาจารย์เชิญพบปะทำความรู้จักกับนักเรียนขอท่านกันเป็นเวลา 10 นาทีนะค่ะ  แล้วก็พาไปยังยานรับส่งนักเรียนด้วยนะค่ะ  “  แสงสีขาวได้สาดส่องเข้ามายังห้องอีกครั้ง  กลุ่มของอาจารย์ แดน รอเรน นั้นพากันออกกันไปก่อน  ตามไปด้วยกลุ่มของอาจารย์  ซีแกรน  พาร์วแวม 
            “ เอาพวกเธอ  ไปกันได้แล้วมั่ง  ถ้าช้ามากๆจะถูกทำโทษนะทุกคน ........... “ เสียงสดใสของอาจารย์ขี้เล่นอย่าง ไลท์  รีเเล็กซ์ ดังขึ้น ทำให้ทุกๆคนรู้สึกตัว ( ยกเว้นเมจิฮาร์นที่กำลังถูกโซลสะกิตให้กลับมาจากอาการเหม่อลอย )  แล้วพากันออกเดินตามหลังของเค้าออกไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มเปลี่ยมบนใบหน้าของทุกๆคน ( ยกเว้นฮันห์ กลับเมจิฮาร์น ) 
   
        + + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + +
ตอนต่อไป  โรงเรียนลึกลับ D.S.S.  การเรียนวันแรกของที่นี้  กลับรางร้ายที่ไม่มีใครรู้ .................
                                                                                                                                      โปรดติดตามตอนต่อไปนะค่ะ
              “ เอาละ การสอบของเรานั้นจะสอบแบบการต่อสู้แบบตัวต่อตัว “  หา ?  การทดสอบแบบตัวต่อตัวเนี้ยนะ    ดวงตาสีแดงสดเปิกก้าวขึ้นมาทันทีที่อาจาร์ยหนุ่มผมเขียวนั้นกล่าวขึ้นท่ามกลางกลุ่มนักเรียนราว 60 คน นี้เค้าจะต้องมาต่อสู้กับคนที่เค้าไม่รู้จักเนี้ยอานะ
            /  เอาไง จะทำได้หรอ ...........  ชั้นจะทำได้หรอ ......... ชั้นเนี้ยนะ .............. ชั้น ........ / ในขณะที่ภายในหัวของเคนนั้นมีเพียงคำถามเดียวเท่านั้น  แต่คำถามนั้นมันกลับทำให้หัวของเค้ารกเต็มไปหมด ยังไม่ทันที่เคนจะได้คำตอบจากคำถามที่เค้าคิดขึ้นมาจนทำให้หัวนั้นมึนตึบๆ 
            “ เอาผู้หญิงก่อนดีกว่า “  ไลท์  รีเเล็กซ์  นั้นบ่นพึมพัมกลับตัวเองโดยที่ไม่มีใครได้ยินสิ่งที่เค้าบ่นอยู่เลย  ตอนนี้ทุกๆคนต่างพากันหวาดวิตกกังวัลกับการสอบครั้งนี้ ซึ่งรวมทั้งตัวของเคนด้วย  จะมีก็เพียง 2 3 คนเท่านั้นที่ดูท่าราวกับว่าเค้าไม่รู้สึกอะไรเลยแม้นแต่น้อย 
              “  กรีน  คลอเรีย  กับ  ฟาเรน  ครามเรน  ออกมาแสดงตัวหน่อยเร็วสาวๆ  “  อาจารย์ไลท์ นั้นกล่าวเรียกชื่อทั้งสองสาวออกมาอย่างหน้าชื่นตาบาน  ในขณะที่สองสาวที่ออกมานั้นดูมีสีหน้าที่ตรงกันข้ามกับไลท์โดยสินเชิง  “ กรีน  คลอเรีย คนไหนครับ สองสาว “  สาวน้อยคนผมดำยาวสลวยคนหนึ่งยกมือขึ้นอยากประมาท  เธอมีผิวสีคลำๆ ดวงตาโตคู่สวยนั้นมีสีม่วงอ่อน ซึ่งตัดกับชุดวันพีชสีเหลืองของเธอไม่ใช้น้อย  ไลท์พยักหน้าเป็นเชิงรับทราบ ก่อนที่จะหันไปทางเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงกันข้ามซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก  “ ส่วนเธอก็ ........ ฟาเรน  ครามเรน .. ? “  เด็กสาวพยักหน้า เธอมีผมยาวประบ่าสีส้มอ่อนที่ดูแสบตาไม่น้อย กับ ดวงตาสี เขียวอ่อนที่ดูไม่เป็นธรรมชาติแบบของ คานาเรีย  ดูราวกับว่าเธอกำลังจะไปเดินแฟชั่นโชวที่ไหนสักแห่งต่อจากการสอบครั้งนี้เป็นแน่  เธอนั้นสวมชุดเกาะอกสีฟ้า กับกระโปร่งสีขาวที่ดูเข้ากันอย่างสวยงาม กับร้องเท้าสีดำที่เคนเข้าใจว่ามันหน้าจะเป็นร้องเท้าปูทรุ่นใหม่ที่ใส่ซิปลงไป และตัวร้องเท้าที่ดูเงางามต่างจากร้องเท้าปูทที่เค้าเคยเห็น  อาจารย์ไลท์นั้นจับมือของทั้งสองสาวยกขึ้นมาจับกันและกัน  ทำให้ทั้งสองสาวหน้าแดงเล็กน้อย ผสมกับอาการงงที่กำลังตามมา  “ ทำความรู้จักกันไว้ซิ สองสาว “ อาจารย์ไลท์หันไปยิ้มกับสาวน้อยทั้งสองอย่างมีเล่ในบางอย่าง  “ อา ..... ชั้น กรีน ......