ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicSJ Yaoi] Bleeding Love [KyuHae/HyukMin or EunHae/KyuMin]

    ลำดับตอนที่ #2 : BleeDiNg LovE 2 :: Lovers

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 53


    Title : BleeDiNg LovE
    Pairing : KyuHae or EunHae Ft.Sungmin
    Author : dandora
    Rating : PG-13
    Author note : ฮ่าๆๆๆ อ่านคอมเมนต์ตอนที่แล้วแล้วมีความสุข อยากให้รีดเดอร์เดากันล่ะว่าสรุปแล้วไรเตอร์จะเอายังไง จะทำให้มันเหมือนกับ Last Friends จริงๆ หรือเปล่า หรือจะฉีกออกไปเป็นอีกแนวเลย
    ไม่บอก ปล่อยให้เดาดีกว่า ฮี่ๆๆ






    BleeDiNg LovE


    Part 2 [Lovers]








    “น่ารักจัง... แต่... มันจะดีเหรอครับพี่มินจี”

    ถึงปากจะเอ่ยออกมาด้วยความเกรงใจ แต่หัวใจของลีซองมินก็เต้นตุบๆ เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ตั้งแต่ร่างเล็กเหยียบย่างเข้ามาในบ้านเช่าขนาดเล็กแต่ร่มรื่นน่าอยู่อย่างประหลาดที่ซ่อนตัวอยู่ภายในย่านพักอาศัยใจกลางเมือง ดวงตากลมโตกวาดมองไปจนทั่วตั้งแต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างลายเถาดอกไม้เล็กๆ บริเวณประตูวงกบไปจนถึงผนังอิฐดิบทาสีขาวบ่งบอกสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของสถาปนิกที่เข้าได้เป็นอย่างดีกับเฟอร์นิเจอร์เรียบๆ แบบโมเดิร์นของอินทีเรียดีไซน์
    เอาเข้าจริงแล้วซองมินตกหลุมรักบ้านเล็กๆ สีขาวหลังนี้ตั้งแต่พี่สาวแอร์โฮสเทสที่รู้จักกันดีกึ่งลากกึ่งจูงให้มาดูสถานที่ถึงหน้าบ้านในวินาทีแรกด้วยซ้ำ


    “จะไม่ดีได้ไงล่ะ มินนี่จะได้ช่วยพี่จ่ายค่าเช่าไง”
    กลายเป็นว่าคนที่ไม่แคร์อะไรเลยกลับเป็นหญิงสาวร่างสูงโปร่งที่เดินทอดน่องตามร่างเล็กมาด้วยท่วงท่าสบายๆ มากกว่า คำพูดไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเธอเรียกดวงตากลมโตให้ตวัดฉับไปมองเจ้าของใบหน้าสวยคม ก่อนฝ่ายอ่อนวัยกว่าจะถอนหายใจยาว


    “ปัญหามันไม่ใช่เรื่องนั้นนะพี่มินจี...” ซองมินได้แต่เหนื่อยใจเพราะความไม่คิดอะไรเลยของพี่สาวคนสนิท “พี่เป็นผู้หญิงนะ จะมาอยู่บ้านเดียวกันกับผู้ชายสองต่อสองมันไม่แปลกๆ เหรอครับ...”

    จองมินจียักไหล่พลางหันมามองซองมินด้วยสีหน้าแปลกๆ แบบที่เด็กหนุ่มพอจะรู้ว่าพี่สาวคนสวยของเขามักชอบทำในตอนที่เกิดเรื่องอะไรที่เธอคิดว่างี่เง่ามากๆ

    “งั้นยิ่งไม่ใช่ปัญหาเข้าไปใหญ่” หญิงสาวพูดพลางระบายเสียงหัวเราะร่วน ริมฝีปากบางเคลือบลิปสติกสีนู้ดแสนเซ็กซี่กระตุกยิ้มนิดๆ โดยเฉพาะเมื่อดวงตาหวานๆ คู่นั้นพินิจมองใบหน้าซองมินซ้ำไปมา “ไม่มีใครคิดว่านายเป็นผู้ชายทั้งแท่งหรอกซองมินนี่ อยู่บ้านหลังเดียวกับนายปลอดภัยจะตาย ฮี่ๆๆ”


    “พี่มินจี!!!”


