ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Narcissu เศร้าเล้าน้ำตา

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 50


    Chapter 2

    Silver Coupe

    16 มกราคม 2005

    ณ ชั้น 7

    หลายวันต่อมา เข้าสู่ช่วงกลางของฤดูหนาว ระหว่างนี้ ใครๆรู้กันดีว่าถึงเวลา 'สอบ'

    แต่ 'เรา' ทั้งคู่ ยังคงนั่งอยู่หน้าทีวี.....เหมือนเช่นเคย...

    "น่าเบื่อจริงๆเลย..." คำนี้แทบจะเป็นคำพูดประจำตัวผมซะแล้ว

    "...........นั่นสิ........" น่าจะเป็นคำพูดประจำตัวเธอเช่นกัน

    ผมรู้...การพูดกันแบบนี้ไม่เรียกว่าการสนทนา และมันก็เป็นสิ่งที่เราทำเพื่อฆ่าเวลาในแต่ละวันนอกเหนือจากการดูทีวี

    โดยไม่มีความหมายหรือจุดประสงค์ใดๆ

    "บอกผมหน่อยนะ วันนั้นที่คุณพูดถึง คือวันไหน?"

    "........วันนี้..."

    "อืม วันนี้สินะ"

    คำว่า 'วันนี้' หมายถึงวันที่ครอบครัวเธอจะมารับกลับไปที่บ้านเป็นการชั่วคราว เธอได้บอกไว้ก่อนหน้านั้น ผมว่ามันเร็วกว่าที่คิด

    ".....งั้น.....เราคงจะไม่ได้เจอใครอีกแล้ว....."

    "หือ? ใช่ ผมก็ว่างั้น" เพราะว่าเธอเคยไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้จึงเป็นครั้งสุดท้าย....ผมก็เช่นเดียวกัน เมื่อถึงเวลานั้นของผม....

    แต่มันไม่สามารถกะได้ว่า เวลานั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ ผมจึงสามารถเจอคนอื่นๆได้อีก ถ้าผมต้องการ

    "...เธอ.....เลือกไว้หรือยัง?..."

    "เกี่ยวกับ ที่ๆผมจะตาย?"

    "...อืม..."

    "ไม่....ยังเลย"

    ".... ... ...อืม..." เธอก้มศีรษะลง ท่าทางเศร้านิดๆ มันแสดงถึงความรู้สึกของคนที่ไปจากห้องนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว

    ผมยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์นี้เลย ผมยังไม่เคย ได้ยินหมอพูดถึงเกี่ยวกับการออกจากโรงพยาบาล....ของผม...

    ลองคิดดู...ผมยังสงสัยถึงการตัดสินใจของเซตสึมิ คำตอบของเธอ.....น่าจะเป็นที่ไหน.....

    'ก๊อก ก๊อก ก๊อก' เสียงรองเท้า

    "เซตสึมิ ทุกอย่างพร้อมแล้วจ้ะ" ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาทางเราพร้อมกับพูดขึ้น

    ดูเหมือนจะเป็นแม่ของเซตสึมิ เธอพยักหน้าให้ผมเล็กน้อย ผมไม่ได้ลุกขึ้น

    "พวกเราจะไปกันแล้วนะ ลูกพร้อมรึยัง?"

    ".......ค่ะ"

    "เอ่อ ขอให้โชคดีนะครับ" ผมรู้สึกว่าคำนี้...เป็นการลาจาก

    เธอพยักหน้าให้ผมอีกครั้งหนึ่ง และกำลังจะออกจากห้องนี้ เธอยื่นมือให้กับหญิงสาวซึ่งดูเหมือนเป็นลูกสาวของเธอ

    "....... ......"

    แต่...หญิงสาวผู้นั้น ไม่ขยับตัวเลย เธอนั่งอยู่เฉยที่เก้าอี้ จนแม่ของเธอจับมือเธอไว้

    "เกิดอะไรขึ้น เซตสิมิ??"

    "....มันเจ็บ....นิดๆ..."

    "อะไรนะลูก? ที่ไหน?? หน้าอกเหรอ? หรือว่าเจ็บท้อง?"

    ".....อก....มันเจ็บ...ที่ในอก...."

    "ย....อยู่ตรงนี้ก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่จะเรียกหมอให้ทันทีเลย"

    เธอรีบเดินกลับไป ขณะที่ใส่รองเท้าแตะผู้มาเยี่ยม ตรงไปยังสถานีพยาบาล

    ขณะนี้มีเพียงสองสิ่งในห้อง....ผม กับ เธอ...ที่นั่งบนเก้าอี้

    ผมไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโรคที่เธอเป็นอยู่ และสถานการณ์ในตอนนี้ สิ่งที่ผมรู้คือข้อมูลที่ปลอกข้อมือของเธอ

    เธอชื่อ 'เซตสึมิ' หมู่เลือด O เราอาศัยอยู่ในห้องชั้น 7 ของโรงพยาบาล.....และเธออายุมากกว่าผมเล็กน้อย

    "เอ่อ คุณต้องการจะนอนที่ตรงนั้นจนกว่าหมอจะมามั้ย?" ผมชี้ไปที่มุมของห้อง มีเตียงอยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งผมไม่เคยใช้เลย

