ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชีคแห่งสายลม(อาริตา)

    ลำดับตอนที่ #13 : 13

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.66K
      9
      16 ก.ค. 52

    ชีคแห่งสายลม13


    เชคีซีรีนนิ่งไปสักพัก...ชีค...ท่านชีค...ตลก...เธอระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น เจ้าโจรหนุ่ม บัดนี้กลายเป็นชีค...เสียงหัวเราะของเธอกังวาน...มันเป็นการหัวเราะเยาะชัดๆ

    ชีคหนุ่มสูดลมหายใจเข้าแบบลึกๆ ระวังไม่ให้เป็นการรีบร้อนรับอากาศเข้าปอด เพราะเขากำลังใจเต้นแรง...เขาได้เจอเจ้าคนที่ช่วยเขา...ยังดูเหมือนเด็กน้อยมอมแมม...เขานึกถึงคำพูดของท่านป้ามะยาห์ดี

    ...เจ้าติดค้างเด็กคนนั้นใหญ่หลวงนัก ติดหนี้ชีวิต...ด้วยชีวิต...

    และท่านป้ายังพูดต่อว่าหากไม่ใช้ด้วยชีวิตก็ด้วยหัวใจ ท่านป้าพูดจริง เขาเสียอีกที่เอ่ยว่า “พระชายาของเขาจะมอมแมมเป็นเด็กขอทานเร่ร่อนได้อย่างไรกัน เขาคงแตะต้องไม่ลง ให้เขาฟรีๆ ยังไม่รับ

    ท่านป้ายังหาพยานเอาไว้จดจำว่าเขาพูดอย่างไร

    ตอนนั้นเขาคิดถึงสาวสวยในกระบอกตะกั่วที่เก็บจากทะเลสาบ สาวสวยตาคมที่โพกผ้าสีแดงรอบศีรษะคนนั้นตราตรึงให้ซาบซึ้งใจ
    มากกว่า

    เขานึกถึงคำว่า

    เพียง-พบ-ผูก-พัน

    เขาอยากพบสาวคนนั้นและชีครอม์ฮิมก็เปรียบเช่นคนที่มีตาแต่หามีแววไม่ เพียงคราบเปรอะเปื้อน...เขาก็ไม่สามารถนำคนสองคนมาวางทาบกันเป็นหนึ่งเดียว!

    กระบอกตะกั่วจากทะเลสาบฮาวา

    น้ำที่เพิ่มขึ้นในทะเลสาบฮาวา

    เขาหาได้รู้เท่าทันว่าน้ำนั่นจากไหน...และกระบอกตะกั่วนั้นมีมนต์มายาใดกำกับ เหมือนมีบางอย่างบังตาเขาเอาไว้

    เขามองไม่ออกว่าสาวสวยตาคมโพกผ้าแดง หน้าตาสะสวย คม แววตาเอาเรื่องปลายจมูกแหลมแต่เชิดขึค้น ปากหยักได้รูปสวยจะเป็นคนเดียวกับเด็กมอมแมม หน้าตาเลอะๆ น่าจะเอาผ้ามาเช็ดหน้าไม่ใช่สิ ควรจะโดนจับโยนลงทะเลสาบฮาวาแล้วชำระล้างคราบเปรอะเปื้อนนั้นออก

    แต่ขืนโยน เขาจะโดนประจานอีกไหมว่าเขาเป็นโจร

    คนของเขารู้อีกบทบาทของเขา บทบาทโจร

    แต่คนอื่นไม่รู้

    ความนี้จะแตกไม่ได้ด้วย

    เจ้าเด็กขอทานนั่นอยู่เบื้องหน้า และกำลังหัวเราะเยาะใส่เขา เยาะเย้ยว่าเขาคือโจรสายลม และเหตุใดเขาจึงคิดถึงคำสี่คำนั่นขึ้นมาในเวลานี้ด้วย น่าแปลกใจเป็นอันมาก

