คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : หยุดไม่ได้
ตอนที่สิบสาม : หยุดไม่ได้
พะ...พูดออกไปแล้ว!
แม้หน้าตาในตอนนี้จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น แต่เชื่อเถอะว่าด้านในกำลังกรีดร้องออกมา
ให้ตายเถอะ! ฉันเป็นอะไรเนี่ย!!!
“เปมีแฟนแล้วเหรอ” ทอมที่ชื่อใหม่พูดด้วยความสงสัย และนั่นทำให้ฉันหันไปหาคุณหมอคนสวยด้วยความลุ้นระทึกทันที
“ก็...” หน้าตาของพี่สีน้ำยังคงมีความตกใจ แต่เพียงไม่นานเสียงหัวเราะก็ดังออกมานิดๆ “ขอโทษนะใหม่ เราคงไปด้วยไม่ได้แล้ว”
“...”
“แฟนมารับน่ะ”
กรี๊ดดดด! แล้วทำไมฉันต้องเขินด้วย!
มือที่เคยปล่อยไว้แนบตัวก็เริ่มยกขึ้นปิดปากนิดๆ คล้ายไม่สามารถกักเก็บอาการเขินนี้ไว้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กกลับยื่นมือมาคว้ามือฉันไว้ เราทั้งคู่จับมือกันต่อหน้าแม่สาวทอมบอยที่ยังคงยืนอึ้งอยู่
“ไปกันเลยไหมเปา”
“คะ ค่ะ ไปสิ...” แล้วเราทั้งคู่ก็เดินจับมือแยกออกมาจากตรงนั้น ในเวลานี้ฉันไม่ได้สนใจอีกแล้วว่าคนที่ชื่อใหม่จะมีท่าทางแบบไหน
เราเดินลงลิฟต์ที่อยู่ด้านข้างของห้างด้วยความเงียบ แต่ถึงอย่างนั้นมือก็ยังคงจับกันอยู่
“เอ่อ...คนนั้นน่าจะไม่เห็นแล้วนะคะ ปะ..ปล่อยมือไหมคะ”
“จับไว้อีกหน่อยดีกว่า ละลายพฤติกรรม” เธอส่งยิ้มหวานมาให้ และนั่นทำให้เห็นว่ารุ่นพี่ยิ้มสวยมากขนาดไหน
“เวลายิ้มนี่...สวยจังเลยนะคะ”
“ฮื้ม?”
“อ๋อ! เปาหมายถึงคนชื่อใหม่น่ะค่ะ สวยจัง”
“สวยเหรอ เห็นมีแต่คนชมเขาว่าหล่อ”
“อ้อ ใช่ๆ หล่อค่ะ เปาพูดผิด” ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ถอนหายใจซะดังเลย”
“กลัวไม่เนียนน่ะค่ะ”
“เนียนอยู่นะ พี่ยังตกใจเลย”
“เปาก็ตกใจค่ะ”
“แล้ว...เราจะยังไงต่อดี” คุณหมอพูดพร้อมมองหน้าฉันอย่างไม่วางตา และจังหวะนั้นประตูลิฟต์ก็เปิดออก
“ไว้เราค่อยโทร.คุยกันคืนนี้นะคะ เปากลับห้องก่อนดีกว่า” ฉันรีบเร่งฝีเท้าเพื่อหนีออกมา แต่มือกลับถูกคนที่อยู่ข้างตัวกระชับไว้
“อยู่ด้วยกันแท้ๆ คุยต่อหน้าไม่ดีกว่าเหรอ?”
“คะ?”
“ไปร้านเหล้ากัน”
แล้วฉันก็ถูกลากขึ้นรถมาอย่างรวดเร็ว ตัวก็เล็กแค่นี้เอาแรงที่ไหนมาดึงฉันอยู่บ่อยๆ พอคิดว่าตัวเองไม่สามารถต่อต้านอะไรพี่เขาได้ การมาร้านเหล้าก็ดูเหมือนจะเป็นไปตามที่พี่เขาเชิญชวน แต่นะ...ร้านเหล้าที่คิดไว้มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ
หลังจากที่นั่งรถมาเกือบครึ่งชั่วโมงเราก็มายืนอยู่ที่ซุ้มมืดๆ ที่มีชายฉกรรจ์นั่งอยู่สองสามคน ความสับสนแล่นเข้ามาในอก พร้อมกับการหันไปถามรุ่นพี่คนสวยว่าเธอไม่ได้มาผิดร้านใช่ไหม
“พะ...พี่สีน้ำคะ มาผิดร้านหรือเปล่า”
“ถูกแล้ว...”