    "มันจะช่วยคุณได้นะ" อย่างน้อยผมก็น่าจะทำอะไรให้เธอได้บ้าง

    "..... ..... ..... ..... ....." เธอเงียบไป ก่อนจะพูดว่า ".....ไม่เป็นไรหรอก.....ดีขึ้นแล้วล่ะ....." แล้วเธอก็ลุกขึ้น

    "เฮ้...เดี๋ยวสิ...อย่าทำอะไรโง่ๆน่า......" แต่เธอลงไปยังทางเดินข้างล่างเรียบร้อยแล้วก่อนผมจะพูดจบ

    คืนนั้น....หลังแสงอาทิตย์ตกดิน

    ด้วยความเบื่อจากการอ่านหนังสือการ์ตูน เช่นเคย

    ผมเดินเล่นไปเรื่อยๆรอบโรงพยาบาลอันมืดครึ้ม และมาหยุดที่เดิม....ในห้องประจำ....

    ผมมองไปยังจุดเมื่อคราวที่แล้ว...และ..........ผมได้เห็นเธอยืนอยู่......

    "ค.....คุณยังอยู่ที่นี่เหรอ?"

    "...อืม..."

    "ทำไมล่ะ? รู้สึกดีขึ้นมั้ย?"

    "......ไม่หรอก...." เธอตอบเหมือนเดิม ขณะที่มองออกไปนอกหน้าต่าง

    นั่นหมายความว่า...กำหนดการณ์ออกจากโรงพยาบาลชั่วคราวของเธอ ได้เลื่อนออกไป...

    ไม่มีใครรู้ว่า เมื่อไหร่มันจะกลับมาอีก แต่ที่แน่ๆ มันคงกินเวลาเป็นสัปดาห์...ไม่ใช่เป็นวัน

    "เป็นไปได้ไหม? ที่เธอแกล้งทำเป็นป่วย วันนี้น่ะ?"

    "..... ..... ..... ..... ....."

    ไม่สิ...คงจะไม่ใช่คำถามที่ดีนัก น่าจะเป็นว่า พวกเรา 'ไม่ได้' ป่วย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

    "ถ้าผมพูดอย่างนี้ล่ะ......คุณไม่ได้ต้องการที่จะออกจากโรงพยาบาลนี้....ใช่มั้ย?"

    ".....ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดถึงอะไร..."

    "เพราะว่า มันไม่มีคำว่า 'ทีหลัง' สำหรับคุณอีกแล้ว"

    "..... ..... ..... ..... ....." ไม่มีคำตอบจากความเงียบของเธอ

    เธอเคยถามผมหลายครั้งเกี่ยวกับสถานที่ๆผมเลือกไว้เมื่อจะต้องตาย และมันก็จะจบลงที่ว่า

    ผมยังไม่ได้เลือกไว้ และเธอ....ซึ่งไม่ต้องการจะตายที่บ้าน หรือ ที่ชั้น 7 นี้

    "ถ้างั้นคุณ ไม่มีที่ไหนที่จะไปแล้ว"

    ".......และ......อะไรต่อล่ะ?"

    "อะ เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก" เหมือนเธอต้องการจะให้ผมพูดต่อ แต่ผมไม่รู้อะไรจริงๆ...

    ห้องนั่งเล่น....ที่เต็มไปด้วยความมืด

    ท่าทางของเธอ...ที่มองออกไปนอกหน้าต่าง เหมือนจะไม่ค่อยยอมรับในการยืนยันชีวิตของผม...

    เราเรียกที่นี่ว่า "โรงพยาบาล" แต่ไร้ซึ่งแสงไฟ ทั้งๆที่เวลา 5 ทุ่ม....

    มันเป็นเหมือนจุดสำผัสวงกลม ระหว่าง เรื่องปกติ และไม่ปกติ

    ชั้นบนของโรงพยาบาล เราอาศัยอยู่ในชั้น 7 หมดหนทางที่จะช่วยใครสักคน จากการตายที่ชั้น 7 หรือที่บ้าน....

    โลกภายนอก ที่เธอกำลังมองดู จากที่ประจำในห้องชั้น 7 โลกธรรมดา

    ตึกและบ้านทุกหลังยังคงสว่างโชติช่วงด้วยแสงไฟ และถนนซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังกลับบ้าน

    และแม้ว่าสิ่งที่ผมรู้ในตอนนี้ ยังลางเลือน

    อยู่ในห้องพัก ชั้น7 ด้วยการมีชีวิตอยู่ที่ไม่ปกติ

    คงจะไม่นานสำหรับผมที่จะต้องกลับไปยังโลกภายนอกนั้น

    'เวลาของผม ยังคงทรงตัวอยู่ต่อไป'

    ตลอดหลายฤดูที่ผ่านมา ผมใช้เวลาในแต่ละวัน.....

    อย่างแรก ผมมองลงไปยังชั้นล่าง ดูพวกเด็กๆที่ร่าเริงแจ่มใส สุขภาพดี เดินทางไปโรงเรียนกัน และผู้คนที่ผ่านไปมาตามถนน

    เมื่อเริ่มเมื่อยจากการยืนมอง ผมก็เดินไปนั่งอยู่หน้าทีวี

    ไม่มีอะไรทำ ไม่มีอะไรที่ผม'สามารถ'ทำได้

    เวลาที่หิมะตก นอกหน้าต่าง

    จะเป็นเวลาที่แดดออก และท้องฟ้าสว่าง ในหน้าจอทีวี....

