ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Apink & EXO [EXOPINK]

    ลำดับตอนที่ #4 : Sehun&#Naeun 70%

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 59













             




               แสงตะวันในรุ่งเช้าค่อยๆเคลื่อนตัวเลื่อนมาแทนที่พระจันทร์เปลี่ยนจากสีที่มืดครึ้มให้มีแสงสว่างเหลืองของแดดอ่อนๆในยามเช้า
    ถ้าเป็นตามหุบเขาคงได้ยินเสียงนกน้อยนกใหญ่ส่งเสียงเจี้ยวจ้าวแต่เช้า หากแต่ที่นี้มันคือเมืองกรุง เสียงในยามเช้าคงหนีไม่พ้นเสียงเครื่องยนต์หลายชนิดหลายยี่ห้อแล่นบนถนนสายยาวที่ไม่มีท่าทีจะสิ้นสุด บวกกับเสียงแตรรถของคนใจร้อนที่ใช้บีบไล่เป็นปกติเยี้ยงทุกวัน
    เมืองที่ผู้คนต้องตื่นเช้าไปทำงานไม่ต่างจากนกที่ต้องออกจากรังไปหาอาหารเพื่อเลียงชีพ



     
              แสงแดดสาดส่องเข้ามายังห้องห้องหนึ่งชั้นบนสุดของคอนโดหรูใจกลางเมือง ถึงจะเป็นแค่แดดอ่อนๆมันก็ทำให้ร่างเล็กรู้สึกตัวตื่นนอนในเช้าวันนี้  ความรู้สึกแปลกใหม่เกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ อาการปวดๆหน่วงๆที่สะโพกทำให้เธอขยับตัวยากเล็กน้อยเธอยันตัวเองให้มานั่งที่ปลายเตียงผ้าห่มที่คลุมกายเปิดออกเผยให้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าปราศจากเสื้อผ้า สมองประมวลเหตุการเมื่อคืนทันทีนึกไม่นานตัวของเธอเหมือนโดนแช่แข็ง ไม่นะ
     






     
              แรงยุบของเตียงนอนทำให้เซฮุนต้องขยับตัวและลืมตาตื่น มองไปยังปลายเตียงเห็นแผ่นหลังขาวปราศจากเสื้อผ้ามีเพียงผ้าห่มคลุมข้างหน้าเท่านั้น เซฮุนขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียง
     
     
     “เซฮุน ไม่ว่าเมื่อคืนจะเกิดจากอะไร ฉันอยากจะย้ำกับนายว่าเราเป็นได้แค่เพื่อนกัน ต่อให้ฉันอาจจะรู้สึกดีกับนายไปบ้างมันก็แค่ในฐานะเพื่อนที่หวังดีกับนายเสมอ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราสองคนจะทำเรื่องอย่างนี้”

    ร่างบางของใครบางคนพูดทั้งๆที่ยังหันหลังให้อีกคนบนที่นอนก่อนจะลุกออกจากที่นอนพร้อมกับผ้าห่มคลุมตัวเพื่อปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าเดินมุ่งหน้าเข้าห้องน้ำ



     
     
         ร่างสูงนั่งนิ่งให้กับภาพเมื่อสักครู่ คำพูดที่แสนเย็นชาและท่าทางที่เย็นชา มันช่างเป็นภาพที่ทำให้เซฮุนทรมานยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ภาพหญิงสาวที่ตัวเองหลงรักมานาน กับเรือนร่างที่เขาเคยสัมผัสทุกสัดส่วนเมื่อคืนนี้ ความรู้สึกของเขาตอนนี้ไม่สามารถอธิบายได้ มันหอมหวานแต่มันก็เจ็บปวดในเวลาเดียวกัน นี้เขาทำอะไรลงไป



     
    เขารู้ดีว่าเธอให้เขาได้แค่คำว่าเพื่อน แต่เขาไม่สามารถระงับ หรือควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ทำให้เหตุการณ์มันเลยเถิดไปไกล เซฮุนรู้สึกผิดจับใจที่ทำร้ายร่างบางให้มีมลทิน
    ต่อไปนี้การใช้ชีวิตของเขาจะเป็นยังไงนะ คนตัวเล็กที่เคยนอนใต้ร่างของเขาจะยังคุยกับเขาเหมือนเดิมไหม จะพูดคุยหัวเราะเหมือนเดิมหรือเปล่า จะให้อภัยเขาไหม เขาพร้อมที่จะยอมรับผิดชอบทุกอย่างที่ได้กระทำลงไป
    เพียงแค่เธอให้เขารับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้ สถานะการณ์ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอไม่ต้องการความรับผิดชอบใดๆจากเขาเลย แบบนี้มันนิ่งทำให้เซฮุนเจ็บ เจ็บใจตัวเองที่ห้ามไม่ให้รักเพื่อนไม่ได้



     
     
     
         เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับร่างของคนคุ้นตา ใบหน้านิ่งเหมือนอย่างทุกครั้ง ใช่ว่าเธอคนนี้ไม่มีรอยยิ้ม แต่แค่รอยยิ้มของเธอมันผุดขึ้นมายากเท่านั้นเอง
    สีหน้าที่คิ้วหม่นนิดๆเหมือนอารมณ์ไม่พอใจอะไรบางอย่างประดับบนใบหน้า เซฮุนคิดว่าเธอคงโกรธเขาเรื่องเมื่อคืนแน่ๆ จะพูดกับเธออย่างไรดี แต่เธอก็ชอบย้ำจังไอ้คำว่าเพื่อนๆเนี้ย เพื่อไม่ให้บรรยากาศมันน่าอึดอัดไปจึงทำให้เซฮุนต้องถามนาอึน

     
         “อาบเสร็จแล้วหรา”

