ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชีคแห่งสายลม(อาริตา)

    ลำดับตอนที่ #22 : 22

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.78K
      10
      10 ส.ค. 52

    ชีคแห่งสายลม22

    เป็นคำตอบที่ทำให้เชคีซีรีนได้หัวเราะด้วยความขบขัน...

    มนตราแห่งรัก...

    รักหรือ...คำนี้เคยได้ยิน เคยได้รู้สึก เคยได้สัมผัสแน่นอน แต่ไม่ใช่กับบุรุษอื่นนอกจากพ่อ และสตรีอย่างแม่

    มนตราใดกันมีผลแค่ไหน...เธออยากรู้นัก จะมีผลกับชีวิตเพียงใดกัน

    เธอทำท่าฉงนสงสัยและเขาก็ยังสัมผัสกับดวงหน้าเธอ เขาแตะมือที่ปลายคางเธอดันดวงหน้าของเธอขึ้น

    เขามีแววตาที่หยาดเยิ้ม

    ...ไม่ยักเหมือนตอนมองเจ้าเด็กมอมแมมเลยนะ ท่านชีค..

    เธอรำพึงและเธอก็ยิ้มกว้างมากขึ้น อีตาชีคคนนี้ชอบคนสวย...ไม่ชอบเด็กมอมแมม

    ดีละ...เธอจะเล่นให้สมบทบาท

    “ชื่ออะไร”

    เธอไม่ตอบ ส่ายหน้าไปมา

    “หือ ทำไมไม่บอกชื่อกับเรา”

    ...บอกก็รู้สิว่าเราคือเด็กมอมแมม...

    “ฉันไม่มีชื่อ”

    เอ่ยออกมา ลดเสียงให้เบาลงหากว่าเสียงพูดปกติ...และแม้จะโดนมนตราผูกมัดเอาไว้ แต่ทำไมหนอ...ทำไมกระหวัดนึกถึงเจ้าเด็กมอมแมม
    คนนั้น...เหมือน...ใกล้ก็เหมือน แต่เด็กนั่นมอมแมม ไม่ดูงามจับตาเช่นนี้

    รูปโฉมโฉมพรรณดุจปั้นแต่ง
    เหมือนแกล้งให้เพ้อละเมอหา
    สบตาก็รู้อยู่เต็มตา
    รู้ว่าทิ้งใจไปทั้งดวง


    ดวงตากลมโตมีประกายแพรวพราว...เขาแตะมือที่ผ้าคลุมศีรษะสีแดง...เส้นผมสะอาดสีดำขลับซ่อนยู่ภายใต้ผ้าผืนนั้น...กลิ่นกรุ่นสะอาด...หอมไปทั้งเส้นผมและเนื้อตัว เขาได้กลิ่นหอมสะอาด...ชุ่มชื่นใจเมื่อสูดลมหายใจเข้าไป

    ดวงหน้านั้นสวยนวลผ่อง แก้มใส...ปากแดงฉ่ำ...ราวกับผลไม้ที่สุกงอมเต็มที่ ผลไม้อย่างเช่นผลไม้เมืองหนาว สีแดงและดูฉ่ำ...ผลสตอเบอรี่...เขาโน้มดวงหน้าลงไปอย่างสุดจะควบคุมตัวเองได้ และดวงหน้านวลงามก็เบนหนี

    ...ชะ จะจูบข้าหรือท่านชีค...

    เธอเบนหลบ...ริมฝีปากนั้นเบนห่างออกไป ได้แต่จูบลงกับเส้นผมหอมละมุนแทน

    “นางเอย...จะชื่อไร...เรามิอยากรู้ก็ได้ แต่เรา...ปั่นป่วนไปหมดแล้ว...”

    เขาดึงเธอมาแนบอก...กอดกระชับ...แนบอก...มีเพียงเสื้อผ้าที่ปิดกั้นระหว่างตัวเขากับตัวเธอ...อารมณ์ของบุรุษระอุพล่านไปหมด และยากจะควบคุม เขารู้สึกว่าเขาถูกกระตุ้นด้วยสิเน่หาที่รุนแรงเป็นอันมาก...

