ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    b a p :. ★wgm★ สาบานครับให้ตายกูก็ไม่เอามึงทำเมีย! ♡bangchan

    ลำดับตอนที่ #32 : wgm ss2 ★ special happy BYGday

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 57


    © Tenpoints!




    special

    happy BYGday

     





     

     

       ไปให้พ้นๆหน้ากูทีเหอะรำคาญว่ะ

     

     

                เคยไหมครับ ไม่ได้ทำอะไรผิดแค่ยืนหล่ออยู่เฉยๆก็ไปขวางหูขวางตาขวางเหง้าหน้าโง่ๆของใครเข้า ผมโดนคิมฮิมชานตะเพิดออกมาจากห้องคอนโด(เป็นห้องหอในรายการวีก็อตแมรี่ซีซั่นสองครับ) แต่ผมไม่โกรธหรอกครับ เพราะอะไรรู้แป่ะ?

     

     

                พรุ่งนี้วันเกิดกู...

     

     

                มันต้องเตรียมการเซอร์ไพรส์อะไรซักอย่างแน่ๆ เชื่อพี่เถอะ 5555555555555555555555555555

     

     

                ผมเดินผิวปากเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะกดชั้น G เพื่อลงไปยังลานจอดรถ ออกไปสูดอากาศแถวๆริมแม่น้ำฮันก็ดี อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยครับอีคนแต่งมันนึกสถานที่อื่นไม่ออกแล้ว เอะอะแม่น้ำฮันไว้ก่อน พอดีพี่ดิวไม่เคยไปเกาหลีครับ

     

     

                ก่อนที่ผมจะเดินไปที่รถคันหรูที่ทางรายการจัดให้ใหม่อีกคัน มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วควานหากุญแจรถอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่หายังไงก็หาไม่เจอประหนึ่งว่ากระเป๋ากางเกงเป็นมิติลี้ลับ ใส่อะไรลงไปมันจะหายไปอยู่อีกมิติหนึ่ง ยกเว้นขยะ...

     

     

                ชิบหัย ลืมกุญแจรถ

     

     

                แล้วกูจะกล้ากลับเข้าไปหยิบกุญแจไหมเนี่ย โดนเจ้าของฟันกระต่ายถอดฟันขว้างใส่หน้ามาขนาดนั้น นี่ถ้าบอกว่าเป็นบูมเมอแรงก็เชื่อครับ บอกว่าเป็นเลื่อยไฟฟ้าหรือจอบขุดท่อประปาก็เชื่อ แต่อย่าบอกว่าเป็นฟัน กูไม่เชื่อ!!

     

     

                ก๊อกๆๆ

     

     

                ที่ต้องเคาะประตูก่อนไม่ใช่ว่ามีมารยาทอะไรหรอกครับ คือผมลืมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในห้องหมดเลยเนื่องจากความเกรงใจและความกลัวที่มีมากกว่า ดังนั้นเมื่อโดนไล่ตะเพิดออกมากูก็ใส่เกียร์หมาแล้ววิ่งออกมาทันที

     

     

                แอ๊ด

     

     

                แอ๊ด! ร้านที่เราไปเที่ยวด้วยกันวันเสาร์อยู่ไหน!! พ่อง ไม่ใช่ครับ พี่เว็บอย่าแบนนะครับผมไม่ได้ตั้งใจจะอุทานแบบนั้นจริงๆ

     

     

                กลับมาเร็วจัง?

     

                ลืมของ

     

                ไม่ต้องไปแล้ว เข้ามาเถอะ

     

                อ... อ่าว? หายรำคาญหน้ากูแล้วเหรอ?

     

                กูบอกให้เข้ามาก็เข้ามาสิ หรืออยากออกไปตากแดดข้างนอก!”

     

     

                โอ๊ยจะตะคอกกูอีกนานไหม! ผมรวบรวมคำด่าสารพัดสัตว์โลกน่ารักรวมถึงโคตรเหง้าศักราชต่างๆผ่านรอยยิ้มกว้างแล้วก้าวขาเข้าไปนั่งกระดิกเท้าเล่นอยู่บนโซฟา

     

     

                อากาศมันร้อน มึงเข้าไปนอนเปิดแอร์ในห้องเหอะ

     

     

                ห้องที่ฮิมชานหมายถึงก็คือห้องนอนครับ ห้องนอนของเรามีแอร์ พูดไปก็ภูมิใจไปเพราะเรือนหอเก่าของเรามันกาก มีน้ำอุ่นให้อาบถือว่าหรู จริงๆห้องด้านนอกก็มีแอร์นะครับแต่ไม่รู้ทำไมต้องไล่ให้ไปนอนตากแอร์ในห้องนอน ในหัวผมมีแต่คำว่าเซอร์ไพรส์วันเกิดอยู่เต็มไปหมด ช่วงนี้ต้องทำตัวไม่ขี้สงสัยเข้าไว้ครับ เดี๋ยวแผนมันแตก นี่ให้ความร่วมมือมากนะรู้ไหม?

