คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 3
ชีคชาห์มา 3
ชาห์มากลับมาแล้ว เจ้าหญิงลาล่าห์รู้จากชีคมุสตาฟา คาลิฟาร์ นัจจาดีน พระสวามี ที่เปล่งเสียงหัวเราะในคอขำๆ เมื่อเธอทำท่างงๆ กับการกลับมาของบุตรชายที่เงียบเชียบเป็นอย่างยิ่ง
“หัวเราะเยาะกันหรือเพคะ”
“คิดไหมว่ากลับมาแล้วเก็บตัวเงียบ เจ้าตัวร้ายของเรากำลังทำเรื่องไม่ดี”
“นั่นซิเพคะ คิดแน่นอน”
ท่านชีคมุสตาฟา จึงแย้มพรายบอกต่อ “ตำหนักที่เชวู กำลังมีสิ่งก่อสร้างใหม่”
“อะไรเพคะ”
“กรงนก”
คำตอบนั้นทำให้เจ้าหญิงลาล่าห์ประหลาดใจเป็นอันมาก...กรงนก...ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบุตรชายชมชอบนก...
“นกหรือเพคะ”
“ใช่”
“เกิดอะไรขึ้น ไม่เคยรู้ว่าชาห์มาสนใจนกมาก่อนเลย”
ความจริงเป็นเช่นนั้น...
“นกเลิฟเบิร์ดหรือเพคะ”
มีแต่เสียงสรวล ดวงพักตร์แย้มยิ้ม จนเจ้าหญิงลาล่าห์กระตุกไหวในพระทัย ชะรอยคงไม่ใช่เรื่องดีนัก
“ไปดูเองดีกว่าไหม”
“ชาห์มาเหลวไหวกับแม่มาก ไปมาไม่เคยบอกกล่าว ตอนหนีไปอเมริกาหนนี้ก็ทำทีราวกับมีเรื่องร้อนรนต้องไปมากมาย พอจะมาก็ไม่บอกกล่าวกัน มาได้นานแค่ไหนแล้ว”
แม้เจ้าหญิงลาล่าห์จะเป็นฝ่ายใน แต่ทว่าเธอมีความสำคัญมากมาย....เธออยู่เบื้องหลังบัลลังก์ที่ชีคมุสตาฟา คาลิฟาร์ นัจจาดีนนั่งประทับ เธอยืนเคียงข้างพระสวามีในฐานะพระชายาที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว ไม่ค่อยจะเปิดตัวไปสู่สมาคมภายนอกมากนัก แต่หากการณ์ใดเป็นการกระทำเพื่อครอบครัว เพื่อประชาชน เธอไม่เคยนิ่งเฉย การทะนุบำรุง ผู้คนให้มีชีวิตที่ดี และไม่ขัดต่อหลักการความเชื่อทางศาสนา เจ้าหญิงลาล่าห์ไม่เคยหยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน ทั้งพระสวามีและลูกชายต่างพากันห้ามหลายหนเมื่อเธอทุ่มเทสุดกำลัง
เธอต้องการจะเห็นประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี...โดยเฉพาะในเรื่องการสาธารณสุข การศึกษา โดยที่พระสวามีทำหน้าที่ในการบริหารปกครอง...ดูแลด้านอื่น...แต่พระพลานามัยของพระสวามีก็ไม่สู้ปกตินัก ดีว่าคณะรัฐมนตรีเข้มแข็งและทำงานเต็มความสามารถ เจ้าชายหลายองค์ลูกพี่ลูกน้องล้วนแล้วแต่ปรองดองและช่วยกันเต็มกำลังเสมอมา
