คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ ๒ ความประทับใจ.....ที่ต้องหลีกหนี
ธีระดาที่วิ่งออกมาอย่างตกใจกับสิ่งที่เห็นเมื่อขึ้นรถได้ก็กรี๊ดลั่นรถทันที ร่างบางหน้าแดงด้วยความโมโหเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะซวยถึงขนาดไปเจอเรื่องแบบนี้จะๆกับตา แถมไอ้หื่นคนที่เห็นยังมีหน้ามายิ้มเยาะให้เธออีก
“บ้าเอ๊ย ทำไมไม่ไปทำกันในห้อง มาทำให้คนอื่นเห็น อุจาดตาที่สุด สาธุชาตินี้ขออย่าให้เจอะให้เจอผู้ชายบ้ากามคนนี้อีกเลย แล้วลูกจะถวายหัวหมูซักสองหัวเลย” ธีระดายกมือขึ้นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
“หึ ไม่รู้หลวงพ่อที่ตามคุ้มครองลูกหนีกระเจิดกระเจิงไปหรือยัง กลับมาหาลูกช้างตาดำๆก่อนนะค่ะ” ร่างเล็กยังคงพึมพำก่อนที่จะเคลื่อนรถเต่าคันเล็กที่ซื้อกับศิริษาออกไป
“ใครหว่า พราว อือ พราวไหนนะ” ว่าจะไม่คิดแต่ชื่อที่ทั้งสองเรียกมันช่างคุ้นหูเหลือเกิน ร่างเล็กรีบส่ายหน้าเพราะความคิดเริ่มจะเลยเถิดไปหาสิ่งที่เห็นมากับตาอีกแล้ว
“พรุ่งนี้ต้องลุกมาใส่บาตร กรวดน้ำให้ซะแล้ว อึ๊ย น่าเกลียดที่สุด”
ร่างเล็กที่กำลังก้าวเข้าไปนั่งที่โต๊ะประจำตำแหน่งก็ต้องหยุดชะงักเมื่อสงครามร้องเรียกมาแต่ไกล อยากจะด่าคนตัวโตซักนิดแต่ก็คงเหมือนเดิมเพราะอีกฝ่ายแค่รับปากแต่ไม่ได้ใส่ใจจะทำซักนิดเลย ดีเท่าไหร่ที่ยังเช้าและคนยังมาไม่เยอะไม่งั้นเธอจะคว้างแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะใส่หัวทุยซักที
“เจ้รู้ข่าวยัง” สงครามที่วิ่งมาถึงรีบถามคนตัวเล็กทันที
“ข่าวอะไร” หากก่อนที่สงครามจะพูดอะไร อีกสองเสียงที่แข่งกันวิ่งเข้ามาหาเธอก็ขัดขึ้นก่อน
“ข่าวเรื่องการเข้าถือหุ้นของโรงแรมเราไง” กาญจนารีบบอกก่อนจะแทรกเข้ามายืนตรงกลางกั้นสงครามกับธีระดา ตามด้วยฟ้าครามที่ดึงแขนของสงครามออกไปและตนเข้ามายืนแทนที่
“พี่ยังไม่รู้เลย แล้วเราได้ข่าวมาจากไหน” ธีระดาตอบลูกน้องที่ยืนกันหน้าสลอน ก่อนที่จะยกมือขึ้นโขกหัวเล็กของฟ้าครามไม่ได้
“ฟ้าว่าแล้วเจ้ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก โอ๊ยเจ้เขกมาได้” ฟ้าครามถอยหลังมายืนข้างหลังสงครามลูบหัวปรอยๆ หากเจ้าตัวยังอุตสาห์โผล่หน้ามาเล่าต่อเพราะกลัวคนอื่นจะเล่าก่อน
“ก็เรื่องผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่เข้ามาเทคโอเวอร์ไง วันนี้มั้งที่เขาจะประกาศให้คนอื่นรู้”