     

     

                ขายาวก้าวเข้าไปในห้องนอนโทนสีขาวชมพู กูไม่น่าปล่อยให้พี่คังเลือกห้องให้เลยให้ตายสิ สียังกับฮัลโหลคิตตี้ หน้ากูก็เข้ากับคิตตี้จังเลยเนอะ ก้มลงหยิบรีโมตแอร์ที่ตกลงไปอยู่ข้างเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ขึ้นมาเปิด อย่าคิดว่าเมื่อคืนพวกเรานอนดิ้นจนข้าวของกระจายเลยครับ เมื่อกลางดึกไอ้ฮิมชานมันร้อนยกตีนถีบผ้าห่มพร้อมกูลงไปนอนยิ้มอยู่บนพื้นนู่น!

     

     

                ผมนอนตากแอร์คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งเผลอหลับไป ไม่รู้ว่าในครัวจะเป็นยังไงบ้างเพราะแม่บ้านของผมมันเข้าไปตั้งแต่บ่ายกว่าๆแล้ว สงสัยคืนนี้จะย้ายไปนอนในนั้น

     

     

    ผมเผลอหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้ครับแต่ตื่นขึ้นมาอีกทีทั้งห้องก็มืดไปหมดแล้ว กำลังจะลุกจากเตียงเพื่อเดินไปเปิดสวิทซ์ก็ต้องตกใจจนแทบจะกรี๊ดออกมาเป็นภาษาแมลงสาบ ผีเผออะไรไม่เคยกลัวหรอกครับแต่เห็นเมียยืนถือมีดอยู่ในความมืดแล้วไข่กูเปียกจนแทบจะเอาไปทำไข่น้ำได้เลย

     

     

                มึง... มึงเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมไม่ปลุกอะ?แล้วมึงถือมีดเข้ามาทำไมอิปลวกเหาะ

     

                ...

     

                ฮิมชาน?

     

     

                อีกคนไม่ตอบอะไรเพียงแต่ค่อยๆเดินเข้ามาหาผมช้าๆ กลิ่นกายหอมอ่อนๆแบบที่ผมชอบช่างขัดกับท่าทางการเดินและมีดในมือมันมากๆ เพราะมันมืด(กูบอกรึยังว่ายังไม่ได้เปิดไฟ?)ผมก็เลยไม่รู้ว่าคนตัวหอมนั้นกำลังทำสีหน้าแบบไหน บางทีมันอาจกำลังยิ้ม ยิ้มแบบแสยะ ไอห่ะ พอกันที! กูจะหลอกคนอ่านกับตัวเองไปทำไม

     

     

                เหยิน ไม่เล่นนะมึง มีดไม่ใช่ของเล่นนะเผื่อมึงยังไม่รู้

     

                ...

     

                โอ๊ยเงียบขนาดนี้กลัวดอกพิกุลจะร่วงเหรอครับมึงครับหืมมมมมม!”

     

     

                เริ่มอดทนไม่ไหว กลัวก็กลัวแต่แบบ... ถ้ามันจะเซอร์ไพรส์วันเกิดเราอะไรแบบนี้ล่ะ? อย่าหาว่าเห่อเลย ก็เห่อจริงๆนั่นแหละ555555555555555555555555555555555555 อีอ้วนไม่พูดอะไรก่อนจะก้าวเข้ามาหาผมเร็วขึ้นประหนึ่งผีที่เดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้า เอาจริงๆถ้าไม่ใช่เมียนี่ถีบไปแล้วนะ น่ากลัวอะครับ T _ T

     

     

                เพราะผมมัวแต่วิเคราะห์ว่าผีที่ผมกำลังหมายถึงนั้นมันมาจากหนังเรื่องอะไร ยอมรับครับว่าเป็นคนไร้สาระ แต่ผมเป็นคนไม่เครียดครับ ความเครียดแดกไม่ได้ครับแม่บอกมา ไม่ทันได้เตรียมใจมือขาวก็เงื้อมีดขึ้นก่อนจะจ้วงฝ่าก๊าซออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ลิเทียม รูบิเดียม โพแทสเซียมเหี้ยไรมาหมด ถึงกับร้องไม่ออก ผมรีบกระโดดหลบมันขึ้นไปบนเตียงก่อนจะโดนมันขึ้นมานั่งคร่อมเอาไว้ มีดในมือถูกเงื้อขึ้นอีกครั้ง ผมหลับตาปี๋ ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่หลบไปทางประตูแล้ววิ่งออกไป จนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมกูไม่ยอมวิ่งไปเปิดไฟ

     

     

                อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

     








     

                พี่ยงกุกตื่นได้แล้ว~~~~~~~~~~”

     

     

                ผมรีบเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะยกมือขึ้นจับหน้าจับตาเพราะเมื่อกี๊จำได้ว่ามีดมันปักกลางกบาล  นี่เห็นกูเป็นซอมบี้หรือยังไง? แล้วไอ้นี่ใคร? มานั่งคร่อมกูแทนฮิมชานได้ยังไงบัดสีที่สุด

     

     

                มึง...