เจ้าหญิงสององค์ ...เจ้าหญิงญะมีนะห์เสกสมรสไปแล้ว แต่พระสวามีไม่ได้ขึ้นมาปกครองและไม่มีสิทธิ์ในบัลลังก์ แน่นอนว่าวันข้างหน้า ชาห์มาจะขึ้นครองบัลลังก์ของอิบบาห์ เชวู แต่ทว่าเขายังทำท่าทีเหมือนไม่ได้ใส่ใจ แม้พระบิดาจะล่วงเลยพระชนม์ไปหลายปีและมีอาการป่วยให้เห็นสม่ำเสมอ แต่ชีคหนุ่มก็มิได้ใส่ใจในเรื่องการขึ้นครองเป็นเจ้าเมือง...เหมือนไม่เห็นความสำคัญตรงนี้
ชาห์มาเหมือนหนุ่มเจ้าสำราญ เขามีงานของเขา...มีตำแหน่งหน้าที่ในบริษัทใหญ่ที่ควบคุมเรื่องพลังงานของอิบบาห์ เชวู เขาทำหน้าที่ตรงนั้น...มุ่งมั่น...พัฒนาในเรื่องการนำพลังงานธรรมชาติคือน้ำมันมาใช้และเขายังสนใจเกี่ยวกับการรักษาสภาพแวดล้อมด้วย
ปัญหาโลกร้อนในปัจจุบัน ทำให้เขายิ่งระวังในการใช้พลังงานน้ำมันอย่างถูกทาง
ชาห์มาเห็นด้วยกับการดูแลอุตสาหกรรมให้ปลอดภัย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม...โลกร้อนคือมหันตภัยที่น่ากลัว...มันจะเป็นความเลวร้ายของประชากรชาวโลกทั้งหมดที่ต้องรับมือ
เจ้าหญิงลาล่าห์เคยคุยกับเขา ได้ยินเขาบอกว่า
...ถึงวันนั้น จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน เราในฐานะที่มีทรัพยากรสำคัญของการผลิต ในวงอุตสาหกรรมต้องตระหนักรู้ข้อนี้ด้วย
โลกอุตสาหกรรมไปไวมาก มันเกือบจะแทนที่ภาคเกษตรกรรมได้ทั้งหมดทั่วโลก
ทำรายได้สูง เหมือนภาพลวงตาของการอยู่ดีกินดี
แต่ยามนี้ชาห์มาหันมาเลี้ยงนก...เขาเริ่มสนใจนก หรือนั่นเป็นเรื่องของการสร้างสิ่งแวดล้อม พระสวามีมีแต่เสียงสรวลพอพระทัย...
อะไรกัน...นกแบบไหน...
“ไข้หวัดนกคงไม่เกิดมังเพคะ เพราะอิบบาห์ เชวู มิใช่ภูมิภาคแถบหนาง”
แม้อากาศโดยรวมจะดี ด้วยมีดินแดนทั้งแถบทะเลทรายและทรายชายทะเลอยู่ติดๆ กัน แต่ก็มิใช่แถบหนาวที่ไข้หวัดนกมักจะมาเยือนอย่างรุนแรง...จนเป็นอีกโรคภัยของชาวโลก ที่เจ้าหญิงคิดว่าควรระวัง อิบบาห์ เชวู พยายามจัดการสาธารณสุขให้ปลอดภัย หวังว่าลูกชายของเธอคงไม่พาเอาเชื้อไข้หวัดนกติดมากับนกที่เขาจะเลี้ยง
แน่ละว่าดวงพักตร์ของพระสวามี เหมือนมีเลศนัย...ทำให้เจ้าหญิงลาล่าห์ร้อนพระทัย
“หม่อมฉันไปเสียวันนี้จะดีกว่า”
และพอขยับองค์ ที่ช่องประตูซึ่งมีผ้าม่านกำมะหยี่สีแดงเลือดหมู รวบชายด้วยเกลียวทองที่มีพู่เป็นแก้วคริสตัลหยดน้ำขนาดเท่ากับไข่นกกระจอกเทศรวบเอาไว้กับกรอบประตูห้องที่เป็นทองคำสุกปลั่ง ร่างของเจ้าหญิงองค์โตในชีค มุสตาฟา คาลิฟาร์ นัจจาดีนก็ปรากฏขึ้น
เจ้าหญิง ญะมีนะห์
“มาพอดี น้ากำลังจะออกไปพบชาห์มา”