“โรงแรมไม่ได้ขาดทุนนิฟ้าแล้วคุณธำรงจะขายหุ้นทำไม” ธีระดาเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เห็นว่าคุณธำรงเอาเงินไปลงธุรกิจตัวอื่นด้วยแต่โชคไม่ดีมันไม่เวิกค์หมุนเงินไม่ทันจึงต้องขายหุ้นบางส่วนแต่ก็น่าจะเยอะอยู่ แต่คนที่เข้ามาเทคโอเวอร์นะไล่ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายอื่นด้วยรวมกับที่ซื้อกับคุณธำรงก็เลยกลายเป็นผู้ที่ถือหุ้นเยอะสุดไง แล้วรู้ไหมว่าใคร? หากอาการส่ายหน้าคือคำตอบ
“ก็ มิสเตอร์ ราฟาเอล ดิโอตินี่ เจ้าพ่อการโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกนั่นไง คนนี้แหละที่เข้ามาเทคโอเวอร์ต่อ และข่าววงในที่เรียกในสุดๆยังบอกมาอีกว่า กำลังคบหาดูใจกับคุณพราวพิลาสลูกสาวคุณธำรง หัวหน้าแผนกเรานี่แหละ” ประโยคหลังที่ดังแทบจะเป็นการกระซิบทำให้กาญจนาและสงครามก้มหัวเข้ามาใกล้ด้วย
“อือ งั้นก็ดีแล้วนิ โรงแรมก็เป็นของว่าที่ลูกเขย ก็ไม่ต้องเสียผลประโยชน์อะไร” ธีระดาบอกกับทุกคนก่อนจะไล่ให้ไปทำงาน “ไปแยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว ไม่งั้นงานเข้าแน่”
“จ้าไปแล้ว” พูดจบสองหญิงกับหนึ่งชายก็แยกย้ายกันไปทำงานทันที ธีระดาส่ายหัวอย่างเอ็นดูก่อนจะนั่งโต๊ะทำงานที่ยังค้างไว้ไม่ได้สนใจอะไรอีกเลย หากแต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ธีระดาล่ะสายตาจากคอมพิวเตอร์
“ค่ะคุณพราว”
“คุณซ้องมาหาพราวที่ห้องหน่อยค่ะ”
“ได้ค่ะ” หลังวางสายร่างเล็กจึงลุกขึ้นก่อนจะคว้าแฟ้มงานที่เพิ่งทำเสร็จเข้าไปให้พราวพิลาสพิจารณาด้วย ร่างบางเคาะประตูก่อนที่จะเปิดเข้าไปทันทีตามความเคยชิน หากแต่ต้องนิ่งค้างเมื่อเห็นว่าเจ้านายสาวกำลังมีแขกและถ้าจะเป็นแขกสำคัญด้วยเพราะจากสภาพที่ทั้งสองกำลังกกกอดซุกซบกันอยู่ พราวพิลาสรีบถอยออกจากร่างหนาของราฟาเอลทันทีอย่างกระดากอายต่างกับฝ่ายชายที่ออกจะเฉยเมย หากแต่แววตาคมกริบกลับปรากฎแววประหลาดคล้ายจำเหตุการณ์แบบนี้ได้
“ขะ ขอโทษค่ะไม่คิดว่าคุณพราวมีแขก” ธีระดารีบก้มหน้าก่อนที่จะกล่าวขอโทษผู้เป็นเจ้านาย
“ทีหลังก็รอให้อนุญาตก่อนค่อยเข้ามา ไม่ใช่ทะเล่อทะล่าเข้ามาแบบนี้” เสียงเรียบอย่างตำหนิสำเนียงไทยเกือบเป๊ะทำให้ธีระดาเงยหน้าขึ้นมองทันที หน้าใสเรียบตึงขึ้นอย่างเริ่มมีโมโห ปากบางเม้มแน่น ก่อนจะก้มหน้าหลับตาสงบอารมณ์ที่เริ่มจะครุกกรุ่น
