ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic NO HE RO

    ลำดับตอนที่ #5 : 4 สรุป...เขาเป็นแวมไพร์แน่เหรอ?

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 56


    4

    สรุป...เขาเป็นแวมไพร์แน่เหรอ?

    ฉันตื่นนอนตอนสี่โมงเย็น...อืม...ฟินยังหลับอยู่เลย แต่ช่างสิ! เขาไม่มีงานตอนนี้นี่!! ฉันเดินเข้าห้องน้ำก่อนจะรวบผมลวกๆและหาเสื้อที่มันมิดชิดกว่า เสื้อกล้ามและกางเกงขายาว แม้แดดจะไม่แรงมากแต่ทำไงได้...ฉันเป็น แวมไพร์ ตราบใดที่มันยังไม่มืดฉันก็วางใจไม่ได้หรอกว่าแดดจะไม่ทำให้ฉันแสบผิว...ไม่ว่ามันจะช่วยสังเคราะห์วิตามิ D หรือช่วยสังเคราะห์แสงให้กับต้นไม้ก็ตาม ฉันไม่ใช่สัตว์กินพืช...ก็ถือซะว่าฉันไม่ได้ผลประโยชน์จากตรงนี้ละกันนะ!! J

    ฉันเดินไปหยิบตะกร้าจ่ายตลาดก่อนจะมุ่งหน้าไปตลาดสดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดฯสักเท่าไหร่ ฉันเดินไปหาซื้อขาไก่ อืม...เครื่องเทศ เกล็ดขนมปัง น้ำมัน...เปลี่ยนเป็นน้ำมันถั่วเหลืองดีกว่า...หรือว่าจะทำไก่หมักไวน์ทอดดีนะ!! ฉันลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะไปซื้อมะเขือเทศ ช่วยไม่ได้...เอาไว้ทำพรุ่งนี้ละกัน...

    ระหว่างที่ฉันกำลังก้มมองหาเศษเหรียญในตะกร้าฉันก็รู้สึกถึงไอของ เผ่าพันธุ์เดียวกันผ่านไป

    ผู้ชายผมสำตาสีเขียวคนนี้อีกแล้ว...งั้นเหรอ?

    ฉันหรี่ตามองอย่างนึกระแวงก่อนจะหลบอาวุธที่พุ่งมาทางฉัน

    “หลบไป!!” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนจะมีการกวดไล่ฝูงหมาป่าของตำรวจ หมับ! มือหนาของใครบางคนดึงฉันเข้าไปหลบในที่ปลอดภัยก่อนจะคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้

    “หลบหน่อยก็ดีนะครับ...” ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีเขียวก่อนมันจะหยีลงเพราะความกว้างของรอยยิ้ม

    “อือ...” ฉันครางรับในลำคอเงียบๆ

     

    หลังจากฝูงมนุษย์หมาป่าวิ่งผ่านไปแล้วเขาก็แนะนำตัวกับฉัน

    “ผมชื่อ โจชัว เอนด์เลส ครับ”

    ฉันก็เลยแนะนำตัวด้วยไมตรีบ้าง “...ฉัน ดีฟาร์โซ่ เอทเทอร์นัล” หลังจากที่มีฮีโร่มาช่วยจับมนุษย์หมาป่าแล้วฉันก็เดินตลาดต่อเพราะยังซื้อของไม่เสร็จ แม้จะแปลกใจว่าพ่อค้าแม่ค้าในตลาดไม่กลัวจนหนีกลับบ้าน แต่พอคิดไปคิดมาแล้ว...มันก็คงไม่น่าแปลกใจเท่ามีพรายน้ำชอบกินไก่ทอดกับแวมไพร์ชอบกินมะเขือเทศกับน้ำมะพร้าว หรอกมั้ง

    “ผมเห็นว่าคุณมักจะซื้อไก่ประจำก็เลยอดสงสัยไม่ได้น่ะครับ...คุณซื้อไก่ไปทำไมทุกวัน” เขาถามขณะที่ฉันซื้อมะเขือเทศ

