ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชีคชาห์มา

    ลำดับตอนที่ #7 : 7

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 51


     

    ชีคชาห์มา7

     มิลานกลับถึงที่พัก  เธอยังหวั่นไหวระทึกขวัญกับการเผชิญหน้าชีคชาห์มา  คืนนี้ที่เธอขึ้นเวทีคอนเสิร์ตระดับคนดูเป็นจำนวนมากเต็มฮอลล์ที่จามิลเปิดการแสดง เธอควรจะตื่นเต้นกับเรื่องนั้นมากกว่าจะเป็นเรื่องที่เจอกับชีคโหดร้ายป่าเถื่อนคนนั้น

    ตอนนี้กลับเป็นว่าการออกไปยืนร้องเพลงได้รับความสำเร็จชั่ววูบกลายเป็นเรื่องไร้ความหมายไปเลย  เธออ้อยอิ่งนอนแช่ตัวในอ่างน้ำปล่อยความคิดล่องลอยไปยังเขา

              ชีคชาห์มา

              เขาเป็นหนุ่มรูปงาม  คงจะไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยหากว่าจะมองว่าเขาเป็นคนรูปชั่ว...

              รูปร่างดี หน้าตาดี และคงรวยล้น...เธอเพิ่งเข้าใจว่าทำไมแจ๊กเกอลีนยังอาลัยอาวรณ์ อยากจะตัดแต่เหมือนจะตัดไม่ขาด   เธอได้โทรคุยกับแจ๊กเกอลีนแล้ว  ญาติสาวผู้พี่อยู่ไกลถึงประเทศไทย  เวลาต่างกันถึงสิบสองชั่วโมง แต่นั่นไม่เป็นอุปสรรคในการพูดคุยกันแม้แต่น้อย  และการคุยพบว่าแจ๊กเกอลีนยังมีเยื่อใยกับชีคหนุ่มอย่างไม่มีวันตัดขาด  แม้เจ้าตัวจะพยายามพาตัวเองห่างไป  และมีคนใหม่มาแทนที่...แต่มิลานก็รู้ได้จากอารมณ์แบบผู้หญิง

              รักครั้งเก่า ความทรงจำเก่าๆ ต่อให้ไกลแสนไกลก็ยากที่จะหาเยียวยา หาใครมาทดแทน

              เพราะในความจริงไม่มีใครแทนใครได้

              คนคนหนึ่งก็อีกแบบหนึ่ง อีกคนก็อีกแบบหนึ่งเสมอ 

              การจะหาคนแทนย่อมไม่ถูกต้อง

              แต่หากจะมีคนใหม่แล้วขุดหลุมฝังคนเก่าเอาไว้น่าจะดีสุด

              น้องเจอเขา  เธอบอกกล่าวกับญาติผู้พี่ 

              เจอใคร...

    “ชีคคนนั้นไงคะ ชีคชาห์มา

              อะไรนะ  มิลาน เธอเจอเขาอีกแล้วหรือ

              ค่ะ  พี่แจ๊กกี้

              เธอเล่ารายละเอียดว่าเจอเขาที่ไหน...

              ชาห์มาชอบเสียงเพลง เขาเป็นคนอารมณ์สุนทรีมากนัก

              หรือคะ  น้องกลับเห็นแต่ความกระด้าง  หยาบคายของเขา อย่างเช่น...ที่เขาส่ง... แต่พลันคิดได้ว่าเธอจะบอกเล่าเรื่องนั้นไม่ได้เป็นอันขาด  เธอเลยเสเอ่ยไปว่า   ที่เขาประณามพี่แจ๊กกี้ก็ร้ายกาจเกินพอนะคะ

              แต่แจ๊กเกอลีนไม่ได้เอะใจอันใด นอกจากเอ่ยเสียงแห้ง  พี่ยังคิดเขา ตัดเขาไม่ขาด

              ทำไมล่ะคะ...

