คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1
ชีคชาห์มา บทที่ 1
“ฉันตัดสินจะแต่งงานกับเขาแล้วค่ะ ชาห์มา เสียใจด้วยนะคะ”
นั่นคือคำบอกกล่าวมาทางโทรศัพท์ที่ทำให้ชีคหนุ่มเจียนคลั่ง อากาศร้อนพอแล้ว ปีนี้คลื่นร้อนรุนแรงมาก แผ่นดินกว้างใหญ่อย่างอเมริกาก็โดนผลกระทบรุนแรงไม่ว่าจะพายุทอร์นาโด ฝนกระหน่ำ พายุลูกเห็บและคลื่นร้อนที่เกินกว่าอากาศร้อนปกติ...ธรรมชาติแปรปรวนมากไปทั่วโลก เขาเคยรับรู้ เคยกังวล แต่ยามนี้ความร้อนทั้งหลายทั้งปวงนั้นยังไม่เท่ากับความร้อนในหัวใจที่ทำให้เขาคลั่งได้
มันมากมายกว่าหลายเท่านัก เป็นอากาศที่ทำให้เขาไม่สบายตัว มาตั้งแต่เช้า และพอตกบ่าย คำตอบที่เขารอคอยก็มาถึง คำตอบที่ทำให้เขาร้อนเหมือนโดนโยนเข้าไปในกองไฟ
“ฉันเลือกจะไปอยู่กับเขา ไม่แต่งงานกับคุณแล้วนะคะ”
หล่อนเลือกจะโทรศัพท์ตอบคำถามของเขา
ตอบคำขอแต่งงาน
น่าขันมาก ชีคหนุ่มยิ้มหยันกับตัวเอง เขาไม่อยากเชื่อว่าหล่อนจะใช้โทรศัพท์เป็นการให้คำตอบ
แจ๊กเกอลีน ไฟเลอร์ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา
หล่อนเลือกจะพูดให้คำตอบเขา หลังจากบ่ายเบี่ยงมาก่อนหน้า เขาได้เห็นร่องรอยบางอย่างอันนำไปสู่การจากพรากกัน แต่ไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นจริง อาจจะเพราะเขาหลงทระนงเกินไป อาจจะเพราะเขาเชื่อมั่นเกิน เสน่ห์แห่งตัวเขาไม่สามารถเกาะเกี่ยวร้อยรัดหัวใจของหล่อนเอาไว้ได้ หล่อนเลยเลือกจะปฏิเสธ
ชีคหนุ่มอย่างเขา ผู้ที่กวาดตาไปสบกับสาวใดในแผ่นดินของรัฐอิบบาห์ เซวู ฤาจะมีสาวใดปฏิเสธเขา
ชีคหนุ่มรัชทายาทของกองมรดกกลับถูกปฏิเสธ นี่หากรู้กันทั่วอิบบาห์ เซวู เขาจะมองหน้าใครได้...
เจ็บ...แค้นแน่นอก
“ตกลงคุณเลือกมันหรือ” ตั้งคำถาม แม้จะแปลบๆ เมื่อถาม ชีคหนุ่มข่มเสียงเยือกเย็น เขายังทระนงได้...เขาจะไม่แสดงอารมณ์ให้หล่อนได้ลำพองใจ...