    “ฮ่าๆๆๆ พี่ล้อเล่น ซองมินของพี่แมนจะตายเนอะ” ซองมินไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่สาวของเขากำลังคิดแบบนั้นจริงๆ ถึงไม่ชอบใจนักซองมินก็คงต้องยอมรับว่าเพราะความเอ็นดูล้วนๆ เลยที่ทำให้จองมินจีทำตัวเหมือนพี่สาวแท้ๆ ของเขาไปแล้วทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่ถึงสามเดือนด้วยซ้ำ
    ซองมินพบกับจองมินจีพี่สาวพนักงานต้อนรับประจำสายการบิน Korean Air คนสวย ตั้งแต่เข้ามาทำงานเป็นสไตลิสต์ประจำของนิตยสาร Bazaar Korea ผ่านการแนะนำของพี่ๆ ในกองบก.ที่ชอบลากเด็กใหม่น่ารักน่าเอ็นดูอย่างเขาไปดื่มด้วยเป็นประจำ ซองมินกับมินจีสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว... จนกระทั่งซองมินไปล่วงรู้ความลับของพี่มินจีเข้า...


    เด็กหนุ่มเบ้ปากเมื่อฝ่ามือบางของพี่มินจีวางลงบนหัวไหล่เขาก่อนจะบีบเบาๆ ราววอนขออะไรบางอย่าง

    “เราก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเดือนนึงพี่กลับมาบ้านนี้แค่ครั้งสองครั้งพอไม่ให้น่าเกลียดเท่านั้นแหละ แต่จะไม่เช่าทิ้งไว้ก็ไม่ได้... เราเองก็กำลังหาห้องใกล้ๆ ออฟฟิศอยู่ไม่ใช่เหรอ ตรงนี้น่ะเพอร์เฟ็คแล้วนะ เดินไม่ถึงห้านาทีก็ถึงสถานีรถไฟ...”

    “แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหานะพี่มินจี... ผมว่า... เอ่อ... ที่พี่จะย้ายไปอยู่กับเขาน่ะ...” ร่างเล็กยังไม่สามารถอธิบายความคิดของตัวเองออกมาได้จบประโยคด้วยซ้ำ กลับกลายเป็นว่าฝ่ายสูงวัยกว่ารีบฉวยโอกาสตัดบทอย่างรวดเร็วด้วยการบีบไหล่เด็กหนุ่มแรงๆ พลางส่งสายตาอ้อนวอนแกมบังคับราวกับรู้ว่ามันสามารถสะกดให้คนใจอ่อนอย่างลีซองมินไม่สามารถปฏิเสธคำขอร้องใดๆ ได้
    “ถือว่าช่วยพี่เถอะนะซองมิน ย้ายเข้ามาช่วยพี่ดูแลบ้านนี้หน่อยเถอะนะ พี่ไว้ใจแค่เราเท่านั้นนะ”



    สุดท้ายซองมินก็ขัดพี่มินจีไม่ได้อยู่ดี เด็กหนุ่มได้แต่ถอนหายใจเบาๆ พลางใช้ปลายนิ้วเขี่ยสร้อยแขนเส้นเล็กที่หลุดลงมาห้อยอยู่หลังมือไปมา




    ::~::~::~::~::~::~::~:: Bleeding Love ::~::~::~::~::~::~::~::




    ตั้งแต่จำความได้ ลีฮยอกแจคิดว่าสิ่งที่เขาชอบที่สุดในโลกใบนี้รองจากการเต้นก็คือ... รอยยิ้มของทงเฮ