              ถ้าจะพูดถึง เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ  มิลาน  ไม่ได้ผิดต่อพี่  เพียงแต่พี่ผิดต่อเขา  พี่ไม่สามารถไปใช้ชีวิตกับเขาที่ดินแดนทะเลทรายได้ ไม่ว่าเขาจะอ้างอย่างไร  พี่เกิดกลัวชีวิตวันข้างหน้า ที่พี่ไม่รู้ว่าพี่จะต้องมีกรอบล้อมตัวเองอย่างไรในเรื่องเชื้อชาติศาสนา...แต่เมื่อเราเลือกเดินมาไกลแล้ว เราถอยหลังกลับไปไม่ได้  ทุกวันนี้หากพี่ว่างอยู่กับตัวเองครั้งไหนๆ เขาจะเข้ามาในความคิดของพี่เสมอ  พี่ตัดเขาไปจากใจไม่ได้

              มิลานย่นจมูกกับตัวเอง...

            ...พี่แจ๊กกี้เอ๋ย ไม่รู้อะไรเสียแล้ว...
    .         นี่หากบอกเรื่องถาดทองพร้อมกับรอยเท้าเปื้อนเลือดที่เขาส่งมาให้ดูเล่น  พี่สาวจะเป็นอย่างไร

              “เขาดีกับเธอไหม  มิลาน

              เขาลุกยืนตบมือให้น้องคนแรกนะคะ

              เขาคงชอบเสียงของเธอ

              หวังว่าอย่างนั้น แต่ดูท่าเขาวางตัวเย่อหยิ่งมาก

              ไม่หรอก  มิลาน....หากได้สัมผัสตัวตนจริงๆ ของเขาแล้ว เธอจะรักเขา

              รัก?

              “ใช่ ผู้หญิงทุกคนรักแพราะเขาเป็นคนน่ารักมาก  รักและลุ่มหลง

              “พี่แจ๊กกี้ยังเอาตัวรอดมาได้แล้ว  น้องคิดว่าน้องคงไม่ตกหลุมรักเขาหรือลุ่มหลงเขา

              อาจจะเป็นไปได้เพราะเธอเข้มแข็งกว่าพี่ 

              มิลานไม่ได้เอ่ยอะไรอีก เพราะรู้ว่าหากพูดไปจะทำให้แจ๊กเกอลีนไขว้เขว  เมื่อพี่สาวเดินไปจากชีวิตของชีคชาห์มาได้แล้ว เธอไม่ควรจะดึงเอาแจ๊กเกอลีนกลับมาอีก

              เธอแช่ตัวในอ่างน้ำพอให้สบาย  แล้วเมื่อลุกขึ้นมา  เธออดจะเอากล่องกำมะหยี่ที่เก็บเอาถาดทองนั่นมาดูไม่ได้

              รอยเลือดติดเป็นรอยแห้งกรัง   เธอไม่ได้สัมผัสแตะต้องรอยนั้น นอกจากมองดูนิ่งๆ  บอกตัวเองไม่ถูกว่ากำลังคิดสิ่งใด...ทำไมเหมือนใกล้กันนัก ทั้งที่ควรจะไกล  เธอยังคิดถึงความฝัน

              ปริศนากรงนก

              มันหมายความอย่างไร

              แค่คิดก็เหน็บหนางร้าวรานไปหมดแล้ว...เธอไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรอีกต่อไป  เธอพยายามวางเรื่องนี้ลงและไม่คิดถึงมันอีก...หากแต่ว่าเช้าวันต่อมา เมื่อเธอพร้อมจะออกจากบ้านไปยังออฟฟิศของเธอ  นาทีที่เธอกำลังไขกุญแจรถ  มิลานได้สัมผัสถึงใครบางคนที่ย่องมาจู่โจมมาจากเบื้องหลัง  ประชิดติดตัว  พอรู้สึกถึงภยันตรายก็สายเสียแล้ว เธอได้กลิ่นที่ชวนวิงเวียน...กึ่งหอมกึ่งฉุน...กลิ่นนั้นสัมผัสทางจมูก แล้วหลังจากนั่นเธอก็ไม่ได้สติอีกเลย...มันเป็นเหมือนกลิ่นที่ได้รับในห้องผ่าตัด...รวดเร็วและทำให้หลับลึก แต่ก่อนจะหมดสติไปนั้นเธอพยายามจะสะบัดตัว....รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังเจอภัย

              มันน่าจะเป็นการลักพาตัวมากกว่าการจี้ปล้น

              ใคร...ทำไม

              แล้วเธอก็ไม่รู้สติอีกเลย



           
    ท่านทูตการีมพาร่างสูงในชุดสีขาวกรอมเท้ามีผ้าโพกศีรษะและสายรัดคาดเข้ามาในห้อง  เพราะตัวท่านทูตการีมมีเชื้อสายของราชวงศ์ แต่ไม่ใช่พระราชวงศ์แถวหน้า  ตัวท่านทูตมีสีหน้าวิตกกังวลเป็นอันมาก  ตอนที่มายืนดูหญิงสาวที่นอนทอดร่างหมดสติอยู่บนเตียงพักในห้องรับรองของสถานทูต...แน่นอนว่าท่านทูตย่อมวิตก เพราะหมายถึงการลักพาตัว

              ฉันรู้แล้วว่านี่เป็นคำสั่งของพระมารดา แต่ประหลาดนัก...พระนางมิใช่คนที่จะกระทำเรื่องราวเยี่ยงนี้      ท่านทูตการีมเอ่ย

              แม่ทุกคนย่อมรักลูกของตัว  สุไลมานให้คำตอบนอบน้อม  ผมคงไม่กล้าจะทำอะไรเลย หากไม่มีรับสั่งลงมา

              แน่นอน  ว่ามันเสี่ยง  แต่เอาละ...จะพาตัวกลับไปเลยใช่ไหม

              ท่านชีคจะกลับอิบบาห์ เชวู วันนี้

              แล้วจะพาตัวไปอย่างไร

              ผมกำลังคิด เพราะว่าจะให้ท่านชีคท่านทราบก่อนไม่ได้

              เครื่องบินจะออกกี่โมงนะ  ท่านทูตการีมเอ่ยถาม 

              ครั้นได้รับคำตอบก็เอ่ยต่อว่า   จะต้องพาเธอไปขึ้นเครื่องก่อนเวลาท่านชีคจะถึงเครื่องบิน

              ครับผม  กำลังจะพาเธอไป...

              นี่ฉันก็ต้องร่วมแผนการนี้ด้วยซินะ

              เจ้าหญิงพระมารดามีรับสั่งส่วนพระองค์กับท่านแล้วไม่ใช่หรือ

              ฉันเลยอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างไรนี้เล่า  ท่านทูตการีมลงเสียงหนัก  “ว่าแต่ทำไมต้องทำเรื่องเยี่ยงนี้ด้วย การลักพาตัว

              เพราะเธอหักอกท่านชีค

              หักอก?

              ครับผม  เสียงตอบรับนุ่มนวลยิ่ง   และเธอทำให้ท่านชีคมีชีวิตไม่เป็นปกติสุข  จนเจ้าหญิงพระมารดาทรงรับรู้ไม่ได้

              เธอสวยนะ  ท่านทูตการีมก้มลงมอง...มิลานที่บัดนี้นอนทอดกายนิ่งหลับตา  มีจังหวะการหายใจที่สะท้อนผ่านผ้าคลุม...เพราะท่านทูตและสุไลมานขอให้ปฏิบัติต่อเธออย่างดี...แม้จะเป็นการลักพาตัว แต่พวกเขาก็ยังให้เกียรติสตรี...ด้วยรู้ว่านี่คือผู้หญิงที่ชีคชาห์มามีจิตปฏิพัทธ์ 