    “แม่พาเจ้ามาให้เราหรือไม่”

    “คิดเช่นนั้นหรือเพคะ...” เสียงถามอ้อยอิ่ง อ่อนหวาน “คิดว่าพระเทวีประทานให้หรือเพคะ”

    “หรือมิใช่...แม่จูงเจ้าเข้ามาในงาน...แล้วคืนนี้...เรารู้เลยว่าเจ้าเป็นของเรา”

    เท้าก้าวขยับ...พาร่างบางในอ้อมอกขยับตามไปด้วย...เชคีซีรีนก้าวเท้าถอยหลัง...

    อย่างน้อยเชิงชายก็มีอยู่มากล้น เชิงชายแสนเชี่ยว

    บุรุษอย่างชีครอม์ฮิมนั้นมิใช่บุรุษที่มิเคยลิ้มรสอิสตรี...


    กี่นาง...กี่ใคร ได้ผ่าน
    พบพานมานักใช่รักไม่
    หนึ่งนางนวลน้องต้องใจ
    คิดใคร่เป็นรักจักยืนยัน


    “อุ๊ย” เสียงร้องจากปากสีแดงชุ่มชื่นของเชคีซีรีน เพราะเมื่อโอบแนบแล้วรุกไล่ให้ก้าวขาเดินหน้าใส่เรื่อยๆ เธอก้าวถอยหลังพาเขาเดินตามติดมา และเธอระวังรักษาระยะห่าง ท่าทีของเขามีหรือที่เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...

    เขาปรารถนาในตัวเธอ

    เขาอยากจุมพิตเธอ

    ...รอไปก่อนเถิด ท่านชีค ท่านเองเคยปฏิเสธข้า แล้ววันนี้พอข้าไม่มอมแมม ท่านทำมาอยากจูบข้า ...

    เชคีซีรีนคิดต่อในใจ มีรอยยิ้มบนหน้าของเธอ....

    เขารุกใส่เธอจนส่วนขาด้านหลังติดกับตัวเตียง และเมื่อเธอถอยอีกก้าวนั้นก็เท่ากับเธอเอนหงายไปบนเตียง...และเขาโน้มตัวทาบตามมา...
    เชคีซีรีนหัวเราะในใจ ไม่ได้นึกกลัวแม้จะตระหนักว่าชีคหนุ่มกำลังไล่ต้อนเธอ เหมือนต้อนเหยื่อที่เขาอยากจะขย้ำเต็มประดาแล้ว

    เขาโอบกอดเธอเอาไว้...และพยายามบังคับให้เธอยู่นิ่งๆ เพื่อเขาจะได้จูบเธอ

    ไม่ง่ายเช่นนั้น

    ไม่เหมือนที่เธอเคยลั่นวาจา

    และเธอเป็นสตรี ที่ไหนจะยอมโดยง่ายดาย...แต่คำพูดบอกสิเน่หา...เชื่อได้ที่ไหนกัน เธอเห็นดวงตาของเขาเหมือนถูกครอบด้วยมนตรา กระบอกตะกั่วของอัล นาจาห์มาปรากฏที่ทะเลสาบฮาวา ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีภาพเธอ มีสัญลักษณ์นกฮูกของเธอ เขาพูด
    ถึงคำสี่คำที่มากับภาพนั้น

    เพียง-พบ-ผูก-พัน

    เขาต้องมนต์มายา มนตราที่พ่อของเธออาจจะกำกับมาพร้อมภาพของเธอ

    แต่พ่อจะทำเพื่ออะไร

    พ่อต้องการอะไร...

    และเส้นทางจากอัล นาจาห์ มาถึงทะเลสาบฮาวา...มาได้อย่างไร เป็นไปได้ไหมว่าทะเลสาบเชื่อมต่อกัน

    เธอทะลึ่งกายลุกขึ้น...ศีรษะเธอกระแทกกับคางเขา

    “โอ๊ย...” เขาผงะไป

    เธอลุกนั่งห้อยเท้า ส่วนเขานั่งอยู่กับพื้นในท่าคุกเข่า...