“ชาห์มาหรือเพคะ” ถามกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มแปลกๆ
“มาอีกแล้ว เธอยิ้มได้เหมือนท่านพ่อของเธอนะ”
“เพคะ ท่านน้า เพราะหญิงกำลังมีเรื่องขำๆ และเรื่องขำไม่ออกพร้อมกัน”
“เรื่องขำๆ แบบไหน เกี่ยวกับชาห์มาหรือไม่”
“เพคะ ส่วนเรื่องขำไม่ออก เพราะไฟซาล ก็เห็นดีด้วยในการจะเลี้ยงนกแบบชาห์มาเพคะ”
เจ้าหญิงญะมีนะห์ ทูลฟ้อง ไฟซาลคือพระสวามี หล่อนเสกสมรสด้วยหลายปีผ่านมา มีโอรสธิดาเล็กๆ ด้วยกันสององค์
คำฟ้องกลายๆ นั้นทำให้เจ้าหญิงลาล่าห์ยิ่งตระหนักแน่ว่าการเลี้ยงนกนั้นย่อมจะไม่ธรรมดาเสียเป็นแน่ เห็นทีจะรอช้าไม่ได้อีกแล้ว เธอควรจะรีบไปที่ตำหนักซอฟิฮาห์ หรือสรวงสวรรค์ของบุตรชายได้แล้ว
ไปดูกับตาตัวเอง
“ญะมีนะห์ น้ากำลังจะไปที่ซอฟิฮาห์”
“เดี๋ยวนี้ไหมเพคะ”
“เดี๋ยวนี้ พ่อของเธอกำลังหัวเราะขบขันน้า ที่ทำให้น้าคิดว่ากรงนกของชาห์มาอาจจะมีอะไรที่พิสดาร”
“แน่นอนเพคะ ท่านน้า ทูลเชิญเสด็จเสียเลย เดี๋ยวระหว่างประทับบนรถ หญิงจะทูลเล่าให้ฟังเบื้องต้นเพคะ ไปถึงซอฟิฮาห์แล้วจะได้ร้อนพระทัยน้อยลง”
“ขนาดนั้นทีเดียวหรือ ร้อนใจทีเดียวหรือ ญะมีนะห์”
“เพคะ ท่านน้า...เพราะกรงนกที่ว่านั้นทำด้วยทองคำ”
ไม่แปลก...เจ้าหญิงลาล่าห์คิด แต่ที่แปลกคือคำบอกเล่าตามมา
“กรงนกแต่ละกรงสูงประมาณสองเมตร”
“สองเมตร...กรงใหญ่หรือ ญะมีนะห์ คงสั่งนกไว้หลายตัว”
“เฉพาะนกตัวเดียวเพคะ
“ตายจริง...ไหนว่าเลี้ยงเลิฟเบิร์ด เจ้านกพวกนั้นมันตัวจ้อยนี่นา”
เจ้าหญิงลาล่าห์รำพึง เคยเห็นนกเลิฟเบิร์ดสีสวยๆ...ตัวไม่ใหญ่เกินอุ้งมือโอบไว้ได้ แล้วทำไมกรงนกถึงสูงสองเมตร กรงนกทองคำ
“ชาห์มา สร้างกรงนกกี่กรง”
“เยอะเพคะ ท่านน้า...แล้วตอนนี้เขากำลังสั่งนกสาวเข้ามา นางนกสาวตัวนั้นเข้ามาแล้ว กำลังถูกส่งไปอบรมตัวให้เรียนรู้การอยู่ในกรงทองเพคะ”
“ญะมีนะห์ เจ้าพูดอะไร ยิ่งพูดน้ายิ่งงง ชาห์มาเลี้ยงนกหรือเลี้ยงอะไรกันแน่”
“นางนกไงเพคะ หญิงทูลท่านน้าไว้ก่อนจะตกใจ...เพราะชาห์มาตัวดี...เขาเป็นอะไรไปไม่รู้เพคะ วันก่อนหญิงตามไฟซาลไปพบกับเขาที่ตำหนัก เขาเย็นชา ทำเหมือนการพบหน้าผู้หญิงเป็นเรื่องที่ไม่พึงปรารถนา ตั้งแต่ไปอเมริกากลับมาหนนี้ หญิงอยากยืนยันว่าเขาไม่ค่อยเหมือนเดิมนะเพคะ”
เพราะปกตินั้นชาห์มาของท่านแม่หรือพี่ๆ เป็นชายหนุ่มอารมณ์ดี สนุกสนาน และอ่อนโยน...เกิดอะไรขึ้นก่อนที่เจ้าหญิงลาล่าห์จะสบตากับธิดาของพระสวามี
“หรือว่าอกหัก...”