คนอย่างชีคชาห์มาจอมทระนงจะต้องเข้มแข็งให้ได้แม้ยามโดนสตรีปฏิเสธ
มันไม่ใช่แค่การปฏิเสธ แต่มันคือการไม่ยอมรับ
ไม่คิดถึงความรักที่เขาเคยทุ่มเท เขาไม่อยากนึกถึงภาพความทรงจำอันน่าอาลัยอาวรณ์ ที่เคยมีระหว่างตัวเขากับตัวของแจ๊กเกอลีนเอาเสียเลย มันทำให้เขารู้สึกแย่...และยังพูดออกไปดังๆ กับใครไม่ได้เลย
“เขาเป็นคนดีค่ะ”
ชีคหนุ่มทำท่าหงุดหงิด แต่ทว่าหล่อนคงจะมองไม่เห็น เขาไม่ได้แค่หงุดหงิด แต่ยังเจ็บหัวใจอย่างมากอีกด้วย มากเสียจนเห็นได้ชัดกับการที่มือเขาสั่นจนแทบจะจับโทรศัพท์ไม่ได้มั่นคงในมือ...ชีคหนุ่มรับรู้ถึงความแตกสลายของอารมณ์ที่รับเองเกือบไม่ได้
“ฉันคิดว่าคุณคงจะอวยพรให้กับฉัน”
ยัยบ้าเอ๊ย...เขาคำรามในใจ เขาจะอวยพรได้อย่างไรกัน ในยามที่อารมณ์มันปั่นป่วนมากมายเช่นนี้ เขาไม่อาจจะเอ่ยคำใดได้
“ฉันอยากได้คำอวยพรของคุณ”
“ไปลงนรกซะ!
นรกของหล่อน...ชีคหนุ่มคำรามในคอกราดเกรี้ยว โทรศัพท์สีเงินปนดำเล็กบางที่มือของเขาสามารถกำได้มิดถูกโทสะอันรุนแรงที่กรุ่นอยู่ข้างในขว้างไปกระทบกับผนังกระจกที่กั้นแบ่งห้องพักนี้ออกจากกันระหว่างส่วนพักผ่อนกับส่วนที่เป็นห้องนอน...ตัวโทรศัพท์แม้จะทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน แต่แรงกระทบอันรุนแรงก็ทำให้มันกระเด็นแยกจากกันเป็นชิ้น ตัวเครื่องฝาเปิดหลุดไปทาง ตัวเครื่องไปอีกทาง ไส้ในที่เป็นแบตเตอรี่ก็ไปอีกทาง เขามองอย่างเย็นชา ไม่เสียดายของสักนิด เพราะราคาเครื่องรุ่นล่านี้หลายร้อยเหรียญ แถมยังเป็นรุ่นพิเศษมีเพชรประดับ ก็หาได้ทำให้เขาเสียดาย
เงินทองสำหรับเขาเป็นเรื่องเล็ก ชีคชาห์มารู้ในกองทรัพย์สินของตัวเองได้ดี ว่ามากมายมหาศาลแค่ไหน
รัฐเล็กๆที่มีรายได้จากน้ำมัน...มีเรื่องน้ำมันเป็นเรื่องกดดันชาวโลกได้...ประเทศที่มีน้ำมันในภาวะอุตสาหกรรมที่ทั่วโลกต้องการน้ำมันเพื่อไปใช้ในการผลิต เพื่อทำให้ชีวิตประจำวันของผู้คนสุขสบาย มีหรือจะไม่สามารถสร้างตัวได้ แม้ประเทศจะเพิ่งเกิดไม่นาน...การเกิดของรัฐเล็กๆ ในดินแดนทะเลทรายที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ หลายรัฐเกิดพร้อมกัน แยกตัวกันขึ้นมาปกครองโดยมีราชวงศ์ต่างๆ คุมประเทศ คุมการบริหาร
รัฐของเขาก็เช่นกัน อิบบาห์ เชวู ที่ติดกับทะเลทรายใหญ่นารูฮัลลาเพียงติ่งเสี้ยวเล็กๆ
ดินแดนทะเลทรายนารูฮัลลาที่ประชากรยังเบาบาง ยังสำรวจไม่ทั่วถึง แม้จะมีการปักปันเขตแดนแล้วก็ตามที เริ่มจากการที่เจ้าชายโมฮาและจามิล เจ้าชายแกะดำผู้ทิ้งศักดิ์ของตัว ไปสร้างเมืองใหม่ชื่อนาว์รา ในเวลาแค่สองปี นาว์ราที่ส่งออกดอกไม้งดงามกลิ่นหอม กลับเจริญขึ้นจนสามารถยกระดับเป็นรัฐอิสระ ไม่ขึ้นกับใครแม้แต่อารูก้า การเกิดขึ้นของนาว์ราในนารูฮัลลามีผลให้รัฐเล็กๆ โดยรอบทะเลทรายนั้นเข้าไปครอบครองดินแดนนารูฮัลลาและปักปันเขตแดนกันใหม่
