ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชีคชาห์มา

    ลำดับตอนที่ #8 : 8

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 51


     

    ชีคชาห์มา  8                       อาริตา

    ยาที่ได้รับอ่อนฤทธิ์ลง และไม่ได้มีการเพิ่มยาให้ใหม่แต่ผลข้างเคียงของยาทำให้เธออาการไม่ค่อยดี และตอนเธอรู้ตัวเป็นช่วงค่ำของบ้านเมืองอื่นที่ไม่ใช่เวลาของบ้านเกิดเมืองนอน  เธอรู้สึกตัวว่าเหมือนกำลังผิดเวลาตอนที่ได้สติแล้วเห็นแสงไฟ...

    มันค่ำแล้วหรือ นาฬิกาเวลาในตัวเธอยังไม่ได้บอกว่านี่คือกลางคืน....ยังเป็นเวลากลางวันแน่นอน...เสียงค้านนี้มันมาจากข้างใน

    เธอปิดตาลง...แสงจ้าเกินไปหรือไม่ 

    นั่นไม่ใช่แสงไฟ  มิลานบอกตัวเองเช่นนั้น เมื่อลืมตาอีกหน แสงไฟอยู่รอบตัวเธอไปหมด เธอคงต้องยอมรับความจริงที่ค้านกับสิ่งที่เธอคิด

    ผิดเวลา

    และตามติดมา คือผิดที่ เธอยังหนักและมึนศีรษะ ยังมึนงง ครั้นผวาขึ้นมาก็ต้องทิ้งศีรษะลงตามเดิมอีกหนเพราะมันทั้งหนักและเหมือนมีอะไรอยู่ในนั้น...ทำให้มึนงง

    คราวนี้เธอนอนนิ่งๆ แต่ลองขยับที่ข้อเท้า

    เอ๊ะ...มิลานร้องอุทานเบาๆ...แต่ทำไม...เธอแทบไม่ได้ยินเสียงตัวเอง  คำว่า...เอ๊ะ  กลายเป็นเสียงในคอ....มันไม่ได้ดังผ่านหู นอกจากได้ยินในใจ

    เธอขยับริมฝีปาก ...มันปิด

    เหมือนโดนปิดด้วยอะไรบางอย่าง เธอยกแขน แต่ก็พบว่ายกไม่ขึ้น เหมือนโดนรั้งเอาไว้....ตรงข้อมือทั้งซ้ายและขวา เธอออกกายแรงๆ

    ได้ยินเสียงพูดด้วยภาษาที่เธอฟังแล้วไม่เข้าใจ  ก่อนจะได้เห็นว่ามีดวงหน้าหนึ่งชะโงกมาเหนือดวงหน้าเธอ

    คนแปลกหน้าอีกแล้ว ดวงหน้าที่เป็นรูปเรียวแต่เป็นดวงหน้าบุรุษแน่นอน เขาไม่หนุ่มแล้ว  มีผ้าโพกศีรษะ ขับดวงหน้าเรียวให้เน้นชัด เขาคงเป็นคนผอมแน่ๆ เพราะดูจากดวงหน้า  ดวงตาคมเขียนขอบตาชัดเจน...ขอบตาล่างทำให้ดวงตาใหญ่  ขนตาหนาเหมือนขนคิ้วดกดำ...  จมูกโด่งแหลม ริมฝีปากบาง  แต่ทว่าดูรวมๆแล้ว เขาดูเหมือนไม่ใช่บุรุษ ออกจะเหมือนอิสตรีมากกว่า แต่เสียงของเขาก็เป็นเสียงของบุรุษ

    มิส...ฟื้นแล้ว

    ภาษาอังกฤษสำเนียงแปร่งแปลก...กระท่อนกระแท่น

    เธออยากตอบ  แต่เธอยังตอบไม่ได้ เสียงเธอถูกปิดกั้นด้วยแผ่นเทปเหนียว...

