ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ลำดับตอนที่ 12
อืม...ดูกระทู้ข้างต้นค่อนข้า้งจะซีเรียสทีเดียว
คงอาจจะใช่มั้ง...
ขอแนะนำสำหรับคนที่ไม่อ่านอะไรยาวๆ อย่าอ่านเลย Xกระทู้จะดีกว่า
เข้าเรื่อง....
ข้าพเจ้ากำลังติดตามรายการเกาหลีเรื่องหนึ่งที่มีสาวๆเก้าคนเป็นตัวดำเนินรายการ
สิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังมองในประเด็นเรื่องนี้คือเด็กหนุ่ม ม.ปลายที่ค่อนข้างจัดว่ามีปัญหาสูง
ข้าพเจ้าดูจนถึงตอนที่คุณหมอจิตวิทยาเหมือนมาบำบัดจิตของพวกเขา
จะเห็นได้ว่าชีวิตของพวกเขาเหมือนมีจุดดำในใจเพราะปัญหาของครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ พวกเขาไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะทำ เหมือนใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยโดยไม่คิดว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร
บางคนพยายามหนีปัญหา เหมือนแค่ไม่เจอสิ่งนั้นก็จบ บางคนไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตแม้แต่นิดเดียว
ส่วนใหญ่คนเหล่านั้นมีพฤติกรรมแย่มากเช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่มาโรงเรียน นอนหลับในห้องเรียน(ทำบ่อย) หรือกระทั่งพูดคำหยาบ ที่ปรึกษาของพวกเขาอยากให้พวกเขาเลิก
พวกเขาแค่สัญญา...
แต่พวกเขาทำไม่ได้ เพราะตัวของพวกเขานั้นไม่มีความพยายามเลยแม้แต่น้อย
ใช่! สิ่งที่กำลังพูดถึงคือคำว่าความพยายาม
พวกเขาคิดว่ายังไงซะพวกเขาก็ทำไม่ได้อยู่ดี จึงไม่ได้คิดจริงจังที่จะเลิกกับมันอย่างเด็ดขาด
มันก็เหมือนกับการแต่งนิยายเรื่องหนึ่ง...
ทุกคนต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการแต่งนิยาย พูดง่ายๆว่าถ้าไม่มีความพยายาม นิยายเรื่องนั้นก็ไม่จบ
ขอเล่าถึงคนๆหนึ่ง เป็นคนที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันเหนื่อยกับเขาจริงๆ
เราสองคนอ่านนิยายเหมือนๆกันและรักการเขียนเหมือนๆกัน
ตอนแรกฉันไม่เคยแต่งนิยายจบสักเรื่องหรอก แต่เพราะได้เขามาเหมือนเป็นตัวกระตุ้นทำให้ฉันสามารถเขียนเรื่องนั้นจบได้ เขาเป็นนักอ่านคนๆเดียวที่คอยติดตามผลงานของฉันมาตลอดตั้งแต่ยังอยู่ในสมุด จนกระทั่งนิยายอยู่บนอินเตอร์เน็ต เขาเคยอ่านแล้วยังมาเม้นต์ให้อีกในบางครั้ง
ส่วนตัวเขาเอง เขาไม่เคยเขียนนิยายเรื่องไหนจบ ฉันเองอยากให้เขาเขียนนิยายให้จบสักครั้ง
มันไม่ดีก็ช่าง เพราะอย่างน้อยเป็นจุดเริ่มต้นของเราที่จะสามารถแต่งนิยายอีกหลายเรื่องให้จบในอนาคต
แต่เขาไม่สามารถทำได้...
