ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Narcissu เศร้าเล้าน้ำตา

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 50


    Chapter 1

    ชั้น 7

    ฤดูหนาว : ปี 2005

    ...ผมเดินมาถึงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งคล้ายกับห้องนั่งเล่น...ข้างๆทางเดิน...ผ่านสถานีพยาบาล...

    ห้องนี้ดูราวกับว่า มีแต่ความอ้างว้าง..... ซึ่งมีเตียงนอน โต๊ะและเก้าอี้ ของตกแต่งอื่นๆ พร้อมกับทีวีเครื่องหนึ่ง...

    รายการพิธีเฉลิมฉลองปีใหม่ยังคงฉายอยู่ในจอ 28 นิ้ว...

    และหญิงสาวซึ่งไม่มีท่าทีใดๆ กำลังมองดูรายการทีวีอันแสนน่าเบื่อนั่น...เธอใส่ชุดนอนสีชมพู

    ทรงผมที่ยาวจดลงถึงเอวของเธอ...

    และปลอกข้อมือโรงพยาบาลสีขาวที่ข้อมือของเธอ...เหมือนกับผมในตอนนี้...

    "เอ่อ...คุณว่ารายการนั้นน่าสนใจเหรอ" ไม่มีจุดมุ่งหมายอะไร แต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะทำ ผมจึงเริ่มถามเธอ

    "...ไม่หรอก..." นั่นเป็นคำที่เธอตอบกลับมา เธอไม่ได้หันหน้ามาทางผมเลย และยังคงจ้องดูทีวีนั่นต่อไป

    ผมคิดว่า หากผมไม่มีชีวิตอยู่ในตอนนี้...ก็คงไม่ต้องดูทีวีเครื่องนั้นหรอก...

    ผมจึงเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆเธอ และเราทั้งคู่ก็ได้แต่ดูทีวีต่อไป

    ไม่มีอะไรที่จะทำ...ไม่มีสิ่งใดที่เรา*สามารถ*ทำได้...

    ตลอดเวลา...ผมนั่งเงียบ รวมทั้งเธอ...อยู่หน้ากล่องสี่เลี่ยมจอ 28 นิ้วเครื่องนี้...ซึ่งฉายแต่รายการเฉลิมฉลองปีใหม่...

    ไม่มีรายการตลก...หรือรายการอื่นที่แปลกๆเลย...

    พิธีกรงี่เง่า...เสียงหัวเราะแหลมๆ ดังออกมาจากทีวีแบบแห้งๆ จนกึกก้องทั่วห้องนั่งเล่นนี้...ช่างน่าเบื่อสิ้นดี...

    "...บอกฉันสักอย่างสิ" เธอเริ่มพูดกับผม แต่ตายังคงจ้องรายการอยู่ "...กี่ครั้งแล้ว...สำหรับเธอในตอนนี้...?"

    "หมายถึงอะไร?" ผมสงสัย ในคำถามของเธอ

    "...กี่ครั้งแล้ว...ที่เธอเข้ามาในนี้...ห้องชั้น 7 น่ะ...?"

    "เอ่อ...ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร?"

    "...อืม...งั้นนี่คงเป็นครั้งแรกของเธอสินะ..."

    เธอรู้ในความสับสนของผมเกี่ยวกับคำถามของเธอ ผมคงจะได้รับคำตอบเร็วๆนี้

    "...งั้น...เมื่อไม่มีใครคนอื่นนอกจากเราแล้ว...มันก็เป็นหน้าที่ของฉัน..."

    "หน้าที่?"

    "...เป็นกฎเกณฑ์น่ะ..."

    เธออธิบายว่า กฎที่ว่าก็คือ ใครที่ได้อยู่ที่นี่ (ชั้น 7) ต้องบอกความจริงแก่ผู้ที่เข้ามาใหม่

    ผมซึ่งแทบไม่รู้อะไรเลย...เธอก็เริ่มพูดอย่างช้าๆ

    "...ฟังดีๆนะ..."

    ... ... คำพูดอันราบรื่นของเธอ ... ... เป็นเรื่องที่แตกต่างเล็กน้อยจากที่ผมได้ยินจากหมอ...เกี่ยวกับที่นี่...

