ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Full part 1
[Fic] HBD Jaejoong Oppa>< (2/3)
Title : A Millionaire's First Love
By : Zankung
Part 1
ฤดูหนาวในปารีสช่างหนาวเย็นจับใจ.... สองมือน้อยตระกองกอดตนเองเอาไว้เพื่อความอบอุ่น.... ร่างเล็กๆในซอกตึกหนึ่งกำลังสั่นเพราะความหนาวเย็นของแรงลม และหิมะที่ตกปรกคลุมเสียทุกส่วน... ลมหายใจอุ่นๆถูกปล่อยออกจากริมฝีปากบาง...
แม้ความหนาวจะทำร้ายร่างกายเขาได้....
แต่ยังไงในใจของเขาก็ยังอบอุ่นน่า.....
รอยยิ้มบางผุดขึ้นที่มุมปาก ก่อนมือเล็กๆที่สากแห้งเพราะความเย็นจะเริ่มทำหน้าที่ของมันต่อ.... รองเท้าหนังสีดำอย่างดีถูกขัดจนมันวาว โดยช่างขัดรองเท้าเร่ร่อนอย่าง ‘คิม แจจุง’
ไม่นานนักหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก็เสร็จสิ้นลง.... แจจุงยิ้มให้กับผลงานของตัวเอง รองเท้าหนังสีดำที่ได้มาจากคุณผู้ชายตัวสูงๆแต่งตัวเหมือนบอดี้การ์ดคนนั้น....
จะว่าไป ทำไมไม่มารับไปซักทีนะ?.....
ดวงตากลมโตจ้องมองรองเท้าตรงหน้าด้วยความฉงนสงสัย.... ก่อนจะเริ่มนึกย้อนไปเมื่อ 10นาทีที่แล้วมา.....
ชายร่างสูงในชุดสูทสีดำตัดจากผ้าอย่างดีที่ใส่แล้วท่าทางคงจะอุ่นไม่น้อย วางรองเท้าลงตรงหน้าของเขา..... ทำเอาแจจุงที่กำลังเก็บอุปกรณ์ขัดรองเท้าเตรียมจะกลับบ้านต้องเงยหน้าขึ้นมามอง....
“คุณผู้ชาย.....ต้องการจะขัดรองเท้ารึครับ?” ร่างบางเอ่ยอย่างสุภาพอ่อนน้อมเป็นภาษาถิ่น ชายตรงหน้าพยักหน้าน้อยๆรับคำ...
“อีก 5นาที ฉันจะมารับมันกลับไป....รีบๆขัดให้เสร็จล่ะ....” ร่างสูงเอ่ย ก่อนจะหันหลังกลับออกไปจากซอกตึก ที่ประจำการของแจจุง...
นี่ก็ผ่านมาตั้ง 10 นาทีแล้ว ทำไมยังไม่เห็นมีใครมารับรองเท่าราคาแพงนี่ซักที.... ว่าแล้วก็ปลายตามองรองเท้าคู่นั้น.... แจจุงนั่งขดอยู่ชิดกำแพง ดวงตาหวานช้ำจ้องมองทางเข้าอย่างไม่วางตา....
ทั้งที่คิดว่าวันนี้จะได้กลับบ้านเร็วๆแท้ๆ.....
ว่าจะอุ่นซุปที่เหลือจากเมื่อวานมากินให้มันอุ่นท้องเสียหน่อย....
กลับต้องมาเสียเวลาเพราะเจ้าของรองเท้าราคาแพงนี่ไม่ยอมมารับไปสักทีเนี่ยนะ!!!
แจจุงจ้องค้อนทางเข้าที รองเท้าทีอย่างหัวเสีย.... ก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงที่ดูติดจะรีบร้อนคนหนึ่งจะย่างสามขุมเข้ามาจากทางเข้าซอกตึกนั่น....
เพียงแค่สองสามก้าวก็ทำให้ร่างสูงคนนั้นมาหยุดอยู่หน้าช่างขัดรองเท้าหัวเสียคนนี้ได้แล้ว.... แจจุงสงบสติอารมณ์แล้วจึงใช้สัญชาตญาณความอ่อนน้อมเข้าสู้
“ท่านมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ?.....” แจจุงเอ่ยอย่างอ่อนน้อม....
ที่เขาพูดว่า ‘ท่าน’ นั้นไม่ผิดหรอก เพราะชายตรงหน้านี้ดูสง่าผ่าเผยเหลือเกิน.... ในหน้าที่ดูก็บ่งบอกได้ชัดว่าเป็นชาวเอเชียเช่นเขา ผมสีน้ำตาลอ่อนๆ ใบหน้าเคร่งขรึม กับแววตาแข็งกร้าวนั่นจ้องมองเขาอย่างไม่วาดตา จนแจจุงเริ่มรู้สึกว่าชายตรงหน้านี่ ‘น่ากลัว’
หมับ!