รัฐอิสระถือกำเนิดขึ้น และรวมตัวกันด้วยเรื่องผลประโยชน์เรื่องน้ำมันที่ส่งออกสู่ตลาดโลก การประชุมหารือกันเรื่องน้ำมัน กำหนดยุทธศาสตร์น้ำมัน ราคา และพึ่งพาอาศัยในด้านเทคนิคแก่กัน
ที่บ้านเขาด้านหนึ่งติดกับนารูฮัลลา และยังมีทางออกทะเล
อิบบาห์ เชวูมีทะเลสวย...มีหาดงามที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ความตื่นตาตื่นใจของหาดทรายกับทะเลทรายเป็นสิ่งที่สวยงามสองอย่าง ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลไปที่นั่น
ตระกูลเขาเป็นผู้นำรัฐ เขาเป็นทายาทหนุ่มโดยตรงที่จะขึ้นสืบทอดต่อจากบิดา เจ้าชายพระบิดาเจ็บป่วยออดแอดมานานแต่กระนั้นเจ้าหญิงลาล่าห์ ที่เข้มแข็งและเฉลียวฉลาดก็สานต่ออยู่เบื้องหลังบัลลังก์เสมอมา...เจ้าหญิงลาล่าห์คือสายเลือดทะเลทรายที่เข้มข้นจากเผ่าโซแมคแดนไกลเร่ร่อน...
เจ้าหญิงมารดาของชีคหนุ่มที่มีพี่สาวผู้เคยเดินทางไกลออกจากเมืองไปอยู่ยังแผ่นดินกว้างใหญ่อย่างอเมริกามาก่อน
เจ้าหญิงอิมาน ก่อนเธอจะเดินทางกลับไปพัฒนาเผ่าโซแมค หลังจากที่เผ่าสามารถต่อรองกับรัฐอารูก้าได้ โซแมคก็เจริญมั่นคงอยู่ตรงชายแดนอารูก้า
เจ้าหญิงลาล่าห์ไม่ไปศึกษาต่อที่อเมริกาเหมือนพี่สาว เพราะชีคผู้บิดาได้เคยเสียใจแล้วเมื่อตอนเจ้าหญิงอิมานไปมีสัมพันธ์กับบุรุษหนุ่มที่ถูกเรียกว่าพวกดวงตาสีแปลก เพราะฉะนั้นจ้าหญิงลาล่าห์ถูกส่งตัวไปยังอิบบาห์ เชวูแทนตั้งแต่ยังสาวเพื่อเสกสมรสกับท่านมุสตาฟา คาลิฟาร์ นัจจาดีน บิดาของเขา และมีทายาทหนุ่มคือเขาคนเดียว
ชาห์มา
แต่ท่านชีคบิดาเคยมีเจ้าหญิงชายามาก่อนเจ้าหญิงลาล่าห์สองคน และมีแต่ธิดาสาว ที่ไม่มีสิทธิ์ในการขึ้นครองรัฐ เขาเองมีตำหนักหลังงามริมหาด เป็นตำหนักที่พำนักส่วนตัว ว่ากันว่าเอาไว้สำราญ แต่ทว่าเขาเคยอยากให้ตำหนัก เป็นที่พำนักของเขากับหญิงที่เขาจะเสกสมรสด้วย แจ๊กเกอลีน ไฟเลอร์ แต่หล่อนกำลังปฏิเสธเขา
หล่อนจะไปอยู่กินกับชายอื่น หล่อนเกิดการเปลี่ยนแปลง หล่อนอ้างว่าหล่อนจะไปอยู่ที่อิบบาห์ เซวูไม่ได้
เขาตระหนักนาทีนี้เอง...ตระหนักถึงคำเจ้าหญิงพระมารดา...เจ้าหญิงลาล่าห์เอ่ยเล่าเสมอว่า
...ชาห์มาเอย สตรีนั้นยากนักจะหยั่งในน้ำใจว่ารักเจ้าจริงหรือไม่ เมื่อนางเอ่ยคำว่ารัก นางก็คงรัก แต่รักของนางแอบซ่อนยาพิษไว้ในน้ำผึ้งหวาน เพราะนางจะถูกสะสมมาด้วยความหวาดระแวง สตรีไม่ได้นิ่งเฉยในความรักที่นางครอบครอง นางจะคิด และคิด ซอกแซก สงสัย จนบางทีทำให้ความรักเกิดริ้วรอย...
