คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 5
ชีคชาห์มา 5
เจ้าแม่เสด็จกลับไปแล้ว แน่ละ ชีคหนุ่มรู้ดีว่าเจ้าหญิงพระมารดาไม่พอพระทัยกับสิ่งที่มาพบเจอ สิ่งที่เขากระทำ ไม่เห็นด้วย แต่ทว่ายังขัดเขาไม่ได้ เขารู้ว่านับจากนี้ทุกทางที่ทรงทำได้ เจ้าหญิงลาล่าห์จะกระทำเพื่อให้เขาเลิกเลี้ยงนก
ชีคหนุ่มยักไหล่เล็กน้อย ไม่ใช่เพราะเขาไม่นับถือพระมารดา แต่เขาไม่ได้เป็นเด็กที่เธอจะมาควบคุมให้เขาอยู่ในกรอบที่เธอปรารถนา...เขาพอใจกับสิ่งที่เขาได้เลือก เพราะเขาไม่ได้เลือกโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองก่อน...
เมื่อเขาอยากเลี้ยงนก...เมื่อเขาคิดว่าอิสตรีสวยงามทั้งหลายไม่ต่างจากนกที่เขาหาซื้อได้ด้วยเงินมาเลี้ยงดู และ “เล่น” ไม่ได้จริงจัง มันก็เป็นไปตามนั้น
ชีคหนุ่มถือความพอใจของตัวเองเป็นใหญ่ แต่จริงๆ แล้วเขารู้ เขาเท่าทันตัวเองว่าเขาชดเชยเยียวยาให้กับตัวเอง
มีอย่างเดียวที่เขาไม่ได้ทำ คือการแก้แค้น
เขาไม่ได้แตะต้องแจ๊กเกอลีน ไฟเลอร์
โทษผิดของหล่อนคือ ทำร้ายเขาโดยที่หล่อนเจตนา
เมื่ออีโก้อันสูงส่งของเขาถูกแตะต้องและทำร้าย...นั่นทำให้เขาเซซวนและเจ็บปวด...มันเจ็บ...มันเสียหน้าเสียใจ และเขาเยียวยาอาการตัวเองด้วยการทำในสิ่งที่จะทำให้ตัวเองเจ็บปวดน้อยลง
แต่เขาไม่ได้ไปฉุดหล่อนมาเป็นนกในกรงทอง
แต่แจ๊กเกอลีนไร้ค่าเกินกว่าจะเป็นนกน้อยๆ ของเขาได้อีก
เขาจะไม่แตะต้องหล่อน...เขาส่งหล่อนลงนรกไปแล้ว
หล่อนยังร้ายกาจ...ขนาดด่าเขาแล้ว...หล่อนยังกล้ามารยาจะโทรหาเขาออดอ้อนทำนองว่าหล่อนยังไม่หมดใจ...แต่หล่อนจำต้องเลิกรา หล่อนสงสารเขา เวทนาเขา...ข้อนี้เกินกว่าเขาจะรับได้ คนอย่างเขาไม่เคยต้องการความสงสารหรือเวทนาจากใคร
เขารับไม่ได้หากแจ๊กเกอลีนจะเหลียวแลเขาเพราะเหตุนั้น
เขาหรือ...รัก...ใคร่..เสน่หา ปรารถนา...ทุกสิ่งในตัวหล่อนที่เขาเคยได้เสพ เคยได้สมในความรู้สึกมันรวมกันทุกอย่าง...มิอาจจะให้เป็นเรื่องผ่านเลยไป เขาจึงขอหล่อนแต่งงาน หวังใจว่าหล่อนจะมามีชีวิตอยู่ในอิบบาห์ เชวู เฉกเช่นผู้หญิงของเขา หล่อนจะยินดีเป็นสตรีในอิบบาห์ เชวู อยู่กับเขา เขาจะสถาปนาหล่อนเป็นเจ้าหญิง เปลี่ยนศาสนามาเป็นเช่นเดียวกับเขา...