    พวกเขาบอกว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่พิเศษสำหรับบำบัดผู้ป่วย เป็นที่ที่บำบัดทั้งร่างกายและจิตใจ...

    แต่หญิงสาวคนนี้ กลับอธิบายแตกต่างแบบตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

    ความจริงแล้ว ชั้น 7 นี้ เป็นสถานที่แห่งเดียวในโรงพยาบาลที่ "ไม่มีการรักษา"...

    มันเป็นเพียงที่ๆคุณจะต้องเข้ามารอจนถึงวันนั้นของชีวิต...ซึ่งเราจะได้เจอครั้งแรก ครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย

    นั่นคือสิ่งที่เธอบอกผม

    มันเป็นสิ่งที่ผมคิดไว้อยู่แล้ว ผมรู้สึกถึงมันก่อนเธอจะเริ่มพูด...

    "...คงจะรู้นะ...นี่เป็นครั้งที่สองของฉัน..."

    "ครั้งที่สอง?"

    "...ครั้งที่สอง...ที่ฉันเข้ามาในห้องนี้..."

    และเธออธิบายอีกครั้ง ว่าไม่มีใครที่อยู่ในห้องนี้ ตั้งแต่แรกที่เข้ามาในโรงพยาบาลจนถึงวันตาย...

    ระหว่างที่การรักษา แทบเป็นไปไม่ได้ คุณจะถูกส่งกลับไปยังที่บ้าน ถ้าหากอาการของคุณดีขึ้น

    แต่ถ้าอาการกลับเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง คุณจะถูกส่งกลับมายังที่นี่...

    วัฎจักรนี้...จะจบลงหลังจากคุณตายแล้วเท่านั้น...

    เหมือนกับว่า...ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน หรือที่ห้องชั้น 7 ...ความตายคือสิ่งที่รอคุณ และคุณรอมัน...ไม่มีทางที่จะหนี...

    ในความหมายอันลึกซึ้งจากคำพูดของเธอทุกๆคำ...เธอบอกว่า เป็นครั้งที่สองในห้องนี้ของเธอ

    "...ฉันบอกเธอแค่นั้นล่ะ..." แต่ดูเหมือนมันยังไม่จบ "...คราวนี้ฟังดีๆนะ..."

    เธอยังคงพูดต่อไป ขณะที่ตอนนี้ หน้าจอทีวีไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ครั้งที่สามหลังจากคุณออกจากบ้านมายังที่นี่ ให้ทำใจเลย...

    ไม่มีครั้งที่สี่...คุณจะไม่ได้กลับไปยังบ้านของคุณอีกแล้ว...

    ถ้าหากคุณยังต้องการจะหนี ให้ไปที่สถานี "B" ไม่ใช่สถานี "A"

    ไม่ต้องกินอะไรทั้งสิ้น มันเป็นทางง่ายๆแบบโง่ๆ

    ซึ่งคุณจะได้ตัดภาระออกจากพ่อและแม่ของคุณโดยวิธีนั้น

    ฟังแล้วดูงง...แต่มันคงเป็นเรื่องเล่าปากต่อปากมาจนเป็นวัฒนธรรมเข้าแล้ว

    เป็นเรื่องเล่าที่สำคัญสำหรับผู้ที่กำลังจะตาย และวัฒนธรรมนี้ถูกเก็บไว้โดยผู้ที่เข้ามาที่นี่ด้วยเหตุผลดังกล่าว

    "สิ่งนี่เหรอ คือหน้าที่ของคุณที่คุณพูดถึง?"

    "ใช่...จำเรื่องราวนี้ไว้...และเล่าให้กับผู้ที่จะเข้ามาในห้องนี้คนถัดไป ในคราวหน้า...เข้าใจนะ..."

    หลังจากพูดจบ เธอลุกขึ้นช้าๆ และสะบัดผมของเธอ เส้นผมเธอสำผัสกับจมูกของผมนิดๆ

    "ฉันต้องไปเอาปรอทวัดไข้..." เธอพูด พร้อมกับเดินลงไปยังทางเดินที่ผมเข้ามาตั้งแต่แรก

    ห้องนั่งเล่นนี้...เก็บไว้เพียงแต่เสียงหัวเราะจากทีวี และดอกไม้สีขาวจากหน้าต่างข้างนอก...เท่านั้น...

    อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้มองหน้าผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว...

    ไม่กี่วันต่อมา...

    งานฉลองปีใหม่จบลงแล้ว โรงเรียนหลายแห่งเริ่มเปิดเรียน นักเรียนอีกหลายคนเริ่มต้นภาคเรียนใหม่...

    และเช่นเคย...เธอและผม ยังคงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นนี้ ... อยู่หน้าทีวี

    "น่าเบื่อนะ ว่าไหม" ผมถามแบบไม่ต้องการคำตอบ

    "...นั่นสิ..." เธอตอบแบบไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้

    เราจึงคุยกัน แต่ตายังคงจ้องอยู่ที่ทีวีเครื่องนั้นไปเรื่อยๆ

    "เอ่อ...ที่ห้องนี้ มีแต่แบบนี้เหรอ?" ผมถาม

    "... ... ฉันไม่เข้าใจว่าเธอพูดถึงอะไร... ..."

    "หมายถึงว่า ที่แห่งนี้มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้"

    นอกจากหมอ นางพยาบาล และผู้ช่วยพยาบาลคนอื่นๆ รวมทั้ง 'เธอ' ในตอนนี้...ผมไม่เคยได้เห็นคนอื่นๆเลย...

    "คนอื่นๆ...กลับบ้านเพื่อฉลองปีใหม่ หรือทำอะไรกันนะ...?"

    "...เธอ...อยากรู้จริงๆเหรอ?..."

    "เอ่อ เปล่าหรอก...ไม่ใช่อย่างนั้น..."

    "...งั้น...ฉันคงไม่ต้องบอกเธอหรอกนะ..."

    การพูดคุยกันแบบนี้...เขาไม่เรียกว่าการสนทนาแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อไปดี...

    ลมอ่อนๆพัดเข้ามาจากทางหน้าต่างที่เปิดช่องว่างสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร ทำให้ผมของเธอไหวไปมา

    เช่นเดียวกันกับดอกไม้ริมหน้าต่างข้างนอก...

    นี่กลายเป็นชีวิตที่เราทั้งคู่ใช้ฆ่าเวลาในแต่ละวัน

    นั่งบนเก้าอี้...ตาจับจ้องทีวีที่แทบจะไม่มีอะไรดีๆเกิดขึ้น

    'ก๊อก ก๊อก ก๊อก' ไม่ใช่รายการทีวี แต่เป็นเสียงรองเท้าส้นสูง

    "คุณคนไข้คะ..."

    พยาบาลมีอายุคนหนึ่งพูดขึ้นขณะที่เดินมาทางเราทั้งคู่

    ตอนที่ผมผ่านสถานีพยาบาล พยาบาลคนนี้คือผู้ที่รับผิดชอบคนไข้ชั้น 7

    "อืม...คุณเซทสึมิ...อาการเป็นอย่างไรบ้างคะ...?"

    "...ฉันสบายดีค่ะ...ไม่เป็นไร..."

    .... .... .... เซทสึมิ

    นั่นคงจะเป็นชื่อของเธอ

    "คุณเซทสึมิ...คุณไม่ควรจะออกมาเพ่นพ่านอย่างนี้นะคะ"

    "... ... ..." เธอเงียบ ไม่พูดอะไร

    "เข้าใจนะคะ? ทุกๆคนเป็นห่วงคุณมาก"

    "อืม...เหรอ..."

    "ทำไมถึงตอบแค่นั้นล่ะคะ? โถ...เด็กสมัยนี้"

    พยาบาลดุแถมบ่นไปสักระยะ...คงจะไม่แปลกถ้าหากว่าให้พยาบาลอายุมากมาดูแลคนไข้...

    และหญิงสาว...ที่ชื่อว่าเซทสึมิ ไม่มีทีท่าใดๆทั้งสิ้น ไม่แม้กระทั่งสนใจพยาบาลคนนั้น...