ไม่ว่าฉันจะกระตุ้นเขาเหมือนที่เขากระตุ้นฉันมากแค่ไหน
ฉันเคยเล่นจิตวิทยากับเขาประมาณว่าดูถูกว่าแกไม่มีทางแต่งนิยายจบหรอก
บางคนที่โกรธจะนำคำพูดนั้นเก็บในใจแล้วทำให้สำเร็จให้คนที่ดูถูกดู
แต่เขากลับพูดว่า อืมใช่ เขาไม่มีทางแต่งนิยายจบ ฉันแทบจะสิ้นหวังแทนเขาจริงๆ
เขาเป็นคนคิดพล็อตเก่งนะ เก่งกว่าฉันอีก แต่เวลามีพล็อตใหม่ผุดขึ้นมา เขาจะทิ้งมันแล้วไปหาพล็อตใหม่ทันที เวลาที่เขาคิดพล็อตใหม่ เขามักขอให้ฉันเขียนประโยคเริ่มต้นของนิยาย เพราะเขาแต่งบทเริ่มต้นของนิยายไม่ได้
ยอมรับตรงๆว่าฉันขี้เกียจที่จะแต่งอย่างมาก ยิ่งไม่ใช่ของตัวเองแล้ว
แทบไม่อยากจะเขียน เพราะคนคิดพล็อตย่อมมีไฟในการเขียนเยอะกว่าคนที่ไม่ได้คิดพล็อตอยู่แล้ว
แต่ฉันก็ทำให้ ถ้าความขี้เกียจตอนนั้นมีน้อย
บางครั้งมีนิยายเรื่องหนึ่งที่ฉันแต่งไม่จบ เขียนได้ประมาณสองสามตอนล่ะมั้ง แล้วก็ดองไว้เพราะตัวละครเยอะ แล้วฉันก็ไม่ได้เขียนพล็อตรายละเอียดไว้ เขาเคยอ่านของฉันแล้วบอกว่าเขียนต่อสิ
ฉันก็บอกเหตุผลแบบนี้หลายครั้ง เขาก็ตื้อฉันหลายรอบ ฉันก็ตอบคำเดิม
จนกระทั่งเขาบอกว่างั้นจะขอเขียนต่อ
ฉันก็ให้เขาไป และให้ตัวละครไปทีหลัง โดยบอกว่าเอามาคืนตัวใบที่มีตัวละครด้วย
สิ่งที่ฉันให้คือแค่ต้องการให้เขาแต่งมันต่อจนจบเท่านั้น จากนั้นฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร
จนกระทั่งฉันตรวจดูไอดีของเขา แล้วพบว่าเขาเอาเรื่องที่ฉันเคยแต่งลงด้วย
ฉันก็รู้สึกว่าทุกอย่างดิ่งลงในทันที ถ้าว่าเขาผิดไหม ฉันว่าเขาไม่ผิดเพราะฉันให้เขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ มันไม่เกี่ยวว่าเขาเอาของฉันลง แต่คำถามของฉันคือหลังจากนิยายเรื่องนั้นที่ฉันแต่งลงหมดแล้ว
เขาจะเอาบทที่แต่งต่อมาลงใหม่ ฉันก็ตรวจดูหลายครั้งเป็นหลายเดือน
พอฉันถามเขาว่าเรื่องนั้นจะแต่งต่อไหม เขาตอบว่าแต่งไม่ได้ เพราะไม่รู้พล็อตว่าจะไปยังไงต่อ แถมฉันก็ให้ข้อมูลแค่ตัวละครเท่านั้น ฉันถึงกับส่ายหน้าทันที แต่ฉันไม่เคยขอให้เขาลบหรอก แค่หวังว่าเผื่อจะลงตอนที่เขาแต่งมั้ง เพราะยังไงฉันก็มีสิทธิ์เป็นเจ้าของเรื่องตามกฏหมาย เขาไม่มีสิทธิ์หรอกยกเว้นถ้าเขาแต่งจบ ฉันจะยกให้เขาทันทีโดยไม่ต้องถาม (แต่ต้องไปแก้ไขแต่งตอนแรกๆสองสามตอนซะก่อน)
ฉันเลยบอกเขาว่าทำไมไม่ลองแต่งเรื่องสั้นดูล่ะ เพราะฉันเคยแต่งเรื่องสั้นมาก่อนที่จะแต่งเรื่องยาวๆได้
อย่างน้อยจบห้าหน้า เรื่องต่อไปก็สิบหน้า พอเขียนไปเรื่อยๆยังไงต้องถึง100หน้าแน่ๆ
เขาบอกฉันว่าเขาเขียนไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าที่เขียนไม่ได้มันคืออะไรเหมือนกัน