    “ฉันคิดว่าสิ่งท่านพบจากทะเลสาบต้องมาจากบ้านฉันแน่ๆ”

    “บ้านเธอ...อยู่ที่ใด”

    เธอยังไม่ยอมตอบ

    “แต่ทำไมถึงมา”

    เธอพิศวง...สีหน้าเธอบอกความงุนงง เธอกำลังคิด

    และชีคหนุ่มก็กำลังคิดเช่นกัน เขาคิดว่าเขาต้องการจะครอบครองเธอ จุมพิตและครอบครอง...เขาขยับตัวลุก...และคว้าตัวเธอมากดตรึงกับที่นอน...เธอเอาสองมือยันอกเขาเอาไว้ เอ่ยแกมหัวเราะนุ่มนวลนัก

    “อย่าใจร้อนนักเลยท่าน...อย่าทำแบบนี้”

    “แบบไหนหรือ”

    “แบบที่ท่านกำลังคิดจะทำอยู่”

    “เรารักเธอ”

    “รักหรือ...ง่ายดายไป เราเพิ่งพบกัน”

    “ไม่ใช่เช่นนั้น เราพบกันมานานแล้ว”

    “นานแค่ไหนกันเชียว”

    “ตั้งแต่เราพบภาพนั้น...”

    “ท่านบอกฉันว่าต้องมนต์...”

    เธอบอก เธอรู้จักมนตราหลายบทที่พ่อเคยสอน แม่เฒ่ามายอห์ก็สอนเธอ...เธอควรจะทดสอบวิชาหรือไม่ เชคีสาวน้อยครุ่นคิด
    มันคงไม่ยากกระมัง

    “มองตาฉันสิ ท่านชีค” เธอเอ่ยเหมือนสั่ง

    “เรามองอยู่ เราไม่อาจจะละสายตาจากดวงหน้าของเธอได้เลย”

    “ปากช่างหวานนัก”

    “แต่ปากเธอคงจะหวานกว่า ดูสิ เราเห็นอะไร...ปากสวยสีแดงดูชุ่มชื่น...แต่จะหวานแค่ไหน ต้องพิสูจน์เมื่อเราได้จูบเธอก่อน”

    “ท่านพูดไปเพราะโดนมนตราสะกดไว้ ที่จริงมีหญิงงามอีกหลายคนในค่ำคืนนี้ที่ฉันมองเห็นเธอมีจิตสิเน่หาต่อท่าน”

    “พวกนางหรือ” เสียงถามบอกความรำคาญเพียงพอทีเดียว “ฉันไม่ได้สิเน่หาพวกนาง แต่พวกนางไม่ยอมจากไป”

    “นั่นเพราะท่านเคยให้ความหวังพวกนาง...เคยทำร้ายจิตใจพวกนางจนพวกนางไม่สามารถถอนตัวไปไหนได้อีก”

    “เธอหึงเราเหรอ”

    โอย...น่าหัวเราะดังๆ แต่เธอไม่ได้ทำเช่นนั้น เขายังพยายามจะจูบเธอให้ได้...และเธอคลายมนต์ด้วยการท่องมนต์บางบทถอยกลับ...และทำให้ชีครอม์ฮิมเอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียงภาษาอันแปลกไม่คุ้นชิน

    “เจ้าพูดอะไร”

    พัน-ผูก-พบ-เพียง

    เธอเอ่ยย้ำ...ดวงตามองดวงหน้าเขาอย่างแน่วแน่เป็นอันมาก

    และอีกสองคำตามมา

    “จบ-พลัน”

    เหมือนชีคหนุ่มจะผงะไป แต่เพียงชั่วครู่เขาก็ยิ้มกว้าง

    “เจ้าท่องบ่นอันใดหรือ...”

    “รู้สึกอย่างไรบ้าง”

    “ก็ยังท่วมท้นที่อยากจะรักเธอ”

    “ว้า” เหมือนผิดหวัง เมื่อพยายามจะถอนมนตรานี้อีก แต่ทำท่าไม่ได้ผล เขายังแสดงท่าปรารถนามากล้น และเธอเริ่มรู้สึกบางประการ...อะไรน่ะหรือ...เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองนั่นกำลังถูกขับเคี่ยวด้วยปรารถนาที่มองไม่เห็นตัวตน...มันเริ่มเข้าครอบงำเธอและทำให้เธออยากลิ้มลอง

    ไม่ได้...

