คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2
บทที่ 2
นภนต์เหลือบตามองหญิงสาวข้างตัวที่ตอนนี้ใช้ไหล่เค้าหนุนต่างหมอน นึกแล้วก็อดขำไม่ได้ ไม่คิดว่าห้าวๆอย่างนี้เวลาหลับกลับเหมือนแมวน้อยไปซะได้ หลังจากที่เมื่อคืนเกิดสงครามความเขินระอุขึ้น นภนต์เลยตัดสินใจหลับตัดปัญหา มารู้สึกตัวก็เห็นบุลินนอนพิงไหล่เค้าอยู่
“คุณฟ้าถึงปากทางขึ้นดอยแล้วนะครับ” พี่เหน่งหันมาบอกชายหนุ่มทันที่หาที่จอดรถได้ ทำให้นภนต์หลุดออกจากภวังค์ความคิด
“ขอบคุณครับพี่ พี่เหน่งไปจัดการธุระส่วนตัวแล้วก็ทานข้าวได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมขอปลุกทุกๆคนเดี๋ยว”
“คุณๆ คุณบุลินครับ ตื่นได้แล้วถึงแล้วคร้าบ!!” นภนต์ทั้งเรียก ทั้งเขย่า แต่ผลที่ได้คือ....ความเงียบ โอ๊ย! ผู้หญิงอะไรเนี่ยขี้เซาเป็นบ้า นภนต์บ่นในใจอย่างหงุดหงิด เลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนหันไปปลุกทุกๆคนให้ตื่นก่อน
“เอาล่ะครับตอนนี้เราก็มาถึงปากทางขึ้นดอยแล้ว เราจะพักให้ทุกคนได้ทำภาระกิจส่วนตัว แล้วก็ทานข้าวกัน เชิญทุกคนลงไปดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าได้เลย เดี๋ยวผมขอปลุกคนขี้เซาก่อนนะครับ”
“ไม่ต้องปลุกหรอกค่ะ เค้าอยากหลับก็ปล่อยเค้าไป กี้ว่าคุณฟ้าไปทานข้าวกับพวกเราดีกว่า” หญิงสาวนามว่ากี้เอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจกับการดูแลเอาใจใส่อย่างโอเว่อร์ของชายหนุ่มที่เธอหมายตาเอาไว้
“ใช่ค่ะๆ รดาก็เห็นด้วย เมื่อคืนก็ให้พวกเรารอตั้งนาน แล้ว.....”
“พอสักทีเถอะ อย่าทำตัวเหมือนเด็กๆจะได้มั้ย เมื่อคืนน้องทรายก็บอกพวกเราแล้วนี่นาว่าเพิ่งรู้ว่าจะต้องมาทริปล่วงหน้า 2 ชั่วโมง เป็นพวกเธอจะเตรียมตัวกันทันมั้ยฮะ คนอื่นเค้าไม่เห็นจะมีปัญหามีแต่พวกเธอนี่แหละ มีปัญหาได้ทุกวี่ทุกวัน พี่อุตส่าห์พาพวกเรามาเที่ยวถ้าเป็นแบบนี้อีกต่อไปก็ไม่ต้องไปไหนกันแล้ว” ภูวาตวาดใส่ 2 สาวอย่างโมโห ชายหนุ่มลูบหน้าตัวเองอย่างเหนื่อยใจกับลูกน้อง 2 คน อยู่ที่บริษัทก็สร้างเรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน พามาเที่ยวแทนที่จะได้ผ่อนคลาย แต่กลับต้องมาเจอเรื่องหน้าปวดหัวอีก เฮ้อ ดูท่าทริปนี้คงจะไม่ธรรมดาซะแล้ว
“เอ่อ พอเถอะครับอย่าเถียงกันเลย มาทริปเดียวกันเราควรสามัคคีกันไว้เพื่อความสนุกสนาน ส่วนคุณกี้ครับ ที่ผมต้องปลุกเธอเพราะมันเป็นหน้าที่ที่ไกด์ทุกคนพึงกระทำ เอางี้ละกันนะครับ ผมขอโทษทุกคนแทนบุลินเธอด้วย” นภนต์ขอโทษทุกๆคนแทนหญิงสาว คนอื่นๆในทริปพยักหน้าอย่างเข้าใจและส่ายหน้ากับความไร้สาระของสองสาว จึงแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว เห็นมีแต่ กี้ และ รดา ที่ไม่ยอมไปไหนสักที ทำให้เค้าต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากภูวาอย่างเสียมิได้
“แล้วเธอสองคนมัวแต่ยืนทำอะไรอยู่ รีบๆไปจัดการธุระส่วนตัวได้แล้ว” พูดจบภูวาก็จัดการลากสองสาวออกไปทันที ทิ้งให้นภนต์ปลุกแม่คนขี้เซาให้ตื่นด้วยวีธีใดเค้าก็สุดรู้....