ชีวิตในอิบบาห์ เชวู สำหรับสตรีอาจจะมีบ้างที่ต้องอยู่เบื้องหลัง และอยู่ในคำสั่งของผู้ชาย แต่ชีคหนุ่มรู้ว่ามันไม่ใช่ชีวิตเลวร้าย
เจ้าหญิงพระมารดา เจ้าหญิงพี่ๆ พระญาติผู้หญิงองค์อื่นๆ หรือแม้แต่เจ้าหญิงของบ้านเพื่อนเมืองมิตรรายรอบในเวิ้งอ่าวนี้ก็ล้วนแล้วแต่มีความสุข สหายของเขา...เจ้าชายอิบราฮิม อัลแมนโซก็มีพระชายาเป็นนางต่างชาติเช่นกัน แม้เขาจะไม่ได้สนิทสนมกับเธอ...แต่เธอคือพระชายาที่อัลรักอย่างเทิดทูนและเธอเป็นว่าที่พระราชินีในวันหน้าของอารูก้าอย่างสง่างาม นั่นเพราะเธอปรับตัวได้
เรเนียสูงส่งกว่าแจ๊กเกอลีนในภูมิหลัง เรเนียเป็นลูกสาวเศรษฐี เป็นนักธุรกิจสาว เคยเป็นนักกีฬายิงปืน เป็นนางแบบระดับสตาร์ เป็นผู้หญิงคนดัง ก่อนจะยอมทิ้งชื่อเสียงความโด่งดังทุกอย่างมาเพื่ออารูก้า แม้จะมีคำแย้งอย่างที่รู้ว่าเรเนียมีสายเลือดทะเลทรายในตัวเองบ้าง
แต่เรเนียก็ยังทำได้
แจ๊กเกอลีนไม่ได้มีศักดิ์เท่าเรเนีย ก็แค่หญิงสาวแสนงามคนหนึ่ง เร้าใจ..ทำให้เขามีความสุขและเขาคิดว่าหล่อนหัวอ่อนเพียงพอจะรับหล่อนมาอยู่ที่อิบบาห์ เชวูได้อย่างเปี่ยมสุข ให้ความรัก ให้ความไยดี แต่ทว่าหล่อนไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขาเหมือนของเล่นของหล่อนเพราะหล่อนตอบปฏิเสธไปกับชายอื่น ทิ้งเขาไว้กับความผิดหวัง
ผิดหวัง..ยังร้ายลึก
สำนึก ด้านชา พาป่วนปั่น
ที่เธอทำยิ่งกว่าฆ่ากัน
ฟาดฟันความทะนงแหลกลงไป
เขาจะต้องเยียวยาตัวเองให้ได้
เรียกเอาศักดิ์ศรีตัวเองคืนมาให้ได้...ชีคหนุ่มสัญญากับตัวเอง วิธีการของเขาอาจจะทำให้พระมารดาห่วงใย
...เจ้าแม่ ขอเวลากระหม่อมสักระยะ...
ชีคหนุ่มทูลอยู่ในใจ...และเขาก็ได้พบกับนกสาวคนแรก
สุไลมานกับญาวี้ดร่วมมือกัน ได้นกสาวที่เขาต้องการ...นางนกตัวเพรียวผิวขาวนวล...เจ้าหล่อนน้อมตัวลงทำความเคารพ แล้วช้อนตาขี้นมองเขา แววตาหยาดเยิ้ม...หล่อนถูกสั่งให้คุกเข่าลงเบื้องหน้า...ชายหนุ่มทอดตามองลงต่ำ สบดวงตาฉ่ำเป็นเงา...ชีคหนุ่มยิ้มหยันกับความหยาดเยิ้มที่ได้เห็น นางน่าจะต้องการให้เขาสัมผัสจับต้องให้เขาเชยชม
เขาเพียงแต่วางมือที่มีนิ้วยาวเรียว นิ้วสวยของเขาที่ประกอบกันเป็นมือเรียวยาว...มือของคนที่ใครต่อใครว่าเป็นมือของคนมีชีวิตที่ดี...มีความสมบูรณ์พร้อม....มือนั้นวางบนเส้นผมสีแดง...
