ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชีคชาห์มา

    ลำดับตอนที่ #4 : 4

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 51


     

    ชีคชาห์มา  4                          

    เจ้าหญิงลาล่าห์เสด็จกลับออกมาโดยที่ชีคหนุ่มไม่ได้ตามมาด้วย ระหว่างดำเนินกลับมานั้นเสียงเจ้าหญิงญะมีนะห์เอ่ยเหมือนตื่นเต้นอยู่เยื้องไปเบื้องหลัง

    เจ้าน้าเพคะ

    เพราะสุไลมานกำลังพาหญิงสาวนางหนึ่งปรากฏตัวออกมา...เจ้าหญิงลาล่าห์ทอดเนตรตามก่อนจะอุทาน

    โอ...นั่น...อะไร

    หญิงสาวแสนสวย อรชรอ้อนแอ้นราวกับก้านดอกไม้...ในชุดยั่วยวนรัญจวนใจให้เกิดเสน่หาอันวาบหวามได้กับชุดที่ท่อนบนนั้นแค่ปิดบังสองเต้าอันกลมกลึง...เปิดแผ่นหน้าท้องขาวเนียน...กับกระโปรงยาวเข้ารูป...แต่เป็นผ้าอันบางเบา...ตรงหน้าขานับจากเอวลงไปแขวนตาข่ายทองรูปสามเหลี่ยมกั้นไว้อีกชั้น...เท้าเปล่าเปลือยมิได้สวมรองเท้า  เสื้อที่รัดจนเต้ากลมๆ แทบจะปริล้นและยังเหมือนดันทรง  ผมแดงยาวสลวย กับดวงหน้าที่แต่งเข้มมองเห็นแต่ไกล

    นกเพคะ  เจ้าหญิงญะมีนะห์กระซิบทูล  นี่ไงเพคะที่ไฟซาลมาเจอวันก่อนแล้วเนื้อตัวเต้นกระสันอยากจะเลี้ยงบ้างเพคะ

    ตายจริง อีกคำที่อุทานจากพระโอษฐ์สีระเรื่อของเจ้าหญิงลาล่าห์ที่งามด้วยเนื้อแท้ของพระองค์เองมากกว่าการปรุงแต่ง  ริมพระโอษฐ์นั้นยังเผยอค้างเหมือนตะลึง  มิใช่เพราะไม่เคยเห็นภาพเยี่ยงนี้มาก่อน แต่เพราะว่านี่เป็น นก ที่บุตรชายกำลังสะสมหรือไร...รสนิยมของชาห์มาเป็นไปได้เพียงนี้แล้วหรือ

    ตำหนักซอฟิฮาห์มิเคยมีสตรีเยี่ยงนี้เข้ามาเดินวุ่นวาย

    ชาห์มาอาจจะมีอิสตรีบ้างประสาผู้ชาย  และเธอไม่ได้มองเห็นว่าเป็นเรื่องผิด...แค่เป็นเรื่องของธรรมชาติ โดยเฉพาะชายผู้มีอำนาจวาสนา  การสะสมอิสตรีเพื่อผ่อนคลายอารมณ์นั้นไม่ได้ถูกมองว่าผิดหรือบั่นทอนเกียรติของสตรี  เพราะบุรุษนั้นย่อมจะต้องมีอิสตรีไว้เชยชม  และสตรีก็ต้องเกิดมาเพื่อดูแลปรนนิบัติรับใช้ผู้ชาย...เธอไม่ได้ขัดขวางแม้จะส่งเสริมบทบาทและสถานภาพสตรีในอิบบาห์  เชวู  แต่เจ้าหญิงลาล่าห์ตระหนักในพระทัยว่าการณ์ใดจะเปลี่ยนแปลงแบบพลิกมือกลับด้านเลยนั้นย่อมยากอย่างยิ่ง

    บุรุษผู้อยู่ในฐานะอันมีกินมีใช้  และดูแลสตรีของตัวได้  กินดีอยู่ดี ก็ไม่ห้ามปราม

    อีกทั้งกฎหมายตามศาสนา  ก็ยินยอมให้บุรุษมีสตรีเป็นภรรยาได้มากกว่าหนึ่งโดยไม่ผิดอยู่แล้ว

    เว้นแต่ นกผมแดง คงจะไม่ได้ถูกยกย่องเป็นภรรยา

    หญิงถึงจะต้องทูลเจ้าน้ามาทอดเนตรเองเพคะ

    สวยน่ะสวย...แต่ว่า...