ก่อนหน้ามีข่าวลือทำนองว่าชาห์มาจะพาหญิงต่างชาติมาเสกสมรสด้วย...แม้ชีคมุสตาฟา คาลิฟาร์ นัจจาดีนจะไม่เห็นด้วย แต่ชาห์มาก็ยังยืนยันจะเสกสมรสกับนางต่างชาติ ต่างศาสนาโดยมีข้อแม้ว่าเขาจะให้นางเปลี่ยนมานับถือศาสนาเดียวกับเขา
แล้วเกิดอะไรขึ้น
เจ้าหญิงลาล่าห์ถามกับพระธิดาของพระสวามี “ชาห์มากลับมาคนเดียวหรือไม่”
“คนเดียวเพคะ” คำตอบตรงกัน เหมือนเข้าใจในเรื่องเดียวกัน
“นกล่ะ มาจากไหน”
“สั่งตรงจากนอกบ้างเพคะ สั่งในนี้บ้างเพคะ”
“นกในอิบบาห์ เชวูหรือ”
“ได้เพคะ”
“มีด้วยหรือ นกพันธ์ไหน”
“ถึงจะต้องทูลเชิญท่านน้าไปทอดเนตรเองมังเพคะ”
หาดทรายเบื้องหน้านั้นคือทรายสีขาวสะอาด ท้องทะเลอยู่เวิ้งว้างถัดออกไปและต่อจากหาดทรายสุดทางเบื้องหน้าโน้นมีถนนที่ถมลงไปในทะเลเชื่อมแผ่นดินกับเกาะที่ก่อสร้างใหม่...เน้นว่าเกาะสร้างใหม่จากการถมขึ้นมาโดยการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ให้เป็นเกาะขนาดใหญ่พอจะรองรับอาคารสูงสี่สิบชั้นนั้นได้ อาคารที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเกาะเกิดใหม่...ฐานรากมั่นคง...เพราะการก่อสร้างเกาะใช้เงินจำนวนมาก ถมฐานรากด้วยหิน...ซีเมนต์...ทำตัวเกาะมั่นคง และยังทำหาดทรายโดยรอบเกาะ มีแนวป้องกันคลื่นใต้น้ำเบื้องล่าง..รองรับแม้กระทั่งแผ่นดินไหว
เวิ้งอ่าวที่เคยปรากฏการรุกรานของคลื่นลม เพราะผ่านดินแดนของอิบบาห์ เชวู ที่ติดทะเลด้านเมืองเชวูนี้ราวกับเสี้ยวพระจันทร์โค้ง...สองหาดตรงหัวอ่าวและท้ายอ่าวเหมือนปราการป้องคลื่นลมที่จะถาโถมเข้ามา
คลื่นจากมหาสมุทรอาจจะรุนแรง แต่ในอ่าวที่เป็นอ่าวย่อยๆ ของทะเลอันกว้างก็สงบพอ...
แม้ชาห์มาจะเคยหวั่นวิตกหลังจากการเกิดแผ่นดินไหวบ่อยหน การละลายของธารน้ำแข็งที่ขั้วโลก ละลายน้ำแข็งในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในอเมริกาเหนือและใต้ อัฟริกาใต้ ในเอเซีย หรือปีนี้ที่เขาเองยังไม่มีโอกาสไปเล่นสกี...เพราะน้ำแข็งไม่หนาพอ ยอดเขาหลายยอดปรากฏให้เห็นแนวพื้นดินสีน้ำตาล ไม่มีสีขาวของหิมะปกคลุม...กระทบกระเทือนกันไปทั่ว มีการเกิดคลื่นลมในมหาสมุทรใหญ่ๆ แม้แต่ในทะเลลึกๆ นักวิทยาศาสตร์กล้าทำนายแล้วว่าในสภาวการณ์แบบนี้ หายนะอาจจะเกิดได้ทุกเวลาไม่ต้องทอดเวลายาวนานไปอีกเป็นร้อยเป็นพันปีแล้ว
โลกโดนเร่งปฏิกิริยาจากคน แล้วสะท้อนกลับมาเป็นวงจรการทำลายล้างที่รุนแรง
แต่ชาห์มาก็คิดว่าสิ่งก่อสร้างที่ทำให้โรงแรมซีสตาร์ เด่นชัดคือพื้นที่รองรับที่เป็นแผ่นดินใหม่...