“แต่นี่มันร้านยาดอง..” ฉันยังคงอึ้ง ส่วนเธอก็มีรอยยิ้มแต่งแต้มอยู่ตลอดเวลา
“พี่คะ” คุณหมอไม่ฟังกันเลยสักนิด เธอรีบยกมือเรียกเจ้าของร้านที่นั่งอยู่ด้านหลังซุ้ม
“รับอะไรดีจ๊ะคนสวย”
“ขอสาวน้อยตกเตียงสองที่ค่ะ”
“ได้เลยจ้ะ นั่งรอก่อนน้า” ผู้หญิงวัยกลางคนท่าทางจัดจ้านรีบพูดพร้อมพาเราทั้งคู่มานั่งอยู่ที่โต๊ะไม้ด้านข้างอย่างรวดเร็ว
“เปาเคยดื่มยาดองไหม”
“เอ่อ...ไม่เคยค่ะ”
“ต้องลอง ดีนะ สรรพคุณของสาวน้อยตกเตียงก็ดีเยี่ยมด้วย”
ฉันยิ้มเจื่อนๆ ไปให้ ก่อนจะมองรอบๆ ร้านด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ “สรรพคุณคืออะไรเหรอคะ”
“แป๊บนะ” เธอพูดด้วยรอยยิ้ม มือเริ่มกดหน้าจออย่างรวดเร็ว “สรรพคุณของสาวน้อยตกเตียง แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดเส้น ปวดเอ็น ปวดเอว ปวดหลัง ชาตามเนื้อตามตัว บำรุงกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะ ของดีเลยนะ”
ฉันทำเป็นเออออด้วย ก่อนจะยกมือขึ้นปรบอย่างงงๆ “ว้าว สรรพคุณดีจังเลยนะคะ”
“ใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าลองชิมแล้วไม่ไหว เปาไม่ดื่มก็ได้นะ แต่ต้องแบกพี่กลับ”
“คะ?”
“ก็ถ้าพี่ไปกับใหม่แล้วเมา...ใหม่ก็คงพาพี่กลับห้องเหมือนกัน เปาจะทิ้งพี่ไว้ที่นี่เหรอ” เธอมองรอบๆ ร้านคล้ายรู้สึกไม่ปลอดภัย แม้ร้านนี้จะเป็นร้านที่เธอเลือกเองก็ตาม
“ใครจะทิ้งพี่ได้ล่ะคะ”
แล้วรุ่นพี่คนสวยก็หัวเราะออกมานิดๆ เธอนั่งเท้าคางมองกันพร้อมกับยื่นมือมาลูบผมฉันเบาๆ
“น่ารัก”
ให้ตายเถอะ...พี่สีน้ำจะมาอ่อนโยนในร้านยาดองแบบนี้ไม่ได้นะ มันขัดกัน!
แล้วแก้วเป๊กที่มีน้ำสีเข้มสองใบก็ถูกตั้งอยู่ตรงหน้า รุ่นพี่สาวยกกระดกขึ้นหมดในทีเดียว พร้อมกับเสียง อ่า...ที่ดังออกมา
“เป็นไงบ้างคะ...”
“ลองสิ”
ฉันลองดมน้ำที่อยู่ในแก้วดู กลิ่นสมุนไพรกระแทกจมูกผสมคละคลุ้งกับกลิ่นเหล้าแรงๆ และนั่นทำให้รุ่นพี่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามหัวเราะออกมาทันที
“คิดว่าจะเป็นคนกล้ามากกว่านี้ซะอีก”
พอคนตรงหน้าท้าทายออกมาแบบนั้น ความไม่ยอมเสียหน้าก็แล่นเข้ามาทันที ฉันยกแก้วเป๊กกระดกรวดเดียวบ้าง และนั่นทำให้หน้าเหยเกจนอธิบายไม่ได้ว่าจะรีวิวยังไง
“หือ โอ้ว ว้าว”
แล้วรุ่นพี่ก็หัวเราะออกมาอย่างหยุดไม่ได้ เธอยกมือขึ้นปิดหน้าไว้พร้อมกับตัวที่สั่นคล้ายคนไม่สามารถหยุดหัวเราะได้อีกต่อไป
“ขำอะไรขนาดนั้นคะ”
“ก็เปา...ทำหน้าตลก”
“ก็รสชาติมัน” ฉันทำหน้าคิด จะบอกยังไงดีนะ แต่ดูเหมือนรุ่นพี่สาวจะไม่สนใจคำพูดนั้นอีกแล้ว
“พี่คะ ขอกำลังช้างสารสี่ที่ค่ะ”
“เอ๊ะ! สี่เลยเหรอคะ”
“น่าๆ เอาหน่อย”
แล้วค่ำคืนนี้ก็ดูจะไม่จบไปง่ายๆ ฉันลองชิมอยู่แก้วสองแก้ว จะเรียกชิมก็ไม่ได้ ต้องยอมรับเลยว่าเหล้าแรงกว่าที่คิด แต่คุณหมอที่ดูเป็นคนเรียบร้อยคออ่อนนี่สิ ยกดื่มไปเท่าไรแล้วก็นับไม่หมดเหมือนกัน
“เปา...”