    นางที่ถูกซื้อหรือบังคับมาจะมีเสน่หาอย่างนั้นหรือ

    เจ้าน้ากลัวอะไรหรือเพคะ

    ชาห์มาจะได้รับความสนใจเพียงพอไหม

    โธ่! เจ้าน้าเพคะ สตรีพวกนี้ ขายนะคะ

    เสียงเน้นหนัก เจ้าหญิงญะมีนะห์ เหยียดปากเย้ยหยัน  พวกนางหาซื้อได้ด้วยเงิน  หากไม่มีตรงนี้พวกนางก็จะถูกขายไปเป็นสตรีในฮาเร็ม  หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นภรรยาเล็กๆ ของบุรุษผู้พอจะหาเลี้ยงนางได้ แต่นางจะไม่ได้รับการยกย่องอยู่แล้วนะเพคะ

    ญะมีนะห์  อย่าไปดูถูกพวกนาง พระสุรเสียงเน้นหนักจนเจ้าหญิงญะมีนะห์หน้าเผือดสีเอ่ยเบาๆ

    เพคะ เจ้าน้า  หญิงเพียงแต่อยากจะบอกเจ้าน้าว่าชาห์มาคงได้รับความสนใจไยดี  พวกนางอาจจะคิดกันได้เพคะว่าหากชาห์มาสนใจมากๆ พวกนางจะสุขสบาย อย่างน้อยสิ่งที่ชาห์มาให้กับพวกนางคือเงิน  ทองคำ และเสื้อผ้าแพรพรรณสวยๆ

    แลกกับกรงทองอย่างนั้นหรือ  ญะมีนะห์ 

    เอ้อ...เพคะ...แลกกับกรงทอง

    กินอยู่ในกรงหรือไร

    คงไม่ทั้งวันหรอกมั้งเพคะ  คงจะมีเวลาหลับนอนกินอยู่นอกกรงบ้าง ยกเว้นยามที่ชาห์มาอยากจะเห็นนกสาวๆ ของเขาเต้นรำร้องเพลงให้เขาได้รื่นรมย์

    ชาห์มาคิคอะไร

    ก็น่าห่วงนะคะ แนวคิดเขาไม่เหมือนใครและไม่เคยเหมือนใคร  บอกทูลเจ้าน้าแต่แรกแล้วเพคะว่าจะต้องเสด็จมาทอดเนตรเองว่าเป็นอย่างไร

    ความเป็นห่วงของคนเป็นแม่คือ  เกิดอะไรกับลูกชาย...ทำไมเขาถึงคิดทำอะไรที่พิเรน...ไม่ควรจะทำ...เขาจะกักขังสตรีให้เป็นนกในกรงทองหรือ...

    ปริศนา ปรากฏ

    นกในกรงทอง

    ย่อมหมายความว่าเขาสูญเสีย

    สุไลมาน

    เธอเรียกเจ้าหนุ่มคนสนิทของเขา ที่บัดนี้ทำหน้าตาเหมือนอึดอัด ไม่อยากเผชิญหน้า แม้จะโน้มตัวลงคำนับอย่างสูงและพลอยดึงเอานางนกผมแดงนั้นถวายคำนับแล้ว

    นางมาจากต่างแดน...นางมิรู้จักใครเป็นใคร  ขออภัยด้วยพะยะค่ะ

    นางมาจากไหน

    รัสเซียพะยะค่ะ

    สวยนะ...นำเจ้ามาหรือ

    สุไลมานอึกอัก

    ผมนั้นย้อมหรือไม่...