เขาชอบยืนมองซีสตาร์จากหาดทรายที่หน้าตำหนักนี้...
และตอนนี้ด้านขวามือของเขาคือสวนนกแห่งใหม่...
มุมของสวนนกกลางแจ้ง ที่กำลังจัดสวนปลูกต้นไม้ จัดแต่งภูมิทัศน์ ให้กรงขนาดใหญ่ที่ทำด้วยไม้เกลากลึงสลักเสลาได้เด่นตระหง่าน...
กรงนกทองคำไม่ได้อยู่ด้านนอกที่สวนนก
แต่อยู่ข้างใน...ภายในตำหนักมีการจัดทำสวนนก น้ำตก...สระน้ำ...กรงทองคำสิบสองกรงด้วยกัน...ได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย
นกกำลังถูกส่งเข้ามา...เขาเน้นหานกสตรี...สวย ผมสีแดง หากหามิได้ จะย้อมผมมาก็ย่อมได้...พวกนางจะต้องกรีดกราย ร่ายรำได้ ร้องเพลงได้
หน้าที่นี้ คนสนิทของเขา...สุไลมานได้จัดการผ่านไปยังญาวี้ด ที่เป็นหัวหน้าคนรับใช้ของตำหนักซอฟิฮาห์ ผู้รับผิดชอบทำให้ที่นี่เหมือนสรวงสวรรค์ เมื่อชีคหนุ่มมีดำริอยากเลี้ยงนก...ญาวี้ดย่อมจัดการรับคำสั่งนั้นไปจัดหา ดำเนินการคัดเลือกนก...
นางนกสตรีจะถูกส่งเข้ามาให้ดูตัว...
และหากพวกนางยังทำหน้าที่ไม่ได้สมกับค่าตัวแพงแสนแพงที่จะต้องจ่าย จะต้องมีการฝึกสอน
เน้นให้ร้องเพลงและเต้นรำ...
ชาห์มาไม่มีเหตุผลตรงนี้ และแน่นอนว่าสุไลมานไม่กล้าจะถาม แม้ญาวี้ดจะพยายามกระแซะถามอย่างมากว่าเพราะเหตุใดท่านชีคหนุ่มถึงชมชอบจะเลี้ยงนก
และเลี้ยงนกที่เป็นคน ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
นกสตรี...นกขนแดง...ก็ต้องย้อมผมบนหัวให้เป็นสีแดง...
ญาวี้ดถามติดตลกมาว่า
...จะต้องย้อมทั้งตัวพวกนางหรือไม่ ขนตามเนื้อตามตัว นอกจากผมบนหัวแล้วต้องเป็นสีแดงหรือไม่...
สุไลมานไม่สามารถตอบคำถามของญาวี้ดได้ ว่าเหตุใดชาห์มาต้องการเช่นนั้น
แม้อยากจะเดา แต่สุไลมานรู้ว่าบางเรื่องราวมิใช่กงการที่จะไปคาดเดาแทนคนเป็นนาย แม้พอจะรู้เลาๆ ในบางเรื่องราว แต่ในหน้าที่ที่ทำ สุไลมานเรียนรู้จะปิดปากตัวเองให้สนิทเรื่องเจ้านาย แล้วยังกำชับญาวี้ด...เพราะอารมณ์ของท่านชีคหนุ่มในช่วงนี้ไม่สู้จะปกตินัก
“แกอย่าไปรบกวนให้ท่านรำคาญ แกมีหน้าที่ใหม่เพิ่มอีกอย่าง คือดูแลพวกนกสาวๆ ให้พวกนางทำได้ตามท่านชีคต้องการ”
“เต้นรำกับร้องเพลง”
“หน้าที่ใหญ่ของแกเชียวนะ” สุไลมานกำชับ
ญาวี้ดอมยิ้ม ไม่ใหญ่ กะแค่ฝึกการร้องเพลงและเต้นรำให้พวกนาง เพื่อชีคท่านได้สำราญใจ
ญาวี้ดคิดว่าท่านชีคจะต้องแสวงหาความสำราญจากพวกนางนกสตรี เขาจะฝึกให้พวกนางเป็นทาสรับใช้ที่เพียบพร้อมบำเรอความสุขให้ท่านชีค กรงนกทั้งกรงไม้และกรงนกทองคำจึงถูกตกแต่งภายในกรงอย่างงดงาม...มีการลาดปูด้วยผ้าบุนวมนุ่มจะยืน จะนั่ง จะเต้นรำก็แสนสบายแถมยังทอดกายนอนได้...มีที่ใส่น้ำและอาหารไว้ในกรงสำหรับให้นางนกได้ดื่มกิน...นี่เขากำลังออกแบบเสื้อผ้าสำหรับนางนกเหล่านี้...