    “พอดีสมาชิกในครอบครัวฉันชอบกินไก่ทอดเป็นชีวิตจิตใจน่ะค่ะ! ก็เลยต้องสรรค์หาเมนูไก่ทอดใหม่ๆ เช่น ไก่อบไวน์ทอด ไก่ทอดเครื่องเทศ ไก่ทอดน้ำพริกเผา อะไรแบบนี้น่ะค่ะ” ฉันยิ้ม

    หลังจากเดินตลาดกันเสร็จแล้วฉันก็เลยขอตัวจะกลับ แต่เขาก็พูดขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าผมขอเบอร์โทร.ติดต่อคุณได้มั้ยครับ? ผมชอบเมนูที่คุณทำ...พอดีคุณหนูของผมเขาชอบกินไก่ทอดและพวกของทอดน่ะครับ...ก็เลยอยากจะได้วิธีทำ ถ้าคุณไม่รังเกียจ”

    “อ้อ...ได้ค่ะ” ฉันจดเบอร์มือถือของฉัน และของฟินให้ เพราะบางทีฉันก็ไม่ชอบพกโทร.ศัพท์มือถือ...อืม จะว่าไปฟินก็ดุฉันเรื่องนี้บ่อยเหมือนกันนะ! “เดี๋ยวนะคะ ไม่ทราบว่าคุณโจชัวเป็นรุ่นที่เท่าไหร่เหรอคะ? ฉันจะได้วางตัวให้ดีกว่านี้” ฉันถาม

    “รุ่นที่ห้าครับ” เขาตอบเสียงเรียบ

    “อ้อ...ค่ะ ฉันคิดว่าคุณน่าจะเด็กมาก ดูจากนิสัยแล้วนะคะ”

    “...ผมโตเต็มวัยแล้วครับ” ฉันยิ้มกับคำตอบก่อนจะขอตัวกลับ

     

    ฉันกลับมาที่ห้องก่อนจะพบว่าฟินไปทำงานแล้ว และมีพี่สาวที่นั่งจุมปุ๊กตาแป๋วรอกินมะเขือเทศอยู่ในห้อง

    ฉันล้างมะเขือเทศก่อนจะจัดใส่จานมาวางให้พี่สาวและกลับไปหมักไก่เพื่อทอดเป็นมื้อเย็นต่อและไม่ลืมที่จะปั่นน้ำมะเขือเทศเก็บไว้ให้พี่สาวด้วย

    “พี่สาวรู้จัก เอนด์เลสมั้ยคะ?” ฉันถามหลังจากหมักไก่เสร็จแล้ว คงต้องรออีกสักครู่กว่าซอสจะเข้าเนื้อ ยังไงซะฉันก็มีเวลามานั่งคุยอยู่นั่นแหละ

    “หืม? เอนด์เลส...ล่มสลายไปแล้วนี่ เมื่อไม่นานนี้เอง” พี่สาวพูดขณะกัดมะเขือเทศต่อ “เด็กน้อย...ถามทำไมหรอ?”

    “อ้อ...พอดีมีเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ของเราเขานามสกุลนี้น่ะค่ะ” ฉันยิ้มหวานกลับ

    “ใครเหรอ?”

    “เขาชื่อ โจชัว เอนด์เลสเป็นพ่อบ้านน่ะค่ะ” ฉันยิ้มให้พี่สาวก่อนพี่สาวจะกินมะเขือเทศหมดแล้วพร้อมกับเดินไปหยิบถุงเลือด...เอ่อ เปลี่ยนไปหยิบขวดน้ำมะพร้าวแทนแล้วน่ะนะ ฉันเอามือกุมหน้าแล้วคิ้วกระตุกหงึกๆ  

    “พี่จะไม่กินเลือดเหรอคะ?” ฉันถาม

    “ไม่ละ พี่ยังไม่หิว” แล้วเธอก็เสียบหลอดลงในขวดน้ำมะพร้าวและดูดเสียงดังจ๊วบๆก่อนน้ำมะพร้าวในขวดจะอันตธานหายไปอย่างรวดเร็ว “พี่ไปเที่ยวละนะ” สิ้นเสียงของพี่สาว ร่างบางที่ยืนดูดน้ำมะพร้าวเมื่อสักครู่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว เฮ้อ...ให้มันได้อย่างนี้สิ!