    นะดีมกับราอูลถลันเข้ามา อาจจะคิดว่าเขาไม่ปลอดภัย เขายกมือห้ามเอาไว้

    พอกับอาบิส และซินาสที่พยายามจะเข้ามาดึงเอาตัวนายของตัวไปเช่นกัน แต่เชคีซีรีนบอกว่า

    “พวกพี่ถอยไปก่อน ข้าจะต้องเจรจากับเจ้าโจรซักหน่อย”

    เธอเน้นคำว่าเจ้าโจร...บ่งบอกว่าเธอจดจำได้

    “ข้าไม่เคยจำผิดคน ความจำข้า” เธอเอานิ้วเรียวยาวเคาะตรงข้างขมับ “ข้าจำคนได้แม่นยำเสมอ คืนก่อนนี้เอง เพิ่งผ่านมาได้สอง
    คืนเท่านั้น”

    เธอย้ำ...เขาส่งสัญญาณมือให้คนของเขาถอยไปและพาผู้คนที่อาจจะได้ยินถ้อยคำสนทนานี้อีกด้วย

    “เอาละ...จะเอาอะไร”

    “ยอมรับหรือยังว่าเป็นโจร”

    “เราเป็นชีค”

    “เป็นโจร” เสียงย้ำหนักแน่น

    เด็กบ้า...เขามองเขม็ง...ดวงหน้านั้นเกลี้ยงเกลาสะอาดแล้วสำหรับสายตาเธอไม่เหมือนสองคืนก่อนที่ผ่านมา แต่อย่าหมายว่าจะปิดบังสภาพเดิมจากดวงตาของเธอได้

    เธอยื่นหน้ามาหา เขาเลยหลบ เบนหนี และเป็นครั้งแรกที่เขาหลบการเผชิญหน้าตรงๆกับเพศตรงกันข้าม แถมยังเด็ก ตัวเล็กกว่าเขา เด็กสาว แต่มอมแมม ดูไม่จืด ไม่งดงามพอจะทำให้ต่อมกำหนัดเกิดปรารถนา คราวนี้คำว่าเด็กบ้าออกมาดังๆ

    “เด็กบ้า”

    แต่เด็กบ้านั่นยังหัวเราะใส่หน้าเขา ท่าทางเธอกล้าหาญมาก เขาเสียอีกยืนตัวแข็งทื่อ...เมื่อมือนั้นแตะริมฝีปากหนาๆของเขา
    เด็กบ้าคนนี้ทำอะไร สัมผัสปล่อยนิ้วลากบนริมฝีปากเขาไปมา ด้วยกิริยาปกติ มิได้โลมเลียม มิได้จาบจ้วงอย่างปรารถนาทางเพศ เหมือนแค่บอกกล่าวบางอย่าง

    “ปากนี้ คืนนั้นข้าได้สัมผัส”

    นะดีมและราอูลมีอันพากันตาค้าง มูเลาะห์เอ่ยถามเบาๆ

    “ท่านองครักษ์ นังเด็กมอมแมมนั่นบังอาจมากที่แตะต้องหน้าท่านชีค”

    ท่านชีคหนุ่มเป็นที่ยำเกรง เคารพนับถือของคนทุกคนเสมอมา ไม่มีใครกล้าจะสัมผัสแม้กระทั่งตัวของท่านชีค ไม่กล้าสัมผัสมือ หากว่าชีคหนุ่มไม่เป็นฝ่ายอนุญาต แต่เด็กมอมแมมคนนี้ยืนประจันหน้าในระยะใกล้แล้วยังกล้ายื่นมือไปสัมผัสดวงหน้า กำลังแตะที่ริมฝีปากของชีคหนุ่ม

    แน่ละ รอม์ฮิมก็แทบจะไม่เชื่อสิ่งที่เจ้าเด็กขอทานผู้ช่วยชีวิตกระทำกับเขา

    “ริมฝีปากเจ้าหนามาก...มันไม่ได้หนาจนดูน่าเกลียด แต่มันหนากว่าปากคนที่ข้าเคยรู้จัก...ปากเจ้าดูแปลกตาสำหรับข้า เป็นอย่างมาก” เธอเอ่ย....