    เธอมองดูผมสีแดง...ผมยาว...สีแดงแจ่มจ้า

    ย้อมพะยะค่ะ   ญาวี้ดได้ย้อมผมและสอนนางเต้นรำร้องเพลงเพิ่มเติม กำลังจะส่งเข้าถวาย... เร่งมาได้หนึ่งคน กระหม่อมคิดว่าน่าจะได้ทำให้ท่านชีคคลายกังวล

    สุไลมาน พระสุรเสียงของเจ้าหญิงลาล่าห์แกมหัวเราะ แน่ละ...ถ้อยสนทนาของเธอกับสุไลมาน นางนกผมแดงย่อมไม่มีวันเข้าใจเพราะเป็นภาษาของอิบบาห์ เชวู มิใช่ภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสากล   ฉันขอถามหน่อยว่าส่งตัวไปถวายให้ชาห์มา หรือส่งเข้ากรงไปกักขังกันแน่

    โอ...แม่เจ้า  สุไลมานคำนับอีกหนเกือบจะเอาศีรษะลงไปโขกกับพื้น...

    เจ้าหญิงลาล่าห์ดำเนินผ่าน ให้สุไลมานเห็นข้อพระบาทพ้นจากรองเท้าสีแดง...ที่ตัดด้วยผ้าไหม  สุไลมานไม่กล้าเอ่ยคำใดนอกจากหมอบนิ่งแล้วยังดึงนางนกสาวให้ลงมาหมอบเก้งก้างเพราะตัวที่ผอมบางและค่อนข้างสูงนั้นแถมยังไม่คุ้นชินกับธรรมเนียมของการหมอบราบลงถวายความเคารพ...อีกทั้งยังไม่เข้าใจภาษาพื้นเมืองที่เจรจากัน

    เจ้าหญิงลาล่าห์เหลือบพระเนตรทอดลงต่ำ แวบเดียว

    สุไลมาน...ไว้ตามไปพบเราที่บ้านด้วยนะ

    พะยะค่ะ

    อย่าทำตามใจชาห์มามากนัก

    โอ... เสียงร้องในลำคออีกหน  เกรงว่าจะไม่ได้นะพะยะค่ะ

    ทำไม...กลัวชาห์มาหรือ

    สุไลมานเงยหน้ามอง  ตาเหลือกด้วยความตระหนก  กระหม่อมยังอยากมีชีวิตอยู่นานๆ พะยะค่ะ

    อย่ากลัว

    โอย...เจ้าหญิงก็รับสั่งได้ซิ  แต่กระหม่อมไม่ใช่พระมารดา...

    เหมือนสุไลมานจะกล้าประชด

    เจ้าหญิงลาล่าห์หัวเราะ   เจ้ากลัวแต่ชาห์มาจะอารมณ์เสียใส่  แล้วหากเป็นฉันเล่า...สุไลมาน...ผู้หญิงคนนี้พูดอะไรจะทำให้เจ้ารู้สึกหวาดกลัวตัวสั่น และไม่กล้าเหมือนชาห์มาพูดไหม

    เจ้าหญิงเมตตากระหม่อมด้วยเถิด  อย่ารับสั่งเช่นนั้น กระหม่อมเคารพนับถือเจ้าหญิงสูงส่งแบบถวายชีวิตได้ แต่กับท่านชีค...เจ้าหญิงก็ทรงรับรู้ถึงอารมณ์ของท่านชีค  ว่าไม่มีใครกล้าขัด ในแผ่นดินอิบบาห์ เชวูนี้หาใครกล้าไปต่อกรกับเขา

    มีแต่เสียงพระสรวล แล้วเจ้าหญิงลาล่าห์ก็ดำเนินไปจากตำหนักชอฟิฮาห์  สรวงสวรรค์ของชาห์มา...