เขาคีบมันขึ้นมาปอยหนึ่งก่อนจะปล่อยลง “ย้อมไหม”
สุไลมานทำท่าอ้ำอึ้งอึกอัก
“บอกมาตามจริง” เขาบอกเสียงเรียบ
“ย้อมครับ”
เขาปล่อยปอยผมนั่นลง...ถอนใจเบาๆ..แล้วเลื่อนมือจากบนศีรษะนางนกตัวนั้นที่ปลายคาง ดันคางแหลมๆ นั้นด้วยนิ้วมือให้ดวงหน้าแหงนเงยขึ้น....ดวงหน้าสวย...แต่ความสวยไม่มีผลอะไรกับเขาเลย ไม่มีกระทั่งความปรารถนาที่เขาแน่ใจว่าความหยาดเยิ้มในดวงตานั้นเพียงแต่เขาเรียกร้องสักนิด นางก็พร้อมจะตอบสนองอย่างเร่าร้อนรุนแรงแน่นอน
แต่...ยังก่อน
เขาดันคางนางให้แหงนหน้าเงยสบตากับเขาเช่นนั้น ก่อนจะยิ้มมุมปาก
“พร้อมจะเป็นนกของเราหรือไม่”
“ค่ะ”
“ลองร้องเพลง”
“ได้ค่ะ”
“นางชื่อ...” สุไลมานจะรายงานขานชื่อ
ชีคหนุ่มหันขวับมา ดวงตาจ้า เสียงกระด้าง “เราไม่ต้องการรู้ชื่อนาง”
สุไลมานผวารับคำลนลาน “ครับผม”
“นางจะมีแต่หมายเลข....นางมาคนแรก...หมายเลข1 นกหมายเลขหนึ่ง”
“ครับผม...หมายเลขหนึ่ง”
เขายิ้ม พึงใจ...
“ไล่หมายเลขไป...” เขาสั่งการ เย็นชา...เหมือนโหดร้าย
พวกนางนกนี้ไม่มีความหมาย...พวกนางจะเป็นอะไรได้นอกจากของเล่น...สัตว์เลี้ยง...สัตว์สาวแสนสวยที่เขาไม่อยากให้พวกนางมีชื่อ...เขาจะไม่ตั้งชื่อหรือเอาชื่อพวกนางมาเรียกขาน...จะเรียกเป็นหมายเลข...ไล่กันไป...หนึ่ง...สอง สาม...จะมีนางนกสักเท่าไหร่ก็ย่อมได้...กรงทองจะสร้างขึ้นมาเท่าไหร่ก็ได้....แล้วหากวันไหนนกตัวไหนไม่น่าอภิรมย์สมใจ เขาก็จะให้พวกนางจากไปมีอิสรเสรีไม่ต้องอยู่ในกรงทองอีก
แต่เขารู้...ชีคหนุ่มหยามหยันในใจ พวกนางไร้หนทางจะไป ใครบ้างมาชมชอบกรงทอง ไม่ชอบเงินในถาดที่มีให้ พวกนางรักเงิน...ไม่ได้รักในตัวเขาแน่นอน
พวกนางซื้อได้
เป็นนางนกที่ซื้อด้วยเงินได้
ก็เท่านั้น
เขาเอามือลงจากคางนั้น นางนกที่เขาไม่ยอมถามหาชื่อก็เอ่ยเอื้อนร้องเพลงเสียงใส...
ไม่ได้ไพเราะสักเท่าใด...แต่ว่าก็พอใช้ได้...
