คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ชอบ
ตอนที่หก : ชอบ
กว่าจะรู้ตัวตอนนี้เราก็มายืนอยู่ริมชายหาดแล้ว นี่มันสถานการณ์แบบไหนกัน...
“ลมพัดกำลังดีเลย” พี่สีน้ำพูดพร้อมสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด โดยที่ฉันก็มองการกระทำอย่างคนที่ทำตัวไม่ถูก
“พี่สีน้ำเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เห็นทำท่าเหมือนอยากชวนกลุ่มเปาออกมา”
“เปล่าหรอก จริงๆ อยากชวนแค่เปาออกมาน่ะ”
ชวนแค่ฉัน...
ขาที่กำลังก้าวไปอย่างสม่ำเสมอหยุดชะงัก ยืนแข็งทื่อคล้ายเบื้องหน้าตอนนี้เป็นภูเขาน้ำแข็งไม่ใช่ทะเลชลบุรีอีกต่อไป
“ขอโทษนะ”
“ขอโทษเรื่องอะไรคะ”
“ขอโทษเรื่องแป้งน่ะ” ไม่พูดเปล่า เธอเริ่มเดินเลียบชายหาด พร้อมกับฉันที่เดินแนบข้างไปด้วย “เหมือนเพื่อนพี่จะทำให้เปาหนักใจเลย ดูเปาหงุดหงิด”
“เลยชวนเปาออกมาเหรอคะ”
“อื้อ”
“อ่า อย่างนี้นี่เอง...แต่เปาไม่ได้หนักใจอะไรหรอกค่ะ แค่จังหวะนั้นอารมณ์วัยรุ่นมันพุ่งกระฉูดเลยตอบพี่เขาไปแบบนั้น แต่รวมๆ แล้วก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ”
“งั้นพี่ก็คิดถูกแล้วสิที่ชวนเปาออกมา หรือว่าเปาอยากกินปังเย็นต่อ”
“ไม่ค่ะ เดินริมชายหาดแบบนี้ดีกว่า”
“อาฮะ”
แล้วเราทั้งคู่ก็เข้าสู่โหมดเงียบ หรืออาจจะเป็นโหมดสบายๆ ละมั้ง ฉันลืมเรื่องที่ตัวเองเกร็งก่อนหน้านี้ไปแล้ว ส่วนพี่สีน้ำเองก็ดูปล่อยตัวให้ร่างกายได้โดนธรรมชาติอย่างสมบูรณ์
และเพราะทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทาง ฉันเลยเริ่มเอ่ยปากชวนคุยบ้าง
“พี่สีน้ำเห็นหน้าของแคทกับแมนตอนเปาตอบพี่แป้งไหม”
“ไม่นะ ทำไมเหรอ”
“ก็จังหวะที่เปาตอบ สองคนนั้นทำหน้าอย่างกับเห็นผี ทำปากมุบมิบๆ คอยห้ามใหญ่ มันคงคิดว่าเปาจะเปิดศึกกับพี่แป้งมั้งคะ” เสียงหัวเราะของฉันดังออกมาเบาๆ โดยที่รุ่นพี่ก็มองมาด้วยรอยยิ้มเอ็นดูแบบที่พี่เขาชอบทำ
“เสียดายที่พี่ไม่ทันได้มอง”
“ปังเย็นกำลังอร่อยใช่ไหมคะ?”
รุ่นพี่คนสวยพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะเริ่มขยับแขนให้แรงขึ้นคล้ายอยากให้ลมที่พัดมาโดนตัวแรงมากขึ้นกว่าเดิม
“ตรงนั้นมีร้านขายน้ำด้วย เอาไหม เดี๋ยวพี่เลี้ยง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่หิวเลย”
“ถ้าหิวบอกได้เลยนะ วันนี้จะเป็นพี่เปที่พร้อมเปย์เอง”
“ว้าว...อย่างกับแม่พระ” ฉันทำเป็นปรบมือดังแปะแปะ ส่วนรุ่นพี่คนสวยก็ยิ้มร่าออกมาทันที
“งั้นเรียกพี่ว่าแม่เปย์สิ”
“เปย์ให้เท่าไรคะ ถึงจะให้เรียกแม่เปย์น่ะ”
“เท่าไรดีนะ?”