    เธอไม่เหมือนท่านหญิงมาซะห์

    ไม่เหมือนอิซาเบล

    ไม่เหมือนหญิงอื่นที่เขาเคยสัมผัส สัมพันธ์ เธอแสดงออกด้วยท่าทีออกจะซื่อ ไม่ได้แสดงว่าเสน่หาหรือพึงพอใจ แกมประหลาดใจด้วยซ้ำไป

    “ปากเจ้าหนา แต่ดูดี...จะว่าปากสวยก็ว่าได้ มันหนาสวยดี”

    เธอเอ่ยต่อ ซื่อๆไม่มีจริตของสตรี...จนชีคหนุ่มประหลาดใจ หรือโลกของเบดูอินร่อนเร่ในทะเลทรายไม่ได้ทำให้เธอรู้เรื่องของตัวเองดีพอ เรื่องของการเป็นผู้หญิง จริตมารยาที่ปรุงแต่ง...เขาเองนั่นเป็นนักรักผู้เงียบงันไร้ร่องรอย...เขาผ่านพบเชยชมสมสตรีมามาก

    มากกว่าสองคนที่กำลังชิงชัยในตัวเขาอยู่ทุกวันนี้ แต่เขาไม่เคยเจอคำพูดใดที่ฟังแล้วไม่เกิดอารมณ์ว่าคนพูดก็แสดงความรู้สึกทางเพศออกมาที่สำคัญเขาไม่ได้คิดหื่นกับสาวน้อยตรงหน้า

    เธออายุเท่าไหร่กันนะ เขาเดาอายุเธอได้ยาก หน้ามอมแมม ดวงตากลมดำใหญ่...แต่ทว่าเหมือนมีมนต์สะกดเขา

    น่าจะเด็ก ยี่สิบต้นๆ ไม่เกินยี่สิบสอง

    เหมือนเขาเคยเห็น

    ใช่สิ เคยเห็นมาแล้วคืนก่อนโน้น

    “เจ้าเงียบไปทำไม หรือกำลังหาเรื่องปิดบังข้า เจ้าคิดว่าตัวเองฉลาดที่จะปิดบังตัวเองจากข้าหรือ” คำถามแกมเยาะเย้ย “ข้ารู้ทันเจ้านะ เพราะฉะนั้นเจ้าอย่ามาโกหกหรือปิดบังข้าเลยว่าเจ้าไม่ใช่เจ้าโจรที่มากับม้าสวยงามตัวนั้น”

    เธอทำเสียงขู่

    “เจ้าจะเอาอะร” เขาเอ่ยถามออกมา รับรู้กลิ่นไออันตราย หากเจ้าสาวน้อยนี่จะปากโป้งโพนทะนาออกไป

    การเอ่ยว่าเขาคือโจรสายลมย่อมมีแต่อันตราย จะรับมืออย่างไร ให้ตาย...ชีคหนุ่มคิดไม่ออกเอาเสียเลยยามนี้

    “หือ... ว่าไงนะ”

    “เราถามว่าเจ้าต้องการสิ่งใดถึงได้พยายามจะทำให้เราต้องยอมรับว่าเราเป็นคนคนนั้น”

    “คนคนนั้นเป็นโจร”

    “หาใช่เรา”

    “ทำไมเจ้าไม่กล้ารับ”

    “เพราะเราไม่ใช่...เราชื่อรอม์ฮิม”

    “อือ”

    “โจรสายลมคนนั้นมีชื่อหรือไม่”

    เชคีซีรีน ถอยห่างแล้วเอ่ยว่า “เจ้าโกงจริงๆ”

    “เราไม่เคยโกง”

    “เจ้าโกงข้า เพราะเจ้าจะต้องอ้างอย่างนิ้ โจรไม่มีชื่อสิ เพราะต้องปิดบังอำพรางตัวเอง จะบอกชื่อได้อย่างไร”