    ลูกชายของเธอคงจะสำราญกับนกสาวๆ แต่ทว่าเขามีความสุขแน่หรือไร

    ทำไมอยู่ๆ เขาอยากเลี้ยงนกสาว

    แล้วผู้หญิงที่อเมริกาคนที่เขามุ่งมั่นไปพบเล่า  นางอยู่ที่ใด

    ญะมีนะห์  จับตามองเอาไว้ว่าชาห์มานำเข้าผู้หญิงต่างชาติอีกกี่คน แล้วผู้หญิงในนี้อีกกี่คน

    เจ้าน้าจะสั่งยุติไหมเพคะ

    ขัดเขาได้อย่างไร  ชาห์มาดื้อ  และน้าอยากรู้ว่าเบื้องหลังการณ์นี้คือเรื่องใด

    หญิงว่าชามาห์มาอกหักเพคะ

    อกหักเลยหรือ

    เพคะ...ไปอเมริกาก็มือเปล่ากลับมา...ทั้งที่รู้กันเป็นข่าววงในนะเพคะ  เจ้าน้า  ว่าชาห์มาจะพาหญิงต่างชาติกลับมาเสกสมรสด้วย  ดูเหมือนจะพากลับมาอยู่ที่ซอฟิฮาห์แล้วเตรียมความพร้อมให้นางเป็นอิบบาห์ เชวูก่อนจะพาขึ้นถวายเข้าเฝ้าเจ้าเหนือหัว  แต่แล้วเขาก็กลับมาคนเดียว

    ให้ไฟซาลคุยกับชาห์มาแล้วเอาความมาให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

    ไฟซาลไม่ยอมเปิดปากเลยเพคะ เจ้าน้า

    หมายความว่าไฟซาลก็คุยแล้วหรือ

    เพคะ  หญิงน่ะเคืองไฟซาล  เพราะไปๆ มาๆ เขาก็บอกหญิงว่าหากหญิงไปวุ่นวายกับชาห์มามากนัก  เขาจะสร้างกรงนกที่บ้านบ้างเพคะ

    ไม่เป็นไร  ญะมีนะห์  หากไฟซาลเกเรเหมือนชาห์มา น้าจะช่วยเธอจัดการกับเขาให้ราบคาบ

    เจ้าน้าเพคะ ขอบพระทัย...แต่ทว่า...เจ้าน้าก็เชื่อใช่ไหมเพคะว่าชาห์มาเกเร

    โอย...สุดๆ มาแต่แรกแล้วล่ะ ชาห์มาน่ะ  น้ายังกลัวใจเขา แล้วเจ้าหญิงลาล่าห์ก็ถอนพระทัย หากการเลี้ยงนกทำให้ชาห์มาหายบาดเจ็บก็แล้วไป

    แล้วหากไม่หายล่ะเพคะ ความรักนะเพคะ เจ้าน้า ความรัก หากไม่สมดังรัก ไม่เกิดกับใครคงไม่รู้สึกนะเพคะ

    เจ้าหญิงพระมารดาได้แต่ถอนพระทัย  หากลูกชายของเราอ่อนแอจนยอมให้ชีวิตที่เลือกอีกนานปีพังพินาศ  เราหรือจะทำอะไรได้นอกจากสลดใจเท่านั้น

    แต่หัวอกแม่...ไม่อาจจะนิ่งเฉย

    เจ้าหญิงลาล่าห์รู้ว่าควรจะทำอะไรบางอย่าง



                จามิลบอกว่าเขาชอบเพลงของเธอ...เขาถามเธอเลยว่ายินดีจะให้เขาช่วยปรับแต่งบางจุดให้หรือไม่  โดยเฉพาะการปรับทำนองและเรียบเรียงเสียงประสานให้ใหม่...

