ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : รักตามใจ - - ตอนที่ 1 ปฐวีร์
“ ขอบคุณมากเลยครับ ถ้าไม่ได้คุณ ผมคงแย่แน่ๆเลย “ ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำเข้ม กล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม
“ ไม่เป็นไรค่ะ หน้าที่ของพลเมืองดีค่ะ “ หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงกิจกรรมที่ได้เพิ่งทำมาเมื่อสักครู่นี้
“ ผมว่า ผมขอเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อนึงเป็นการตอบแทนแล้วกัน  นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วด้วย “ ชายหนุ่มเสนอขึ้น
“ ขอบคุณมากค่ะ แต่วันนี้ชั้นต้องขอโทษจริงๆ ชั้นมีธุระด่วนต้องรีบไป ชั้นขอตัวก่อนนะค่ะ  แท็กซี่ !!! “ ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มในชุสูทสีดำเข้มจะพูดอะไร หญิงสาวที่ช่วยเหลือเขาไว้เมื่อสักครู่นี้ก็อันตรธานหายไปกับแท็กซี่สีเขียวเหลืองคันนั้นเสียแล้ว
“ ว้า น่าเสียดายจัง ยังไม่ทันรู้จักชื่อเลยแฮะ “ ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง
“ พี่ เดี๋ยวจอดที่หน้าบริษัทข้างหน้าเลยนะ เอานี่ ไม่ต้องทอนนะ “ หญิงสาวรีบควักเงินจากกระเป๋ากางให้คนขับรถ  พร้อมกับหยิบกระเป๋าเป้ใบโตขึ้นมาสะพายอย่างลวกๆ
ช่วงเวลาตอนเช้าแบบนี้ ลิฟท์มีคนใช้มากมายเหลือเกิน  หญิงสาวผู้มาใหม่จึงตัดสินใจวิ่งไปใช้บันไดหนีไฟแทน
“ เอาก็เอา แม้จะเป็นชั้น 10 ก็ยอม “
สวมวิญญาณนักกีฬาบางสมัยเรียนมหาวิทยาลัย  หญิงสาวใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็มาถึงยังชั้นที่ 10  แต่ก็เลยเอาหญิงสาวดูโทรมไปถนัดตาเลยทีเดียว
“ อ้าว  ยัยวีร์ นึกว่าวันนี้จะมาไม่ทันเสียอีก “ เสียงหญิงสาวที่สูงวัยกว่าดังขึ้น
“ แหม พี่สมรก็  ถ้าวันนี้วีร์มาสายอีกล่ะก็  มีหวังวีร์ได้ออกไปเดินเตะฝุ่นแหงๆเลย “ หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ
“ พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละจ่ะ  แต่บางที บอสอาจจะไม่กล้าไล่น้องวีร์ออกหรอกนะจ๊ะ ก็น้องวีร์ออกจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของบริษัทเรานี่นา “ หญิงสาวนามว่า พี่สมร เอ่ยขึ้น
“ เป็นอย่างนั้นก็ดีสิพี่หมอน “ ยังไม่ทันที่ทั้งสองสาวจะสนทนาอะไรกันต่อ เสียงของชายหนุ่มผู้มาใหม่ก็ดังขึ้น
“ วีร์ เดี๋ยวเข้าไปพบลูกค้าที่ห้องประชุมกับพี่ด้วยเลยนะ เอเจนซี่อยากเจอช่างภาพด้วยหน่ะ “
“ แต่ บอสคะ มันเกี่ยวกันตรงไหน ช่างภาพก็อยู่ส่วนช่างภาพ ไม่ใช่เหรอ “ หญิงสาวที่อ่อนวัยกว่ากล่าวถามขึ้น