ทันใดนั้นเอง มือหนาที่ดูจะไม่เคยได้รับการทำงานหรือตรากตรำอะไรเลยก็จับหมับเข้าที่ต้นแขนของเขาเข้าอย่างจัง.... ครั้นแจจุงจะตะโกนอ้าปากร้องขอความช่วยเหลือก็โดนมืออีกข้างของชายหนุ่มตรงหน้าปิดปากไว้เสียสนิท....
ดวงตาคมประดุจดั่งพญาเหยี่ยวจ้องมองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาอันน่าเกรงขาม....
จนร่างบางนั่นจะหยุดดิ้นนั่นแหล่ะ ชายหนุ่มจึงยอมปล่อยให้เป็นอิสระ..... แต่จะเรียกว่าอิสระทีเดียวก็ไมได้ เพราะเขาแค่เอามือออกจากปากของร่างบาง และเลื่อนมือลงมาจับที่มือเพรียวแทนก็เท่านั้น.....
“นาย.....ไปกับชั้น.....”
ราวกับคำสั่งสวรรค์ เมื่อชายหนุ่มพูดจบช่างรองเท้าเร่ร่อน ก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยชายชุดดำนับสิบ.... ก่อนจะถูกลากออกไปจากซอกตึกนั้น....
.
.
.
.
เป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงที่ร่างบางนั่งหน้าตึงอยู่บนรถลีมูซีนคันโต โดยมีร่างสูงที่ใช้อิทธิพลของตัวลากเขามา แจจุงลอบมองร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆเขาเป็นระยะๆ และก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัวเสียด้วย...
“หน้าฉันมีอะไรติดอยู่รึไง?” ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบ.... ทำเอาคนตัวเล็กที่นั้นอยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะปล่อยหมัดลุนๆเข้าไป แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัว ร่างสูงใช้มือหนาปัดหมัดให้ไปอีกทางก่อนจะบีบข้อมือเล็กๆแน่น
“โอ้ย...เจ็บนะ!” แจจุงโอดครวญ
แต่ทว่าอีกฝ่ายทำไม่สนใจ เขาลดมือนั้นลงก่อนจะคลายความแน่นออก แต่ก็ยังกุมมือเล็กๆนั้นเอาไว้เพื่อป้องกับอันตรายแก่ตนเอง.... ดูก็รู้ว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆฤทธิ์มากขนาดไหน....
ร่างสูงปรายตามองคนตัวเล็กที่ขณะนี้เริ่มหมดฤทธิ์ ร่างบางนั่งพิงกับเบาะก่อนจะหลับตาลงราวกับคนที่ต้องการใช้ความอดทนอย่างสูง.....
“คุณ...เป็นใคร....” ริมฝีปากบางเอ่ยถาม
“มาเฟีย”
สั้น ง่าย ได้ใจความ.... ร่างข้างๆของแจจุงนี้ตอบได้อย่างไม่สะทกสะท้านแม้สักนิด ใบหน้าดุๆของเขาเรียบนิ่ง ดวงตาคมประดุจพญาเหนี่ยวยังคงทอดมองเส้นถนนตรงหน้าไม่วางตา....
แจจุงต้องหลับตาแล้วนับ1-10อีกครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์ตนเอง ร่างบางบอกให้ตัวเองใจเย็นๆก่อนจะไตร่ตรอง คำถามดีๆเพื่อถามร่างสูงอีกครั้ง....
“เอาอย่างนี้นะ....คุณชื่ออะไร....”
“ยุนโฮ....จองยุนโฮ.....”
“แล้วคุณจับผมมาทำไม!”
“เดี๋ยวก็รู้......แต่ช่วยเงียบๆก่อนจะได้ไหม?....มันน่ารำคาญ....”
จอง ยุนโฮ คนที่บอกว่าตัวเองเป็นมาเฟียคนนั้นตอบเสียงเรียบ....ทำเอาแจจุงเริ่มไม่วางใจในสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น..... เขาเลือกที่จะสะบัดมือออกจากการเกาะกุมอย่างแรง....
ทว่า....แจจุงหารู้ไม่ว่า การกระทำของเขาเป็นสิ่งผิดมหันต์!.....
มือหนาคว้าข้อมือเรียวแล้วกระชากเข้าหาตนอย่างแรง มือนั้นกำข้อมือเล็กแน่นจนแจจุงต้องนิ่วหน้าเพราะรู้สึกเจ็บปวดที่แขน
“เจ็บ......” แจจุงอุทานเบาๆ ก่อนดวงตาคมจะปรายมองคนตัวเล็กที่นั่งอยุ่ข้างๆ....
“ถ้าคุณไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่านี้ คุณควรจะนั่งดีๆนะคุณคิมแจจุง.....หรือว่าที่บ้านตระกูลคิมไม่เคยสอนมารยาทเมื่ออยู่ต่อหน้าหุ้นส่วนคนสำคัญ?”