แล้วเราทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้มีคำตอบอะไรดังออกมาหลังจาประโยคนี้
ขาทั้งสองข้างค่อยๆ เดินย่ำไปบนพื้นทรายที่ฉันรู้สึกว่ามันสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ บรรยากาศรอบด้านก็ดูเป็นใจราวกับเสกให้ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเจอมา แถมอากาศก็ไม่ร้อน ไม่มีแดดเลยแม้แต่น้อย ในเวลานี้ฉันควรเก็บเกี่ยวบรรยากาศรอบข้างเอาไว้ แต่คนข้างกายกลับเรียกความสนใจได้ดีมากกว่า
เธอหยุดเดินพร้อมกับถอดรองเท้านักเรียนออก โดยที่ถุงเท้าสีขาวสะอาดก็ถูกถอดตามมาด้วยรุ่นพี่คนสวยเริ่มบอกให้ฉันถอดรองเท้าเดินบ้าง และฉันในตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะปฏิเสธ ฉันทำตาม แล้วมองว่าการกระทำของเราตอนนี้มันช่างน่ารักเสียเหลือเกิน
“เปาสูงเท่าไร”
แล้วคำถามของรุ่นพี่คนสวยก็ดังขึ้น ฉันที่กำลังมองเม็ดทรายมากมายดูดกลืนเท้าอยู่ก็รีบเงยหน้าขึ้นมา
“น่าจะ 167 ซม. ค่ะ”
“สูงจัง” เธอทำหน้าตัดพ้อ ปากล่างยื่นออกมานิดๆ ก่อนจะใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้ถือรองเท้าไว้ทำท่าวัดความสูงจากตัวของฉัน “ตอนใส่รองเท้านักเรียนก็ยังพอสูง แต่ตอนถอดออกมาแบบนี้เตี้ยขึ้นมาเลย”
“พี่สีน้ำสูงเท่าไรคะ”
“160 มั้งนะ”
“ก็ไม่ได้เตี้ยนี่คะ พูดเกินจริงไปไกลเลย”
“หรือ 159 นะ เอ๊ะ หรือจะ 158 ดี” หน้าตาขี้เล่นที่เป็นธรรมชาตินั้นเรียกรอยยิ้มจากเด็กตัวสูงอย่างฉันได้ไม่ยากเลย
“สรุปสูงเท่าไรคะ” ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ ส่วนเธอเองก็ยิ้มออกมานิดๆ
“158 น่ะ เตี้ยใช่ไหมล่ะ แถมพี่น่าจะหยุดสูงแล้วด้วย แต่เปานี่สิ ยังมีเวลาให้สูงอีกเยอะเลย จะหยุดสูงที่กี่เซนกันนะ”
“320 ค่ะ”
“ไม่ใช่คนแล้ว” เสียงของพี่สีน้ำพูดตอบทันที และนั่นทำให้เสียงหัวเราะของฉันดังสวนคล้ายเป็นจังหวะที่ช่างลงตัวเสียเหลือเกิน
“แล้วชอบคนตัวสูงไหมคะ”
“จีบเหรอ?”