    ตาเธอยังคงจ้องที่ทีวี เหลียวมองพยาบาลที่ยังบ่นไม่เลิกคนนั้นเล็กน้อย คงจะเป็นที่รำคาญสำหรับใครหลายคนอยู่แล้ว

    "ฉันจะกลับมาทีหลังเพื่อเจาะเลือดคุณนะคะ"

    หลังบ่นเสร็จ พยาบาลหันหลังเดินกลับไปยังสถานี

    ขณะนี้บรรยากาศในห้องเงียบลงแล้ว

    "เอ่อ...คุณ..." ผมเรียก แต่เธอยังคงไม่หันหน้ามา "รังเกียจไหมถ้าผมจะขอเรียกคุณว่า 'เซทสึมิ'?..."

    "... ... ... ... ..." เธอยังเงียบอยู่

    "มีอะไรเหรอ เซทสึมิ?" ผมเรียกชื่อเธอโดยไม่ลังเล

    "...ทำไมเธอเรียกฉันอย่างนั้น?..."

    "อะ...เอ่อ...?"

    "...ฉันอายุมากกว่าเธอนะ..."

    "ฮะ...เฮ้? ผมอายุน้อยกว่าคุณตรงไหน?"

    "...ไม่มีอะไรหรอก...ฉันแค่คิดน่ะ...แค่นั้นแหละ..."

    ผมไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองที่เธอบอกว่าผม 'อายุน้อยกว่าเธอ' แต่ผมดูแล้ว ผมน่าจะอายุมากกว่าเธอสัก 5-6 ปีด้วยซ้ำ

    ผมจึงหยิบใบขับขี่ของผมออกมาจากกระเป๋าสตางค์และยื่นให้เธอดู

    "แต่ผมอายุ 20 ปีนะ"

    "... ... ..." เธอนิ่งไปสักระยะ "...ยังไงเธอก็เด็กกว่าฉันอยู่ดี..."

    เธอแค่ชำเลืองมองใบอนุญาตขับขี่ของผมก่อนจะส่งกลับคืน

    "เอ่อ...ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าคุณพูดถึงอะไร"

    "... ...ฉันแค่อายุมากกว่าเธอเล็กน้อย...ก็แค่นั้นเอง..." เธอพูดพึมพำด้วยถ้อยคำที่แจ่มแจ้ง

    และตาเธอยังคงจ้องอยู่ที่ทีวีตัวเดิม แต่รู้สึกว่า เธอกำลังมองอะไรสักอย่างที่อยู่ไกลออกไป...

    ตอนเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ผมออกมาจากห้องนั้น เดินผ่านสถานีพยาบาล เข้าไปในลิฟต์

    เมื่อลงถึงชั้น 1 ผมเดินออกมาเรื่อยๆ ผ่านห้องรับแขก ครั้งแรก ที่ผมได้ก้าวออกนอกโรงพยาบาล...

    เราอยู่อาศัยที่ชั้น 7 ของโรงพยาบาล แตกต่างจากคนไข้ทั่วๆไป

    สถานที่ๆผมจะไปตอนนี้คือจุดที่เซทสึมิบอกผมไว้ไม่นานมานี้ 'สถานี B ที่อยู่ไกล ไม่ใช่สถานี A ที่อยู่ใกล้ๆ ...

    ไม่ใช่เพราะว่าผมอยากจะหนีหรืออะไรเลย...ที่ชั้น 7 หรือ ที่บ้าน...เราทั้งคู่ ยังไม่มีใครเสียชีวิตในตอนนี้ ...

    และสถานี B หญิงสาวชื่อเซทสึมิได้ไปปรากฎตัวอยู่บ่อยครั้ง'

    นั่นเป็นเหตุผลที่ผมออกมา...อย่างไรก็ตามผมจะต้องเห็นสถานที่นั้นด้วยตาตนเองให้ได้

    ขาทั้งสองข้างพาผมเดินไปเรื่อยๆตามทางเดิน ชำเลืองมองผู้คนที่เดินสัญจรเพื่อไปทำงานและเด็กๆที่เดินทางไปโรงเรียน

    25 นาทีจากโรงพยาบาล ผมหยุดยืนอยู่ที่หน้าสถานี มองดูป้ายรถเมล์ 4 ป้ายเรียงอยู่ระยะห่างกันพอควร

    "อา...มีคนอยู่กันมากมายเลย..." เป็นภาพที่ติดตาครั้งแรกของผมที่สถานี B แห่งนี้...