    เธอทำท่าบุ้ยใบ้ให้เอาออกไป  ญาวี้ดลังเล

    กลัวเธอจะหวีดร้อง นี่เป็นเรือนหลังเล็กที่อยู่ด้านข้างของตำหนักซอฟิฮาห์ เรือนพักส่วนตัวของเขาคนเดียว  และเขาจะต้องแยกเอามิลานจากเรือนที่ใช้ฝึกพวกนางนกที่ถูกส่งเข้ามา  หาได้กล้าพาเธอไปอยู่ปะปนรวมกันที่นั่น

    ตอนนี้ท่านชีคไม่ได้อยู่ที่ตำหนักกลาง 

    เอาละ...จะยอมให้เธอได้พูด

    เขาเอ่ยตะกุกตะกัก  เอ่ยขออภัย   ขอโทษครับผม  มิส...เจ็บสักนิด

    เขาคุกเข่าลง...คนรักของท่านชีค  แม้จะทำให้ท่านชีคผิดหวัง แต่ถือเป็นคนสำคัญ ยิ่งท่านชีคยังมีอาการเหมือนพ่ายรักเจ็บช้ำจนเยียวยายากเย็น

    เขาไม่อยากทำให้เธอไม่พอใจหรือเธอเจ็บ

    นี่ก็แย่พอแล้ว เมื่อสุไลมานพาเธอมาส่งให้และกำชับว่าจะต้องทำอย่างไร

    ตามรับสั่งของพระมารดา ....พาตัวเธอมาจากอเมริกา  ฝึกเธอให้เป็นนางนก ส่งให้ท่านชีคได้สำราญใจ

    ญาวี้ดพร่ำคำขอโทษซ้ำๆ ก่อนจะดึงเอาเทปผ้านั่นออกไป

    มิลานกระตุกขึ้นร้องวี้ด...มันจี๊ดจนแขนขากระตุกอย่างแรง

    นี่หากไม่ได้โดนมัดเอาไว้  ญาวี้ดเชื่อว่าเขาคงจะโดนมือนั้นตวัดใส่หน้าไปแล้ว

    เธอมองไปรอบ ขยับตัวอีกหนก่อนจะส่งเสียงออกมา

    ที่ไหน...มัดฉันทำไม

    เธอถามเสียงรัวเร็ว...หายใจหอบแรงเพราะเหนื่อยกับการจะพาตัวเองให้พ้นจากพันธนาการให้จงได้  แต่เธอทำไม่ได้ แม้แต่จะยกเท้าขึ้นก็ยังไม่ได้  เพราะข้อเท้าก็เหมือนจะผูกมัดตรึงเอาไว้ เธออยู่ในท่านอนหงาย แต่ขยับพลิกซ้ายขวาได้  เหมือนที่ผืนผ้าเลื่อนไหลจากตัวเธอลงไปที่พื้น  มีผู้หญิงช่วยเอาผ้าผืนนั้นมาห่มคลุมเอาไว้ดังเดิม

    จะบ้าหรือ  ร้อนๆ  ห่มผ้าให้ฉันทำไม

    เธอโดนพาตัวมาจากหน้าที่พัก...เธอจำได้แล้ว  เธอกำลังจะไปทำงานตอนเช้า...กำหนดนัดหมายของงานช่างมากมาย เป็นวันอันยุ่งเหยิงที่คิวนัดของเธอในเครื่องพีดีเอ บอกเตือนหลายสิ่งที่ต้องทำ  วันทั้งวันที่เต็มไปด้วยงาน การนัดพบ...และการนัดกับแองเจลิน่าและจามิล...แต่ที่นี่เวลาใด...เธอถูกพามาที่ใด คนแปลกหน้า แต่งตัวแบบพวก...