     
         “อืม นายช่วยหยิบชุดในตู้มาให้ทีฉันลืมหยิบเข้ามาด้วย”
    ใช่แล้วละได้ยินไม่ผิดหรอกเธอใช้เซฮุนให้หยิบชุดมาให้ ก็ห้องนี้มันห้องของเธอนั้นแหละเซฮุนก็เบ้ดีๆของเธออีกนั้นแหละ
    เมื่อคืนนี้เธอเมาพอสมควรเซฮุนเลยอาสามาส่ง จนทำให้เขาต้องค้างที่ห้องนี้ทั้งๆที่ห้องของตัวเองก็อยู่ใกล้ๆคอนโดนี้



     
     
         “วันนี้จะออกไปไหนแต่เช้าเมื่อคืนอาการหนักเลยนะ หายแฮงแล้วหรา”
    คำถามที่เป็นห่วงร่างเล็กถามออกไปจากใจจริง แต่เขาคงลืมไปว่าเรื่องเมื่อคืนไม่ใช่แค่เมาเท่านั้น ร่างเล็กหันมามองหน้าเซฮุนพร้อมสายตาเคืองๆ

     
     
         “วันนี้ฉันนัดไปทานมื้อเที่ยงกับพี่ชานยอลไว้”
    พูดแค่นั้นชุดที่เซฮุนเลือกให้ก็มาถึงมือเธอ เธอก็หายเข้าไปในห้องน้ำต่อ นี้เธอไม่ใส่ใจเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอเลยหรา 



     
         “ฉันต้องทำยังไงถึงจะชนะใจเธอได้นะ”


            ประโยคนี้เซฮุนพูดเบาราวกับเป็นเพียงลมพัดผ่าน คนข้างในห้องน้ำไม่มีทางได้ยินแน่ๆ ต่อให้เขาก้าวล้ำเธอมากขนาดไหน อยู่กับเธอมากกว่าใครเขาก็ไม่ได้ครอบครองใจเธออยู่ดีเซฮุนอิงตัวเองกับประตูห้องน้ำสักพักถอนหายใจคลายความกลัดกลุ้ม
    มันก็แค่การถอนหายใจเพราะยังไงความรู้สึกมันก็ยังค้างคาในใจเขาอยูดี ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่หล่นร่วงอยู่ที่พื้นมาสวมทับบ็อกเซอร์หยิบกุญแจรถหรูก่อนจะเดินออกจาห้องไป
     
     
     


     
     
     
     
     
     
         “ขอโทษที่มาช้าไปหน่อย 20นาทีพี่ชานคงไม่ว่าอะไรนะคะ นาอึนรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย” นาอึนร่ายยาวทันทีที่ถึงโต๊ะ ไม่รอให้ชานยอลได้เอ่ยถาม
     
         “เป็นอะไรมากไหมค่ะ ให้พี่ชานพาไปหาหมอไหมค่ะ”

    ด้วยความเป็นห่วงแฟนสาวของตัวเองชานยอลถามอย่างเป็นห่วง อดไม่ได้ที่จะเอามือไปอิงหน้าผากใสของนาอึน นาอึนสะดุ้งตัวนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ถอยหนีมือนั่นที่อิงหน้าผากตัวเองข้างนึงและอีกข้างแตะหน้าผากของนาอึน
    เพราะแบบนี้ไง ความเอาใจใส่ของพี่ชานยอลทำให้นาอึนยิ้มกับภาพที่เกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย ใบหน้าแดงนิดๆกับการกระทำของคนตรงหน้า
    ให้คบหากันมานานแค่ไหน นาอึนก็ไม่ค่อยชินกับภาพนี้ของชานยอลสักที มันทำให้เธอเขินแม้เรื่องเล็กน้อยๆก็ตาม แล้วอย่างนี้จะให้ไม่รักได้ไง
     



         “อืม ตัวก็ไม่ร้อนนะ แต่ทำไมหน้าแดงเขินพี่ละสิ”
    นาอึนตีไปที่มือที่ยังค้างที่หน้าผากของเธอหนึ่งทีมันก็ไม่ได้แรงมากจนชานยอลอมยิ้มให้กับท่าทีน่ารักนี้

     
         “แค่ปวดหัวนิดหน่อยค่ะ ทานข้าวกับพี่ชานเสร็จกลับคอนโดนาอึนค่อยหายากินเดี๋ยวก็คงหาย”

    จริงๆนาอึนไม่ได้ปวดหัวแต่ประการใด จะบอกชานยอลได้ไงว่าปวดสะโพกหนึบๆ ราวกับร่างจะแตกอยู่รอมร่อ ทั้งที่จริงนาอึนก็อยากนอนอยู่บนเตียงสบายๆจะได้ไม่ต้องมาทนเดินทนนั่งให้ระบมสะโพก ก็นัดคุณแฟนไว้แล้วนี้นา 


     
         “สั่งอาหารกันเถอะทานเสร็จเดี๋ยวพี่ชานจะไปส่งนาอึนที่คอนโดเอง รถก็จอดไว้นี้ก่อนก็ได้ ขับรถกลับเดี๋ยวอันตราย”


    นาอึนมองจ้องใบหน้าหล่อคมเข้มที่พูดเสร็จก็ก้มลงสั่งอาหารพร้อมกับรอยยิ้มเทพบุตร ตั้งแต่คบกันมาก็มีวันนี้แหละที่นาอึนรู้สึกผิดต่อชานยอลเป็นที่สุด ถึงเรื่องเมื่อคืนระหว่างเธอกับเซฮุนจะเลยเถิดก็เถอะ

    นาอึนควรเกลียดเซฮุนสิถึงจะถูก เธอกลับแค่โกรธและหงุดหงิดเพื่อนคนนี้ ถ้าทั่วไปคงต้องร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายน้ำตาไหลแทบเป็นสายเลือดที่เสียครั้งแรกไป นาอึนกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ความสัมพันของนาอึนกับเซฮุนที่มีมาแต่ไหนแต่ไรเธอก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร ทุกครั้งที่เธอเจอปัญหาเขาคือคนแรกและคนสุดท้ายที่อยู่กับเธอเสมอ แต่พี่ชานยอลคือคนที่เธอรัก นาอึนเลยให้ความสำคัญกับเซฮุนเกินเพื่อนแต่ในที่นี้ก็ไม่ได้หมายถึงว่าเขาจะเป็นแฟนเธอได้เช่นกัน 