“หา!!....หุ้นส่วน!...ม....หมายความว่าไง....ล..แล้วอีกอย่างฉันก็เป็นคนเร่ร่อนด้วย....ม...ไม่มีหรอกตระกูลอะไรที่คุณว่าน่ะ...ค...คุณจับคนผิดรึเปล่า?....”
แจจุงพูดตะกุกตะกักก่อนดวงหน้ามลจะแสร้งหันไปทางอื่น..... ขณะเดียวกับยุนโฮที่เลื่อนใบหน้าหาร่างบางให้มากที่สุด ตาคมจับจ้องราวกับจับผิดก็ไม่ปาน
“อืม....สงสัยจะจับคนผิดจริงๆ.....”
“ใช่ๆ....จับผิดแน่ๆ.....”
“คงงั้น...เพราะคุณคิม แจจุง ลูกชายมหาเศรษฐีคงไม่ยากจนขนาดต้องมาขัดรองเท้าหรอก....”
“ใช่เลย...ใช่...ถูกต้องที่สุด!!!” แจจุงสมทบ
“แล้วคุณคิม แจจุงก็คงไม่หน้าตามอมแมม และใส่เสื้อผ้าซอมซ่อขนาดนี้....คุณว่าจริงไหมครับคุณคิม แจจุง....”
“ใช่เลยถูกต้องที่สุด.....ยังไงฉันคนขัดรองเท้าจนๆคนนี้ก็ไม่มีทางเป็นคิม แจจุงคนนั้นได้หรอก....จริงมะ...”
“โกหก.....นายกำลังมีพิรุธ!!!”
อยู่ดีๆร่างสูงกตะโกนขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ..... ทำเอาร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆเกิดอาการสะดุ้งเฮือก ดวงตาคมราวกับเหยี่ยวกำลังจ้องมองเหยื่อปรายมอง คุณคนขัดรองเท้าที่มีเงินอยู่ในบัญชีเวลานี้มากกว่า 100,000,000 เหรียญสหรัฐฯ คนตัวเล็กเริ่มเห็นท่าไม่ดี มือเรียวๆเอื้อมมือไปที่ประตูหมายจะเปิดมันออก ทว่า!!....
มือหนาก็ตบตึงที่กระจกด้านข้างแจจุง คนตัวโตกำลังขัดขวางช่องทางเล็กๆที่จะทำให้เขาหนีไปได้!!!
“เอ่อ....ปล่อยฉันไปเถอะ.....นายก็รู้แล้วนี่?....ว่าฉันไม่ใช่คุณแจจุงอะไรนั่นน่ะ....” แม้ปากจะพูด แต่สายตากลับเบี่ยงความสนใจไปยังด้านอื่นมากกว่าจะหันมาสบตากับร่างสูงที่จ้องหน้าเขาอยู่ตอนนี้
“ถึงจะไม่ใช่แต่นายก็ต้องไปกับฉัน.....” ยุนโฮเอ่ยอย่างถือสิทธิ์
“ป...ไปทำอะไร!!...”
“ไปเป็นไม้กันหมาให้ฉันไงล่ะ........”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่นานนัก.... ลีมูซีนคันงามก็พาแจจุงและยุนโฮเข้าสู่อาณาบริเวณคฤหาสน์ ‘จอง’ อย่างสวัสดิ์ภาพ.... รถค่อยๆเคลื่อนตัวช้าลงในที่สุดก็หยุดนิ่งที่หน้าเรือนรับรองแขก ก่อนคนขับรถจะวิ่งกระวีกระวาดมาเปิดประตูให้
“เชิญครับ.....”
“ผมไม่ลง~!” แจจุงสะบัดหน้าใส่ชายผู้นั้น..... แล้วจึงหันมาตีค้อนให้ชายร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆแทน.....
“ไม่ลง?” ยุนโอถามเสียงเรียบ...
“คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งผม!....นี่มันเป็นสิทธิมนุษยชน!! ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่ลงจากรถของคุณ....และไม่ทำตามข้อเสนอบ้าๆนั่นด้วย!!!~”
“อ๋อหรอ....ดูเหมือนคนขัดรองอย่างนายจะรู้จักคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ เสียด้วย.....แต่รู้อะไรไหม.....สิ่งที่พวกมาเฟียเขาทำกันน่ะ.....”
ยุนโฮสาวเท้าเข้าไปใกล้ๆ คนขัดรองเท้าปากดี..... ใบหน้าคมค่อยๆลดลงมาจนอยุ่ห่างกันไม่ถึงเซน คนตัวเล็กพยายามเบียดตัวออกเพียงไรแต่ก้ไม่เป้นผล.... ยุนโฮมองดูลูกไก่ในกำมือสีหน้าเรียบเฉย....