     

                พี่ฮิมชานให้เจลโล่มาปลุก ออกไปกินข้าวได้แล้วปะป๊า ลุกครับ

     

     

                ปะป๊าพร่อว สรุปเมื่อกี๊ฝัน? โอ๊ยอะไรจะแฟนตาซีขนาดนั้นฝันว่าโดนเมียฆ่านี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว นี่มันพิเศษแบบใส่ไข่ชุบแป้งทอดเลย!! ความฝันมักทำร้ายเราเสมอครับ โดยเฉพาะฝันดีที่แบบตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองแค่มโน มันเป็นความขมขื่นที่กูก็พูดไม่ถูกเหมือนกับตอนที่ฝันว่าได้เปิดซิงฮิมชานครั้งแรก ตื่นมากูแทบช็อค T _ T

     

     

                ผมเดินตามหลังมักเน่ออกมาก่อนจะพบว่าภายในห้องคอนโดเล็กๆขนาดพอดีสำหรับคนสองคนนั้นตอนนี้อุดอู้ไปด้วยเหล่าเมมเบอร์ทุกคนยกเว้นแดฮยอนกับยองแจ แน่ะสงสัยเตรียมตัวมาแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้ผมแหงๆ ไอ้เด็กดอกสองคนนั้นคงออกไปซื้อเค้กกัน

     

     

                อะไร ใครบอกว่ากูขี้มโนเดี๋ยวเถอะ

     

     

                เมื่อไหร่พี่ยองแจจะกลับ

     

     

                เด็กโข่งเดินไปเดินมารอบห้องแคบๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาพิมพ์อะไรยิกๆ สงสัยเล่นคาโอะคุยกับไอ้ดำ... ไม่ก็ยองแจล่ะวะผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

     

     

                อ้าวตื่นแล้วเหรอยงกุก?

     

                ยังมั้ง!”

     

                เอ๊าอีนี่! แล้วจะขึ้นเสียงใส่กูทำไม!”

     

                ก็มึงฆ่ากูอะ มึงเอามีดมาแทงกู ตรงนี้

     

     

                ผมหน้ามุ่ยแล้วเอานิ้วดัชนีจิ้มหน้าผากตัวเองแรงๆให้ศรีภรรยาดู จิ้มแรงกว่าตอนโดนมีดแทงอีกมั้ง ไม่รู้อะนี่ยังตกใจอยู่เลยนะ เสียขวัญมากๆต้องการคนปลอบ

     

     

                กูแทงตรงนี้เลยเหรอ?

     

     

                มือขาวช่วยจิ้มอีกแรง จิ้มจนหน้าสั่น ยิ่งเห็นผมไม่พูดอะไรยิ่งจิ้มยิกๆเลย โหยเห็นกูเป็นซองกันกระแทกรึปะ? ในที่สุดคนตัวขาวก็หัวเราะออกมา ผมหน้าม้าสั่นไปตามแรงหัวเราะอย่างน่ารัก น่ารักที่สุด น่ารักทุกอย่างยกเว้นบูมเมอแรงในปากมัน

     

     

                จุ๊บ! อย่างนี้ต้องจุ๊บครับแฮ่ก

     

     

                ยงกุก! มึงนี่มัน...

     

                อิหิ

     

                น้องยังอยู่นะ!”

     

     

                ใครสนวะ เค้ารู้กันหมดแล้วว่าเราเป็นอะไรกันอะ ก็แค่จุ๊บหน้าผากเฉยๆไม่ได้เย่กันให้มันดูเสียหน่อย ถูกตบหน้าสะบัดไปหนึ่งทีก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกพร้อมกับร่างดำและร่างขาวที่เดินเคียงคู่กันมา ไอ้เจลโล่นี่วิ่งตัวปลิวไปช่วยยองแจถือของแล้วดึงมือป้อมที่ถอดแบบมาจากแง่งขิงเข้าไปในห้องครัวทันที ทิ้งให้เมนวอยซ์อีกคนยืนงงในความมืดคนเดียว

     

     

                ผมไม่ได้สนใจพฤติกรรมของพวกนี้เท่าไหร่หรอกครับ บางทีมันอาจมีซัมธิง แต่บางทีก็อาจจะไม่มีก็ได้ ที่ผมสนใจตอนนี้ก็คือในมือของพวกมันไม่ได้ถือกล่องเค้กเข้ามาด้วย... แต่ช่างเถอะบางทีอาจอยู่ในตู้เย็นก็ด้ะ!

     

     








     

                วันนี้คิดยังไงมารวมตัวกันอะ?