    แต่แล้วผมก็ต้องลุกขึ้น เพราะว่าผมยังอยู่ในชุดนอน

    และผมรู้ว่า ถ้าผมซื้อตั๋วรถเมล์ ก็จะสามารถเดินทางไปยังที่ไหนก็ได้ คงไม่ต้องมีคำถามสำหรับมันหรอก... ผมยังไม่เข้าใจเลย

    ว่าทำไมถึงต้องมีคนบอกให้ผมไปสถานีB ไม่ใช่A แต่ดูท่าทางมันจะเป็นหนทางที่ง่ายมากที่จะ "หลบหนี" ถ้าผมต้องการจริงๆ

    เธอต้องเคยมาที่นี่ด้วยตัวเธอเองหลายครั้งแน่ๆ แล้วทำไมตอนนี้เธอยังอยู่ที่ชั้น 7 อยู่ล่ะ? นี่แหละคำถาม...

    สถานี...ในช่วงเช้าตรู่...ผมยังนั่งอยู่ที่นั่น คิดเรื่องนั้นตลอดเวลาขณะที่มองดูคนอื่นๆเดินผ่านไปมา...

    คืนนั้น หลังแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป ผมกลับมาที่ห้อง...โดยที่ไม่มีอะไรทำ และหลับไม่ลง

    ผมเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆคนเดียวในโรงพยาบาล แน่นอน มันเป็นสิ่งไม่สมควรที่จะทำอย่างนี้ในเวลากลางคืน

    แต่ 'เรา' ซึ่งอยู่ชั้น 7 ได้รับสิทธิพิเศษในเรื่องของอิสระ...

    ช่วงเวลาที่ไม่มีแสงไฟ ในที่ประจำที่เรานั่งอยู่...ในห้องนั่งเล่น

    ...ผมเจอเธอยืนอยู่ตรงนั้น...

    "...วันนี้คุณมองออกไปข้างนอกรึเปล่า?" ผมเริ่มถาม

    "...อืม" ภายในห้องที่แสงไฟสลัว เธอตอบผม ขณะที่สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง ผมหัวเราะเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้

    "อ้อ วันนี้ผมไปที่สถานีล่ะ สถานี B ที่คุณบอกผมไว้"

    "ฉันรู้...." การตอบรับของเธอไม่เปลี่ยนเลย ผมเห็นว่า เธอคงจะมีปฎิกิริยากับอะไรบางอย่าง เพราะเธอก็เคยไปที่นั่น

    แต่ตอนนี้ ที่ผมเคยคิดไว้ เกี่ยวกับเรื่องที่เธอกลับมาอยู่ที่ชั้น 7 นั่นหมายความว่า เธอไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะหนีรึเปล่า?

    ".....ฉัน กำลังจะกลับไปบ้านแล้ว...เร็วๆนี้....."

    "อะไรนะ??" ผมตกใจเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเริ่มพูดกับผม

    ".....แต่ครั้งต่อไป....มันจะเป็นครั้งที่สาม....เราอาจจะไม่ได้เจอใครอีกก็ได้....."

    "ฮืม...นั่นสินะ...ผมก็คิดว่างั้น" เธอกำลังพูดถึงการออกจากโรงพยาบาล ที่ผมเคยได้ยินจากเธอแล้ว

    เธอบอกว่า ไม่มีใครที่ออกจากชั้น 7 มากกว่าสามครั้ง....ไม่เหมือนผู้ชราภาพ

    อาการที่ดีขึ้นมีความหมายสำหรับคนหนุ่มสาวอย่างพวกเรา

    คำพูดของเธอที่ว่า 'เราอาจจะไม่ได้เจอใครอีกก็ได้' มีความหมายที่เกินคำพูดซะอีก

    "...นี่....เธอเลือกไว้หรือยัง...?"

    "เลือก?" เธอกำลังพูดถึงอะไรอีก.....

    "...สถานที่.....ที่ๆเธอจะจบชีวิตลง..."