ช่วงเวลานั้นฉันเผลอกลั้นลมหายใจเอา แต่เพียงไม่กี่วิทุกอย่างก็ดูเป็นปกติขึ้นมาอย่างง่ายดาย
“เปล่าค่ะ จะจีบได้ยังไงกัน”
“แล้วเปาล่ะ ชอบคนตัวสูงหรือเปล่า”
“ชอบค่ะ สูงสัก 10 เซนขึ้นไปก็ชอบแล้ว”
“นี่มีสเปกเป็นคนทั้งโลกหรือไง”
สิ้นเสียงของเธอ ฉันก็หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วตอบกลับไปเพียงแค่ว่าไม่เคยคิดถึงเรื่องความสูงเลย แล้วก็โดนรุ่นพี่คนสวยพูดกลับมาว่าฉันยังเด็ก เดี๋ยวโตกว่านี้ก็จะรู้เองว่าชอบคนแบบไหน
พอได้ยินแบบนั้นในใจก็อยากจะตะโกนออกมาเสียเหลือเกินว่าคนแบบพี่สีน้ำไงที่เด็กตัวสูงอย่างเปาชอบ แต่ก็นั่นแหละ...ตะโกนแค่ในใจ
“ว่าแต่เปาต้องกลับบ้านกี่โมงนะ”
“ก็ได้เรื่อยๆ นะคะ กลับบ้านไปก็อยู่คนเดียวอยู่ดี”
“แล้วข้าวเย็นล่ะ”
“ก็หม่ำคนเดียว”
“พูดหม่ำด้วย” เสียงหัวเราะเอ็นดูดังขึ้น ก่อนเสียงหวานจะพูดต่อ “งั้นเราไปร้านข้าวกันไหม พี่มีร้านหนึ่งวิวดีมาก ตอนพระอาทิตย์ตกดินคือวิวหลักล้านราคาหลักสิบ”
“ว้าว ไปค่ะ”
“เอ๊ะ ไม่คิดหน่อยเหรอ”
“ไม่ค่ะ อยากรู้ว่าวิวหลักล้านราคาหลักสิบเป็นไง”
“ดีมาก เป็นเด็กก็ต้องอยากรู้ให้มากเข้าไว้ งั้นปะ วิ่งเลยนะ”
“เอ๊ะ” ยังไม่ทันที่ฉันจะทักท้วง รุ่นพี่คนสวยก็พุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว โดยที่เวลาเดียวกันนั้นก็มีเด็กสองคนวิ่งตัดหน้าออกมาพอดี
“ระวังค่ะ!”
ฉันคว้ามือรุ่นพี่มาดึงไว้โดยอัตโนมัติ และดูเหมือนคนถูกดึงเอาไว้จะไม่ได้ตั้งตัวเลยสักนิด ร่างเล็กเซมาหาฉันทันทีคล้ายฉากในหนังที่แสนจะโรแมนติก แต่ทว่า...
รองเท้านักเรียนคู่เล็กที่รุ่นพี่เคยถือไว้ตอนนี้ได้วางแหมะมาบนหน้าฉันอย่างพอดิบพอดี แถมด้านที่แปะมานั้นยังเป็นด้านที่มีทรายติดอยู่เต็มไปหมดอีกต่างหาก
“พี่ขอโทษ เป็นไรไหม”
“ฟู่” ฉันเป่าทรายที่ติดอยู่ที่ปากออกอย่างแรง ทำหน้าเหยเกอยู่พอสมควรเพราะมีทรายบางเม็ดที่ทะลึ่งเข้ามาในตา “โอ้โห เข้ายันลูกกะตา”
ฉันรีบเบิกตากว้างแล้วกะพริบตาไปมาคล้ายพยายามเอาเม็ดทรายอันจ้อยออก ให้ตาย! แสบเป็นบ้า!