     
     
         “เหม่ออะไรค่ะ ไม่สั่งอาหารหรือ” ชานยอลเรียกนาอึนที่นั่งเหม่อพร้อมที่ในมือเปิดเมนูอาหารแต่ไม่ได้มองเมนูในมือตัวเองเลย 


     
         “เออ..ค่ะ” นาอึนจึงเลือกจิ้มๆอาหารหน้านั้นไปสองอย่าง แล้วส่งเมนูคืนพนักงานไป


     
         “สีหน้าดูไม่ค่อยดีนะคะ ไปหาหมอไหมหืม” นี้แหละแฟนฉันใส่ใจรายละเอียดทุกอย่างกับฉัน แม้แต่สีหน้าพี่เขาก็สามารถเดาออกได้อย่างง่าย ฉันจึงทำได้แค่ส่ายหัวเป็นเชิงบอกไม่เป็นไร 
     
     
     
     
              รถหรูของพี่ชานยอลขับมาจอดหน้าคอนโดทีฉันใช้ซกหัวนอน ก่อนที่พี่ชานยอลจะได้ลงมาเปิดประตูรถให้ฉันก็ชิ้งหอมแก้มเขาไปทีหนึ่งพร้อมกับขอบคุณที่เลี้ยงอาหารมื้อเที่ยงนี้
    ขืนอยู่รอให้มาเปิดประตูให้มีหวังต้องได้ขึ้นไปถึงห้องฉันแน่ๆ ห้องมันก็ไม่ได้รกหรือแย่อะไรหรอก แต่อาการปวดหนึบๆที่สะโพกของฉันที่ฉันพยายามสะกดกลั้นความเจ็บนี้คงอดทนได้ไม่ได้ พี่ชานคงต้องสงสัยอาการฉันแน่ๆ ฉันเลยต้องตัดปัญหารีบลงรถก่อน และไม่ลืมที่จะโบกมือลาส่งให้พี่เขาขับรถกลับดีๆ 


     
    ไฟท้ายสีแดงพ้นสายตาไปฉันต้องถอนหายใจให้กับตัวเอง ไม่เคยรู้สึกผิดอะไรขนาดนี้เลย


     
         “ขอโทษนะค่ะพี่ชาน ถ้าพี่รู้พี่คงเกลียดนาอึนแน่ๆ แต่นาอึนก็อยากเห็นแก่ตัวสักครั้ง”


    นาอึนหันหลังให้กับที่ที่รถหรูเคยจอดก่อนจะเงยหน้าแหงนมองตึกสูงเสียดฟ้าแห่งนี้ ที่ๆเธออยู่มานานพร้อมถอนหายใจรอบที่ล้านของวัน ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในคอนโดมุ้งหน้าไปยังห้องของตัวเอง
     
          
     
     
          นาอึนมาถึงห้องก็ล้มตัวลงนอนบนที่นอนทันที ร่างกายเหมือนไม่ได้พักผ่อนมาสองวันเห็นจะได้ เธอรู้สึกเพลียๆทำให้ขีเกียจไปอาบน้ำอีกรอบ ที่จริงก็พึ่งอาบไปเองก่อนออกไปทานอาหารกับชานยองนอนสภาพแบบนี้คงไม่เป็นไรหรอก และนาอึนก็ทิ้งให้ตัวเองได้เข้าเฝ้าพระอินทร์ในตอนบ่ายของวันนั้น
     


     
     
         
     
     
                เย็นวันนี้มีฉลองวันเกิดของลูกน้องที่ทำงาน ทำให้เซฮุนต้องมานั่งเป็นประธานในคืนนี้ แทนที่เซฮุนจะค่อยบอกค่อยเตือนพนักงานที่มาสังสรรไม่ให้ดื่มหนัก กลับเป็นเขาเสียเองที่โดนลูกน้องห้าม ก็คนมันกลุ้มอ่า มันกลุ้มเข้าใจไหม จนปานนี้เซฮุนก็ยังไม่กล้าโทรไปหานาอึน
    เพราะเขารู้ว่าถึงต่อสายไปยังไงในสถานะการณ์แบบนี้เธอคงไม่รับสายเขาอยู่ดี


         เซฮุนเลือกขับรถมาจอดรอหน้าคอนโดเพื่อดูว่าชานยอลจะพานาอึนไปไหน และเขาต้องมาเห็นภาพสองคนจู๋จี๋กันยิ่งตอกย้ำว่าเซฮุนไม่ได้มีความหมายอะไรกับนาอึนเลย นอกจากเพื่อนเท่านั้น

     
     มือหนากำพวงมาลัยรถแน่นระบายความโกรธความโมโหที่มีไปกับพวงมาลัยรถ มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแฟนกัน แต่มันไม่ธรรมดาสำหรับเซฮุนไปเสียแล้ว ริมฝีปากที่เคยครอบครอง เขาไม่สามารถทำให้มันเป็นแค่ของเขาคนเดียวได้ ความอึดอัดนี้ถึงบอกใครก็คงได้แค่รับฟังแต่ความรู้สึกที่สัมผัสได้คงมีแค่เซฮุนคนเดียวเท่านั้น
     
     
     
     
         อารมณ์โกรธและโมโหถูกระบายใส่น้ำสีอำพันแก้วแล้วแก้วเล่าจนเจ้านายรูปหล่อเมาไม่เป็นท่า ถูกลูกน้องทั้งหลายแบกหามมาส่งที่บ้านด้วยสภาพอันไม่นาภิรมย์นัก ชายเสื้อหลุดลุ้ย เนคไทคลายออกหลวมๆนั้นอีก ใบหน้าแดงฉาดเพราะจากอาการเมา และภาพสุดท้ายคือภาพที่เซฮุนนอนกองหมดสภาพบนที่นอน
     
     
     
     
     
     
     
     
     