“คะ”
ฉันขานรับ โดยที่ผู้หญิงตรงหน้าก็มองกันด้วยหน้าที่แดงก่ำ เธอยกแก้วใบสุดท้ายขึ้นดื่มรวดเดียว ก่อนคำคำหนึ่งจะหลุดออกมา
“พี่เมา...”
พรึบ!
แล้วหน้าสวยก็ฟุบหมดสภาพอยู่บนโต๊ะที่เราใช้นั่งดื่มกัน ฉันเรียกเช็กบิลพร้อมกับอุ้มพี่เขาขึ้นรถด้วยความทุลักทุเล โดยการอุ้มพี่เขาก็มีเสียงเชียร์จากหนุ่มๆ และคุณพี่เจ้าของร้านปรบมือกันเกรียวกราวคล้ายอึ้งกับกำลังแขนของผู้หญิงคนหนึ่ง
“ยาดองร้านเจ๊นี่ดีจัด ดูน้องสิ ยกเพื่อนได้ง่ายๆ เลย”
“ก็บอกแล้ว คนดองดี พละกำลังก็มหาศาล”
เอาละ...อยู่ๆ การออกกำลังกายมาหลายปีของฉันก็ถูกขโมยเครดิตไปง่ายๆ ด้วยยาดองไม่กี่แก้ว
แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ได้คัดค้านอะไร สิ่งที่ทำมีเพียงการจ่ายเงินแล้วขับรถพาพี่เขามาถึงคอนโด แต่ดูเหมือนเจ้าของห้องจะไร้สติอย่างสมบูรณ์ ฉันลังเลว่าจะเอายังไงกับสภาพเธอในตอนนี้ดี และสุดท้ายคำตอบก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากต้องพาพี่เขามาที่ห้องตัวเองแทน
ฉันอุ้มร่างเล็กมาถึงลิฟต์ของคอนโด แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าลิฟต์พร้อมกับเสียงหอบหายใจที่ดังบ่งบอกถึงอาการเหนื่อยหอบ
“พี่สีน้ำคะ แขนเปาล้าไปหมดแล้ว”
“...”
“พี่สีน้ำ..”
ฮือออ ทำไมเธอไม่รู้สึกตัวเลยเนี่ย!
แล้วฉันก็ต้องอุ้มพี่เขาสลับกับวางลงบนพื้นอยู่หลายครั้งกว่าจะมาถึงห้องนอน ทันทีที่ร่างเล็กถูกโยนลงบนเตียง ใช่ โยนนั่นแหละ เพราะแขนฉันในตอนนี้ไม่มีแรงจะวางอย่างนิ่มนวลแล้ว พอเห็นพี่เขานอนท่าทางสบาย ร่างกายก็ล้มตัวลงนอนบ้าง เสียงหอบหายใจดังไม่ขาดสาย สายตาเริ่มพร่ามัวจากความเหนื่อยล้า
ในจังหวะนั้นฉันลองหันไปมองหน้าผู้หญิงที่อยู่ข้างตัว กลิ่นเหล้ายังคงคละคลุ้ง ส่วนความสวยก็ฟุ้งกระจายไม่แพ้กัน
กว่าจะรู้ตัว...ริมฝีปากของเราก็เกือบจะแนบชิดติดกันแล้ว
ฉันทำอะไรวะเนี่ย! ให้ตายเถอะ...ยาดองเล่นงานแล้วไง!!!