เขาเคยหัวเราะเมื่อแม่พูดอย่างนั้น ยังเคยย้อนถามว่าทำไมแม่พูดถึงผู้หญิงด้วยกันเสียจนเหมือนผู้หญิงหาดียาก
แต่แม่ยืนยันว่าแม่พูดความจริงเพื่อให้เขาได้ระลึกนึกรู้
...เมื่อนางไม่แน่ใจ นางจะถอยตัวออกห่าง นางจะไม่รักอีก แล้วนางจะตีตัวจาก เมื่อนางบอกว่าไม่รัก และจะไป นางพูดจริงทำจริง เวลานั้นคือเวลาที่นางไม่ได้ลังเลอีก...
แจ๊กเกอลีนไม่ได้ลังเลเลยกระมัง...
เจ็บอีกจนแน่นหน้าอกไปหมด นี่หากไม่ได้เพิ่งผ่านการตรวจร่างกายมา เขาจะต้องเชื่ออย่างแน่นอนว่าอาการแน่นหน้าอกนี้จะเป็นอาการของโรคหัวใจ
เขาไม่ได้เป็นโรคหัวใจทางการแพทย์
แต่เขากำลังเป็นโรคหัวใจ หัวใจจริงๆ ที่บาดเจ็บ
คนรับใช้เอาเครื่องดื่มมาให้...เพราะก่อนหน้านี้เขาเรียกหาเครื่องดื่ม พอถาดทองที่มีแก้วเจียระไนใบงามมีเม็ดคริสตัลละเอียดสีทองอยู่ตรงรอยต่อของตัวแก้ว ในแก้วบรรจุเครื่องดื่มสีแดงใส...แต่ยามนี้เหมือนสีเลือด...เขาปัดไปอย่างแรง
คนรับใช้ทำหน้าตาตื่น...เสียงแก้วกระทบพื้นที่เป็นหินอ่อน แก้วเนื้อดีนั้นยามตกกระทบของแข็ง เสียงแตกกระจายยังเป็นเสียงกังวานเหมือนเสียงเครื่องดนตรีที่กำลังเล่นทำนอง แต่เป็นทำนองของการแตกสลายยับเยิน
“โอ...ท่านขอรับ”
เขาไม่ได้สนใจ แต่ลุกเดิน...ย่ำลงไปบนแก้วที่แตกอยู่นั้นแม้จะมีรองเท้าแตะที่ทำด้วยผ้าไหมบุฟองน้ำนุ่มสวมอยู่
“ท่าน...” คนรับใช้เข้ามาเหมือนจะดึงเขาออก แต่ชีคหนุ่มปัดมือออกพร้อมกับเสียงตวาด
“อย่ามายุ่งกับเรา”
เขารู้สึกแปล๊บๆ ที่ฝ่าเท้า แก้วเจียระไนที่มีคมแข็งกว่าแก้วปกติทะลุผ่านรองเท้าไหมบุฟองน้ำนุ่มขึ้นมาทิ่มตำผิวเนื้อ
ดี...เจ็บเสียให้พอ เจ็บทั้งใจ เจ็บทั้งกาย และให้เลือดออกเสียบ้าง เขาสลัดรองเท้าทิ้ง เดินผ่านไปในถาดทองคำที่รองแก้วคริสตัลมา
ทิ้งรอยเลือดไว้ในถาดทองนั้น...มันเป็นรอยเลือดที่เขาเสียไป
ชีคหนุ่มหันกลับมาดู ก่อนจะบอกว่า “ส่งถาดทองรองเลือดของเราไปให้หล่อน”
คนรับใช้ทำหน้าฉงน “ส่งไปไหนขอรับ”
“ส่งไปให้หล่อน!” ชีคหนุ่มย้ำอีกหน “ส่งไปให้แจ๊กเกอลีน ไพเลอร์”
ร่างสูงหนาอีกร่างเข้ามา...บอดี้การ์ดของเขา...