         นาอึนรู้สึกตัวในช่วงสายเกือบเที่ยงของวันต่อมา นีเธอหลับไปนานเลยนะนาอึน ลำคอแห้งผาดกับอาการเจ็บคอนิดๆ ร่างกายปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวไปหมด
    นาอึนพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งเพื่อที่จะไปดื่มน้ำ แต่กลับมีอาการปวดหัวมาเพิ่มยิ่งทำให้ลำบากในการขยับตัวเข้าไปอีก
    นาอึนประคองร่างกายที่แทบแหลกในตอนนี้มายืนอยู่หน้าตู้เย็นหยิบน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อดับความกระหายของตัวเอง นาอึนได้ยินเสียงมือถือดังขึ้นทำให้เธอต้องย้ายร่างจากห้องครัวเพื่อกลับไปยังห้องนอนแต่ก้าวได้ไม่กี่ก้าวสติของเธอก็ดับวูบไปพร้อมร่างเล็กที่ล้มลงไปกองกับพื้น
     
     
     
     
     
     
         “อะไรกันเนี้ยทำไมไม่รับโทรสับ”

     
         “รับสินาอึน รับสิ” 

     
         “หรือเธอจะโกรธฉันจนไม่อยากคุยนะ ไม่ได้ละไปหาที่ห้องเลยดีกว่า”

    เซฮุนโทรหานาอึนหลายต่อหลายสายแต่ปลายสายก็ไม่มีทีท่าว่าจะรับ
    สายของเขา เขาพลางคิดไปว่าเธอจะเกลียดเขาจริงๆหรือเปล่า
    มันยิ่งทำให้เซฮุนร้อนล้นมากยิ่งขึ้น ไม่ได้เขาจะยอมให้นาอึนเกลียดเขาไม่ได้
    เซฮุนหยิบเสื้อสูตรตามแบบฉบับท่านประธานบริษัทมาสวมทับให้ดูมาดสุขุมก่อนจะรีบเดินออกจากห้องทำงานไป



     
         “คุณโบมีวันนี้ผมออกไปทำธุระข้างนอกนะ ผมไม่เข้าบริษัทอีกมีไรเดี๋ยวผมเข้ามาเคลียร์พรุ่งนี้นะ”


     
         “ค่ะ เออท่านประธานค่ะ คุณซน นาอึนได้โทรหาท่านไหมค่ะ พอดีฉันติดต่อเธอไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ”

     
    โบมีเลขาหน้าห้องที่มีศักย์อีกอย่างคือเพื่อนสนิทนาอึนและเซฮุนเอ่ยถาม  มันยิ่งทำให้เซฮุนขมวดคิ้วกว่าเดิม


     
         “ไม่นิ เป็นอะไรหรือป่าวนะ” ประโยคหลังเซฮุนพรึมพรำคนเดียวและรีบสาวเท้ายาวๆออกไปอย่างเร่งรีบ


     
         “โบมี ท่านประธานไปไหนรีบร้อนจัง”

     
     
         “ไม่รู้เหมือนกัน แต่......แบคจ๋าคืนนี้พาเขาไปทานอาหารร้านนั้นหน่อยนะ”


    โบมีเดินมาข้างๆแบคฮยอนพร้อมทำเสียงอ้อนที่มีแค่แบคฮยอนได้ยินคนเดียว เพื่ออ้อนสามีให้ไปทานอาหารร้านโปรดของตัวเอง
    แบคฮยอนมองซ้ายมองขวา ก่อนจะจุ๊บไปที่แก้มโบมีหนึ่งที

     
         “เย็นนี้เจอกันนะที่รัก เค้าไปทำงานก่อนนะ”

     
     
    นายแบคยัยโบมได้ข่าวว่าประธานไม่อยู่นี้ไม่แกล้งใจใครเลยนะชิ........
     
     
     
     
     
     
     
     
         รถคันหรูหักเลี้ยววนเข้าลานจอดรถอย่างชำนาญ เสียงล้อรถเสียดสีกับถนนดังเอี้ยดอ้าด ถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่นี้จะเข้มงวดขนาดไหนก็ไม่ได้มีผลกับคนนี้ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ลูกค้า หรือผู้พักอาศัยอยู่ที่นี้แต่การมาของรถคันนี้เป็นที่รู้กันดีว่าเพื่อนสนิทของลูกสาวเจ้าของคอนโดนี้มีหรือที่เขาจะเข้ามาไม่ได้

    รถคันหรูหักเลี้ยวเข้าซองจอดรถสำหรับVIP เขากระชับเสื้อสูทของตัวเองให้เข้าที่ก่อนเปิดประตูเดินออกจากรถอย่างไม่รีรอ เป้าหมายของเขานั้นคือห้องนาอึน ในใจตอนนี้ขนาดเขาวิ่งมายังคิดว่าช้านับประสาอะไรกลับลิฟต์ที่ต้องขึ้นไปชั้นบนสุดของโรงแรมนี้


    เซฮุนจะกลายเป็นคนใจร้อนทุกเรื่องที่เกี่ยวกับนาอึน และเขาจะใจเย็นต่อเมื่ออยู่กับนาอึนเท่านั้น ในขณะที่ลิฟต์กำลังขึ้นกว่าจะถึงชั้นที่เป็นเป้าหมายแน่นอนว่ามันจะต้องมีสักชั้นที่กดเรียกลิฟต์ ขอโทษทีแต่ผมรีบ เมื่อเห็นลิฟต์เหมือนจะหยุดเปิด เซฮนก็รีบปิดทันที โดยคนที่ยืนรอลิฟต์ได้แต่ทำหน้าเหวอมองลิฟต์มาถึงยังไม่ทันไดเปิดดีมันก็ปิดไปซะแล้ว

     
    เมื่อถึงชั้นเป้าหมายเซฮุนไม่รีรอเดินตรงไปยังห้องนาอึนกดรหัสเปิดประตุที่เขาจำได้แมนผลักประตูเข้าไปอย่างร้อนร้น เดินวนพร้อมร้องเรียกชื่อที่ไม่ว่าเขาเรียกเมื่อไหร่ บ่อยแค่ไหนก็ไม่เบื่อ


     
         “นาอึน นาอึน เธออยู่ไหน”