“นี่มัน...ที่ไหน” แล้วอยู่ๆ เสียงของรุ่นพี่สาวก็ดังมาแบบคนที่งัวเงีย ส่วนฉันก็รีบผละออกมาอย่างรวดเร็ว
เกือบไปแล้ว...เกือบไป
“ห้องเปาค่ะ”
“เปาไหน”
“อ้าว...”
“เปาแฟนพี่น่ะเหรอ” เธอพูดพร้อมหันหน้ามามองกัน ฉันกะพริบตาปริบๆ พร้อมกับหัวใจที่หล่นวูบอย่างคนที่ไม่ชิน
“จะว่าใช่ก็ได้ค่ะ”
“อ๋อ...” แล้วร่างเล็กก็ลุกขึ้นพรึบ ฉันตกใจที่อยู่ๆ เธอก็ดูมีสติขึ้นมาในทันทีทันใด “ไม่สบายตัวเลย”
“อาบน้ำไหมคะ ชุดพี่สีน้ำเปาเอาไปซักให้เรียบร้อยแล้ว จะได้ใส่ชุดนั้นเลย”
“แต่พี่ลุกไม่ไหว”
“เอ๊ะ” แล้วร่างของเธอก็เอนตัวลงนอนอีกครั้ง “งั้นเช็ดตัวดีไหมคะ”
“อยากอาบน้ำ”
“แต่พี่ลุกไม่ไหวนี่คะ”
“...”
แล้วอยู่ๆ เธอก็หลับไปซะดื้อๆ ฉันมองเธอด้วยความมึนงง พออาการเหนื่อยหอบเริ่มจางหายไป เลยตัดสินใจปล่อยให้ร่างเล็กนอนไปแบบนั้น ขาทั้งสองข้างเริ่มไปหยิบเสื้อผ้ามาถือไว้ อาการมึนหัวเริ่มทำงาน แต่ถึงอย่างนั้นความไม่สบายตัวกลับมีมากกว่า
น้ำจากฝักบัวถูกเปิดพร้อมกับร่างกายที่ได้รับสัมผัสที่น่าผ่อนคลาย ฉันหลับตารับความรู้สึกนี้อย่างคนที่ยังงงกับเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ตั้งแต่เจอพี่สีน้ำมาไม่เคยเจอเรื่องปกติเลยสักครั้ง
แถมใครจะคิดว่าพี่เขาจะพาไปร้านยาดอง...ร้านยาดองเนี่ยนะ?
พอคิดได้แบบนั้นเสียงหัวเราะก็ดังออกมาเบาๆ พร้อมกับภาพพี่สีน้ำตอนที่เธอกำลังลูบผมฉันอยู่ เสียงหัวเราะในตอนแรกกลายเป็นรอยยิ้มที่เด่นชัดขึ้นมา
พี่สีน้ำนี่...น่ารักจังเลยแฮะ
แต่ยังไม่ทันที่จะได้รำลึกความหลังจบ ร่างของใครอีกคนก็เดินเข้ามาในห้องน้ำ เธอค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น ฉันอึ้ง งง และร่างกายชะงักค้างแข็งทื่อ กว่าจะได้สติคนที่วนเวียนอยู่ในความคิดก็ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด
ขาว...ดะ เดี๋ยว ไม่ใช่สิ!!!
“พี่สีน้ำคะ!” ฉันรีบกระโจนตัวเอาผ้าขนหนูไปคลุมร่างพี่เขาไว้ โดยที่หยิบเสื้อยืดตัวใหญ่มาสวมใส่ให้ตัวเองได้เพียงตัวเดียว “พี่เมาแล้วค่ะ”
“เปาเหรอ”
“ใช่ค่ะ เปาเอง”
“แล้วทำไมเปาถึงแก้ผ้าละ”
“ก็เปาอาบน้ำอยู่!”
“มาอาบน้ำห้องพี่ได้ยังไง”
“นี่ห้องเปาค่ะ”
“ห้องพี่...”