    และตอนนี้เพื่อนรักของเขากำลังยิ้ม.... เป็นรอยยิ้มที่โคตรจะสดใสในสายตาของฮยอกแจเสียด้วย ดังนั้นฮยอกแจจึงได้แต่บอกตัวเองให้มีความสุขซะ ถึงแม้ว่าทงเฮจะกำลังยิ้มระหว่างอธิบายเรื่องราวสรรพเพเหระของคนรักของตัวเองให้ฮยอกแจฟังทั้งๆ ที่มันไม่เห็นจะเกี่ยวกับเพื่อนอย่างเขาสักนิดก็ตาม
    แหงสิวะ... ผู้ชายชื่อคยูฮยอนที่ทงเฮกำลังพูดถึงมันอาจจะเพิ่งได้บรรจุเข้าเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย แล้วมันช่วยให้เขารวยขึ้นมั้ย... ไม่สักนิด
    โอเค ผู้ชายชื่อคยูฮยอนคนนั้นอาจจะกวนประสาทไปนิดในบางครั้ง แต่โดยมากแล้วเป็นคนน่ารักขี้อ้อน แต่มันเกี่ยวกับผู้ชายทื่อๆ ซ้ำยังเอาใจใครไม่เป็นอย่างฮยอกแจตรงไหนไม่ทราบ
    แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงนั่งฟังทงเฮไปเรื่อยๆ อิริยาบถน่ารักๆ ของเพื่อนสนิทยังคงเหมือนเมื่อสองปีก่อนตอนที่พวกเขามานั่งพูดคุยเรื่องความรักอยู่ที่สนามเด็กเล่นเล็กๆ แห่งนี้ไม่มีผิด ไม่ว่าเมื่อไหร่... ลีฮยอกแจคนนี้ก็อยากให้ทงเฮยิ้ม
    ถึงแม้มันอาจจะไม่ใช่รอยยิ้มเพื่อเขาก็ตาม


    ในที่สุด... ริมฝีปากบางของแดนเซอร์หนุ่มก็เผยรอยยิ้มออกมาเช่นกัน เขาตกลงใจแล้วว่าจะสวดภาวนาขอให้คนๆ นี้มีความสุขยิ่งกว่าใคร
    นั่นสินะ ถ้าคนที่ชื่อคยูฮยอนอะไรนั่นทำให้ทงเฮยิ้มได้สวยขนาดนี้ เพื่อนอย่างเขาก็ควรจะสนับสนุนหมอนั่นใช่ไหมล่ะ


    “ทงเฮมีความสุขใช่มั้ย”


    คำถามที่จู่ๆ ก็โพล่งขึ้นมาทำให้ทงเฮช้อนตาขึ้นมองหน้าฮยอกแจงงๆ ครู่หนึ่ง ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างพลางพยักหน้าเร็วๆ เหมือนเด็กตัวเล็กๆ แน่นอนว่ามันก็ทำให้อีกฝ่ายหัวใจพองโตตามไปด้วย “อื้อ... มากๆ เลยล่ะ”


    “เหรอ... ดีแล้วล่ะ ชั้นดีใจกับนายด้วยจริงๆ นะ”


    ฮยอกแจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาตบบ่าทงเฮไปแรงแค่ไหน แต่คนตัวเล็กไม่ได้แสดงทีท่าว่าเจ็บสักนิด เพื่อนรักของเขาพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะโถมตัวโผเข้ากอดเขาแรงๆ จนร่างผอมบางของฮยอกแจเกือบหงายหลังตกม้านั่ง



    แบบนี้อาจจะดีแล้วก็ได้
    นั่นสินะ... แบบนี้ดีที่สุดแล้วล่ะลีฮยอกแจ



    “อย่าลืมโทรมานะ เอาไว้คราวหน้าไปกินข้าวกัน ชั้นมีเรื่องอยากโม้กับนายอีกเยอะแยะเลย”
    ทงเฮหันมาตะโกนเสียงดัง พลางชูโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่เจ้าตัวได้ทำการเซฟเบอร์โทรของฮยอกแจลงไปเรียบร้อยแล้วให้เพื่อนตัวผอมดู ก่อนจะหันกลับไปวิ่งทั่กๆ ไปขึ้นแท็กซี่ด้านนอกด้วยเหตุผลว่าต้องรีบไปหาคนรักที่รอทานข้าวเย็นอยู่ที่ห้อง ปล่อยให้ฮยอกแจได้แต่เดินเตะปลายเท้าไปตามทางเดินเพียงคนเดียว ท่ามกลางแสงสุดท้ายของดวงตะวันที่ใกล้อัศดงลงไปทุกที




    ::~::~::~::~::~::~::~:: Bleeding Love ::~::~::~::~::~::~::~::




    จวนจะสองทุ่มแล้ว...