“ค่ะทีหลังดิฉันจะระวัง” ธีระดาเอ่ยบอกเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปทางเจ้านายสาวที่ตอนนี้นั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่
“ราฟารอพราวแป๊บนะค่ะ เดี่ยวพราวขอคุยงานกับคุณซ้องก่อน” พราวพิลาสรีบบอกราฟาเอลอย่างเอาใจเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของราฟาเอล
“โอเคพราวทำงานเลยครับ เดียวผมรอ” ราฟาเอลบอกอีกฝ่ายให้เบาใจก่อนจะเดินไปนั่งรอที่โซฟาตัวใหญ่ ร่างสูงทอดสายตามองสองร่างที่กำลังคุยงานกันอยู่ เขายอมรับว่าพราวพิลาสเป็นผู้หญิงอีกคนที่เขาติดใจ หล่อนต่างจากคนอื่นที่มีดีทั้งหน้าตา ฐานะ และความฉลาด หากเขาต้องการใครซักคนที่จะควงออกหน้าออกตาก็น่าจะเป็นพราวพิลาสนี่แหละ เหมาะสมทุกอย่าง ณ ตอนนี้ หากสายตาที่กำลังมองพิมพิลาสกลับเปลี่ยนเป้าหมายไปยังผู้หญิงอีกคนที่ตอนนี้กำลังยืนรอเอกสารที่พราวพิลาสกำลังดูอยู่ ดวงหน้ารูปไข่ ใบหน้าใสกิ๊ก ไหนจะปากจิ้มลิ้มที่ตอนนี้เม้มไว้แน่น ร่างบางในชุดเสื้อเชิต์กางเกงขายาวทำให้เหมือนกับผู้หญิงทำงานทั่วไป ส่วนเว้าส่วนโค้งก็พอดีตัว แต่ก็แตกต่างจากผู้หญิงทุกคนที่เขาควงเพราะอย่างเขานั้นต้องเนื้อ นม ไข่ เท่านั้น เต็มไม้เต็มมือดี ส่วนผู้หญิงคนนี้ตัวเล็กไป ตาคมที่กำลังกวาดสายตาประเมินคนตัวเล็กกลับต้องแปลกใจเมื่อคนตัวเล็กหันมามองตนพร้อมถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ ปากเล็กบ่นพึมพำก่อนจะตัดสินใจนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานพราวพิลาสแทนและหันหลังให้เขา
ธีระดายิ้มรับแฟ้มงานจากพราวพิลาสก่อนจะก้มหัวให้เจ้านายสาวเดินออกจากห้องไปไม่ได้สนใจอีกคนที่นั่งอยู่ในห้องซักนิด ร่างเล็กที่หอบแฟ้มงานมาวางที่โต๊ะดวงตาครุกกรุ่นก่อนจะหันไปหากาญจนาที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ
“กาญ เที่ยงแล้วไปทานข้าวกันพี่เลี้ยง ชวนฟ้ากับครามด้วย” ธีระดาบอกกับรุ่นน้องสาวและนั่งรอจนกระทั้งทุกคนเดินมาก่อนที่เดินออกจากออฟฟิศไป หากขณะที่รอลิพท์อยู่พราวพิลาสและราฟาเอลที่กำลังจะออกไปทานข้าวเที่ยงก็เดินเข้ามา
“ลงลิพท์ไปด้วยกันซิ” พราวพิลาสเอ่ยชวนสี่หน่อที่ยืนรอลิพท์อยู่ เพราะแยกเป็นลิพท์พนักงานและผู้บริหารอย่างชัดเจน
“ไม่เป็นไรค่ะคุณพราวไปเถอะ เดียวลิพท์ก็มาแล้ว” ธีระดาส่งยิ้มให้เจ้านายสาวก่อนจะเอ่ยปากบอก หากแต่พราวพิลาสกลับไม่ยอม