     

     

                เริ่มแสดงละครครับ ในขณะที่กำลังเคี้ยวข้าวฝีมือแม่บ้านอยู่นั้นผมก็พูดขึ้นทำลายความเงียบ ปกติตอนพวกเราทานข้าวกันไม่มีใครพูดอะไรหรอกครับเดี๋ยวกินไม่ทัน แถวบ้านพี่ดิวเค้าเรียกว่าปอบลงครับ จกใส่ปากอย่างเดียว

     

     

                ถามพี่ฮิมชานดิ

     

                ทำไมต้องถามอะ กูบอกพวกมึงไปแล้วนี่

     

     

                คนหน้าสวยบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบคำถามก่อนจะก้มหน้าก้มตาตักน้ำต้มยำกุ้งขึ้นซดเสียงดัง กลัวเขาไม่รู้ว่ากำลังแดกข้าวเหรอครับ ได้ยินไปสามชั้นแล้วมั้ง สุดท้ายคำถามของผมก็ไม่มีใครตอบ ทุกคนไม่มีใครคิดจะตอบอะไรทั้งนั้น นี่ยังเห็นกูเป็นพี่ใหญ่อยู่ไหม?

     

     

                ตกลงจะไม่มีใครตอบกูใช่ไหม?

     

                โอ๊ยมึงไม่เห็นเหรอว่ากำลังกินอยู่อะ

     

     

                ผมมุ่ยหน้าอีกครั้ง ไม่ได้งอนนะ งอนไม่ได้ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็วันเกิดแล้วครับ เดี๋ยวงานล่มแล้วไม่ได้ฉลองวันเกิดกันพอดี อิหิ

     

     

                ผ่านไปครึ่งชั่วโมงอาหารทุกอย่างก็หายไปราวกับล่องหน ถ้วยชามนี่สะอาดชนิดที่ว่าไม่ต้องล้าง ประมาณว่าเอาเก็บใส่ชั้นวางจานได้เลย ไม่นานจงออบก็ลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็น ผมกำลังลุ้น หัวใจเต้นแรงมากจนดังไปถึงประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง นี่หัวใจหรือระเบิดปรมาณู

     

     

                อ้าวพี่แดฮยอนไม่ได้ซื้อไอติมมาเหรอวะ?

     

                ห๊ะ? อ๋อกูลืมอะ

     

     

                แล้วมันก็เดินหน้าจ๋อยกลับมานั่งที่เดิม แต่คนที่หน้าหุบจนเหมือนดอกไม้ตูมก็คือกู จ๋อยสนิท... ไม่เป็นไรครับมันยังไม่เที่ยงคืนเลย บางทีพวกมันอาจกะเซอร์ไพรส์แบบเที่ยงคืนปุ๊บไฟดับพร้อมกับถูกเค้กละเลงหน้าอะไรแบบนี้

     

     

                กูบอกว่าอย่าด่ากูว่าขี้มโนไงชะนี

     

     

                เวลาล่วงเลยไปจนห้าทุ่มครึ่ง ผมนั่งบีบมือตัวเองอยู่บนโซฟาโดยมีเมมเบอร์นั่งอยู่รอบๆ โทรทัศน์ถูกเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆตามสภาพอารมณ์ของคนถือรีโมต ให้ทายว่าใครถือ... จะเป็นใครละมึง ก็อิบูมเมอแรงเมียกูนี่ไง

     

     

                เห๊ยห้าทุ่มแล้วเหรอวะ!”

     

     

                แดฮยอนมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะสะดุ้งจนโซฟาบุสปริงเด้ง ทุกคนเด้งขึ้นลงตามจังหวะการสะดุ้งของอีดำ สนุกจังเลยสนุกจังเลย ผมรู้สึกว่าเริ่มมีความหวังอีกครั้ง แต่คิมฮิมชานกลับทำความฝันของผมสั่นคลอนอีกครั้งด้วยการ...

     

     

                รีบกลับได้แล้วพวกมึง ดึกแล้วหาแท็กซี่ยากนะ

     

     

                ครับ... แล้วพวกมันก็โบกมือหยอยๆก่อนจะเดินเกาะกันเป็นก้อนกลับไป

     

     

                เงียบ กูเงิบจนไม่รู้จะเงิบยังไง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันครับ?!! ทำไมทุกคนทำเหมือนเป็นวันธรรมดาแบบนี้ล่ะ? อะไรวะ อะไรวะ อะไรวะแงงงง T _ T

     

     

                เออตกลงทำไมถึงทำอาหารแล้วเรียกเด็กๆมารวมตัวกันอะ?

     

                อ๋อ...

     

                ...

     

                ...

     

                ...

     

                กูถูกหวยอะ

     

     

                มึงจะเงียบให้กูลุ้นทำไม T _ T

     

     

                ผมหน้าบูดยิ่งกว่านมโรงเรียนก่อนจะเดินสะบัดเหงือกกระแทกหน้าฮิมชานไปหนึ่งทีแล้วออกไปหยิบผ้าขนหนูที่ตากอยู่ตรงระเบียง กระแทกเท้าจนส้นเท้าแตกเข้าห้องน้ำไป กะจะเปิดน้ำฝักบัวทำตัวดราม่าเหมือนในเอ็มวีซักหน่อย หมุนก๊อกปุ๊บความรู้สึกแรกที่น้ำกระแทกหน้าคือ...