    เธอครางออกมา   ทะเลทรายที่ใด  ดินแดนใดกันนี่

    เธอไม่ได้อยู่เฉย  บุรุษที่มีดวงหน้าและท่าทางเหมือนสตรี พยายามยิ้มให้กับเธอ แต่เธอกลับขึงหน้าใส่

    ได้โปรด  มิส  พลีส....ขอร้องละนะ ขอให้อยู่ในความสงบ

    บ้าซิ ...มิลานร้องในใจ  ใครจะสงบได้....คงจะยากนัก

    ไม่... เธอปฏิเสธ  บอกมาที่ไหน  พาฉันมาที่ไหน  นี่คือ การลักพาตัวที่จะมีโทษสูงสุด

    จุ๊ๆ  มิส  เราไม่ได้ลักพาตัว

    จะบ้ากันแน่ๆ  พาตัวฉันมาโดยที่ฉันไม่เต็มใจ พวกเธอเรียกสิ่งนี้ว่าอะไร

    แล้วยามใดที่ประโยคของเธอยาวนัก เธอได้เห็นว่าสีหน้าคนฟังจะดูยุ่งยากลำบากใจ

    เธอพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้  แม้จะยากเย็น  ยิ่งรู้สึกแย่ๆ เพราะเธออยู่ในสภาพที่เหมือนอ่อนแอกว่าจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ทำให้เธอปั่นป่วนไปหมด  มิลานรู้จักตัวเองดีพอว่าการที่เธอเป็นเบี้ยล่างเช่นนี้ยั่วยุให้เธอตบะแตกได้ง่ายๆ และหากเป็นเช่นนี้คนใกล้ชิดเธอทุกคนจะรู้กันได้ดีว่าเธอจะเป็นอย่างไร

    เธอจะเหมือนระเบิดรุนแรง  อานุภาพการทำลายล้างค่อนข้างจะสูง  นี่รอก่อนเถิด รอให้เธอลุกได้ก่อนเถิด  แล้วพ้นจากพันธนาการนี้ คนพวกนี้จะชะตาขาด...

    เธอโกรธ...เธอถูกทำร้าย

    และเธอรู้ถึงตัวการ

    ชีคคนนั้น

    ชีคชาห์มา!

    เธอพยายามพูดช้าลง เน้นเสียงช้าๆ

    ลักพาตัว แล้วยังปฏิเสธ คนไม่ดี

    เท่านั้นไม่พอ เธอเปล่งเสียงเรียกชื่อท่านชีค

    ไปบอกเขา...เรียกเขามา  คนร้ายกาจคนนั้น  ชาห์มา

    ญาวี้ดสะดุ้ง  เฉกเช่นเดียวกับสตรีอีกสี่คนในห้องนี้ที่ถูกเกณฑ์มารับใช้ เพราะที่นี่...ตำหนักพักผ่อนส่วนตัวของเจ้านายหนุ่ม  ท่านชีค...ใครเลยจะกล้าเอ่ยชื่อท่านชีคเฉยๆ คำเดียว

    ชาห์มา

    ซุ่มเสียงของมิลานช่างกล้า...มั่นใจที่จะกล่าวโทษและคิดว่ามีความผิด

    จริงไหม

    เธอถามต่อเสียงเกรี้ยวโกรธ

    ฉันพูดถูกต้องไหม

    ญาวี้ดทำท่าอึกอัก

    ทำไมเขาไม่กล้าเสนอหน้ามาให้ฉันเห็น

    ญาวี้ดเงียบ

    เขาดีแต่รังแกผู้หญิง...ผู้ชายแบบไหน...คอยดูนะจะให้ลากคอเข้าคุก

    ก่อนเธอจะนึกได้

    ...คุกที่ไหนกันเล่า  มิลาน  นี่ที่ไหนกัน ...