เอาล่ะ...เวลาผ่านไป เขาลงเรื่องใหม่ ชื่อเรื่องน่าสนใจมาก ฉันจึงลองคลิกเขา้ไปดู ในนั้นมีแค่ตอนหนึ่ง ฉันก็ดีใจอยากลองอ่านดู ปรากฏว่าเขายังไม่ลงแค่เพิ่มตอนไว้เฉยๆ
วินาทีนั้นทำลายฉันอย่างมาก เขาทำลายคนอ่านหน้าตาเฉย
ทีนี้ฉันก็รอให้เขาอัพ จึงไปถามเขาว่าจะลงเมื่อไหร่ เขาบอกยังไม่รู้ ทีนี้ฉันถามว่าทำไมเพิ่มตอนแต่ไม่มีอะไรนอกจากคำว่า รอไปก่อน... เขาบอกว่าไม่เห็นเป็นไร คนเขียนคนอื่นยังทำแบบนี้เลย
แต่ฉันอยากบอกเขาจริงว่าเป็นเรื่องที่เสียมารยาทมาก
ฉันเป็นทั้งนักเขียนแล้วก็นักอ่านในเด็กดี จากที่สังเกตนิยายหลายเรื่อง บางคนชอบทิ้งตอนไว้เฉยๆ แบบเฉยๆไม่มีอะไร หรือบางคนทิ้งตอนไว้แต่ชื่อตอนบอกว่าcooming soon ฉันก็จะรู้ว่าอ๋อ ยังไม่ลงก็จะไม่กดให้อารมณ์เสีย หรือถ้ามีชื่อตอนแต่มีคำโปรยทิ้งไว้ ฉันก็ไม่ว่า แถมเป็นเหมือนตัวกระตุ้นนักอ่านให้เดาไปต่างๆนาๆ
ยกเว้นคนที่ตั้งชื่อตอน... ข้างในบอกว่ายังไม่อัพ นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันไม่ชอบสุดๆ
ฉันพอเข้าใจว่าเขาต้องการคอมเม้นต์ เหมือนมีคอมเม้นต์สมควรค่อยอัพล่ะมั้ง(ความคิดของฉัน)
เรื่องนั้นถึงขั้นมีคนมาเม้นท์แถมเป็นแฟนคลับ1คน ฉันก็รีบเอาข้อความเหล่านั้นให้เขาดู เผื่อมีกำลังใจอัพลง เขาดูเหมือนจะอัพ แต่ทีหลังบอกว่าไม่อัพแล้ว
เขายึดติดกับคอมเม้นท์มาก
ขอแนะนำสำหรับคนที่ไม่อ่านอะไรยาวๆ อย่าอ่านเลย Xกระทู้จะดีกว่า
เข้าเรื่อง....
ข้าพเจ้ากำลังติดตามรายการเกาหลีเรื่องหนึ่งที่มีสาวๆเก้าคนเป็นตัวดำเนินรายการ
สิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังมองในประเด็นเรื่องนี้คือเด็กหนุ่ม ม.ปลายที่ค่อนข้างจัดว่ามีปัญหาสูง
ข้าพเจ้าดูจนถึงตอนที่คุณหมอจิตวิทยาเหมือนมาบำบัดจิตของพวกเขา
จะเห็นได้ว่าชีวิตของพวกเขาเหมือนมีจุดดำในใจเพราะปัญหาของครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ พวกเขาไม่มีจุดมุ่งหมายที่จะทำ เหมือนใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยโดยไม่คิดว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร
บางคนพยายามหนีปัญหา เหมือนแค่ไม่เจอสิ่งนั้นก็จบ บางคนไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตแม้แต่นิดเดียว
ส่วนใหญ่คนเหล่านั้นมีพฤติกรรมแย่มากเช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่มาโรงเรียน นอนหลับในห้องเรียน(ทำบ่อย) หรือกระทั่งพูดคำหยาบ ที่ปรึกษาของพวกเขาอยากให้พวกเขาเลิก
พวกเขาแค่สัญญา...
แต่พวกเขาทำไม่ได้ เพราะตัวของพวกเขานั้นไม่มีความพยายามเลยแม้แต่น้อย
ใช่! สิ่งที่กำลังพูดถึงคือคำว่าความพยายาม
พวกเขาคิดว่ายังไงซะพวกเขาก็ทำไม่ได้อยู่ดี จึงไม่ได้คิดจริงจังที่จะเลิกกับมันอย่างเด็ดขาด
มันก็เหมือนกับการแต่งนิยายเรื่องหนึ่ง...