“จัดการด้วย ส่งของนั่นไป”
เขาหมายถึงถาดทองในมือคนรับใช้ที่มีเลือดของเขา และรอยเท้า...ที่บัดนี้รอยเลือดนั้นยังเปื้อนบนหินอ่อน
“ไปให้หล่อนให้ได้ ในวันนี้!”
มิลานกำลังเอามือและแปรงผมรวบผมให้รวมกันแล้ววางแปรง มุ่นผมนั่นเข้าด้วยกันไว้ที่ท้ายทอยตรึงเอาไว้ด้วยที่เสียบรูปดอกไม้ ให้ผมสีแดงไม่กระจายล้อมดวงหน้า ผมสีแดงที่ทำให้ดวงหน้าขาวๆ ยิ่งดูขาวผ่อง...
ผมสีแดงที่เป็นสีผมแท้จริง มิได้เกิดจากการย้อมผมแต่อย่างใด หากแต่เป็นสีผมแท้ๆ ของครอบครัว มันตกทอดกันในสายเลือดหลายชั่วคน...ไม่ว่าจะหญิงหรือชายที่มีผมสีแดง...แดงเข้ม...
เส้นผมแดงที่ยิ่งกระทบแสงด้วยแล้วยิ่งส่องประกายสว่างจนดูเหมือนมีสีของเพลิงไฟอยู่บนศีรษะ มองเห็นแต่ไกล
และตอนที่กำลังตรึงผมด้วยเข้มเสียบรูปดอกไม้นั้น มีมือมาแตะ แล้วเอ่ยเบาๆ “พี่จะะช่วยติดให้”
มิลานเหลือบตาแหงนหน้ามองจากกระจกเงาเบื้องหน้า ยิ้มมุมปากจางๆ “พี่แจ๊กกี้”
ดวงหน้าของญาติสาวผู้พี่ไม่ค่อยจะดีนัก ดวงตาด้วยแล้วยิ่งดูแห้งแล้ง ช่างไม่เหมือนดวงตาของผู้หญิงที่เพิ่งตัดสินใจจะแต่งงาน
แจ๊กเกอลีน ไฟเลอร์ ตัดสินใจจะแต่งงานกับโจนาธาน ไบร์ท
เธอมองเห็นแหวนเพชรที่ส่องประกายบนนิ้วนางมือซ้ายของแจ๊กเกอลีน
แหวนของโจนาธาน แจ๊กเกอลีนบอกเธออาทิตย์ที่ผ่านมา
“พี่แจ๊กกี้ ทำไมทำท่าเศร้า”
“พี่เพิ่งทะเลาะกับเขา”
“โจนาธานหรือคะ”
“เปล่า เขา”
เขาไหน...มิลานทำท่างงๆ
“ชาห์มานะ”
“ใครนะคะ ชื่อแปลกจัง”
“ชาห์มา” เสียงบอกย้ำอีกหน ดวงตาเศร้าเหมือนมีน้ำตา พอแจ๊กเกอลีนช่วยกลัดตรึงผมเรียบร้อยแล้ว มิลานเป็นฝ่ายจับดวงหน้านั้น โดยจับที่ปลายคางเพื่อมองตรงๆ แจ๊กเกอลีนหรุบตาลงต่ำยิ่งแน่ชัดว่าหล่อนร้องไห้
“พี่แจ๊กกี้ เขาคือใคร”
“ท่านชีค”
“ชีคที่พี่แจ๊กกี้เคยเล่าว่ารักกัน?”