    ไม่ถูกต้อง...

    เชคีซีรีนปฏิเสธตัวเอง เธอจะให้เป็นเช่นนี้อีกต่อไม่ได้ เธอจะไม่ยอมให้เขาจุมพิตเธอ ไม่ให้เขาล่วงเกิน สองมือจึงยันอกเขาเอาไว้มั่นคงนัก พร้อมกับรอยยิ้มเย้ายั่ว

    “ให้เรา...”

    เขาบอก กระซิบเว้าวอน...แต่แรงยันที่อกทำท่าหนักแน่นนัก เขาไม่อาจจะข่มขืนเอาด้วยเรี่ยวแรงบุรุษได้ สตรีเบื้องล่างนั้นเย้ายวนแต่ไยทรงพลัง ทั้งที่เธอบอบบางมากนัก

    “ท่านเพียงแต่หลงไปกับมนตราแห่งรัก ท่านไม่ได้รักฉันเลย ท่านชีค” เสียงบอกกล่าวจริงจังกว่าเดิม “อย่าทำแบบนี้กับฉันเลย”

    แต่ชีครอม์ฮิมผู้ไม่เคยถูกปฏิเสธ และสิเน่หาที่กำลังปั่นป่วนทำให้เขาอยากจะเอาชนยะให้ได้ การได้แสดงความรักการได้ครอบครองย่อมเป็นเรื่องปรารถนาอันหอมหวาน

    เขาไม่ได้คิดถึงคำสี่คำนั้นอีก แต่เขาเพ่งมอง สตรีที่นอนทอดกายใต้ร่างเขาเอ่ยออกมาว่า

    “เธอหน้าตาเหมือนเพื่อนเรา”

    “เพื่อนท่าน”

    “เพื่อน...เด็กมอมแมม...คนนั้นเป็นเพื่อนเรา”

    “ผู้หญิงหรือ แล้วมอมแมมด้วย”

    “คงไม่อาบน้ำ ไม่ชอบแต่งตัวสวยๆ เพราะเราให้ไปอาบน้ำให้เสื้อผ้าใหม่ก็ยังมอมแมมอยู่ดี”

    “ฉันเหมือนเธอหรือ...ถ้านั้นเธอคงสวย เพราะมีคนชมว่าฉันสวยเสมอ”

    “เราก็ว่าเธอสวย แต่เหมือน เด็กมอมแมมคนนั้นไม่สวย”

    “อย่างนั้นหรือ แล้วหากท่านอยากแตะต้องเด็กมอมแมมคนนั้นหรือไม่”

    “ไม่รู้เหมือนกัน” คำตอบไม่แน่ใจ “บางเวลาก็อยาก บางเวลาก็ไม่อยากนะ”

    “ฉันไม่เข้าใจ อธิบายใหม่สิ”

    “คือ...เราไปหมิ่นประมาทเอาไว้”

    “หมิ่นเรื่องใด”

    เราหลอกเธอว่าเราอาจจะแตะต้องไม่ลง แต่ว่า...” มีเสียงถอนใจและเชคีซีรีนก็มองไม่ได้ละสายตาไปทางอื่นแม้แต่น้อย “เราบอกกับเธอได้นะว่าเด็กมอมแมมคนนั้นรบกวนจิตใจเรา”

    ...ฮึ รู้สึกเหมือนกันหรือ...