พอภูวาและสองสาวจากไปแล้ว นภนต์ก็หันมามองแม่คนขี้เซาอย่างเหนื่อยใจ ไม่รู้จะปลุกอย่างไรดี เรียกก็แล้ว เขย่าก็แล้วคุณเธอก็ยังเฉย
“คุณบุลินคร้าบ! ตื่นได้แล้ว กระผมหิวข้าวใจจะขาดแล้วนะ ถ้าคุณไม่ตื่นผมเผลอทำอะไรไปไม่รู้ด้วย”
“................” ไม่มีเสียงใดลอดออกมาจากปากของหญิงสาวเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เอ๊ะ! เปลือกตาที่กระพริบถี่ๆนั่นหมายความว่ายังไง หึหึ แกล้งเค้ามันสนุกมากใช่มั้ย? ชายหนุ่มคิดอย่างตลกปนแค้นกับความเจ้าเล่ห์ของแม่ตัวแสบนี่เธอคงจะหลอกให้เค้าแก้ตัวแทนกับเหตุการณ์วุ่นๆเมื่อกี๊เป็นแน่ และมันก็เป็นจริงอย่างที่นภนต์คิดทุกประการเพราะในขณะนี้เธอกำลังกลั้นหัวเราะอย่างสุดชีวิต อยากลืมตาใจจะขาด แต่อยากรู้ว่าเค้าจะปลุกเธอด้วยวิธีไหนเลยต้องทำเป็นหลับต่อไป
นภนต์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ในความคิดของตัวเอง แล้วจึงค่อยๆปฏิบัติตามแผนที่ตัวเองคิดไว้
“ปูไต่ๆ” นภนต์ค่อยๆไต่นิ้วไปตามแขนอันนุ่มนิ่มของหญิงสาว ไต่ไปเลื่อยๆ จนถึงซอกคอ เค้าจึงเริ่มไต่ช้าลงๆ และช้าลงจนหยุดค้างอยู่ที่ไหปลาร้า รอดูปฏิกิริยาของหญิงสาว แต่เธอก็ยังเฉย ชายหนุ่มจึงย่ามใจไต่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงเนินอกอิ่ม คุณเธอถึงเริ่มมีอาการงัวเงียๆ ผลักมือเค้าออกไปให้พ้นจากเนินอกอิ่มนั่น แต่มีรึที่เค้าจะยอม เล่นปูไต่ยังไม่ตื่นใช่มั้ย? ได้!