    เธอนอนทอดกายโดยมีผ้าแพรสีแดงคลุมทั้งตัวตั้งแต่คอไปถึงปลายเท้ามิดชิด ด้วยสตรีนั้นไม่ควรจะนอนทอดร่างให้ผู้ชายแปลกหน้าหรือคนอื่นได้เห็นสรีระอื่นแม้จะมีเสื้อผ้าสวมปกคลุมกาย

    โดยเฉพาะว่านี่คือสตรีคนพิเศษของคนเป็นเจ้านาย

              ดวงหน้าที่สงบนิ่งนั้นไม่เกินคำที่ออกจากปากท่านทุตการีม

              สวย...แม้จะดวงตาจะไม่ได้เปิดออกมอง  เรือนผมสีแดงยาวนั้นแผ่กระจายล้อมดวงหน้าและวางอยู่บนหมอน

              รีบเอาตัวไปขึ้นเครื่อง

              ได้เลยครับผม  จะรีบจัดการให้พร้อมก่อนท่านชีคจะขึ้นเครื่อง

              “หาทางหลบพาตัวไปให้ดี...

              ผมหาที่ท้ายเครื่อง...ที่นอนสบายๆ...

    “อย่าให้ท่านชีคได้พบเธอก่อนจะถึงอิบบาห์ เวชวู  เจ้าหญิงพระมารดารับสั่งมาเช่นนั้น

    “ครับผม สุไลมานรับคำ ไม่ได้บอกต่อให้ท่านทูตตกใจว่า เธอจะต้องถูกส่งไปฝึกหัดก่อน

    ฝึกหัดเต้นรำ ร้องเพลงเป็นนางนก...

    รีบไป อย่ารอช้า”

    สุไลมานไม่กล้าถูกตัวเธออีก เมื่อตอนเช้าที่เขาไปพาตัวเธอมาจากหน้าที่พักนั้น...เขาไม่ได้ย่องไปคนเดียว  แต่เขาได้พาสตรีเชื้อชาติเดียวกันตามไปด้วยไปช่วยกันพาเธอมา  พวกนางทั้งสองคนคือผู้ช่วยที่เขาเอาตัวมาจากอิบบาห์ เชวูด้วยกัน...ตอนพาพวกนางขึ้นเครื่องมาด้วยนั่น ยังจำได้ว่าท่านชีคเจ้านายมองแล้วแย้มยิ้มขันๆ ยังสัพยอกว่า

    ...คนใหม่หรือ  ยังอยู่ห่างไม่ได้ซิ  แค่ตามเราไปวันสองวัน  ยังต้องพาพวกนางมากอดนอนด้วย...

    ชีคหนุ่มมีความเข้าใจเสียเช่นนั้น  ก็นับว่าดี...เขาให้พวกนางช่วยกันมาเข้ามาประคองพามิลานลุกขึ้น  แล้วพาไปจากที่นี่   กลับไปยังเครื่องบิน ที่เที่ยวบินขากลับ  ท่านทูตการีมบอกอย่างร้อนใจว่า

    ...เรากำลังทำผิดกฎหมาย...

    สุไลมานก็รู้เรื่องกฎหมาย...

    การลักพาตัวไม่ใช่เรื่องถูกต้องมันผิดกฎหมายรุนแรงด้วย อีกทั้งไม่รู้ว่าการลักพาตัวนี้คือการพาไปกักขังในเวลานานแค่ไหนอย่างไร  หากมีการข่มเหงทางเพศ...

    แม้จะไม่สบายใจ แต่สุไลมานรู้ว่าเขาต้องทำตามคำสั่ง...มันจะต้องเป็นไปตามนั้นโดยเขาไม่อาจจะไปคัดค้านอะไรได้ 

    ฉันยังจะต้องจัดการเรื่องทางนี้  อย่างน้อยก็ไม่ให้การหายตัวไปของผู้หญิงคนนี้เป็นเรื่องอื้อฉาว

    ครับผม...