“ ไม่รู้แหละ เขาบอกมาว่าอยากจะพบช่างภาพที่ฝีมือดีที่สุดของเรา เอาเถอะนา เร็วเข้า “ หญิงสาวกำลังจะเดินตามชายหนุ่มไป แต่จู่ๆ เสียงทุ้มก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ เออ วีร์ ผมว่าคุณไปจัดการกับเครื่องแต่งกายของคุณหน่อยดีกว่านะ ดูผมเผ้าคุณสิ “
“ เอ่ออ ได้ค่ะ “ ว่าแล้ว หญิงสาวก็เอากระเป๋าเป้ใบโตไปวางไว้ที่โต๊ะ ใกล้ๆ กับโต๊ะ ของพี่สมร  ที่จริง โต๊ะตัวนี้ หล่อนไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่หรอก  แต่ก็มีบ้างบางโอกาส ที่เธอต้องอยู่ที่โต๊ะตัวนี้ทั้งวันทั้งคืน
หญิงสาวเดินตรงไปยังห้องน้ำหญิง  เพื่อจัดแจงเครื่องแต่งกาย และผมของเธอให้ดูเรียบร้อยกว่านี้ แต่จู่ๆก็มีเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น
“ นี่นาย นั่นมันห้องน้ำหญิงนะ นายจะเข้าไปทำอะไรหน่ะ “ ชายหนุ่มคนนั้นถามขึ้น
“ ก็เข้าห้องน้ำไง ถามแปลกๆ “ หญิงสาวตอบไป ดดยไม่ได้สนใจในทีท่าของชายหนุ่มที่ตอนนี้ กำลังจะเดินเข้ามากรนะชากคอเสื้อของหญิงสาว
“ เฮ้ย นายทำอะไรเนี่ย “ หญิงสาวเอามือขึ้นปัดมือของชายหนุ่มออกจากคอเสื้อ  แต่ไม่เป็นผล  ชายหนุ่มกลับพูดขึ้นว่า
“  เป็นโรคจิตหรือไง คิดจะเข้าห้องน้ำหญิง ออกไปเลยไป “ ชายหนุ่มบอก พร้อมกับพยายามผลักให้หญิงสาวออกจากบริเวณนั้น
“ นายตังหากที่บ้า ก็ชั้นจะเข้าห้องน้ำ มายุ่งอะไรด้วยเนี่ย “ หญิงสาวเริ่มโมโห จึงตะโกนออกไป
“ ก็นายไง เป็นพวกโรคจิต คิดจะมาแอบดูสาวเข้าห้องน้ำ “ ชายหนุ่มตอบ
หญิงสาวเริ่มถึงบางอ้อแล้ว  ที่แท้ ชายหนุ่มตรงหน้าเธอ ก็คิดว่าเธอเป็นผู้ชายนี่เอง 
“ เออ ไม่ดูก็ได้ รำคาญจริงโว้ย “ หญิงสาวแกล้งโวยวาย แล้วรีบปัดมือชายหนุ่มออกจากปกเสื้อ แล้วรีบเดินออกไปทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนงงๆอยู่คนเดียว
“ อะไรเนี่ย ไปง่ายๆกันอย่างนี้เลยเหรอ “ ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง
หญิงสาวที่เพิ่งเดินจากมา รีบตรงไปยังห้องประชุมทันที  พลางเอามือสางผมอย่างลวกๆ พร้อมกับจัดแจงเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเคาะประตู
ก๊อกๆๆๆ
“ มาพอดีเลยครับ นี่ครับ ปฐวีร์ ช่างภาพมือนึงของบริษัทเรา “ เสียงของบอสพูดขึ้น หญิงสาวที่เพิ่งมาใหม่ ได้แต่ทำหน้าแหย่ๆ ก็เจ้านายของเธอเล่นโฆษณาเธอว่าเป็นช่างภาพมือหนึ่งซะอย่างนั้น
“ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณปฐวีร์ ผมชื่นชมฝีมือคุณมาตั้งนานแล้ว  ไม่นึกว่าวันนี้จะมีโอกาสได้เจอตัวจริงสักที แถมยังได้ร่วมงานกันอีก“ ชายอีกคนในห้องพูดขึ้น
“ ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ แล้วก็ยินดีที่จะได้ทำงานร่วมกันค่ะ “ หญิงสาวตอบ พร้อมกับยื่นมือไปจับกับมือของชายสูงอายุกว่า ที่ยื่นมาจับก่อนหน้านี้
“ ค่ะ ?? “ ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยความสงสัย
“ ทำไมเหรอค่ะ “ หญิงสาวถามขึ้นด้วยความสงสัย  แต่แล้วก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นก่อน
“ คุณปฐวีร์ เป็นผู้หญิงเหรอครับ “ เสียงนั้นถามขึ้น
“ ค่ะ ชั้นเป็นผู้หญิง ทำไมเหรอค่ะ “ หญิงสาวพอจะเริ่มเข้าใจแล้วว่า อะไรเป็นอะไร
“ ผมก็เข้าใจผิดมาเสียตั้งนาน คิดว่าช่างภาพมือหนึ่งอย่างคุณปฐวีร์ จะเป็นผู้ชาย “
“ แหะๆ “ หญิงสาวได้แต่หัวเราะแห้งกับตัวเอง
“ ฮ่าๆๆๆ  นี่เธอโดนเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายอีกแล้วเหรอเนี่ย “ เสียงหัวเราะของหญิงสาวที่นั่งข้างๆดังขึ้น
“ ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะชั้นเลย ยัยนาว   “ หญิงสาวอีกคนพูดขึ้น
“ ก็มันน่าขำไม่ล่ะ  ตั้งแต่มัธยมจนถึงป่านนี้ เธอก็ยังโดนทักว่าเป็นผู้ชายมาตลอด “ หญิงสาวเสียงใสพูดขึ้นอีก แต่ก็ยังไม่วายยังแอบหัวเราะคิกคักอยู่
“ แล้วมันไม่ดีหรือไงล่ะ  อย่างน้อย ชั้นก็ช่วยเธอให้อยู่รอดปลอดภัยจากพวกหนุ่มที่ตามตอแยเธอมาได้เกือบ 10 ปี “ หญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายผู้ชายกล่าวขึ้น
“ แต่ชั้นว่า ตอนนี้ ชั้นเริ่มไม่ชอบแล้วล่ะ  ดูสิเนี่ย  กลายเป็นว่าตอนนี้เลยไม่มีใครมาจีบชั้นสักคน “ หญิงสาวหน้าหวานพูดขึ้นอีก  แต่ตอนนี้ไม่มีเสียงหัวเราะคิกคักแล้ว
“ ช่วยไม่ได้  ก็เธอเล่นตามติดชั้นแจแบบนี้ เป็นใคร ก็คิดว่าชั้นเป็นแฟนเธอทั้งนั้นแหละ “ ชายหนุ่ม เอ๊ย หญิงสาวอีกคนตอบ
“ แต่ก็ดีเหมือนกัน  ชั้นก็อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆเหมือนกัน “ สาวหน้าหวานพูดกับตัวเองเบาๆ ราวกับว่ากลัวอีกคนจะได้ยิน
“ เอ้า ถึงแล้ว ลงไปได้แล้วยัยนาว วันนี้ชั้นง่วงเต็มทีแล้ว แล้วทีหน้าทีหลังหน่ะ  อย่าโทรตามชั้นตอนดึกๆแบบนี้อีกนะเฟ้ย หัดเกรงใจกันบ้างดิ “ หญิงสาวที่ทำหน้าที่เป็นสารถีพูดขึ้น
“ รู้แล้วนา ทำเป็นคนแก่ขี้บ่นไปได้  แต่เห็นชั้นโทรตามเธอทีไร  เธอก็ยอมออกมาหาชั้นทุกที แบบนี้จะมาโทษชั้นได้ยังไง “ สาวหน้าหวานตอบขึ้น พลางแลบลิ้นให้ แล้วก็รีบเปิดประตูรถ วิ่งแจ้นเข้าไปในบ้านทันที