นภนต์ใช้มือทั้งสองดันกับพนักพิงล็อคตัวของบุลินไม่ให้ขยับไปไหน ทำให้ดูเหมือนหญิงสาวตกอยู่ในอ้อมกอดของเค้า แต่บุลินก็ยังเฉย นภนต์ค่อยๆเขยิบใบหน้าของตัวเองเข้าไป จนจมูกเค้าสัมผัสกับจมูกเชิดรั้นของเธอ
บุลินเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างตกใจกับการกระทำของนภนต์ รวบรวมกำลังที่มีทั้งหมดผลักชายหนุ่มให้ตัวเองหลุดออกจากอ้อมกอดอันตรายนั่น
“หึ! ทำไมไม่บอกแต่แรกล่ะว่าชอบให้ใช้ความใกล้ชิดปลุก ผมจะได้ทำซะตั้งแต่แรกไม่ต้องไปเสียแรงเขย่าคุณอยู่ได้ตั้งนาน” นภนต์กล่าวแค่นยิ้มเยาะ เปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับบุลินไปในทางที่ไม่ดีในทันทีมองบุลินด้วยสายตารังเกียจ ทำให้บุลินเดือดขึ้นมาทันใด
“นี่คุณ จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะ”
“ผมดูถูกคุณตรงไหนกัน แค่บอกคุณเฉยๆ หรือคุณจะให้ผมย้ำการกระทำเมื่อกี๊อีกทีล่ะ” นภนต์ลอยหน้าลอยตาตอบ บุลินกระชากคอเสื้อชายหนุ่มอย่างโมโห
“ทำไมคุณ ใกล้ชิดไม่พอถึงขนาดต้องกระชากผมเข้ามาเองเลยเหรอ?”
“เอ๊ะ! คุณ.....” ยังไม่ทันที่บุลินจะได้ด่ากลับ นภนต์ก็กระชากมือของเธอออกจากคอเสื้อเค้าซะก่อน
“ไปทานข้าวได้แล้ว คนอื่นเค้ารออยู่ หรือว่าจะทานผมแทนดีล่ะ หึหึ” พูดจบนภนต์ก็กระโดดลงจากรถ ไม่สนใจบุลินที่นั่งสั่นเป็นจ้าวเข้า
หลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้แล้ว บุลินจึงรีบไปจัดการธุระส่วนตัวและตามไปที่ร้านอาหารทันที
ทุกๆคนในทริปหันมามองเธอเป็นตาเดียว ยกเว้นนภนต์ที่ชายตามามองเธอแค่แวบเดียวแล้วก็หันกลับไปทานข้าวต่อทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน ภูวาเห็นบุลินยืนเก้ๆกังๆ ไม่รู้จะนั่งตรงไหนดีเลยกวักมือเรียกให้มานั่งข้างๆ ซึ่งตรงข้ามกับนภนต์พอดี ทำให้เธอรู้สึกอยากเปลี่ยนที่นั่งจริงๆ แต่เกรงใจภูวาจึงต้องทนนั่งต่อไป
“หาดทรายแนะนำตัวกับพี่ๆเค้าหน่อยสิ จะได้ไม่ต้องเกร็งกันแบบนี้” ภูวาหันมาบอกบุลินอย่างเป็นกันเอง ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและยิ้มได้มากขึ้น
“หาดทรายค่ะ เรียกว่าทรายก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วก็ขอโทษด้วยที่ช้าอีกแล้วค่ะ มาทริปนี้สงสัยคงได้ฉายากลับไปว่า คุณนายสายเสมอแน่ๆเลย แหะๆ”
“พี่ดาวจ้าเป็นแฟนพี่ภูเอง” พี่ดาวที่นั่งข้างพี่ภูอีกข้างหนึ่งชะโงกหน้ามาบอกเธอ
“ภูเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าดาวอยากเป็นแฟนภูมากขนาดถึงต้องรีบแนะนำตัว” ภูวาหันไปบอกแฟนตัวเองพร้อมรอยยิ้มหวาน ทำให้ได้รับมะเหงกมาลูกหนึ่ง
“อย่าไปสนใจคู่ติ๊งต๊องเลย มาสนใจพี่ดีกว่า พี่เมษครับ ส่วนข้างๆพี่นี่ลันตา แล้วก็อีกข้างนี่ก็ เพลง” และอีกหลายชื่อทำให้เธอจำแทบไม่ไหวเลยทีเดียว เธอเลยตัดสินใจจำแค่คนที่อยากคุยก็แล้วกัน
พอทานอาหารเสร็จเธอจึงขอตัวออกมาเก็บภาพบรรยากาศรอบๆร้านแห่งนี้เพื่อไปทำสกู๊ป ไม่อยากโดนบ.ก.หน้าเลือดบ่น นึกๆแล้วก็เซ็ง เธอต้องการข้อมูลเพื่อประกอบภาพต่างๆ แล้วนี่ดันไปมีปัญหากับไกด์ แล้วจะเอาข้อมูลที่ไหนวะเนี่ย ไอ้บุลินหนอไอ้บุลิน มีเรื่องกับใครไม่มี ดันไปมีกับคนสำคัญ เซ็งเว้ยยยยยยยยยยย
“อ๊ะ!” บุลินกุมเท้าที่เตะไปโดนก้อนหินด้วยความเจ็บ ไอ้ก้อนหินบ้านี่ ดีขอยืมระบายอารมณ์ละกัน
“ย๊ากกกกกกกกกก” ปาไปสุดแรงหวังให้มันไปทางไหนก็ได้ ที่มันทำให้เธอสบายใจ แต่ที่ไหนได้....