    “เราอยากแตะต้อง แต่เราก็ลั่นวาจาไปแล้ว”

    “ลั่นวาจาอะไร”

    “ว่าเราจะไม่ยอมจูบเด็กมอมแมม”

    “กลัวเสียหน้าหรือ”

    “เด็กมอมแมมพูดกับเราด้วยนะว่าเราจะต้องคุกเข่าขอ”

    “อาจจะเป็นไปได้” เชคีซีรีนทำเสียงแบบงึมงำๆ

    “เธอว่าอย่างไรนะ”

    “เปล่า” เสียงปฏิเสธ “ถอยห่างจากฉันได้หรือยัง...ฉันอึดอัด”

    เพราะชีคหนุ่มได้พยายามจะให้เธอลุ่มหลง เตลิดไปไกลสมปรารถนาของเขา...ไม่ได้...เธอจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ แต่คำขอของเธอเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจจากเขาเลย ดังนั่นวิธีสุดท้ายที่จะจัดการกับเขาคือทำให้เขาหลับ

    เธอเป่าลมหายใจเบาๆ...และชีคหนุ่มรู้สึกได้ถึงกระแสลมบางอย่างที่มีกลิ่นของดอกไม้พุ่งเข้าหน้า เขาสูดเข้าไปและไม่นานเลยที่เขาหลับตาลงฟุบลงมา...เชคีซีรีนรีบพลิกตัวหลบ

    “ท่านเกือบทับเรา”

    เสียงบ่น...ชีคหนุ่มตะแคงหน้ามา ดวงตาลืมขึ้นชั่วแวบ...และเชคีซีรีนก็สลัดผ้าสีแดงลงมาจากศีรษะ เขายังสามารถคว้าผ้านั้นแล้วพยายามจะคว้าจับข้อมือเธอ เอาไว้

    “อย่าไป”

    เขาง่วงเปลือกตาหนักและรับรู้ว่าคนงามกำลังจะจากไป

    เขาเหมือนจะวิงวอนต่อเธอ และเขาไม่ได้คว้าจับถูกเธอ อะไรกัน...นุ่มๆ...เขาเบิกตากว้างทั้งที่กำลังง่วงสุดขีด เขาคว้าจับได้นกฮูกตัวหนึ่ง

    “อีกแล้ว” เขาคราง เขาเจอนกฮูกในห้องนอนตัวเอง...

    อะไรกัน...นกฮูกมาจากไหน ตอนนี้แรงที่มือเขาอ่อนลง เขาไม่สามารถจะยื้อยุดนกฮูกตัวน้อยเอาไว้ได้ เขาต้องคลายมือออก แล้ว
    นกตัวนั้นก็เดินเตาะแตะมาจ้องหน้าเขา...ใกล้มาก ตาโตของนกฮูกเหมือนโตขึ้นเท่าฟองไข่ไก่...เขาหลับตาลงพึมพำ

    “ทำไมเราโดนหลอกหลอนด้วยนกฮูก หือ...เจ้ามาทางไหน...หรือเจ้าเด็กมอมแมมนั่นแปลงกายมาหยอกเราเล่นอีกแล้ว...ซีรีน...ไปนะ...ไปให้พ้น”

    เขาหลับตา...

    “เอาคนสวยมาคืนเรา”

    มีแต่เสียงครางๆฮือ ๆ “ไล่เรา...ดีละ เราจะไป” เสียงเอ่ยต่อมาชัดเจน “เรามันเด็กดื้อ นังหนู นังขอทาน นังคนมอมแมม...กอดไม่ได้ จูบไม่ลง...เราจะไป...”

    ชีคหนุ่มใจหาย อยากลืมตาดู แต่ลืมตาไม่ได้ ไม่เห็นว่า สาวน้อยกลับกลายมาเป็นคนอีกหน แล้วกำลังคุกเข่าอยู่ข้างเตียงมองดูเขาด้วยแววตาพราวๆ...สนุกสนาน

    ...ได้แกล้งท่านนี่ก็สนุกดีแฮะ หลับไปเถิดนะ ท่านชีคเจ้าเล่ห์ ข้าจะไปเที่ยวเล่นกับน้าเขยของข้า เพราะข้ารับปากอับดุลลาแล้วว่าข้าจะไปอารูก้า แล้วข้าถึงจะกลับมาหาท่านอีก...