    “อย่างไร” ชีคหนุ่มเอ่ยถาม “บอกสิว่าเราโกงเจ้าอย่างไร แบบไหนเรียกว่าโกง”

    “การไม่ยอมรับความจริงไม่ดี”

    “เราต้องยอมรับด้วยหรือว่าเราเป็นโจร ในเมื่อเราไม่ได้เป็น เราถามว่าเจ้าโจรนั่นมีชื่อหรือไม่”

    เชคีซีรีนไม่สามารถตอบได้

    “โจรไม่มีชื่อใช่ไหม...แต่เรามีชื่อ เพราะเราไม่ใช่โจร”

    “โกง” เธอย้ำอีกหน

    “เปล่า...เราไม่เคยโกงใคร เราเป็นถึงชีค...”

    เธอแสยะปาก...ริมฝีปากนั้นดูออกว่าเป็นสาวน้อยเอ่าแต่ใจ มุมปากโค้งยกขึ้น...สีแดงระเรื่อ...ด้วยวัยสาว...อือ...น่าจุมพิต...แต่ทว่า...เขาขันตัวเองในใจ เขาจะจูบเด็กมอมแมมได้อย่างไรกัน

    ไม่น่าจูบ หน้ามอมแมมนั่น หากหน้าเขาไปแนบ...กลัวจะติดความมอมแมมกลับมา เมื่อคิดดังนี้เขาจึงหัวเราะออกมาแบบไม่มีเหตุผลทำให้
    ต้องหัวเราะแม้แต่น้อย

    ท่านป้าเคยพูดไว้ว่าหนี้ชีวิตด้วยชีวิต เขาเองก็เคยประกาศว่ากับเด็กมอมแมม เขาไม่มีวันสนใจ

    เขาจำตัวเอง...ที่แวบคิดอยากจูบเด็กมอมแมม ไม่ได้การ ท่านป้าเขาได้ยินคงจะหัวเราะเยาะเป็นแน่แท้

    แล้วชีคหนุ่มก็เอามือไขว้หลัง ทำท่าจะเดินกลับ

    “ท่านขี้ขลาด”

    เสียงเชคีซีรีนไม่เบานัก...และทุกคนรายรอบห่างออกไปแทบจะลืมหายใจเพราะไม่แน่ใจว่าชีคหนุ่มจะเป็นอย่างไร หลังจากคำประณามนั่นดังออกมา ช่างกล้าหาญ...ไม่ได้ยำเกรง ไม่นำพาว่าการประณามจะนำภัยมาให้ตัวเองหรือไม่ สาวน้อยตัวเล็กกับร่างสูงสง่างามของท่านชีค

    เขามองคนเบื้องหน้าชั่วอึดใจ...ก่อนจะดึงเข้ามาปะทะอกตัวเอง...ขู่เข็ญ ดุดัน

    “เด็กน้อยเอย อย่ากล่าวหาเราอีก...เอาละ...เราอาจจะทำให้เจ้าเชื่อว่าเราคือโจรคนนั้น แต่เจ้าจะทำให้เราเดือดร้อน...เอาละเราจะให้แหวนแก่เจ้า”

    เธอดิ้นรนสะบัดตัวออก แล้วเสียงดุเข้ม "อย่าถูกตัวข้าอีก" แต่ก็ยังเอ่ยถามต่อ “แหวนใด”

    เขาชูมือขวาขึ้น...แหวนที่สวมนิ้วชี้วงใหญ่ เป็นพลอยสีเขียวเข้ม มรกตน้ำงาม สะท้อนแสงจะยิ่งเป็นเงางามสวยเพราะการเจียระไนเหลี่ยมนั้นละเอียดมาก...

    มรกตรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังนูน หน้าคัทเรียบ...อาจจะงามในสายตาคนมากมาย อาจจะมีคนปรารถนาอยากได้ แต่สำหรับเธอ เชคีซีรีนมองอย่างเฉยเมยเป็นอันมาก เธอไม่ได้ต้องการสิ่งนี้เลย เพราะเธอมีมากกว่ามรกต เธอมีเพชรแม้จะยังมิได้เจียระไนให้มีเหลี่ยมมุมงดงาม
    แต่ก็เป็นของเล่นที่เธอคุ้นเคย เธอมีมากพอจะไม่ตื่นเต้น อีกทั้งเธอไม่เคยมองว่านี่คือเครื่องประดับแบบหนึ่ง

    เธอจึงเอ่ยถาม“เพื่ออะไร”

    “ปิดปากเจ้า”

    มีเสียงเหมือนแค่นหัวเราะจากเธอ...หญิงสาววัยเยาว์ตัวน้อย...เธอเด็กมาก เขามองเห็นเธอในระยะใกล้เพราะยังกอดเธออยู่

    “แหวนมรกตไม่เพียงพอหรอกหรือ เจ้ารู้จักมรกตหรือไม่...”

    เธอมองดูสิ่งที่เขาเรียกว่ามรกต เขียวเข้ม ยิ่งกว่าใบไม้ทุกใบที่เคยเห็นจากอัล นาจาห์

    “เคย” เธอย้ำเสียงหนัก “แค่ก้อนหิน...”

    แต่เธอก็ตะครุบคว้าเอาไว้

    “ไหนว่าไม่อยากได้”

    “เจ้าจะปิดปากข้าเพราะมรกตนี่หรือ”

    “ใช่ อย่าเรียกเราว่าโจรสายลมอีก”

    “เพราะเหตุใด”

    “เพราะเรามีชื่อ...แต่โจรนั่นไม่มีชื่อ” เขาพยายามจะบอกเธอให้เข้าใจว่าคนดีที่ไม่ใช่โจรเท่านั้นพึงมีชื่อ แต่คนไม่ดี เป็นโจรหาได้มีชื่อเรียกขาน

    “ข้าตั้งชื่อให้เจ้าด้วยได้นะ...”

    “เรามีชื่อ” ชีคหนุ่มย้ำเสียงหนัก “เราชื่อรอม์ฮิม”

    “รู้แล้ว ไม่ต้องบอกข้าอีกก็ได้ แล้วเจ้าตะโกนใส่หน้าข้าอย่างนี้ หูข้าจะอื้อไปอีกนาน”

    เธอรับแหวนมรกตนั่นไปแล้ว

    “แต่ข้าไม่เคยรับของใครโดยไม่มีสิ่งตอบแทน”

    เธอเอ่ยหน้าตาเฉย ล้วงมือลงไปในถุงที่ห้อยไว้กับเอวในเสื้อตัวยาว...แล้วส่งให้กับเขา

    “ของเล่นของข้า” เธอบอก

    ชีคหนุ่มมองของเล่นกลางมือนั้น เพชร เป็นก้อน...ยังไม่ได้ผ่านการตกแต่ง แต่เป็นเพชรแน่นอน เขารู้จักเพชรดิบ...เขาสนใจพวกอัญมณีมาช้านาน

    นั่นคือก้อนเพชร

    “ของเล่นของข้า” เสียงบอกความลำพอง “แค่ก้อนหิน”

    “เพชรนะ ไม่ใช่ก้อนหิน”

    “ก้อนหิน ข้ามีเป็นของเล่น” ก่อนเธอจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเอ่ยแกมรำพึงกับตัวเอง “ข้าบอกเจ้าทำไม เจ้าเป็นโจร เดี๋ยวเจ้าก็จะปล้นข้า”

    “ไม่หรอก...เราไม่ปล้นเจ้า”

    “นั่นคือวาจาสัตย์หรือไม่”

    “ใช่”

    “ข้าจะถือว่าเจ้าให้สัญญากับข้าแล้ว”

    “สัญญาใด”

    “จะไม่ปล้นของของข้า”

    “ก็แค่ของเล่น...ข้าจะปล้นเจ้าไปไยกัน”