ยะ ...... ยินดีที่ได้รู้จัก ........ “  สาวน้อยผิวคลำเป็นคนกล่าวทักทายคนแรก เธอยิ้มให้กับฟาเรนอย่างเขินๆอายๆ  ส่วนฝ่ายรับเองก็เช่นกัน  “  อา... ชั้น ฟาเรน  .... ฝากตัวด้วยนะ .... “  ไม่นานนัก อาจารย์ไลท์ก็ให้สันณาบอกว่าให้เริ่มสู้กัน  ไม่นานนัก ผลก็ออกมา  กรีนเป็นฝ่ายชนะ  เธอใช้มีดสั่นที่เธอพกมาไว้ใต้กระโปร่งเป็นอาวุธ ซึ่งดูเหมือนกับว่าเธอจะยังใช้มันแถบไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ  ส่วนฟาเรนนั้นใช้วิชาป้องกันตัวซึ่งดูจะไม่เป็นผลซักเท่าไร  แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้ฟาเรนแพ้ นั้นก็คือ การที่มีดสั่นของ กรีน ไปทำเล็บอันงดงามของเธอหันนี้ละ  ไลท์สายหน้าเล็กน้อยหลังจากที่ผลการประลองออกมา ก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆแต่กลับทำให้ทุกๆคนภายในอุโมงได้ยินกันชัดเจน  “  ไม่ผ่าน  เอาละคนต่อไป ............... “  มีคนออกไปสอบเลื่อยๆ  และก็ยังไม่มีคนผ่านซักคน ถึงแม้นยังมีบางคนที่เคนและหลายๆคนในที่นั้นคิดว่าเก่งมากๆแล้วนั้นก็ยังไม่ผ่าน  เนื่องจากว่าฝีมือยังไม่ดีพอ  มันทำให้เคนยิ่งไม่มันใจกลับการสอบครั้งนี้เข้าไปกันใหญ่  ไม่นานนัก ..............
            “ เคน  ฟาโน้  ปะทะ  ฮันห์    ชามัล ........ “ ไลท์นั้นยังคงสนุกกับการเรียกชื่อเด็กออกไปยืนตรงหน้าเค้าที่ละ 2 คน  เค้าสะดุ้งเล็กน้อยกลับเสียงของไลท์  เค้าค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินก้าวออกไปอย่างช้าๆ  ทั้งๆที่มันใช้เวลาแค่ไม่กี่วิ แต่มันช่างดูยาวนานรวมนาทีเลยสำหรับเคน  เด็กหนุ่มที่เค้าจะต้องเจอด้วยนะเป็นเด็กหนุ่มหน้าสวยที่พกดาบ 2 อันไคว้กันไว้ด้านหลัง  ผมยาวสีฟ้าอ่อน ที่ถูกรวบรัดไว้ด้วยยางสีขาว  ใบหน้านั้นดูเกรียงเกราราวกับเป็นลูกผู้ดี  มีเด็กนักเรียนหญิงบางคนถึงกับตกตะลึงเมื่อพบกับเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า บางคนถึงกับเป็นลมไปเลยก็มี  ดวงตาสีฟ้าที่เย็นราวน้ำแข็งนั้นจองมองมายังตัวเค้าที่ยินดูเบื่องหน้า ทำเอาขนเคนลุกขึ้นมาเลยทีเดียว    “ ชั้น .........  เคน  ฟาโน้  ยินดีที่ได้รู้จัก “ เคนนั้นเป็นฝ่ายเริ่มทักทายเป็นคนแรก  ไม่มีการตอบรับใดๆกลับมาจากเด็กหนุ่มหน้าสวยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเค้าเลย  “ เออ .............. “ เคนงงเล็กน้อยกับการกระทำของเค้า  คิ้วทั้งสองข้างนั้นขยับเข้ามาชิดกันจนเกิบจะชน  “ หวัดดี  ..........  ช่วยทำให้มันสนุกหน่อยละ ........... “ น้ำเสียงที่ดูเย็นยะเยือก กับดวงตาสีแสนจะเย็นชา มันทำให้เคนเริ่มรู้สึกว่า  “ ชั้นไม่ถูกกับหมอนี้เลย “  ไม่นานไลท์ก็เริ่มให้สัญญาณเริ่มการทดสอบ 