“นายอยากจะเข้าไปดีๆ....หรือจะให้ฉันอุ้มเข้าไป?” เขาถาม
“ผมไม่เข้า!!!”
“ตอบอย่างนี้......” ไม่ทันจบคำแขนอันทรงพลังก็ช้อนร่างเล็กขึ้นมาพาดบ่า ก่อนจะกระซิบเบาๆที่ข้างหูของแจจุงว่า...
“ก้ท่าทางของนายมันฟ้อง....ว่าอยากให้ฉันอุ้มจนตัวสั่น”
“....ปล่อยผมนะ!!!...ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้!!!”
แจจุงทุบไหล่คนใจร้ายที่เดินดุ่มๆเข้าไปในเรือนรับรองของคฤหาสน์โดยมีเขาพาดบ่าเอาไว้ แค่เพียงได้ยินเสียงฝีเท้าอันทรงพลัง ทั้งคฤหาสน์ก้พร้อมใจกันหยุดการกระทำทุกสิ่งอย่าง แล้วก้มลงคำนับร่างสูงที่เดินเข้ามา....
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านขอรับ....นายท่าน.....”
น้ำเสียงปิติยินดีเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาจากทุกคนตรงหน้าทว่ากลับดังก้องไปทั่วทั้งคฤหาสน์ แววตาผู้ภักดีทั้งหลายสั่นระริกเมื่อเห็นเจ้านายของตัวอุ้มใครมาด้วย.... ก่อนจะมีผู้กล้าหาญชาญชัยเข้ามาเอ่ยถาม....
“สวัสดีขอรับนายท่าน.....”
“สวัสดีเฟรดดอริค”
ชายหนุ่มท่าทางปราดเปรียวที่มีนามว่า เฟรดดอริคค่อยๆย่อตัวคำนับยุนโฮอย่างน้อบน้อม ร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงให้ลุกขึ้นได้....
“ไม่ทราบว่า.....หญิงสาวท่านนี้คือใครขอรับ?” เฟรดดอริคว่าพลางชี้ไปทางแจจุง..... ส่งผลให้ ‘หญิงสาว’ท่านนั้น หันมาถลึงตาใส่
“ผมไม่ใช่ผู้หญิงครับ!!กรุณาพิจารณาให้ดีก่อนจะเอ่ยอะไรออกไปไม่อย่างนั้นปากคุณจะมีสี!!” แจจุงพูดรัวเป็นภาษาอังกฤษใส่ชายหนุ่มต่างชาติ ทำเอาเฟรดดอริคถึงกับผงะ... ทั้งที่หนุ่มหน้าสวยนี่หน้าตาท่าทางดูเอเชียแท้ๆ แต่ทำไม?.....
ไม่ใช่เพียงแค่หนุ่มชาวต่างชาติอย่างเฟรดดอริคที่ตกใจ...ยุนโอก็เช่นกัน.... ทั้งที่เมื่อครู่ร่างบางเพิ่งปฏิเสะว่าไม่ใช่คิม แจจุง คนนั้น....แต่ไอ้อาการที่เก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ ชอบพูดจาโพลงพลาง แถมทนไม่ได้ที่ใครจะมาชมว่า ‘สวย’ นั่น เป้นนิสัยของคิม แจจุง ผู้มีเงินในในบัญชีฝากเวลานี้มากกว่า 100,000,000 เหรียญสหรัฐฯ แท้ๆเลย
ยุนโฮยิ้มที่มุมปาก.... สิ่งที่เขามั่นใจว่าใช่.... บัดนี้ได้แสดงผลแน่ชัดแล้ว....
“ทุกคนจงฟัง!!!” ยุนโฮใช้เสียงทุ้มหนักเอ่ยบอกทุกคนที่อยุ่ในเรือนรับรองทั้งหมด.... ก่อนปล่ยอคนตัวเล็กลงให้เป็นอิสระ แต่ยังไม่ทันที่คนตัวเล้กจะได้ตั้งตัว มือหนาๆก็กระชับร่างบางเข้ามาใกล้
“ต่อจากนี้ไป....คนๆนี้....จะเป็นนายหญิงของที่นี่....ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป......”
...TBC...
คุยกันๆๆๆๆๆ
เรื่องนี้อาจจะจบไม่ทันวันเกิดมีแจ- -" ฮุฮุ งานรัดตัวมากกกก ใกล้งานวิชาการแล้วด้วยT T งุงิ ทำเกี่ยวกับนิตยาสารค่ะ^^ มีนิยาย+การ์ตูน ซานก้เขียนน้า แต่เป็นนิยายY - - ดราม่า+บับหัวใจ(มากๆ)
--- สำหรับตอนนี้เป็น Full Part 1 นะคะ ตอน สองจะมาลงภายในเร็ววันนี้แหล่ะ^^ ----
Title : A Millionaire's First Love
By : Zankung
Part 1
ฤดูหนาวในปารีสช่างหนาวเย็นจับใจ.... สองมือน้อยตระกองกอดตนเองเอาไว้เพื่อความอบอุ่น.... ร่างเล็กๆในซอกตึกหนึ่งกำลังสั่นเพราะความหนาวเย็นของแรงลม และหิมะที่ตกปรกคลุมเสียทุกส่วน... ลมหายใจอุ่นๆถูกปล่อยออกจากริมฝีปากบาง...