“ลิพท์ช่วงนี้เต็มตลอดแหละ ลงไปพร้อมพราวดีกว่า ไปค่ะ” พูดจบพราวพิลาสก็เดินเข้าลิพท์ที่ราฟาเอลกดค้างไว้รอ ธีระดาหันมามองหน้ารุ่นน้องหากอาการพยักหน้ารับทำให้ธีระดาก้าวเข้าลิพท์ไปอย่างอึดอัด ร่างเล็กรีบเดินเข้าไปยืนมุมในสุดตามด้วยรุ่นน้องหนุ่มที่เดินเข้ามายืนข้างๆตามฟ้าครามกับกาญจนาที่เดินเข้ามายืนด้วย
“อ้าวเลยเข้าไปยืนกระจุกอยู่มุมเดียวเลย ดูซิคุณซ้องอึดอัดแย่” พราวพิลาสอดที่หัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นอาการเกร็งของแต่ล่ะคนที่แทบจะยืนอัดลูกพี่สาวเข้ามุมอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรครับ แบบนี้ก็อบอุ่นดี” สงครามรีบบอกทันที ยิ่งเห็นสายตาคมของราฟาเอลยิ่งอึดอัดคิดในใจว่า กูไม่น่าเข้ามาเล๊ยยย พอถึงชั้นหนึ่งทุกคนก็แถบจะปล่อยลมหายใจโล่งอก หันไปขอบคุณเจ้านายสาวและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโรงแรม
“ขอบคุณค่ะ/ครับ” สามคนที่เดินออกจากลิพท์ไปทันทีปล่อยให้ลูกพี่สาวที่ตอนนี้ถูกอัดอยู่ที่มุมลิพท์ขยับตัวอย่างไม่ถนัดไว้ ธีระดารีบหันไปขอบคุณพราวพิลาสและเดินตามสามหน่อที่เพิ่งคิดได้ว่าอัดลูกพี่เข้ามุมไว้รีบวิ่งกับมาประคองคนตัวเล็กที่เดินกระเผลกเพราะเจ็บเท้าจากอาการตกใจของสงครามและเผลอชนตนจนเท้าแทบจะพลิกดีที่เกาะผนังลิพท์ไว้ทันไม่งั้นคงขาแพลงแน่นอน
“เจ้เป็นไงบ้าง เค้าขอโทษนะ” สงครามทำหน้าจ๋อย
“ด่ามันเลยเจ้ โทษฐานที่ทำเจ้เจ็บ” สองสาวที่เข้าประคองร่างบางรีบบอกธีระดาทันที “เป็นผู้ชายซะเปล่า”
“หยุดเลยนะ หุบปากไปเลย” สงครามรีบห้ามสองสาวที่กำลังจะใส่ไฟให้อย่างต่อเนื่อง หากก่อนที่สงครามจะลุกลามไปมากกว่านี้ ธีระดาจึงรีบห้ามทัพก่อน
“หยุดทะเลาะกันเลยนะ เจ้านายก็อยู่ใกล้ๆไหนจะลูกค้าอีก ถึงเราจะอยู่ด้านหลังแต่หากมีลูกค้ามาเจอมันจะเสียภาพลักษณ์ของโรงแรม ไปหาข้าวกินได้แล้วไปเอาตังค์ไปและก็หาอะไรมาให้พี่กินด้วย”
“เจ้ไม่ไปเหรอ” สามหน่ออุทานพร้อมกัน
“ไม่ไหวเจ็บขา เดียวจะไปห้องพยาบาลก่อน”
“งั้นเราไปวันหลังก็ได้” กาญจนารีบบอกธีระดา ส่วนฟ้าครามและสงครามก็รีบพยักหน้าเห็นด้วย
“ไม่ต้องหรอก โอกาศหน้าค่อยไปก็ได้ เดียวทั้งสามคนไปกินข้าวไม่ต้องห่วงพี่แค่นี้เองพี่ไปห้องพยาบาลเองได้ อย่าลืมหาอะไรกลับมาให้พี่กินด้วย” ร่างเล็กไล่รุ่นน้องที่ยืนสลอนกันอยู่กว่าที่ทั้งสามจะยอมไปก็ต้องเสียเวลาพูดอีกหลายประโยค เมื่อจำนนต่อเหตุผลทั้งสามจึงออกไปทานข้าวเที่ยง ส่วนธีระดาที่ตอนนี้นั่งพักเท้าเก้าอี้ใกล้ๆก็ค่อยๆลุกเพื่อไปห้องพยาบาล หากเท้าเล็กที่กำลังก้าวเดินมีอันต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงของใครอีกคนมายืนรอลิพท์ หากแต่ก็ไม่ได้คิดจะสนใจจนกระทั้งได้ยินเสียงเรียกจึงหันไปมอง หากแต่คนตัวโตที่ยืนอยู่ในลิพท์ทำให้ธีระดาหันมองรอบๆตัวว่าเขาเรียกใคร