    ร่างบอบบางเบื้องหน้านั้น อัลเพ่งมองแล้วมองอีก...จะให้เขาเชื่อว่านั่นเป็นอีกคนที่เดินทางจากอดีตมาสู่ปัจจุบันดังเช่นเชคีอัสมา อย่างนั้นหรือ เป็นไปได้อย่างไร

    แต่เธอมีตัวตนจริงๆ และอับดุลลายังบอกว่าเธอเหมือนเชคีมารีอาห์


    สาวน้อยยิ้มกว้าง “มีคนบอกเสมอว่าฉันเหมือนแม่...”

    อับดุลลาคิดในใจว่า

    ...ไม่เหมือนพ่อน่ะดีแล้ว...

    เพราะตัวตนของอควาที่แท้จริงน่าเกลียดน่าชัง และเขาคิดว่าเชคีซีรีนคงไม่เคยเห็นภาพนั้นแน่นอน หากทำได้เขาจะเก็บภาพของอควาเป็นความลับต่อเชคีซีรีนตลอดไป ไม่เปิดเผย เขาไม่เชื่อว่าเธอจะรับความจริงได้ อความีเวทมนต์ที่จะทำให้ผู้คนยอมรับเขาไม่กลัว
    เขา...คนนอกอัล นาจาห์ เท่านั้นที่ได้เห็นโฉมหน้าแท้จริงเขาจากภาพวาดที่เก็บเอาไว้เป็นเรื่องเล่าในตำนาน

    ตอนนี้ทุกคนอยู่บนเครื่องบิน...และจะเดินทางไปยังอารูก้า อับดุลลาเชื่อว่าอัสมาจะต้องดีใจแน่นอนหากได้เจอ หลานสาว...อายุของเชคีซีรีนไม่ห่างจากอัสมามากนัก...ไม่น่าเชื่อเอาเสียเลย

    “พ่อแม่เจ้าสบายดีหรือ ซีรีน” อับดุลลาเอ่ยถาม

    “เมื่อตอนจะมาจากบ้าน พวกท่านสบายดีนะ ท่านอยากให้ฉันมาเที่ยวเล่น มาเจอน้าอัสมา และแม่ฝากจดหมายมาให้กับน้าอัสมาด้วย...”
    เธอปิดบังเรื่องแผนที่แม่น้ำสีดำ บอกตัวเองว่าขอดูความเป็นอยู่ของน้าสาวก่อน หากว่าอัสมาอยู่เป็นสุข สะดวกสบาย แม่น้ำสีดำที่บัดนี้เธอรู้แล้วว่ามันคือน้ำมันมูลค่ามหาศาลและมีคุณค่าและมูลค่าสูงมากจะถูกส่งให้คนที่หัวใจบอกว่าใช่

    เธอทำตามแม่บอก...

    และเธอมีคนคนนั้นแล้ว ป่านนี้ท่านชีคคงรู้แล้วว่าเธอไม่อยู่ เธอหัวเราะออกมาเบาๆ

    “ขำอะไร” อัลเอ่ยถาม เขามองดูสาวน้อยที่นั่งอยู่เบื้องหน้า เมื่อแรกเธอมีท่าทีตื่นกลัวกับการขึ้นเครื่องบิน ท่าทางกระสับกระส่ายไม่สบายใจ แต่ตอนนี้เขาเห็นว่าเธอสงบนิ่งลงได้ อาจจะปรับตัวได้แล้ว นักบินของเขาที่พามาด้วยขับเครื่องบินได้ดีเทียมเท่ากับเขา เที่ยวบินกลับนี้เขาไม่อยากขับเครื่องบินเอง เขาอยากซักไซ้ไล่เรียงเรื่องราวจากสาวน้อยผู้มาจากแดนไกลนี้ก่อน

    “ป่านนี้ท่านชีคคงรู้แล้ว”

    “รู้อะไร”

    “รู้ว่าฉันหนีมาจากเขา”

    อัลอมยิ้ม “อย่าให้เขาคิดว่าฉันพาเธอหนี เพราะเขาอาจจะเคืองฉัน ท่าทางเขาชอบเธอ”

    “ไม่เลย เขาไม่ชอบฉัน” เชคีซีรีนยืนยัน “เขาบอกว่าเขาไม่ชอบคนมอมแมม เขาจูบฉันไม่ลง แต่ฉันจะทำให้เขาต้องคุกเข่าขอจูบจากฉัน”

    อัลหัวเราะเสียงดัง “จูบหรือ” เขานึกถึงตัวเอง...