     

     

                เหี๊ยะร้อน!!”

     

     

                เครื่องทำน้ำอุ่นบ้านคนอื่นเป็นเหมือนกันไหมไม่ทราบ แต่เครื่องทำน้ำอุ่นที่นี่จะต้องเปิดน้ำทิ้งไว้ซักสองนาทีน้ำถึงจะปรับสภาพตามอุณหภูมิที่เราตั้งไว้ครับ เปิดน้ำแรกๆไม่ร้อนจัดก็เย็นจัดอะ ที่มันร้อนแบบนี้ก็คงจะเป็นเพราะอากาศที่ร้อนมาทั้งวันละมั้ง หน้ากูไหลลงท่อไปแล้วรึยัง?

     

     

                พอกันที ไม่ทงไม่ทำมันแล้วเอ็มวี! รีบอาบน้ำแล้วรีบๆนอนให้คืนนี้มันผ่านไปซะดีกว่า!

     

     

                นาฬิกาดิจิตอลบอกเวลาตีสามกว่า ผมยังคงนอนพลิกตัวไปมาจนสุดท้ายก็ลุกขึ้นมานั่งขยี้ผมไปมาด้วยความหงุดหงิด นอนไม่หลับอะ T _ T หันไปหาคนข้างกายก็นอนหลับเป็นตายเลย ดีหน่อยที่มันไม่ถีบผมลงไปนอนเล่นบนพื้นอีก ไม่งั้นมีเคืองอะนี่ยังงอนไม่หายเลยนะ!

     

     

                ยงกุก

     

     

                เสียงกระซิบเบาๆเรียกให้ผมหันไปยังที่มาของเสียง ตอนแรกก็เข้าใจว่าคนข้างกายนอนละเมอแต่เสียงที่เรียกผมนั้นมันไม่ใช่เสียงของคิมฮิมชาน เสียงเล็กๆลอยมาตามลมอย่างไม่รู้ทิศทางจนผมต้องลุกออกจากเตียงแล้วเดินไปรอบๆห้อง เมื่อฟังดีๆถึงได้รู้ว่ามันเป็นเสียงผู้หญิง จากตรงระเบียง...

     

     

                เริ่มหลอนแล้วกู

     

     

                เอาวะ ถูกมีดแทงหัวยังไม่ตายเลยประสาอะไรกับผีหลอก กลัวมากแต่อยากรู้มากกว่า ผมค่อยๆย่องไปที่ระเบียงซึ่งเป็นประตูกระจกใสมีม่านสีชมพูปิดอยู่แล้วค่อยๆเงี่ยหูฟังอีกครั้ง

     

     

                ยงกุก

     

     

                ชัด!

     

     

                กลั้นหายใจก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปเปิดม่านออกช้าๆ ไม่รู้ว่าจะกลั้นหายใจทำไม กลัวแย่งอากาศผีหายใจก็ไม่น่าใช่ ผมไม่ใช่คนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ขนาดนั้น คิดได้ดังนั้นผมก็เริ่มหายใจเข้าออกลึกๆอีกครั้งแล้วกระชากผ้าม่านออกในครั้งเดียว!

     

     

                แคว้ก!

     

     

                ไอ้ส่ะ... ม่านขาดแหละ

     

     

                แต่สิ่งที่ทำให้ผมหายใจไม่ทั่วท้องก็คือร่างบางที่อยู่ด้านหลังนั่น อย่า... อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นซูคยอง ไม่ใช่ครับ 555555555555555555555555555 สาวผิวขาวผมทองนัยน์ตาสีฟ้ากำลังจ้องมองมาที่ผม มือเรียวทาบลงบนกระจก ดวงแก้วสีครามจ้องมองมาไม่กระพริบ ไอ้ห่อ... ผีฝรั่ง? แต่ที่แฟนตาซีกว่านั้นคงจะเป็นปีกใสๆเหมือนแมลงปอที่งอกออกมาจากด้านหลัง

     

     

                ทิงเกอร์เบลล์?

     

     

                ยงกุก

     

                ครับ?