แม้ความหนาวจะทำร้ายร่างกายเขาได้....
แต่ยังไงในใจของเขาก็ยังอบอุ่นน่า.....
รอยยิ้มบางผุดขึ้นที่มุมปาก ก่อนมือเล็กๆที่สากแห้งเพราะความเย็นจะเริ่มทำหน้าที่ของมันต่อ.... รองเท้าหนังสีดำอย่างดีถูกขัดจนมันวาว โดยช่างขัดรองเท้าเร่ร่อนอย่าง ‘คิม แจจุง’
ไม่นานนักหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก็เสร็จสิ้นลง.... แจจุงยิ้มให้กับผลงานของตัวเอง รองเท้าหนังสีดำที่ได้มาจากคุณผู้ชายตัวสูงๆแต่งตัวเหมือนบอดี้การ์ดคนนั้น....
จะว่าไป ทำไมไม่มารับไปซักทีนะ?.....
ดวงตากลมโตจ้องมองรองเท้าตรงหน้าด้วยความฉงนสงสัย.... ก่อนจะเริ่มนึกย้อนไปเมื่อ 10นาทีที่แล้วมา.....
ชายร่างสูงในชุดสูทสีดำตัดจากผ้าอย่างดีที่ใส่แล้วท่าทางคงจะอุ่นไม่น้อย วางรองเท้าลงตรงหน้าของเขา..... ทำเอาแจจุงที่กำลังเก็บอุปกรณ์ขัดรองเท้าเตรียมจะกลับบ้านต้องเงยหน้าขึ้นมามอง....
“คุณผู้ชาย.....ต้องการจะขัดรองเท้ารึครับ?” ร่างบางเอ่ยอย่างสุภาพอ่อนน้อมเป็นภาษาถิ่น ชายตรงหน้าพยักหน้าน้อยๆรับคำ...
“อีก 5นาที ฉันจะมารับมันกลับไป....รีบๆขัดให้เสร็จล่ะ....” ร่างสูงเอ่ย ก่อนจะหันหลังกลับออกไปจากซอกตึก ที่ประจำการของแจจุง...
นี่ก็ผ่านมาตั้ง 10 นาทีแล้ว ทำไมยังไม่เห็นมีใครมารับรองเท่าราคาแพงนี่ซักที.... ว่าแล้วก็ปลายตามองรองเท้าคู่นั้น.... แจจุงนั่งขดอยู่ชิดกำแพง ดวงตาหวานช้ำจ้องมองทางเข้าอย่างไม่วางตา....
ทั้งที่คิดว่าวันนี้จะได้กลับบ้านเร็วๆแท้ๆ.....
ว่าจะอุ่นซุปที่เหลือจากเมื่อวานมากินให้มันอุ่นท้องเสียหน่อย....
กลับต้องมาเสียเวลาเพราะเจ้าของรองเท้าราคาแพงนี่ไม่ยอมมารับไปสักทีเนี่ยนะ!!!
แจจุงจ้องค้อนทางเข้าที รองเท้าทีอย่างหัวเสีย.... ก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงที่ดูติดจะรีบร้อนคนหนึ่งจะย่างสามขุมเข้ามาจากทางเข้าซอกตึกนั่น....
เพียงแค่สองสามก้าวก็ทำให้ร่างสูงคนนั้นมาหยุดอยู่หน้าช่างขัดรองเท้าหัวเสียคนนี้ได้แล้ว.... แจจุงสงบสติอารมณ์แล้วจึงใช้สัญชาตญาณความอ่อนน้อมเข้าสู้
“ท่านมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ?.....” แจจุงเอ่ยอย่างอ่อนน้อม....
ที่เขาพูดว่า ‘ท่าน’ นั้นไม่ผิดหรอก เพราะชายตรงหน้านี้ดูสง่าผ่าเผยเหลือเกิน.... ในหน้าที่ดูก็บ่งบอกได้ชัดว่าเป็นชาวเอเชียเช่นเขา ผมสีน้ำตาลอ่อนๆ ใบหน้าเคร่งขรึม กับแววตาแข็งกร้าวนั่นจ้องมองเขาอย่างไม่วาดตา จนแจจุงเริ่มรู้สึกว่าชายตรงหน้านี่ ‘น่ากลัว’
หมับ!