    เซฮุนเดินผ่านโซฟาห้องรับแขกตรงไปยังห้องนอน มองไปที่เตียงก็ว่างเปล่า มีเพียงผ้าห่มที่ยับอยู่บนเตียง สายตาสาดส่องมองเข้าไปในห้องน้ำซึ้งกำลังเปิดอยู่ แน่นอนว่านาอึนไม่ได้อยู่ในนั้นแน่ๆ เซฮุนเดินออกมาจากห้องนอนตรงไปยังห้องครัว สายตาจ้องไปเห็นร่างเล็กนอนหมดสติอยู่ไม่ไกลจากตู้เย็นนัก
     
    ร่างสูงพาขายาวๆก้าวตรงไปประคองใบหน้านาอึนขึ้นมาแนบกับอกแกร่งของเขาและช้อนอุ้มร่างบางกลับเข้าไปนอนบนเตียงนอนทันที อุณภูมิร่างกายของนาอึนสูงผิดปกติเขารู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่สัมพัสใบหน้านั้น เหงื่อซึมออกตามร่างกายเล็กน้อย ใบหน้าแดงคงเพราะพิษไข้ เซฮุนหันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ถูกหลังจากวางนาอึนลงบนเตียง เขาจะทำยังไงดีนะ
     
    เซฮุนนั่งลงบนเตียงเอามืออิงหน้าผากหน้าอึนอีกรอบ พร้อมกับส่งเสียงเรียก


     
         “นาอึน นาอึน”คนถูเรียกปรือตาขึ้นมามอง ถ้าไม่ติดว่าไม่สบายสายตาแบบนี้เขาคงจะไม่ทน
     
     
         “ฮือออ. เซฮุน”

     
         “ไปหาหมอไหมเธอตัวร้อนมากเลยนะ แล้วนี้เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่โทรหาฉัน ฉันโทรมาเธอก็ไม่รับสาย แล้วกินข้าวกินยาบ้างหรือเปล่า ปวดตรงไหนเจ็บตรงไหนไหม” 


     
         “เดี๋ยวๆๆ ที่ละคำถาม ฉันตอบไม่ทัน” เซฮุนรัวระเลงคำถามเป็นชุดโดยไม่ให้ผู้ป่วยมีโอกาสได้ตอบคำถามเลย


     
         “ไม่ต้องตอบละอันดับแรกไปหาหมอก่อน”

    เซฮุนไม่รอฟังคำตอบของคนบนเตียงจัดการอุ้มร่างนาอึนที่ป่วยขึ้นจัดการเอามือนาอึนยกขึ้นพาดคอตัวเองพร้อมกับอุ้มร่างที่แทบจะไม่มีแรงออกจากห้องอย่างไม่รีรอให้เสียเวลา หรือช้าไปกว่านี้ ตีนผีเหยียบคันเร่งอย่างกับพวกแข่งรถประลองฝีมือกันในสนามแข่ง 


     
          “ขับช้าๆก็ได้ ฉันจะไปหาหมอนะไม่ได้จะไปวัด” หลังจากนั้นความเร็วของรถก็ค่อยๆลดลงเรื่อยเรื่อยจนอยู่ในขั้นขับปกติ มือหนาเอื้อมมาอิงที่หน้าผาก สายตาจ้องไปที่ท้องถนน นาอึนปล่อยให้เซฮถนทำอย่างคนเอาแต่ใจ เธอแทบจะไม่มีแรงด่าเขาด้วยซ้ำ
     
     
         “ไปทำอิท่าไหนถึงป่วยได้เนี้ย” ถึงยังไงเซฮถนก็ได้แค่บ่นเล็กๆน้อยๆดท่านั้นแหละเพราะใจจริงห่วงเขาแทบคลั้ง
     
     
     
     
    ตรวจเช็คร่างกายเสร็จหมอบอกว่าร่างกายอ่อนเพลีย มีไข้สูงให้นอนพักให้น้ำเกลือสักคืนรอดูอาการก่อน ถ้าไม่มีอะไรพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้ เซฮุนโค้งขอบคุณหมอที่ทำการรักษานาอึน แล้วหันมาสบตากับนาอึนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย


     
         “ให้โทรหาไอ้ชานยอลไหม”

    ผมก็ถามไปอย่างนั้นแหละ ต่อให้เธอบอกให้ผมโทร ผมก็ไม่โทรอยู่ดี นั้นนะสิแล้วผมจะถามเธอทำไม ที่ถามไม่ใช่เพราะอะไร ก็เขาเป็นแฟนกัน ถึงผมถามไปอย่างนั้นสีหน้าผมมันก็ไม่ได้ยินดีเหมือนคำพูดหรอก ถามไปในใจก็โคตรจะเจ็บเลยบอกตรง


     
         “ไม่ต้องหรอก ไม่ได้เป็นไรมากพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วเรื่องเล็กน่า”


     
         “เรื่องเล็กหรือ ถ้าฉันไม่มาเธอจะเป็นยังไงว่ะยัยบื้อ มือถือก็มีไม่สบายทำไมไม่โทร”ต่อให้น้ำเสียงเหมือนโมโหแค่ไหนท้ายประโยคน้ำเสียงของเขาก็จะอ่อนลงทุกครั้งให้กับคนนี้ มือหนาเอื้อมไปขยี้กลุ่มผมของคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย


     
         “ฉันเป็นห่วงเธอมากนะ ตอนฉันเห็นเธอนอนฟูบที่พื้นฉันทำไรไม่ถูกเลยจริงๆ”


     
         “อย่ามาเวอร์ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก สวยๆอย่างฉันต้องอยู่นานๆให้ผู้ชายน้ำลายหกเล่นๆ”
       

     
         “รวมถึงฉันด้วยป่ะ”

     
    สายตาของเธอตอนนี้กลับมานิ่งอีกแล้ว นิ่งเหมือนคนโกรธ นี้ผมคงทำเธอโมโหอีกแล้วสินะ ใบหน้าแววตาที่เย็นชาถูกส่งมาหาผมอีกแล้ว ท้งที่รู้ว่าถ้าผมพูดเกี่ยวกับสถานะของเราที่ไรสีหน้าเธอจะเย็นชาทุกทีแต่มันอดน้อยใจไม่ได้นี้นา ทำไมกันนะ ผมจึงต้องทนเก็บกดความรู้สึกหลายหลายกับเธอไง
     
     
         “เซฮุน นายไม่เข้าใจหรืองะ.....”
     