    โลกแห่งความฝัน ที่ถูกปรับแต่งก่อนที่ผมจะได้เห็น

    ไร้ซึ่งความร้อน ไร้ซึ่งความหนาว ไร้ซึ่งความปวดร้าว

    ผมพยายามปลอบโยนจินตนาการของตนเอง

    แล้วผมก็ได้รวบรวมความรู้อันมากมายที่ละเล็กทีละน้อย แต่มันไร้ซึ่งความหมายสำหรับผม

    และก่อนที่ผมจะรู้...ไม่มีสิ่งใดที่เป็นความจริงจากในทีวีเครื่องนั้นเลย

    สิ่งที่จะตามมา มันมักจะเกิดขึ้นกับ หนังสือ เกมส์ และครอบครัวของผม

    สุดท้าย ผมก็ไม่สามารถค้นหาความจริงของตัวผมเองได้ เช่นเดียวกับที่ผมกำลังมองดูเรื่องราวในชีวิตของคนอื่น

    นั่นเป็นเหตุผล....ที่ผมไม่รู้สึกอะไร เมื่อรู้ว่าพวกเขาส่งผมมาอยู่ที่ 'ชั้น7' แห่งนี้...

    แต่เมื่อผมหลับตาลง...โลกทุกอย่างก็อันตรธานหายไปหมดสิ้น

    ดังนั้นผมจึงคิดว่า คงจะไม่เป็นไร และผมจะทำในสิ่งที่ผมคิด

    และอีกหน่อย....การออกจากโรงพยาบาล...เป็นครั้งที่สอง....ของผม.....

    การเข้ามาในโรงพยาบาลครั้งต่อไป ผมคงจะอ่อนแอเกินกว่า ที่จะยืนหยัดชีวิตของผมต่อไปได้

    ผมพบว่าตัวเองนั้น ผู้ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย และ 'เธอ' ซึ่งก็พบแล้วเช่นกัน

    ผมพบว่าตัวเอง ผู้ที่ไม่มีความชัดเจน ไร้ซึ่งจุดหมาย เป็นที่น่าหัวเราสำหรับใครหลายคน

    19 มกราคม 2005

    ณ โรงพยาบาล

    ไม่กี่วันต่อมา เมฆอันมืดครึ้มก็เริ่มจางหายไป และท้องฟ้าฤดูหนาวที่ดูจะไม่มีวันหมดไป ก็ได้กลับไปยังที่ๆมันมาแล้ว

    ในวันนี้ ผมแปลกใจมาก พ่อของผมมาเยี่ยมผมที่โรงพยาบาล

    ตลอดเวลา....เราคุยกันในห้องรับแขกชั้นล่าง ซึ่งผมยากที่จะเข้าใจความรู้สึกจากสีหน้าของท่าน

    พ่อพูดถึงเรื่อง อะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับ......ความรับรอง.....ในตัวผม

    อย่างไรก็ตาม พ่อทำหน้าตาที่ผมรู้ได้เลยว่า ท่านไม่มีความสุข

    "พ่อต้องไปคุยกับหมอก่อนนะ..." พูดจบ เขาก็ออกไป

    ผมว่าพวกเขาคงปรึกษากันในเรื่องที่ได้เกิดขึ้นกับผมในวันนี้...

    ตอนนี้ห้องเหลือแต่ความว่างเปล่า...เช่นเคย ไม่มีอะไรทำ ผมจึงไปหยิบนิตยสารประจำสัปดาห์ที่พวกเขานำมาส่งในห้อง

    ซึ่งจะตามมาด้วยตะกร้าใส่ผลไม้ เครื่องดื่ม และของขวัญเล็กๆน้อยๆเสมอ...

    ผมมองดู...แตงโมชิ้นที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่...แต่...ผมมองดูสิ่งที่วางอยู่ข้างๆ......

    สิ่งที่ผมเห็น...คือ 'กุญแจรถยนต์'

    "อะ....." ผมอุทานเมื่อเห็นกุญแจสะท้อนแสงสีเงิน มันเป็นกุญแจที่พ่อของผมภูมิใจ และชอบมันมาก

    รถสีเงินคันนั้น....คันที่พ่อทุ่มเทแรงเงินและแรงกายในการตกแต่งภายนอก

    รถสีเงินคันนั้น....คันที่ผมเคยขอยืมพ่อขับเมื่อนานมาแล้ว....ซึ่งคำตอบที่ได้คือ "ไม่" โดยที่มิได้ลังเลใจเลย

    และใบอนุญาตขับขี่ที่แทบจะไร้ความหมายสำหรับผม...ที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ ในกระเป๋าเสื้อชุดนอนของผม

    หลังจากที่ผมรู้ว่าคงจะไม่มีโอกาสได้ใช้...มันเป็นการรอคอยที่เหลือของผม ดั่งว่าเป็นการพิสูจน์ในชีวิต...