“ฮือ พี่สีน้ำ...มีสติกว่านี้หน่อยค่ะ ดูดีๆ สิ นี่ไม่ใช่ห้องพี่ ไม่ใช่สิ ไม่ใช่เวลามาทวงห้องน้ำ พี่จะมาแก้ผ้าแบบนี้ไม่ได้นะคะ!” ฉันส่งเสียงคล้ายอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด
“ทำไมล่ะ ก็นี่ห้องพี่”
“พี่สีน้ำคะ! มองเปาดีๆ”
“มองแล้ว...” ดวงตาหวานจ้องมองกันด้วยหน้าที่ยังคงแดงก่ำ หัวใจฉันเต้นแรง แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องสลัดทุกความคิดทิ้งไป
“มีสติค่ะ”
“เปานี่” เธอพูด ก่อนจะยกมือขึ้นลูบแก้มฉันเบาๆ “โตมาแล้วสวยจังเลยนะ”
“คะ?” ฉันยังคงอึ้ง และดูเหมือนพี่เขาจะสำรวจใบหน้าของฉันอย่างจริงจัง
“โตมาแล้วสวยมากเลย ตัวก็สูง ดูตัวพี่สิ...ยังเล็กเหมือนเดิมเลย” แล้วพี่เขาก็ปลดผ้าขนหนูออก ฉันร้องว้ายออกมาทันทีแล้วรีบหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาคลุมตัวพี่เขาไว้อีกครั้ง
“ทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ!”
“ทำไมล่ะ?”
“มันโป๊ค่ะ...เดี๋ยวเปาจะตายเอา” ประโยคสุดท้ายพูดด้วยเสียงที่เบาคล้ายเสียงกระซิบ แต่ถึงอย่างนั้นคนที่อยู่ตรงหน้ากลับได้ยินอย่างชัดเจน
“ทำไมเปาถึงจะตายเหรอ”
แล้วในตอนนี้ฉันก็เริ่มมองร่างกายของเธอที่มีเพียงผ้าขนหนูคลุมด้านหลังเอาไว้ ส่วนด้านหน้านั้นโชว์เรือนร่างจนหมดเปลือก ลมหายใจขาดห้วง หัวใจเริ่มสั่นแปลกๆ น้ำลายก้อนโตถูกกลืนลงไปอย่างไม่รู้ตัว
ตัวเล็กแค่นี้ แต่ทรวดทรงกลับ...
“กลับไปนอนนะคะ เดี๋ยวเปาพาไป” ฉันพยายามดันร่างเธอให้ออกจากห้องน้ำ แต่ทว่า...
“พี่ไม่ว่าหรอกนะ ถ้าเปาจะทำมากกว่ามอง”
ขาทั้งสองข้างชะงักค้าง เธอดูไม่มีอาการมึนเมาแบบก่อนหน้านี้เลยสักนิด สายตาที่พี่เขาส่งมาเหมือนต้องการสื่ออะไรบางอย่าง พอเห็นว่าเธอดูนิ่งกว่าที่คิด หัวใจก็เต้นโครมครามคล้ายจะระเบิดออกมา
“วันหลังไม่ไปร้านยาดองแล้วนะคะ” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง พยายามเบี่ยงเบนสายตาของตัวเองไปทางอื่น
แต่ทว่า...
“พี่เป็นแฟนเปา ร่างกายของพี่...ก็คือของเปานะ”
สิ้นเสียงนั้นฉันก็ช้อนร่างเธอมาอุ้มไว้ ความอ่อนล้าแบบก่อนหน้านี้หายไปจนหมด ขารีบก้าวฉับๆ ไปที่เตียงนอนก่อนจะวางพี่เขาลง เสื้อยืดเพียงตัวเดียวของตัวเองถูกถอดออกก่อนจะโยนทิ้งไปข้างเตียง
ร่างกายโน้มตัวจูบคนใต้ร่างอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหล้ายังคงคละคลุ้งผสมปนเปกับความมึนเมา แขนเล็กของคนใต้ร่างเริ่มยกขึ้นโอบรอบคอ ริมฝีปากของเราบดเบียดแนบแน่นอย่างไม่มีใครยอมใคร วงแขนเริ่มช้อนตัวพี่เขาให้ขยับขึ้นมานอนกลางเตียง ส่วนริมฝีปากก็ยังคงทำหน้าที่ได้ดี
“อื้อ...”
เสียงของเธอดังขึ้น และนั่นทำให้สติของฉันกลับมาคล้ายเพิ่งรู้ตัวว่าทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องไป
ร่างกายขยับถอยห่างออกมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาเบิกกว้างพร้อมกับลมหายใจที่ขาดห้วงคล้ายคนจะขาดอากาศหายใจ
“...”
นี่ฉัน...ทำอะไรลงไป
แล้วร่างที่เคยคร่อมตัวพี่เขาก็รีบขยับหนีออกมานั่งข้างๆ มือรีบคว้าเสื้อที่กองอยู่ข้างเตียงมาสวมไว้ หัวใจยังคงเต้นแรงพร้อมกับความรู้สึกผิดที่ถาโถมเข้ามา
“เปา...”