         “ขอโทษน่ะคะ ได้เวลาวัดไข้และเช็ดตัวคนไข้แล้วค่ะญาติรอด้านนอกก่อนนะคะ” 

     
    พยาบาลที่เดินเข้ามาตรวจเช็คร่างกายเดินเข้ามาขัดจังหวะสนทนาของสองคน นาอึนก็เบือนหน้าหนีทัน เซฮุนถอยออกมาจากเตียงแค่สามก้าวกอดอกมองพยาบาลทำหน้าทีไปเรื่อยๆจนพยายาบาลกำลังจะทำการเช็ดตัวให้นาอึน


     
         “นายโอ เซฮุน ออกไปรอข้างนอก”

    นานๆทีนาอึนจะเรียกชื่อเขาเต็มยศ นั้นเพราะว่าเขากำลังทำให้เธอรำคาญ นี้นาอึนกำลังจะเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้านะ มาจ้องมองอย่างนี้ฉันก็อายนะสิ
     
     
     
     
     
         เสียงทีวีในห้องเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ไม่ทำให้ห้องทั้งห้องดูเงียบเกินไป นาอึนนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ในมืถือรีโมทปรับเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆอย่างคนเบื่อหน่าย พอหันไปมองคนที่มาเฝ้าไข้ก็เจอเพียงแค่นั่งขาไกว่ห้างอ่านหนังสือสบายๆ ทำไมนาอึนรู้สึกอึดอัดอย่างนี้นะ 

     
    นาอึนหันไปมองเสี้ยวใบหน้าคมจมูกโด่งเป็นสันอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาอีกครั้ง เธอจะทำยังไงดีนะถ้าหากว่าชานยอลรู้เรื่องของเขากับเธอ เธอจะบอกให้เขาช่วยเก็บความลับนี้ดีไหม ไมใช่ว่าไม่สงสารเธอก็ไม่อยากล้อเล่นกับความรู้สึกของใครเหมือนกัน ในความรู้สึกของนาอึนที่มีต่อเซฮุนมันก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรมาก

    มันก็มีหลายครั้งที่นาอึนแอบเผลอหวั่นไหวไปกับเขา แต่นาอึนต้องรักษาความสัมพันแบบนี้ไว้ เพราะถ้ามันคงสถานะนี้ตลอดไปเขาคนนี้ก็ยังคงไม่จากเธอไปไหน บางทีนาอึนก็เห็นแก่ตัวมากไป เธอรู้ว่าเซฮุนรู้สึกอย่างไร เรื่องคืนนั้นจะโทษเซฮุนฝ่ายเดียวก็ไม่ได้เพราะมันเกิดจากความเผลอไผลของนาอึนเช่นกัน
     
     
     
     
         “จะจ้องอีกนานไหม รู้ว่าหล่อ”นาอึนสะดุ้งนิดหน่อยก็เบนสายตาไปทางอื่นเหมือนกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง นายนี้เปลี่ยนอารมณ์เร็วซะมัด


     
         “นาอึน เรื่องนั้นฉันขอโทษ แต่เธออย่าเกลียดฉันเลยนะ”

           น้ำเสียงเศร้าหมองของเซฮุนทำให้ฉันที่นั่งอยู่บนเตียงเบนสายตากลับไปยังเซฮุนอีกรอบแล้วสายตาก็ต้องประทะกับตาคมที่มองอยู่ก่อนแล้ว แววตาเขาดูเศร้ามากๆทำไมเวลาจ้องมองเขาอย่างนี้อยู่ดีมันแปลกๆแหะ

    ใบหน้านิ่งแต่สายตาดูเศร้าอย่างที่นาอึนไม่เคยเห็นมาก่อน เธอไม่เคยเห็นมาก่อนหรือว่าเธอเลือกที่จะละเลยสายตาคู่นี้กันนะ ฉันจะทำไงดี จะเริ่มต้นคุยกับนายยังไงนะเซฮุน
     
     
     
         “ฉันรู้ว่าเธอรักชานยอล แต่ฉันก็ยังอยากให้เธอรู้เหมือนกันว่าฉันก็รักเธอ มันไม่ใช่แบบที่ผ่านๆมาแต่มันมากกว่านั่น ตอนฉันเห็นเธอนอนหมดสติ ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ กลัวไปหมด กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรกลัวว่าเธอจะไม่ฟื้น”


    เซฮุนก้มหน้าลงกับฝ่ามือตัวเอง นาอึนลุกออกจากเตียงแล้วลากสายกระปุกน้ำเกลือเดินมาหาเซฮุน แล้วนั่งลงข้างๆ เมื่อรับรู้แรงยุบของโซฟาเซฮุนเลยเงยหน้าออกจากฝ่ามือมองมายังนาอึน เซฮุนสวมกอดนาอึนอย่างหวงแหนนาอึนก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรแถมยังลูปหลังเซฮุนเป็นการปลอบด้วย ทำอย่างนี้จะทำให้เซฮุนคิดชอบเธอมากกว่าเดิมไหมนะ มองในมุมของเพื่อนนาอึนต้องคอยปลอบเพื่อนสิ
     
     
     
     
         “นายคือคนแรกที่ฉันมองเห็นและฉันก็อยากให้นายคือคนสุดท้ายที่อยู่ข้างๆฉัน หวังว่านายคงเข้าใจฉันนะ นายจะหาว่าฉันเห็นแก่ตัวก็ได้ แต่ฉันคงเลิกรักพี่ชานยอลไม่ได้หรอกเซฮุน”