    จามิลบอกว่าเนื้อเพลงของเธอดีอยู่แล้ว  ได้ยินเท่านี้ มิลานก็ดีใจเป็นอันมาก เพราะเธอไม่ได้คิดจะเอาดีทางการร้องเพลงแม้แต่น้อย  เพียงแต่ร้องเพลงได้ ร้องในผับของตัวเองที่ทำนอกเหนือจากงานประจำ...บริษัทส่วนตัวที่เปิดเอาไว้มีงานเข้าเต็มมืออยู่แล้วในแวดวงของธุรกิจสิ่งพิมพ์...

    ผมจะมีการแสดงวันจันทร์ที่จะถึง...รอบแรกของการแสดงทัวร์รอบนี้

    ดวงตาของมิลานขยายกว้าง...เธอมองดูจามิลดวงตาแทบไม่กระพริบจนแองเจลิน่าหัวเราะ

    จามิลจะเลือกเธอขึ้นเวทีการแสดงกับเขา

    ฉันหรือ แองเจิ้ล... เสียงทวนถามตื่นเต้นเหมือนไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

    ไม่ใช่เธอแล้วจะใครอีก

    เพลงของเธอดีพอทำให้จามิลประทับใจหรือ

    ผมขอเวลาคืนนี้ดูเรื่องดนตรีให้  แล้วคงจะซ้อมกับวงได้ทัน...ในวันสองวัน คิดว่าไหวไหม

    มิลานมองดูชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้า บุรุษที่เธอรู้ว่าเขาเป็นถึงเจ้าชาย 

    ปริ้นซ์...แต่เขาไม่เคยถือศักดิ์ตรงนั้น

    แองเจลิน่าถ่ายทอดเรื่องราวของเขากับเธอ และเคยเรียบเรียงเป็นประวัติลงหนังสือ

    แองเจลิน่าติดตามชีวิตเขามาแต่แรก นับจากรับอาสาสวมรอยเรเนียไปปรากฏตัวกับเขา

    มิลานได้รู้ว่าเขาเดินหันหลังจากบัลลังก์  ทิ้งความเป็นเจ้าชาย   เขาเป็นแกะดำของครอบครัว และเขามุ่งตามฝันของเขาคือดนตรีที่เขาคิดว่ามันไม่มีกาลเวลา  ไม่มีเงื่อนไข  ไม่มีเกมการเมือง    อาจจะมีเรื่องธุรกิจอยู่บ้างหากงานของเขาขายได้และอยู่รอด  เมื่อแรกที่จามิลเล่นดนตรีเขาเพียงแต่ใช้มันปลอบประโลมตัวเองที่ห่างบ้าน   ปลอบความเงียบเหงาให้ผ่อนคลาย   เขาชอบอยู่ลำพัง กับดนตรี  บทกวี  เขามีช่องว่างของเขากับพระบิดา แต่พอเล่นดนตรีนานวันไปจนกลายเป็นมืออาชีพ เขาพบว่าเขาเป็นศิลปินคนหนึ่งที่สื่อสารไปถึงผู้คน สังคมผ่านบทเพลง เล่าเรื่องราวที่มีท่วงทำนองไปถึงคนฟัง

    เจ้าชายหรือ  เขาไม่ต้องการ เขาอยากเป็นแค่จามิล โมฮา  ประชาชนธรรมดาคนหนึ่งของโลกนี้ ท่าทางเขาดูเป็นผู้ชายอ่อนโยนอบอุ่น แสนดี

    ทั้งที่เขามีถิ่นกำเนิดในดินแดนใกล้กับอีตาคนนั้น

    อีตาคนไหนกันเล่าหากไม่ใช่ชาห์มา

    ท่านชีค...