              สิ้นเสียงของไลท์  จุดที่เด็กหนุ่มหน้าสวยยืนอยู่ ณ กลับว่างเปล่า / หลัง / สันชาติตะยานบอกเค้าว่ามีคนที่คิดจะทำร้ายเค้าจากด้านหลัง  เคนกระโดขึ้นอยู่เหนือฟ้าช่วยเวลาหนึ่งที่ ฮันห์ใช้ดาบยาวด้านขวาที่อยู่ด้านหลังของเค้าออกมาฟันตัวเคนด้วยความรวดเร็ว  “ หลบใช้ได้นี้ “ ฮันห์ยังคงบอกเคนด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง  ไม่นานฮันห์ก็หายตัวไปจากตรงนั้นอีกครั้ง และไปปรากฎร่างอีกครั้ง ณ ตรงหน้าของเคน  เคนใช้มือทั้งสองข้างขึ้นมาหนีบดาบไว้ด้วยความรวดเร็ว และคงทน  ตัวของเคนสั่นเล็กน้อยกับแรงดึงดาบของฮันห์  ดาบยาวของฮันห์เองก็เช่นกัน  แขนอับบองบางทั้งสองข้างสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะดึงดาบออกอย่างสุดแรง บวก กับถอยออกไปตั้งหลักอีกครั้ง  “ นายมันขี้โกงนี้หว่า  นายใช้อาวุธ และชั้นละ “ เคนตะโกนบอกร่างบางด้วยเสียงที่เข้มแข็ง ที่มากลับอาการหอบหน่อยๆ  “ ฮิ  นั้นซินะ เดียวนายจะหาว่าขี้โกง  ......... “  เสียงเย็นตอบกลับมา  มืออันเรียวบางนั้นค่อยๆเก็บดาบไปไว้ด้านหลัง ให้มันกลับเข้าไปอยู่ในฝักตามเดิน ยังไม่ทันที่ฮันห์จะเก็บดาบเสร็จ เค้าก็หายไปจากจุดนั้นอีกแล้ว  คราวนี้เคนเองก็เช่นกัน ทั้งสองต่างฝ่ายต่างใช้ตัวเข้าสู้กับอีกฝ่าย  เคนนั้นดูจะบาทเจ็บเล็กน้อย กลับ ฮันห์ที่ดูไม่ค่อยจะบาทเจ็บมากนัก แต่กลับมีอาการหอบที่มากกว่าเคนหลายเท่า  เคนใช้เท้าซ้ายทีบตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศอีกครั้ง  พร้อมกลับท่าที่เตรียมจะลงมาทีบฮันห์อย่างเต็มกำลัง  ฮันห์เองก็กระโดขึ้นฟ้าตามเคนไปเช่นกัน และมันก็เป็นเวลาที่สวนทางกันกับเคน  ฮันห์นั้นหลบลูกเตะของเคนได้อย่างชิวเชียด  ก็ที่จะค่อยๆวางเท้าทั้ง 2 ลงบนพื้นอย่างช้าๆ  ยังไม่ทันที่ฮันห์จะว่างเท้าทั้งสองข้างลงบนพื้นได้สนิทดีนัก เคนก็บุกเค้าใส่ร่างบางด้วยความรวดเร็ว จนทำให้ฮันห์แทบจะตั้งตัวไม่ทันเลยที่เดียว 
            “ พอแล้วทั้งสองคน  .................. “ เคนต้องถึงกับหยุดฉะยังอยู่ตรงนั้น เมื่อเสียงที่ดูกวนๆของไลท์ดังขึ้น  ก่อนที่เจ้าของดวงตาสีแดงนั้นจะค่อยๆหันหน้ากลับไปยังตรงเสียง  ด้วยความตรงใจ  ซึ่งต่างกับฮันห์ที่สีหน้ายังคงไม่ต่างไปจากเดิม จะต่างก็คงตรงใบหน้าสวย ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อเท่านั้น 
            “  อาไรหรอฮะ .......... อาจารย์ รีเล็กซ์  ............. “  เคนถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ดูท่าทางไม่ค่อยจะมันใจเท่าไรนัก  ไลท์จะมองทั้งสองคนอย่างยิ้มๆก่อนที่จะพูดออกไปว่า
            “ พวกเธอ สอง คน  ผ่าน ........! !!!!! “  เสียงภายในห้องนั้นดังสนั่น  มีหลายๆคนพากันโปกมือโปกไม้ให้กลับพวกเค้า  ดวงตาสีแดงสดนั้นค่อยๆหันกลับไปมองกับร่างบางที่อยู่ข้างๆ  ดวงตาสีฟ้าอ่อนที่เย็นยะเยือกนั้นก็จองมาที่เค้าเช่นกัน  “ เก่งใช้ได้นี้นานายนะ ........... 55+  “  เคนยิ้มให้กลับฮันห์ที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นอย่างร่าเริงจนทำให้เห็นฟันสีขาวของเค้า    “ นายมันอ่อน .......... คราวหน้าก็ทำให้ชั้นสนุกหน่อยแล้วกัน .............. “    ไม่มีอะไรที่ดูหน้ายินดีตอบกลับมาจากร่างบางเลยแม้นแต่น้อย  ฮันห์หันหลังให้เคนก่อนที่จะเดินจากไปอย่างช้าๆ  “ นายนี้มัน .... !!!!!!!!!! “ เคนถึงกลับเคืองเล็กน้อยกลับคำพูดของฮันห์  แต่ความรู้สึกที่โกรธเคืองทั้งหมดนั้นก็ได้หายไปจากดวงใจ  เมื่อเค้าแอบไปเห็นรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากของฮันห์ ก่อนที่เค้าจะยิ้มออกมาหน่อยๆโดยไม่รู้ตัว  “ เอาไว้สู้กันใหม่วันหลังที่ D.S.S. นะ ...............  ฮันห์    ชามัล “ 
      + + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + +
            ทางด้านของโซลนั้นต้องเจอกับเรื่องหนักๆอยู่ไม่ใช้น้อย  ถึงแม้นเค้าจะไม่ต้องมาประลองอะไรต่างๆให้เจ็บตัวก็ตาม  แต่สิ่งที่เค้าจะต้องทำนั้นมันก็ไม่ได้หนักหนาน้อยไปกว่าการสอบของเคนเลย  ดีไม่ดี การสอบของเค้านั้นอาจจะยากลำบากกว่าการสอบของเคนมากนัก  ข้อสอบ พันกว่าข้อกับเวลา 1 ชั่วโมง  เวลาที่แสนจะยาวนานสำหรับโซลได้ค่อยๆผ่านไปอย่างยากลำบาก  ทั้งๆที่เป็นเวลาที่หลายๆคนอยากจให้มันหมดไปเร็วๆ แต่สำหรับโซลนั้น เค้าไม่ยากจะให้เวลาที่เสียงของออดหมดเวลาดังขึ้นเท่าไรนัก  ไม่นานนัก สิ่งที่เค้ากลัวมันก็เป็นจริงเมื่อเวลาผ่านไป 60 นาที
            ออออออออออด เสียงของออดดังขึ้นทำรายความเงียบที่เกิดขึ้นร่วม 60 นาที  เสียงของสาวร่างท้วมผมซอยสั่นสีดำนั้นดังขึ้นหลังจากที่เสียงของออดหมดไปไม่นานนัก
            “ เอาละ ทุกคน ขอให้ว่างปากกาลงบนโต๊ะ แล้วเดินออกมาส่งกระดาษคำตอบ ส่วนข้อสอบนั้นวางไว้ที่โต๊ะ  .................. เบอร์ 1 “  โซลค่อยๆว่างปากาของทางโรงเรียนไว้บนโต๊ะ เค้าพึ่งจะสังเกตุเห็นปากกาด้ามนั้น มันเป็นปากกาด้ามสีทองเกิบทั้งด้าม  จะมีเพียงสีเงินขึ้นมาแสมอยู่ตรงกลางด้ามเล็กน้อยเท่านั้น บนตัวด้ามนั้นสลักอักษรย่อไว้ว่า D.S.S.  โซลรู้ได้ถึงทันที่ว่าปากกาด้ามนี้นั้นเป็นทองคำแท้ทั้งด้าม  มันอาจจะเป็นเรื่องปกติ เพราะของแบบนี้ที่บ้านของเค้าก้อมี  แต่สิ่งที่ต่างออกไปนั้นก็คือ ปากกาด้ามนี้มีด้วยกันกว่า 100 ด้าม และทั้งกว่า 100 ด้ามก็เป็นแบบเดียวกันหมด  เป็นทองคำทั้งหมด เค้าแอบคิดไว้ว่าถ้าหากมีใครที่แอบหยิบปากกาด้ามนี้กลับก็คงจะเอาไปขายได้หลายตังค์เลยที่เดียว   
              “ เบอร์  26 ..... “ โซลลุกขึ้นพร้อมกลับเดินเอากระดาษคำตอบกว่า 10 แผ่นของเค้าออกไป  เค้าพึ่งจะนึกขึ้นมาได้อีกครั้ง  .......... ข้อสอบกว่า พันข้อนั้นเค้าทำเสร็จทั้งหมดก็จริง แต่ ........ ความมั่นใจว่ามันจะถูกนั้นแถบจะไม่มีเอาเสียเลย  หลังจากที่เค้าส่งกระดาษคำตอบคืนให้กลับอาจารย์ร่างท้วมแล้วก็ค่อยๆกลับมานั่งลงที่โต๊ะท้ายห้องข้างหน้าต่างตัวเดิม 
                ในระหว่างที่รอการตรวจคำตอบนั้นโซลค่อยๆนั่งทบทวนสิ่งที่เค้าสอบไปกว่าพันข้อ  สิ่งที่เค้านั้นแถบจะเป็นเรื่องที่ไม่มีในโรงเรียนทั่วๆไปแถบทั้งสิ้น  มีทั้งคำถามที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธต่างๆนานา คำถามเกี่ยวกลับภาษาต่างๆ ทั้งอัคระโบราณ ทั้งภาษาอะไรต่างๆมากมายที่เค้าแถบจะไม่เคยรู้จัก  ในขณะที่ดวงตาสีเหลืองดั่งทองคำของเค้ากวาดไปรอบๆ เค้าพึ่งจะเห็นว่ารอบๆตัวของเค้านั้นเต็มไปด้วยความอึมครึม ทุกๆคนต่างพากันเครียดกลับคำตอบของแต่ละคน  ซึ่งดูอาการแล้วนั้นหนักกว่าเค้าหลายเท่าตัวนั้น  เวลาที่หลายๆคนรอคอยก็ถึงเสียที  อาจารย์ผู้คุมสอบนั้นค่อยๆเดินเข้ามาจากด้านนอก  พร้อมกลับกระดาษแผ่นเล็กๆใบหนึ่ง เธอค่อยๆเดินมาจนถึงจุดที่หน้าจะเป็นจุดกลึ่งกลางของหน้าห้อง  เธอค่อยๆยกมือที่ค่อนข้างจะอ้วนนั้นขึ้นมาอย่างช้าๆ พร้อมกลับกระดาษแผ่นเล็กๆใบนั้น 