“เต้นรำล่ะ”
“ได้ค่ะ” นางทำตามเหมือนเป็นเช่นนางทาสกระนั้น นั่นเพราะนางได้รับการฝึกสอนกรอกหูว่านางอยู่ในฐานะไหนแล้วต้องทำตัวอย่างไร มันเป็นหน้าที่ตามการว่าจ้าง...เรียกเสียโก้ว่ามาเป็นศิลปินส่วนตัวที่บ้านของท่านชีค...
แต่จริงๆ แล้วนางมีค่าแค่นกตัวหนึ่งที่ต้องทำตามคำสั่งเขาเท่านั้น
เขาทอดตามองจังหวะการเต้นรำ ท่วงท่าอันยั่วยวน...ญาวี้ดมายอบตัวลงข้างหลังเขา เอ่ยถามเบาๆ
“ท่านจะเข้านอนเลยหรือไม่”
เขายิ้ม...
“ยังไม่ผ่านเวลาอาหารมื้อค่ำของเรา”
“เอ้อ...”
“เข้าใจพูดนะ เข้านอน....จะถามเราตรงๆ เลยก็ได้ว่าเราอยากนอนกับนางเลยหรือไม่”
“ไม่กล้าจะถามเช่นนั้นครับ”
“ลองดูก็ได้” เขาบอก ลุกขึ้นไม่ได้สนใจจะดูการเต้นรำของนางนกอีก ชีคหนุ่มเดินผ่านลานกว้างที่รับลมจากทะเลได้เต็มที่ ก่อนจะผ่านไปสู่ห้องนอนใหญ่ในอีกปีกตึกของตำหนักซอฟิฮาห์ พื้นที่ทอดเป็นทางเดินคือกระเบื้องแก้วราคาแพงที่มีการเพ้นท์ด้วยมือ แต่ละแผ่นงดงาม...สีโทนส้มเหมือนสีทราย...ให้ความอบอุ่นเมื่อเห็นสีนั้นแต่ตัวเนื้อกระเบื้องเย็น เขาเดินผ่านนางสาวใช้ที่ยอบตัวลงนั่งลงเป็นแถวเมื่อเขาเดินผ่าน...เขาจำไม่ได้ว่าที่นี่มีสตรีกี่คนและแต่ละคนทำหน้าที่ใด จำหน้าพวกนางก็ไม่เคยได้ อาจจะเพราะเขาไม่เคยหยุดมองนางพวกนั้นว่าหน้าตาเยี่ยงไร สวยงามหรือไม่
พวกนางมีหน้าที่ต้องทำ...ทำให้ซอฟิฮาห์เหมือนสรวงสวรรค์ สะอาด งดงาม..น่าอยู่เสมอ...ไม่ว่าเขาจะหรืออยู่พักหรือไม่ก็ตามที เขาไม่เคยคิดว่าจะต้องจดจำพวกนาง ชีคหนุ่มเดินผ่าน ด้วยฝีเท้าอันมั่นคง...ญาวี้ดตามเข้ามาโดยพยักพเยิดกำชับให้สุไลมานพานางนกตัวใหม่เข้ามา
นางไม่มีชื่อ
ห้องที่เขาเข้ามามิใช่ห้องนอนใหญ่ที่ซอฟิฮาห์ เป็นห้องพักผ่อนชั้นล่างของตำหนัก...ห้องสำราญใจ...และนางนกหมายเลขหนึ่งกำลังถูกส่งเข้ามารับใช้และปรนนิบัติเขา
สุไลมาน แตะแขนนาง แล้วกำชับว่า “อย่าทำให้ท่านชีคไม่พอใจ อย่าพูดมาก...ห้ามไปพูดคุยซักถาม...เจ้ามีหน้าที่แต่ให้ความสำราญ และปรนเปรอให้ ท่านชีคมีความสุข”
“ค่ะ”
“ท่านชีคไม่ต้องการรู้ชื่อเจ้า ประวัติเจ้า ไม่ต้องไปรายงานหรือสาธยายบอกท่าน”
“ค่ะ”
“อย่าให้ท่านอารมณ์เสียได้ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะเดือดร้อน”
“ค่ะ”
สุไลมานเลยพอจะโล่งใจ เขาส่งนางนกหมายเลขหนึ่งเข้าห้องไปรับใช้ท่านชีคของเขาแล้วก็เดินมาหาญาวี้ด
“เจ้าว่าเจ้าสอนพวกนางดีหรือไม่”
“ดีซิ ท่านสุไลมาน ฉันสอนพวกนางให้ปรนเปรอเจ้านายของเรา ให้มีความสุข ความสำราญอันปิติเปี่ยมสุขอย่างสุด ๆ พวกนางแม้จะมิใช่คนยึดอาชีพบริการพลีกายมาก่อน แต่พวกนางเป็นสตรีที่เราสามารถสอนให้นางกระทำการเช่นนั้นได้”
“ดี” สุไลมานเอ่ยชม “หวังว่าท่านชีคจะชมชอบนาง”
“ฉันกลัวอยู่แค่ว่า...”