     

                ขยับมาใกล้ๆสิ

     

     

                เสียงหวานเอ่ยเรียก ผมค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ราวกับต้องมนตร์ เสียงใสสะท้อนเข้ามาในหัวเหมือนกับฝันก่อนที่หญิงสาวตัวเล็กจะกลายร่างเป็นไอ้ฮิมชานแล้วยกกำปั้นขึ้นมาชกกระจกอย่างแรงจนผมสะดุ้งหงายหลัง ตูดกระแทกพื้นดังต๊อก ร้าวครับ ร้าวยันก้านสมอง กูต้องพิการแน่ๆ T _ T

     

     

                อีโง่ กลับไปนอนซะแล้วอย่ามาทำหน้าบูดใส่กูอีก ไม่งั้นโดนตีนแน่ๆ!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ลืมตาโพลงขึ้นมาอีกครั้ง กู... ฝันอีกแล้วเหรอ? ไหนว่านอนไม่หลับไง แล้วกูเอาเวลาไหนไปฝันอะ? งงไปก็เท่านั้น ตอนนี้ร่างขาวข้างกายหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ผงกหัวขึ้นดูนาฬิกาก็พบว่าเกือบบ่ายแล้ว โหนี่ขนาดนอนไม่หลับ กูหลับไปตอนไหนยังไม่รู้ตัวเลย

     

     

                ผมลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะยืดแขนบิดขี้เกียจ อ้าปากหาวออกมาเสียงดังจนน้ำตาไหลประหนึ่งน้ำตกแองกาล่า นับวันยิ่งทำตัวเหมือนตาแก่เข้าไปทุกที ก่อนที่จะก้าวออกจากห้องนอนผมก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตากไว้ที่ระเบียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ยืนมองฝักบัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปิดน้ำแล้วสไลด์ตัวหลบไปด้านข้าง บ่ายๆแบบนี้น้ำต้องร้อนแน่ๆไม่ต้องไปถามหมอดูที่ไหนหรอก

     

     

                เมื่ออาบน้ำเสร็จก็เดินตัวปลิวเข้าไปในห้องครัว หิวครับต้องหาของกินก่อน ฮิมชานหายไปไหนก็ไม่รู้ครับแต่กูไม่สนแล้ว ฆ่ากูไม่พอยังมีหน้ามาด่ากูว่าโง่แล้วไล่กูไปนอนอีก เก่งนักเหรอ? ใหญ่นักเหรอ? เออใหญ่! ยอมก็ได้! ในตู้เย็นมีหญ้าอยู่สองกอ... ล้อเล่น มีผักบุ้งอยู่สองมัด เห็นกูเป็นเต่าตั้งแต่เมื่อไหร่วะ? ผมตัดสินใจใช้เท้าปิดตู้เย็นก่อนจะออกจากห้องเพื่อไปหาของกิน คราวนี้ไม่ลืมหยิบกุญแจกับกระเป๋าเงินออกมาด้วย อิหิๆๆ

     

     

                ออกไปกินข้าวคนเดียวใช่ว่าสนุก อากาศร้อนไม่พอ เหงื่อแตกอะ คือมันแย่อะ บัดซบที่สุดเลยครับ ที่เกาหลียังร้อนขนาดนี้ไม่ต้องส่งจดหมายมาบอกก็รู้ว่าที่ไทยร้อนนรกขนาดไหน หลังจากที่เปิบพิสดารเสร็จก็รีบขับรถกลับห้องทันทีครับร้อนแม้กไม่ไหวละ เรื่องใบขับขี่ไม่ต้องห่วงนะครับผมจะระวังไม่ให้ถูกตำหนวดเรียก ไม่ใช่ว่าไปสอบผ่านมาแล้วหรอกครับกูไม่มีเวลาเลยเนี่ย อย่าไปขับยึกยักให้ตำหนวดสงสัยก็พอครับ

     

     

                แอ๊ด

     

     

                เงียบ... ฮิมชานยังไม่กลับมาเลย อากาศร้อนแบบบรรลัยวัวตายม้าสูญพันธุ์มากๆจนผมต้องเปิดแอร์แล้วโบกแป้งเย็นใส่จุ๊กกุแร้อีกข้างละกิโล เมื่อเริ่มเย็นได้ที่ก็นอนเหยียดยาวบนโซฟาตัวเดิมแล้วเปิดโทรทัศน์ดู ไม่มีอะไรทำเลย... เมียก็หาย อย่าถามเลยว่าทำไมไม่โทรตาม อากาศแบบนี้เกิดมันตกมันขึ้นมาใครซวย? ก็กูไง

     

     

                นี่เริ่มเคลิ้มๆจะหลับอีกแล้วครับ เอะอะหลับๆนี่กูเป็นโรคชราไปแล้วรึเปล่า ยังหลอนความฝันเมื่อวานไม่หาย นี่พยายามถ่างตาสุดชีวิตครับ ถ้าเอาไม้จิ้มฟันค้ำหนังตาแบบในหนังคอมเมดี้ได้ผมทำไปนานแล้วล่ะ

     

     

                ครอก...