    ชีคกับเจ้าชายคงจะเท่าๆ  กัน ในสถานภาพ พระอิสริยยศ

    แต่เท่าที่ชาห์มาแสดงออก เขาดูต่ำทรามกว่า...ผู้ชายที่หยามสตรีด้วยการส่งรอยเท้ามานั้นย่อมไม่ใช่สุภาพบุรุษ

    เธอคิดว่าแองเจลิน่าโชคดี

    และอีกคนที่โชคดีคือ แจ๊กเกอลีน ญาติผู้พี่

    เพราะหากว่าแจ๊กเกอลีนไหวตัวไม่ทัน ไม่ตอบปฏิเสธ จะเชื่อได้อย่างไรว่าชีคหนุ่มยามโมโหโกรธาจะไม่ทำร้ายทุบตีแจ๊กเกอลีน

    เธอคิดถึงอีตาชีคนั่นอีกจนได้...และเธอก็ตอบรับจามิลที่จะไปซ้อมร้องเพลง...ค่ำวันนี้สองคนสามีภรรยาอยู่ไม่นานนัก...หลังจากเธอมานั่งสนทนาด้วยสักพัก  แองเจลิน่าก็ขอตัวกลับไป

    เรามีเรื่องต้องทำอีกมาก

    มิลานลุกสวมกอดเพื่อนสาว  ขอบใจ แองเจิ้ลที่แวะมาหา

    ฉันคิดถึงเธอ...ตอนนี้ภาระหน้าที่แยะมาก

    แน่ละ เพราะแองเจลิน่าเป็นผู้จัดการดูแลจามิลไปแล้ว  ในยามออกเดินสายเปิดการทัวร์คอนเสิร์ต พอๆ กับยามอยู่นาว์รา  เธอทิ้งชีวิตที่นิวยอร์คไปอยู่เคียงข้างเขา ไปเป็นผู้หญิงของจามิล ทำไร่ดอกไม้...ไม่น่าเชื่อ มิลานคิดว่าชีวิตของเพื่อนยิ่งกว่าฝัน

    แองเจิ้ล  เธอทำให้พวกเราประหลาดใจมากว่าเธออยู่ที่นั่นได้อย่างไร มันไม่เหมือนนิวยอร์คไม่ใช่หรือ

    ไม่เหมือนเลย  แต่มีเขา...เราเป็นครอบครัวเล็กๆ ที่ไม่มีธุรกิจ ไม่มีความฟุ้งเฟ้อ  เราทำบ้านให้น่าอยู่   เมื่อไหร่เธอจะว่างไปเยือนนาว์รา บ้านของฉันกับเขา...เราทำที่นั่นจากทะเลทรายที่เวิ้งว้าง  เราสร้างเมือง...สร้างอาชีพ...และมันไม่ใช่ความฝัน...มันเป็นความจริง โลกจริงที่งดงาม

    สาวสวย ปราดเปรียว สาวสวยเก๋จากปีปัจจุบันเดินทางเหมือนจะกลับสู่อดีต แม้จะไม่ใช่...แต่ความเป็นอยู่ในทะเลทรายนารูฮัลลาเพื่อสร้างนาว์รานั้นเป็นเรื่องเหมือนชีวิตย้อนเวลากลับไปสร้างบ้านสร้างเมืองอย่างลำบาก ไม่ได้สะดวกสบาย แต่แองเจลิน่าไม่เคยมีบ่น ดวงตาของแองเจลิน่าบ่มสุขมากมาย

    และเธอเชื่อว่าหากแจ๊กเกอลีนเลือกนายชีคชาห์มา พี่สาวของเธอจะไม่มีดวงตาเช่นนั้นแน่นอน คงจะมีแต่ระทมทุกข์ แต่ทำไมเธอคิดถึงอีตาชีคนั่นด้วย เขาไม่น่าจะมีความหมายอยู่ในความคิดคำนึง

    แต่ก็แปลกเพราะเมื่อเธอออกจากผับตอนดึก แล้วขึ้นรถ เธออดไม่ได้จะเปิดดูในช่องเก็บของหน้ารถ กล่องใส่ถาดทองนั้นยังคงอยู่ หญิงสาวกลับถึงที่พัก โดยเอากล่องนั้นลงมาด้วย ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม ไร้เหตุผล