    เธอจำไม่ได้ว่าแจ๊กเกอลีนเคยเรียกดินแดนแห่งนี้ว่าอย่างไร

    นึกโมโหตัวเองอย่างมากว่าทำไมไม่จดจำเอาไว้บ้าง หรือจะเป็นเพราะว่านามนั้นเธอไม่เคยคิดว่าจะต้องถูกลักพาจากบ้านเกิดเมืองนอนมาไกลถึงที่นี่

    ดินแดนทะเลทราย โลกที่แจ๊กเกอลีนเพิ่งจะวิ่งหนี...และแจ๊กเกอลีนหนีไปได้แล้ว  แต่เธอกลับมาที่นี่แทน

    ท่านชีคไม่ควรจะถูกกล่าวโทษเช่นนั้นนะครับผม

    ญาวี้ดเอ่ยอย่างสุภาพ แต่ดวงตาของมิลานจ้าจัดอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง

    ไม่ควรหรือ  เขาเป็นใคร  ที่จะรอดพ้นจากความผิดอันร้ายแรงนี้   ผู้ชายที่ลักพาตัวผู้หญิงมา...แล้วดูสิ่งที่ทำกับฉัน

    เธอพูดเร็วอีกแล้ว

    พลีส....มิส ช้าๆ

    ปล่อยฉันซิ

    โอ...ยังปล่อยไม่ได้

    ทำไม....ทำไมถึงปล่อยฉันไม่ได้

    เพราะมิสยังดื้อ

    ดื้อ...โอย...จะบ้าตาย...ทำก้บฉันขนาดนี้แล้วยังกล่าวหาฉั้นอีกหรือว่าฉันดื้อ...พวกเธอเป็นใคร  ไม่เอาด้วยแล้ว ไม่เข้าท่า  มิลานทำหน้างอ บึ้งตึงใส่   ไปเรียกนายพวกเธอมาดีกว่า บอกเขาอย่าขี้ขลาด

    คือ...คือ...ท่านชีคไม่รู้เรื่อง

    ไม่รู้เรื่อง?

    ครับผม มิส

    จะให้ฉันเชื่อหรือ

    ครับผม

    คิดว่าฉันควรเชื่อหรือไร

    ได้โปรดเชื่อ

    ปล่อยฉัน

    มิสหิวไหม  ญาวี้ดถามไปอีกทาง

    ไม่กิน...ฉันจะไม่กินและไม่ทำอะไรเลย หากไม่ไปตามนายของเธอมา

    คงยังไม่ได้นะ มิส...

    ทำไม...หากเขากล้ารังแกฉัน  ทำไมเขาไม่กล้าจะมาเผชิญหน้ากับฉัน

    ยังไม่ถึงเวลาครับผม

    เวลาอะไร

    เวลาที่จะทำให้มิสเชื่อง...เอ้อ...สงบ

    มิลานแผดเสียงวี้ด  แล้วทั้งๆที่โดนมัดอยู่นั้น  เธอก็ยังกรีดร้องได้...สตรีนางหนึ่งวิ่งถลาเข้ามา

    ท่านชีคกลับมาแล้ว

    เสียงรายงานนั่นมิลานฟังไม่ออก แต่เมื่อเทปผ้าหนาเหนียวนั่นปิดปากเธออีกหน ทำให้เธอตระหนักว่าเสียงร้องของเธออาจจะทำให้คนบางคนได้ยิน...คนบางคนที่เธอคาดเอาไว้ว่าน่าจะเป็นท่านชีคตัวร้าย

    โอ...เขาร้ายกาจ..เลวร้าย..

    คนอะไร...ทำแต่ละอย่างเลวร้ายได้มากเหลือเกิน

    อย่างแรกคือเขาส่งถาดทองรอยเลือดของเท้าเขาไปให้ดูต่างหน้า...และอย่างต่อมา...เขาจับเธอเข้ากรงนก...แม้จะเป็นในความฝัน...

    กรงนก...เธอผวากายยะเยือก

    มิส ขอโทษ...ที่ทำให้ต้องหยุดส่งเสียง

    เธอดิ้นรน...กลอกตาไปมา

    อย่าส่งเสียงดัง หากมิสทำตัวเป็นสตรี ว่าง่าย  ผมจะให้มิสได้พูด...ได้เจรจา และมิสคงอยากจะพักผ่อน..อาบน้ำ..กินอาหาร...ขอแต่อย่าส่งเสียง

    มิลานนิ่ง...