    เรเนียตบเขาเพื่อสั่งสอน แต่เขาเอามาเป็นเครื่องมือตอบแทนเธอด้วยการจูบ

    เธอตบเขาหนึ่งที เขาตอบแทนเธอด้วยหนึ่งจูบ และเมื่อยามเธอไม่ตบเขาเพราะกลัวเขาจะจูบเธอกลับคืนอีก เขาก็จับมือเธอมาตบหน้าเขาเองเพื่อฉวยโอกาสนั้น

    เขายังจำเรื่องราวความรักของตัวเองได้ยามถูกลักพาตัวไปร่อนเร่กลางทะเลทราย...ผจญรัก ผจญภัยร่วมกัน

    แต่ตอนนี้ไม่ต้องให้เธอตบเขา ไม่มีเหตุผลจะต้องโดนตบแล้วเขาก็ไม่ฉวยโอกาสจับมือเธอมาตบหน้าเขา แต่เขาได้จูบเธอทุกวัน...จูบด้วยความรักอันท่วมท้น

    นี่จะมีตำนานคุกเข่าขอจูบ แทนที่ตบแลกจูบหรือไร อัลนึกขำ

    “แล้วเธอ คาดว่าเขาจะคุกเข่าให้เธอไหม”

    “แน่นอน” น้ำเสียงหมายมาด “เขาจะต้องทำเช่นนั้น”

    “แล้วจะได้อะไร”

    คำถามนั่นทำให้เธอชะงัก

    “เธอได้รับความสะใจหรือไม่”

    “สะใจ...คงไม่...แต่ฉันอยากให้เขารู้ว่าไม่ว่าจะมอมแมมหรือไม่ ฉันก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง...เขากำลังสงสัยว่าฉันกับเด็กมอมแมมจะเป็นคนเดียวกันไหม และเขาเลือกจะจูบใคร”

    “ซีรีน จำเราไว้อย่างหนึ่งนะ” น้ำเสียงอัลอ่อนโยน เขาอธิบายกับเธอด้วยความจริงใจ “ไม่ว่าเขาจะจูบใคร เธอหรือเด็กมอมแมม จะต้องคุกเข่าขอหรือไม่ได้ทำเช่นนั้น แต่หากเขาได้จูบเธอ ขอให้เธอตระหนักรู้ว่านั่นเพราะเขารักเธอ”

    “เพราะความรักเป็นสิ่งดีงาม” อับดุลลาแทรก...

    ก่อนจะมีรายงานด่วนเข้ามา...ข่าวเพิ่งมาถึง ด้วยความตื่นตระหนก อับดุลลาลุกไปรับข่าวนั่นแล้วกลับมารายงานร้อนรน
    “อารูก้า ถูกปิดเมืองปล้นเมื่อคืนนี้ตอนเที่ยงคืนพอดี กวาดเอาทรัพย์สินจากร้านค้าและธนาคารไปได้มากมายมหาศาล คืนเดียวในสองชั่วโมง เจ้าโจรสายลมปิดเมืองปล้นอย่างสบายอกสบายใจโดยที่กองตำรวจหรือทหารไม่ได้ทันคิด...ระบบเตือนภัยหยุดทำงานชั่วคราว....”

    โจรสายลมหรือ อัลคราง กำมือแน่น...เจ้าโจรบ้าฉกฉวยโอกาสทีเผลอและคราวนี้ปล้นคนอารูก้า ไม่ได้ปล้นคนต่างชาติ

    เมื่อคืนชีครอม์ฮิมประทับในงานตลอดและหายไปก่อนงานเลิก เขาถามกับเชคีซีรีนอีกหน

    “เมื่อคืนรอม์ฮิมอยู่กับเธอตลอดไหม”

    ความฉลาดเป็นของเธอ และเธอทำความเข้าใจได้ว่า

    ...พวกเขาสงสัยท่านชีค...