    สุไลมานพามิลานมาขึ้นเครื่อง...ได้เพียงสิบนาที  ชีคชาห์มาก็มาถึงพร้อมกับเลื่อนกำหนดการบินกลับอิบบาห์ เชวู

    ชีคหนุ่มมองดูท่าทีตกใจของคนสนิท  เป็นอะไร สุไลมาน ทำไมหน้าชีด  ทำท่าเหมือนทำอะไรผิดอยู่อย่างนั้น

    เปล่าครับผม เปล่า...แต่ท่านจะเลื่อนเดินทางไวขึ้นหรือครับผม

    ใช่  ให้นักบินรายงานไปยังหอบังคับการบิน เรื่องจะเอาเครื่องบินขึ้นก่อนเวลา

    ครับผม

    ชีคหนุ่มมองดูท่าทีลุกลี้ลุกลนของคนสนิท

    แปลก พึมพำกับตัวเอง และก้าวขึ้นเครื่องที่บัดนี้นักบินและผู้ช่วยตลอดจนสาวๆ ที่คอยบริการพร้อมอยู่แล้ว 

    แต่ชาห์มาไม่ได้สนใจและไม่รู้สักนิดว่าท้ายเครื่องนั่นมีมิลานนอนหลับอยู่ด้วย...สุไลมานพาเธอมาซ่อนตัวไว้ด้านท้ายเครื่องด้วยการรู้เห็นเป็นใจของนักบิน  แต่จะเรียกว่ารู้เห็นเป็นใจนั้นก็ไม่ได้ถูกต้องเสียทีเดียว  เพราะว่าจำยอม  เมื่อสุไลมานบอกว่านี่เป็นคำสั่งของเจ้าหญิงลาล่าห์   มีหรือทุกคนจะกล้าหือ...ทุกคนได้แต่ปิดปากเงียบ

    ชาห์มาทอดกายลงเหยียดยาวไปข้างหน้า เอนหลังพิงลงกับพนักเก้าอี้ปรับในระดับสี่สิบห้าองศา  สาวๆ นำเอาเครื่องดื่มเย็นมาให้...ชีคหนุ่มหลับตาลง....มีบางเรื่องราวติดค้างมาจากการประชุม  แต่นั่นก็ยังอยู่ระหว่างกระทำการเพื่อแก้ไขให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น

    แต่ที่ติดค้างมากกว่านั้น   คือผู้หญิงคนนั้น

    มิลาน..

    กับบทเพลงของเธอ

    MEASURE OF LOVE

    ว่าแต่เธอเคยมีความรักหรือเปล่านะ  เขาอยากรู้ข้อนี้มากกว่า  จามิลบอกว่าเธอเขียนเพลงมาเอง ใส่ทำนองเอง   แต่จามิลเอามาปรับทำนองแล้วเรียบเรียงเสียงประสานให้ใหม่  เป็นเพลงที่นุ่ม และประทับใจมาก เขาชอบเพลงนั้น...และเขาก็คิดว่าเป็นเพลงที่น่าได้รับการผลักดันให้เป็นสักแทรคหนึ่งในอัลบั้มของจามิล...

    จามิลก็บอกว่าเป็นไปได้  และเขาก็คิดว่าจะสั่งซื้อจำนวนมาก...จะอุดหนุน

    จามิลยังคิดว่าจะพามิลานออกตระเวนเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต  หากมีโอกาสเขาจะตามไปเปิดการแสดงกับการออกทัวร์...ชีคหนุ่มบอกตัวเองขณะยกแก้วเครื่องดื่มสีเหลืองขึ้นดื่ม  รสชาติเย็นฉ่ำและซ่า...มันผ่านแวบในปากผ่านลำคอไปยังช่องท้อง  ชีคหนุ่มหลับตาลง  เขาคิดว่าเขาเคลิ้มไป จนเครื่องทะยานขึ้น...ก่อนหน้านั้นรู้สึกถึงมือที่อ้อมมารอบตัวคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับเขา  เครื่องกำลังทะยานขึ้นไปบนฟ้า  แล้วเขาก็ได้ยินเสียงเอะอะมาจากหลังเครื่อง