ญาวี้ดพูดแล้วหยุดไป สุไลมานมองหน้าเหี่ยวย่นนั่น...ญาวี้ดเป็นผู้เฒ่าของซอฟิฮาห์ อยู่มาตั้งแต่ในวังหลวง...และถูกส่งให้เป็นพ่อบ้านคุมตำหนักที่พักของชีคชาห์มามาแต่แรก...นับจากบ้านหลังแรกที่ชีคหนุ่มแยกตัวจากวังหลวง บ้านของเจ้าพ่อและเจ้าแม่ ญาวี้ดทำงานด้วยความซื่อสัตย์ จงรักภักดีอย่างไม่มีอะไรต้องตำหนิ
“มีอะไรว่ามา”
“ชีคของเรามิได้พอใจในอิสตรีง่ายดาย”
สุไลมานเลิกคิ้ว... “จะบอกฉันว่าเจ้านายหนุ่มของเราเลือกมากอย่างนั้นหรือ”
“เท่าที่ผ่านมาเป็นเช่นนั้น...ฉันเคยจัดหาสตรีเข้าไปปรนเปรอ แต่พวกนางก็ออกมาร่ำไห้ฟูมฟาย”
“เรื่อง...”
“ท่านชีคไม่ได้แตะต้องพวกนางเลยน่ะซิ”
“อะไรกัน ญาวี้ด...ร่างกายของบุรุษย่อมจะร้องเรียกหา...”
“ใช่...และพวกนางได้ปรนเปรอเต็มที่...เว้นแต่ว่ามันก็เป็นไปฝ่ายเดียว...ท่านชีคมิได้สมเสน่หาด้วย”
“ฉันไม่เข้าใจเลยนะ ญาวี้ด”
“ฉันถึงกลัวว่านางนกตัวนี้จะทำไม่ได้”
“แล้วจะเกิดอะไรขึ้น”
“ขอเพียงแต่ให้ท่านชีคเข้าใจว่าฉันฝึกนางเต็มที่แล้ว หากชีคไม่สมเสน่หา ก็เพราะหัวใจของท่านไม่เปิดออกรับ”
สุไลมานได้แต่ทอดถอนใจมองไปยังประตูไม้ที่ประดับด้วยทองคำที่ห่วงพับ และที่จับ...ก่อนจะเอ่ยว่า
“หากเราทำดีที่สุดแล้ว เราคอยดูผลของมันก็พอนะ”
นางนกร่ายรำ ร้องเพลง..และเข้ามาเคลียคลอ แต่ทว่าเขาก็ยังนอนตะแคงตัว เอนอิงข้อศอกลงกับกองหมอนนุ่ม....บนฟูกหนา...รอบเตียงที่ม่านสีขาวรูดรวบไว้...ข้างๆ เตียงมีโต๊ะที่วางถาดผลไม้...หลากสีสดใส...สดใหม่พร้อมจะกัดกินได้ตลอดเวลา น้ำผลไม้ในขวดก็ตั้งเอาไว้ น้ำสีแดง...สวยงาม...หล่อนเข้ามารินน้ำผลไม้ใส่แก้วก้านสูงที่ตรงรอยต่อกับก้านแก้ว ฝังด้วยคริสตัลเม็ดเล็กระยิบระยับรายรอบ ตัวแก้วผ่านการเจียระไนได้เหลี่ยมมุมจนแก้วนั้นมีเสียงกรุ๊กกริ๊กใสๆ