พวกนางกำลังทยอยเข้ามาเพื่อบำเรอความสุขแก่ท่านชีค
และชาห์มาได้ยินคำรายงานจากญาวี้ดแล้ว กรงนกพร้อม ขาดแต่นก...
แต่ไม่นานจะพร้อมบริบูรณ์
เขาเหยียดมุมปาก ...นับจากนี้ต่อไป...จะไม่มีสตรีคนใดมาทำให้เขาไหวหวั่น...อ่อนแอ แพ้พ่ายได้อีก...
เพราะเขาได้เลือกแล้ว
เขาเลือกจะ “กด” พวกนางให้มีค่าเป็นแค่นก
เป็นแค่สัตว์เลี้ยงที่เขาจะแสดงความเป็นเจ้าของ เป็นนาย...
นับจากนี้เขาจะไม่มีเสน่หาต่อนางคนไหน
พวกนางจะเป็นแค่ของเล่น....
ยามสนุก...ยามอารมณ์ปั่นป่วนที่จะระบายพรูพรั่งออกไป
แค่นั้น...
อย่าได้หมายเสน่หา
อย่าได้หมายความรัก
และอย่าได้หมายถึงหัวใจของเขาอีกด้วย
ชีคหนุ่มเดินเอามือไพล่หลังกลับจากหาดทรายสู่ทางเดินที่ตกแต่งด้วยต้นไม้งดงาม...และนั่น...เบื้องหน้าบนเทอเรสที่อยู่รอบตำหนักชอฟิฮาห์ด้านนี้ ปรากฏองค์ของเจ้าหญิงพระมารดา
เจ้าหญิงลาล่าห์
และเบื้องหลังไปเล็กน้อยคือเจ้าพี่ของเขา เจ้าหญิงญะมีนะห์
ชีคหนุ่มก้าวเร็วๆ เข้ามาคุกเข่าถวายคำนับลงทันที และโน้มเอามือของพระมารดามาจูบที่หลังมือก่อนจะจับมือนั้นวางบนศีรษะของเขาเอง
“ชาห์มา....แม่อยากรู้....”
“เรื่องนก?”
“นั่นไม่ใช่เรื่องแรกที่แม่อยากรู้ แต่ทำไมกลับบ้านแล้วไม่ไปเข้าเฝ้า”
“โอ....เจ้าแม่ กระหม่อมมีแต่เรื่องวุ่นๆ”
“เรื่องจะเลี้ยงนกหรือ”
“พะยะค่ะ”
“ชาห์มา...นก...ตัวเท่าใด ถึงสร้างกรงเสียใหญ่โตเพียงนั้น”
เขาสบกับดวงเนตรของพระมารดา ยิ้มละมุนบนริมฝีปากที่หนาแต่ได้รูป รอยหยักข้างบนให้เห็นว่าเป็นปากของผู้ชายเจ้าอารมณ์ รุนแรง...
“นางนก...ผู้หญิง...”
“ชาห์มา...ไม่ได้นะ ลูกจะกักขังพวกนางเป็นนกไม่ได้”
“ท่านแม่...ก็แค่ของเล่น”
เจ้าหญิงญะมีนะห์ที่ยืนนิ่งเฉยมาแต่แรกอดใจไม่ไหวอีกต่อไป “ชาห์มา...หากต้องการแค่ของเล่น...ก็สะสมไปซิ จะกี่คน...เป็นสิบเป็นร้อย...สร้างเรือนให้พวกนางได้อยู่ แต่ไม่ใช่ทำให้พวกนางเป็นนก เธอจะเสียหายได้นะ หากข่าวแพร่ออกไปว่าเธอจับพวกนางขังกรง...”