ฉันไม่ตอบอะไรกลับไป เธอเริ่มขยับตัวลุกขึ้นนั่งบ้าง ในเวลานี้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเธอด้วยซ้ำ
“ขอโทษค่ะ เปาไม่ควร...”
“...”
“เดี๋ยวเปาออกไปนอนที่โซฟานะคะ”
แล้วร่างกายก็รีบลุกขึ้นยืน ขาเตรียมขยับก้าวออกไปจากห้อง แต่ทว่ามือกลับถูกเธอรั้งเอาไว้ คนตัวเล็กออกแรงดึงจนฉันเซลงไปนั่งบนเตียงอีกครั้ง และครั้งนี้คนที่อยู่ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่าก็ขยับตัวรวดเร็วมานั่งบนตัก หน้าเธอแดงก่ำ และสายตาก็ดูจริงจังมากจนไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้
“ทำไมล่ะ?”
“...”
“พี่ถามว่าทำไมถึงไม่ควร”
“ก็...พี่เมา และเปาก็ไม่ควรฉวยโอกาสในเวลาแบบนี้”
“ถ้าบอกว่าเป็นการฉวยโอกาส นั่นแปลว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเปาน่ะสิ”
“...”
“ถ้าพี่เป็นคนเริ่มเองก็ไม่ใช่ปัญหาใช่ไหม?”
สิ้นเสียงนั้นเธอก็โน้มตัวมาจูบกันอีกครั้ง ปลายลิ้นเริ่มสอดเข้ามาอย่างคนที่ตั้งใจ เสียงหัวใจฉันเต้นแรงและสมองก็อื้ออึงไปพร้อมๆ กัน ในเวลานี้ร่างกายไม่สามารถต่อต้านหรือตอบสนองได้ ฉันยังคงนั่งนิ่งให้คนที่นั่งอยู่บนตักทำตามอำเภอใจ
ในชีวิตนี้ไม่เคยได้ทำเรื่องแบบนี้กับใครเลยนอกจากพี่แป้ง และดูเหมือนทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วจนจับต้นชนปลายไม่ถูก เรากลับมาเจอกันได้ไม่กี่วัน เรื่องราวมากมายถาโถมจนไม่ทันได้ตั้งตัว และตอนนี้เราก็กำลังล้ำเส้นที่เกินกว่าคนที่แกล้งเป็นแฟนจะทำกัน
กว่าจะรู้ตัวร่างเล็กของพี่สีน้ำก็ค่อยๆ ขยับเสียดสีกับขาของฉัน เสียงลมหายใจของเธอเริ่มหนักหน่วง ทรวดทรงเปลือยเปล่าเชิญชวนให้จ้องมองมากกว่าตอนแรกที่รู้สึกเขินอาย ฉันไม่สามารถละสายตาไปไหนได้ ยังคงมองร่างเล็กขยับอยู่แบบนั้น ความรู้สึกเปียกชื้นจากขากำลังทำให้รู้ว่าเธอต้องการมากแค่ไหน ในตอนนี้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีได้ถูกกระชากออกไปแล้ว
“อื้อ...”
เสียงหวานดังออกมาเบาๆ และนั่นทำให้ฉันเม้มปากแน่น ลมหายใจถูกพ่นออกมาอย่างคนที่อึดอัด
ฉันไม่ควร...ปล่อยให้พี่เขาต้องเป็นแบบนี้
สิ้นเสียงความคิดนั้นริมฝีปากของเราก็ประสานกันอีกครั้ง ฉันเริ่มจูบตอบพร้อมกับมือที่ประคองร่างที่ยังคงขยับขึ้นลงไม่หยุด ความรู้สึกนึกคิดทุกอย่างถูกขโมยหายไป จากตอนแรกที่ปล่อยให้พี่เขาทำตามอำเภอใจ ก็กลายเป็นฉันที่อยากทำตามใจตัวเองบ้าง
“เปา...อื้อ”
เสียงกระเส่าดังเรียกชื่อกันคล้ายเธอต้องการอะไรบางอย่าง และนั่นทำให้ต้องพลิกร่างเล็กนอนลงพร้อมกับร่างกายที่ขึ้นคร่อมเธออย่างรวดเร็ว
“หยุดไม่ได้แล้วนะคะ...”
“...”
“เปาหยุดไม่ได้แล้ว”
ความคิดเห็น