    “เขาอยู่กับฉัน ตั้งแต่พาออกจากงานไปที่ตำหนักของเขา และพยายามจะครอบครองฉันให้ได้ ตราบจนฉันต้องเป่ามนต์สะกดเขาแล้วออกมา”

    อัลเองก็นึกในใจว่า

    ...มันเป็นใคร ไม่ใช่รอม์ฮิมแน่นอนแล้ว...

    เชคีซีรีนก็คิดเช่นกันว่า

    ...เราจะต้องปกป้องท่านชีคยิ่งกว่าชีวิต...

    เพราะอะไรน่ะหรือ เธอตอบไม่ได้

    เพราะรักหรือ

    เพราะมีหัวใจหรือ

    ล้วนแล้วแต่ตอบยากลำบากนัก แต่เขาเป็นบุรุษคนแรกที่หัวใจส่งเสียงบอกเตือน...แม่บอกให้ฟังเสียงหัวใจให้มั่นคงเข้าไว้...แล้วจะดีไปเอง
    เธอเชื่อแม่ เธอเป็นเด็กดีนี่นา สาวน้อยคิดพร้อมกับขบขัน แต่เธอคอยฟังว่าอัลจะเอ่ยสิ่งใดต่อไป

    “กลับไปถึง ฉันจะไปตรวจสถานที่เกิดเหตุเอง ถามไปสิว่าพวกเขากระจายข่าวออกไปแล้วหรือไม่...”

    “ยังพะยะค่ะ”

    “ดีแล้ว ปิดข่าวไว้ ไม่ต้องแพร่งพราย...นับจากนี้เราจะตามล่าโจรแห่งสายลมด้วยตัวเราเอง...”

    น้ำเสียงมุ่งมาดบอกความโกรธสุดขีด

    “ต่อสายหาชาห์มาให้เราด้วย เขาเจอเหตุการณ์แบบเดียวกับเราหรือไม่...และท่าจะให้ดีนะ อับดุลลา ตรวจดูว่ากองกำลังพิเศษของรอม์ฮิม หน่วยรบพิเศษที่รอม์ฮิมฝึกเองได้เดินทางออกจากบูราไบเมื่อคืนหรือไม่ ระหว่างมีงานเลี้ยง พวกนั้นอยู่ไหน เราควรตรวจสอบให้ดี”

    อัลเป็นคนว่องไว คิดฉับไวเสมอ

    อับดุลลาลับตัวไปสักพัก อัลยังชวนเชคีซีรีนคุยต่อด้วยเรื่องของอัล นาจาห์ เขาซ่อนความกระวนกระวายไว้เงียบๆ

    “เราปล่อยให้เรื่องนั้นเป็นหน้าที่ของพวกผู้ชายดีกว่านะ”

    “ค่ะ ท่าน” แต่ใจของเชคีซีรีนก็ร้อนรนนัก

    สักพักหนึ่งอับดุลลาเข้ามารายงานว่า

    “หน่วยทหารพิเศษของรอม์ฮิมไม่เคยออกจากที่แจ้งเลยครับในรอบ10วันนี้ แต่มีคนที่หายไปจากงานหลายคน หนุ่มๆ ที่ฝึกการสู้รบอย่างดี รวมทั้งตัวหัวหน้า”

    “จากไหน”

    “จัสฟา ลูกชายของเจ้าชายอะบีห์ และชีคชาห์มารายงานมาแล้วเช่นกันว่าอิบบาห์ เชวูโดนโจมตีทั้งที่อิบบาห์ และที่เชวูด้วยเช่นกัน”
    “ในคืนเดียวนี่นะ”

    “ใช่พะยะค่ะ”

    “มันผู้ใดกล้าล้วงคอเรา ดีละ...เราจะจับมันให้ได้”

    ย่อมไม่ใช่รอม์ฮิม...เชคีซีรีนนึกในใจ

    ใครกัน เจ้าโจรสายลมตัวปลอม

    “ชีคชาห์มาเรียกนักแกะรอยไฮเทคมาแล้ว”

    “ใครหรือ”

    “คาร์ล่า พัสมี เคียวเซร่า”

    อัลหัวเราะ “คู่ปรับของอาลีหรือ”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×