ในขณะเดียวกันรุ่นพี่ก็ค่อยๆ คลายร่างออกจากการจับกุมของฉัน ความแสบของสิ่งแปลกปลอมทำให้มองหน้ารุ่นพี่คนสวยไม่ชัด น้ำตาเอ่อนองเพราะอาการเคืองที่เพิ่มมากขึ้น แต่เพียงไม่นาน...หน้าของฉันก็ถูกรุ่นพี่คนสวยดึงให้หันหน้าตรงอย่างรวดเร็ว ทิชชูในซองพลาสติกถูกดึงมาแปะอยู่บนหน้าในทันที มือเล็กเริ่มเช็ดทรายที่ตาออกให้คล้ายเห็นว่าทรายเม็ดไหนที่กำลังจะวิ่งเข้าไปอยู่ในเบ้าตา ทุกอย่างดูรวดเร็วพร้อมกับน้ำเสียงของรุ่นพี่ที่ดังออกมาในขณะที่พยายามช่วยฉันอยู่
“ขอโทษนะ ทรายเต็มหน้าเลยอะ เดี๋ยวพี่เช็ดให้”
ในตอนแรกมีความเป็นห่วงเป็นใยฉายออกมาคล้ายตอนที่เธอเคยช่วยฉันไว้ แต่เมื่อหน้าตาถูกเช็ดจนดูสะอาดหมดจด รุ่นพี่คนสวยก็พ่นหัวเราะออกมาอย่างหยุดไม่ได้ ร่างเล็กย่อตัวลงไปนั่งยองๆ พร้อมกับเอาหน้าซุกไปบนหัวเข่าที่มีกระโปรงนักเรียนปิดอยู่
ส่วนฉัน...งง
“ท..ทำไมหัวเราะขนาดนั้นคะ”
“ก็หน้าเปาตลก ไม่สิ เมื่อกี้มันตลกไปหมด” เธอพูดด้วยเสียงกลั้นขำ หน้าสวยค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แถมดวงตาสวยนั้นก็มีน้ำตาเอ่อออกมานิดๆ “ขอโทษนะ แต่พี่หยุดขำไม่ได้อะ”
“มันตลกขนาดนั้นเลยเหรอคะ...”
“อาฮะ โกรธพี่ไหมอะ”
ฉันทำได้เพียงแค่มองหน้าเธอที่ยิ้มหัวเราะจนตาปิด ความรู้สึกต่างๆ เริ่มเล่นงานคล้ายบอกให้ฉันรู้ว่าเธอในตอนนี้น่ารักมากแค่ไหน และถึงแม้ฉันจะไม่ได้หัวเราะตามเธอ แต่รอยยิ้มที่ส่งไปให้คงเป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าฉันไม่ได้โกรธกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิด
“ตอนที่เปาดึงพี่มาเมื่อกี้ไม่เจ็บใช่ไหมคะ เผลอดึงซะแรงเลย”
“ไม่เจ็บๆ” เธอโบกมือไปมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง รองเท้าที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้ถูกยกขึ้นมาถือไว้อีกครั้ง “เมื่อกี้แอบเท่นะเนี่ย”
“...”
“จะเท่กว่านี้ถ้ารองเท้าไม่ได้ไปแปะบนหน้า”
“นี่ชมใช่ไหมคะ?”
“ชมสิ”
“อ่า...” ฉันหรี่ตาลงนิดๆ ทำหน้าเหมือนคนที่กำลังจับผิดอยู่ ซึ่งรุ่นพี่คนสวยก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง
“อะไร...พี่ดูโกหกเหรอ”
“ก็เปล่านี่คะ ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”
“ก็สายตาเราน่ะมันฟ้อง”
“ฟ้องยังไงคะ” ฉันเริ่มเบิกตากว้างสบตากับคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างท้าทาย
“ไม่บอกดีกว่า... ปะ เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงข้าวเป็นการขอโทษ”