“ใช่”
“ก็ไหนป้าแคนดี้บอกว้าพี่แจ๊กกี้เลิกกับเขาแล้ว”
“เปล่า พี่ปิดแม่นะ มิลาน แม่ไม่เคยชอบเขา แม้เขาจะร่ำรวยล้นฟ้า”
“ทำไมคะ”
“แม่กลัวพี่จะไปลำบาก ไปอยู่ไกลมากถึงอิบบาห์ เซวู”
“อิบบาห์ เชวู ที่ไหนกันคะ หรือพวกกลุ่มตะวันออกกลาง ดินแดนทะเลทรายใช่ไหมคะ”
เธอถาม มิลานยอมรับว่ามีความรู้เพียงน้อยนิดเกี่ยวกับดินแดนทะเลทราย พวกอาหรับ กลุ่มตะวันออกกลางผู้ทรงอิทธิพลในด้านการค้าน้ำมัน แม้ว่าเพื่อนของเธอคนหนึ่งจะแต่งงานกับเจ้าชายที่มาจากดินแดนแถบนั้น ทุกวันนี้เธอยังจำชื่อเมืองที่เพื่อนสาวของเธอไปอยู่ไม่ได้
“อยู่แถวเวิ้งอ่าว...”
“ทะเลทรายติดทะเลด้วยหรือคะ”
“ใช่จ้ะ ที่นั่นมีบรรยากาศสองแบบ...อิบบาห์ เซวู มีเมืองหลวงชื่อทอร์ฮา...ตัวเชวูเป็นเมืองชายทะเล...ที่นั่นมีทั้งทะเลทรายและมีทะเลสีน้ำเงินใสและหาดทรายสีขาว...บรรยากาศสองแบบ”
“ก็คงจะร้อนมากใช่ไหมคะ”
“ไม่นะ...เพราะถัดจากทะเลไล่ไปในทะเลทราย...มันเป็นบ้านเมืองที่พัฒนา อิบบาห์ เชวู พบแหล่งน้ำมันมากมาย..”
“น้ำมันและน้ำมัน แบบนั้นใช่ไหมคะ แล้วยังไงต่อ ทำไมวันนี้พี่แจ๊กกี้ถึงมีน้ำตา”
“พี่โทรหาเขา”
มิลานนิ่งฟัง
“พี่ไม่กล้ากระทั่งจะพบหน้ากับเขานะ มิลาน”
“ทำไมคะ”
“พี่กลัวเขา เพราะพี่โทรไปปฏิเสธคำขอแต่งงานของเขา”
คำขอแต่งงาน
มิลานเบิกดวงตากว้าง “เขาขอพี่แต่งงานหรือคะ”
“ใช่”
“แล้วทำไมพี่แจ๊กกี้ปฏิเสธเขา” ก่อนจะนึกได้ มิลานถอนใจเพ่งมองแหวนเพชรที่โจนาธาน ไบร์ทเพิ่งมอบให้ “เข้าใจละ พี่แจ๊กกี้จะแต่งงานกับโจ แล้วเขาก็ถูกใจป้าแคนดี้ ส่วนพี่แจ๊กกี้เองคงจะเห็นด้วยกับป้าแคนดี้แล้วใช่ไหมคะว่าไม่ควรจะไปอยู่ไกลบ้าน”
“มิลาน...ถึงพี่จะแต่งงานกับโจ พี่ก็คงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้”
มิลานทำท่าตระหนก “หมายความว่าอย่างไรคะ”
“เขาอาจจะตามมา...”