    แกร๊ก!

    เลย์กลับมาแล้ว ฉันกำลังทอดไก่พอดี อีกไม่กี่ชิ้นก็เสร็จแล้ว

    “ดีฟาร์โซ่ๆๆๆๆ” เลย์เรียกฉันมาแต่ไกลก่อนจะโผล่ทั้งตัวเข้ามาในห้องครัวและทำตาแป๋วเหมือนพี่สาวพร้อมกับเอ่ยคำที่ฉันไม่อยากได้ยินว่า “...วันนี้ฉันอยากกินเฟรนช์ฟรายด์!!!

    นี่เป็นครั้งแรกที่เลย์เข้ามาแล้วบอกว่าอยากกินอย่างอื่นนอกจากไก่ทอด แต่ทุกคนก็น่าจะรู้ว่า ฉันไม่เคยซื้ออะไรเข้าบ้านนอกจาก...ไก่และมะเขือเทศ

    “เฮ้อ...” ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะยกไก่ทอดไปให้เลย์ก่อน “เดี๋ยวฉันกลับมา วันหลังถ้าอยากกินอย่างอื่นนอกจากไก่ทอดนายก็ช่วยโทร.บอกฉันก่อนสิ ฉันไม่ได้ซื้อของไว้” ฉันบ่นเบาๆขณะไปหยิบตะกร้า

    และเลย์ก็พูดขึ้นมาหลังจากกินไก่ไปได้สักพักว่า “...ฉันโทร.หาจะเป็นร้อยสายเธอยังไม่รับเลย” สรุปแล้ว...ฉันต้องพกจริงๆสินะ มือถือน่ะ

     

    ฉันใช้ความเร็วของแวมไพร์กระโดดไปตามอาคารบ้านเรือนต่างๆก่อนจะไปซื้อเฟรนช์ฟรายด์กึ่งสำเร็จรูปในมินิมาร์ทที่ใกล้ที่สุด ฉันซื้อเฟรนช์ฟรายด์กึ่งสำเร็จรูปไปสองถุงและไม่ลืมที่จะซื้อน้ำมะพร้าวไปตุนไว้ที่บ้านด้วย อืม...น่าจะพอแล้วมั้ง หลังจากฉันหยิบของใส่ตะกร้าและกำลังจะไปที่เคาท์เตอร์

    “เด็กน้อยยยยยยยย” ก็ได้ยินเสียงนี้ขึ้นมาซะก่อน

     “พี่อเดล?” ฉันหันไปมองพี่อเดลกำลังวิ่งเข้ามาหาฉัน ขอบตาพี่สาวแดงเหมือนกำลังจะร้องไห้และพี่ก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ “เกิดอะไรขึ้น พี่สาวใจเย็นก่อนสิคะ มีอะไรรึป่าว?” ฉันถามด้วยความร้อนรน

    “พี่ไม่ได้เอาเงินมา ซื้อ...ซื้อโมเดลตัวนี้ให้หน่อยสิ...” แล้วความหวังดีฉันก็หายไป

     

    หลังจากที่ฉันซื้อของเสร็จ...รวมถึงพี่อเดลด้วยอ่ะนะ ฉันก็รีบกลับบ้านเพื่อไปทอดเฟรนช์ฟรายด์ให้เลย์ ส่วนพี่สาวก็ไปเที่ยวอีกแล้ว

    แกร๊ก

    “...ทำไมเธอกลับมาช้าจัง” เสียงเลย์บ่นเบาๆ

    ฉันก็เลยบ่นบ้างว่า “นายยังกินไก่ทอดไม่หมดเลยนะ...” จากนั้นเลย์ก็สวนกับว่า ก็ฉันรอเฟรนช์   ฟรายด์อยู่นี่นา!!’ ก่อนจะเดินปึงปังเข้าไปในห้อง ฉันรีบไปทอดเฟรนช์ฟรายด์ให้เลย์ก่อนจะเคาะประตูเรียกให้ออกมากิน หร้อมขู่ว่าถ้าไม่ออกมาดีๆจะเรียกให้พี่สาวลากออกมา เลย์จึงออกมาด้วยประการนี้

    ฉันที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จจึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปทำงาน ป่านนี้ฟินคงบ่นฉันในใจเป็นร้อยรอบแล้วล่ะมั้ง เป็นเลขาฯของฉันก็งานยุ่งอย่างนี้แหละ ช่วยไม่ได้!!