และในครั้งนี้รุ่นพี่คนสวยก็เริ่มหันหน้าไปยังทิศทางที่มีร้านอาหารอยู่ ฉันพยักหน้าให้แม้เธอจะไม่ได้มองกันแล้ว สายตาเริ่มจับจ้องไปที่ด้านหลังของคนที่ฉันแอบชอบ เธอดูสบายๆ แต่เพียงไม่กี่วิก็หันมาหากันคล้ายบอกให้ไปยืนแนบข้างกัน ฉันเริ่มเร่งความเร็วให้ไปยืนอยู่ข้างตัวเธอ ก่อนจะลดความเร็วลงเพื่อให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างเสมอกัน
เราเดินเลียบชายหาดมาเกือบสิบนาทีก็ถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เป็นกึ่งๆ ร้านอาหารแล้วก็กึ่งๆ บาร์ และถึงแม้เราจะเดินเข้ามาด้วยชุดนักเรียน แต่พนักงานก็ไม่ว่าอะไรเลยแถมยังรีบต้อนรับพาไปนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของร้าน โดยที่มุมนั้นก็อยู่ชิดติดกำแพงที่ทำมาจากไม้ไผ่ แถมยังมองเห็นทะเลและพระอาทิตย์ที่กำลังตกได้อย่างชัดเจน
“เอาข้าวหน้าเนื้อย่างน้ำจิ้มแจ่วกับน้ำผึ้งมะนาวโซดาหวานน้อยค่ะ เปาล่ะ”
“เอาเหมือนกันค่ะ”
พนักงานรับออเดอร์ไปอย่างรวดเร็ว เราทั้งคู่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกันเพื่อจะได้มองวิวด้านหน้าได้อย่างเต็มตา ตอนนี้คนที่มาใช้บริการก็พอมีอยู่บ้าง และมันเป็นเรื่องที่ดีที่ไม่มีเสียง พูดคุยของคนรอบข้างมาทำลายบรรยากาศให้เสีย ข้อเสียที่มีอยู่ตอนนี้คงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถมองหน้ารุ่นพี่คนสวยได้ แต่มีเธอนั่งอยู่ข้างๆ ก็ดีเหมือนกัน
“วิวดีไหม”
“ดีค่ะ เพิ่งรู้ว่ามีร้านแบบนี้อยู่ด้วย”
“ไม่ค่อยได้ออกมาเที่ยวเหรอ”
“ก็ออกบ้างนะคะ แต่จะว่าไปนอกจากห้างแล้วก็ตลาดใกล้คอนโดก็ไม่ได้ไปไหนเลย ต้องรอพ่อกับแม่พาไป แต่ก็ยากมากกก เพราะงานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาเจอกันเท่าไร”
“ไม่เหงาเหรอ”
“มีแมนกับแคทคอยอยู่คุยเล่นใน MSN ก็หายเหงาไปเยอะเลยค่ะ อ้อ มีเกมออดิชันให้เล่นด้วย พี่สีน้ำเล่นไหมคะ”
“พี่ไม่ชอบเล่นเกมน่ะ”
“แล้วปกติทำอะไรคะ”
“ถ้าเบื่อก็อ่านหนังสือบ้าง ดูหนังบ้าง ไม่ก็นอนไปเลย”
“เปาก็ชอบเหมือนกันค่ะ”
“ชอบอ่านหนังสือเหรอ”
“ใช่ค่ะ หนังสือการ์ตูน”
“ถือว่าอ่านเหมือนกัน” พี่สีน้ำพยักหน้าอย่างจริงจัง โดยที่ฉันก็ได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆ “แล้วนี่ต้องโทร.บอกที่บ้านหรือเปล่า”
“จริงด้วย ลืมเลย” ไม่พูดเปล่า ฉันคว้ามือถือฝาพับออกมาจากกระเป๋ากระโปรง ก่อนจะกดเบอร์โทร.หาแม่ทันที
[ว่าไงลูก ถึงบ้านหรือยัง]
“ยังเลยค่ะ พอดีเปาออกมาทานข้าวกับรุ่นพี่ค่ะ เลยโทร.มาบอกแม่ก่อน เผื่อกลับบ้านไปแล้วไม่เจอลูกสาวคนสวย”
[รุ่นพี่? ผู้หญิงหรือผู้ชาย]
“ผู้หญิงสิคะ”
[ไหนให้แม่คุยด้วยหน่อย]
“เอ๊ะ...” ฉันอึกอัก ทำหน้าลำบากใจออกมา แต่ในสถานการณ์แบบนี้ก็คงเลี่ยงไม่ได้ “เอ่อ พอดีแม่อยากคุยด้วยค่ะ
“อ๋อ...” เธอหยิบมือถือฝาพับของฉันไปถือไว้ ก่อนจะทักทายกับคนปลายสายด้วยน้ำเสียงนอบน้อมทันที “สวัสดีค่ะ”
“...”