          “  เบอร์  49  คาฟาร์เรน  ชาร์มอนซ์ ......................... “ เด็กหนุ่มร่างเล็กคนหนึ่งยืนขึ้นอย่างกระสับกระสาย  บนใบหน้าอันขาวสะอาดของเค้านั้นมีจุดสีแดงๆขึ้นอยู่ประปราย  เค้านั้นไว้ผมรองทรงสั่นๆสีดำ ดวงตาตี่ๆภายหลังแว่นตาทรงกลมที่ใหญ่เบ้อเริ้มนั้นมีสีดำเข้มซึ่งเค้ากันกลับผมได้เป็นอย่างดี  อาจารย์นั้นเรียกชื่อเค้าอีกครั้ง ราวกลับว่าไม่เห็นว่าบุคคลที่เค้าเรียกนั้นยืนขึ้นตั้งนานแล้ว  ชาร์มอนซ์ตัดสินใจยกมือขึ้น ก่อนที่จะจับแว่นให้เข้ากันกลับใบหน้า โซลเองก็พอจะรู้แล้วละว่าทำไมอาจารย์ถึงได้มองไม่เห็นชาร์มอนซ์  เพราะว่าไม่ว่าเค้าจะยืนหรือนั่งมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลยนั้นเอง  แล้วอาจารย์ก็เริ่มเรียกชื่อคนต่อไป
          “ เบอร์ 16  ..... เมจิฮาร์น  ควิชเชอร์    ............. “ ไม่การตอบรับใดๆทันสิ้น  เสียงเรียกเบอร์ 16 นั้นดังขึ้นอีกครั้ง  ดวงตาสีเหลืองทองนั้นพยายามจะหาเจ้าของหมายเลขเบอร์ 16 เพราะเค้าแบบคิดไว้ว่าเบอร์ 16 นั้นคงจะตัวเล็กแบบชาร์มอนซ์  “ เมจิฮาร์น !!!! “ การเรียกชื่อของเค้านั้นดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงนั้นมันดังขึ้นมากจนทำให้นักเรียนหลายๆคนพากันยกมือขึ้นมาอุดที่หู  เด็กชายท่าทางเฉื่อยแฉะคนหนึ่งถึงกลับลุกขึ้นพรวดอย่างตกใจ เค้ามีผมซอยยาวยุ่งๆสีขาว  ดวงตาดูเหม่อลอยนั้นมีสีเทาซึ่งเข้ากันเป็นอย่างดีกลับสีผม  “ อะ ..... ครับ ...... “ เสียงต่ำทุ้มๆนั้นตอบรับการขานเรียก  กิริยาของเค้านั้นทำให้โซลอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กๆ ( ถึงแม้นปกติเค้าจะยิ้มอยู่ตลอดก็ตาม )  แต่กลับไม่มีใครหัวเราะหรือยิ้มกลับกิริยาของเมจิฮาร์นเลยแม้นแต่น้อย บรรยาการภายในห้องนั้นดูอึมครึมยิ่งกว่าเก่าเมื่อเค้าลองหันไปมองคนรอบตัว 
         
            “ และคนสุดท้าย .................... “  โซลถึงกลับตกใจเล็กน้อย มีคนสอบผ่านแค่ 3 คนเองหรือ  ภายในใจของเค้านั้นห่อเหี่ยวลงอย่างช้าๆ  / ไม่ใช้ชั้นแน่นอน  ลาก่อนนะ  เคน ...... คานาเรีย /  ในขณะที่ภายในใจอันห่อเหี่ยวของเค้านั้นคิดสิ่งต่างๆนานา เริ่มทบทวนคำตอบทั้งหมดเท่าทีคิดได้อย่างรวดเร็วว่าตัวเองทำได้มากน้อยเพียงใด  และ คนสุดท้ายที่ผ่านก็คือ  “  เบอร์ 26 ................ โซล  มอติฟาร์ย  “ เค้าถึงกลับสะดุ้งตัวเล็กน้อย เมื่อรายชื่อของผู้สอบผ่านคนสุดท้ายดังขึ้น  เค้าค่อยๆยืนขึ้นอย่างประมาณ  “ ครับ ...... “ 
           
            “ เอาละ ผู้ที่สอบผ่านของปีนี้มีด้วยกันสามคน  ขอให้ออกมาข้างนอกด้วย  ............... “  ชาร์มอนซ์นั้นค่อยๆเดินออกมาจากที่นั่งของเค้า  และเดินมายังจุดที่อาจารย์ร่างท้วมยืนอยู่อย่างรวดเร็ว  ส่วน เมจิฮาร์นนั้นยังคงส่งสายตาออกไปนอกหน้าต่าง จนทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆทนไม่ไหวจนต้องสะกิดเค้าให้ออกไป  เมื่อโซลเห็นว่าคนอื่นๆออกไปกันครบแล้วเค้าจึงเดินตามออกไป
       
            “ เอาละ .............. ที่เหลือขอให้กลับกันไปได้แล้ว  ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ  เอาไว้มาแก้ตัวใหม่แล้วกัน  “  มีหลายๆคนถึงกลับน้ำตาไหล  หลายๆคนต่างๆพากันลุกขึ้นอย่างหมดแรงก่อนที่จะเดินออกไป  อาจารย์นั้นเรียกให้ทั้งสามเดินตามเค้าไปยังห้องเล็กๆห้องหนึ่ง  ........................
          + + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + +
          ทางด้านของคานาเรียนั้นสอบเสร็จไปเป็นที่เรียบร้อย  เธอสอบเป็นคนแรกของกลุ่ม สิ่งที่เธอจะต้องทำนั้นก็คือการจับสิ่งๆหนึ่งที่อาจารย์ปล่อยออกมาจากกล่องเล็กๆสีดำให้ได้  สิ่งที่เธอจะต้องไปเอามานั้น อาจารย์เรียกมันว่า “ อาร์ราคาเซีย “ มันเป็นวัตถุกลมๆขนาดเล็ก  มันมีสีฟ้าใส่ ซึ่งแถบจะมองทะลุออกไปได้  หลังจากที่อาจารย์บอกให้เริ่มจับมันนั้น  มันก็หายวับไปในทันที แล้วไปอยู่อีกที่ตรงด้านกลังของเธอ  อย่างรวดเร็ว เธอใช้เวลาอยู่ราว 5 นาทีกว่าจะจับ อาร์ราคาเซียที่มีความเร็ว 100 กิโลเมตร ต่อ 1 ชั่วโมงสำเร็จ  มีหลายๆคนต่างๆปรบมือให้กลับเธอ  บางคนก็โปกไม้โปกมือแสดงความดีใจกลับเธอ  เธอคิดว่าการจับอาร์ราคาเซียนั้นไม่ได้ยากเย็นเท่าไรหนัก  คงเป็นเพราะการฝึกฝนจากทางบ้านละมั้ง    และสิ่งที่เธอสนใจมากที่สุดก็คือ เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูคล้ายๆกลับทอมบอยหน่อยๆ ผมยาวสีน้ำตาลเข็มของเธอนั้นถูกรวมรัดไว้ที่ด้านหลังอย่างรวกๆ  ดวงตาของเธอนั้นมีสีฟ้าอ่อนๆจนเกิบจะเป็นสีขาว  ดูๆแล้วเธอก็ไม่ได้มีจุดที่หน้าสนใจเท่าไร เพราะชุดที่เธอใส่นั้นก็เป็นชุดเสื้อยืดสีขาวที่ถูกเสื้อคลุม( แบบมีหมวก ) สีเขียวทับเอาไว้ กับกางเกงยีนธรรมดาๆ  แต่สิ่งที่ทำให้คานาเรียสนใจนั้นคงจะเป็นความเร็วที่เร็วเหนือลมของเธอ  เธอนั้นสามารถจับอาร์ราคาเซียที่มีความเร็ว 100 กิโลเมตร ต่อ 1 ชั่วโมงได้อย่างสบายๆ  โดยใช้เวลาในการจับอาร์ราคาเซียนั้นเพียง  1 นาทีเท่านั้น  หลังจากสอบเสร็จเธอพบว่ามีคนสอบผ่านเพียงแค่  4 คนเท่านั้น  มีชาย 2 คน และ หญิง 2 คนซึ่งผู้หญิงที่เธอสนใจนั้นก็สอบภานมาในเวลาที่น้อยที่สุดด้วย  คานาเรียสังเกตุว่าคนที่สอบผ่านั้นคือคนที่สามารถจับอาร์ราคาเซียได้ในเวลาไม่เกิน 7 นาทีทั้งนั้น 
          “ ฮา ฮา ฮา ผ่านมาเคย 4 คนเองนะ “ เสียงใสๆดังขึ้นจากด้านหลังของเธอในขณะที่พวกเค้าทั้ง 4 กำลังเดินตามอาจารย์คนนั้นไป  เมื่อคานาเรียหันหลังกลับไปหาเจ้าของเสียงนั้นเธอก็พบกลับสาวน้อยทอมบอยคนนั้น  เค้ายิ้มตอบมาให้เธออย่างอ่อนโยน
          “ หวัดดี .... ชั้น ฟรีเดล  ฟอร์เรนซ์ ยินดีที่ได้รู้จัก เออ...........  “ 
          “ ชะ  ......... ชั้น คานาเรีย  มอติฟาร์ย  ยะ ..... ยินดีที่ได้รู้จัก  ........ “ 
          “ ถ้าเราได้อยู่ห้องเดียวกันคงจะดีซินะ  คานาเรีย  “  เธอพูดอย่างยิ้มๆ ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าใส่ของเธอนั้นจะมองขึ้นไปมองเหล่าก้อนเมฆที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าสีคราม  ทำให้คานาเรียรู้สึกว่าเธอนั้นคุยด้วยง่ายกว่าที่คิด
            “ นั้นซินะค่ะ .................... “  ดวงตาสีเขียวมรกตนั้นค่อยๆมองดูเหล่าก้อนเมฆที่อยู่บนฟ้าตามดวงตาสีฟ้าใสนั้นไป
            และแล้วพวกเธอก็มาถึงห้องๆหนึ่ง  มันเป็นห้องเล็กๆสีเทา  มีเก้าอี้ 18 ตัว ว่างอยู่ตรงกลางตรงห้อง เธอพบว่ามีคนมานั่งอยู่ก่อนแล้ว 6 คน คานาเรียมองกวาดสายตาไปรอบๆราวกลับกำลังหาอะไรบางอย่าง  อาจารย์ที่คุมการสอบของพวกเค้านั้นบอกกับพวกเค้าว่าให้ไปนั่งตรงเก้าอี้ที่จัดไว้กลางห้อง  ในขณะที่ดวงตาสีเขียวมรกตนั้นกวาดสายตามองรอบๆนั้น เธอก็พบว่า มันเป็นห้องมืดๆที่มีเพิ่งแสงสว่างจากหน้าต่างบานเล็กๆสาดแสงลงมาได้เท่านั้น  ภายในห้องนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากเก้าอีก 18 ตัว ที่ถูกจัดไว้เป็น 3 แถว แถวละ 6 ที่นั่ง  กลับเหล่าคนกลุ่มหนึ่งที่สวมชุดแบบเดี่ยวกันกับอาจารย์ผู้คุมสอบเธอ  ไม่นานนัก  แสงจากทางด้านหลังของเธอนั้นก็สว่างมาขึ้น  พร้อมกลับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เค้ามาใหม่  