“ตายจริง...ทำไมไม่เป็นลูกผู้ชายเลยคะ เลิกกันแล้ว ยังตามมาอีกทำไม...เลิกแล้วต่อกัน จากกันด้วยดี”
“ตะกี้ เขาไล่พี่ไปลงนรก”
“หยาบคาย” มิลานมีข้อสรุป ดึงพี่สาวลูกป้ามาสวมกอด บอกอ่อนโยน “อย่าร้องไห้ค่ะ”
เพราะน้ำใสในตาเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม เสียงของแจ๊กเกอลีนก็ยังสั่นเครือ “พี่รักเขานะ”
“อ้าว!” มิลานอุทาน “แล้วทำไมถึงยอมเลือกโจคะ”
“เพราะพี่คงไม่กล้าไปอยู่ที่อิบบาห์ เชวู ก่อนหน้านี้แม่เพิ่งเอาข่าวของหลานสาวเพื่อนที่แต่งงานกับหนุ่มตะวันออกกลางแล้วเจอเรื่องทารุณกรรม เจอเรื่องที่เข้ากับกฎประเพณีท้องถิ่นไม่ได้ แม่ไม่ได้พูดเรื่องนี้ครั้งแรก แล้วยังมีภาพยนตร์จากชีวิตจริงที่ออกฉาย มีแม่ม่ายอีกหลายคนที่เคยแต่งงานกับหนุ่มพวกนั้น แม่พาพี่ไปพบอยู่สองสามคนให้พี่ได้คุยด้วยตัวเอง ได้เห็นเรื่องจริงที่น่าตกใจ มันเลวร้ายมาก บาดแผลทางกายที่ได้กลับมาคงไม่เท่ากับทางใจ”
มิลานพูดไม่ออก เธอไม่เคยเห็นชีคหนุ่มคนนั้น เธอไม่รู้ว่าจะสรุปเรื่องนี้อย่างไร “พี่แจ๊กกี้เลือกแล้ว แน่ใจไหมคะ”
“แน่ใจอะไร”
“แน่ใจว่าหมดใจจากเขา”
“มิลาน” เสียงเรียกอ่อนระโหยทันที “ใจน่ะไม่เคยหมด...”
มิลานนิ่งฟัง
“เธอคงไม่รู้ เพราะเธอไม่มีชีวิตแบบพี่ เธอแสนดีเกินไป เธอยังผุดผ่อง...ไม่มีกระทั่งคนรัก”
มิลานหัวเราะร่าเริง
“เธอมัวแต่เรียนและบ้ากิจกรรม พอออกจากมหาวิทยาลัยเธอก็บ้าทำงาน เธอเคยสนใจผู้ชายคนไหนบ้างไหม”
“แหม...ต้องมีบ้างนะคะ แต่ไม่ได้สานต่ออะไร”
“เพราะฉะนั้นเธอไม่รู้หรอกว่าผู้ชายบางคนมีเสน่ห์แค่ไหน นอกจากเสน่ห์ที่เราได้เห็นด้วยตา ยังจะเสน่ห์เวลาเราได้แนบชิดก่ายกอดกับเขาอีก”
ฟังถึงตรงนี้มิลานทำหน้าขัดเขิน...