    หรือจะต้องรับคำ

    เอาตัวรอดเฉพาะหน้าก่อน

    ก็ได้  เธอทำสัญญาณว่าตกลง



          ชาห์มาเพิ่งกลับมาจากทอร์ฮา...ชีคหนุ่มขับรถยนต์รวดเร็วเป็นทางไกล  รถของเขาเป็นรถที่เครื่องยนต์สมรรถนะสูง บนถนนที่ตัดใหม่ที่จากทอร์ฮาผ่านเมืองเล็กๆอีกสองเมืองมายังเชวู  ถนนของอิบบาห์ เชวูทั้งหมดนั้นเหมือนปูด้วยพรม....เรียบ...วิ่งทำความเร็วได้แบบไม่มีสะดุด

    วิศวกรออกแบบก่อสร้างถนนผ่านทะเลทราย บางทีก็ผ่านเข้าไปในโอเอซิส  ชุมชน ที่เป็นไปตามธรรมชาติและวันนี้อิบบาห์ เชวูเนรมิตโอเอซิสใหม่ และมีการทำเกษตรกรรมเกิดขึ้น  การปลูกพืชพรรณธัญญาหารในเรือนกระจก...คุมอุณหภูมิและการให้น้ำ...อย่างน้อยข้าวปลาอาหาร เป็นเบื้องต้น การนำเข้าอย่างเดียวดูจะไม่เพียงพอ..นอกจากจะขุดน้ำมันขึ้นมาแล้ว  ชีคหนุ่มเห็นด้วยนโยบายทางเกษตรกรรมที่ทำให้ทะเลทรายมีสีเขียว

    การเอาชนะความแห้งแล้ง...ด้วยความมุ่งมั่น เงินทุนที่มีช่วยบันดาลได้

    ฝันเริ่มเป็นจริง..การส่งเสริม สนับสนุน...

    เขาพอใจที่จะได้ขับรถยนต์ผ่านจากทอร์ฮามายังเชวู และเห็นความคืบหน้า...แม้ถนนของอิบบาห์ เชวูจะไม่ได้ทอดผ่านแม่น้ำใหญ่สักสาย...

    มีแต่ทะเลทราย...

    และโครงการผันน้ำทะเลมาทำเป็นน้ำจืดโดยโรงกรองน้ำและผลิตน้ำขนาดมหึมาก็กำลังได้ผล....นอกจากท่อน้ำมันทั่วอิบบาห์เชวู  แล้วยังมีการต่อท่อส่งน้ำ...

    น้ำจืด...จากน้ำเค็ม....การเอาชนะธรรมชาติอีกเช่นกัน 

    เขามีประชุมรัฐมนตรีที่ทอร์ฮา และชีคหนุ่มโปรดปรานความเร็วของรถยนต์มากกว่าเครื่องบิน เพราะเขาได้เห็นพัฒนาการบ้านเมืองของเขาเองด้วย

    ที่จริงเขาโปรดปรานม้าเช่นกัน  ม้าพันธุ์อาราเบียนดีๆ ในคอกม้าส่วนตัวของเขามีอยู่หลายตัว ซึ่งระยะทางจากทอร์ฮาถึงเชวู  มันเกินกำลังม้า

    สู้เครื่องยนต์ของรถดีๆ ไม่ได้

    รถสปอร์ต เปิดประทุนราคาแพง....

    เขาชมชอบอากาศของที่นี่... ออกจะร้อนอบอ้าวไปบ้าง...แต่การสัมผัสกับเรื่องกลางแจ้งเป็นความสุข ความร้อนที่นี่มีความชุ่มชื้นเพราะไอน้ำจากทะเล...และจากทะเลสาบขนาดย่อยที่กระจายอยู่บ้าง ก็พอจะเบาบาง

    รถของเขาจะปิดหมดเพื่อให้ระบบทำความเย็นได้ทำงานเต็มที่ก็ได้  แต่ชีคหนุ่มไม่ได้ทำ เขาชมชอบจะสูดเอาอากาศของอิบบ่าห์ เชวู