    "... ... ... ... ..." ผมเงียบลงบ้าง การได้ยินคำว่า 'จบชีวิต' ทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก

    "ผมไม่รู้...ยังไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำ"

    ".....นั่นสินะ...ยังไงมันก็ยังเป็นครั้งแรก...ของเธอ..." เธอพึมพำ

    แน่นอนล่ะ...มันไม่เป็นจริง ประหนึ่งว่าผมจะออกจากที่นี่ตลอดไป

    เหมือนคนอื่นๆ ผมเข้ามาในนี้ และก้าวออกไปจากที่นี่ ขณะที่โรคร้ายยังคงกัดกินผมอยู่ช้าๆ...และสักวันหนึ่ง...

    สุดท้ายผมก็คงจะต้องเลือก ที่นี่...ชั้นเจ็ด หรือว่า กลับไปที่บ้าน...แวดล้อมด้วยรอยยิ้มอันหลอกลวงของคนในบ้าน...

    "ฉัน...ไม่อยากกลับ...ไปจบชีวิตที่บ้าน..." เธอบอกอย่างช้าๆ "และฉันก็ไม่อยากจบชีวิตที่นี่ด้วย....."

    "ถ้างั้น คุณจะทำยังไงล่ะ?" ผมถาม

    "... ... ... ... ..." เสียงเธอแผ่วลง "...มีเพียง...ทางเดียว.....ไปที่ไหนสักแห่งหนึ่ง...ในขณะที่ฉันยังมีแรงอยู่..."

    "ที่ไหนสักแห่ง... เป็นไปไม่ได้น่า..."

    ผมแปลกใจและกังวลในตัวเธอตั้งแต่แรกแล้ว หญิงสาวคนนี้ อยู่ในห้องชั้น 7 ทั้งๆที่เธอจะหนีไปตอนไหนก็ได้

    หากว่าเธอต้องการ...เมื่อผมคิดอย่างนั้นจึงถามกลับ

    "...คุณมีที่ไหนที่ต้องการไปมั้ยล่ะ?"

    "... ... ... ... ..." เธอเงียบลง ก่อนจะพูดว่า "เธอ...ต้องการหยุดฉันเหรอ...?"

    "อะ...เอ่อ..."

    "หรือว่า...เธอต้องการไปกับฉัน...?"

    "อืม...ไม่หรอก...นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดไว้"

    ".... ... .... ถ้าอย่างนั้น...อย่าถามเลยจะดีกว่านะ..."

    เธอยังมองออกไปนอกหน้าต่างขณะกำลังพูด ด้วยท่าทางที่สงบเยือกเย็น

    และไม่มองผมเลย....เหมือนเช่นเคย...

    แต่สีหน้าที่ปราศจากความรู้สึกของเธอ ทำให้ผมรู้สึกแย่

    ผมเป็นผู้มาใหม่ การออกไปครั้งที่สามจะเป็นครั้งสุดท้าย

    และเธอ ผู้หญิงซึ่งได้ออกไปเป็นครั้งที่สองแล้ว

    ตอนนี้ผมยังสับสน กับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของผม....ผมไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป...

    ในวันใหม่

    เมื่อฝนตกยามเช้า...บางครั้งมีลูกเห็บ...บางครั้งลงมาพร้อมหิมะ...ลงมาอย่างสม่ำเสมอ

    ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ดูทีวีที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ในห้องเดิม...ชั้น 7 ซึ่งปราศจากผู้คน ดั่งที่มันเป็นอยู่ทุกวันนี้

    "...มีอะไรน่าสนใจไหม?" เธอเดินมาถามผม

    "ไม่...น่าเบื่อเต็มทน" ผมตอบเธอ เธอเดินเข้ามาข้างๆผม ไม่พูดอะไรมาก นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ

    และนั่นเป็นเหตุการณ์ที่เราเริ่มดูทีวีในแต่ละวัน...บางที...เธอลงเรือลำเดียวกันกับผมแล้ว

    ไม่มีอะไรทำ...ไม่มีอะไรที่เรา 'สามารถ' ทำได้...