     

     

    ไอ้ห่ะ ไหนว่าจะไม่หลับไง

     

     

                ตื่นขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางความมืดมิด อันดับแรกที่ทำไม่ใช่ดูนาฬิกาครับ ผมตบหน้าตัวเองก่อนเลยเผื่อกูฝันอีก พอกันทีความฝันน่ารักๆแบบนั้น ไม่เอาแล้วครับ ผีทิงเกอร์เบลล์นี่หลอนยิ่งกว่าตอนโดนเมียเอามีดแทงกระโหลกอีก

     

     

                ’11:30 pm’

     

     

                นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มครึ่ง ห้องมืดแบบนี้อิเมียบูมเมอแรงมันหายไปไหนวะใช้ไม่ได้! ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปเปิดไฟเป็นอันดับแรก จะไม่มีคิมฮิมชานเวอร์ชั่นนักล่าผีดิบอีกแล้ว รู้สึกว่าตะคริวกินขาทั้งสองข้างเพราะนอนผิดท่าผิดทางบนโซฟาเล็กๆนั่น แต่ละย่างก้าวเต็มไปด้วยเม็ดบีท ทั้งชาทั้งจั๊กจี้ นี่ถ้าลองกระโดดหรือถูกเหยียบตีนนี่รู้เรื่องเลย รู้เรื่องแน่ๆ

     

     

                คลิก...

     

     

                คลิก คลิก คลิก คลิก

     

     

                ค้วย ไฟไม่ติด! ไม่นะมันจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด นี่ต้องเป็นความฝัน! อะไรของกูเนี่ยฝันร้ายสามครั้งติดกันแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน! หงุดหงิดจนเผลอกระทืบเท้า ความชาจากตะคริวแล่นขึ้นมาถึงต้นขาจนล้มลงไปกับพื้น รู้สึกว่าหัวเข่าอ่อนแรงมากๆ ใครเคยโดนตะคริวแดรกจะรู้ดี มันไร้น้ำหนักประหนึ่งอยู่กลางอวกาศ

     

     

                ถึงกับน้ำตาไหล วันเกิดก็ไม่มีใครจำได้แถมยังถูกทิ้งให้ตะคริวกินอยู่คนเดียวอีก พวกมึงมันอำมหิต! เมมเบอร์วงบีเอพีอำมหิตที่สุด!! นั่งนวดอยู่นานราวๆสิบห้านาทีได้กว่าจะหายเป็นตะคริว ผมค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วลองเปิดไฟอีกครั้ง ปรากฏว่าไม่ติด... เพิ่งสังเกตว่าแอร์มันดับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะในห้องยังมีความเย็นอยู่ผมถึงได้ไม่รู้สึกร้อนอะไร ขายาวพาตัวเองไปที่หน้าต่างก่อนจะแหวกม่านออกดู ปรากฏว่าห้องอื่นก็ใช้ไฟฟ้าได้ตามปกติแล้วไหงมาดับที่ห้องกูห้องเดียวอะ ไม่มีความยุติธรรมให้บังยงกุกเลยโอ้ก้าด!

     

     

                ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ

     

     

                เสียงนาฬิกาดิจิตอลบอกเวลาเที่ยงคืน ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคิมฮิมชานยังไม่กลับมากะจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาแล้วถ้าไม่ติดที่ว่าหาไม่เจอ! ไปเผลอวางไว้ที่ไหนวะโอ๊ยเริ่มหงุดหงิดละ องค์กำลังจะลง

     

     

                นึง ส่อง ซั่ม!”

     

                ...

     









     

                เซงอิลชุกกาฮัมนีดา~ เซงอิลชุกกาฮัมนีดา~ ซาหร่างฮ๊านึนบังยงกุก~ เซงอิลชุกกาฮัมนีดา~”

     

     

                ศรีภรรยานักล่าผีดิบถือเค้กรูปทิกเกอร์เดินนำขบวนเหล่ากระต่ายตัวไม่เล็กเข้ามาหาผม กำลังจะเงื้อมือตบหน้าตัวเองอีกครั้งมือเรียวก็รีบคว้าแขนของผมเอาไว้ ใบหน้าสวยยิ้มจนแก้มบุ๋มเผยให้เห็นฟันกระต่ายอันเท่าบ้าน น่ารักเป็นบ้า

     

     

                อธิษฐานก่อน

     

                โตแล้ว... จะอธิษฐานอะไรอีกไม่ใช่เด็ก

     

     

                ก็ฟอร์มไปงั้น เขินอะ

     

     

                ฟู่ว!

     

     

                เห๊ย!”

     

     

                อ... ไอ้เห็บหมา พอกูเล่นตัวหน่อยไอ้ดำโผล่หน้ามาจากไหนไม่รู้เป่าเทียนกูดับหมดเลย อยากจับหน้ามันมากดลงเค้กมากๆ! ฮิมชานเหมือนจะรู้ว่าผมหงุดหงิด มือเรียวเอื้อมมาบีบมือผมเอาไว้ท่ามกลางความมืดและวุ่นวายของเด็กๆ เค้กก้อนโตถูกใครซักคนแย่งไปแล้ว เสียงเอะอะโวยวายทำให้ผมไม่รู้ตัวเลยว่าถูกกลีบปากนุ่มเคลื่อนเข้ามาขโมยจูบไปตอนไหน

     

     

                คิก~ วันที่เค้าทำกับข้าวมื้อใหญ่ให้กินน่ะมันวันที่ 29 นะ

     

                ห๊ะ?