ชายหนุ่มผมรองทรงยาวสีเขียวเดินเข้ามาพร้อมกลับเหล่าเด็กๆที่เดินตามหลังเค้าเข้ามาอีก 5 คน ดวงตาสีเขียวมรกตนั้นเปิดออกกว้างเมื่อเหล่าเด็กๆเดินเข้ามาถึง และเธอก็พบกลับเด็กชายผมยุ่งๆสีน้ำเงินเข้ม กลับดวงตาแดงสดคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของพี่ชายเธอ และเป็นคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี  เคน  ฟาโน้  จนเธอส่งรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากนั้นออกไปอย่างไม่รู้ตัว  ดวงตาสีแดงสดนั้นจองมองไปรอบๆตัวจนพบกลับสาวน้อยผมยาวในชุดกิโมโน  ดวงตาคู่นั้นเบิกกว่าขึ้นกว่าเก่า  คานาเรียส่งยิ้มที่ดูสดใสไปให้เคน จนทำให้เคนอดยิ้มตอบกลับไปไม่ได้ 
            “ คา ............. “ ยังไม่ทันที่เคนจะเรียกสาวน้อยได้เต็มชื่อ  มือเล็กๆของชายหนุ่มรู้งามที่อยู่ข้างๆก็สะกิดตัวเค้าไว้  ราวกลับว่ากำลังจะเตือนอะไรบางอย่าง  ซึ่งเคนรู้ตัวดี  ไลท์บอกกลับเหล่าเด็กๆทั้ง 5 คนของเค้าว่าให้ไปนั้นที่เก้าอีก  เคนรีบเดินสาวเท้าอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะได้นั่งข้างๆคานาเรีย  แต่ก็มีชายร่างสูงใหญ่แย่งที่ไปได้เสียก่อน  “ อะ .......... “ ยังไม่ทันที่เคนจะพดจบ ดวงตาสีม่วงนั้นก็แพ่งมองเคนอย่างอาฆาตเสียแล้ว  ดวงตาสีเขียวมรกตนั้นสงประกายเศร้าเล็กน้อยเมื่อเคนนั้นต้องไปนั่งในที่ๆห่างไกลออกไป
            “ ชี ................... “ 
            ไม่นานนักหลังจากที่พวกขงเคนเข้ามา  ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง กลุ่มนักเรียนกลุ่มสุดท้ายก็ได้เข้ามา  ดวงตาสีเขียวและสีแดงสดนั้นเบิกกว้างขึ้นพร้อมกันกับร้อยยิ้มที่เจ้าตัวทั้งสองคนแอบยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อสายตานั้นไปพบกลับเด็กหนุ่มร่างบางที่มีดวงตาสีเหลืองดังทองคำ  / โซล ............. /  โวลนั้นเลือกที่จะนั่งตรงหลังของเคน  ซึ่งมีเด็กหนุ่มที่ดูท่าทางจะไม่ได้สนใจอะไรเลยนั่งอยู่ข้างๆตรงหลังของฮันห์ 
              “ ผ่านมาจนได้นะ  นายนะ  ฮิ ฮิ  คานาเรียก็ด้วยซินะ  ดีจริงๆ ฮิ ฮิ ..... “ เสียงเบาๆราวกลับกระซิบดังขึ้นจากด้านหลังของเคน  ชายหนุ่มนั้นไม่ได้ตอบอะไรกลับไปนอกเสียจากเสียงหัวเราะเล็กๆที่ได้ยินเพียงพวกเค้าทั้ง 2 คน 
              หลังจากที่นักเรียนกลุ่มสุดท้ายมาถึง  บรรยาการภายในห้องก็มืดลงอย่างเห็นได้ชัด ความหนาวเย็นได้แผ่ซ่านพาตัวของแต่ละคน 
              “  ขอแสดงความยินดีกลับผู้ที่สอบผ่านทุกคนค่ะ  “ เสียงที่คุนเคยดังขึ้นจากทางด้านหน้า เสียงนั้นเป็นของหญิงสาวที่ยืนพูดตอนที่พวกเค้าอยู่สนามหลวงนั้นเอง
              “ ต่อไปนี้พวกเธอคือครอบครัวของ D.S.S. แล้วละค่ะ  เอาละ ดิฉันคือ มิเคว  เมร่า  เป็นอาจาร์ยสอนพวกเธอในชั้นปี 1 จ๊ะ  เอาละ ............. ต่อไปนี้คือสิ่งต่างๆที่พวกเธอควรจะรู้นะจ๊ะ  สิ่งแรกที่พวกเธอควรจะรู้คือ  ทางเราจะแบ่งนักเรียนออกเป็น 3 ห้องด้วยกัน  ห้องละ 6 คน  ซึ่งสำหรับนักเรียนที่เข้ามาได้โดยการสอบ  ความสามารถส่วนตัวนั้น ทางเราจะให้อยู่ห้องเดียวกันนะค่ะ  ส่วนที่เหลืองอีก  12 คนนั้นเราจะดูตามความเหมาะสมค่ะ  ส่วนสีนั้น เราจะให้จับกันตั้งแต่ตอนแบบห้องเลยนะค่ะ  เนื่องจากว่า ชุดที่พวกเธอจะต้องสวมนั้นจะเป็นชุดของสีค่ะ  วิธีการเรียนนั้นเราจะเรียนรวมกันทั้งหมดนะค่ะ  ส่วนห้องพักนั้นเราจะแบบไว้อยู่ที่ตกตามสีนะจ๊ะ .................. สิ่งที่พวกเธอควรจะรู้มีเท่านี้  มีใครสงสัยอะไรไหมจ๊ะ  เด็กๆ “    ไม่มีตอบรับใดๆเกิดขึ้น  ทุกคนต่างพากันนั่งเงียบ  “ ถ้าไม่มีใครสงสัยแล้วละก็ ................ “ เธอหันกลับไม่มองหน้าเด็กหนุ่มคนหนึ่ง  เค้าสวมสุดเสื้อคลุมที่เป็นสีขาว  และเน็ตไท้สายสะก๊อตสีดำแดง  ผมเค้านั้นเป็นผมรองทรงยาวที่ถูกหวีไว้อย่างเป็นระเบียบ  ซึ่งไม่อาจจะบอกสีของผมนั้นได้ชัดเจน เนื่องจากบรรยากาศภายในที่ทำให้ไม่สามารถบอกสีผมกลับสีตาของเค้าได้ชัดเจน  เธอพูดอะไรบางอย่างกลับเด็กคนนั้น ก่อนที่เค้าจะพยักหน้ารับ  และเดินออกมายังจุดที่มิเควยืนอยู่ 