    แปลกนัก...ชีคหนุ่มรำพึง ทำไมเขาจะต้องต่อปากต่อคำกับเจ้าสาวน้อยคนนี้...สาวน้อยมอมแมมแต่ทำให้เขาต้องพูดมาก

    ปกติ...เขาไม่ได้เป็นคนที่ช่างจำนรรจาเพียงนี้ หรือเพราะว่าที่ผ่านมา หาคนที่จะยืนต่อว่าเขาฉอดๆ แบบนี้ไม่ได้มาก่อน ดูว่าสาวน้อยมอมแมมจะมิได้รับรู้ถึงศักดิ์แห่งเขา...การเป็นชีคไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะเขาไม่รู้ว่าเธอคือ “เชคี” ศักดิ์แห่งเธอเท่ากับเขาแต่เธอไม่ยอมเปิดเผยศักดิ์นั้น

    พ่อแม่กำชับก่อนมา...

    ...หากไม่เจอน้าเจ้า ไม่เจออัสม์ อย่าเปิดเผยตัวเองว่าคือใคร มาจากไหน จะมีอันตรายกับตัวเจ้าเองนะ ซีรีน...

    เธอได้เห็นโลกภายนอกอัล นาจาห์แล้ว ได้กลิ่นอันตรายอันท่วมท้นแล้ว ผู้คน สิ่งแปลกๆ ดูสับสนวุ่นวาย...และเธอรู้ว่าจะวางใจใครไม่ได้โดยง่าย แต่เจ้าโจรสายลมตรงหน้าเธอนี่ช่างท้าทายให้เธอนึกอยากจะเข้าใกล้เขา ทำความรู้จักเขา

    “เจ้าอยากให้ข้าปิดปากหรือ” เธอเอ่ยถามหลังจากต่างเงียบกันไป “ทำไมไม่ตอบ”

    “เราจะเชื่อใจเจ้าได้แค่ไหน”

    “เชื่อได้เสมอ” คำตอบรับหนักแน่น “ข้าเป็นคนรักษาคำพูดตัวเอง”

    “อย่างนั้นหรือ” ชีคหนุ่มทอดเสียงอ้อยอิ่ง เอ่ยเบาๆ พอได้ยินกันแค่สองคน “ตอนนี้เจ้าเชื่อว่าเราคือโจรสายลมหรือ”

    “หากไม่ใช่ สายตาข้าคงจะแย่มาก ที่มองคนผิด เจ้ารู้ไหมว่าสายตาข้าดีแค่ไหนโดยเฉพาะในยามค่ำคืน” เธอเอ่ยเหมือนโอ้อวด “ข้ามีดวงตาที่เหมือนนกฮูก”

    เขาหัวเราะ เหมือนเยาะอีกหน และเหมือนนึกสนุก...

    ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนบอกว่าดวงตาตัวเองเหมือนนกฮูก สาวสวยอยากมีดวงตาเหมือนกวาง...เหมือนเม็ดอัลมอนด์...เหมือนเพชร ที่สุกใส เหมือนดวงดาว...เขาเคยได้ยินสาวสวยที่เขาแนบชิดแต่ละคนเอ่ยอ้างความงามของดวงตาเฉกเช่นนั้นนี่เป็นคนแรก...ดวงตาเหมือนนกฮูก เขามองดวงตากลมโตนั้น...แล้วพลันส่ายหน้า

    “ดวงตาเจ้ายังเล็กกว่านกฮูกมากนัก”

    “ข้าจะบอกว่าตาข้าในความมืด คมและฉับไวเหมือนนกฮูกตะหาก”

    “อูว์...ไยเจ้าคิดเช่นนั้น...ในยามค่ำคืนหรือ”

    “ในความมืด...ความสลัว แสงน้อยๆ ข้าจะมองเห็นทุกอย่างได้ดี แม่นยำ”

    “เหมือนนกฮูกหรือ”

    “ใช่”