“กรงทองนะ เจ้าพี่”
“แต่ว่า...”
“ผมรับผิดชอบเอง” เขาขัดก่อนเจ้าหญิงญะมีนะห์จะเอ่ยได้จบ “ผมต้องการแบบนี้”
“เกิดอะไรกับลูก...หือ...ชาห์มา ลูกบอกเกริ่นกับแม่ก่อนไปอเมริกา เรื่องแต่งงาน”
ชีคหนุ่มหน้าเรียบเฉยสนิท เสียงตอบเรียบ เกือบจะกระด้าง “ไม่มีการแต่งงาน ไม่มีความรัก...นับจากนี้ ไม่มีเสน่หา”
“ชาห์มา....” เจ้าหญิงลาล่าห์เอนพระองค์เหมือนจะตกพระทัย เจ้าหญิงญะมีนะห์รับพระวรกายบอบบางนั้นเอาไว้ในอ้อมแขน “ไม่นะ ชาห์มา แม่ขอ...อย่าทำร้ายสตรี....อย่างไรพวกนางก็คน....หากผิดหวังมา ก็อย่าทำ...”
เขาไม่ตอบ...ทำหน้าเฉย
“ท่านแม่ทอดเนตรเห็นกรงทองแล้วใช่ไหม”
“แม่ไม่เห็นด้วย”
“พะยะค่ะ”
“หยุดนะ ลูก”
“กระหม่อมลั่นวาจาแล้ว ตัดสินใจไปแล้ว”
“ชาห์มา...บางเรื่องราว แม้จะลั่นวาจา ก็สามารถคืนคำนั้นได้ หากมันจะเป็นผลดีกลับมา”
“ไม่พะยะค่ะ” น้ำเสียงยังเรียบ “ทุกอย่างตระเตรียมหมดแล้ว”
“อา...ชาห์มา...นี่แม่จะต้องเห็นลูกเล่นบทผู้ชายใจร้ายหรือ”
ชีคหนุ่มมีคำตอบร่าเริงทันทีนี้ “เจ้าแม่ก็อย่าเสด็จมาซอฟิฮาห์ซิ...”
“แม่จะทำแบบนั้นได้อย่างไร ซอฟิฮาห์ เป็นตำหนักที่สวย...เหมาะสำหรับการพักผ่อน”
“เหมาะสำหรับการหาความสำราญของกระหม่อมด้วย”
ชีคหนุ่มเอ่ยต่อ “ดูเหมือนว่ากระหม่อมจะเป็นคนดีมานาน...มิเคยสะสม มิเคยแสวงหา สตรีนั้นกระหม่อมยกย่องเสมอ”
“ชาห์มา เกิดอะไรกับลูก...”
ชีคหนุ่มไม่ยอมตอบคำถามนั้น
“บอกแม่ได้ไหม”
เขายังปิดปากตัวเองเงียบ เจ้าหญิงญะมีนะห์ทูลกระซิบเบื้องหลัง
“เจ้าน้าเพคะ หม่อมฉันว่าชาห์มาจะต้องไล่ล่าผู้หญิงคนที่ทำให้เขาผิดหวังมาเป็นนางนกสักตัวในกรงทองแน่ๆ”
“ชาห์มา...แม่จะเจอกับนางคนนั้นด้วยไหม”
“นางคนไหนล่ะพะยะค่ะ”
“นางคนที่ทำให้ลูก...ลูก...” เจ้าหญิงลาล่าห์รับสั่งไม่เต็มโอษฐ์ “คนที่ทำให้ลูกเสียใจ”
แจ๊กเกอลีน ไฟเลอร์น่ะหรือ ...ชีคหนุ่มคิดหยัน ก่อนจะตอบห้วนๆ
“ไม่มีพะยะค่ะ ท่านแม่...เมื่อกระหม่อมหมดสิ้นปรารถนา....หมดทางเยียวยา มันไม่มีความอาลัย กระหม่อมส่งนางไปลงนรกแล้ว”
ความคิดเห็น