     
    เสียงใสเจือแจ้วในสิ่งที่ทำให้เซฮุนเจ็บปวดลึกสุดขั้วหัวใจ คือการที่นาอึนบอกรักอีกคนกับเขา ยิ่งทำให้เซฮุนกอดนาอึนแรงขึ้นไปอีก เธอไม่เคยพูดให้ความหวังเซฮุนเลยแถมยังประกาศชัดถึงความเห็นแกตัวของตัวเอง 
    นาอึนดันตัวเซฮุนออกก่อนจะหันหน้าไปหาเซฮุนด้วยใบหน้าจริงจัง 
     
     
     
         “เซฮุนเรื่องนั้นฉันขอให้นายเก็บเป็นความลับได้ไหม เราจะไม่พูดถึงมันอีกมันคงไม่ดีแน่ๆถ้าพี่ชานยอลจะรู้เรื่องนี้”

    ฉันดูเป็นผู้หญิงที่แย่ไปเลยปกปิดความผิดที่มีเพื่อเลือกสิ่งที่ตัวเองต้องการ ฉันไม่อยากทำร้ายนายหรอกนะเซฮุน แต่เรื่องนี้ฉันก็อยากตามใจตัวเอง


     
         “สักวันเขาก็ต้องรู้อยู่ดี” เป็นคำที่ทำให้ฉันสะอึกบอกไม่ถูก ใช่สักวันพี่ชานยอลต้องรู้ แต่ในแมื่อมันยังไม่เป็นอย่างนั้นนาอึนก็ขอเลือกยืดระยะเวลาให้นานๆไว้ก่อน ตราบใดที่ความลับยังเป็นความลับ เธอคงจะหาทางออกของเรื่องนี้ได้....
     
     


     
     
     
     
     
     
     
     
              ประตูบานที่แสนคุ้นเคยถูกเปิดออกด้วยมือเซฮุน นาอึนเดินเข้ามายังห้องตรงดิ่งไปห้องนอนจัดแจงจัดการอาบน้ำชำระร่างกายก่อนจะออกมานั่งข้างเซฮุนที่นั่งอยู่บนโซฟาก่อนแล้ว

     
     
         “ช่วงนี้งานที่บริษัทไม่ยุ่งหรอ มีเวลามาเฝ้าฉันทั้งวันทั้งคืนขนาดนี้”การพูดคุยแบบนี้ของคนทั้งคู่เป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้มันไม่ค่อยปกติกับนาอึน ยิ่งเซฮุนจ้องนาอึนแบบนี้มันทำให้เธอควบคุมสีหน้านิ่งๆยากเหลือเกิน 


     
         “เป็นห่วงตัวเองดีกว่าไหม อยู่ๆก็ไม่สบายอย่างนั้น”
    มือหนาถือโอกาสวางบนศรีษะนาอึน นาอึนหันมามองใบหน้าเซฮุนที่ค่อนข้างเครียดๆ เธอเอื้อมเอานิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างไปนวดขมับให้เซฮุน
     
       
     “ทำหน้าเครียดเดียวก็แก่เร็วหรอกท่านประธาน”มือหนาเปลี่ยนจากที่จับศรีษะของนาอึนอยู่นั้นให้มือทั้งสองข้างวางทับมือนาอึน
    ตอนนี้ใบหน้าเซฮุนจึงเหมือนโดนมือนาอึนจับใบหน้าของเขา แต่มีมือของเขาวางทับบนหลังมือของนาอึนอีกชั้นหนึ่ง

    ดวงตาคมจ้องมองลงไปในดวงตานาอึน สายตาของเขาไม่ได้แข็งกระดากแต่กลับมีเสน่ห์อย่างที่นาอึนไม่เคยเห็นมาก่อน การจ้องหน้าอย่างนี้มันทำให้นาอึนหวั่นๆใจเต้นแปลกๆ นาอึนจำได้มันเคยเต้นสำไม่เป็นจังหวะเมื่อตอนที่ชานยอลขอคบกับเธอ ตอนนี้มันกำลังเต้นในจังหวะเดียวกัน นาอึนหายใจติดขัดในขณะที่สายตาของเธอก็ไม่อยากละไปจากใบหน้าคมคายนี้เช่นกัน ต่อให้ในความคิดของนาอึนสั่งให้หันหน้าหนี แต่ความเป็นจริงสายตานั้นละจากใบหน้าที่อยู่เบื้องหน้าไม่ได้เลย
     
     
     
              “ฉันอยากให้เธอฟังฉันหน่อย”สีหน้าจริงจังทำให้นาอึนไม่ขัดขืนที่จะชักมือออก กลับยอมคนตรงหน้าอย่างว่าง่าย เมื่อไม่เห็นท่าทางขัดขืนของนาอึนเซฮุนเลยเอ่ยประโยคที่อัดอั้นไม่ต้องการเก็บอยู่คนเดียวอีกต่อไป

     
              “ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันเริ่มเห็นเธอไม่ใช่เพื่อน ฉันทรยศเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนแรกความรู้สึกของฉันมันคือเพื่อนเท่านั้น เผลอตัวมองเธออีกทีมันก็ไม่ใช่แล้ว ฉันขอโทษที่รักษาสถานะของเราไว้ไม่ได้เหมือนเธอ ที่ฉันสารภาพนี้เพราะฉันไม่อยากให้เธออึดอัดกับฉันหรือรังเกียดกัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นฉันคงทนไม่ไหว ตอนแรกฉันต้องการเป็นเพียงคนเดียวของเธอแต่ยิ่งทำอย่างนั้นเธอยิงเริ่มห่างฉันออกทุกทีๆ ฉันไม่ได้เรียกร้องสถานะนั่นกับเธอหรอก”



     
         ประโยคยาวเหยียดที่อัดอั้นในใจเซฮุนมันพรั้งพรูออกมาเหมือนสายน้ำไหล สมองพร้อมปล่อยความคิดออกมาทางปากอย่างไม่อยากจะหยุด ถ้ามันทำให้คนตรงหน้าจะไม่เกลียดเขา พูดไปใบหูก็เริ่มแดงโดยที่เซฮุนไม่รู้ตัวเลย อาการประหม่าที่แสดงออกมาทางใบหน้า ถ้าเซฮุนประหม่าเขาจะชอบแลบลิ้นและกัดริมฝีปากบนของตัวเองอย่างเคยชิน ตอนนี้ก็เป็น