แจ๊กเกอลีนยังเอ่ยต่อ “เขาทำให้พี่หลอมละลายเหมือนขี้ผึ้ง เขาทำให้พี่แทบสำลักในความสุขยามที่เขาก่ายกอดด้วยเล่ห์เสน่หา ไม่เคยมีใครทำให้พี่เป็นสุขได้วิเศษเท่าเขา เสียดาย...พี่ไม่อาจจะรั้งเขาเอาไว้ได้ เพราะพี่ไม่อาจจะไปอยู่ยังดินแดนบ้านเกิดเขา และเมื่อเขากลับบ้าน พี่ไม่แน่ใจว่าเขาจะคืนสภาพเดิมหรือไม่...คืออาจจะเป็นผู้ชายทรงอำนาจเอาแต่ใจและมีสตรีอีกหลายคน เขาเป็นถึงท่านชีค เขาจะสร้างฮาเร็มที่มีผู้หญิงสักสิบหรือสักร้อยก็ได้ แล้วพี่จะต้องไปอยู่ในขนบของเขา คลุมหน้า ห่มผ้า อยู่แต่ข้างในไม่ได้ออกงานสังคม พี่ทนไม่ได้นะ มิลาน”
มิลานได้แต่ถอนใจ...ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมานอกจากนิ่งฟังและบอกได้ว่าหนักใจแทน
“พี่แจ๊กกี้จะต้องหนีจากเขาแน่แล้วใช่ไหม เมื่อปฏิเสธเขาแล้ว”
“เขาไล่พี่ไปลงนรก แต่ที่พี่จะไปคงไม่ใช่นรก โจนาธานจะได้ไปรับตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ที่บริษัทสาขาประเทศไทย”
“ไกลบ้านอยู่ดี”
“แต่พี่ว่าประเทศไทยคงน่าอยู่กว่าที่อิบบาห์ เชวู”
มิลานหลิ่วตาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า “ขอให้ชีคคนนั้นไม่ตามไปประเทศไทยนะคะ”
เธอลุกยืน จัดชุดเดรสแค่เข่าให้ดูเรียบร้อย แจ๊กเกอลีนทอดตามองด้วยความพอใจ
“สวยมาก มิลาน จะไปไหน”
“แองเจิ้ลจะบินกลับมาบ้าน ที่ไปอยู่ที่ไหนสักแห่งแถวตะวันออกกลาง ไม่เคยจำได้สักที” มิลานส่ายหน้าไปมาอย่างระอาตัวเอง “เราจะนัดคุยกัน แล้วน้องจะต้องแวะไปที่ผับด้วย...วันนี้วันศุกร์นะคะ น้องมีคิวร้องเพลง...แองเจิ้ลบอกว่าจะพาสามีที่เป็นร็อกเกอร์สตาร์คนดัง จามิลมาด้วยนะคะ น้องกับจามิลคลาดกันหลายหนแล้วทั้งที่น้องเองเป็นแฟนเพลงที่เหนียวแน่นของจามิล เพลงล่าสุดที่น้องเขียนเอง จามิลเขาชอบมาก...”
เธอสวมกอดกับแจ๊กเกอลีนแล้วขอตัวจะไป เธอลงจากอพาร์ตเมนต์ส่วนตัวในย่านชานเมืองที่หรูหรา แล้วพบว่ามีคนมาขอพบ เอ่ยเรียก
“มิส...”
เธอหันมา ดวงหน้าที่ล้อมด้วยผมสีแดงเกล้าเรียบบอกความพิศวงกับชายที่เห็น ชายชาวตะวันออกกลาง เธอนึกถึงแจ๊กเกอลีนทันทีด้วยความห่วงใย ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน
“ผมเอาของจากท่านชีคมามอบให้กับมิส”
เธอยืนนิ่งๆ และเธอคงจะต้องรับสมอ้างเป็นแจ๊กเกอลีน
“มิสแจ๊กเกอลีน?”
เธอทำหน้าเฉย พร้อมกับพยักหน้า ยื่นมือมารับ นึกถามตัวเอง
ระเบิดหรือไม่...
กล่องที่ยื่นมานั้นเปิด เธอมองเห็นสีทองๆ แว้บๆ เธอรับมา คงไม่มีระเบิดสีทอง
แล้วเธอพลันก้มดู ถาดทอง มีรอยสีแดงๆ มีลายๆ เหมือนลายเส้นขาดๆ แห้งกรัง...เธอมองอย่างพิศวง
“ท่านชีคฝากบอกว่าให้เอารอยเท้าท่านบนถาดทองมาให้มิสดูต่างหน้า”
มิลานตัวแข็งทื่อไปแล้ว
ความคิดเห็น