นางป้อนเครื่องดื่มให้เขา...หยอกเย้า...หลังจากวางลงไปที่เดิม โดยการเอามือผลักอกให้เขาเอนลงนอนราบ นางพยายามอย่างยิ่งจะทำให้เขาพึงใจ แต่ทว่า...ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ร่างกายที่มีส่วนโค้งเว้าอันงดงามทาบทับกับเนื้อตัวกายอันเปล่าเปลือยของเขา นางลูบไล้เล่นที่แผงขนหน้าอก....เขาไม่ได้ปัดมือนางออกไป...ดูทีซิว่านางจะทำได้ไหม
ก็เขายังปกติ
เขายังเฉยเมย
ร่างกายเขาไม่มีการเรียกร้องหรือจะตอบสนอง
สิ่งที่เสนอมานั้นก็น่าเร้าใจ...แต่เขาก็เหมือนไม่มีไฟ
เขาเป็นอะไรไป ชีคหนุ่มถามตัวเอง ไม่ถึงกับตกใจ แต่ค่อนข้างกังวลเล็กน้อยเพราะหากเขาไม่มีการตอบสนองเท่ากับว่าแจ๊กเกอลีนมีผลต่อเขา
ไม่...
เขาจะไม่ยอมแพ้แก่แจ๊กเกอลีน
แต่ว่า...เวลาผ่านไป...
นกหมายเลขหนึ่งทำหน้าดุจจะร้องไห้เสียให้ได้
“ท่านเจ้าคะ” นางเอ่ย...เสียงเครือ “ทำไม...”
เพราะนางถูกฝึกฝนมาอย่างดี....นางเงยหน้ามอง...ยามนี้นางหมอบราบทาบทับตัวเองกับเขา....นางลดตัวลงต่ำมาเหมือนจะปรนเปรอเขาในท่วงท่าที่ถูกสอนให้เอาอกเอาใจ...และมันเคยได้ผล....แต่คืนนี้ หล่อนทำไม่ได้
ชีคหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมอง แววตาเยือกเย็น
“ได้โปรด...”
นางต้องการให้เขาปลดปล่อย....
ชีคหนุ่มไม่ตอบ
เขาทิ้งศีรษะลงบนหมอนตามเดิมเอ่ยเรียบๆ
“ออกไป”
แต่นางยังเคล้าเคลีย
“ออกไป”
เขาแผดเสียงดังขึ้น
“แต่ว่า...ท่านยัง...”
“เราให้เจ้าออกไป”
เขาเสียงดัง ดุดัน และยังยกระฆังแก้วเจียระไนบนโต๊ะข้างเตียงมาเขย่าแรงๆ
ญาวี้ดถลันเข้ามาในห้องเหมือนรออยู่หน้าห้อง ไม่ได้ไปพ้นจากตรงนี้
“เอานางออกไป”
ญาวี้ดมองนางนกหมายเลขหนึ่งที่บัดนี้ทั้งกายของนางปราศจากอาภรณ์ เหมือนนกที่โดนถอนขนออกจากตัวหมดแล้ว นางทำท่าดุจจะร่ำไห้ ลนลานและเอ่ยวิงวอน
“ฉันทำดีที่สุดแล้ว...”