    “ไปดีมาดีนะ เฟรนช์ฟรายด์อร่อยมาก แต่ฉันอยากกินแบบมันฝรั่งแท้ที่เธอปอกเปลือกเองอ่ะ วันหลังทำแบบนั้นนะ!” ฉันหันไปทำหน้าเซ็งให้เลย์ก่อนจะพูดว่า

    “...นายก็ซื้อมันฝรั่งมาให้ฉันด้วยล่ะ ไม่รู้ว่านายชอบพันธุ์อะไร”

     

    เที่ยงคืนกว่าๆฉันนั่งเบื่ออยู่ในห้อง พี่สาวก็ไม่กลับมา เลย์ก็หลับไปแล้วเพราะพรุ่งนี้ต้องไปทำงาน ฟินก็...เอ่อ...ติดพัน (//คิ้วกระตุก) เฮ้อ...ฉันได้แต่ก้มมองโทรศัพท์มือถือในมือเล่น นี่ถ้าวันนี้ฟินไม่ติดพันฉันก็คงจะไปนอนเล่นกับเขาแล้วล่ะนะ จริงสิ! ไปนามูห์นอนดีกว่าเพื่อจะเจอพี่สาว

    หลังจากที่ฉันตัดสินใจได้ฉันก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและตรงออกจากคอนโดฯ นามูห์นอนอยู่ไกลก็จริงแต่ฉันก็ไม่อยากจะใช้บริการแท็กซี่...เอ่อ ไม่แน่ใจสักเท่าไหร่หรอกว่าตอนนี้มีแท็กซี่คอยบริการอยู่ ฉันเดินผ่านตามถนนเส้นต่างๆในเมืองเซ็ตติ้งซัน เมืองนี้ไม่ได้สวยงามนักหรอกสำหรับมนุษย์ แต่สำหรับแวมไพร์หรืออมนุษย์ก็คล้ายกับสวรรค์ล่ะมั้ง

    ฉันเดินอยู่สักพักก็ถึงร้านนามูห์นอน แต่ไหนแต่ไรฉันเป็นพวกที่ไม่แตะแอลกอฮอล์ หรือไม่ก็นานๆครั้งจะแตะ ฉันเดินไปนั่งตรงเคาท์เตอร์ก่อนจะสั่งว้อดก้ามาจิบเล่นๆ

    “...สวัสดี เอทเทอร์นัล” หืม? ฉันเงยหน้ามองคนที่พูด อืม...เป็นเธอจริงๆด้วยสินะ โพไซดี้

    “อืม...ไม่เจอกันนานนะ”

    “อื้ม แล้วมาคนเดียวเหรอ? สุดหล่อของเธอไปไหนซะล่ะ” โพไซดี้พูดกับฉันก่อนจะหันไปผสมค็อกเทลให้ลูกค้าคนอื่นต่อ

    “ฟินน่ะเหรอ? ติดพันน่ะ ว่าแต่พี่สาวฉันไม่มาเหรอวันนี้?”

    “ไม่เห็นนะ ว่าแต่ไม่ชวนหนุ่มน้อยเลย์มาด้วยล่ะ”

    “ไว้วันหยุดฉันจะลองชวนนะ” ฉันพูดแบบไม่รับคำและที่โพไซดี้ก็ไม่ถามอะไรต่อ

     

    “โพไซดี้! ฉันมาตามนัดแล้วนะ!” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนจะมีผู้ชายผมสีเงินคนหนึ่งเดินเข้ามาหาโพไซดี้ คนรู้จักล่ะมั้ง

    “เอ่อ...คุณดีฟาร์โซ่?” หือ? ฉันหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะสบเข้ากับตาสีเขียวของคนคุ้นหน้า