    ชีคหนุ่มลืมตา...เอ่ยถาม  เสียงอะไร  เอะอะอะไรกันข้างหลัง

    เขาไม่ได้เห็นภาพที่มิลานงัวเงียลุกขึ้นมา....เธอได้สติแล้ว และแม้ว่าจะมีเข็มขัดนิรภัยรัดตัวอยู่ เธอก็ยังตะกายจะลุก....หน้าตาเธอยังดูอิดโรย งุนงงเพราะฤทธิ์ยาสลบ

    เธอถามเสียงแผ่วๆ แหบโหยมาก่อน  ที่ไหน”

    ไม่มีใครตอบเธอได้ และมิลานก้มลงมอง...ทำไมเธอผูกมัด...อาการมึนงงในศีรษะก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว มันมาพร้อมกับอาการผะอืดผะอม...สักพักหนึ่งจากประสบการณ์ที่มีทำให้เธอรู้ว่าเธออยู่บนเครื่องบินที่ทะยานขึ้นจากพื้น...

    เครื่องบิน...ไปไหน  เธอจะไปทำงาน...เธอไม่มีกำหนดขึ้นเครื่องบินไปไหนด้วย

    หูเธออื้อยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่ๆ ดวงหน้าที่เห็นนั้นก็ล้วนแล้วแต่ไม่คุ้นเคย...

    ชายหญิง...คนแปลกหน้า

    แต่เอ๊ะ...หน้าตาคนนั้น...เธอเขม้นมอง ทบทวนความจำของตัวเอง ก่อนจะจำได้เพราะเธอเป็นคนความจำดีมาก เธอจำได้ว่าผู้ชายคนนี้ถือเอาของฝากจากท่านชีคมาให้แจ๊กเกอลีน  เธอเจอเขาที่นี่ มันน่าประหลาดใจเสียนัก

    “ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เธอเอ่ยถาม ไม่มีใครให้คำตอบเธอเลย

    ทุกคนเงียบ

    บอกฉันนะ แล้วนี่ที่ไหน...บนเครื่องบินหรือ

    เธอพยายามจะปลดเข็มขัดออก  แต่สุไลมานให้คนของเขามายึดเอาไว้แล้วพยายามทำให้เธอสงบ แต่เธอไม่ยอม เธอเริ่มโวยวาย แผดเสียงร้อง คนของเขาเอาไม่อยู่อีกแน่ๆ สุไลมานก็ถลาไปเอ่ยขออภัยเสียก่อน

    ขอประทานโทษครับผม

    เพราะเขาต้องแตะต้องตัวเธอ ทั้งที่ไม่อยากทำ...สุไลมานไม่อยากสัมผัสตัวของผู้หญิงของเจ้านาย

    มันไม่ดี...แต่เขาจะให้เธอร้องดังๆ และโวยวายไม่ได้ เครื่องบินส่วนตัวลำไม่ได้ใหญ่มาก...แม้จะห่างกันระหว่างหัวเครื่องกับท้ายเครื่องก็ตามที

    เขาปิดปากเธอ  แล้วออกเสียงห้าม

    มิส  ได้โปรด  อยู่นิ่งๆ

    เธอนิ่งไปพักหนึ่งพอให้เขาเบาใจ จนเขากล้าพอจะคลายมือออก แล้วจะเปิดการเจรจากับเธอ  แต่เธอก็เอะอะโวยวายอีกหน  จังหวะเดียวกับที่เขาเพิ่งยอมให้คนของเขาเอาเข็ดขัดคาดตัวเธอออก  เธอร้องโวย  เธอถลาลุกขึ้น  เขาตกใจเข้าไปปิดปากเธออีกหน คราวนี้มิลานที่ได้สติเต็มที่แล้วก็งับมือของสุไลมานอย่างแรง เธอไม่ปล่อยมือเขา สุไลมานร้องลั่นเพราะความเจ็บแต่เขาก็ไม่กล้าจัดการทำร้ายเธอเพื่อให้เธอปล่อยเขาเป็นอิสระ  แต่ก็ยังถูกเธอฝังคมฟันและเขี้ยวไว้แน่น....