ทันใดนั้นเอง มือหนาที่ดูจะไม่เคยได้รับการทำงานหรือตรากตรำอะไรเลยก็จับหมับเข้าที่ต้นแขนของเขาเข้าอย่างจัง.... ครั้นแจจุงจะตะโกนอ้าปากร้องขอความช่วยเหลือก็โดนมืออีกข้างของชายหนุ่มตรงหน้าปิดปากไว้เสียสนิท....
ดวงตาคมประดุจดั่งพญาเหยี่ยวจ้องมองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาอันน่าเกรงขาม....
จนร่างบางนั่นจะหยุดดิ้นนั่นแหล่ะ ชายหนุ่มจึงยอมปล่อยให้เป็นอิสระ..... แต่จะเรียกว่าอิสระทีเดียวก็ไมได้ เพราะเขาแค่เอามือออกจากปากของร่างบาง และเลื่อนมือลงมาจับที่มือเพรียวแทนก็เท่านั้น.....
“นาย.....ไปกับชั้น.....”
ราวกับคำสั่งสวรรค์ เมื่อชายหนุ่มพูดจบช่างรองเท้าเร่ร่อน ก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยชายชุดดำนับสิบ.... ก่อนจะถูกลากออกไปจากซอกตึกนั้น....
.
.
.
.
เป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงที่ร่างบางนั่งหน้าตึงอยู่บนรถลีมูซีนคันโต โดยมีร่างสูงที่ใช้อิทธิพลของตัวลากเขามา แจจุงลอบมองร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆเขาเป็นระยะๆ และก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัวเสียด้วย...
“หน้าฉันมีอะไรติดอยู่รึไง?” ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบ.... ทำเอาคนตัวเล็กที่นั้นอยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะปล่อยหมัดลุนๆเข้าไป แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัว ร่างสูงใช้มือหนาปัดหมัดให้ไปอีกทางก่อนจะบีบข้อมือเล็กๆแน่น
“โอ้ย...เจ็บนะ!” แจจุงโอดครวญ
แต่ทว่าอีกฝ่ายทำไม่สนใจ เขาลดมือนั้นลงก่อนจะคลายความแน่นออก แต่ก็ยังกุมมือเล็กๆนั้นเอาไว้เพื่อป้องกับอันตรายแก่ตนเอง.... ดูก็รู้ว่าคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆฤทธิ์มากขนาดไหน....
ร่างสูงปรายตามองคนตัวเล็กที่ขณะนี้เริ่มหมดฤทธิ์ ร่างบางนั่งพิงกับเบาะก่อนจะหลับตาลงราวกับคนที่ต้องการใช้ความอดทนอย่างสูง.....
“คุณ...เป็นใคร....” ริมฝีปากบางเอ่ยถาม
“มาเฟีย”
สั้น ง่าย ได้ใจความ.... ร่างข้างๆของแจจุงนี้ตอบได้อย่างไม่สะทกสะท้านแม้สักนิด ใบหน้าดุๆของเขาเรียบนิ่ง ดวงตาคมประดุจพญาเหนี่ยวยังคงทอดมองเส้นถนนตรงหน้าไม่วางตา....
แจจุงต้องหลับตาแล้วนับ1-10อีกครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์ตนเอง ร่างบางบอกให้ตัวเองใจเย็นๆก่อนจะไตร่ตรอง คำถามดีๆเพื่อถามร่างสูงอีกครั้ง....
“เอาอย่างนี้นะ....คุณชื่ออะไร....”
“ยุนโฮ....จองยุนโฮ.....”
“แล้วคุณจับผมมาทำไม!”
“เดี๋ยวก็รู้......แต่ช่วยเงียบๆก่อนจะได้ไหม?....มันน่ารำคาญ....”
จอง ยุนโฮ คนที่บอกว่าตัวเองเป็นมาเฟียคนนั้นตอบเสียงเรียบ....ทำเอาแจจุงเริ่มไม่วางใจในสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น..... เขาเลือกที่จะสะบัดมือออกจากการเกาะกุมอย่างแรง....
ทว่า....แจจุงหารู้ไม่ว่า การกระทำของเขาเป็นสิ่งผิดมหันต์!.....
มือหนาคว้าข้อมือเรียวแล้วกระชากเข้าหาตนอย่างแรง มือนั้นกำข้อมือเล็กแน่นจนแจจุงต้องนิ่วหน้าเพราะรู้สึกเจ็บปวดที่แขน
“เจ็บ......” แจจุงอุทานเบาๆ ก่อนดวงตาคมจะปรายมองคนตัวเล็กที่นั่งอยุ่ข้างๆ....
“ถ้าคุณไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่านี้ คุณควรจะนั่งดีๆนะคุณคิมแจจุง.....หรือว่าที่บ้านตระกูลคิมไม่เคยสอนมารยาทเมื่ออยู่ต่อหน้าหุ้นส่วนคนสำคัญ?”