“ญาวี้ด...พานางออกไปเดี๋ยวนี้”
“ครับผม”
ญาวี้ดตรงไปคว้านางนกหมายเลขหนึ่ง คว้าเอาเสื้อผ้าของนางติดมือมาด้วย รีบพานางออกมา นางกำลังร่ำไห้วิงวอน
“อย่าลงโทษฉันนะคะ เพราะฉันทำดีที่สุดแล้ว แต่ท่านชีค โอ...ทำไมไม่บอกฉันว่าท่านชีคตายด้าน”
ญาวี้ดเงื้อมือขึ้นทำท่าจะตบลงบนหน้านั้น นางทำท่าหวาดกลัว ญาวี้ดลดมือลงช้าๆ
“ไสหัวไป...”
นางก้มหน้าลนลาน แล้วญาวี้ดก็นึกได้
“มานี่” เขาดึงนาง ปลิวติดมือไปยังในห้องที่เหมือนสวนในร่ม ห้องที่มีกรงนกวางอยู่...นกหมายเลขหนึ่ง กรงหน้าสุด...เขาเปิดประตูกรงออกใส่นางเข้าไป โยนเสื้อผ้าตามไปด้วย นางร่ำไห้คร่ำครวญ
“ไหนว่าท่านชีคจะทำให้ฉันมีความสุข แล้วทำไมท่านชีคของท่านถึงได้เย็นชาเสียเพียงนั้น...หากเขาปกติดี เขาจะไม่เป็นเช่นนั้น เขาผิดปกติหรือ”
คนดูแลซอฟิฮาห์เดินออกจากห้องไปแล้ว นางนกหมายเลขหนึ่งได้แต่คร่ำครวญอย่างเสียใจว่าทำไมตัวเองไร้ความสามารถ
ญาวี้ดเดินกลับเข้ามาในห้องสำราญของชีคหนุ่มอีกหน ไม่กล้าส่งเสียงดังนัก
“ญาวี้ด...”
เสียงเรียกมา คนรับใช้เฒ่ายอบตัวลง ชีคหนุ่มเบือนหน้ามามอง
“เรายังไม่ต้องการพวกนาง...ไม่ต้องเอามารับใช้เรา เอาแค่ให้นางร้องเพลงกับเต้นรำก็พอ”
“ได้ครับผม”
ก่อนจะปิดตาลงเพื่อพักผ่อน แต่เขางีบหลับไป และยังฝัน...เขาได้เจอหญิงสาวคนหนึ่งผมยาวสีแดง...
อา....งามนัก ละม้ายคล้ายแจ๊กเกอลีน แต่ไม่ใช่ เขาได้แต่คว้าจับเธอเอาไว้
เธอดิ้นรนผลักไส
“เราชื่อชาห์มา...เจ้าล่ะ ชื่ออะไร
กระชากเธอเข้ามาหาอ้อมอก แล้วผลักไสเธอเข้ากรง..
ที่หน้ากรงนั้นเขียนไว้ด้วยหมายเลข 13!
เขาผลักเธอและขังเธอไว้ในนั้น
เธอคือใคร ชีคหนุ่มผวาตื่นเช่นกัน เขากดเรียกหาญาวี้ด
คนรับใช้ผู้เฒ่าเข้ามาในห้องอย่างเร่งร้อนกระนั้นยังเงียบกริบ เพื่อไม่รบกวนเขา
“กรงนกสิบสองกรงเรียบร้อยดีหรือไม่”
“เรียบร้อยแล้วครับผม”
“เพิ่มไว้อีกสักหนึ่ง”
“เป็นสิบสามหรือครับผม”
“ใช่”
“ทำไม...”
ชีคหนุ่มไม่ได้ตอบ หลับตาลง...ญาวี้ดก็ไม่อยากกวนใจเจ้านายหนุ่มอีก จึงถอยมา
ชาห์มารำพึงในใจว่า
...เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม กรงนกหมายเลข13 สำหรับเธอ ใครกันนะ ...
ความคิดเห็น