    'กริ๊ก' ผมหยิบกุญแจขึ้นมา

    มันเหมือนเป็นแรงกระตุ้น ผมเดินไปโดยไม่รู้ตัว และเข้าใจความหมายในสิ่งที่ผมคิด เหมือนเวลาผมดูรายการในทีวี

    ผมเก็บของส่วนตัวลงในเป้ ก้าวลงไปยังทางเดิน ผ่านสถานีพยาบาล ตรงไปที่ลิฟต์อย่างรวดเร็ว

    เป้สะพายในมือขวา กุญแจในมือซ้าย

    ใบขับขี่ที่ถูกละเลยมาเป็นเวลานานในกระเป๋าสตางค์...

    ผมมาถึงด้านหน้าของห้องนั่งเล่น และเห็นหญิงสาวยังคงนั่งอยู่หน้าทีวีตามปกติ

    สายตาอันไร้ความรู้สึกที่จับจ้องทีวีด้วยความเบื่อหน่าย

    นั่งอยู่บนเก้าอี้พับตัวเล็กๆ

    "เฮ้ รายการนั้นดีมั้ย?"

    ".....เธอคิดอย่างนั้นเหรอ?"

    "ไม่หรอก" การสนทนาอย่างที่คิดไว้...สายตาเธอมองออกไปไกล ไม่ได้มองที่ทีวี

    "อืม ถ้าอย่างนั้น......เราจะไปด้วยกันมั้ย?"

    ".....อะ..." เหมือนเธอแปลกใจเล็กน้อย ผมพูดต่อไป ระหว่างที่โชว์กุญแจให้เธอดู

    "คงรู้นะ ผมไม่ต้องการให้มันจบลงที่บ้านหรอก"

    "..... ..... ..... ..... ....." เธอเงียบลงเช่นเคย ก่อนจะพูดว่า "....และฉัน......ก็ไม่อยากจบที่นี่ด้วย....."

    "งั้นก็.....ไปด้วยกันมั้ยล่ะ?" ผมยิ้มและชวนเธออีกครั้ง

    เธอนั่งนิ่งไปอีกซักระยะ แล้วเงยหน้าขึ้น

    "............ได้เลย....." เธอลุกขึ้น และเดินไปเก็บของส่วนตัว รวมทั้งยา ลงในกระเป๋าสะพาย

    ....เรากำลังจะออกไปจากที่นี่ด้วยกัน...

    ผมเดินไปปิดทีวีเครื่องนั้น เสียงหัวเราะแห้งๆของพิธีกรจะถูกลบล้างออกจากเราตลอดไป

    เราทั้งคู่ที่ยังใส่ชุดนอนเดินไปลงลิฟต์ จากชั้น 7 บนสุดของตึก ลงสู่ชั้น 1

    เราตรงไปยังประตูคนไข้นอก.........และ.........

    ลมแรงและเย็นพัดผ่านมา สัมผัสใบหน้าเราทั้งคู่...จากพื่นที่อันกว้างขวางเหมือนกับสวนสาธารณะ

    เราเดินเล่นไปรอบๆบริเวณนั้นเพื่อผ่อนคลายจากการอยู่แต่ในห้องเป็นเวลานาน

    จนเดินมาถึงรถของพ่อผม..........

    รถเก๋งสีเทา...ที่พ่อภูมิใจและรักมันมาก

    ผมใส่กุญแจที่ประตูรถและบิดเพื่อปลดล๊อค เปิดประตู

    "เข้าไปสิ" ผมบอกกับเธอ

    "...........ดีจังนะ" เธอพูดและเข้าไปในรถ ก่อนที่ผมจะปิดประตู และเดินไปยังที่นั่งคนขับ

    เธออยู่ที่นั่งผู้โดยสาร ข้างๆผม แต่ตัวเธอไม่ค่อยสูงนัก จึงลำบากหน่อยที่จะมองถนน

    ผมบิดกุญแจสตาร์ทเครื่อง และเหยียบคันเร่งเบาๆ เหมือนที่ผมทำตอนเรียนขับรถ

    'บรืนนนน......' เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้น ผมปลดเบรคมือ และเหยียบคลัตช์

    ......ตอนนี้เราสามารถไปที่ไหนก็ได้ อยู่ที่ทางเลือกของเราแล้ว......

    "โอเคล่ะ ไปกันเถอะ"

    "...............โอเค....." เธอพยักหน้านิดๆ ผมไม่ตอบอะไร เปลี่ยนเป็นเกียร์ 2 และรถก็เคลื่อนที่ไปอย่างราบรื่น

    ด้วยความไม่เคยชินกับการใช้คลัตช์ และหักเลี้ยวแบบเบาๆ มันเป็นการฝึกขับไปในตัวอย่างช้าๆ

    "......เธอ..."

    "ใช่ ครั้งแรกของผมน่ะ.....มันเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ผมได้ใบอนุญาตและได้ขับรถ"

    "........อืม..."

    ทางออกจากที่จอดรถอยู่ข้างหน้านี้แล้ว และถนนอันกว้างใหญ่อยู่ถัดไปจากนี้ โดยไม่มีสัญญาณไฟจราจร.....ผมจึงขับตรงไป....