ทุกคนต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการแต่งนิยาย พูดง่ายๆว่าถ้าไม่มีความพยายาม นิยายเรื่องนั้นก็ไม่จบ
ขอเล่าถึงคนๆหนึ่ง เป็นคนที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันเหนื่อยกับเขาจริงๆ
เราสองคนอ่านนิยายเหมือนๆกันและรักการเขียนเหมือนๆกัน
ตอนแรกฉันไม่เคยแต่งนิยายจบสักเรื่องหรอก แต่เพราะได้เขามาเหมือนเป็นตัวกระตุ้นทำให้ฉันสามารถเขียนเรื่องนั้นจบได้ เขาเป็นนักอ่านคนๆเดียวที่คอยติดตามผลงานของฉันมาตลอดตั้งแต่ยังอยู่ในสมุด จนกระทั่งนิยายอยู่บนอินเตอร์เน็ต เขาเคยอ่านแล้วยังมาเม้นต์ให้อีกในบางครั้ง
ส่วนตัวเขาเอง เขาไม่เคยเขียนนิยายเรื่องไหนจบ ฉันเองอยากให้เขาเขียนนิยายให้จบสักครั้ง
มันไม่ดีก็ช่าง เพราะอย่างน้อยเป็นจุดเริ่มต้นของเราที่จะสามารถแต่งนิยายอีกหลายเรื่องให้จบในอนาคต
แต่เขาไม่สามารถทำได้...
ไม่ว่าฉันจะกระตุ้นเขาเหมือนที่เขากระตุ้นฉันมากแค่ไหน
ฉันเคยเล่นจิตวิทยากับเขาประมาณว่าดูถูกว่าแกไม่มีทางแต่งนิยายจบหรอก
บางคนที่โกรธจะนำคำพูดนั้นเก็บในใจแล้วทำให้สำเร็จให้คนที่ดูถูกดู
แต่เขากลับพูดว่า อืมใช่ เขาไม่มีทางแต่งนิยายจบ ฉันแทบจะสิ้นหวังแทนเขาจริงๆ
เขาเป็นคนคิดพล็อตเก่งนะ เก่งกว่าฉันอีก แต่เวลามีพล็อตใหม่ผุดขึ้นมา เขาจะทิ้งมันแล้วไปหาพล็อตใหม่ทันที เวลาที่เขาคิดพล็อตใหม่ เขามักขอให้ฉันเขียนประโยคเริ่มต้นของนิยาย เพราะเขาแต่งบทเริ่มต้นของนิยายไม่ได้
ยอมรับตรงๆว่าฉันขี้เกียจที่จะแต่งอย่างมาก ยิ่งไม่ใช่ของตัวเองแล้ว
แทบไม่อยากจะเขียน เพราะคนคิดพล็อตย่อมมีไฟในการเขียนเยอะกว่าคนที่ไม่ได้คิดพล็อตอยู่แล้ว
แต่ฉันก็ทำให้ ถ้าความขี้เกียจตอนนั้นมีน้อย
บางครั้งมีนิยายเรื่องหนึ่งที่ฉันแต่งไม่จบ เขียนได้ประมาณสองสามตอนล่ะมั้ง แล้วก็ดองไว้เพราะตัวละครเยอะ แล้วฉันก็ไม่ได้เขียนพล็อตรายละเอียดไว้ เขาเคยอ่านของฉันแล้วบอกว่าเขียนต่อสิ
ฉันก็บอกเหตุผลแบบนี้หลายครั้ง เขาก็ตื้อฉันหลายรอบ ฉันก็ตอบคำเดิม
จนกระทั่งเขาบอกว่างั้นจะขอเขียนต่อ
ฉันก็ให้เขาไป และให้ตัวละครไปทีหลัง โดยบอกว่าเอามาคืนตัวใบที่มีตัวละครด้วย
สิ่งที่ฉันให้คือแค่ต้องการให้เขาแต่งมันต่อจนจบเท่านั้น จากนั้นฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร
จนกระทั่งฉันตรวจดูไอดีของเขา แล้วพบว่าเขาเอาเรื่องที่ฉันเคยแต่งลงด้วย