     

                ตัวเองจำวันผิดแล้วมางอนเค้าได้ไงวะอีประสาท โง่ชิบหายเลยอะ555555555555”

     

                สรุป... กูดูปฏิทินผิดเหรอ?

     

                ก็เออน่ะสิ! วันเกิดแฟนทำไมกูจะจำไม่ได้อะ ไอ้นี่ก็ใจร้อนจังเลย มึงจะอยากรีบเกิดไปไหน!”

     

     

                ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าที่เปรียบเสมือนหลุมดำขึ้นมาแล้วกดเข้าไปดูปฏิทิน ทีงี้ทำไมถึงหามันเจอได้ง่ายๆเลยวะ อืม... กูดูวันผิดจริงๆด้วยอะ นี่ขนาดตัวเลขมันก็แสดงอยู่ตัวเบ้อเร่อแต่ผมกลับดูผิดวันอะ มันเป็นไปได้ยังงั๊ย! รู้สึกขายขี้หน้าอย่างมากที่เมื่อวานเผลอทำตัวเหมือนเด็กหัวนมเพิ่งแตกพานออกไป หน้าบูดและงอนทุกคนบนโลกใบนี้ทั้งๆที่ตัวผมนี่แหละที่จำวันผิดเอง

     

     

                กู... ขอโทษอะ T _ T”

     

                ช่างมันเถอะน่า ไปกินเค้กกัน!”

     

     

                มือขาวดึงมือของผมเข้าไปในห้องครัวที่เปิดไฟสว่างอยู่เพียงห้องเดียว ไม่วายเดินเตะขอบโต๊ะไปอีกทีด้วยความซุ่มซ่ามของตัวเองล้วนๆ ผมจะเตะทุกอย่างที่ขวางหน้าเลยรึปะ? ประมาณว่าจะออกไปแตะห้องครัว แต่เหมือนว่าอิขอบโต๊ะไม่เข้าใจ มึงจะตลกอีกนานไหมไอ้มนุษย์?

     

     

                วันเกิดปีนี้ผมไม่ได้อยากได้ของขวัญพิเศษอะไรมากมายหรอกครับ ผมอยากเป็นผู้ให้มากกว่า กะว่าจะชวนเด็กๆไปทำบุญซักหน่อย จะไปให้อาหารปลาแล้วหว่านแหลงไปจับปลาขึ้นมาทำกับข้าวแล้วเอาไปแจกเด็กๆที่บ้านเด็กกำพร้า... ล้อเล่น 555555555555555555555

     

     

                เออยงกุก เดี๋ยวๆอย่าเพิ่งเข้าไป

     

     

                เอ่ยกระซิบเสียงเบาแล้วลากผมมาแอบอยู่ข้างสวิทซ์ไฟตัวเดียวกับที่ผมเดินกะเผลกเพราะโดนตะคริวรังแกมาเปิดมันนั่นแหละ สองแขนวาดขึ้นมาโอบรอบคอของผมเอาไว้ก่อนจะยื่นจมูกโด่งที่มันภูมิใจนักภูมิใจหนาเข้ามาถูกับจมูกของผมไปมา แมวอ้อนอีกแล้ว

     

     

                รักตัวเองนะ

     

                จะอ้วก

     

                อิเห้ รักมึงนะ

     

                ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ รักเหมือนกันครับลูกแมว

     

     

                จับมันดันติดผนังแล้วประกบปากจูบมันแรงๆซักทีสองที แต่สงสัยแผ่นหลังขาวๆเนียนๆของคนน่ารักจะเผลอไปโดนสวิทซ์ไฟเข้าครับ แม่มติดๆดับๆเป็นไฟดิสโก้เลย 555555555555555555555555555555555555555555 อย่าได้หาความโรแมนติกจากฟิคเรื่องนี้ครับเพราะพี่ดิวไม่มีให้ โอเคจบแล้วสวัสดีครับเบบี้ เยิ้บ

     

     

     

     






     

    happy birthday bang yongguk oppa


    อ่าห์ คิดถึงนะเด็กๆ
    นี่แต่งด้วยความเร่งรีบกลัวมันจะไม่ทัน หนุกไม่หนุกไม่ว่ากันนะ
    ตอนกูแต่งกูก็ขำนะ หรือกูเส้นตื้นเองไม่รู้แหละ ประสาทไหมที่ขำมุกตัวเอง ขอโทษนะ
    5555555555555555555555555555555
    อย่าลืมเข้าไปสกรีมให้อ่านหน่อยนะพี่ดิวอุตส่าห์เปลี่ยนแท็กใหม่
    @pchnyx_ #วกบช

    เอ่อ... ถ้าจะเปิดจองฟิคอีกจะมีใครอยากได้ไหม
    ทำไมตอนพี่ดิวปิดจองไปแล้วถึงมีตกหล่นเข้ามาถามอีก
    ใครจะเอายกมือขึ้นฮับ ยกสูงๆ ระวังแร้เหม็นด้วย

     

     




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×