    “เจ้าเอาอะไรคิด”

    “ข้าไม่ต้องคิด เพราะข้าเป็นเช่นนั้น ข้าเป็นนกฮูก”

    คราวนี้ชีคหนุ่มลืมตัวเขาหัวเราะดังกว่าเดิมอีกหลายเท่า “เจ้าคิดว่าเราอายุสิบขวบหรือ อือ...เจ้าชื่ออะไรนะ”

    “ซีรีน” คำตอบเรียบๆ “ไม่ใช่นังหนู”

    “ซีรีน...?” เสียงทวนถาม

    “ใช่...ชื่อข้า...ข้ามีชื่อ”

    “เพราะฉะนั้นเจ้าไม่เป็นโจร”

    เธอหัวเราะ “เอาคำข้ามาย้อนข้าทำไม...เจ้าโจร...”

    “จุ๊ๆ เราชื่อรอม์ฮิมไง” เขาย้ำบอก “เรามาทำความตกลงกันให้ละเอียดนะ ซีรีน”

    เขาเอ่ยออกมาหลังจากนิ่งคิดแล้วว่าเขาควรจะผูกไมตรีกับเจ้าเด็กมอมแมมคนนี้เพื่อตัวเขาเองจะไม่อันตราย การจะเดินทางมาของอัลและอับดุลลาก่อนกำหนด ทำให้เขานึกกังวล ชีคหนุ่มมีจมูกไว ได้กลิ่นไม่ชอบมาพากล และเขาเองก็ประกอบการไม่ดีเอาไว้ เขาเป็นโจรสายลมตัวจริง หากความเปิดเผยออกไป ไม่เพียงแต่เขาจะกลายเป็นผู้ต้องหาสากลข้ามชาติ ข้ามรัฐแต่บูราไบจะพลอยเสียหายไปด้วย

    ไหนจะพระเทวี...พระมารดาของเขาเอง...ชีครอม์ฮิมบอกว่าจะต้องปกป้องเรื่องนี้ให้เต็มที่

    “เรากำลังจะจัดงาน และเราไม่อยากให้เรื่องเจ้าโจรสายลมแพร่ไป”

    เขากำลังต่อรองหรือไม่ ชีคหนุ่มถามตัวเอง เหมือนเขากำลังต่อรองกับเด็กมอมแมมคนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น

    “ทำไมต้องช่วยเจ้า”

    นั่นสิ...ไม่ใช่เพราะมรกต

    “หรือเพราะแหวนมรกตของเจ้า...ที่ให้ข้า แต่ข้าก็ตอบแทนท่านด้วยก้อนหินสีขาวของข้าที่ใหญ่กว่ามรกตของเจ้า”

    “แหวนเรา จากนิ้วมือเรา จากการที่เราดถอดให้เจ้าเอง แทนสัจจะวาจา ว่าเราจะตอบแทนความดีของเจ้า”

    “การไม่พูดเป็นการทำดีหรือ”

    “ใช่ ทำดีอย่างยิ่ง”

    “อือ...”

    “ทำดีต่อเรา”

    ดวงตาที่เจ้าตัวบอกว่าเหมือนดวงตานกฮูก มีรอยฉงน “ทำไมต้องทำดีต่อเจ้า” มีความฉงนสงสัย “เจ้าดูจะมั่นใจว่าข้าต้องทำดีเพื่อเจ้า”

    “เพื่อเห็นแก่เรา...อีกสักครั้ง นอกเหนือจากที่เคยทำมาก่อน”

    เขาเลี่ยงไม่ยอมรับว่าเธอเคยช่วยเขา แต่เธอรับฟังพอเข้าใจ ผู้ชายคนนี้ซ่อนอะไรเอาไว้

    โจรที่อำพรางซ่อนเร้นตัวเอง หรือเพราะเขาเป็นชีค เขาต้องปิดบังตัวเองเอาไว้ให้ผู้คนรู้ไม่ได้...ว่าเป็นใคร มีเรื่องราวในครอบครัว เรื่องแม่ เรื่องน้าสาว ที่เคยต้องหลบซ่อนตัวเอง