“เธอนั่นแหละ รีบเข้ามาซิ” ราฟาเอลบอกร่างเล็กอย่างรำคาญเมื่อเห็นอาการเหรอหราของอีกฝ่าย หากไม่ติดว่าลืมของไว้ข้างบนและวันนี้ไม่ได้ให้บอดิการ์ดตามมาด้วยเขาก็คงไม่ต้องกลับมาเอาเองแบบนี้หรอก
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” ธีระดาที่รับรู้ถึงอาการไม่พอใจจากคนตัวโตจึงตอบกลับและหันหน้าหนีอีกฝ่าย
“จะอะไรกันนักกันหนา แค่ขึ้นลิพท์ไปมันไม่ตายหรอก” ราฟาเอลที่ตอนนี้เริ่มออกอาการโมโหกับคนเล่นตัว
“ค่ะขึ้นลิพท์ไม่ตาย แต่ถ้าต้องไปกับคุณน่าจะขาดอากาศหายใจตาย” ธีระดาเอ่ยบอกกับราฟาเอล หน้าเรียบตึงอย่างไม่พอใจ หากแต่อาการที่ยังสำรวมขณะโต้ตอบทำให้ราฟาเอลแทบจะขยำร่างเล็ก หากแต่ก็ไม่เร็วเท่าคนขาเจ็บที่ตอนนี้เดินเข้าไปในลิพท์และกดปิดไม่สนใจว่าอีกคนจะโมโหมากขนาดไหน
“โธ่โว๊ย” ราฟาเอลที่ยืนโมโหเดินเข้ามาในลิพท์และกดแผงลิพท์อย่างโมโห “อย่าให้เจออีกนะ” ราฟาเอลเดินเข้ามาในห้องที่ทางโรงแรมจัดไว้สำหรับเขาอย่างโมโห มือหนาเดินไปคว้าโทรศัพท์เครื่องบางที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะกดเบอร์หาปลายทางทันที
“ลุคซ์ฉันอยากได้ข้อมูลของคนนายหามาให้ฉันด่วน”
“บอสอยากได้ประวัติใครหรือครับ”ลุคซ์รีบถามทันทีเพราะฟังจากน้ำเสียงแล้วนายหนุ่มน่าจะโมโหอยู่
“ธีระดา พนักงานฝ่ายออแกไนส์ของโรงแรมนี้”
“ผู้หญิงคนใหม่ของบอสหรือครับ” ลุคซ์ถามกลับมาเพราะหากเป็นชื่อผู้หญิงก็น่าจะเป็นสาวที่เจ้านายหนุ่มอยากได้มานอนด้วย
“ไม่ใช่ นายหามาเถอะน่า ให้ได้ก่อนบ่ายนี้” ราฟาเอลบอกอย่างอารมณ์เสียเมื่อลูกน้องจะมายัดเยียดผู้หญิงหน้าตาธรรมดาแถมปากคอจัดจ้านมาให้
“อ้อครับ เดี่ยวผมเอาเข้าไปให้” ลุคซ์วางสายจากเจ้านายหนุ่มอย่างงุนงง เพราะราฟาเอลไปหาพราวพิลาสคู่ควงคนล่าสุดแต่กลับให้หาข้อมูลของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แถมผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ที่โรงแรม และแผนกเดียวกันกับพราวพิลาสอีกด้วย หากแต่เมื่อได้รับคำสั่งก็ต้องทำตามร่างหนาจึงกดโทรศัพท์หาคนที่จะจัดการเรื่องนี้ทันที
ความคิดเห็น