    'ปื๊น ปื๊น!!!' เสียงแตรรถดังขึ้น เป็นของรถคันที่กำลังพุ่งสวนมาตอนที่ผมขับแทรกเข้าไปบนถนนเส้นนั้น

    เจอปัญหา รถยังไม่ยอมหยุด เพราะผมยังไม่ชิน จนกระทั่งรถคันนั้นขับตัดหน้าผมไป.....

    และท่าทางผมจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนเข้าแล้ว เพราะเสียงแตรนั่นยังไม่ยอมหยุด

    แต่ผมยังคงขับต่อไป ไม่ใส่ใจเท่าไร.....แต่ก็ไม่มากนักหรอก.....

    "เอ่อ"

    ".....อะไรเหรอ?"

    "คุณ กลัวรึเปล่า?"

    "..... ..... ..... ..... .....เธอ...ต้องการให้ฉันกลัวไหมล่ะ?"

    "ไม่ ไม่อยู่แล้ว" ผมไม่น่าเริ่มพูดเลย...

    เวลาสาย...เข้าใกล้ยามเที่ยง พระอาทิตย์ที่ลอยสูง.....

    ท้องฟ้าในเดือนมกราคม ทั้งที่อยู่ข้างบน และรอบๆกระจกรถยนต์

    ท้องฟ้าซึ่งเป็นสีฟ้าแกมน้ำเงิน...ดั่งกับว่าเกือบอยู่ในความเศร้าโศก

    เราทั้งคู่ยังไม่มีจุดหมายปลายทาง...

    ในวันที่หนาวเหน็บ พร้อมกับคลัตช์ติดๆขัดๆและรถที่รู้สึกว่าอาการจะแปลกๆ

    ในวันที่พวกเรานั่งรถไปตามถนนใหญ่...ในชุดนอน...

    .....ในวันแห่งฤดูหนาว....

    ต่อมา.....เมื่อแสงอาทิตย์ที่ยังเคยสว่างจ้า...

    ได้แปรผันไปเป็นสีส้มอ่อนๆ....

    เรายังคงเดินทางไปเรื่อยๆ

    ขับรถไปตามทาง...แบบสุ่มๆ....

    ไปยังที่ใดสักแห่ง ผมยังไม่ได้คิดเอาไว้...

    "ผมจะจอดรถก่อนนะ"

    ".....ได้..."

    ผมจึงเอารถเข้าจอดในที่สุด...

    ข้างทางของถนนสายหนึ่ง...ไกลจากแหล่งชุมชน....

    ไม่มีการจราจรให้เห็น...พูดง่ายๆ....โดดเดี่ยว....

    ดับเครื่องเรียบร้อย...

    ผมก็เริ่มตรวจตราดูรอบๆภายในรถ...

    .....น่าจะมีอะไรที่ใช้ได้ในนี้นะ.....

    เราออกมาจากโรงพยาบาลโดยที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย...

    แต่มันเริ่มมีบางอย่างซึ่งจะก่อปัญหาให้กับผมเข้าแล้ว...

    คิดดังนั้น...

    ผมจึงเปิดดูช่องใส่ของเพดานรถ...

    ..... .....

    "ไม่มีอะไรเลยแฮะ....."

    แบงก์ 100 เยน ไม่กี่ใบ ร่วงลงมาจากช่อง กองอยู่รอบๆเกียร์ หนังสือการ์ตูน 2 – 3 เล่ม และกล้องถูกๆเครื่องหนึ่ง...

    มันจะไม่เกิดขึ้นหากว่าเรามีการเตรียมการ...

    แม้กระทั่งระบบนำทางภายในรถก็ดูท่าจะพังแล้วซะอีก...

    และผมมีเงินติดตัวเพียงแค่ 8,000 เยน...

    เป็นเงินทั้งหมดที่ผมเก็บไว้ก่อนจะออกมา...

    ถ้ารวมกับที่ผมเก็บได้เมื่อครู่....ก็จะมีเงินรวม 9,000 เยน.

    .....แน่นอน....ผมไม่ได้คาดหมายว่าจะมีอะไรดีๆอยู่ในรถคันนี้อยู่แล้ว...

    แต่เงินจำนวนเล็กน้อยแค่นี้.....

    เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะหาที่พัก.....

    .....และดูเหมือนว่า...หญิงสาวคนนี้.....

    จะไม่ได้เตรียมเงินอะไรติดตัวมาด้วยเลย.....

    "...........มีอะไรรึเปล่า?.........."

    "เอ่อ ไม่ ไม่หรอก"

    .....อย่างไรก็ตาม...

    ผมก็มีลางสังหรณ์แบบนี้ไว้ครึ่งหนึ่งแล้วตั้งแต่แรก...

    ผมน่าจะคิดแล้วคิดอีก...

    ว่าควรจะมีการเตรียมการ......แผนการ หรือกำหนดการณ์สักนิดหน่อย.....

    ผมเพียงแค่ต้องการจะออกจากที่นั่น ตอนนี้...และเดี๋ยวนี้เลย...

    ผมไม่อยากจะอยู่ในที่ๆผมไม่ต้องการ...

    ภายใต้ท้องฟ้าที่ใกล้เข้าสู่เวลาสายัญห์

    ผมสตาร์ทเครื่องอีกครั้ง...