“ใช่ค่ะ ชื่อเปค่ะ แต่ว่าเปาเรียกว่าพี่สีน้ำค่ะ.. ค่ะ ..พอดีชวนน้องออกมาหาอะไรทานด้วยกันค่ะ .. ค่ะ ได้ค่ะ ไม่ได้จะไปไหนต่อค่ะ... ได้ค่ะ ยังไงเดี๋ยวถ้าทานข้าวกันเสร็จแล้วจะให้เปาโทร.หานะคะ .. ชื่อร้านริมเลเฮลั่นค่ะ ใช่ค่ะ...ค่ะ สวัสดีค่ะ”
แล้วมือถือของฉันก็ถูกส่งกลับคืนมาให้พร้อมกับปลายสายที่วางสายไปแล้ว
“แม่ว่าอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปล่านะ แค่ถามชื่อแล้วก็บอกว่าถ้าเราเสร็จแล้วให้เปาโทรหาแม่ เดี๋ยวแม่เปามารับที่ร้าน”
“อ๋อ...เอ๊ะ มารับเหรอคะ”
“อื้อ ทำไมเหรอ”
นะ..นี่มันเป็นการแนะนำลูกสะใภ้ให้แม่รู้จัก!
เพียงแค่ความคิดนี้เด้งเข้ามาในหัว เลือดในกายก็ดูสูบฉีดอย่างกับนางเอกในละครหลังข่าวที่มักเขินอายจนหน้าแดงให้พระเอกทัก ทั้งๆ ที่จ้องให้ตายยังไงก็ไม่ได้เห็นว่าหน้ามนุษย์ในจอจะแดงถึงขนาดมองออกเลยสักนิด
แล้วการทานอาหารสองต่อสองระหว่างฉันกับพี่สีน้ำก็เริ่มมีอาการเกร็งขึ้นมา ฉันแทบไม่คุยอะไรเลยด้วยซ้ำ พอรุ่นพี่คนสวยเห็นว่าฉันถามคำตอบคำก็เริ่มเงียบบ้าง เราทำเพียงแค่มองไปยังทะเลเบื้องหน้าที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ในช่วงเวลาที่ฟ้าค่อยๆ มืดลง เมฆบางที่ก็กลายเป็นสีส้มอมชมพู รอยยิ้มของฉันก็เด่นชัดขึ้นมากับความสวยที่ได้เห็น อาการเกร็งที่มีค่อยๆ ลดลงพร้อมกับหน้าที่เริ่มหันไปหารุ่นพี่คนสวยเพื่อบอกว่า
“ฟ้าสวยจัง ว่าไหมคะ”
และในช่วงเวลาที่พี่สีน้ำหันมาสบตากัน แสงสีส้มจากท้องฟ้าก็กระทบหน้าขาวที่มีดวงตาสวยยิ่งกว่าน้ำทะเล ฉันถูกมนต์สะกดทันทีอย่างไม่ได้เตรียมใจ หัวใจเต้นแรงขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ค่อยๆ หายไป สายตาที่มองพี่เขาคงเป็นสายตาแก่แดดแน่ๆ แต่จะทำไงได้ ในเมื่อเธอสวยขนาดนี้
“อื้อ ชอบใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ ชอบ...แต่ไม่ใช่แค่วิวตอนนี้นะคะ”
“...”
“พี่สีน้ำก็ด้วย”
#####
ฝากกดหัวใจหรือคอมเมนต์ให้กันด้วยนะคะ ^^
ความคิดเห็น