            “ สวัสดีครับ  ครอบครัวคนใหม่ของ D.S.S. ทุกคน  ผม  อเล็กท์  วินดิเคม  เป็นประทานของท่นี้ครับ  ผมรู้ศึกเป็นเกียตรอย่างยิ่งที่ได้รู้จักกับพวกเธอทุกๆคน และหวังว่าพวกเธอจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกลับวพวกเราได้อย่างสงบสุข  ใครที่มีปัญหาอะไรสามารถถามพี่ได้เลยนะครับ  ผมจะให้ปรึกษาได้ทุกเมื่อ  สุดท้ายนี้ขอให้สมาชิคให้ทุกคนของ D.S.S. มีความสุขกลับบ้านแห่งใหม่นี้นะครับ  ขอบคุณครับ “  เค้าโครงลงเล็กน้อย มีเสียงปรบมือเล็กๆดังขึ้นหลังจากที่เค้ากล่าวจบ 
            “ เอาละค่ะ  ต่อไปเราจะปราการว่าใครได้อยู่ห้องไหนกันบางนะค่ะ  เอาละ เริ่มจาก  ห้อง  แรก  คาฟาร์เรน  ชาร์มอนซ์  , ครีม  คอเรีย  ,  เชอรี่  จิแรน  ,  รอย  กรอนแรน  ,  นานาเซีย  เจอเรีย  ค่ะ  ขอให้ทุกคนที่เรียกมานี้ออกมาพบกลับ อาจารย์  ซีแกรน  พาร์วแวม  ด้วยนะจ๊ะ  “  เธอกล่าวพร้อมกลับผายมือไปทางอาจารย์คนหนึ่ง เธอเป็นหญิงร่างสูงโปร่ง ผมดัดรอนของเธอนั้นยาวจนเกิบจะถึงพื้น  ดวงตาโตของเธอนั้นอยู่ภายใต้แว่นตาโตๆที่โตกว่าของชาร์มอนซ์หลายเท่านั้นดูหนามากเสียจนเกิบจะ 1 ซม.  เธอนั้นแต่งตัวดูรกรุงรัง เพราะมีอะไรต่างๆมากมายติดตามตัวของเธอ  ดูเพินๆแล้วราวกลับเป็นคนสติไม่เต็มยังไงยั้งงั้น 
          “ ห้องต่อไปนะค่ะ  เป็นเหล่านักเรียนที่ผ่านมาด้วยการสอบความสามารถเพราะตัวค่ะ  เชิญตามท่านอาจารย์  แดน  รอเรน   ไปนะค่ะ “ เธอฝายมือไปทางอาจารย์คนหนึ่ง ซึ่งคนๆนั้นก็คือ อาจารย์ที่คุมสอบของคานาเรียนั้นเอง  นักเรียนทั้งหมดลุกออกไปจนเกิบหมด ที่เหลืออยู่นั้นมีเพียงพวกเค้านั้นเอง  นั้นก็แสดงว่า ..................
          “ และห้องสุดท้าย เคน  ฟาโน้  ,  ฮันห์    ชามัล  , โซล  มอติฟาร์ย  ,  เมจิฮาร์น  ควิชเชอร์  , ฟรีเดล  ฟอร์เรนซ์  และ  คานาเรีย  มอติฟาร์ย    ค่ะ ขอให้ตามอาจารย์ ไลท์ รีเเล็กซ์ไปแล้วกันนะค่ะ “  รอยยิ้มเล็กๆนั้นออกมาจากมุมปากของแต่ละคน ( ยกเว้น เมจิฮาร์นที่ยังคงนั่งเหม่อ )  ดวงตาทั้ง 4 คู่ ( ไม่รวมของเมจิฮาร์น และฮันห์ ) ต่างจองมองซึ่งกันและกัน
          “ อะ ลืมบอกไปค่ะ  สำหรับนักเรียนที่อยู่การดูแลของ อาจารย์  ซีแกรน  พาร์วแวม  นั้นจะอยู่สี แดงนะค่ะ ส่วนของอาจารย์  แดน  รอเรน  นั้นอยู่สีดำ และท้ายสุด ของอาจารย์ ไลท์  รีเเล็กซ์นั้นเป็นสีขาวค่ะ  เอาละค่ะ ขอให้ท่านอาจารย์เชิญพบปะทำความรู้จักกับนักเรียนขอท่านกันเป็นเวลา 10 นาทีนะค่ะ  แล้วก็พาไปยังยานรับส่งนักเรียนด้วยนะค่ะ  “  แสงสีขาวได้สาดส่องเข้ามายังห้องอีกครั้ง  กลุ่มของอาจารย์ แดน รอเรน นั้นพากันออกกันไปก่อน  ตามไปด้วยกลุ่มของอาจารย์  ซีแกรน  พาร์วแวม 
            “ เอาพวกเธอ  ไปกันได้แล้วมั่ง  ถ้าช้ามากๆจะถูกทำโทษนะทุกคน ........... “ เสียงสดใสของอาจารย์ขี้เล่นอย่าง ไลท์  รีเเล็กซ์ ดังขึ้น ทำให้ทุกๆคนรู้สึกตัว ( ยกเว้นเมจิฮาร์นที่กำลังถูกโซลสะกิตให้กลับมาจากอาการเหม่อลอย )  แล้วพากันออกเดินตามหลังของเค้าออกไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มเปลี่ยมบนใบหน้าของทุกๆคน ( ยกเว้นฮันห์ กลับเมจิฮาร์น ) 
   
        + + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + ++ + + + + +
ตอนต่อไป  โรงเรียนลึกลับ D.S.S.  การเรียนวันแรกของที่นี้  กลับรางร้ายที่ไม่มีใครรู้ .................
                                                                                                                                      โปรดติดตามตอนต่อไปนะค่ะ

เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น