    "นี่ คุณหิวรึเปล่า?"

    ผมถามเธอขณะที่ขับไปเรื่อยๆ

    คิดดูแล้ว...เธอยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้า...

    "หยุดรถที่ร้านสะดวกซื้อ หรือที่ไหนสักหน่อย มั้ย?"

    "..........ไม่....."

    "เฮ้ เฮ้ อย่าพูดอย่างนั้นสิ

    อาหารน่ะ สำคัญกว่าสิ่งใดๆ ที่ดีกว่าชั้น 7 อีกนะ"

    "..... ..... ....."

    เธอไม่ได้ตอบผม...

    แต่เธอกลับมองลงที่ชุดนอนสีชมพูที่เธอใส่อยู่...

    "อ้อ ใช่! นั่นสินะ" ผมก้มมองดูชุดของผมเช่นกัน

    แน่นอนล่ะ ชุดนอนแบบนี้...เราคงจะเป็นจุดเด่นเวลาไปที่ไหนๆเป็นแน่...

    แม้ว่าจะไม่ใช่ตอนนี้...เราก็ต้องหาทางจัดการเรื่องนี้ก่อน...

    คิดดังนั้น ผมจึงเลี้ยวรถกลับไปยังแหล่งชุมชน.....

    ผ่านไป....

    เรามาถึงสถานที่ ซึ่งผมก็ไม่รู้จักชื่อ.....

    .....เป็นที่ไหนสักแห่ง.....อยู่ติดกับสถานีรถไฟ...

    เห็นได้จากมีคนอยู่จำนวนมาก.....

    "น่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งนะ"

    ผมมองดูไปรอบๆด้วยความร้อนรน...

    ตัวผมโยกมาข้างหน้าเล็กน้อย...ไม่ได้พิงเบาะนั่ง...

    "อ้า นั่นไง"

    ...ในที่สุด...ร้านบริการซักผ้าแบบหยอดเหรียญ

    ดูโทรมๆจากภายนอกร้าน ที่ชั้นแรกของตึกเดี่ยวหลังเล็กๆ...

    .....เหมาะสมทีเดียวล่ะ...

    ผมจอดรถ...ไม่ไกลจากทางเข้าร้านมากนัก...

    "โอเคนะ ผมจะออกไปสักครู่"

    "..........?"

    'ปึง'

    ผมปิดประตูรถ ปล่อยให้เธอ...และหน้าตาแสดงถึงความงงของเธออยู่ภายในรถ...

    และเดินตรงไปยังร้านนั่น...

    เมื่อเข้าไป...

    ....จมูกผมเต็มไปด้วยกลิ่นจากการซักผ้า...และผงซักฟอก...เต็มไปหมด...

    สภาพจากภายนอกร้านไม่ได้หลอกผมเลย...

    ทั้งพนักงาน...เจ้าของร้าน.....ท่าทางจะออกไปข้างนอก...

    " ไม่มีใครอยู่เลยสินะ " ความว่างเปล่าภายในร้านทำให้ผมพึมพำขึ้นมา...

    'แอ้ดดดดดดดดดดดดด'

    ยังมีเครื่องอบผ้าอยู่เครื่องนึงที่ยังทำงานอยู่...ทำให้เกิดเสียงซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของมัน....

    ผมเดินเข้าไปที่เครื่องนั้นทันที และเช็คดูเวลาการทำงาน...

    ดูะเหมือนว่า...มันจะทำงาน 30 นาที สำหรับเงินที่ใส่ไป 200 เยน...

    และตอนนี้...เพิ่งจะเริ่มไปได้แค่ 5 นาทีเท่านั้น...

    ยังไง...ก็ไม่มีที่ไหนให้ไปเพื่อฆ่าเวลาอยู่แล้ว...

    ผมจึงเดินดูรอบๆ...และมองภายนอกร้านอีกครั้ง...

    มีเวลาเพียงพอที่จะทำให้แน่ใจว่า...ไม่มีใครอยู่ที่นี่...

    เมื่อแน่ใจแล้วว่า...ตอนนี้ผมอยู่คนเดียว...

    ผมจึงยื่นมือไปยังที่จับประตูเครื่อง...

    ...และเปิดมันทันที...

    'แอ้ดดดดดดดดดด........กรึก.......'

    ประตูเปิดขณะที่ยังคงทำงานอยู่...

    เครื่องอบผ้าจึงค่อยๆหยุดหมุนที่ปั่น...และนิ่งสนิท...

    ผมดึงกองผ้าที่กึ่งแห้งกึ่งเปียกออกมา.....

    ไม่สนใจว่ามันจะร้อนหรือไม่...

    และเมื่อมองดูรอบๆจนมั่นใจแน่นอนว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้...

    ผมเดินออกจากร้าน.....

    'ปึก'

    "....อะ....."

    เธอทำเสียงเหมือนแปลกใจนิดๆ...เมื่อเห็นมือผมเต็มไปด้วยเสื้อผ้า...

    ...แต่ผมโยนพวกมันเข้าไปยังเบานั่งด้านหลังโดยไม่พูดอะไร...

    "โอเคล่ะ ไปกันเถอะ"

    ผมมองไปยังกองเสื้อผ้าที่เบาะหลังรถ...