     
         “ทำไมนายถึงไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันละ” คนที่เงียบอยู่นานเพื่อฟังเซฮุนระบายความในใจพูดขึ้นในตอนที่เซฮุนกำลังคิดว่าจะพูดอะไรต่อ นาอึนมองใบหน้าคมที่เต็มไปด้วยอาการประหม่า อย่าทำหน้าอย่างนี้นะเซฮุน มันทำให้ฉันหวั่นไหว ใบหน้าประหม่าของนายรู้ไหมมันน่ารักนะ 



     
         “แน่ใจนะว่าอยากให้ฉันตอบ”ฉันแค่พยักหน้าให้เขาได้อธิบายเหตุผล เซฮุนเอามือออกหลังจากที่กุมมือฉันวางบนใบหน้าตัวเอง
         

           “เป็นเพื่อนแล้วหึงได้ไหม”


     
    แววตาของเซฮุนดูจริงจังขึ้นมาทันที ทำไม่ฉันรู้สึกใจเต้นกับประโยคนี้นะยังไม่ทันได้ตั้งสติจากประโยเมื่อครู่ รู้สึกตัวอีกทีมือของเซฮุนก็มาจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันแล้ว ปกติเวลาจับตัวหรือแม้กระทั้งการสัมผัสต่างๆของเราแทบไม่รู้สึกอะไร ความรู้สึกมันเฉยมาก ทำไมวันนี้มันแปลกๆ 


     
         ตอนนี้กลายเป็นนาอึนที่หน้าขึ้นสี และก็คงเป็นนาอึนอีกนั้นแหละที่กำลังใจเต้นแรง ถึงจะเป็นอย่างนั้นคนตรงหน้าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดอธิบายใดๆทั้งสิ้น

     
         
         “เป็นเพื่อนแล้วมีสิทธ์กอดแบบนี้ไหม”

     
    มือสองข้างที่เคยจับไหลดึงตัวนาอึนเข้าไปซบไหล่กว้างๆของเขา นาอึนหายใจฝืดๆยิ่งได้กลิ่นน้ำหอมของเซฮุนชัดเจน ลมหายใจของนาอึนเรียกได้ว่าหายใจรดต้นคอทีเดียว ที่นาอึนต้องทำคือ ต้องผลักเซฮุนออกแต่ร่างกายกลับปฏิเสธการกระทำนั้นและปล่อยให้เจ้าของวงแขนนี้โอบรัดตัวเธอต่อไป


     
         “และที่สำคัญเป็นเพื่อนกันทำแบบนี้ได้ไหม” 

     
    ใบหน้าของเซฮุนค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ใบหน้านาอึน ลมหายใจของเซฮุนเป่ารดใบหน้าของเธอ ไม่ใช่การผลักแต่มันกลับเป็นตรงกันข้าม ใบหน้าสวยหวานค่อยหลับตารับสัมผัสที่เกิดขึ้นกับริมฝีปากเธอที่เซฮุนเป็นคนมอบให้ 
     
     
         จูบครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงเหมือนครั้งนั้น สัมผัสที่แผ่วเบาจากริมฝีปากหนาค่อยๆละเมียดละไมคล้ายๆเอาใจคนริมฝีปากบาง เซฮุนต้องการถ่ายทอดความรู้สึกของเขาให้คนร่างบางรับรู้ เขาไม่ต้องการให้ร่างบางหลุ่มหลงกับรสจูบแบบที่เคยเกิดขึ้น 
     
         ครั้งนี้นาอึนเต็มใจรับจูบแถมก้อนเนื้อข้างซ้ายของเธอมีกิริยาแปลกๆ ใจเต้นแรง คล้ายจะหลุดออกมาให้ได้  หน้าร้อนวูบวาบลมหายใจติดขัด เซฮุนเป็นเพราะนาย นายทำให้ใจฉันเต้นผิดจังหวะไปจากเดิม
    ความรู้สึกต่างๆมันเกิดขึ้นเองอัติโนมัติ

    นาอึนไม่สามารถควบคุมร่างกายของเธอได้ ความรู้สึกนี้มันทำให้เธอจูบตอบสัมพัสนั้นอย่างไม่มีข้อแม้ ริมฝีปากหน้าจูบดูดส่งปลายลิ้นสากเข้าไปในโพรงปากควนหารสหวานของริมฝีปากบางปลายลิ้นตวัดเกียวพันลิ้นอีกอันด้านใน ลมหายใจของอีกคนเป็นตัวกระตุ้นเซฮุนได้ดี

    เสียงหอบถี่คลายคนขาดอากกาศหายใจ เซฮุนถอนริมฝีปากออกมาจากโพรงปากเล็ก แล้วก้มลงไปจูบริมฝีปากร่างของนาอึนอีกครั้ง เซฮุนเพียงแค่ให้นาอึนหายใจสะดวกขึ้นใจขณะที่ริมฝีปากของเขายังแนบชิดริมฝีปากบางแช่ไว้อย่างนั้น นาอึนทอดสายตามองหน้าคนที่ไม่ยอมปล่อยให้เธอหายใจได้สะดวก แต่เธอก็ต้องโกยเอาอากาศเอาปอด หายใจเพียงไม่นายสายตาที่นาอึนมองเซฮุนด้วยความสงสัยก่อนที่ร่างหนาจะหลับตาลงและเริ่มบรรเลิงจูบนั้นอีกรอบ นาอึนได้แค่หลับตาตามและปล่อยให้เซฮุนเอาแต่ใจ




    70%








    เอาไปก่อน 70%น๊า ไรท์มายืนยันว่ายังมีชีวิตอยู่น๊าาาาาา
    อย่าพึงเบื่อเค้าละ อีก30% จะตามมาในเร็ววันนี้
    ขอบคุณลีดทุกคนที่ยังรออ่านนะคะ 
     
     
     
     
     
     
     
     
     
         
     
         
     
     







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×