    ดวงตาคมกริบของโจวคยูฮยอนปรายมองนาฬิกาติดผนังก่อนก้มลงมองชามสลัดกลางโต๊ะอาหารและจานสเต็กเนื้อสันรวมไปถึงแก้วไวน์เปล่าที่ชายหนุ่มเป็นคนจัดวางเอาไว้อย่างละสองชุดอย่างเรียบร้อย

    เกือบชั่วโมงเต็มแล้วที่ของทั้งหมดถูกวางทิ้งเอาไว้... ไม่มีวี่แววการปรากฏตัวของทงเฮทั้งที่ตนตัวเล็กออกปากด้วยตัวเองว่าจะมาถึงก่อนทุ่มตรงด้วยซ้ำ



    คยูฮยอนขบริมฝีปาก ฝ่ามือเพรียวสั่นระริกราวมิอาจควบคุม
    แม้ชายหนุ่มจะพยายามหลับตาลงสะกดอารมณ์ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติเพียงไร ความพลุ่งพล่านในหัวใจกลับพุ่งระอุขึ้นทุกวินาที คยูฮยอนบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ แม้เขาจะโทรหาคนตัวเล็กไม่รู้กี่ครั้งแล้วตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้วเพียงเพื่อจะพบกับความจริงที่ว่าไม่มีการตอบกลับจากปลายสาย



    ทำไมทงเฮต้องผิดคำพูด... ทำไม... ทำไมวะ!!!

    คยูฮยอนรู้สึกว่าร่างทั้งร่างเริ่มสั่นจนไม่อาจระงับได้อีกต่อไป เขาคงต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อหยุดมัน... หากในเสี้ยววินาทีก่อนที่ปลายนิ้วเรียวสั่นระริกจะเอื้อมไปแตะแจกันแก้วบรรจุกุหลาบขาวกลีบแข็ง เสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังก้องปลุกสติที่เลื่อนลอยของคยูฮยอนให้กลับคืนสู่ห้วงสัมปชัญญะอีกครั้ง



    ทงเฮ?
    ร่างสูงโปร่งลุกพรวดราดสาวเท้าออกจากครัวแพนทรีเล็กๆ ตรงไปยังประตูหน้าห้อง ตาแมวเบื้องหน้าบ่งบอกให้ดวงตาคมกริบได้รู้ว่าร่างเล็กที่ยืนกระวนกระวายอยู่ภายนอกคือคนที่เขาคาดหวังจริงๆ
    ความตื่นเต้นดีใจที่หล่อรื้นขึ้นมาเพียงชั่วเสี้ยววินาทีทำให้คยูฮยอนสามารถแปรเปลี่ยนสีหน้าจากเคร่งขรึมมาเป็นแย้มรอยยิ้มได้อย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้งเมื่อฝ่ามือเพรียวผลักประตูเปิดออกไป


    “คยูฮยอน ขอโทษน้า!!! วันนี้คนที่ร้านเยอะมากๆ เลย รอโอกาสตั้งนานกว่าจะปลีกตัวออกมาได้” ร่างเล็กเบื้องหน้าอ้าแขนพุ่งเข้ากอดคยูฮยอนแน่น ใบหน้าเล็กๆ ไซ้ไล้กับแผ่นอกแข็งแรงขณะริมฝีปากบางพร่ำคำอธิบายที่ดูเหมือนจะตอบข้อสงสัยก่อนหน้าของอีกฝ่ายได้หมดสิ้น “พอดีปิดเสียงโทรศัพท์เอาไว้ตั้งแต่เช้าแล้วก็ลืมไปเลย มาเห็นมิสคอลของคยูฮยอนอีกทีก็ตอนจะขึ้นลิฟต์แล้ว ไม่โกรธนะคยูฮยอนนะ... นะ... น้า~”