    ขณะที่มือยังคงจับพวงมาลัยของรถที่แล่นไปตามทาง...

    ...เสื้อกันหนาว...และกางเกงยีน ดูท่าจะราคาแพงพอสมควร...และชุดอื่นๆ...

    ทุกตัวมีขนาดใหญ่...และยังคงเปียกอยู่...

    แต่ระบบทำความอุ่นภายในรถคงจะทำให้มันแห้งในไม่ช้า...

    "เดี๋ยวค่อยเปลี่ยนเป็นชุดที่คุณต้องการนะ"

    "..... ..... ....."

    เธอไม่มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก...

    แต่เธอก็ยังหันไปมองกองเสื้อผ้านั่น...

    "เอาเถอะ เราไม่มีทางเลือกน่ะ"

    ".....ฉันรู้....."

    เห็นได้ชัด...

    ผมไม่อยากจะทำอะไรอย่างนี้อยู่แล้ว...

    แต่เงินที่ผมจำเป็นต้องเก็บเอาไว้ใช้ในยามจำเป็น...

    คงจะยากถ้าหากว่าซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่สำหรับพวกเรา...

    หลังจากขับรถไปได้สักระยะ...

    .....เมื่อพระจันทร์ได้ทอแสงอ่อนๆท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิดเหนือเรา......

    ผมหยุดรถใกล้ๆกับสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง...

    คงจะเป็นที่ๆเด็กมาเล่นกัน...เพราะเห็นอยู่ติดกับละแวกหมู่บ้าน...

    จากนั้น...ผมหันไปมองกองเสื้อผ้าที่ผมเพิ่งจะ ขโมย มาได้ไม่กี่ชั่วโมงมานี้...

    .....มันแห้งหมดแล้ว....ขอบคุณระบบทำความอุ่นภายในรถ....

    "มีแต่เสื้อผ้าผู้ชายสินะ"

    ผมตรวจดูมันก่อนหน้านี้แล้ว...

    เสื้อกันหนาว.....กางเกงยีน.....

    เจ้าของชุดนี้คงจะอายุพอๆกันกับผม...

    เพราะขนาดชุดเหมือนที่ผมใส่อยู่แล้ว....คิดว่างั้นนะ

    และ ขณะที่นั่งอยู่ที่นั่งคนขับ...

    ผมเปลี่ยนทั้งเสื้อ ทั้งกางเกง ในนั้นเลย...

    "นี่ คุณก็ต้องเปลี่ยนด้วยนะ"

    "..... ..... .....แต่...มันใหญ่หมดทุกตัวเลย......."

    "งั้นคุณจะใส่ชุดนอนนั่นตลอดไปเหรอ?"

    "..... ..... .......... ..... ... .. . ...... .....ก็ได้....."

    เธอตอบแบบไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร

    ก่อนจะหยิบกางเกงยีน และเสื้อตัวอื่นๆ...แล้วเปิดประตูรถ...

    "เฮ้ คุณจะไปไหนน่ะ?"

    "..........เปลี่ยนชุด........"

    เธอตอบคำถามโง่ๆของผม แล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำของสวนสาธารณะ...

    ..... ..... .....

    'ปึก'

    "เอ่อ ไวกว่าที่คิดนะ"

    เธอกลับมาในระยะเวลาอันสั้น...

    ชุดนอนสีชมพูในมือของเธอ...

    .....และเสื้อเชิ้ตสีขาว...กางเกงยีนที่เธอใส่อยู่.....

    "ดูใช้ได้เหมือนกันนี่"

    "..... ..... ....."

    ไม่มีคำตอบ อย่างที่ผมคิด...

    แต่มันก็ดูใหญ่เกินไปสำหรับเธอจริงๆ...

    ขากางเกงยาวลงมาจนถึงพื้น....แขนเสื้อก็เช่นกัน...

    ".....ฉันว่าชุดนอนยังดีกว่านะ....."

    "อย่าพูดอย่างนั้นเลย อย่างน้อยชุดนี้ก็อุ่นกว่า จริงไหม"

    "..... ..... ....."

    เธอทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของผม...

    "อ่า นั่นสินะ คุณคงจะต้องการชุดสำหรับผู้หญิงใช่มั้ย?

    "..........ไม่หรอก....." คำตอบเดิมๆ.....

    ผมรู้ว่าเธอต้องไม่ชอบแน่ๆสำหรับชุดนั่น

    แต่แล้วเธอก็กลับมาทำสีหน้าเหมือนเดิมในที่สุด....

    'ซ่าาาาาาา'

    ฝนตกจนได้....

    ฝนซึ่งพามาซึ่งความหนาวเย็น...จากท้องฟ้าของเดือนมกราคม...

    อย่างกับว่า...มันคงจะลืมหยุดตก.....

    เม็ดฝนจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน กระจายเต็มกระจกหน้ารถ...

    บทบังทัศนียภาพการมองเห็นจากภายใน.....

    และการรวมตัวของหยดน้ำที่เกาะกันไว้จนไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ต่อไปได้...

    พวกมัน...ไหลลงมา...เป็นลำธารเล็กๆ......