“หา!!....หุ้นส่วน!...ม....หมายความว่าไง....ล..แล้วอีกอย่างฉันก็เป็นคนเร่ร่อนด้วย....ม...ไม่มีหรอกตระกูลอะไรที่คุณว่าน่ะ...ค...คุณจับคนผิดรึเปล่า?....”
แจจุงพูดตะกุกตะกักก่อนดวงหน้ามลจะแสร้งหันไปทางอื่น..... ขณะเดียวกับยุนโฮที่เลื่อนใบหน้าหาร่างบางให้มากที่สุด ตาคมจับจ้องราวกับจับผิดก็ไม่ปาน
“อืม....สงสัยจะจับคนผิดจริงๆ.....”
“ใช่ๆ....จับผิดแน่ๆ.....”
“คงงั้น...เพราะคุณคิม แจจุง ลูกชายมหาเศรษฐีคงไม่ยากจนขนาดต้องมาขัดรองเท้าหรอก....”
“ใช่เลย...ใช่...ถูกต้องที่สุด!!!” แจจุงสมทบ
“แล้วคุณคิม แจจุงก็คงไม่หน้าตามอมแมม และใส่เสื้อผ้าซอมซ่อขนาดนี้....คุณว่าจริงไหมครับคุณคิม แจจุง....”
“ใช่เลยถูกต้องที่สุด.....ยังไงฉันคนขัดรองเท้าจนๆคนนี้ก็ไม่มีทางเป็นคิม แจจุงคนนั้นได้หรอก....จริงมะ...”
“โกหก.....นายกำลังมีพิรุธ!!!”
อยู่ดีๆร่างสูงกตะโกนขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ..... ทำเอาร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆเกิดอาการสะดุ้งเฮือก ดวงตาคมราวกับเหยี่ยวกำลังจ้องมองเหยื่อปรายมอง คุณคนขัดรองเท้าที่มีเงินอยู่ในบัญชีเวลานี้มากกว่า 100,000,000 เหรียญสหรัฐฯ คนตัวเล็กเริ่มเห็นท่าไม่ดี มือเรียวๆเอื้อมมือไปที่ประตูหมายจะเปิดมันออก ทว่า!!....
มือหนาก็ตบตึงที่กระจกด้านข้างแจจุง คนตัวโตกำลังขัดขวางช่องทางเล็กๆที่จะทำให้เขาหนีไปได้!!!
“เอ่อ....ปล่อยฉันไปเถอะ.....นายก็รู้แล้วนี่?....ว่าฉันไม่ใช่คุณแจจุงอะไรนั่นน่ะ....” แม้ปากจะพูด แต่สายตากลับเบี่ยงความสนใจไปยังด้านอื่นมากกว่าจะหันมาสบตากับร่างสูงที่จ้องหน้าเขาอยู่ตอนนี้
“ถึงจะไม่ใช่แต่นายก็ต้องไปกับฉัน.....” ยุนโฮเอ่ยอย่างถือสิทธิ์
“ป...ไปทำอะไร!!...”
“ไปเป็นไม้กันหมาให้ฉันไงล่ะ........”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่นานนัก.... ลีมูซีนคันงามก็พาแจจุงและยุนโฮเข้าสู่อาณาบริเวณคฤหาสน์ ‘จอง’ อย่างสวัสดิ์ภาพ.... รถค่อยๆเคลื่อนตัวช้าลงในที่สุดก็หยุดนิ่งที่หน้าเรือนรับรองแขก ก่อนคนขับรถจะวิ่งกระวีกระวาดมาเปิดประตูให้
“เชิญครับ.....”
“ผมไม่ลง~!” แจจุงสะบัดหน้าใส่ชายผู้นั้น..... แล้วจึงหันมาตีค้อนให้ชายร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆแทน.....
“ไม่ลง?” ยุนโอถามเสียงเรียบ...
“คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งผม!....นี่มันเป็นสิทธิมนุษยชน!! ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่ลงจากรถของคุณ....และไม่ทำตามข้อเสนอบ้าๆนั่นด้วย!!!~”
“อ๋อหรอ....ดูเหมือนคนขัดรองอย่างนายจะรู้จักคำว่า ‘สิทธิมนุษยชน’ เสียด้วย.....แต่รู้อะไรไหม.....สิ่งที่พวกมาเฟียเขาทำกันน่ะ.....”
ยุนโฮสาวเท้าเข้าไปใกล้ๆ คนขัดรองเท้าปากดี..... ใบหน้าคมค่อยๆลดลงมาจนอยุ่ห่างกันไม่ถึงเซน คนตัวเล็กพยายามเบียดตัวออกเพียงไรแต่ก้ไม่เป้นผล.... ยุนโฮมองดูลูกไก่ในกำมือสีหน้าเรียบเฉย....
