มีคนมากมาย พยามหาหลักฐานมายืนยันสิ่งที่ตัวเองกำลังจะปักใจ ว่าตัวเองจะไม่โดนหลอก
เป็นกลไกการป้องกันตัวเองอยู่แล้วตามธรรมชาติ
คนที่สงสัยในพระเจ้า เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ก็พยามหาหลักฐาน เพราะกลัวว่าการเชื่อพระเจ้า จะถูกมองว่าเป็นคนโง่.....
ถ้าการเชื่อพระเจ้าไม่ได้เป็นการถูกมองว่าฉลาด จะไม่เชื่อเด็ดขาด ...ตกนรกช่างมันขอดูดีไว้ก่อน กินไม่ได้แต่เท่ ..ถึงตกนรกก็ขอเท่และดูดีดูเหมือนว่าฉลาดไว้ก่อน..........
...................
๐ในทุกวันนี้ก็ยังมีคนเคยพบพระเจ้ามากมายครับ เป็นคนจำนวนมากด้วย ในรูปแบบต่างๆกัน มีแม้กระทั่งเผชิญหน้าแบบเฟซทูเฟซ
หลักฐาน?
ถ้าสมมุตผมบอกว่าผมเคยปีนเอเวอเรสมาแล้ว
คุณเชื่อผมมั้ยล่ะ
หลักฐาน? รูปถ่าย? ใบรับรองจากสถาบันที่มีคนรับรอง? ร่องรอยในที่เกิเหต? ความน่าเชื่อถือ?
ถ้ามีคนบอกว่าอีกด้านนึงของดวงจันทร์เป็นยังงั้นยังงี้นะ
คุณเชื่อมั้ยล่ะ ทั้งๆที่ชีวิตนี้คุณก็ไม่เคยเห็นว่าเป็นยังไงเพราะดวงจันทร์จะหันเพียงด้านเดียวเข้าหาโลก
หลักฐาน?
ณ เวลาที่คุณยังไม่ได้หลักฐานเรื่องนี้
ก็ไม่ได้แปลว่าอีกด้านของดวงจันทร์จะไม่ได้เป็นอย่างที่นักดาราศาสตร์บอกนี่ครับ
และถึงเขาเอาภาพถ่ายมาให้คุณดู
คุณก็แค่มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายเฉยๆ คุณก็ยังแค่อยู่ในระดับที่เรียกว่า\"ความเชื่อ\"อยู่ดี
พระเจ้า
เมื่อพระเจ้ามีจริง
คุณคิดว่าจะมีอะไรหรือใคร หรือสรรพสิ่งไดๆ บันทึกพระเจ้าได้เหรอ
หลักฐานจะมีกับคนที่ได้เจอเท่านั้นครับ เชื่อไม่เชื่อเป็นสิทธิของท่าน
แต่พระเจ้ามีจริงนั้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับว่าท่านจะเชื่อไม่เชื่อ พระเจ้าไม่ได้มีจริงก็ต่อเมื่อท่านเชื่อ
โลกกลมอยู่แล้วโดยไม่ต้องรอมาถามว่าท่านเชื่อมั้ยว่าโลกกลม
-------------
อีกแนวคิดนึงคือ
พระเจ้าเป็นสิ่งสมมุติที่คนอ่อนแอสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
ใครเชื่อพระเจ้าแสดงว่าอ่อนแอ ไร้สาระ พึ่งพาไม่ได้?
คนเก่งต้องพึ่งพาตัวเองสถานเดียว? ไม่พึ่งใคร?
มีมนุษย์ตัวไหนมั้ยครับ สักตัวหนึ่ง โตขึ้นมาได้โดยไม่ต้องให้ใครเลี้ยงมัน?
มีมนุษย์ตัวไหนมั้ยครับ อยู่ในสังคมได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น
พึ่งพาตัวเองเท่านั้น ก็แสดงว่าต้องพึ่งทุกๆกรณี ถ้ามีพึ่งพาคนอื่นแม้แต่กรณีเดียว
คำว่าพึ่งพาตัวเองเท่านั้น ก็เป็นเท็จทันที ก็คือคนที่ปากบอกปาวๆว่า ฉันเก่ง ฉันแน่ ฉันสอนตัวเองได้ใครอย่าแสลนมาสอนเชียวนะ จะวางมาดคนฉลาดไฟลนเท้าแล้วด่ากลับ .....คนที่บอกว่าฉันไม่ต้องพึ่งใครทั้งนั้น กำลังโกหกตัวเองแน่นอน
----------
พระเจ้าเป็นแค่สิ่งสมมุติ?....
๐ถ้าผมบอกว่าคนที่สอนพวกเราถึงการดำเนินชีวิตในโลกเน่าๆใบนี้ และช่วยเหลือให้พวกเรามีอำนาจเหนือสิ่งชั่วร้ายทุกชนิดคือพระเยซูล่ะครับ
สอนกันแบบตัวต่อตัวเลย ไม่ต้องผ่านตำรา
พระเยซูที่คนคิดว่าเป็นแค่มนุษย์นั่นล่ะ
พระเยซูที่คนคิดว่าตายไปแล้วนั่นล่ะ
พระเยซูที่คนคิดว่าเป็นแค่ศาสดาของศาสนานั่นล่ะ
พระเยซูที่เป็นพระเจ้านั่นล่ะ
สุดท้ายก็ลงเอยในความจริงที่ว่า พระเจ้ามีจริงอยู่ดี
ทำไมผมถึงสามารถระบุได้ว่าคนที่คอยช่วยเหลือผมคือพระเยซูจริงๆ ไม่ใช่แค่การนึกไปเองจนเป็นตัวเป็นตน
นั่นเพราะ\"ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน\"
ปฏิบัติการได้เหนือระบบวิทยาศาสตร์
เหนือไสยศาสตร์ทุกชนิด
เหนือเทพ เหนือเซียน เหนือเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขา เหนือผี เหนือเจ้าพ่อเจ้าแม่ทุกๆตัว
เหนือกว่าแม้กระทั่งพญามารที่คนคิดว่าเป็นแค่กิเลส เป็นแค่นามธรรม
วิทยาศาสตร์เป็นสิ่งสัมผัสและรับรู้ง่ายที่สุดแล้ว
ก็ในเมื่อพระเยซูท่านปฏิบัตการได้เหนือระบบวิทยาศาสตร์ให้เห็นต่อหน้าต่อตา ใครยังเถียงก็บ้าแล้วครับ
--------------------------------------------
ผมใช้เวลาค้นหาความจริงเกือบสิบปี
และค้นหาพระเจ้าอีกระยะหนึ่ง
กว่าจะได้พบว่าอะไรเป็นอะไร
ขอพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์อวยพระพรให้ทุกๆท่านบรรลุสัจธรรม และค้นพบความจริงโดยไวครับ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น