“โอ๊ย!....” นภนต์กุมหัวตัวเองอย่างเจ็บปวด เหลือบตาขึ้นมามองบุลินอย่างโมโห
“ฟ้าเป็นอะไรรึเปล่าคะ? ไหนให้กี้ดูซิ” กี้รีบดึงมือที่กุมอยู่บนศีรษะของนภนต์ออก เมื่อเห็นว่าไม่ได้เป็นไรมาก จึงหันมาเอาเรื่องกับบุลินทันที
“นี่เธอคิดจะแกล้งคุณฟ้ารึยังไงยะ”
“เปล่า มันไปโดนเอง”
“เอ๊ะ! นี่ถ้าเธอไม่ได้ตั้งใจแล้วมันจะมาโดนหัวฟ้าได้ยังไงล่ะ ไม่สวยแล้วยังโง่อีกนะยะหล่อน!” กี้สาดวาจาเผ็ดร้อนใส่บุลินอย่างได้ใจเมื่อเห็นว่านภนต์ไม่พูดอะไร
“เธอว่าใครโง่” บุลินกัดฟันแน่น
“อุ๊ยตาย นี่ฉันด่าเธอขนาดนี้เธอยังไม่รู้ตัวเองอีกเหรอ ฉันเชื่อแล้วล่ะว่าเธอโง่จริงๆ”
“อ้าวว่าฉันหรอกเหรอ? ฉันนึกว่าเธอด่าตัวเองซะอีก ไม่สวยแล้วยังโง่ หึหึ อ่อ นอกจากโง่แล้วยังปากปีจออีกต่างหาก!!!”บุลินลอยหน้าลอยตาตอบอย่างไม่ยอมแพ้ เอาสิ ด่ามาเธอก็ด่ากลับ ไม่ยอมอยู่แล้ว
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟ้าดูสิคะ อีนี่มันว่ากี้ กี้ไม่ยอมนะคะ ฟ้าต้องจัดการให้กี้ด้วย” นภนต์และบุลินปิดหูแทบไม่ทันกับเสียงแปดหลอดนั่น
“เอ่อ.....”
“ฉันไม่ผิด เพราะฉะนั้นฉันไม่ขอโทษ” บุลินหันไปบอกนภนต์อย่างเอาเรื่อง ถ้าจะบังคับให้เธอขอโทษในสิ่งที่เธอไม่ผิด
“แล้วที่แกทำกับคุณฟ้าล่ะ” กี้ยังไม่ยอมเลิก เธอจะเหยียบให้มันจมดินเลยทีเดียวที่บังอาจมายุ่งกับคนที่เธอหมายตาไว้
“ฉันไม่ได้ตั้งใจนี่ ก็บอกแล้วหินมันลอยไปโดนเอง”
“ช่างเค้าเถอะครับคุณกี้ คนทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิดสักวันกรรมมันคงตามทัน” นภนต์ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น และพยายามลากกี้ไปที่รถโดยเร็ว เค้ายังไม่อยากเจอศึกหนักตอนนี้ แค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่แล้ว เฮ้ออออออออ ทริปนี้มันไม่ธรรมดาจริงๆ
ความคิดเห็น