    "อะ..." เธออุทาน ทำให้ผมหันหน้าไปทางเธอ ไม่เคยได้เห็นเธอมีปฎิกิริยากับทีวีเครื่องนี้มาก่อน

    "เกิดอะไรขึ้น?"

    "........ไม่มีอะไร..." นั่นคือคำตอบ แต่เหตุการณ์เมื่อครู่นี้....เหมือนมีอะไรบางอย่างในทีวี

    ผมหันหน้าไปมองที่หน้าจอ อะไรกันที่ทำให้เธออุทานขึ้น??

    มันเป็นภาพวิวธรรมชาติในสารคดี เนินเขาอันสวยงาม หุบเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้

    และที่ปรากฎขณะนี้ คือ ทุ่งดอกไม้สีขาว แผ่ขยายเป็นวงกว้าง

    ดอกไม้ กลีบขาว 6 กลีบ เกสรสีเหลือง....เหมือนผมเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง...

    ใช่....มันเหมือนดอกไม้ขาวที่ปลูกประดับอยู่นอกหน้าต่างห้อง

    "อืม...ใช่ดอกไม้พันธุ์เดียวกันรึเปล่านะ?" ผมถามเธอ

    "... ... ... ... ..."

    "คุณรู้จักรึเปล่า?...เหมือนที่หน้าต่างเลย ว่ามั้ย?" ผมพูดพร้อมกับชี้ไปยังดอกไม้ริมหน้าต่างนั้น

    "....ไม่...." เธอตอบผม สายตาเธอยังคงมองดอกไม้ในทีวี

    "อะ.....เหรอ?"

    "...รูปร่างลักษณะคล้ายกัน...แต่ว่าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง....." เธอหันไปมองริมหน้าต่างชั่วครู่ ก่อนจะหันกลับ

    เธอบอกว่ามันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ผมดูยังไงก็ยังหาความแตกต่างกันไม่ได้

    แต่ไม่ว่าจะเหมือนหรือไม่เหมือน มันก็ไม่มีความหมายสำหรับผมอยู่แล้ว

    แต่มันคงมีความหมายสำหรับเด็กสาวคนนี้ ผู้ที่ไม่เคยพูดสิ่งใดมากกว่าที่เธอต้องการ

    วันนี้เธอกลับตรงกันข้าม ผมจึงคุยเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ

    "คุณรู้เรื่องเกี่ยวกับดอกไม้ใช่ไหม?"

    ".....ไม่หรอก"

    "จริงเหรอ?...แต่ผมดูยังไง มันก็ไม่แตกต่างกันเลยนะ ดอกไม้นั่น"

    ดอกไม้ที่อยู่ในจอ กับดอกไม้ที่อยู่ในแจกันข้างๆเธอ

    "ดูสิ นี่ดอกกล้วยไม้หรือดอกลิลลี่น่ะ??"

    "... ... ... ... ..."

    "สีขาวเหมือนกันเลย จริงไหม?"

    "... ... ... ... ..."

    ท่าทางจะไม่ค่อยดีตั้งแต่ผมเริ่มบทสนทนาแล้ว....แต่....เธอยังคงเงียบต่อไปพร้อมกับหน้าตาที่ไร้ซึ่งความรู้สึกของเธอ

    เธอยังคงมองดูทีวีต่อไป เช่นเดียวกันกับผม ซึ่งไม่ได้อะไรจากเธอเลย

    "........นาคิทสึ........" เธอพูดออกมาขณะที่ผมไม่ทันตั้งตัว

    "อะ?"

    "นั่นคือ...ดอกนาคิทสึ" และแล้ว เธอก็ตอบ พร้อมทั้งหันหน้ามาทางผม

    ผมยาวถึงเอวของเธอไสวขณะที่เธอหันมา เธอชี้ที่ทีวีพร้อมทั้งมองหน้าผม

    ปลอกข้อมือของเธอสีขาว ผิวอันผ่องใสของเธอก็ขาวด้วย เช่นเดียวกับดอกไม้ในทีวี

    .....และผมสาบานได้เลยว่า ผมได้เห็นรอยยิ้มอันน่ารัก บนใบหน้าของเธอที่จับจ้องมองผมเป็นครั้งแรก.....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×