    และลำธารเล็กๆนั้น ก็ได้พัดพาเอาหยดน้ำหยดอื่นๆลงไปด้วย ลงไปสู่เบื้องล่าง...

    ผมมองไปข้างหน้าระหว่างคิดเรื่องไร้สาระไปเรื่อยๆ...

    ขณะนี้ เราทั้งสองอยู่ที่จอดรถ...

    สถานที่ๆไม่รู้จัก....

    หลังจากซื้อของเสร็จที่ร้านสะดวกซื้อ...

    เราใช้เวลาทั้งคืนอยู่ที่นั่น...

    อาหารเย็น :

    ข้าวปั้น 2 ก้อน , น้ำโปคาริ 500 มิลลิลิตร , มันฝรั่งครึ่งถุง...

    "นานมากเลยนะ หลังจากเราออกมา"

    "..........ใช่....." เธอพึมพำขณะที่ถือข้าวปั้นไว้ในมือ...

    .....ไม่ใช่มื้ออาหารที่ดีนัก....

    แต่อย่างน้อยก็คงดีกว่าอาหารที่เสริ์ฟในห้องชั้น 7

    ขณะที่เรากำลังจะต่อด้วยมันฝรั่ง...

    เธอก็หยุดลง.....

    "มีอะไรรึเปล่า?"

    ".....ไม่หรอก....."

    แต่สายตาของเธอ มองผ่านกระจกรถซึ่งเต็มด้วยน้ำฝน...

    มองไปยังดอกไม้กลุ่มเล็กๆ...ข้างทาง...

    กลุ่มดอกไม้ที่เปียกชุ่ม.....

    ผมไม่รู้ว่าใครมาปลูกเอาไว้หรือขึ้นเองตามธรรมชาติ...

    แต่ผมเหมือนจะจำได้เกี่ยวกับมัน...

    "นั่นเป็นดอกนาคิ....เอ่อ...นาคิทสึใช่ไหม?"

    "...........ใช่....นั่นแหละ....ดอกนาคิทสึ....."

    "อะ นาคิทสึสินะ"

    ผมไม่รู้ชื่อของดอกไม้มากนัก...

    แต่ผมก็เคยได้ยินชื่อของนาคิทสึมาก่อนแล้ว...

    และหญิงสาวผู้นี้...ซึ่งนานๆครั้งจะพูดออกมาสักประโยค...

    ได้เล่าเรื่องอะไรบางอย่าง โดยจริงจังมากๆ....

    .....และผมตั้งใจฟังโดยตลอด.....

    "อย่างนี้เองเหรอ?"

    ".....ใช่...ประมาณนั้นแหละ......"

    "ถ้างั้น...คงจะหายากน่าดูเลยสินะ"

    ".....ไม่หรอก....เธอจะเจอมันที่ไหนก็ได้....."

    "ที่ไหนก็ได้? แล้วมีที่ๆแน่นอนรึเปล่า?"

    "..... ..... ....."

    ผมไม่มีจุดประสงค์มากมายที่ถามอย่างนั้นหรอก...

    แต่ผมกำลังพยายาม...ที่จะทำให้การสนทนาระหว่างผมกับเธอ ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้....

    .....และเมื่อเธอหยุดคิดไปสักระยะ.....

    ......เธอค่อยๆเปิดปากพูด.......

    "........ทางทิศตะวันตก........"

    "ทิศตะวันตก?"

    ".....เกาะอะวาจิ....มีชื่อเสียงเกี่ยวกับพวกมัน....."

    "เกาะอะวาจิ เฮ้! เดี๋ยวสิ"

    เธอคิดว่ามันไกลแค่ไหนกัน?

    ผมเพิ่งจะเริ่มขับรถเองนะ...แทบไม่รู้เส้นทางเลยด้วยซ้ำ...

    ประมาณ 700 กิโลเมตร จากที่นี่ถึงที่นั่น

    แม้ว่าจะใช้ทางสะพานข้าม...ผมก็ไม่รู้ว่าจะใช้เวลาสักเท่าไหร่กัน....

    .....และที่สำคัญ....ผมไม่คิดว่า เราจะมีเงินเพียงพอหรอกนะ

    ถ้าเราไปเส้นทางธรรมดา โดยไม่ใช้ทางสะพานข้าม...

    ...ไม่มีทางหรอกที่เราจะมีเงินค่าน้ำมันเพียงพอ...

    "อย่าพูดอะไรอย่างนั้นสิ

    คุณไม่ได้หมายความว่า ต้องการจะไปที่นั่นหรอกนะ!?"

    "...... ..... . ..... ..... ใครบอกว่า...ฉันต้องการจะไปล่ะ?....."

    "อะ"

    ".....ฉันแค่....ตอบคำถามของเธอ....ก็แค่นั้น....."

    พูดจบ เธอหันกลับไปมองที่กระจกรถอีกครั้ง...

    ท่ามกลางหมอกที่จับตัวเป็นไอน้ำเกาะอยู่ที่กระจก.....

    เธอยังคงจ้องมอง....มอง.....และมองต่อไป......

    .....ผมก็ไม่ได้เจาะจงที่จะไปที่นั่นที่นั่นอยู่แล้ว.....

    แต่ว่า...มันก็ไม่มีที่อื่นให้ผมไปเช่นกัน.....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×