    “...โจชัว นายมาด้วยเหรอ?” ฉันหันไปถามงงๆ

    “เอ๋ เธอรู้จักโจชัวด้วยเหรอ?” เด็กหนุ่ม (ฉันพึ่งสังเกตว่าเขาเป็นเด็ก) หันมาถามฉัน

    โจชัววาดมือมาทางฉันก่อนจะแนะนำ “คุณหนูครับ เธอคนนี้คือดีฟาร์โซ่ เอทเทอร์นัล เป็นเพื่อนของผมครับ” และเขาก็วาดมือไปทางคุณหนูของเขา “คุณดีฟาร์โซ่ คนนี้คือคุณหนูที่ผมปรนนิบัติอยู่ครับ คุณหนูอันเซียร์”

    “อื้อ” ฉันครางรับ “ฉันชื่อดีฟาร์โซ่ เอทเทอร์นัล ยินดีที่ได้รู้จักนะ เทวดา” ฉันยิ้มให้

    “อื้อ เช่นกัน” เขายิ้มให้ฉันบ้างและสุดท้ายพวกเราก็นั่งดื่มกันตรงเคาท์เตอร์กัน

    “จริงสิ! โจชัวบอกว่าดีฟาร์โซ่ทำอาหารเก่งมากงั้นเหรอ?” อันเซียร์หันมาทำหน้าตื่นเต้น

    “ก็ไม่เก่งหรอก พอดีเลย์...เอ่อ น้องของฉันชอบกินไก่ทอดน่ะ” ฉันพูด

    “แวมไพร์กินแต่เลือดไม่ใช่เหรอ?”

    “เลย์เป็นพรายน้ำน่ะ” ฉันพูดอธิบาย

    “เอ๋ โพไซดี้เธอก็ชอบกินไก่ทอดเหรอ?” อันเซียร์หันไปถาม ฉันกระดกว้อดก้าเข้าปากก่อนจะฟุบลงไปกับเคาทเตอร์

    “เซียร์ขา...ฉันน่ะไม่กินไก่ทอดหรอกนะคะ และฉันก็ไม่ใช่พรายน้ำด้วย ฉันเป็นนางเงือกนะคะ” โพไซดี้ทำเสียงออดอ้อน

    อันเซียร์ร้อง อ้อออกมาและหันมาถามฉันต่อ “งั้นดีฟาร์โซ่ไปทำให้ฉันกินหน่อยสิ โจชัวบอกว่าไก่ทอดของดีฟาร์โซ่อร่อยมากละ” อันเซียร์ทำหน้าตื่นเต้นแบบที่ว่า...เกินเหตุ มาทางฉัน เอาไงดีเนี่ย

    “ตอนไหนล่ะ ตอนกลางคืนฉันไม่ค่อยว่างซะด้วย”

    “...จริงสิ” เขาเริ่มทำหน้าผิดหวังจนฉันต้องรีบเปลี่ยนคำพูด

    “พระ...พรุ่งนี้ฉันไปทำให้ก็ได้!! ยังไงฉันก็ไม่รีบนอนหรอก” หลังจากประโยคนี้หลุดออกจากปากฉันอันเซียร์ก็ทำหน้าตาดีใจแบบเกินเหตุ เฮ้อ...ยิ่งกว่าเลย์ซะอีก

    “ขอบคุณครับ” โจชัวหันมาพูด

    “อือ...ฉันก็ไม่อยากอยู่บ้านหรอก” ยังไงซะตอนเช้าเลย์ก็ไม่กินข้าวสาเหตุก็เพราะตื่นสาย ส่วนพี่สาวเดี๋ยวก็มาหาอะไรกินเองนั่นแหละ “พรุ่งนี้เช้านะ เวลา?”