    เชคีอัสมา น้าสาวต้องอยู่ในสภาพผู้ชายเพื่อปกป้องมิให้ใครรู้ความอ่อนแอ การเป็นเพศหญิงอาจจะโดนรังแกมีภัย เพราะพระบิดาก็อ่อนแอนัก และยังต้องคอยพิทักษ์เชคีมารีอาห์ที่ถูกสาปให้เป็นครึ่งคนครึ่งนกให้พ้นภัย

    เพราะเหตุนี้เชคีซีรีนจึงนิ่งได้มากกว่าชีคหนุ่มคิด

    “เรากำลังจะมีแขกบ้านแขกเมือง มีงานมงคล ทุกอย่างคงจะวุ่นวายสักนิด เจ้าน่าจะได้รับปากกับเรา”

    “ตอบข้าอีกข้อ”

    “ว่ามา...”

    “เจ้าเป็นชีคแน่หรือ และเป็นคนดีหรือไม่”

    “นั่นมากกว่าหนึ่งนะ นั่นเป็นสองข้อแล้วนะ” เขาติง

    “ตอบข้ามาก่อน”

    “เราเป็นชีคแห่งบูราไบ และเราเป็นคนดี”

    ดวงตาของเชคีซีรีนมีรอยครุ่นคิดเป็นอันมากก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นยื่นหน้ามากระซิบเบาๆ

    “และเป็นโจรด้วย...จุ๊ๆ” เธอทำเสียงห้ามปรามเลียนแบบเขาบ้างก่อนเขาจะเอ่ยขัด “ข้าจะเชื่อเจ้าสักหน...ปิดปากตัวเองไว้ก่อน ดูทีหรือว่าเจ้าจะมีอะไรปิดบังข้าอีก...ตอนนี้เจ้าไม่อยากยอมรับว่าเป็นโจร ข้าจะไม่ขัดใจเจ้าเลย”

    ชีคหนุ่มทำท่าพอใจ แล้วนึกได้บางประการ ฉวยแขนเอาไว้ก่อนเธอจะเดินจากไป

    “เจ้าพักที่ใด”

    “ก็พักแถวริมทะเลสาบบ้าง ย้ายไปในเมืองบ้าง”

    “เอาอย่างนี้...เจ้าเป็นหญิง มอมแมมร่อนเร่อยู่ข้างนอกนี่เราว่าไม่ดีนัก “

    “แล้วอย่างไร”

    “เราจะหาที่พักให้เจ้า”

    “หือ...ว่าอย่างไรนะ”

    “บางทีเจ้าควรจะได้รับการอาบน้ำและดูแล กินอาหารดีๆ”

    เธอแหงนหน้าหัวเราะ “ช่างป็นคนใจดีจัง ข้าไปกินอาหารที่โรงทานพรุ่งนี้ก็ได้....ข้าเห็นโรงทานใหญ่โตมากมายทั่วเมือง...มีคนเล่าว่าอาหารการกินจะมีเหลือเฟือ ทั้งกินและเก็บตุนไปได้ทั่ว ข้าจะต้องเดินทางไปอีกไกล”

    “เดินทางไปไหน”

    “ข้ามาตามหาคนคนหนึ่ง”

    “ใคร...เจ้าตามหาใคร”

    แต่เชคีซีรีนไม่ยอมตอบ ชีคหนุ่มจึงเรียกราอูลมาหา

    “พาซีรีนและเพื่อนของเธอไปหาป้าของเรา บอกท่านป้าว่าเราต้องการให้ดูแลคนพวกนี้เป็นพิเศษ ในฐานะเพื่อนของเรา”

    สาวน้อยหัวเราะเสียงกังวาน

    “เพื่อนท่านชีค...อา...ข้าได้เป็นเพื่อนท่านชีคแห่งบูราไบแล้วหรือนี่...”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×