ฉันก็รู้สึกว่าทุกอย่างดิ่งลงในทันที ถ้าว่าเขาผิดไหม ฉันว่าเขาไม่ผิดเพราะฉันให้เขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ มันไม่เกี่ยวว่าเขาเอาของฉันลง แต่คำถามของฉันคือหลังจากนิยายเรื่องนั้นที่ฉันแต่งลงหมดแล้ว
เขาจะเอาบทที่แต่งต่อมาลงใหม่ ฉันก็ตรวจดูหลายครั้งเป็นหลายเดือน
พอฉันถามเขาว่าเรื่องนั้นจะแต่งต่อไหม เขาตอบว่าแต่งไม่ได้ เพราะไม่รู้พล็อตว่าจะไปยังไงต่อ แถมฉันก็ให้ข้อมูลแค่ตัวละครเท่านั้น ฉันถึงกับส่ายหน้าทันที แต่ฉันไม่เคยขอให้เขาลบหรอก แค่หวังว่าเผื่อจะลงตอนที่เขาแต่งมั้ง เพราะยังไงฉันก็มีสิทธิ์เป็นเจ้าของเรื่องตามกฏหมาย เขาไม่มีสิทธิ์หรอกยกเว้นถ้าเขาแต่งจบ ฉันจะยกให้เขาทันทีโดยไม่ต้องถาม (แต่ต้องไปแก้ไขแต่งตอนแรกๆสองสามตอนซะก่อน)
ฉันเลยบอกเขาว่าทำไมไม่ลองแต่งเรื่องสั้นดูล่ะ เพราะฉันเคยแต่งเรื่องสั้นมาก่อนที่จะแต่งเรื่องยาวๆได้
อย่างน้อยจบห้าหน้า เรื่องต่อไปก็สิบหน้า พอเขียนไปเรื่อยๆยังไงต้องถึง100หน้าแน่ๆ
เขาบอกฉันว่าเขาเขียนไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าที่เขียนไม่ได้มันคืออะไรเหมือนกัน
เอาล่ะ...เวลาผ่านไป เขาลงเรื่องใหม่ ชื่อเรื่องน่าสนใจมาก ฉันจึงลองคลิกเขา้ไปดู ในนั้นมีแค่ตอนหนึ่ง ฉันก็ดีใจอยากลองอ่านดู ปรากฏว่าเขายังไม่ลงแค่เพิ่มตอนไว้เฉยๆ
วินาทีนั้นทำลายฉันอย่างมาก เขาทำลายคนอ่านหน้าตาเฉย
ทีนี้ฉันก็รอให้เขาอัพ จึงไปถามเขาว่าจะลงเมื่อไหร่ เขาบอกยังไม่รู้ ทีนี้ฉันถามว่าทำไมเพิ่มตอนแต่ไม่มีอะไรนอกจากคำว่า รอไปก่อน... เขาบอกว่าไม่เห็นเป็นไร คนเขียนคนอื่นยังทำแบบนี้เลย
แต่ฉันอยากบอกเขาจริงว่าเป็นเรื่องที่เสียมารยาทมาก
ฉันเป็นทั้งนักเขียนแล้วก็นักอ่านในเด็กดี จากที่สังเกตนิยายหลายเรื่อง บางคนชอบทิ้งตอนไว้เฉยๆ แบบเฉยๆไม่มีอะไร หรือบางคนทิ้งตอนไว้แต่ชื่อตอนบอกว่าcooming soon ฉันก็จะรู้ว่าอ๋อ ยังไม่ลงก็จะไม่กดให้อารมณ์เสีย หรือถ้ามีชื่อตอนแต่มีคำโปรยทิ้งไว้ ฉันก็ไม่ว่า แถมเป็นเหมือนตัวกระตุ้นนักอ่านให้เดาไปต่างๆนาๆ
ยกเว้นคนที่ตั้งชื่อตอน... ข้างในบอกว่ายังไม่อัพ นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันไม่ชอบสุดๆ
ฉันพอเข้าใจว่าเขาต้องการคอมเม้นต์ เหมือนมีคอมเม้นต์สมควรค่อยอัพล่ะมั้ง(ความคิดของฉัน)
เรื่องนั้นถึงขั้นมีคนมาเม้นท์แถมเป็นแฟนคลับ1คน ฉันก็รีบเอาข้อความเหล่านั้นให้เขาดู เผื่อมีกำลังใจอัพลง เขาดูเหมือนจะอัพ แต่ทีหลังบอกว่าไม่อัพแล้ว
เขายึดติดกับคอมเม้นท์มาก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น