    “เจ็ดโมงเช้า...ได้มั้ยครับ?” โจชัวหันมาถามเพื่อความแน่ใจ

    “อืม...ได้สิ” ฉันรับคำ

    “รบกวนด้วยครับ”

    “แต่นายช่วยซื้อของมาให้ฉันด้วยนะ ฉันไม่แน่ใจว่าจะตื่นทันไปตลาด” ว่าแล้วฉันก็จดมันลงกระดาษให้โจชัวและบอกลาเพราะว่าตอนนี้ฉันเมามาก “ฉันกลับก่อนนะ” ฉันวางบัตรเครดิตไว้ตรงเคาท์เตอร์ก่อนที่โพไซดี้จะรับมันไป และยื่นกลับมาให้ฉันอีกครั้ง “ถ้าพี่สาวผ่านมาบอกว่าพรุ่งนี้เช้าฉันไม่อยู่บ้านด้วยนะ” ฉันบอกกับโพไซดี้ก่อนจะเดินเซออกนอกประตู

    “ไหวมั้ยครับ ให้ผมไปส่งมั้ย” เสียงกระซิบหนึ่งดังขึ้นที่ข้างหูและมือที่เริ่มเกาะกุมฉัน ก่อนที่ฉันจะหันกลับไปมอง

    เขาเป็นแวมไพร์เหมือนกันแต่รุ่นค่อนข้างมาก ฮื่อ...ไม่ไหวเลยเด็กพวกนี้ “...ไม่ต้องหรอก เลขาฯฉันมารับแล้ว” ฉันสะบัดตัวเบาๆเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของแวมไพร์ตนนั้นและเดินไปซบฟินที่พึ่งมา ก่อนจะเหลือบไปเห็นแวมไพร์ตนเมื่อกี้วิ่งหนีไป

    “เมาขนาดนี้เชียว?” เขาพูดเบาๆก่อนจะอุ้มฉันขึ้นรถ ฉันสบนัยน์ตาของเขาซึ่งมันกำลังดุฉันอยู่

    “...อือ อยากลองดื่มน่ะ” ฉันยิ้มหวานส่งกลับไป

    “วันหลังก็เรียกฉันสิ” เขาขมวดคิ้วนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ

    “พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปบ้านเพื่อนฉันตอนเจ็ดโมง ลงตารางงานเลยนะ อาจจะกลับมาสายๆนายปลุกฉันด้วยล่ะ” ฉันพูด

    “งั้นก็นอนเลยละกัน เดี๋ยวจะไปซื้อยามาให้”

    “อือ...” ฉันรับคำอย่างงงๆก่อนจะเบลอและไม่รับรู้อะไรอีกเลย...

    บางที...โจชัวที่เป็นพ่อบ้านอาจจะไม่ใช่แวมไพร์ก็ได้...เหมือนพี่สาวฉันไง ถ้าไม่ดื่มเลือดล่ะก็ ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าเธอจะเป็นแวมไพร์ หึหึ แวมไพร์รุ่นที่ห้าที่เป็นพ่อบ้าน กับแวมไพร์รุ่นที่หนึ่งที่เป็นนักท่องราตรี ฉันก็อยากจะรู้ว่าใครจะเหมือน มนุษย์มากกว่ากัน

    นัยน์ตาสีแดงเหลือบทองของฟินเหลือบมองหญิงสาวที่หลับตาพริ้มและยิ้มนิดๆ “หลับซะแล้ว...ดีฟาร์โซ่ ฝันดีนะ” สิ้นเสียงกระซิบของเขา ริมฝีปากอวบอิ่มที่หยักยิ้มก็เหมือนจะยิ้มมากขึ้นไปอีก ราวกับรับรู้ว่า เขาอยู่ข้างๆเธอเสมอ...

    ===========================================================================
    อ่า...ตอนที่ผมแต่งไปผมก็งงไปว่าตกลงเรื่องนี้ทั้งโจชัวแล้วก็คุณพี่สาวอาเดลล่าเป็นแวมไพร์จริงๆรึป่าว...เฮ้อ บางทีนะครับปราสาทแวมไพร์ของคุณหนูอันเซียร์อาจจะมีแวมไพร์ที่ควรจะเป็นแวมไพร์แค่ไม่กี่ตน ส่วนที่เหลือก็แค่เป็นผุ้นิรันด์ที่ไม่ใช่แวมไพร์ล่ะมั้ง ^^ ยังไงก็เม้นท์ให้กำลังใจกันด้วยนะครับ!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×