    อากาศของบ้านเกิด

    ดินแดนที่เขารัก

    ดินแดนที่เขาภูมิใจ

     

    แผ่นดินถิ่นเกิดกำเนิดข้า

    ชาห์มา...ไม่เคยลืม...ดินแดนแคว้นใหญ่กว้าง

    ในรอยทราย...รอยจำ...คอยนำทาง

    จะขอสร้างความแข็งแกร่งแห่งแผ่นดินตราบสิ้นลม

     

    เขาขับรถมาถึงซอฟิฮาห์ โดยมีสุไลมานนั่งมาด้วย...เมื่อเขาไม่เปิดปากพูด สุไลมานก็ไม่กล้าพูดสิ่งใด...

    เขาจอดรถ ลงจากรถจะเดินขึ้นตำหนักกลาง...เสียงหวีดร้อง  ทำให้เขาชะงัก

    สุไลมานตัวชา

    เสียงอะไร ชีคหนุ่มเอ่ยถาม  นางคนไหน เริ่มทำท่ารัญจวนใจ...

    สุไลมานพยายามคิด และคิด...

    อาจจะเป็นพวกนกนะครับผม

    นางนก? ชีคหนุ่มทวนถาม แล้วหัวเราะหึๆ  โหยหวน น่าสยองขวัญนัก

    ครับผม

    นางไม่เต็มใจหรือไร

    คิดว่าคงไม่นะครับผม

    ทำไมละ

    เอ้อ... สุไลมานตอบไม่ได้  แต่ชาห์มามองอย่างรู้เท่าทัน

    อย่าไปบังคับใครมาเพื่อเรา

    พวกนางซื้อด้วยเงิน

    แล้วเสียงกรีดร้องนั้นเล่า  ชีคหนุ่มเอ่ยถาม ก้าวเท้าเดินไปด้วย เสียงนั้นเงียบหายไปแล้ว

    คิดว่าพวกนางซ้อมเสียง...

    ยังงั้นหรือ  เขาเอ่ยถามแกมเสียงหัวเราะ  แล้วไม่ได้ใส่ใจอะไรอีก 

    สุไลมานเองก็ได้แต่โล่งใจ ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งมากกว่าเดิม   เดินแกมวิ่งตามหลังชีคหนุ่มเข้ามาพร้อมกับเอ่ยถาม

    ท่านจะพักผ่อนเลยหรือไม่  ผมจะจัด...

    ชีคหนุ่มโบกมือไล่ให้ออกไป   เรามีเรื่องส่วนตัวจะต้องคุย

    คุยกับใคร?  ก่อนความกังขาจะหมดไป เพราะมองเห็นเจ้านายเดินไปนั่งและเปิดแล็บท็อป อีกทั้งเครื่องมือสื่อสารบนโต๊ะ ในห้องทำงานของตำหนัก

    ออกไป สุไลมาน  เราไม่อยากให้ใครรบกวน

    เพราะชีคหนุ่มกำลังตามข่าวสำคัญ

    ข่าวการหายไปของมิลาน 

    จามิลแจ้งข่าวกลับมาว่า   เงียบมาก ทุกสิ่งเงียบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  คนที่ออฟฟิศของมิลานได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าเธอจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อพักร้อน

    พักร้อน?

    ใช่

    โทรแจ้งหรือ...

    พนักงานทำท่าปกติ ทั้งที่เราได้ข่าวว่ามีงานรออยู่หลายอย่าง

    ครอบครัวของเธอล่ะ ได้ยินข่าวหรือยัง

    มิลานอยู่กับป้า...และก็รับรู้ว่าหลานสาวไปต่างประเทศ ด้วยภารกิจหน้าที่

    อือ...  เหทือนข้อมูลขัดแย้งกันนะ

    ก็ยังงั้น

    ตำรวจรู้เรื่องไหม

    ไม่มีการแจ้งความ  เพราะไม่ใช่เรื่องคนหาย

    แปลก...คนคนหนึ่งรีบร้อนไปกะทันหัน...