    เขานิ่งไป เสียงนี่ไปถึงหัวเครื่อง ที่ชีคหนุ่มมีคำถามเอ่ยถาม

    สุไลมานบอกกับสองสาว  ช่วยกันเอาตัวเธอไปพ้นจากข้า  เจ็บนะ...

    สองสาวพากันดึงเธอออกไป  แล้วสุไลมานก็รับผ้าผืนหนึ่งมา ไม่ทันได้ดูว่าเป็นอะไร...เขาเอาใส่ปากมิลาน

    ถุงเท้าของท่านชีค!

    ถุงเท้าสีดำ

    มิลานตาเหลือก ดิ้นอึกอัก  แต่ร้องไม่ออก  เพราะถุงเท้าถูกม้วนเป็นก้อนกลมใส่ลงไปในปาก

    มัดเธอไว้

    ตัวสุไลมานวิ่งถลาไปตามลำเครื่องที่ตั้งตรงบินในทางเรียบหลังจากไต่เพดานบินได้ระดับ  เขามานั่งหายใจหอบๆ ตรงหน้าชีคหนุ่ม

    เสียงเอะอะอันใด

    สุไลมานกลอกตาไปมา

    เอ้า....อ้าปากงับอากาศหายใจแล้วหรือนั่น

    เหนื่อยครับผม

    ผู้หญิงของเจ้าทุบตี ทะเลาะเบาะแว้งกันใช่ไหม

    ใช่ครับผม

    เราได้ยินเสียงกรีดร้อง  ชาห์มาส่ายหน้าไปมา  พวกนางมีฤทธิ์เสมอ  แค่คนเดียวก็เกินพอ  นี่เจ้ามีมาตั้งสองคน

    เมื่อนายหนุ่มเข้าใจเสียอย่างนั้น  ก็ย่อมได้...

    เราขอเตือนนะ  สุไลมาน ผู้หญิง หากให้พวกนางมีอำนาจเหนือเรา  นางจะเข้ามาครอบงำเรา

    ครับผม

    สุไลมานก้มหน้าลงและชีคหนุ่มมิเอ่ยข้อความใดด้วยอีกนอกจากหลับตาลงตามเดิม  เขารีบลุกมาจัดการกับมิลานที่บัดนี้โดนมัดไว้แน่นหนา มัดมือ มัดเท้า ปิดปาก

    ถุงเท้าในปากนั้นทำให้เธอดูน่าสงสาร  เขาจึงดึงออกแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าม้วนเข้าไปแทน

    ก็ผ้าเช็ดหน้าท่านชีค

    สีหน้าของมิลานบอกความโกรธสุดขีด  เธอยังเอ่ยได้ข้อความได้แท้จะไม่ชัด

    พวกแกจะทำอะไรฉัน...คอยดูนะ คอยดู  พวกแกกำลังลักพาตัวฉัน...คนเลว

    เธอไม่รู้ว่าเธอจะเจอกับอะไร

    แต่kidnap ย่อมไม่ใช่เรื่องดี

    มีคนเดียวที่เธอรู้ว่าน่าจะอยู่เบื้องหลัง

    นายพวกแก  เจ้าชีคใจร้าย....ชีคชาห์มา

    สุไลมานเอ่ยขออภัยอีกหน  แล้วก็ขอยามาโปะให้เธอหมดสติไปอีก  แต่ยาคราวนี้ปริมาณน้อยกว่าคราวแรก