    แต่เธอก็เก็บเอามา อาบน้ำ...เอนตัวลงนอน...กล่องนั้นวางอยู่บนโต๊ะ

    ตอนนี้เธออยู่คนเดียว ไม่เจอแจ๊กเกอลีน แต่อาจจะเพราะว่าแจ๊กเกอลีนไปกับโจนาธาน... เธอคิดว่าพี่สาวคงมีเดท... และเมื่อคิดถึงแจ๊กเกอลีน พี่สาวก็โทรเข้ามา

    อยู่ไหน พี่แจ๊กกี้

    อยู่กับโจ

    จริงตามที่เธอคาดหมาย

    ก็ดี...มิลานบอกตัวเอง

    เขากำลังเตรียมตัวไปเมืองไทยหากแจ๊กเกอลีนยังอยู่ที่นี่ ยังไม่รู้ว่าอีตาชีคจะตามมาก่อกวนแค่ไหน..

    เธอเลยบอกไปว่า ตอนนี้พี่แจ๊กกี้อยู่กับโจก็ดีนะ

    ทำไมหรือ

    เธอไม่ยอมบอกความจริงเรื่องชาห์มา...โดยไม่ตระหนักสักนิดว่าการที่เธอส่งแจ๊กเกอลีนไปอยู่ที่อื่นนั้นจะนำเอาความเดือดร้อนมาสู่ชีวิตเธอมากมาย

    เธอบอกไปแกมหัวเราะว่าพี่แจ๊กกี้น่าจะได้เตรียมตัวสำหรับที่ใหม่...คนใหม่...สภาพแวดล้อมใหม่ๆ

    แต่รู้ไหม มิลาน วันนี้...พอเธอบอกว่าเขาเสียใจ พี่ก็อดจะโทรหาเขาไม่ได้

    มิลานตกใจโทรไปหาเขาทำไม

    ก็เขายังเสียใจเพราะพี่....เขาร้องไห้

    ตายๆๆๆ มิลานรัวเสียงถี่ยิบในใจ พี่สาวเธอโทรหานายชีคนั่นจริงๆ หรือพี่แจ๊กกี้ไม่ควรจะโทรไปอีก

    ก็ยังแอบเสียใจเสียงอ่อยลง

    ทำไมคะ

    ก็เขาไล่พี่ไปลงนรก เขาช่างเอาความกระด้างเย็นชามากลบเกลื่อนความรู้สึกแท้จริงของตัวเอง...เหมือนเขาไม่ยอมรับว่าจริงๆ แล้วเขายังรักพี่ ไม่สิ้นรัก ไม่สิ้นอาลัย

    โถ....มิลานสงสารพี่สาวเสียนัก

    พี่แจ๊กกี้ที่รัก....เธอเรียกขานในใจ...ช่างไม่รู้เลยหรือว่าอีตาชีคมันหมดสิ้นความไยดีไปแล้ว

    น่าจะระวังตัวเสียด้วย

    เพราะส่งถาดทองรองรอยเท้าเปื้อนเลือดมาได้ หนหน้าจะจัดการอย่างไร

    มิลานเข้านอน...และค่ำนี้เธอฝันร้าย

    เธอฝันว่าเธอเจอกับชีคชาห์มาข้างกรงขนาดใหญ่!

    อีตานั่นแนะนำตัวเองว่าชื่อชาห์มา หน้าตาดูหล่อชวนมองดีอยู่หรอกแต่ดุดันนัก แถมยังใจร้าย

    เธอร้องวี๊ดเมื่อเขาดึงเธอเข้าหาตัวเขา และผลักเธอเข้าในกรง!

    เธอผวาตื่น...ใจสั่นริกๆ

    โอ....แค่ความฝัน

    มันแค่ความฝัน  เธอไม่อยากกลับไปในฝันนั้น

    และไม่อยากให้ฝันเป็นจริง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×