“นายอยากจะเข้าไปดีๆ....หรือจะให้ฉันอุ้มเข้าไป?” เขาถาม
“ผมไม่เข้า!!!”
“ตอบอย่างนี้......” ไม่ทันจบคำแขนอันทรงพลังก็ช้อนร่างเล็กขึ้นมาพาดบ่า ก่อนจะกระซิบเบาๆที่ข้างหูของแจจุงว่า...
“ก้ท่าทางของนายมันฟ้อง....ว่าอยากให้ฉันอุ้มจนตัวสั่น”
“....ปล่อยผมนะ!!!...ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้!!!”
แจจุงทุบไหล่คนใจร้ายที่เดินดุ่มๆเข้าไปในเรือนรับรองของคฤหาสน์โดยมีเขาพาดบ่าเอาไว้ แค่เพียงได้ยินเสียงฝีเท้าอันทรงพลัง ทั้งคฤหาสน์ก้พร้อมใจกันหยุดการกระทำทุกสิ่งอย่าง แล้วก้มลงคำนับร่างสูงที่เดินเข้ามา....
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านขอรับ....นายท่าน.....”
น้ำเสียงปิติยินดีเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาจากทุกคนตรงหน้าทว่ากลับดังก้องไปทั่วทั้งคฤหาสน์ แววตาผู้ภักดีทั้งหลายสั่นระริกเมื่อเห็นเจ้านายของตัวอุ้มใครมาด้วย.... ก่อนจะมีผู้กล้าหาญชาญชัยเข้ามาเอ่ยถาม....
“สวัสดีขอรับนายท่าน.....”
“สวัสดีเฟรดดอริค”
ชายหนุ่มท่าทางปราดเปรียวที่มีนามว่า เฟรดดอริคค่อยๆย่อตัวคำนับยุนโฮอย่างน้อบน้อม ร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงให้ลุกขึ้นได้....
“ไม่ทราบว่า.....หญิงสาวท่านนี้คือใครขอรับ?” เฟรดดอริคว่าพลางชี้ไปทางแจจุง..... ส่งผลให้ ‘หญิงสาว’ท่านนั้น หันมาถลึงตาใส่
“ผมไม่ใช่ผู้หญิงครับ!!กรุณาพิจารณาให้ดีก่อนจะเอ่ยอะไรออกไปไม่อย่างนั้นปากคุณจะมีสี!!” แจจุงพูดรัวเป็นภาษาอังกฤษใส่ชายหนุ่มต่างชาติ ทำเอาเฟรดดอริคถึงกับผงะ... ทั้งที่หนุ่มหน้าสวยนี่หน้าตาท่าทางดูเอเชียแท้ๆ แต่ทำไม?.....
ไม่ใช่เพียงแค่หนุ่มชาวต่างชาติอย่างเฟรดดอริคที่ตกใจ...ยุนโอก็เช่นกัน.... ทั้งที่เมื่อครู่ร่างบางเพิ่งปฏิเสะว่าไม่ใช่คิม แจจุง คนนั้น....แต่ไอ้อาการที่เก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ ชอบพูดจาโพลงพลาง แถมทนไม่ได้ที่ใครจะมาชมว่า ‘สวย’ นั่น เป้นนิสัยของคิม แจจุง ผู้มีเงินในในบัญชีฝากเวลานี้มากกว่า 100,000,000 เหรียญสหรัฐฯ แท้ๆเลย
ยุนโฮยิ้มที่มุมปาก.... สิ่งที่เขามั่นใจว่าใช่.... บัดนี้ได้แสดงผลแน่ชัดแล้ว....
“ทุกคนจงฟัง!!!” ยุนโฮใช้เสียงทุ้มหนักเอ่ยบอกทุกคนที่อยุ่ในเรือนรับรองทั้งหมด.... ก่อนปล่ยอคนตัวเล็กลงให้เป็นอิสระ แต่ยังไม่ทันที่คนตัวเล้กจะได้ตั้งตัว มือหนาๆก็กระชับร่างบางเข้ามาใกล้
“ต่อจากนี้ไป....คนๆนี้....จะเป็นนายหญิงของที่นี่....ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป......”
...TBC...
คุยกันๆๆๆๆๆ
เรื่องนี้อาจจะจบไม่ทันวันเกิดมีแจ- -" ฮุฮุ งานรัดตัวมากกกก ใกล้งานวิชาการแล้วด้วยT T งุงิ ทำเกี่ยวกับนิตยาสารค่ะ^^ มีนิยาย+การ์ตูน ซานก้เขียนน้า แต่เป็นนิยายY - - ดราม่า+บับหัวใจ(มากๆ)
--- สำหรับตอนนี้เป็น Full Part 1 นะคะ ตอน สองจะมาลงภายในเร็ววันนี้แหล่ะ^^ ----
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น