    ใจจริงแล้วชายหนุ่มก็อยากจะถามกลับไปเหมือนกันอยู่หรอกว่ารู้ทั้งรู้ว่าวันนี้พิเศษแค่ไหน แล้วทำไมไม่จัดการธุระให้เสร็จอย่างที่รับปากไว้แต่แรกล่ะ แต่เขาก็ทำไม่ได้... น้ำเสียงออดอ้อนของร่างเล็กที่ยังคงซุกใบหน้ากับอกเสื้อเขาชวนให้ยอมอภัยให้กับทุกอย่าง
    นั่นสินะ... แค่ทงเฮยอมมาค้างกับเขาก็ดูเหมือนคนตัวเล็กจะทุ่มเทให้เขามากพอดูแล้ว เพราะตั้งแต่คบกันมาเกือบหนึ่งปีเต็มๆ คยูฮยอนก็พอจะรู้ว่าโดยปกติแล้วการที่เด็กคิดมากอย่างทงเฮจะยอมปล่อยให้แม่อยู่ที่ห้องเช่าคนเดียวนั้นมีโอกาสแทบจะเท่ากับศูนย์ด้วยซ้ำ

    แต่คนโลภอย่างเขาไม่หวังเพียงแค่มาค้างคืนสองคืนหรอก... คยูฮยอนอยากให้ทงเฮมาอยู่กับเขา ใช้ชีวิตกับเขาตลอดไปมากกว่า
    และเขาจะต้องทำให้ได้ด้วย




    “ไม่โกรธแล้วล่ะ แต่... ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ”

    น้ำเสียงทุ้มหวานปนเสียงหัวเราะในประโยคหลังที่ริมฝีปากอิ่มก้มลงกระซิบข้างใบหูนุ่มเรียกดวงตากลมโตให้ตวัดมองเจ้าของใบหน้าคมที่เอาแต่ยิ้มกริ่มอย่างมีเลศนัยทันที

    “คยูฮยอนเจ้าเล่ห์ ไม่เอาหรอก... นายต้องขออะไรที่มันแย่ๆ อีกแน่ๆ” ทงเฮบ่นอู้พลางพองแก้มงอนๆ ในตอนนี้ร่างเล็กผละจากคนตัวสูงกว่าก้าวมาทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวยาวกลางห้องอย่างถือวิสาสะไปเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้คยูฮยอนมองตามด้วยรอยยิ้ม ก่อนร่างโปร่งจะสาวเท้าตามมาตวัดลำแขนโอบรอบร่างเล็กเอาไว้หลวมๆ จากด้านหลัง เรียวคางแหลมกดวางลงเหนือหัวไหล่มน ก่อนเสียงทุ้มจะเปรยแผ่วเบา


    “ใจร้ายจังเลย... ทงเฮใจร้ายมากๆ เลย รู้ตัวหรือเปล่า”


    “ถ้าใจร้ายก็ปล่อยสิ ไม่ต้องมากอดด้วย” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ร่างเล็กก็ยังคงนั่งนิ่งปล่อยให้อุณหภูมิอุ่นร้อนจากร่างสูงโปร่งถ่ายทอดผ่านผิวกายขาว ความอบอุ่นที่ทงเฮลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยไขว่คว้าจากใครสักคนมานานแค่ไหน... สัมผัสแผ่วเขาจากกลีบปากอิ่มที่ไล้พรมรสจูบเหนือผิวแก้มชวนให้รู้สึกดีไม่น้อย แต่ทงเฮก็ปากแข็งเกินกว่าจะยอมรับ เรียกรอยยิ้มจางให้กระตุกเหนือมุมปากอิ่ม คยูฮยอนกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่าง... แต่เขาสัญญากับตัวเองไปแล้วว่าจะไม่มีวันปล่อยคนๆ นี้ไปจากอ้อมแขนโดยเด็ดขาด


    “ไม่ปล่อยหรอก... ต่อให้ใจร้ายแค่ไหนก็จะกอดเอาไว้แบบนี้แหละ”



    โธ่เอ๊ย เล่นพูดแบบนี้แล้วชั้นจะไปไหนได้ล่ะคยูฮยอน...






    End of [Lovers].


    To be continue in BleeDiNg LovE.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×