    ชาห์มา...นายห่วงมิลานหรือ

    ก็น่าห่วงนะ  เพราะดูเหมือนจะมีเงื่อนงำ...หรือว่ามีเรื่องส่วนตัว....ความรัก เป็นไปได้ไหมว่าไปกับผู้ชาย

    คุยกับแองเจิ้ลไหม  เพราะแองเจิ้ลจะบอกนายได้ดีกว่าฉัน

    ชาห์มาเลยได้ยินเสียงแองเจลิน่า  สวัสดีค่ะ  ท่านชีค 

    มิลานมีแฟนหรือไม่ครับ

    ไม่มีนะคะ

    ไม่มี...น่าประหลาดใจนัก....ชาห์มารำพึงกับตัวเอง

    มิลานสนใจแต่งาน...มีแต่งานกับงาน  ฉันสังหรณ์ใจนะคะ ท่านชีค ว่าเพื่อนฉันจะโดนลักพาตัว

    ลักพาตัว? ชายหนุ่มทวนถามม   หากเป็นเช่นนั้น หมายความว่าจะมีการเรียกร้องเงินตามมาไหมครับ

    ฉันไม่แน่ใจ

    ผมอยากรู้ว่า...เอ้อ...เธอเป็นคนรวยหรือไม่ครับ

    ไม่รวย...แต่ฐานะดี หน้าตาดี  ท่านชีคก็เห็นมิลานแล้ว  มิลานเป็นคนสวยกระฉับกระเฉง

    เธอมีศัตรูหรือไม่ครับ

    ไม่มีนะคะ แน่ใจว่าไม่มีแน่นอน ในหน้าที่การงานก็ไม่มี  ส่วนตัวก็ไม่น่าจะมี...ฉันร้อนใจมากเลยนะคะ  ครั้นจะไปแจ้งความก็ไม่แน่ใจว่าจะรับแจ้งไหม จะเท่ากับกระพือเรื่องนี้ไปไหม ในเมื่อครอบครัวและเพื่อนร่วมงานของเธอเชื่อกันว่าเธอลาพักร้อน...ก็คิดว่าจะตามจามิลไปคอนเสิร์ตก่อน แล้วคอยฟังว่าหากเป็นการลักพาตัวจะมีการเรียกร้องเงินหรือมีข้อต่อรองอะไรมาบ้าง

    มีอะไรบอกผมด้วยนะครับ แองเจิ้ล

    ค่ะ ท่านชีค ขอบคุณที่ห่วงใยเพื่อนของดิฉัน

    นั้นซิ เขาไปห่วงใยมิลานทำไม....

    ชีคหนุ่มลุกจากเก้าอี้  เดินไปยังช่องกระจกใสๆ ที่มองออกไปเห็นทะเล...และเห็นเรือนด้านข้างที่ญาวี้ดพำนัก...

    นั่นอะไร...

    ชีคหนุ่มส่ายศีรษะ ทำท่าอ่อนใจ

    ก็ที่เห็น...คือกำลังมีการอุ้มผู้หญิงคนหนึ่งไปตามทางของระเบียงเรือนหลังนั้น

    นางนกตัวนั้นท่าจะพยศจริงหนอ...ตะกี้ก็กรีดเสียงร้อง นี่ก็เห็นช่วยหามหัวหามท้าย...จะพาไปไหนกันนั่น

    เขาคิดว่านางนกจะกรีดเสียงร้อง  ครั้นจะเปิดช่องกระจกไปทักถามก็ช้าไป  เสียงนั้นหายไปแล้ว  และภาพก็หายลับไป

    ชาห์มาเลยไม่ได้ติดใจอะไรอีก

    เสียงที่ชีคหนุ่มไม่ได้ยินก็คือเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ เป็นภาษาอังกฤษ

    “help me”

    เท่านั้นไม่พอ  ยังมีอีกประโยค

    “Sharmah  damn  you,   go  to   hell!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×