“ เฮ้อ  ก็จริงของแกนะยัยนาว ทำไมชั้นต้องออกมาทุกทีที่แกเรียกชั้นเนี่ย !!! “ หญิงสาวพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะขับรถออกไป
“ ไม่เป็นไรค่ะ หน้าที่ของพลเมืองดีค่ะ “ หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงกิจกรรมที่ได้เพิ่งทำมาเมื่อสักครู่นี้
“ ผมว่า ผมขอเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อนึงเป็นการตอบแทนแล้วกัน  นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วด้วย “ ชายหนุ่มเสนอขึ้น
“ ขอบคุณมากค่ะ แต่วันนี้ชั้นต้องขอโทษจริงๆ ชั้นมีธุระด่วนต้องรีบไป ชั้นขอตัวก่อนนะค่ะ  แท็กซี่ !!! “ ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มในชุสูทสีดำเข้มจะพูดอะไร หญิงสาวที่ช่วยเหลือเขาไว้เมื่อสักครู่นี้ก็อันตรธานหายไปกับแท็กซี่สีเขียวเหลืองคันนั้นเสียแล้ว
“ ว้า น่าเสียดายจัง ยังไม่ทันรู้จักชื่อเลยแฮะ “ ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง
“ พี่ เดี๋ยวจอดที่หน้าบริษัทข้างหน้าเลยนะ เอานี่ ไม่ต้องทอนนะ “ หญิงสาวรีบควักเงินจากกระเป๋ากางให้คนขับรถ  พร้อมกับหยิบกระเป๋าเป้ใบโตขึ้นมาสะพายอย่างลวกๆ
ช่วงเวลาตอนเช้าแบบนี้ ลิฟท์มีคนใช้มากมายเหลือเกิน  หญิงสาวผู้มาใหม่จึงตัดสินใจวิ่งไปใช้บันไดหนีไฟแทน
“ เอาก็เอา แม้จะเป็นชั้น 10 ก็ยอม “
สวมวิญญาณนักกีฬาบางสมัยเรียนมหาวิทยาลัย  หญิงสาวใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็มาถึงยังชั้นที่ 10  แต่ก็เลยเอาหญิงสาวดูโทรมไปถนัดตาเลยทีเดียว
“ อ้าว  ยัยวีร์ นึกว่าวันนี้จะมาไม่ทันเสียอีก “ เสียงหญิงสาวที่สูงวัยกว่าดังขึ้น
“ แหม พี่สมรก็  ถ้าวันนี้วีร์มาสายอีกล่ะก็  มีหวังวีร์ได้ออกไปเดินเตะฝุ่นแหงๆเลย “ หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ
“ พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละจ่ะ  แต่บางที บอสอาจจะไม่กล้าไล่น้องวีร์ออกหรอกนะจ๊ะ ก็น้องวีร์ออกจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของบริษัทเรานี่นา “ หญิงสาวนามว่า พี่สมร เอ่ยขึ้น
“ เป็นอย่างนั้นก็ดีสิพี่หมอน “ ยังไม่ทันที่ทั้งสองสาวจะสนทนาอะไรกันต่อ เสียงของชายหนุ่มผู้มาใหม่ก็ดังขึ้น
“ วีร์ เดี๋ยวเข้าไปพบลูกค้าที่ห้องประชุมกับพี่ด้วยเลยนะ เอเจนซี่อยากเจอช่างภาพด้วยหน่ะ “
“ แต่ บอสคะ มันเกี่ยวกันตรงไหน ช่างภาพก็อยู่ส่วนช่างภาพ ไม่ใช่เหรอ “ หญิงสาวที่อ่อนวัยกว่ากล่าวถามขึ้น