    ขออภัยจริงๆ  มิส  มันเป็นทางเลือกเดียว

    ผ้าเช็ดหน้าถูกเอาออกจากปาก ตัวเธออ่อนระทวย

    และเธอก็ดำดิ่งในความมืดอีกนานแสนนาน และถูกพาไกลห่างจากบ้านไปทุกที

     

    ไม่มีฝันอันใดในความมืด

    ระยะทางทอดยืดยาว...การก้าวผ่าน

    วันข้างหน้าน่ากลัว...สลัวนาน

    อยากกลับบ้านคืนรังหวังรำไร


     

    เครื่องบินลงแตะสนามบินที่เชวูแล้ว  เครื่องแท๊กซี่ไปอย่างนุ่มนวลและชีคหนุ่มก็พร้อมจะลงจากเครื่อง  ก้าวเดินกระฉับกระเฉงเป็นอันมาก และโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

    สายจากจามิล...

    เขางงๆ จามิลติดต่อเขาไปทำไมกัน

    เขาเดินไป คุยไป 

    มีการลักพาตัวมิลานนะ ชาห์มา

    นั่นคือสิ่งที่เขาได้ยิน...ชีคหนุ่มตกใจเป็อันมาก

    ลักพาตัว

    ใช่ จามิลย้ำ  “kidnap กันตอนเช้า..ไร้ร่องรอย ทุกคนปิดปากเงียบกันหมด

    ทุกคน?  หมายความว่าอย่างไร

    ทางการไม่พร้อมชี้แจงข่าวนี้  และยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นการลักพาตัวหรือไม่ เจ้าหน้าที่อ้างว่ายังไม่ครบยี่สิบสี่ชั่วโมง...แต่เป็นเรื่องซุบซิบกันที่บริษัทของเธอว่าเธอโดนลักพาตัว แองเจิ้ลก็ร้อนใจ

    ก่อนจะออกแสดงทัวร์หรือ  เกิดอะไรขึ้น เธอโดนทำร้ายหรือไม่

    เราก็กำลังรอเช็ดข่าวอยู่

    เสียงบอกมา  และชีคหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก เขานึกขันกับภาพที่กวาดตามองเห็น

    นั่นผู้หญิงของสุไลมานถึงกับถูกหามลงจากเครื่องหรือ....เขารู้ว่าต้องเป็นสตรี  ตัวอ่อนตัวพับให้หามลงมามีผ้าพันตัวเอาไว้  พวกนางคงทำร้ายกันถึงขั้นจะต้องแยกจากกันให้คนหนึ่งถูกหาม...เขาไม่ทันมองว่ามีคนติดตามไปอีกสอง

    และเขาก็ได้เห็นเส้นผมรุ่ยร่ายตกลงมาจากหญิงที่โดนหาม

    เส้นผมสีแดง!

    อ่ะนะ...สุไลมานนิยมนางต่างด้าวเช่นกันหรือ สตรีผมแดง...หากไม่ย้อมสีผมก็พวกนางต่างชาติ

    เขาไม่ฉุกใจคิดสักนิดว่านั่นคือมิลาน

    เธอถูกหามพาไปต่อหน้าต่อตา...โดยที่คนสั่งให้หามลงจากเครื่องก็ใจระทึก

    แต่เหมือนการกะเก็งสถานการณ์...

    สุไลมานย่อมหายใจโล่งเมื่อท่านชีคเจ้านายมิได้เอ่ยอะไรออกมาเลย

    ไม่รู้ว่าเขากำลังหมกมุ่นกับการหายตัวไปของมิลาน

    จามิล  ให้ช่วยอะไร บอกมาได้นะ

    ฉันนึกอยู่แล้ว  ชาห์มา ว่านายจะต้องเดือดร้อนใจ....แล้วจะส่งข่าวมาอีก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×