“ ไม่รู้แหละ เขาบอกมาว่าอยากจะพบช่างภาพที่ฝีมือดีที่สุดของเรา เอาเถอะนา เร็วเข้า “ หญิงสาวกำลังจะเดินตามชายหนุ่มไป แต่จู่ๆ เสียงทุ้มก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ เออ วีร์ ผมว่าคุณไปจัดการกับเครื่องแต่งกายของคุณหน่อยดีกว่านะ ดูผมเผ้าคุณสิ “
“ เอ่ออ ได้ค่ะ “ ว่าแล้ว หญิงสาวก็เอากระเป๋าเป้ใบโตไปวางไว้ที่โต๊ะ ใกล้ๆ กับโต๊ะ ของพี่สมร  ที่จริง โต๊ะตัวนี้ หล่อนไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่หรอก  แต่ก็มีบ้างบางโอกาส ที่เธอต้องอยู่ที่โต๊ะตัวนี้ทั้งวันทั้งคืน
หญิงสาวเดินตรงไปยังห้องน้ำหญิง  เพื่อจัดแจงเครื่องแต่งกาย และผมของเธอให้ดูเรียบร้อยกว่านี้ แต่จู่ๆก็มีเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น
“ นี่นาย นั่นมันห้องน้ำหญิงนะ นายจะเข้าไปทำอะไรหน่ะ “ ชายหนุ่มคนนั้นถามขึ้น
“ ก็เข้าห้องน้ำไง ถามแปลกๆ “ หญิงสาวตอบไป ดดยไม่ได้สนใจในทีท่าของชายหนุ่มที่ตอนนี้ กำลังจะเดินเข้ามากรนะชากคอเสื้อของหญิงสาว
“ เฮ้ย นายทำอะไรเนี่ย “ หญิงสาวเอามือขึ้นปัดมือของชายหนุ่มออกจากคอเสื้อ  แต่ไม่เป็นผล  ชายหนุ่มกลับพูดขึ้นว่า
“  เป็นโรคจิตหรือไง คิดจะเข้าห้องน้ำหญิง ออกไปเลยไป “ ชายหนุ่มบอก พร้อมกับพยายามผลักให้หญิงสาวออกจากบริเวณนั้น
“ นายตังหากที่บ้า ก็ชั้นจะเข้าห้องน้ำ มายุ่งอะไรด้วยเนี่ย “ หญิงสาวเริ่มโมโห จึงตะโกนออกไป
“ ก็นายไง เป็นพวกโรคจิต คิดจะมาแอบดูสาวเข้าห้องน้ำ “ ชายหนุ่มตอบ
หญิงสาวเริ่มถึงบางอ้อแล้ว  ที่แท้ ชายหนุ่มตรงหน้าเธอ ก็คิดว่าเธอเป็นผู้ชายนี่เอง 
“ เออ ไม่ดูก็ได้ รำคาญจริงโว้ย “ หญิงสาวแกล้งโวยวาย แล้วรีบปัดมือชายหนุ่มออกจากปกเสื้อ แล้วรีบเดินออกไปทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนงงๆอยู่คนเดียว
“ อะไรเนี่ย ไปง่ายๆกันอย่างนี้เลยเหรอ “ ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง
หญิงสาวที่เพิ่งเดินจากมา รีบตรงไปยังห้องประชุมทันที  พลางเอามือสางผมอย่างลวกๆ พร้อมกับจัดแจงเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเคาะประตู
ก๊อกๆๆๆ
“ มาพอดีเลยครับ นี่ครับ ปฐวีร์ ช่างภาพมือนึงของบริษัทเรา “ เสียงของบอสพูดขึ้น หญิงสาวที่เพิ่งมาใหม่ ได้แต่ทำหน้าแหย่ๆ ก็เจ้านายของเธอเล่นโฆษณาเธอว่าเป็นช่างภาพมือหนึ่งซะอย่างนั้น
“ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณปฐวีร์ ผมชื่นชมฝีมือคุณมาตั้งนานแล้ว  ไม่นึกว่าวันนี้จะมีโอกาสได้เจอตัวจริงสักที แถมยังได้ร่วมงานกันอีก“ ชายอีกคนในห้องพูดขึ้น
“ ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ แล้วก็ยินดีที่จะได้ทำงานร่วมกันค่ะ “ หญิงสาวตอบ พร้อมกับยื่นมือไปจับกับมือของชายสูงอายุกว่า ที่ยื่นมาจับก่อนหน้านี้
“ ค่ะ ?? “ ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยความสงสัย
“ ทำไมเหรอค่ะ “ หญิงสาวถามขึ้นด้วยความสงสัย  แต่แล้วก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นก่อน
“ คุณปฐวีร์ เป็นผู้หญิงเหรอครับ “ เสียงนั้นถามขึ้น
“ ค่ะ ชั้นเป็นผู้หญิง ทำไมเหรอค่ะ “ หญิงสาวพอจะเริ่มเข้าใจแล้วว่า อะไรเป็นอะไร
“ ผมก็เข้าใจผิดมาเสียตั้งนาน คิดว่าช่างภาพมือหนึ่งอย่างคุณปฐวีร์ จะเป็นผู้ชาย “
“ แหะๆ “ หญิงสาวได้แต่หัวเราะแห้งกับตัวเอง
“ ฮ่าๆๆๆ  นี่เธอโดนเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายอีกแล้วเหรอเนี่ย “ เสียงหัวเราะของหญิงสาวที่นั่งข้างๆดังขึ้น
“ ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะชั้นเลย ยัยนาว   “ หญิงสาวอีกคนพูดขึ้น
“ ก็มันน่าขำไม่ล่ะ  ตั้งแต่มัธยมจนถึงป่านนี้ เธอก็ยังโดนทักว่าเป็นผู้ชายมาตลอด “ หญิงสาวเสียงใสพูดขึ้นอีก แต่ก็ยังไม่วายยังแอบหัวเราะคิกคักอยู่
“ แล้วมันไม่ดีหรือไงล่ะ  อย่างน้อย ชั้นก็ช่วยเธอให้อยู่รอดปลอดภัยจากพวกหนุ่มที่ตามตอแยเธอมาได้เกือบ 10 ปี “ หญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายผู้ชายกล่าวขึ้น
“ แต่ชั้นว่า ตอนนี้ ชั้นเริ่มไม่ชอบแล้วล่ะ  ดูสิเนี่ย  กลายเป็นว่าตอนนี้เลยไม่มีใครมาจีบชั้นสักคน “ หญิงสาวหน้าหวานพูดขึ้นอีก  แต่ตอนนี้ไม่มีเสียงหัวเราะคิกคักแล้ว
“ ช่วยไม่ได้  ก็เธอเล่นตามติดชั้นแจแบบนี้ เป็นใคร ก็คิดว่าชั้นเป็นแฟนเธอทั้งนั้นแหละ “ ชายหนุ่ม เอ๊ย หญิงสาวอีกคนตอบ
“ แต่ก็ดีเหมือนกัน  ชั้นก็อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆเหมือนกัน “ สาวหน้าหวานพูดกับตัวเองเบาๆ ราวกับว่ากลัวอีกคนจะได้ยิน
“ เอ้า ถึงแล้ว ลงไปได้แล้วยัยนาว วันนี้ชั้นง่วงเต็มทีแล้ว แล้วทีหน้าทีหลังหน่ะ  อย่าโทรตามชั้นตอนดึกๆแบบนี้อีกนะเฟ้ย หัดเกรงใจกันบ้างดิ “ หญิงสาวที่ทำหน้าที่เป็นสารถีพูดขึ้น
“ รู้แล้วนา ทำเป็นคนแก่ขี้บ่นไปได้  แต่เห็นชั้นโทรตามเธอทีไร  เธอก็ยอมออกมาหาชั้นทุกที แบบนี้จะมาโทษชั้นได้ยังไง “ สาวหน้าหวานตอบขึ้น พลางแลบลิ้นให้ แล้วก็รีบเปิดประตูรถ วิ่งแจ้นเข้าไปในบ้านทันที
“ เฮ้อ  ก็จริงของแกนะยัยนาว ทำไมชั้นต้องออกมาทุกทีที่แกเรียกชั้นเนี่ย !!! “ หญิงสาวพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะขับรถออกไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น